ลีเฟยใช้ผ้าคลุมหน้าขึ้นไปบนชั้นสองร้านน้ำชาอันดับหนึ่ง นางบอกเสี่ยวเอ้อร์ว่ามาหานายท่าน เสี่ยวเอ้อร์รู้ความหมาย
หยางอ๋องที่กำลังนับเงินในห้องพำนักได้ยินเสี่ยวเอ้อร์มารายงานว่ามีสาวงามมาหาเขา
เขาพลันนึกออกแล้วเป็นลีเฟย "พานางมาที่ห้องนี้" หยางอ๋องรีบเก็บเงิน ห้องพำนักห้องนี้เป็นห้องนอนของเขาระหว่างวัน กิจการนี้เป็นของพระมารดาเขา กระนั้นหยางอ๋องจึงเป็นผู้อยู่เบื้องหลังโรงน้ำชาแห่งนี้
ลีเฟยพลันเดินตามหลังเสี่ยวเอ้อร์มาที่ห้องของหยางอ๋องชั้นบนสุด
"คารวะหยางอ๋อง"
"น้องสะใภ้เชิญนั่ง" ลีเฟยพลันนั่งลงหยางอ๋องไล่บ่าวออกไป กระนั้นรินน้ำชาให้นาง
"ข้าทำเองได้เจ้าค่ะ" นางตั้งใจจะมาปรึกษาเรื่องไหวอ๋อง
"หยางอ๋อง ข้าตั้งใจจะมาปรึกษาเรื่องไหวอ๋องเจ้าค่ะ" นางมาเพราะเรื่องนี้ ใบหน้าของหยางอ๋องพลันแดงก่ำ
ลีเฟยคิดว่าเหล่าองค์ชายสนิทกันมาก กระนั้นนางมิได้สังเกตเลยว่า ยามที่เล่าเรื่องของไหวอ๋อง หยางอ๋องมีท่าทีเช่นไร
"ลีเฟย ข้านึกว่าเจ้าจะฉลาด" ลีเฟยตกใจที่หยางอ๋องเอ่ยเช่นนี้ นางกลัวเขามาก
"หยางอ๋องข้าขอตัวเจ้าค่ะ" นางไม่ควรมาพบเขาสองต่อสอง ทันทีที่นางลุกขึ้นหยางอ๋องก็ขวางหน้าประตูไว้
"ท่านจะทำอะไร ข้าคือน้องสะใภ้ท่านนะ" ลีเฟยถอยหลัง หยางอ๋องค่อย ๆ สาวเท้ามาหานาง จนบีบคางนาง
"ลีเฟย ข้าชอบเจ้า" ปากหนาประกบปากงามลีเฟยตาค้างรีบสลัดเขาออก แต่ทว่าเขาเปลื้องผ้านางออกทุกชิ้นแล้วกระทำบางอย่าง...
รถม้าธรรมดาถึงหน้าวัดเฉิงแล้วใช้เวลาเดินทางเพียงครึ่งชั่วยาม หลิวเหมียนพลันมองวัดเฉิง แน่นอนว่า นางต้องการติดสินบนทวยเทพ เพราะนางต้องการหย่าขาดจากเจ้าอ๋องหน้าโง่ แม้เขาจะทำดีกับนาง แต่นางก็มิได้มีใจให้เขา
หลิวเหมียนเดินนำหน้าพาสองแฝดกับแม่นมเข้าไปในอารามหลวง ทุกคนกราบพระพุทธรูปสามครั้ง
หลิวเหมียนขอพรหากนางได้หย่ากับไหวอ๋องภายในหนึ่งเดือนนางจะนำหัวหมูมาถวายสิบหัว
จากนั้นทุกคนก็พลันเดินเล่นรอบวัดเฉิง ที่แห่งนี้พลันสงบยิ่งนัก
เรือนพำนักของสีกาในวัดเฉิง
"นายหญิงอย่าเป็นอะไรนะเจ้าคะ" แม่นมหลีพลันตกใจมิหายเนื่องจาก นายหญิงของนางนั่งภาวนาอยู่ดี ๆ พลันเจ็บหน้าอกแล้วล้มลง
