"ข้าสามารถรักษาเขาได้" ทุกสายตาหันไปมองสตรีชุดขาวอรกครั้ง หมอเหอตงพลันมองสตรีชุดเขา เขารักษาไม่ได้แต่สตรีนางนี้มาจากไหนถึงจะรักษาจ้าวซูได้
"หากเจ้าทำได้ ข้าจะคุกเข่าให้ท่านและเรียกท่านว่าพี่หญิง อีกทั้งมอบเงินให้ท่านห้าร้อยตำลึง" จ้าวหยงพลันยื่นข้อเสนอ
"ตกลง" หลิวเหมียนรับปาก
"หากท่านทำไม่ได้จงไสหัวไปอย่าได้มาร้านอาหารของข้าเป็นอันขาด" จ้าวหยงพลันเอ่ยขึ้นดวงตาของเขามองนางอย่างนึกขำ แม้แต่หมอเหอตงยังทำไม่ได้ แล้วนางเป็นใครจะทำได้
"ได้" หลิวเหมียนพลันสั่งให้คนนำตัวจ้าวซูไปที่เตียงแล้วไล่ทุกคนออกไปให้หมด
นางในยามนี้ดึงเครื่องมืออกจากกระเป๋าวิเศษ ง้างปลาของตาแก่นี้ออกจากนั้นให้ที่คีบคีบเอากระดูกที่อยู่ลึก ๆ ออกมา หญิงสาวทำเสร็จแล้ว จ้าวซูพลันได้สติกลับมาพลันมองคนที่ช่วยชีวิตเขาไว้
"หมอเทวดา ขอบคุณท่านมากที่ช่วยชีวิตข้าไว้" เสียงนี้ทำให้จ้าวหยงรู้ว่าบิดาฟื้นแล้วจึงผลักประตูเข้ามา
"ท่านพ่อฟื้นแล้ว" จ้าวหยงดีใจมากที่บิดายังไม่ตาย เขามองสตรีชุดขาว
"คารวะพี่หญิงขอรับ" จ้าวหยงทำตามวาจาที่กล่าวไว้ รับนางเป็นพี่หญิงแล้วคุกเข่าให้นาง
"ข้าชื่อหลิวเหมียน ชายารองไหวอ๋อง" ทุกคนต่างตกใจไม่คิดเลยว่าสตรีที่เป็นหมอเทวดาจะเป็นชายารองไหวอ๋อง ที่คนกล่าวถึงว่านางตั้งครรภ์กับบุรุษอื่น
หลิวเหมียนรับเงินห้าร้อยตำลึงกับจ้าวหยง ชายหนุ่มนับถือนางเป็นพี่หญิงแล้ว นับแต่นี้นางมากินข้าวฟรีที่นี่ทุกยาม
หลิวเหมียนพอใจอย่างมากขึ้นรถม้าแล้วเก็บตั๋วเงินไว้ในสาบเสื้ออย่างมีความสุข
สองแฝดมองมารดาที่ชาญฉลาด แม่นมหวังสุขใจมากเจ้านายมีความสุข...
อีกด้านหนึ่ง
ลีเฟยไม่คิดเลยว่าหยางอ๋องจะหลอกล่อนาง นางรีบสวมอาภรณ์ หยางอ๋องกอดนางจากด้านหลัง
"หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป ระวังชีวิตของน้องสะใภ้ให้ดี"
"ไอ้ชั่ว" ลีเฟยรีบสวมหมวกแล้วออกจากห้องไปด้วยความเสียใจ สายตาของหยางอ๋องพลันมองไปที่เตียงนอน นางมีเลือดออกมาแสดงว่า ลีเฟยยังมิได้ผ่านคืนวสันต์กับไหวอ๋อง มุมปากหนาเผยอยิ้มอย่างมีความสุข...
ลีเฟยกลับมาที่จวนให้สาวใช้ทั้งสองคนเตรียมน้ำให้นางอาบ นางไล่สาวใช้ออกไป นางนึกชังหยางอ๋องยิ่งนักที่ทำเช่นนี้กับนาง
เรือนพระชายารองหลังจากที่กลับมาเจ้าแฝดก็พลันเล่นที่หน้าเรือน หลิวเหมียนกับแม่นมหวังจัดแปลงผักและสวนดอกไม้เสียใหม่
"พระชายารอง ไหวอ๋องต้องการทานข้าวเย็นกับท่าน ประเดี๋ยวยามพลบค่ำท่านไปที่เรือนไหวอ๋องนะเจ้าคะ" สาวใช้พลันเข้ามารายงาน ยังไม่ทันที่นางจะปฏิเสธเลย สาวใช้นางนั้นเดินไปไกลเสียแล้ว
"นี่เขากินยาไม่เขย่าขวดรึ" หลิวเหมียนพลันถามแม่นมหวัง แม่นมหวังคิดว่าเรื่องเป็นเช่นนี้นับว่าดีแล้ว
หลิวเหมียนพลันล้างมือแล้วเข้าไปในเรือน นางจะไม่แต่งตัวสวย นางจะสวมแค่ชุดขาวทำหน้าจืด ๆ
ทางด้านชายาเอกหลังจากอาบน้ำเสร็จ นางพลันแต่งกายเสียใหม่ บ่าวจากจวนไหวอ๋องรายงานว่าไหวอ๋องเชิญสามแม่ลูกไปกินข้าวที่เรือน ใบหน้านั้นพลันยับยู่ยี่ทันที ลีเฟยพลันเจ็บปวดร่างกายยิ่งนัก แต่ทว่าต้องอดทนนางจะให้นังสารเลวได้ใจไหวอ๋องมิได้...
