ลีเฟยใช้ผ้าคลุมหน้าขึ้นไปบนชั้นสองร้านน้ำชาอันดับหนึ่ง นางบอกเสี่ยวเอ้อร์ว่ามาหานายท่าน เสี่ยวเอ้อร์รู้ความหมาย
หยางอ๋องที่กำลังนับเงินในห้องพำนักได้ยินเสี่ยวเอ้อร์มารายงานว่ามีสาวงามมาหาเขา
เขาพลันนึกออกแล้วเป็นลีเฟย "พานางมาที่ห้องนี้" หยางอ๋องรีบเก็บเงิน ห้องพำนักห้องนี้เป็นห้องนอนของเขาระหว่างวัน กิจการนี้เป็นของพระมารดาเขา กระนั้นหยางอ๋องจึงเป็นผู้อยู่เบื้องหลังโรงน้ำชาแห่งนี้
ลีเฟยพลันเดินตามหลังเสี่ยวเอ้อร์มาที่ห้องของหยางอ๋องชั้นบนสุด
"คารวะหยางอ๋อง"
"น้องสะใภ้เชิญนั่ง" ลีเฟยพลันนั่งลงหยางอ๋องไล่บ่าวออกไป กระนั้นรินน้ำชาให้นาง
"ข้าทำเองได้เจ้าค่ะ" นางตั้งใจจะมาปรึกษาเรื่องไหวอ๋อง
"หยางอ๋อง ข้าตั้งใจจะมาปรึกษาเรื่องไหวอ๋องเจ้าค่ะ" นางมาเพราะเรื่องนี้ ใบหน้าของหยางอ๋องพลันแดงก่ำ
ลีเฟยคิดว่าเหล่าองค์ชายสนิทกันมาก กระนั้นนางมิได้สังเกตเลยว่า ยามที่เล่าเรื่องของไหวอ๋อง หยางอ๋องมีท่าทีเช่นไร
"ลีเฟย ข้านึกว่าเจ้าจะฉลาด" ลีเฟยตกใจที่หยางอ๋องเอ่ยเช่นนี้ นางกลัวเขามาก
"หยางอ๋องข้าขอตัวเจ้าค่ะ" นางไม่ควรมาพบเขาสองต่อสอง ทันทีที่นางลุกขึ้นหยางอ๋องก็ขวางหน้าประตูไว้
"ท่านจะทำอะไร ข้าคือน้องสะใภ้ท่านนะ" ลีเฟยถอยหลัง หยางอ๋องค่อย ๆ สาวเท้ามาหานาง จนบีบคางนาง
"ลีเฟย ข้าชอบเจ้า" ปากหนาประกบปากงามลีเฟยตาค้างรีบสลัดเขาออก แต่ทว่าเขาเปลื้องผ้านางออกทุกชิ้นแล้วกระทำบางอย่าง...
รถม้าธรรมดาถึงหน้าวัดเฉิงแล้วใช้เวลาเดินทางเพียงครึ่งชั่วยาม หลิวเหมียนพลันมองวัดเฉิง แน่นอนว่า นางต้องการติดสินบนทวยเทพ เพราะนางต้องการหย่าขาดจากเจ้าอ๋องหน้าโง่ แม้เขาจะทำดีกับนาง แต่นางก็มิได้มีใจให้เขา
หลิวเหมียนเดินนำหน้าพาสองแฝดกับแม่นมเข้าไปในอารามหลวง ทุกคนกราบพระพุทธรูปสามครั้ง
หลิวเหมียนขอพรหากนางได้หย่ากับไหวอ๋องภายในหนึ่งเดือนนางจะนำหัวหมูมาถวายสิบหัว
จากนั้นทุกคนก็พลันเดินเล่นรอบวัดเฉิง ที่แห่งนี้พลันสงบยิ่งนัก
เรือนพำนักของสีกาในวัดเฉิง
"นายหญิงอย่าเป็นอะไรนะเจ้าคะ" แม่นมหลีพลันตกใจมิหายเนื่องจาก นายหญิงของนางนั่งภาวนาอยู่ดี ๆ พลันเจ็บหน้าอกแล้วล้มลง
"เสี่ยวเต่าไปเจ้าอาวาสหรือท่านหมอมาเร็ว" หากนายหญิงตายไปศีรษะทั้งสองคนออกจากบ่าเป็นแน่แท้
"ช่วยด้วยขอรับ ช่วยนายหญิงของข้าด้วย" หลิวเหมียนพลันมองคนผู้นั้นเสียงแหบ ๆ ตะโกนขึ้นมา
"นายหญิงของเจ้าเป็นอันใดไป" ชายผู้นั้นพลันมองสตรีชุดขาวกับลูกของนาง อีกทั้งยายแก่ที่เดินรั้งท้าย สตรีนางนี้จะช่วยนายหญิงของเขาได้จริง ๆ รึ
หลิวเหมียนพลันมองเจ้าคนผู้นี้ เหตุใดยังไม่พานางไปพบคนป่วยอีก
"นายหญิงของข้าอยู่ ๆ ก็แน่หน้าอก" นางอาจจะเป็นโรคหัวใจ
"พาข้าไปหานาง ข้ารักษานางได้" หลิวเหมียนคิดว่าช่วยคนนั้นเป็นเรื่องดี
ทั้งสี่คนจึงตามชายร่างบางไปที่เรือนพำนักของสตรีนางนั้น
"เสี่ยวเต่าเจ้าพาคนมาแล้วรึ" แม่นมหลีเห็นเสี่ยวเต่าพาคนเข้ามา หลิวเหมียนกำชับให้แม่นมหวังดูแลเจ้าแฝดให้ดี
"ท่านหมอช่วยนายหญิงของข้าด้วยเจ้าค่ะ" แม่นมหลีพลันมองสตรีชุดขาว