"เสี่ยวเต่าไปเจ้าอาวาสหรือท่านหมอมาเร็ว" หากนายหญิงตายไปศีรษะทั้งสองคนออกจากบ่าเป็นแน่แท้
"ช่วยด้วยขอรับ ช่วยนายหญิงของข้าด้วย" หลิวเหมียนพลันมองคนผู้นั้นเสียงแหบ ๆ ตะโกนขึ้นมา
"นายหญิงของเจ้าเป็นอันใดไป" ชายผู้นั้นพลันมองสตรีชุดขาวกับลูกของนาง อีกทั้งยายแก่ที่เดินรั้งท้าย สตรีนางนี้จะช่วยนายหญิงของเขาได้จริง ๆ รึ
หลิวเหมียนพลันมองเจ้าคนผู้นี้ เหตุใดยังไม่พานางไปพบคนป่วยอีก
"นายหญิงของข้าอยู่ ๆ ก็แน่หน้าอก" นางอาจจะเป็นโรคหัวใจ
"พาข้าไปหานาง ข้ารักษานางได้" หลิวเหมียนคิดว่าช่วยคนนั้นเป็นเรื่องดี
ทั้งสี่คนจึงตามชายร่างบางไปที่เรือนพำนักของสตรีนางนั้น
"เสี่ยวเต่าเจ้าพาคนมาแล้วรึ" แม่นมหลีเห็นเสี่ยวเต่าพาคนเข้ามา หลิวเหมียนกำชับให้แม่นมหวังดูแลเจ้าแฝดให้ดี
"ท่านหมอช่วยนายหญิงของข้าด้วยเจ้าค่ะ" แม่นมหลีพลันมองสตรีชุดขาว
"พวกเจ้าออกไปให้หมดข้าจะรักษานางเอง" ใบหน้าหญิงชราซีดเผือดยิ่งนัก แม่นมหลีกับเสี่ยวเต่าพลันรีบออกไป แม้จะเป็นห่วงนายหญิงก็ตาม
หลิวเหมียนพลันปั๊มหัวใจพบว่าชีพจรกลับมาแล้ว นางคาดเดาว่าหญิงนางนี้สวดมนต์ไม่ได้พักผ่อนบวกกับโรคชราทั่วไปทำให้ร่างกายรับไม่ได้ กระนั้นนางป้อนยาบำรุง
อีกทั้งอุปกรณ์ที่ทันสมัยพลันปรากฏขึ้น นางฟังเสียงหัวใจ เต้นผิดจังหวะ ไม่ผิดหญิงชราผู้นี้เป็นโรคหัวใจด้วย
กระนั้นหลิวเหมียนไม่รอช้ารีบนำแผงยาออกมาจัดใส่ขวดกระเบื้อง
"เข้ามาได้" สองบ่าวพลันได้ยินรีบเข้ามา จังหวะนั้นหญิงชราพลันลืมตาขึ้น
"นายหญิงฟื้นแล้ว" แม่นมหลีกับเสี่ยวเต่าดีใจมาก
"เจ้าช่วยชีวิตข้าไว้ ข้าย่อมต้องตอบแทนเจ้า เจ้ามีนามว่าอะไร" หลิวเหมียนพลันยิ้มให้หญิงชรา
"ข้าหลิวเหมียนเจ้าค่ะ บุตรสาวของท่านแม่ทัพหลิวชางเจ้าค่ะ" ใบหน้าหญิงชราพลันครุ่นคิด
"นี่ป้ายหยกของข้า หากมีวาสนาเราคงได้พบกันอีก" หญิงชราสั่งให้แม่นมหลีมอบป้ายหยกให้หลิวเหมียน
นางว่าจะปฏิเสธ หากทำเช่นนั้นเกรงว่าหญิงชราจะไม่ยอมกระนั้นหลิวเหมียนจึงรับไว้ แล้วมองป้ายหยก
"นี่คือยาของท่าน ท่านเป็นโรคหัวใจควรต้องกินยา" นางมอบขวดกระเบื้องให้หญิงชรา
"ข้าจะตามหาเจ้าให้พบหลังกลับเมืองหลวง" หลิวเหมียนพลันยิ้มหวานแล้วขอตัวลา...