เรือนของไหวอ๋อง
อาหารนับสิบอย่างวางบนโต๊ะกลม ไหวอ๋องพลันสั่งพ่อบ้านจูหลงทำอาหารเยอะ เพื่อพวกนางสามคนแม่ลูก
ใบหน้าหล่อเหลาพลันมองไปทางประตูได้เวลาอาหารเย็นแล้ว เหตุใดสามแม่ลูกยังไม่มาอีก หวังชาไม่คิดเลยว่าไหวอ๋องจะหลงพระชายารองเพียงนี้
"ไปตามพวกนางมา"
"ข้ามาแล้วเจ้าค่ะ" หลิวเหมียนกับลูกแฝดพลันเดินเข้ามม ไหวอ๋องพลันเห็นนางแต่งกายเช่นนี้ เขาถึงกับปวดกบาลทันที นางแต่งชุดขาวอีกแล้ว นางจะไว้ทุกข์ให้ผู้ใดกัน
"นั่งเถอะ" หลิวเหมียนกับสองแฝดนั่งเก้าอี้ถัดจากไหวอ๋อง หลิวเหมียนพลันนึกชังเจ้าอ๋องหน้าโง่ เห็นแก่หน้าหล่อ ๆ ของเจ้า นางกับลูกถึงได้มากินข้าวเย็นด้วย
"ท่านอ๋อง ข้ามาแล้วเจ้าค่ะ" ชายาเอกพลันแข็งใจแม้ร่างกายจะเจ็บอยู่ นางก็อุตส่าห์มากินข้าวกับไหวอ๋อง
เขาไม่ได้ชวนลีเฟยมิใช่รึ เหตุใดนางถึงรู้ข่าว ไหวอ๋องพลันปั้นหน้ายิ้ม
"ท่านอ๋องข้าอนุภรรยานำน้ำแกงรังนกมาให้ท่านเจ้าค่ะ" อนุผินเจียวพลันสาวเท้าเข้ามามองอาหารเต็มโต๊ะ อีกทั้งมีชายาเอกชายารองด้วย
"เจ้าวางไว้แล้วออกไปเถอะ" ไหวอ๋องไล่อนุผิน
"ท่านอ๋องข้ายังไม่ได้ทานข้าวเลยนะเจ้าคะ" อนุผินเอ่ยอย่างน่าสงสาร ไหวอ๋องพลันปวดหัวยิ่งนัก
หลิวเหมียนพลันยิ้มในใจ เจ้าแฝดมองพระบิดาช่างเสน่ห์แรงเสียจริง
"ท่านพวกเรากลับกันเถอะ อาหารไม่อร่อย" กวนหนิงเอ่ยขึ้น
"กลับเรือนท่านแม่" กวนหยู
"ท่านอ๋อง ข้าขอตัวกลับเรือนนะเจ้าคะ ดูท่าท่านอ๋องมีทั้งชายาเอกกับอนุผินแล้ว คงจะกินข้าวอร่อย พวกเราสามแม่ลูกขอตัวลาเจ้าค่ะ" หลิวเหมียนกับสามแฝดพลันสาวเท้าอย่างฉับไว
ลีเฟยพันดีใจอย่างมาก "ท่านอ๋องกินเนื้อดีกว่าเจ้าค่ะ"
ภายในรถม้าหลังจากช่วยคนผู้นั้นแล้ว หลิวเหมียนกับลูก ๆ และแม่นมหวังนั่งชมทิวทัศน์กันอย่างมีความสุข เจ้าแฝดไม่คิดว่ามารดาจะเก่งช่วยคนได้ ท่านแม่เปลี่ยนไปแล้วจริง ๆ "พระชายาท่านมีความสามารถยิ่งนัก" แม่นมหวังชมเจ้านายของนาง หลิวเหมียนพลันยิ้มอย่างอ่อนโยน นางไม่ใช่หลิวเหมียนคนเดิม นางคือคนใหม่แน่นอนว่าชีวิตพวกนางหลังจากนี้จะดีขึ้นกว่าเดิม "พระชายามีคนรอบทำร้ายพวกเรา" สารถีพลันเอ่ยขึ้น เพราะมีลูกธนูปักที่รถม้า "แม่นมหวังกับเจ้าแฝดหมอบลงไป" หลิวเหมียนสั่งพวกเขาย่อมทำตาม นางหยิบเข็มพิษออกมาโผล่หน้าออกไปทางหน้าต่างสาดเข็มพิษใส่คนร้ายจนพวกมันร้องอย่างโหยหวน ส่วนสารถีรีบควบม้าอย่างไว จนพวกมันตามไม่ทัน หลิวเหมียนขมวดคิ้วเป็นปมผู้ใดกันต้องการสังหารพวกนาง "ท่านแม่เก่งที่สุด" สองแฝดกอดมารดา "นับแต่นี้จะไม่มีผู้ใดมารังแกพวกเราได้" แม่นมหวังพลันถอนหายใจ เมื่อกี้นางเกือบตายโชคดีที่พระชายารองมีฝีมือสาดเข็มพิษใส่พวกมันจนพวกมันร้องโหวยหวน รถม้ามุ่งหน้าเข้ามาในเมืองหลวงแล้ว หลิวเหมียนสั่งให้ลุงสารถีมุ่งห