"พวกเจ้าออกไปให้หมดข้าจะรักษานางเอง" ใบหน้าหญิงชราซีดเผือดยิ่งนัก แม่นมหลีกับเสี่ยวเต่าพลันรีบออกไป แม้จะเป็นห่วงนายหญิงก็ตาม
หลิวเหมียนพลันปั๊มหัวใจพบว่าชีพจรกลับมาแล้ว นางคาดเดาว่าหญิงนางนี้สวดมนต์ไม่ได้พักผ่อนบวกกับโรคชราทั่วไปทำให้ร่างกายรับไม่ได้ กระนั้นนางป้อนยาบำรุง
อีกทั้งอุปกรณ์ที่ทันสมัยพลันปรากฏขึ้น นางฟังเสียงหัวใจ เต้นผิดจังหวะ ไม่ผิดหญิงชราผู้นี้เป็นโรคหัวใจด้วย
กระนั้นหลิวเหมียนไม่รอช้ารีบนำแผงยาออกมาจัดใส่ขวดกระเบื้อง
"เข้ามาได้" สองบ่าวพลันได้ยินรีบเข้ามา จังหวะนั้นหญิงชราพลันลืมตาขึ้น
"นายหญิงฟื้นแล้ว" แม่นมหลีกับเสี่ยวเต่าดีใจมาก
"เจ้าช่วยชีวิตข้าไว้ ข้าย่อมต้องตอบแทนเจ้า เจ้ามีนามว่าอะไร" หลิวเหมียนพลันยิ้มให้หญิงชรา
"ข้าหลิวเหมียนเจ้าค่ะ บุตรสาวของท่านแม่ทัพหลิวชางเจ้าค่ะ" ใบหน้าหญิงชราพลันครุ่นคิด
"นี่ป้ายหยกของข้า หากมีวาสนาเราคงได้พบกันอีก" หญิงชราสั่งให้แม่นมหลีมอบป้ายหยกให้หลิวเหมียน
นางว่าจะปฏิเสธ หากทำเช่นนั้นเกรงว่าหญิงชราจะไม่ยอมกระนั้นหลิวเหมียนจึงรับไว้ แล้วมองป้ายหยก
"นี่คือยาของท่าน ท่านเป็นโรคหัวใจควรต้องกินยา" นางมอบขวดกระเบื้องให้หญิงชรา
"ข้าจะตามหาเจ้าให้พบหลังกลับเมืองหลวง" หลิวเหมียนพลันยิ้มหวานแล้วขอตัวลา...
"นายหญิง นางคือบุตรท่านแม่ทัพหลิวชาง ที่เป็นคนปีนเตียงไหวอ๋องเมื่อหลายปีก่อน จากนั้นไหวอ๋องแต่งนางเป็นชายารอง" แม่นมหลีพลันนึกได้
เหมยไทเฮาพลันมองขวดกระเบื้อง ที่แท้สตรีนางนี้คือหลานสะใภ้ของนางช่างดียิ่งนัก
"ดูท่าข้าจะหาหมอถูกใจแล้ว พวกเรากลับวัง วันหลังเชิญนางมาเป็นแขกของข้า ข้าถูกใจหลานสะใภ้คนนี้นัก" เหมยไทเฮาพลันมีความสุขมาก หลังจากได้กินยาของหลิวเหมียนร่างกายพลันสดชื่นยิ่งนัก
"ข้าสามารถรักษาเขาได้" ทุกสายตาหันไปมองสตรีชุดขาวอรกครั้ง หมอเหอตงพลันมองสตรีชุดเขา เขารักษาไม่ได้แต่สตรีนางนี้มาจากไหนถึงจะรักษาจ้าวซูได้ "หากเจ้าทำได้ ข้าจะคุกเข่าให้ท่านและเรียกท่านว่าพี่หญิง อีกทั้งมอบเงินให้ท่านห้าร้อยตำลึง" จ้าวหยงพลันยื่นข้อเสนอ "ตกลง" หลิวเหมียนรับปาก "หากท่านทำไม่ได้จงไสหัวไปอย่าได้มาร้านอาหารของข้าเป็นอันขาด" จ้าวหยงพลันเอ่ยขึ้นดวงตาของเขามองนางอย่างนึกขำ แม้แต่หมอเหอตงยังทำไม่ได้ แล้วนางเป็นใครจะทำได้ "ได้" หลิวเหมียนพลันสั่งให้คนนำตัวจ้าวซูไปที่เตียงแล้วไล่ทุกคนออกไปให้หมด นางในยามนี้ดึงเครื่องมืออกจากกระเป๋าวิเศษ ง้างปลาของตาแก่นี้ออกจากนั้นให้ที่คีบคีบเอากระดูกที่อยู่ลึก ๆ ออกมา หญิงสาวทำเสร็จแล้ว จ้าวซูพลันได้สติกลับมาพลันมองคนที่ช่วยชีวิตเขาไว้ "หมอเทวดา ขอบคุณท่านมากที่ช่วยชีวิตข้าไว้" เสียงนี้ทำให้จ้าวหยงรู้ว่าบิดาฟื้นแล้วจึงผลักประตูเข้ามา "ท่านพ่อฟื้นแล้ว" จ้าวหยงดีใจมากที่บิดายังไม่ตาย เขามองสตรีชุดขาว "คารวะพี่หญิงขอรับ" จ้าวหยงทำตามวาจาที่ก
