เช้าวันถัดมาหิมะตกเมื่อคืนทำให้พื้นดินเต็มไปด้วยหิมะ หลิวเหมียนตั้งใจจะนำยาหน้าเด้งไปส่งโรงหมอสกุลจาง นางให้แม่นมหวังพลันรับปากว่าจะดูแลสองแฝดให้ดี มิให้พวกนางออกไปเพ่นพ่านที่ไหนอีก
หลิวเหมียนพลันถือตะกร้าออกไปทางประตูหลังจวน
สองแฝดตื่นมาไม่เห็นมารดา มีเพียงแม่นมหวังนำข้าวต้มร้อน ๆ มาให้พวกนางสองคนรับประทาน
กลิ่นหอมมาก สองแฝดกินอย่างช้า ๆ จนหใดชาม ดื่มน้ำตามลงไป
"เรือนหลังนี้แหละท่านนักพรต" ลีเฟยพาคนกลุ่มใหญ่มาที่เรือนของชายารองอย่างหลิวเหมียน สาวใช้เสี่ยวจูกับเสี่ยวหงเดินตามหลังเจ้านาย
"ชายารองออกมาเดี๋ยวนี้นะ" ลีเฟยพลันตะโกนขึ้นมา เสียงตะโกนนี้ทำให้คนทั้งสามออกมาหน้าเรือน เจ้าแฝดรีบหลบที่หลังแม่นมหวัง
แม่นมหวังคิดในใจว่าแย่แล้ว เหตุใดพระชายาเอกต้องนำนักพรตมาที่เรือนด้วย
"เรือนนี้มีไอปีศาจ ต้องรีบเผาเรือนนี้เสีย" นักพรตเต๋าพลันเอ่ยขึ้น แน่นอนว่าได้รับค่าจ้างแล้วต้องทำให้คุ้มเงินเสียหน่อย ใบหน้าชายาเอกพลันยิ้มระรื่น
"อย่านะ อย่าทำเช่นนั้น" แม่นมหวังกับสองแฝดขัดขวางอย่างเต็มที
พระชายารองไปนานแล้วเหตุใดยังไม่รีบกลับมาอีก แม่นมหวังเกรงว่าเรือนแห่งนี้จะเป็นตอตะโกแล้ว
ลีเฟยพลันมองแปลงผัก แปลงดอกไม้ที่งดงามมันขัดหูขัดตานัก
"เสี่ยวจู เสี่ยวหง ทำลายแปลงผักพวกนี้เสีย" สองสาวใช้รับคำรีบเหยียบย่ำแปลงผักกับสวนดอกไม้พวกนี้ทันที
ใบหน้างามพลันยิ้มหวาน "เผาได้" นางสั่งนักพรตอย่างเลือดเย็น
ตุบ !!!
ร่างนักพรตถึงกับปลิวลงพื้นเมื่อหลิวเหมียนกระโดดถีบอย่างไม่เกรงกลัว
"โอ๊ย!!!" นักพรตถึงกับร้องอย่างเจ็บปวด ลีเฟยพลันมองหลิวเหมียนในชุดสีขาว นางหันมามองลีเฟย
"เจ้าใช่ไหมที่คิดจะให้ไอ้แก่นี้เผาเรือนข้า" หลิวเหมียนถีบท้องลีเฟยจนนางปลิวไปอีกทาง
"พระชายาเอก" สองสาวใช้พลันตกใจมาก สายตาของหลิวเหมียนมองแปลงผักสวนดอกไม้ถูกทำลาย
"พวกเจ้าทำลายแปลงผักของข้า" หลิวเหมียนไม่รอช้าหยิบไม้ของนักพรตตีที่สองสาวใช้และพระชายาเอกจนเกิดเสียงกรีดร้องขึ้นมา
นางยังหันไปตีนักพรตเฒ่าที่คิดจะเผาเรือนของนาง
"หยุดนะ" หลิวเหมียนหยุดมือพลันไปมองเจ้าอ๋องสมองสุนัขเดินมากกับลูกสมุนของเขา