"ท่านอ๋องกินกุ้งไหมเจ้าคะ ข้าอนุแกะให้" ผินเจียวรู้สึกไม่ถูกชะตากับชายาเอกคนนี้เหลือเกิน "ท่านอ๋องกินเนื้อดีกว่าเจ้าคะ ข้าจะป้อนท่าน" ชายาเอกไม่ยอมแพ้นังอนุชั้นต่ำอย่างผินเจียว ไม่คิดเลยว่าอ้ายกุ้ยเฟยจะส่งนางกำนัลมาเป็นอนุไหวอ๋อง แม้ร่างกายลีเฟยจะระบม นางก็ยังคงไหว เพื่อให้ไหวอ๋องกลับมารักนางอีกครั้ง "พอได้แล้ว พวกเจ้าทั้งสองออกไปให้หมดเลย ไม่ต้องเข้ามาในเรือนข้า" ในที่สุดไหวอ๋องก็ระเบิดอารมณ์ออกมา ชายาเอกอึ้งงัน ลีเฟยไม่รู้ว่าไหวอ๋องเป็นคนเย็นชากับนางเมื่อใดกัน นางเฝ้ารอเขากลับมาตั้งหกปี แต่สิ่งสุดท้ายคือความไม่ใส่ใจของเขามอบให้นาง เขาเปลี่ยนไปเมื่อใดกัน เขาไม่มีพื้นที่ในใจให้นางแล้ว ไหวอ๋องพลันลุกขึ้น "ไสหัวไป!!!" หนึ่งชายาหนึ่งอนุสาวเท้าออกจากเรือนไหวอ๋องแทบไม่ทันเลยทีเดียว แน่นอนว่ามิใช่เขาไร้รักลีเฟย แต่เป็นลีเฟยโกหกเขาแต่แรก นางมิได้ช่วยเขาในครั้งนั้น แต่เป็นหลิวเหมียนที่ช่วยเขา เรื่องนี้เขาให้คนไปสืบความก่อนจะกลับมา ไหวอ๋องตั้งใจจะทำดีกับหลิวเหมียนให้มากเพรา
เจ้าคนลามก !!!หลิวเหมียนรับชุดแล้วรุดไปที่เรือนของนางทันที "หวังชา" ไหวอ๋องเรียกหวังชาองครักษ์เงาของเขา หวังชาปรากฏตัวทันที "เจ้าจงไปสืบความว่าวันนี้เกิดเรื่องอะไรที่ร้านอาหารอันดับหนึ่งภายในครึ่งชั่วยามข้าต้องได้คำตอบ" ไหวอ๋องพลันมองหวังชารับคำแล้วหายไปประดุจสายลม มือหนาใหญ่พลันยกจอกน้ำชาขึ้นมาจิบอย่างอารมณ์ดี ไหวอ๋องคิดว่าชายารองมีสิ่งปิดบังเขาอยู่...เรือนหลังเล็กของชายารอง หลิวเหมียนเดินเข้ามามอบชุดให้แม่นมหวังไปเก็บ แม่นมหวังถามถึงเรื่องวันนี้ "พวกนางไม่กล้าที่จะเล่าความจริงหรอกนะแม่นมหวัง นางกล้าหาข้าว่าท้องกับชายอื่นสวมหมวกให้ไหวอ๋อง แม่นมลองคิดดูหากเอ่ยเช่นนี้ต่อหน้าไหวอ๋อง คิดรึว่าพวกนางจะรอด เท่ากับว่าเป็นการดูหมิ่นไหวอ๋อง" หลิวเหมียนคิดไว้แต่แรกแล้ว พวกนางไม่พูดหรอก ช่างสมน้ำหน้าจริง ๆ ใบหน้าพวกนางปูดบวมคงจะไปงานเลี้ยงวังหลวงไม่ได้กระมัง งานเลี้ยงถูกจัดขึ้นในตอนเช้า ไหวอ๋องต้องพาชายาเอกและชายารองไปร่วมงานเลี้ยงครั้งนี้ด้วย ในรถม้ามีชายาเอกนั่งฝั่งเดียวกับไหวอ๋อง ลีเฟยสวมชุดสีชมพูลายดอกไห่ถัง ส่วนหลิวเหมียนสวมชุดสี
คนกลุ่มใหญ่มุ่งหน้าไปทางตำหนักรับรองทันที หลิวฮูหยินพลันมองหาชายารองไหวอ๋อง แต่ทว่าไม่เจอ นางพลันมองหน้าแม่ทัพหลิวชาง "ไม่มีทางเป็นบุตรสาวของเราเป็นอันขาด" แม้จะตัดขาดกับนางไปแล้ว แต่ทว่าก็ยังมีความรักให้นางเสมอ "เหตุใดไม่เห็นชายารองไหวอ๋อง" หลิวซูซูพลันเอ่ยขึ้น ทุกสายตามองไปที่ไหวอ๋องกับชายาเอก เหมยซื่อสะใภ้รองตระกูลหลิวภรรยาเอกหลิวเจาขุนนางผู้ตรวจการพลันมองบุตรสาว นางคิดว่าบุตรสาวต้องรู้อะไรสักอย่าง คนกลุ่มใหญ่มุ่งหน้าไปที่เรือนรับรอง ฮ่องเต้กวนเหิงพลันวิตกอย่างมากหากเป็นชายารองไหวอ๋อง เขาคงจะต้องสั่งประหารนางโทษฐานทำให้ราชวงศ์เสื่อมเสียชื่อเสียง ชายาเอกของเยียนอ๋อง ลู่อ๋อง เจาอ๋อง พลันดีใจไม่น้อยหากเป็นหลิวเหมียนจริง ๆ เพราะพวกนางไม่ได้ชำระแค้นหลิวเหมียนที่ทำร้ายพวกนาง หากหลิวเหมียนเป็นหญิงงามเมือง เรื่องนี้ถือว่าโชคเข้าข้างพวกนางโดยไม่ต้องทำอันใดเลย หยางอ๋องพลันกระตุกยิ้มให้เป็นชายารองไหวอ๋อง เขาจะสมน้ำหน้าไหวอ๋อง เพราะแสดงให้เห็นว่าไหวอ๋องไร้น้ำยาเรื่องบนเตียง ชายารองถึงได้ทำเรื่องน่าอายเช่นนี้ เยียนอ๋อ