ภายในรถม้าหลังจากช่วยคนผู้นั้นแล้ว หลิวเหมียนกับลูก ๆ และแม่นมหวังนั่งชมทิวทัศน์กันอย่างมีความสุข เจ้าแฝดไม่คิดว่ามารดาจะเก่งช่วยคนได้ ท่านแม่เปลี่ยนไปแล้วจริง ๆ "พระชายาท่านมีความสามารถยิ่งนัก" แม่นมหวังชมเจ้านายของนาง หลิวเหมียนพลันยิ้มอย่างอ่อนโยน นางไม่ใช่หลิวเหมียนคนเดิม นางคือคนใหม่แน่นอนว่าชีวิตพวกนางหลังจากนี้จะดีขึ้นกว่าเดิม "พระชายามีคนรอบทำร้ายพวกเรา" สารถีพลันเอ่ยขึ้น เพราะมีลูกธนูปักที่รถม้า "แม่นมหวังกับเจ้าแฝดหมอบลงไป" หลิวเหมียนสั่งพวกเขาย่อมทำตาม นางหยิบเข็มพิษออกมาโผล่หน้าออกไปทางหน้าต่างสาดเข็มพิษใส่คนร้ายจนพวกมันร้องอย่างโหยหวน ส่วนสารถีรีบควบม้าอย่างไว จนพวกมันตามไม่ทัน หลิวเหมียนขมวดคิ้วเป็นปมผู้ใดกันต้องการสังหารพวกนาง "ท่านแม่เก่งที่สุด" สองแฝดกอดมารดา "นับแต่นี้จะไม่มีผู้ใดมารังแกพวกเราได้" แม่นมหวังพลันถอนหายใจ เมื่อกี้นางเกือบตายโชคดีที่พระชายารองมีฝีมือสาดเข็มพิษใส่พวกมันจนพวกมันร้องโหวยหวน รถม้ามุ่งหน้าเข้ามาในเมืองหลวงแล้ว หลิวเหมียนสั่งให้ลุงสารถีมุ่งห
"ท่านอ๋องกินกุ้งไหมเจ้าคะ ข้าอนุแกะให้" ผินเจียวรู้สึกไม่ถูกชะตากับชายาเอกคนนี้เหลือเกิน "ท่านอ๋องกินเนื้อดีกว่าเจ้าคะ ข้าจะป้อนท่าน" ชายาเอกไม่ยอมแพ้นังอนุชั้นต่ำอย่างผินเจียว ไม่คิดเลยว่าอ้ายกุ้ยเฟยจะส่งนางกำนัลมาเป็นอนุไหวอ๋อง แม้ร่างกายลีเฟยจะระบม นางก็ยังคงไหว เพื่อให้ไหวอ๋องกลับมารักนางอีกครั้ง "พอได้แล้ว พวกเจ้าทั้งสองออกไปให้หมดเลย ไม่ต้องเข้ามาในเรือนข้า" ในที่สุดไหวอ๋องก็ระเบิดอารมณ์ออกมา ชายาเอกอึ้งงัน ลีเฟยไม่รู้ว่าไหวอ๋องเป็นคนเย็นชากับนางเมื่อใดกัน นางเฝ้ารอเขากลับมาตั้งหกปี แต่สิ่งสุดท้ายคือความไม่ใส่ใจของเขามอบให้นาง เขาเปลี่ยนไปเมื่อใดกัน เขาไม่มีพื้นที่ในใจให้นางแล้ว ไหวอ๋องพลันลุกขึ้น "ไสหัวไป!!!" หนึ่งชายาหนึ่งอนุสาวเท้าออกจากเรือนไหวอ๋องแทบไม่ทันเลยทีเดียว แน่นอนว่ามิใช่เขาไร้รักลีเฟย แต่เป็นลีเฟยโกหกเขาแต่แรก นางมิได้ช่วยเขาในครั้งนั้น แต่เป็นหลิวเหมียนที่ช่วยเขา เรื่องนี้เขาให้คนไปสืบความก่อนจะกลับมา ไหวอ๋องตั้งใจจะทำดีกับหลิวเหมียนให้มากเพรา
เจ้าคนลามก !!!หลิวเหมียนรับชุดแล้วรุดไปที่เรือนของนางทันที "หวังชา" ไหวอ๋องเรียกหวังชาองครักษ์เงาของเขา หวังชาปรากฏตัวทันที "เจ้าจงไปสืบความว่าวันนี้เกิดเรื่องอะไรที่ร้านอาหารอันดับหนึ่งภายในครึ่งชั่วยามข้าต้องได้คำตอบ" ไหวอ๋องพลันมองหวังชารับคำแล้วหายไปประดุจสายลม มือหนาใหญ่พลันยกจอกน้ำชาขึ้นมาจิบอย่างอารมณ์ดี ไหวอ๋องคิดว่าชายารองมีสิ่งปิดบังเขาอยู่...เรือนหลังเล็กของชายารอง หลิวเหมียนเดินเข้ามามอบชุดให้แม่นมหวังไปเก็บ แม่นมหวังถามถึงเรื่องวันนี้ "พวกนางไม่กล้าที่จะเล่าความจริงหรอกนะแม่นมหวัง นางกล้าหาข้าว่าท้องกับชายอื่นสวมหมวกให้ไหวอ๋อง แม่นมลองคิดดูหากเอ่ยเช่นนี้ต่อหน้าไหวอ๋อง คิดรึว่าพวกนางจะรอด เท่ากับว่าเป็นการดูหมิ่นไหวอ๋อง" หลิวเหมียนคิดไว้แต่แรกแล้ว พวกนางไม่พูดหรอก ช่างสมน้ำหน้าจริง ๆ ใบหน้าพวกนางปูดบวมคงจะไปงานเลี้ยงวังหลวงไม่ได้กระมัง งานเลี้ยงถูกจัดขึ้นในตอนเช้า ไหวอ๋องต้องพาชายาเอกและชายารองไปร่วมงานเลี้ยงครั้งนี้ด้วย ในรถม้ามีชายาเอกนั่งฝั่งเดียวกับไหวอ๋อง ลีเฟยสวมชุดสีชมพูลายดอกไห่ถัง ส่วนหลิวเหมียนสวมชุดสี