"นายหญิง นางคือบุตรท่านแม่ทัพหลิวชาง ที่เป็นคนปีนเตียงไหวอ๋องเมื่อหลายปีก่อน จากนั้นไหวอ๋องแต่งนางเป็นชายารอง" แม่นมหลีพลันนึกได้
เหมยไทเฮาพลันมองขวดกระเบื้อง ที่แท้สตรีนางนี้คือหลานสะใภ้ของนางช่างดียิ่งนัก
"ดูท่าข้าจะหาหมอถูกใจแล้ว พวกเรากลับวัง วันหลังเชิญนางมาเป็นแขกของข้า ข้าถูกใจหลานสะใภ้คนนี้นัก" เหมยไทเฮาพลันมีความสุขมาก หลังจากได้กินยาของหลิวเหมียนร่างกายพลันสดชื่นยิ่งนัก
"ท่านแม่ อย่าทำท่านแม่ของพวกข้า" เจ้าซาลาเปาน้อยทั้งสองพลันร้องตะโกนขึ้นอย่างสุดเสียงพวกนางทั้งสองคนได้แต่มองมารดาโดนโบยก้น"หากมิใช่เด็กเหลือขออย่างพวกเจ้าขโมยขนมของข้านางรึจะโดนโบยรับโทษแทนพวกเจ้า" ชายาเอกลีเฟยพลันเอ่ยขึ้นลีเฟยกับหลิวเหมียนแต่งเข้ามาพร้อมกัน ลีเฟยคือคู่หมั้นของไหวอ๋องอยู่แล้วเป็นคู่ม้าไผ่เหมยเขียว อีกทั้งนางยังเป็นบุตรสาวของราชครูลีหยาง ส่วนหลิวเหมียนเป็นบุตรสาวของท่านแม่ทัพใหญ่หลิวชางหลิวเหมียนปีนเตียงไหวอ๋องกระนั้นจึงทำให้ไหวอ๋องแต่งชายาพร้อมกันทั้งสองคน ทั้งสามคนแต่งงานกันมาหกปีแล้ว มีแต่หลิวเหมียนที่ตั้งครรภ์มีเจ้าแฝดหญิงสองคน กวนหนิงกับกวนหยูส่วนชายาเอกไม่มีวี่แวว่าจะตั้งครรภ์เลยแม้แต่น้อยหลิวเหมียนทำเรื่องงามหน้าโดยการปีนเตียงไหวอ๋อง กระนั้นคนบ้านเดิมของนางจึงไม่ใยดีนางนัก การเป็นอยู่ในจวนอ๋องของทั้งสามคนแม่ลูกจึงอดอยากอย่างมากทำไมนางรู้สึกเจ็บเช่นนี้ ทันทีที่ลืมตาขึ้นหลิวเหมียนเห็นสตรีในชุดจีนโบราณยิ้มแบะปากให้นาง อีกทั้งเด็กแฝดสองคนร่ำไห้"หยุด!!!" สาวใช้ที่โบยอยู่พลันตกใจ พระชายารองพลันยึดไม้โบยมาฟาดเหล่าสาวใช้ "ชายารองเจ้าจะมากไปแล้วนะ" ชายาเอกไม่เคยเ
หลายวันผ่านไปไม่มีผู้ใดย่างกรายเข้ามาในเรือนของชายารองอีกเลย หลิวเหมียนพลันดีใจยิ่งนัก นางจะได้มีเวลาเลี้ยงเจ้าแฝดอีกทั้งปรุงยาขายนางตั้งใจว่าจะเปิดโรงหมอก่อนอื่นต้องมีเงินทุนเสียก่อน สินเดิมของนางก็ไม่มีแล้ว หากเปิดไม่ได้ก็ทำได้แค่ปรุงยาแล้วนำไปขายปรุงยาแล้วนำไปขายดีกว่า เป็นความคิดที่ดีเช่นกัน นางจะได้มีเงินมาเลี้ยงลูก เพราะชายาเอกไม่ส่งเบี้ยให้นางสารเลวสิ้นดี !!!วัน ๆ หลิวเหมียนเอาแต่ขังตัวเองอยู่ในห้องปรุงยาหน้าเด้งขาย ยาตัวนี้มาจากโลกอนาคต นางจึงคิดค้นที่จะขายในยุคนี้ โชคดีที่ของวิเศษเวลาที่นางอยู่คนเดียวนางสามารถเข้าไปในกระเป๋าใบนั้นได้ มีทั้งของกิน ยา ความสวยความงาม นางเอาออกมาหมดมิได้หลิวเหมียนพลันมองตลับยาหน้าเด้งนับร้อยเอาล่ะเสร็จเหลือแค่นำไปขาย ในแคว้นต้าโจวมีร้านหมอหลายร้าน นางจะต้องออกไปสืบความดูเสียก่อน ออกช่องหมารอดตามเดิมอีกด้านหนึ่งเรือนพระชายาเอก ลีเฟยพลันนั่งบนตั่งยาว สายตากลอกกลิ้งไปมา นางกำลังคิดว่าเหตุใดชายารองถึงได้เปลี่ยนไป จากที่เงียบ ๆ กลายเป็นคนร้าย ๆ กล้าตบตีผู้คน หรือผีจะสิงนางแล้ว มิได้นางจะต้องบอกไหวอ๋องจัดการชายารองไหวอ๋องไปประจำที่ชายแดนใต้มิกล