"ในเมื่อทุกอย่างเป็นปกติแล้ว ทุกคนเข้าไปในงานเลี้ยงกันดีกว่า" ชิงฮองเฮาเป็นคนเอ่ยขึ้น เพื่อทำลายบรรยากาศที่ตึงเครียดเช่นนี้ "ช้าก่อน จะได้อย่างไร เมื่อครูเป็นนางกำนัลขององค์หญิงหกก่อกวนงานเลี้ยงของไหวอ๋อง ที่สู้รบทำศึกสงครามมานานปี ช่างขายหน้ายิ่งนัก เราว่า นางกำนัลเป็นเช่นนี้ เจ้านายมิอบรมให้ดี เราว่าลงโทษองค์หญิงหกขังให้หอพระธรรมคัดคำภีร์สตรีสอนหญิงเสียดีกว่า" ไม่คิดเลยว่าเหมยไทเฮาจะเอ่ยเช่นนี้ กวนอิงแทบจะเป็นลมจะเป็นไปได้อย่างไร ที่เสด็จย่าจะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับนังสารเลวหลิวเหมียน ชิงฮองเฮาก็ตกใจเช่นกัน เหตุใดถึงเป็นเช่นนี้ไปได้เล่า "เสด็จแม่ไม่นะเพคะ" ชิงฮองเฮาพลันมองกวนอิงด้วยความสงสาร "ขายหน้าเหล่าขุนนาง และทุกคนจะปล่อยไปได้อย่างไร เจ้ายังไม่รีบไปอีก" เหมยไทเฮาพลันมองไปที่กวนอิง "เพคะเสด็จย่า" กวนอิงและนางกำนัลพลันรีบไปทันที เหตุใดเหตุการณ์ถึงเป็นเช่นนี้ไปได้ หลิวซูซูพลันตกใจไม่น้อย นังสารเลวนั่นกลายเป็นคนโปรดของไทเฮาได้อย่างไรกัน ไม่เพียงแต่หลิวซูซูคิด ไหวอ๋องก็พลันคิดไปได้ เสด็จย่าไม่เคยโปรดผู้ใด ทำไมโปรดปร
ภายในเรือนเต็มไปด้วยกลิ่นยา หลิวฮูหยินช่วงนี้ป่วยไม่สบายจึงให้สาวใช้จุดกำยานผ่อนคลายจิตใจ "ท่านแม่" หลิวฮูหยินพลันมองหลิวเหมียนที่เดินมาหานาง "เหมียนเอ๋อร์ของข้ากลับมาแล้ว ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะกลับมา หลายปีมานี้เจ้าอยู่แต่ในจวนอ๋อง เจ้าไม่ออกมาพบหน้าข้า ทั้งที่ข้ากับพ่อของเจ้าไปหาเจ้าที่จวนอ๋อง เจ้าก็ปฏิเสธ" หลิวฮูหยินนางมีหลิวเหมียนเป็นบุตรสาวคนเดียว "ท่านแม่เหมียนเอ๋อร์ผิดเองที่ทำให้ผู้อื่นรังแก วันนั้นชายาเอกมิให้เหมียนเอ๋อร์ติดต่อกับพวกท่าน อีกทั้งหากเหมียนเอ๋อร์ไปพบท่าน บุตรสาวของข้า ชายาเอกจะตบตี" "อะไรนะ" หลิวฮูหยินพลันนึกสาบแช่งลีเฟยที่กล้ารังแกบุตรสาวของนาง เป็นเช่นนี้นี่เอง "มิใช่เหมียนเอ๋อร์ไม่เสียใจ แต่หลายวันมานี้เหมียนเอ๋อร์คิดว่าต้องเข้มแข็ง อีกทั้งข้าต้องการหย่ากับไหวอ๋องเจ้าค่ะ" หลิวเหมียนพลันเอ่ยอย่างจริงจัง "ดี แม่จะรับเจ้ากลับจวนหลิวเองในวันนั้น แม่จะไม่ทอดทิ้งพวกเจ้าทั้งสามคนแม่ลูก อะไรทีาผิดพลาดพวกเราจะเริ่มต้นกันใหม่" แม้ในยุคนี้สตรีที่หย่าบุรุษจะต้องถูกประนามแล้วอย่างไรล่ะ บุตรสาวของนาง หลิวฮ
ในค่ำคืนนั้นหลิวเหมียนพลันให้อาเยียนไปที่บ้านรองอาเยียนได้วาดภาพแผนที่ให้อาเยียนเรียบร้อย ชายหนุ่มในชุดสีดำสาวเท้าเข้าไปอย่างช้า ๆ เข้าไปในเรือนใหญ่พลันมองสองสามีพลันนอนกอดกัน เขาค่อย ๆ เปิดตู้แล้วยัดถุงหอมเข้าไปด้านในภารกิจเป็นอันเสร็จสิ้น... สามวันผ่านไปหลิวเหมียนปรุงครีมหน้าเด้งเสร็จแล้ว นางออกทางด้านหลังจวนมุ่งหน้าไปที่โรงหมอสกุลจาง โดยที่นางไม่รู้ตัวเลยว่ามีคนแอบสะกดรอยตามนางอยู่ ไหวอ๋องในยามนี้พลันได้นี้ มองหวังชาที่สะกดรอยตามชายารอง "นางเข้าไปในร้านหมอจาง" "ชายารองดูเหมือนจะนำตลับยาไปขายให้หมอจาง" ชายารองของเขานับวันยิ่งแปลกคน นางรู้วิชาแพทย์รึ ใบหน้าของเขาพลันยิ้มอย่างอ่อนโยน แคก ๆ จู่ ๆไหวอ๋องก็ไอเป็นเลือด หวังชาตกใจมาก "ท่านอ๋อง ท่านเป็นอะไร" "ข้ามิเป็นไร" ถอนหายใจอย่างแล้วแล้วเอ่ยต่อ "หวังชา เจ้าจงไปที่จวนสกุลหลิว สะกดรอยตามคุณหนูรองหลิวจากนั้น..." แววตาไหวอ๋องพลันโหดเหี้ยมยิ่งนัก หวังชารับคำหายไป ไหวอ๋องจะแก้แค้นให้ชายรองเอง หลิว