คนกลุ่มใหญ่มุ่งหน้าไปทางตำหนักรับรองทันที หลิวฮูหยินพลันมองหาชายารองไหวอ๋อง แต่ทว่าไม่เจอ นางพลันมองหน้าแม่ทัพหลิวชาง "ไม่มีทางเป็นบุตรสาวของเราเป็นอันขาด" แม้จะตัดขาดกับนางไปแล้ว แต่ทว่าก็ยังมีความรักให้นางเสมอ "เหตุใดไม่เห็นชายารองไหวอ๋อง" หลิวซูซูพลันเอ่ยขึ้น ทุกสายตามองไปที่ไหวอ๋องกับชายาเอก เหมยซื่อสะใภ้รองตระกูลหลิวภรรยาเอกหลิวเจาขุนนางผู้ตรวจการพลันมองบุตรสาว นางคิดว่าบุตรสาวต้องรู้อะไรสักอย่าง คนกลุ่มใหญ่มุ่งหน้าไปที่เรือนรับรอง ฮ่องเต้กวนเหิงพลันวิตกอย่างมากหากเป็นชายารองไหวอ๋อง เขาคงจะต้องสั่งประหารนางโทษฐานทำให้ราชวงศ์เสื่อมเสียชื่อเสียง ชายาเอกของเยียนอ๋อง ลู่อ๋อง เจาอ๋อง พลันดีใจไม่น้อยหากเป็นหลิวเหมียนจริง ๆ เพราะพวกนางไม่ได้ชำระแค้นหลิวเหมียนที่ทำร้ายพวกนาง หากหลิวเหมียนเป็นหญิงงามเมือง เรื่องนี้ถือว่าโชคเข้าข้างพวกนางโดยไม่ต้องทำอันใดเลย หยางอ๋องพลันกระตุกยิ้มให้เป็นชายารองไหวอ๋อง เขาจะสมน้ำหน้าไหวอ๋อง เพราะแสดงให้เห็นว่าไหวอ๋องไร้น้ำยาเรื่องบนเตียง ชายารองถึงได้ทำเรื่องน่าอายเช่นนี้ เยียนอ๋อ
"ในเมื่อทุกอย่างเป็นปกติแล้ว ทุกคนเข้าไปในงานเลี้ยงกันดีกว่า" ชิงฮองเฮาเป็นคนเอ่ยขึ้น เพื่อทำลายบรรยากาศที่ตึงเครียดเช่นนี้ "ช้าก่อน จะได้อย่างไร เมื่อครูเป็นนางกำนัลขององค์หญิงหกก่อกวนงานเลี้ยงของไหวอ๋อง ที่สู้รบทำศึกสงครามมานานปี ช่างขายหน้ายิ่งนัก เราว่า นางกำนัลเป็นเช่นนี้ เจ้านายมิอบรมให้ดี เราว่าลงโทษองค์หญิงหกขังให้หอพระธรรมคัดคำภีร์สตรีสอนหญิงเสียดีกว่า" ไม่คิดเลยว่าเหมยไทเฮาจะเอ่ยเช่นนี้ กวนอิงแทบจะเป็นลมจะเป็นไปได้อย่างไร ที่เสด็จย่าจะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับนังสารเลวหลิวเหมียน ชิงฮองเฮาก็ตกใจเช่นกัน เหตุใดถึงเป็นเช่นนี้ไปได้เล่า "เสด็จแม่ไม่นะเพคะ" ชิงฮองเฮาพลันมองกวนอิงด้วยความสงสาร "ขายหน้าเหล่าขุนนาง และทุกคนจะปล่อยไปได้อย่างไร เจ้ายังไม่รีบไปอีก" เหมยไทเฮาพลันมองไปที่กวนอิง "เพคะเสด็จย่า" กวนอิงและนางกำนัลพลันรีบไปทันที เหตุใดเหตุการณ์ถึงเป็นเช่นนี้ไปได้ หลิวซูซูพลันตกใจไม่น้อย นังสารเลวนั่นกลายเป็นคนโปรดของไทเฮาได้อย่างไรกัน ไม่เพียงแต่หลิวซูซูคิด ไหวอ๋องก็พลันคิดไปได้ เสด็จย่าไม่เคยโปรดผู้ใด ทำไมโปรดปร
ภายในเรือนเต็มไปด้วยกลิ่นยา หลิวฮูหยินช่วงนี้ป่วยไม่สบายจึงให้สาวใช้จุดกำยานผ่อนคลายจิตใจ "ท่านแม่" หลิวฮูหยินพลันมองหลิวเหมียนที่เดินมาหานาง "เหมียนเอ๋อร์ของข้ากลับมาแล้ว ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะกลับมา หลายปีมานี้เจ้าอยู่แต่ในจวนอ๋อง เจ้าไม่ออกมาพบหน้าข้า ทั้งที่ข้ากับพ่อของเจ้าไปหาเจ้าที่จวนอ๋อง เจ้าก็ปฏิเสธ" หลิวฮูหยินนางมีหลิวเหมียนเป็นบุตรสาวคนเดียว "ท่านแม่เหมียนเอ๋อร์ผิดเองที่ทำให้ผู้อื่นรังแก วันนั้นชายาเอกมิให้เหมียนเอ๋อร์ติดต่อกับพวกท่าน อีกทั้งหากเหมียนเอ๋อร์ไปพบท่าน บุตรสาวของข้า ชายาเอกจะตบตี" "อะไรนะ" หลิวฮูหยินพลันนึกสาบแช่งลีเฟยที่กล้ารังแกบุตรสาวของนาง เป็นเช่นนี้นี่เอง "มิใช่เหมียนเอ๋อร์ไม่เสียใจ แต่หลายวันมานี้เหมียนเอ๋อร์คิดว่าต้องเข้มแข็ง อีกทั้งข้าต้องการหย่ากับไหวอ๋องเจ้าค่ะ" หลิวเหมียนพลันเอ่ยอย่างจริงจัง "ดี แม่จะรับเจ้ากลับจวนหลิวเองในวันนั้น แม่จะไม่ทอดทิ้งพวกเจ้าทั้งสามคนแม่ลูก อะไรทีาผิดพลาดพวกเราจะเริ่มต้นกันใหม่" แม้ในยุคนี้สตรีที่หย่าบุรุษจะต้องถูกประนามแล้วอย่างไรล่ะ บุตรสาวของนาง หลิวฮ