"ท่านอ๋องช่วยข้าด้วย" ชายาเอกมีสภาพไม่ต่างจากขอทานผมเผ้ารุงรังใบหน้าเขียวช้ำ
ไหวอ๋องไม่คิดว่าเขาพักผ่อนในเรือนจะได้ยินสาวใช้มาตามเรื่องชายาเอกนำนักพรตมา เขาตั้งใจจะมาช่วยสองแฝด เนื่องจากว่าหวังชารายงานว่าสองแฝดเป็นลูกเขาจริง หลังจากหลิวเหมียนแต่งเข้ามานางก็เก็บตัวเงียบ อีกทั้งโดนชายาเอกรังแกสารพัด เหตุนี้เขาจึงสงสารสองแฝดไม่อยากให้ชายาเอกรังแกอีก
สาวใช้ที่ตามมารีบประคองชายาเอกขึ้นมาทันที
"ท่านอ๋อง ชายาเอกคิดว่าข้าเป็นมารร้ายเผาเรือนเหยียบย่ำแปลงผักของข้า ข้าต้องปกป้องตัวเอง อีกทั้งนำคนผู้นี้ไปศาลาอาญา" หลิวเหมียนไม่ยอมให้เรื่องนี้จบลงโดยง่าย
"ท่านอ๋อง นางเป็นปีศาจจริง ๆ นะเจ้าคะ" ลีเฟยพลันป้องไหวอ๋อง
"หุบปากของเจ้าเสีย" ไหวอ๋องหันไปตะคอกใส่ลีเฟย จนนางตกใจเหตุใดท่านอ๋องถึงทำกับนางเช่นนี้
"นำตัวชายผู้นี้ไปรับโทษที่ศาลอาญา อีกทั้งนำผ้าแพรบรรณาการแคว้นฉินมาให้พระชายารองด้วย" ไหวอ๋องพลันเอ่ยขึ้นทุกคนตกใจ แม่แต่แม่นมหวังกับชายารองยังอึ้งงัน
"ท่านอ๋อง" ชายาเอกริษยาทนไม่ไหว ลีเฟยไม่คิดว่าจะเป็นเช่นนี้ นางคาดไม่ถึงจริง ๆ ว่าหกปีมานี้ไหวอ๋องจะเปลี่ยนไป อนุผินพลันมองเหตุการณ์ในจวนอ๋อง นางต้องรายงานพระสนมทุกเรื่อง
ชายาเอกเดินกระทืบเท้าด้วยใบหน้าและร่างกายปวดระบมพร้อมกับสาวใช้ ส่วนนักพรตถูกนำตัวไปศาลอาญา ศาลาอาญาขอบคุณไหวอ๋องที่ตามหานักโทษให้เขาเพราะนักพรตคนนี้ต้มตุ๋นชาวบ้านไปทั่ว...
ในเรือนชายารองยามนี้ สาวใช้ต่างนำผ้าแพรบรรณาการมาให้นาง อีกทั้งเครื่องประดับของล้ำค่ามากมาย
"พวกเจ้าวางไว้แล้วรีบออกไปเถอะ" สาวใช้ยอบกายคำนับพระชายารองแล้วออกไป ดูท่าอนาคตของพระชายารองคงจะสดใสรุ่งโรจน์น่าดู
"พระชายาท่านอ๋องทรงห่วงใยท่าน" แม่นมหวังเอ่ยอย่างดวงตาทอประกายดีใจแทนเจ้านาย
"ห่วงใยกับผีสิ แม่นมหวังวันพรุ่งข้าจะนำของพวกนี้ไปขายเป็นเงิน"
"หา!!!" แม่นมหวังอ้าปากค้าง สองแฝดเห็นด้วยกับมารดา
"วันนี้ชายาเอกก่อกวนพวกเรา เกรงว่านางต้องหาทางเอาคืนพวกเราแน่ วันพรุ่งพวกเราต้องไปไหว้พระนำของไปขาย หากข้าไปคนเดียวไม่วางใจ คนเช่นนางทำได้ทุกอย่าง แปลงผักข้า สวนดอกไม้โดนเหยียบย่ำ" คิดแล้วโมโหสุด ๆ