"เสี่ยวขิง เหตุใดเจ้าไม่ไปขอเงินบ้านรองเล่า ข้าเป็นนายหญิงบ้านใหญ่ เหตุใดจะต้องช่วยบ่าวเช่นเจ้า บ่าวเช่นเจ้ามีประโยชน์อันใด" หลิวฮูหยินถือพัดหยกพัดไปพัดมาเสี่ยวขิงคิดว่าหากไม่ช่วยพี่ชาย อาเขอก็คงโดนคนอื่นทำร้ายจนตาย กระนั้นนางคิดว่า หากยืมเงินช่วยอาเขอ ตัวนางจะปลิดชีพตัวเองนางจะไม่ผิดต่อทั้งสองฝ่าย นางกำลังจะขายความลับบ้านรอง"บ่าวมีความลับจะบอกเจ้าค่ะ""เจ้าลองว่ามา หากมันสำคัญเงินพวกนี้ข้าจะไม่เอาคืน" ถุงเงินห้าร้อยตำลึงได้เตรียมไว้แล้วเสี่ยวขิงได้แต่ขอโทษบ้านรองในใจ"เมื่อหกปีที่แล้ว ที่จริงคุณหนูใหญ่มิได้ปีนเตียงไหวอ๋อง แต่เป็นแผนการของสะใภ้รองกับคุณหนูรองเจ้าค่ะ ในเรือนรับรองนั้นพวกนางจุดกำยานไว้ อีกทั้งคุณหนูใหญ่โดนยากำหนัด ในตอนนั้นคุณหนูใหญ่ไม่ได้สติอีกทั้งโดนวางยา พวกบ่าวได้รับคำสั่งให้นำตัวนางไปไว้ในเรือนรับรองนั้น"เสี่ยวขิงเล่าไปน้ำตาไหลไป กลัวหลิวฮูหยินจะทำโทษหลิวฮูหยินพลันตาแดงก่ำ บุตรสาวที่น่าสงสารของนาง หลิวเหมียนโดนตีตราว่าเป็นหญิงชั่วปีนเตียงไหวอ๋อง ซ้ำร้ายนางยังต้องแต่งเป็นชายารองตามพระราชทานฮ่องเต้ในตอนนั้น เนื่องจากฮ่องเต้เกรงกลัวแม่ทัพหลิวชางเหมือนกันนางถามอ
"ฝ่าบาทชายาเอกรัชทายาททรงนั่งคุกเข่ามาหลายวันแล้วนะพ่ะย่ะค่ะ" เกากงกงเห็นแก่ครั้งก่อนที่หลิวเหมียนเคยมีน้ำใจให้เขา กระนั้นเขาจึงรายงานต่อฝ่าบาททุก ๆ ชั่วยาม"ปล่อยนางเถอะ ครั้งนี้เราช่วยอะไรนางมิได้จริง ๆ" กวนเหิงจะทำอย่างไรได้ ในเมื่อรัชทายาททำผิดโทษก็ไม่ต่างจากการลงโทษประชาชน โอรสสวรรค์ทำผิดต้องรับโทษเช่นกัน จะอยู่เหนื่อยกฎหมายได้อย่างไร เจ้าไปฆ่าเขา เขาก็ต้องฆ่าเจ้า มันก็สมควรแล้ว หากมีการให้ท้ายคนใหญ่คนโต บ้านเมืองจะน่าอยู่ได้อย่างไร กฎหมายจะมีไว้ทำไม หากทำผิดไม่ได้รับโทษกวนเหิงพลันถอนหายใจอย่างเหนื่อย อีกทั้งยังไอเป็นเลือด เกากงกงพลันรีบหายาให้ฝ่าบาททันมีหลิวเหมียนพลันมีของวิเศษติดตัวมา แน่นอนว่านางดื่มน้ำอุ่นตลอด อีกทั้งกินอาหารในของวิเศษ นางมิได้โง่นะ ใบหน้างามเผยอยิ้ม ไม่ลืมทาสีผึ้งเพื่อทำให้ปากซีด นางแต่งหน้าให้ป่วยด้วยเครื่องสำอางสมัยใหม่ยามเช้าของวันถัดมาหิมะตกลงมาอย่างหนัก เกากงกงพบว่าชายาเอกรัชทายาทพลันได้หายไปแล้ว หรือนางจะทำใจมิได้ ช่างเถอะก็ดีเหมือนกัน นางจะมิได้เห็นรัชทายาทในสภาพที่น่าเวทนากวนเหิงนั่งบนบัลลังก์ทองพลันมองหยางอ๋อง เยียนอ๋อง ลู่อ๋อง เจาอ๋อง และเหล่าข