ในค่ำคืนนั้นหลิวเหมียนพลันให้อาเยียนไปที่บ้านรองอาเยียนได้วาดภาพแผนที่ให้อาเยียนเรียบร้อย ชายหนุ่มในชุดสีดำสาวเท้าเข้าไปอย่างช้า ๆ เข้าไปในเรือนใหญ่พลันมองสองสามีพลันนอนกอดกัน เขาค่อย ๆ เปิดตู้แล้วยัดถุงหอมเข้าไปด้านในภารกิจเป็นอันเสร็จสิ้น... สามวันผ่านไปหลิวเหมียนปรุงครีมหน้าเด้งเสร็จแล้ว นางออกทางด้านหลังจวนมุ่งหน้าไปที่โรงหมอสกุลจาง โดยที่นางไม่รู้ตัวเลยว่ามีคนแอบสะกดรอยตามนางอยู่ ไหวอ๋องในยามนี้พลันได้นี้ มองหวังชาที่สะกดรอยตามชายารอง "นางเข้าไปในร้านหมอจาง" "ชายารองดูเหมือนจะนำตลับยาไปขายให้หมอจาง" ชายารองของเขานับวันยิ่งแปลกคน นางรู้วิชาแพทย์รึ ใบหน้าของเขาพลันยิ้มอย่างอ่อนโยน แคก ๆ จู่ ๆไหวอ๋องก็ไอเป็นเลือด หวังชาตกใจมาก "ท่านอ๋อง ท่านเป็นอะไร" "ข้ามิเป็นไร" ถอนหายใจอย่างแล้วแล้วเอ่ยต่อ "หวังชา เจ้าจงไปที่จวนสกุลหลิว สะกดรอยตามคุณหนูรองหลิวจากนั้น..." แววตาไหวอ๋องพลันโหดเหี้ยมยิ่งนัก หวังชารับคำหายไป ไหวอ๋องจะแก้แค้นให้ชายรองเอง หลิว
"ฝ่าบาทชายาเอกรัชทายาททรงนั่งคุกเข่ามาหลายวันแล้วนะพ่ะย่ะค่ะ" เกากงกงเห็นแก่ครั้งก่อนที่หลิวเหมียนเคยมีน้ำใจให้เขา กระนั้นเขาจึงรายงานต่อฝ่าบาททุก ๆ ชั่วยาม"ปล่อยนางเถอะ ครั้งนี้เราช่วยอะไรนางมิได้จริง ๆ" กวนเหิงจะทำอย่างไรได้ ในเมื่อรัชทายาททำผิดโทษก็ไม่ต่างจากการลงโทษประชาชน โอรสสวรรค์ทำผิดต้องรับโทษเช่นกัน จะอยู่เหนื่อยกฎหมายได้อย่างไร เจ้าไปฆ่าเขา เขาก็ต้องฆ่าเจ้า มันก็สมควรแล้ว หากมีการให้ท้ายคนใหญ่คนโต บ้านเมืองจะน่าอยู่ได้อย่างไร กฎหมายจะมีไว้ทำไม หากทำผิดไม่ได้รับโทษกวนเหิงพลันถอนหายใจอย่างเหนื่อย อีกทั้งยังไอเป็นเลือด เกากงกงพลันรีบหายาให้ฝ่าบาททันมีหลิวเหมียนพลันมีของวิเศษติดตัวมา แน่นอนว่านางดื่มน้ำอุ่นตลอด อีกทั้งกินอาหารในของวิเศษ นางมิได้โง่นะ ใบหน้างามเผยอยิ้ม ไม่ลืมทาสีผึ้งเพื่อทำให้ปากซีด นางแต่งหน้าให้ป่วยด้วยเครื่องสำอางสมัยใหม่ยามเช้าของวันถัดมาหิมะตกลงมาอย่างหนัก เกากงกงพบว่าชายาเอกรัชทายาทพลันได้หายไปแล้ว หรือนางจะทำใจมิได้ ช่างเถอะก็ดีเหมือนกัน นางจะมิได้เห็นรัชทายาทในสภาพที่น่าเวทนากวนเหิงนั่งบนบัลลังก์ทองพลันมองหยางอ๋อง เยียนอ๋อง ลู่อ๋อง เจาอ๋อง และเหล่าข
จวนอ๋องหลิวเหมียนมาถึงห้องนางนอนอย่างสบายใจ นางเหนื่อยมาทั้งวัน ไหวอ๋องจุมพิตที่หน้าผากงาม เรื่องในวันนี้หยางอ๋องกับชิงฮองเฮาต้องไม่พอใจเขาอย่างแน่นอนแม้ไหวอ๋องรับตำแหน่งรัชทายาทแล้ว แต่ทว่าเขาก็ยังคงอยู่ในตำหนักอ๋องตามเดิมมิได้ย้ายไปตำหนักใหม่ เขายังไม่ประกาศเรื่องตั้งครรภ์ของหลิวเหมียนออกไปเกรงว่าจะไม่เป็นผลดีกับนางอีกอย่างหยางอ๋องคงจะไม่หยุดเป็นแน่แท้คงต้องคิดหาวิธีแย่งตำแหน่งรัชทายาทกับเขาเป็นแน่นอนหลิวเหมียนพลันมองหน้าไหวอ๋อง