ตุบ !!!"พี่ใหญ่ ท่านตกลงไปในสระบัวแล้ว" กวนหยูพลันตะโกนขึ้นก่อนที่ร่างเล็กจะล่วงลงไปอ้อมกอดอันแข็งแกร่งก็รับกวนหนิงไว้แล้ว"พี่ใหญ่มีคนช่วยท่านแล้ว" กวนหยูเห็นพี่ใหญ่ปลอดภัยพลันสบายใจขึ้นมาทันทีกวนหนิงพลันมองชายผู้นั้น เขาเป็นใครกันพวกนางสองคนไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน "ท่านลุงขอบคุณมากเจ้าค่ะ" กวนหนิงเอ่ยขึ้นปากน้อย ๆ ของนางน่ารักจริง ๆ "ท่านหญิงน้อย" เสียงแม่นมหวังพลันดังขึ้นอีกทั้งตกใจมาก ที่เห็นเจ้าแฝดยืนเคียงข้างไหวอ๋อง ไหวอ๋องกลับมาแล้ว เรื่องนี้ชายารองรู้แล้วรึยังกวนเทียนพลันมองแม่นมหวัง เขาจำยายแก่คนนี้ได้ คนที่เข้ามาพร้อมกับสตรีนางนั้น หลิวเหมียน แล้วเจ้าแฝดสองคนนี้อย่าบอกนะว่าลูกเขา"ท่านอ๋องกลับมาแล้วรึเจ้าคะ" แม่นมหวังพลันเสียงสั่น ทันทีที่เด็ก ๆ ได้ยินว่าแม่นมหวังเรียกคนผู้นั้นว่าท่านอ๋อง แม่นางน้อยทั้งสองรีบถอยหลังไปหลบด้านหลังแม่นมหวังทันที"นางเป็นลูกของใคร" ไหวอ๋องพลันมองแม่นมหวังอย่างต้องการคำตอบแม่นมหวังคิดว่าซวยแล้ว ก็จะเป็นลูกผู้ใดได้ หากมิใช่ลูกของท่าน ใบหน้าชัดเจนปานนี้"กวนหนิง กวนหยู" "ท่านแม่" แม่นมหวังยังไม่ทันได้ตอบคำถามไหวอ๋องหลิวเหมียนก็โผล่มาพอดี จังหว
หลิวเหมียนพลันมองเจ้าแฝดทั้งสองปั้นตุ๊กตาหิมะที่หน้าเรือน ชีวิตในที่แห่งนี้ช่างไม่ดีเอาเสียเลย นางไม่ขออะไรมากขอเพียงได้หย่ากับเจ้าคนชั่วนั่น จากนั้นนาก็จะเลี้ยงดูเจ้าแฝดให้มีความสุขสกุลเดิมป่านนี้คงไม่คิดถึงนางแล้วกระมัง เพราะลีเฟยแท้ ๆ ขัดขวางไม่ยอมให้หลิวเหมียนคนก่อนไปพบบิดามารดาทำให้นางต้องตัดขาดกับบ้านเดิมโดยถาวร"ท่านแม่ข้าหิวข้าวแล้ว" กวนหนิงกับกวนหยูเอ่ยพร้อมกัน"แม่นมเฝ้าเจ้าแฝดไว้ให้ดี ข้าจะไปโรงครัวเล็ก" แน่นอนว่านางต้องทำอาหารให้เจ้าแฝดกิน เป็นบะหมี่ที่นางเอาออกมาจากกระเป๋าวิเศษ หลิวเหมียนลงมือเคี่ยวบะหมี่ให้เจ้าแฝด...พอแม่นมหวังเก็บผ้าหลังเรือนพอกลับมาก็ไม่เห็นท่านหญิงน้อยทั้งสองเสียแล้ว ใบหน้าแม่นมหวังมีเหงื่อไหลพราก ๆ ออกมา นางต้องรีบตามหาสองแฝด"พี่ใหญ่พี่จะหาท่านอ๋องจริง ๆ รึ" กวนหยูถามพี่สาวที่เดินมาถึงทางแยกระหว่างสามเรือน เรือนใหญ่พระชายาเอกไปทางซ้าย เรือนไหวอ๋องไปทางขวา"ถามเขา ว่าเขารักท่านแม่รึไม่" กวนหนิงไม่อบากให้มารดาโดนชายารองกลั่นแกล้งอีกต่อไป ในตอนที่เจอไหวในจังหวะนั้นอ้ายกุ้ยเฟยกับเหล่าข้าหลวงย่างกรายผ่านมาพอดี พระนางจะไปเรือนของไหวอ๋อง"พวกเจ้าเป็นลู