จวนอ๋องหลิวเหมียนมาถึงห้องนางนอนอย่างสบายใจ นางเหนื่อยมาทั้งวัน ไหวอ๋องจุมพิตที่หน้าผากงาม เรื่องในวันนี้หยางอ๋องกับชิงฮองเฮาต้องไม่พอใจเขาอย่างแน่นอนแม้ไหวอ๋องรับตำแหน่งรัชทายาทแล้ว แต่ทว่าเขาก็ยังคงอยู่ในตำหนักอ๋องตามเดิมมิได้ย้ายไปตำหนักใหม่ เขายังไม่ประกาศเรื่องตั้งครรภ์ของหลิวเหมียนออกไปเกรงว่าจะไม่เป็นผลดีกับนางอีกอย่างหยางอ๋องคงจะไม่หยุดเป็นแน่แท้คงต้องคิดหาวิธีแย่งตำแหน่งรัชทายาทกับเขาเป็นแน่นอนหลิวเหมียนพลันมองหน้าไหวอ๋อง เขาคิดอันใดอยู่ "ท่านอ๋องคิดอะไรอยู่เจ้าคะ" นางนำน้ำแกงรังนกมามอบให้เขา เพราะเห็นเขาอยู่ห้องหนังสือทั้งวัน"อาเหมียน ข้ากำลังคิดว่าหยางอ๋องคงไม่หยุดนิ่งแน่นอน เพราะตำแหน่งรัชทายาทเป็นของเขา แต่ทว่าบัดนี้เสด็จพ่อมอบให้ข้า ข้าเกรงว่าเขาจะต้องมีแผนร้าย อีกทั้งได้ยินมาว่า เขาตีสนิทกับรัชทายาทจ้าวตี้เมื่อหลายวันก่อนนี้" ที่แท้ท่านอ๋องของนางกังวลเรื่องนี้เอง"ท่านอ๋องเอาอย่างนี้ดีรึไม่ ส่งคนไปซุ่มดูรัชทายาทจ้าวตี้กับหยางอ๋องดีกว่า หากพวกเขามีแผนการอะไร พวกเราจะได้รับมือง่าย" หลิวเหมียนพลันแนะนำ"ดีเหมือนกันข้าก็คิดเช่นนั้น" กระนั้นไหวอ๋องได้ส่งสาวใช้ยอดฝีมองสอ
หลิวเหมียนพลันยิ้มอย่างเยาะเย้ย ไหวอ๋องไม่คิดว่านางจะฉลาดเพียงนี้ แต่ทว่าหากนางแพ้ เขาจะต้องแต่งหญิงอื่นเป็นชายาเอก หากนางชนะ เมืองจินจะตกเป็นของต้าโจวจ้าวตี้พลันปวดศีรษะขึ้นมาทันที หากแพ้จะต้องเสียเมืองจินแน่นอน หากชนะน้องสาวจะได้เป็นชายาอ๋องมันช่างไม่คุ้มเอาเสียเลยจ้าวเหลียนมองหน้ารัชทายาทนึกเสียใจภายหลังเสียจริง ๆ"องค์หญิงจ้าวเหลียนมิกล้ารึ" หลิวเหมียนเห็นฝ่ายตรงข้ามเงียบไปเลยถามขึ้น"ใครว่า เรากล้าเราตกลง" จ้าวเหลียนออกปากไปแล้วขุนนางแต่ละท่านต่างรอชมการแสดงครั้งนี้ องค์หญิงจ้าวเหลียนดีดพิณฉิน เพลงของนางเริ่มจากความอ่อนหวาน แสดงถึงความรักของหนุ่มสาวคู่หนึ่งที่รักกันมิได้เพราะครอบครัวกีดกัน รักระหว่างคนเร่ร่อนกับบุตรสาวขุนนางจะเป็นไปได้อย่างไร คนที่ฟังองค์หญิงจ้าวดีพิณจนจบต่างร้องไห้ไปกับความรักของทั้งสองคนเลือกผูกคอตายไปด้วยกัน ช่างเป็นรักที่นิรันดร์เสียจริง"เยี่ยมมาก" เหล่าขุนนางต่างเอ่ยชมไม่ขาดปากยิ่งทำให้จ้าวเหลียนได้ใจยิ่ง ว่านางจะต้องชนะหลิวเหมียน นางจะต้องได้เป็นชายาอ๋องหลิวเหมียนพลันยิ้มให้ทุกคน นางนั่งลงกรีดนิ้วลงไปในสายพิณ สายลมพัดกระทบหน้าของนาง หลิวเหมียนพลันรู้ว
หลิวเหมียนมัวยุ่งกับการขายครีมหน้าเด้งของนาง นางขายผ่านโรงหมอจางหยง กำไรนับหมื่นในแต่ละเดือน หลิวเหมียนพลันมีความสุขยิ่งนักแม่นมหวังก็พลันวิ่งวุ่นกับท่านหญิงน้อยทั้งสองในจวน"เหมียนเอ๋อร์นี่คือชุดของเจ้ากับเจ้าแฝดที่จะไปร่วมงานเลี้ยงต่อนรับคณะทูตแคว้นจ้าวช่วงเย็น" หลิวเหมียนพลันมองไหวอ๋องที่ยืนใกล้นางมาก"ท่านถอยออกไปเลยนะ ข้าเหม็น"เหตุใดนางถึงได้เหม็นกลิ่นตัวของไหวอ๋องเช่นนี้อวก !!! หลิวเหมียนพลันอาเจียนออกมา "ไปตามหมอหลวงมาเร็ว" เขารีบอุ้มนางไปที่เตียงใหญ่ทันทีหลิวเหมียนกำลังคิดว่ารอบเดือนของนางไม่มาสองเดือนแล้ว หรือว่านางจะตั้งครรภ์ ไหวอ๋องก็คิดเหมือนกับหลิวเหมียนไม่นานนักหมอหลวงก็พลันมาถึงตรวจชีพจรของหลิวเหมียนใบหน้าของท่านหมอมีรอยยิ้มเจือปนอยู่"ข้าน้อยขอแสดงความยินดีกับท่านอ๋องด้วย ชายาเอกมีชีพจรมงคลพ่ะย่ะค่ะ" หมอหลวงประสานมือคำนับไหวอ๋องดีใจจึงพูดไม่ออกวันนั้นไหวอ๋องตกรางวัลให้บ่าวในจวนทุกคนในจวนหมอหลวงก็เช่นกัน หลิวเหมียนพลันอึ้งงันไม่น้อย นางท้องแล้ว น่าจะประมาณสองเดือนกระมังในงานเลี้ยงต้อนรับคณะทูตแคว้นจ้าวจัดขึ้นช่วงเย็น หลิวเหมียนกับไหวอ๋องไปด้วยกัน สองแฝดไม่อยากไปร