เขาคิดอันใดอยู่ "ท่านอ๋องคิดอะไรอยู่เจ้าคะ" นางนำน้ำแกงรังนกมามอบให้เขา เพราะเห็นเขาอยู่ห้องหนังสือทั้งวัน"อาเหมียน ข้ากำลังคิดว่าหยางอ๋องคงไม่หยุดนิ่งแน่นอน เพราะตำแหน่งรัชทายาทเป็นของเขา แต่ทว่าบัดนี้เสด็จพ่อมอบให้ข้า ข้าเกรงว่าเขาจะต้องมีแผนร้าย อีกทั้งได้ยินมาว่า เขาตีสนิทกับรัชทายาทจ้าวตี้เมื่อหลายวันก่อนนี้" ที่แท้ท่านอ๋องของนางกังวลเรื่องนี้เอง"ท่านอ๋องเอาอย่างนี้ดีรึไม่ ส่งคนไปซุ่มดูรัชทายาทจ้าวตี้กับหยางอ๋องดีกว่า หากพวกเขามีแผนการอะไร พวกเราจะได้รับมือง่าย" หลิวเหมียนพลันแนะนำ"ดีเหมือนกันข้าก็คิดเช่นนั้น" กระนั้นไหวอ๋องได้ส่งสาวใช้ยอดฝีมองสอ
หลิวเหมียนพลันยิ้มอย่างเยาะเย้ย ไหวอ๋องไม่คิดว่านางจะฉลาดเพียงนี้ แต่ทว่าหากนางแพ้ เขาจะต้องแต่งหญิงอื่นเป็นชายาเอก หากนางชนะ เมืองจินจะตกเป็นของต้าโจวจ้าวตี้พลันปวดศีรษะขึ้นมาทันที หากแพ้จะต้องเสียเมืองจินแน่นอน หากชนะน้องสาวจะได้เป็นชายาอ๋องมันช่างไม่คุ้มเอาเสียเลยจ้าวเหลียนมองหน้ารัชทายาทนึกเสียใจภายหลังเสียจริง ๆ"องค์หญิงจ้าวเหลียนมิกล้ารึ" หลิวเหมียนเห็นฝ่ายตรงข้ามเงียบไปเลยถามขึ้น"ใครว่า เรากล้าเราตกลง" จ้าวเหลียนออกปากไปแล้วขุนนางแต่ละท่านต่างรอชมการแสดงครั้งนี้ องค์หญิงจ้าวเหลียนดีดพิณฉิน เพลงของนางเริ่มจากความอ่อนหวาน แสดงถึงความรักของหนุ่มสาวคู่หนึ่งที่รักกันมิได้เพราะครอบครัวกีดกัน รักระหว่างคนเร่ร่อนกับบุตรสาวขุนนางจะเป็นไปได้อย่างไร คนที่ฟังองค์หญิงจ้าวดีพิณจนจบต่างร้องไห้ไปกับความรักของทั้งสองคนเลือกผูกคอตายไปด้วยกัน ช่างเป็นรักที่นิรันดร์เสียจริง"เยี่ยมมาก" เหล่าขุนนางต่างเอ่ยชมไม่ขาดปากยิ่งทำให้จ้าวเหลียนได้ใจยิ่ง ว่านางจะต้องชนะหลิวเหมียน นางจะต้องได้เป็นชายาอ๋องหลิวเหมียนพลันยิ้มให้ทุกคน นางนั่งลงกรีดนิ้วลงไปในสายพิณ สายลมพัดกระทบหน้าของนาง หลิวเหมียนพลันรู้ว
หลิวเหมียนมัวยุ่งกับการขายครีมหน้าเด้งของนาง นางขายผ่านโรงหมอจางหยง กำไรนับหมื่นในแต่ละเดือน หลิวเหมียนพลันมีความสุขยิ่งนักแม่นมหวังก็พลันวิ่งวุ่นกับท่านหญิงน้อยทั้งสองในจวน"เหมียนเอ๋อร์นี่คือชุดของเจ้ากับเจ้าแฝดที่จะไปร่วมงานเลี้ยงต่อนรับคณะทูตแคว้นจ้าวช่วงเย็น" หลิวเหมียนพลันมองไหวอ๋องที่ยืนใกล้นางมาก"ท่านถอยออกไปเลยนะ ข้าเหม็น"เหตุใดนางถึงได้เหม็นกลิ่นตัวของไหวอ๋องเช่นนี้อวก !!! หลิวเหมียนพลันอาเจียนออกมา "ไปตามหมอหลวงมาเร็ว" เขารีบอุ้มนางไปที่เตียงใหญ่ทันทีหลิวเหมียนกำลังคิดว่ารอบเดือนของนางไม่มาสองเดือนแล้ว หรือว่านางจะตั้งครรภ์ ไหวอ๋องก็คิดเหมือนกับหลิวเหมียนไม่นานนักหมอหลวงก็พลันมาถึงตรวจชีพจรของหลิวเหมียนใบหน้าของท่านหมอมีรอยยิ้มเจือปนอยู่"ข้าน้อยขอแสดงความยินดีกับท่านอ๋องด้วย ชายาเอกมีชีพจรมงคลพ่ะย่ะค่ะ" หมอหลวงประสานมือคำนับไหวอ๋องดีใจจึงพูดไม่ออกวันนั้นไหวอ๋องตกรางวัลให้บ่าวในจวนทุกคนในจวนหมอหลวงก็เช่นกัน หลิวเหมียนพลันอึ้งงันไม่น้อย นางท้องแล้ว น่าจะประมาณสองเดือนกระมังในงานเลี้ยงต้อนรับคณะทูตแคว้นจ้าวจัดขึ้นช่วงเย็น หลิวเหมียนกับไหวอ๋องไปด้วยกัน สองแฝดไม่อยากไปร