เช้าวันถัดมาหิมะตกเมื่อคืนทำให้พื้นดินเต็มไปด้วยหิมะ หลิวเหมียนตั้งใจจะนำยาหน้าเด้งไปส่งโรงหมอสกุลจาง นางให้แม่นมหวังพลันรับปากว่าจะดูแลสองแฝดให้ดี มิให้พวกนางออกไปเพ่นพ่านที่ไหนอีกหลิวเหมียนพลันถือตะกร้าออกไปทางประตูหลังจวน สองแฝดตื่นมาไม่เห็นมารดา มีเพียงแม่นมหวังนำข้าวต้มร้อน ๆ มาให้พวกนางสองคนรับประทานกลิ่นหอมมาก สองแฝดกินอย่างช้า ๆ จนหใดชาม ดื่มน้ำตามลงไป"เรือนหลังนี้แหละท่านนักพรต" ลีเฟยพาคนกลุ่มใหญ่มาที่เรือนของชายารองอย่างหลิวเหมียน สาวใช้เสี่ยวจูกับเสี่ยวหงเดินตามหลังเจ้านาย"ชายารองออกมาเดี๋ยวนี้นะ" ลีเฟยพลันตะโกนขึ้นมา เสียงตะโกนนี้ทำให้คนทั้งสามออกมาหน้าเรือน เจ้าแฝดรีบหลบที่หลังแม่นมหวังแม่นมหวังคิดในใจว่าแย่แล้ว เหตุใดพระชายาเอกต้องนำนักพรตมาที่เรือนด้วย"เรือนนี้มีไอปีศาจ ต้องรีบเผาเรือนนี้เสีย" นักพรตเต๋าพลันเอ่ยขึ้น แน่นอนว่าได้รับค่าจ้างแล้วต้องทำให้คุ้มเงินเสียหน่อย ใบหน้าชายาเอกพลันยิ้มระรื่น "อย่านะ อย่าทำเช่นนั้น" แม่นมหวังกับสองแฝดขัดขวางอย่างเต็มทีพระชายารองไปนานแล้วเหตุใดยังไม่รีบกลับมาอีก แม่นมหวังเกรงว่าเรือนแห่งนี้จะเป็นตอตะโกแล้วลีเฟยพลันมอ
ตกเย็นไหวอ๋องสั่งให้โรงครัวทำอาหารมาส่งที่เรือนของชายารอง เป็นอาหารชั้นดี หลิวเหมียนกับแม่นมหวังพลันตกใจยิ่งนักหมูอบน้ำผึ้ง ขนมดอกกุ้ย สาวใช้นำมาส่งแล้วรีบกลับไป หลิวเหมียนรีบใช้เข็มจิ้มดู พบว่าไม่มียาพิษค่อยยังชั่วหน่อย"โชคดีไม่มียาพิษ" เจ้าอ๋องเถื่อนสงสัยสมองมีปัญหานึกจะมาทำดีกับนางและลูก"หรือท่านอ๋องจะคิดได้" แม่นมหวัง คนเช่นนั้นไม่มีทางคิดได้"ท่านแม่ข้ากินได้รึไม่" นางมองหน้าเจ้าแฝด ขนมในวังพวกนี้ไม่เคยกินกระมัง"กินเถอะ" สองแฝดรีบหยิบขนมมาเคี้ยวตุ้ย ๆ อย่างอร่อยเรือนไหวอ๋องสาวใช้เข้ามารายงานว่าชายารองมิได้ปฏิเสธอาหารที่มอบให้ ไหวอ๋องพอใจยิ่งนัก มีสาวใช้มารายงานว่าชายาจะพักอยู่จวนลีวันพรุ่งค่อยกลับมาให้ลีเฟยได้สงบจิตใจบ้างก็ดี ไหวอ๋องคิดเช่นนั้น "ท่านอ๋องอนุผินขอเข้าพบขอรับ" บ่าวเฝ้าประตูพลันรายงาน ไหวอ๋องพลันขมวดคิ้ว เหตุใดนางจะขอพบเขา ไหวอ๋องอนุญาตไม่นานนักร่างบางในอาภรณ์หรูหราอบไปด้วยกลิ่นเครื่องหอมพลันเข้ามาพร้อมน้ำแกง"น้ำแกงรังนกเจ้าค่ะ บ่าวเคี่ยวมาให้ท่าน""เอาวางไว้แล้วออกไปเถอะ" ผินเจียวพลันมองไหวอ๋องไล่นาง กระนั้นนางทำได้เพียงวางไว้แล้วรีบออกไปหวังชารู้หน้าที่ค