ปีใหม่ผ่านพ้นไปหลิวเหมียนพลันแจกเงินซองแดงให้กับบ่าวทุกคนในจวนอ๋อง คนในจวนอ๋องมีร้อยกว่าชีวิต หลิวเหมียนช่างเป็นนายหญิงที่ดีเสียจริงยามนี้หิมะพลันตกโปรยปราย หลิวเหมียนในชุดผ้าคลุมสีดำ ใบหน้างามล้ำ พลันมองอาหารของร้านอันดับหนึ่ง กุ้งแช่น้ำปลา อีกหนึ่งเมนูที่หลิวเหมียนมอบให้จ้าวหยงจ้าวหยงพลันมองพี่สาวคนดีของเขา นางช่างเก่งเรื่องคิดสูตรอาหารเหลือเกิน"พี่หญิงช่างเก่งยิ่งนัก คิดสูตรอาหารให้ข้า" จ้าวหยงสั่งให้คนไปเตรียมกุ้งแช่น้ำปลามาให้หลิวเหมียนลองทาน ไม่นานนักสาวใช้ก็พลันยกถาดกุ้งแช่น้ำปลาเข้ามาทันทีที่หลิวเหมียนสบตากับสาวใช้นางต้องตกใจอย่างมาก สาวใช้นางนี้คล้ายอนุผินเจียวที่หายตัวไปเดือนก่อน "สาวใช้คนนี้ของเจ้า เจ้าไปเอานางมาจากไหน" เสี่ยวชีพลันตกใจมากไม่คิดว่านายหญิงจะถามหาที่มาที่ไปของนาง"นายหญิงบ่าวความจำเสื่อมอย่าไล่บ่าวไปเลยเจ้าค่ะ" เสี่ยวชีพลันคุกเข่าลง จ้าวหยงพลันมองเสี่ยวชี"พี่หญิง เสี่ยวชีโดนทำร้าย นางอยู่ในรถเข็นผักใบหน้าอาบไปด้วยเลือดเมื่อเดือนก่อน นางจำตัวเองไม่ได้ ข้าเลยเก็บนางไว้" ผินเจียวก็มาหลบร้านอาหารอันดับหนึ่ง ไหวอ๋องพลิกแผ่นดินหา ถึงหานางไม่เจอ"นางคืออนุของ
หลิวเหมียนพลันมองสถานที่แห่งนี้ ด้านหลังที่โอบล้อมไปด้วยไม้ไผ่ นางไม่คิดว่าจวนอ๋องจะมี บ่อน้ำพุร้อนยังไม่ทันที่นางจะถามหวังชาว่าเกิดอะไรขึ้นกับไหวอ๋อง หวังชาหายตัวไปก่อนเสียแล้ว"เหมียนเอ๋อร์ช่วยข้าด้วย" จู่ ๆ ไหวอ๋องโผล่ขึ้นมาจากน้ำพุ ร่างหนาพลันเปลือยกายด้านบน เขาสวมเพียงกางเกงชั้นในสีขาว หลิวเหมียนพลันมองห่อหมกขนาดใหญ่มารดามันเถอะ นางเลือดกำเดาไหลแล้ว ใบหน้าหลิวเหมียนร้อนผ่าว"ข้าโดนยาปลุกกำหนัด เจ้าช่วยข้าด้วย" ไหวอ๋องดึงนางเข้ามากอดพร้อมจุมพิต หลิวเหมียนพลันเบิกดวงตาอย่างกว้าง นางตกใจ นางจะหย่ากับเขาแล้ว เขาจะมาทำเช่นนี้กับนางมิได้ไหวอ๋องจูบอย่างดูดดื่มจนนางแทบจะหายใจไม่ออก อีกทั้งปากยังบวมอีกต่างหาก"ข้าไม่ยอม ข้าจะหย่าท่าน" "ข้ารักเจ้า ทุกทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านมา เป็นข้าที่หูเบา เป็นข้าที่เชื่อคนอื่นมิได้ใส่ใจเจ้า" ไหวอ๋องพูดออกมาจากใจจริง ในวันที่เขารู้เรื่องว่านางเป็นคนช่วยเขาจากการจมน้ำเพราะเขาเป็นตะคริว นางช่วยขึ้นมาแต่ถูกลีเฟยสวมรอยว่าเป็นคนช่วยเขาไว้หลิวเหมียนเหมือนจะใจอ่อนเคลิบเคลิ้มไปกับเขา ร่างบางจุมพิตท่ามกลางบ่อน้ำพุร้อน อาภรณ์ของหญิงสาวปลดออกจนหมด หลิวเหมียนหลั
ข่าวลือในเมืองหลวง ว่าหลิวเหมียนปีนเตียงไหวอ๋องนั้นไม่จริง เช้าของวันนี้ในตลาดต่างเห็นใจหลิวเหมียนที่โดนกระทำว่าปีนเตียงไหวอ๋อง บัดนี้ความจริงพลันปรากฏแล้วว่า เป็นฝีมือคุณหนูรอง หกปีเต็ม ๆ ที่หลิวเหมียนต้องแบกรับความอัปยศนี้ข่าวนี้ทราบไปถึงเหมยไทเฮา พระนางทรงพระราชทานผ้าแพร ทองคำร้อยชั่ง มอบเงินให้หนึ่งพันตำลึงทองปลอบขวัญหลิวเหมียน ให้เสี่ยวเต่าประกาศราชโองการหลิวเหมียนพลันดีใจอย่างมาก นางได้รับความเมตตาจากองค์ไทเฮา หลิวเหมียนมอบก้อนทองให้เสี่ยวเต่า "ขอบคุณชายารอง" ยังมอบตลับยาหน้าเด้งฝากให้เหมยไทเฮาด้วยเรือนหลังเล็กของหลิวเหมียนเต็มไปด้วยเงินก้อนกับทองคำนางมีความสุขมากไหวอ๋องพลันมาหานางที่เรือน มีเรื่องราวหลายอย่างที่เขาอยากจะขอโทษนาง"อาเหมียนข้าขอโทษ" ในตอนนั้นเมื่อหกปีที่แล้ว เขาฟื้นขึ้นมา เขาพบว่านางนอนอยู่ข้างกายเขา ไหวอ๋องพลันตบหน้าหลิวเหมียนอย่างแรง ใช่เขารังเกียจนางมากตอนนั้น จวบจนมีราชโองการให้นางเป็นชายารอง..."อดีตไม่ต้องพูดถึง ถึงอย่างไรข้ากับท่านก็ต้องหย่ากันอยู่แล้วในอีกไม่กี่วันข้างหน้า"หลิวเหมียนพลันยิ้มหน้าบาน ในเมื่อนางล้างมลทินให้ตัวเองเรียบร้อยแล้ว นางควรจะไ
"นั่นมันเสียงอะไรหลิวฮูหยิน" ฮูหยินท่านขุนนางคนหนึ่งเอ่ยขึ้นเมื่อเดินผ่านเรือนรับ หลิวฮูหยินอาสาพาฮูหยินคนอื่นเดินเล่นชมสวนในจวนงานเลี้ยง"เจ้าเข้าไปดูสิ" ใบหน้าของหลิวฮูหยินแดงก่ำ สาวใช้คนนั้นพลันเปิดประตูเข้าไปอย่างช้า ๆ พอนางเข้าไป นางวิ่งหน้าตื่นออกมา"ฮูหยิน เป็นคุณหนูรองกับคนเลี้ยงม้าเจ้าค่ะ" ทุกสายตาต่างอึ้งงัน อีกทั้งตกใจอย่างมาก เหมยซื่อสะใภ้บ้านรองพลันตกใจนางพลันเข้าไปในห้องนั้นพบว่าเป็นบุตรสาวของนางที่นอนอยู่กับบุรุษเลี้ยงม้า"ท่านแม่" หลิวซูซูพลันอึ้งงัน นางมองมารดาอีกทั้งหน้าประตูยังเห็นฮูหยินอีกหลายคน"นี่เจ้า" เหมยซื่อพูดไม่ออก เหตุใดถึงเป็นเช่นนี้ หลิวซูซูจำได้ว่านางเข้ามาในเรือนรับรอง จากนั้นเห็นอาเวย ชายเลี้ยงม้าในจวน อาเวยพลันมองคุณหนูรองที่เป็นของเขาแล้ว"ฮูหยินรองข้ากับคุณหนูรองรักกันนะขอรับ" อาเวยพลันเอ่ยออกมา ใช่เขารักนางมากจริง ๆ ยอมทำทุกอย่าง แม้จะอยู่ในแผนการผู้อื่นก็ตาม ในจวนนี้มีเพียงหลิวซูซูดีกับเขา"เจ้าสารเลว ข้าจะตีเจ้า" หลิวซูซูพลันขาดสติ ฮูหยินบางท่านทนดูไม่ได้จึงได้ขอตัวกลับจวนกลางคัน ชายาเอกเยียนอ๋อง ลู่อ๋อง เจาอ๋อง ทนดูเรื่องบัดสีมิได้เหมือนกัน จ
หลิวเหมียนกับสองแฝดตั้งใจว่าเช้านี้พวกนางสามคนแม่ลูกจะออกไปตัดชุด เพื่อไปร่วมงานเลี้ยงของฮูหยินผู้เฒ่าหลิวแต่ทว่าสาวใช้จากเรือนไหวอ๋องถือชุดที่ตัดเรียบร้อยมามอบให้สามคนแม่ลูก "ไหวอ๋องให้บ่าวนำชุดมามอบให้พวกท่านทั้งสามคนเจ้าค่ะ" หลิวเหมียนพยักหน้าพลันให้แม่นมหวังรับชุดไว้ สาวใช้ทั้งสองคนของตัวลาลายผ้าปักชั้นดี งานฝีมือนี้คงจะมาจากวังหลวงเป็นแน่แท้ ผ้าต่วนสีชมพูลายวิหคเหินฟ้า ทั้งสามชุดเหมือนกันหมด ใต้ชุดนั้นมีเครื่องประดับปิ่นซ่อนไว้ หลิวเหมียนพลันคิดได้ว่าไหวอ๋องมิอยากให้เครื่องประดับนางโดยตรง เพราะเขินอายถึงอย่างไรนางก็จะหย่ากับเขาอยู่ดี แม้เขาจะดีกับเจ้าแฝดก็ตาม สาเหตุเพราะนางมิได้รักเขา แม้เขาจะหล่อก็เถอะไหวอ๋องพลันให้อาหารปลาเสร็จพลันมองสาวใช้เข้ามารายงาน"เรียบร้อยเจ้าค่ะ""นางว่าอย่างไรบ้าง""ชายารองทรงมิได้เอ่ยอันใดออกมาเจ้าค่ะ" ไหวอ๋องโบกมือไล่สาวใช้ให้ไปทำงานต่อ...เรือนของชายาเอก ยามนี้ลีเฟยพลันวิตกเรื่องของอนุผินหยางอ๋องส่งข่าวว่ายังไม่พบร่างของผินเจียว นังสารเลวนั่นมันอยู่ไหนกันแน่ แม้จะพลิกแผ่นดินหาต้องหานังสารเลวนั่นให้เจอ "ชายาเอกบ่าวได้ยินว่าไหวอ๋องส่งชุดร่วมงา