ปีใหม่ผ่านพ้นไปหลิวเหมียนพลันแจกเงินซองแดงให้กับบ่าวทุกคนในจวนอ๋อง คนในจวนอ๋องมีร้อยกว่าชีวิต หลิวเหมียนช่างเป็นนายหญิงที่ดีเสียจริงยามนี้หิมะพลันตกโปรยปราย หลิวเหมียนในชุดผ้าคลุมสีดำ ใบหน้างามล้ำ พลันมองอาหารของร้านอันดับหนึ่ง กุ้งแช่น้ำปลา อีกหนึ่งเมนูที่หลิวเหมียนมอบให้จ้าวหยงจ้าวหยงพลันมองพี่สาวคนดีของเขา นางช่างเก่งเรื่องคิดสูตรอาหารเหลือเกิน"พี่หญิงช่างเก่งยิ่งนัก คิดสูตรอาหารให้ข้า" จ้าวหยงสั่งให้คนไปเตรียมกุ้งแช่น้ำปลามาให้หลิวเหมียนลองทาน ไม่นานนักสาวใช้ก็พลันยกถาดกุ้งแช่น้ำปลาเข้ามาทันทีที่หลิวเหมียนสบตากับสาวใช้นางต้องตกใจอย่างมาก สาวใช้นางนี้คล้ายอนุผินเจียวที่หายตัวไปเดือนก่อน "สาวใช้คนนี้ของเจ้า เจ้าไปเอานางมาจากไหน" เสี่ยวชีพลันตกใจมากไม่คิดว่านายหญิงจะถามหาที่มาที่ไปของนาง"นายหญิงบ่าวความจำเสื่อมอย่าไล่บ่าวไปเลยเจ้าค่ะ" เสี่ยวชีพลันคุกเข่าลง จ้าวหยงพลันมองเสี่ยวชี"พี่หญิง เสี่ยวชีโดนทำร้าย นางอยู่ในรถเข็นผักใบหน้าอาบไปด้วยเลือดเมื่อเดือนก่อน นางจำตัวเองไม่ได้ ข้าเลยเก็บนางไว้" ผินเจียวก็มาหลบร้านอาหารอันดับหนึ่ง ไหวอ๋องพลิกแผ่นดินหา ถึงหานางไม่เจอ"นางคืออนุของ
หลิวเหมียนพลันมองสถานที่แห่งนี้ ด้านหลังที่โอบล้อมไปด้วยไม้ไผ่ นางไม่คิดว่าจวนอ๋องจะมี บ่อน้ำพุร้อนยังไม่ทันที่นางจะถามหวังชาว่าเกิดอะไรขึ้นกับไหวอ๋อง หวังชาหายตัวไปก่อนเสียแล้ว"เหมียนเอ๋อร์ช่วยข้าด้วย" จู่ ๆ ไหวอ๋องโผล่ขึ้นมาจากน้ำพุ ร่างหนาพลันเปลือยกายด้านบน เขาสวมเพียงกางเกงชั้นในสีขาว หลิวเหมียนพลันมองห่อหมกขนาดใหญ่มารดามันเถอะ นางเลือดกำเดาไหลแล้ว ใบหน้าหลิวเหมียนร้อนผ่าว"ข้าโดนยาปลุกกำหนัด เจ้าช่วยข้าด้วย" ไหวอ๋องดึงนางเข้ามากอดพร้อมจุมพิต หลิวเหมียนพลันเบิกดวงตาอย่างกว้าง นางตกใจ นางจะหย่ากับเขาแล้ว เขาจะมาทำเช่นนี้กับนางมิได้ไหวอ๋องจูบอย่างดูดดื่มจนนางแทบจะหายใจไม่ออก อีกทั้งปากยังบวมอีกต่างหาก"ข้าไม่ยอม ข้าจะหย่าท่าน" "ข้ารักเจ้า ทุกทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านมา เป็นข้าที่หูเบา เป็นข้าที่เชื่อคนอื่นมิได้ใส่ใจเจ้า" ไหวอ๋องพูดออกมาจากใจจริง ในวันที่เขารู้เรื่องว่านางเป็นคนช่วยเขาจากการจมน้ำเพราะเขาเป็นตะคริว นางช่วยขึ้นมาแต่ถูกลีเฟยสวมรอยว่าเป็นคนช่วยเขาไว้หลิวเหมียนเหมือนจะใจอ่อนเคลิบเคลิ้มไปกับเขา ร่างบางจุมพิตท่ามกลางบ่อน้ำพุร้อน อาภรณ์ของหญิงสาวปลดออกจนหมด หลิวเหมียนหลั
ข่าวลือในเมืองหลวง ว่าหลิวเหมียนปีนเตียงไหวอ๋องนั้นไม่จริง เช้าของวันนี้ในตลาดต่างเห็นใจหลิวเหมียนที่โดนกระทำว่าปีนเตียงไหวอ๋อง บัดนี้ความจริงพลันปรากฏแล้วว่า เป็นฝีมือคุณหนูรอง หกปีเต็ม ๆ ที่หลิวเหมียนต้องแบกรับความอัปยศนี้ข่าวนี้ทราบไปถึงเหมยไทเฮา พระนางทรงพระราชทานผ้าแพร ทองคำร้อยชั่ง มอบเงินให้หนึ่งพันตำลึงทองปลอบขวัญหลิวเหมียน ให้เสี่ยวเต่าประกาศราชโองการหลิวเหมียนพลันดีใจอย่างมาก นางได้รับความเมตตาจากองค์ไทเฮา หลิวเหมียนมอบก้อนทองให้เสี่ยวเต่า "ขอบคุณชายารอง" ยังมอบตลับยาหน้าเด้งฝากให้เหมยไทเฮาด้วยเรือนหลังเล็กของหลิวเหมียนเต็มไปด้วยเงินก้อนกับทองคำนางมีความสุขมากไหวอ๋องพลันมาหานางที่เรือน มีเรื่องราวหลายอย่างที่เขาอยากจะขอโทษนาง"อาเหมียนข้าขอโทษ" ในตอนนั้นเมื่อหกปีที่แล้ว เขาฟื้นขึ้นมา เขาพบว่านางนอนอยู่ข้างกายเขา ไหวอ๋องพลันตบหน้าหลิวเหมียนอย่างแรง ใช่เขารังเกียจนางมากตอนนั้น จวบจนมีราชโองการให้นางเป็นชายารอง..."อดีตไม่ต้องพูดถึง ถึงอย่างไรข้ากับท่านก็ต้องหย่ากันอยู่แล้วในอีกไม่กี่วันข้างหน้า"หลิวเหมียนพลันยิ้มหน้าบาน ในเมื่อนางล้างมลทินให้ตัวเองเรียบร้อยแล้ว นางควรจะไ
"นั่นมันเสียงอะไรหลิวฮูหยิน" ฮูหยินท่านขุนนางคนหนึ่งเอ่ยขึ้นเมื่อเดินผ่านเรือนรับ หลิวฮูหยินอาสาพาฮูหยินคนอื่นเดินเล่นชมสวนในจวนงานเลี้ยง"เจ้าเข้าไปดูสิ" ใบหน้าของหลิวฮูหยินแดงก่ำ สาวใช้คนนั้นพลันเปิดประตูเข้าไปอย่างช้า ๆ พอนางเข้าไป นางวิ่งหน้าตื่นออกมา"ฮูหยิน เป็นคุณหนูรองกับคนเลี้ยงม้าเจ้าค่ะ" ทุกสายตาต่างอึ้งงัน อีกทั้งตกใจอย่างมาก เหมยซื่อสะใภ้บ้านรองพลันตกใจนางพลันเข้าไปในห้องนั้นพบว่าเป็นบุตรสาวของนางที่นอนอยู่กับบุรุษเลี้ยงม้า"ท่านแม่" หลิวซูซูพลันอึ้งงัน นางมองมารดาอีกทั้งหน้าประตูยังเห็นฮูหยินอีกหลายคน"นี่เจ้า" เหมยซื่อพูดไม่ออก เหตุใดถึงเป็นเช่นนี้ หลิวซูซูจำได้ว่านางเข้ามาในเรือนรับรอง จากนั้นเห็นอาเวย ชายเลี้ยงม้าในจวน อาเวยพลันมองคุณหนูรองที่เป็นของเขาแล้ว"ฮูหยินรองข้ากับคุณหนูรองรักกันนะขอรับ" อาเวยพลันเอ่ยออกมา ใช่เขารักนางมากจริง ๆ ยอมทำทุกอย่าง แม้จะอยู่ในแผนการผู้อื่นก็ตาม ในจวนนี้มีเพียงหลิวซูซูดีกับเขา"เจ้าสารเลว ข้าจะตีเจ้า" หลิวซูซูพลันขาดสติ ฮูหยินบางท่านทนดูไม่ได้จึงได้ขอตัวกลับจวนกลางคัน ชายาเอกเยียนอ๋อง ลู่อ๋อง เจาอ๋อง ทนดูเรื่องบัดสีมิได้เหมือนกัน จ
หลิวเหมียนกับสองแฝดตั้งใจว่าเช้านี้พวกนางสามคนแม่ลูกจะออกไปตัดชุด เพื่อไปร่วมงานเลี้ยงของฮูหยินผู้เฒ่าหลิวแต่ทว่าสาวใช้จากเรือนไหวอ๋องถือชุดที่ตัดเรียบร้อยมามอบให้สามคนแม่ลูก "ไหวอ๋องให้บ่าวนำชุดมามอบให้พวกท่านทั้งสามคนเจ้าค่ะ" หลิวเหมียนพยักหน้าพลันให้แม่นมหวังรับชุดไว้ สาวใช้ทั้งสองคนของตัวลาลายผ้าปักชั้นดี งานฝีมือนี้คงจะมาจากวังหลวงเป็นแน่แท้ ผ้าต่วนสีชมพูลายวิหคเหินฟ้า ทั้งสามชุดเหมือนกันหมด ใต้ชุดนั้นมีเครื่องประดับปิ่นซ่อนไว้ หลิวเหมียนพลันคิดได้ว่าไหวอ๋องมิอยากให้เครื่องประดับนางโดยตรง เพราะเขินอายถึงอย่างไรนางก็จะหย่ากับเขาอยู่ดี แม้เขาจะดีกับเจ้าแฝดก็ตาม สาเหตุเพราะนางมิได้รักเขา แม้เขาจะหล่อก็เถอะไหวอ๋องพลันให้อาหารปลาเสร็จพลันมองสาวใช้เข้ามารายงาน"เรียบร้อยเจ้าค่ะ""นางว่าอย่างไรบ้าง""ชายารองทรงมิได้เอ่ยอันใดออกมาเจ้าค่ะ" ไหวอ๋องโบกมือไล่สาวใช้ให้ไปทำงานต่อ...เรือนของชายาเอก ยามนี้ลีเฟยพลันวิตกเรื่องของอนุผินหยางอ๋องส่งข่าวว่ายังไม่พบร่างของผินเจียว นังสารเลวนั่นมันอยู่ไหนกันแน่ แม้จะพลิกแผ่นดินหาต้องหานังสารเลวนั่นให้เจอ "ชายาเอกบ่าวได้ยินว่าไหวอ๋องส่งชุดร่วมงา