อีกด้านหนึ่ง ชายาเอกทำแผลทั่วตัวและใบหน้า นางเกลียดชายารองเข้าไส้
"ข้าจะกลับจวนลี ข้าจะให้ท่านพ่อจัดการเรื่องนี้" สาวใช้รีบหาหมวกสีขาวบางมาให้เจ้านายคลุมหน้าทันที
เรือนไหวอ๋อง
ชายหนุ่มพลันให้อาหารปลาอย่างสบายใจ เขาไม่คิดว่าชายาเอกจะหูเบานำนักพรตต้มตุ๋นเข้ามาในจวน ลีเฟยทำไมเป็นคนเช่นนี้
"ท่านอ๋อง ชายาเอกกลับบ้านเดิม"
"ช่างนางเถอะ ให้สงบจิตใจบ้าง"
"ชายารองอยู่ในเรือน"
ตกเย็นไหวอ๋องสั่งให้โรงครัวทำอาหารมาส่งที่เรือนของชายารอง เป็นอาหารชั้นดี หลิวเหมียนกับแม่นมหวังพลันตกใจยิ่งนักหมูอบน้ำผึ้ง ขนมดอกกุ้ย สาวใช้นำมาส่งแล้วรีบกลับไป หลิวเหมียนรีบใช้เข็มจิ้มดู พบว่าไม่มียาพิษค่อยยังชั่วหน่อย"โชคดีไม่มียาพิษ" เจ้าอ๋องเถื่อนสงสัยสมองมีปัญหานึกจะมาทำดีกับนางและลูก"หรือท่านอ๋องจะคิดได้" แม่นมหวัง คนเช่นนั้นไม่มีทางคิดได้"ท่านแม่ข้ากินได้รึไม่" นางมองหน้าเจ้าแฝด ขนมในวังพวกนี้ไม่เคยกินกระมัง"กินเถอะ" สองแฝดรีบหยิบขนมมาเคี้ยวตุ้ย ๆ อย่างอร่อยเรือนไหวอ๋องสาวใช้เข้ามารายงานว่าชายารองมิได้ปฏิเสธอาหารที่มอบให้ ไหวอ๋องพอใจยิ่งนัก มีสาวใช้มารายงานว่าชายาจะพักอยู่จวนลีวันพรุ่งค่อยกลับมาให้ลีเฟยได้สงบจิตใจบ้างก็ดี ไหวอ๋องคิดเช่นนั้น "ท่านอ๋องอนุผินขอเข้าพบขอรับ" บ่าวเฝ้าประตูพลันรายงาน ไหวอ๋องพลันขมวดคิ้ว เหตุใดนางจะขอพบเขา ไหวอ๋องอนุญาตไม่นานนักร่างบางในอาภรณ์หรูหราอบไปด้วยกลิ่นเครื่องหอมพลันเข้ามาพร้อมน้ำแกง"น้ำแกงรังนกเจ้าค่ะ บ่าวเคี่ยวมาให้ท่าน""เอาวางไว้แล้วออกไปเถอะ" ผินเจียวพลันมองไหวอ๋องไล่นาง กระนั้นนางทำได้เพียงวางไว้แล้วรีบออกไปหวังชารู้หน้าที่ค
ลีเฟยใช้ผ้าคลุมหน้าขึ้นไปบนชั้นสองร้านน้ำชาอันดับหนึ่ง นางบอกเสี่ยวเอ้อร์ว่ามาหานายท่าน เสี่ยวเอ้อร์รู้ความหมายหยางอ๋องที่กำลังนับเงินในห้องพำนักได้ยินเสี่ยวเอ้อร์มารายงานว่ามีสาวงามมาหาเขาเขาพลันนึกออกแล้วเป็นลีเฟย "พานางมาที่ห้องนี้" หยางอ๋องรีบเก็บเงิน ห้องพำนักห้องนี้เป็นห้องนอนของเขาระหว่างวัน กิจการนี้เป็นของพระมารดาเขา กระนั้นหยางอ๋องจึงเป็นผู้อยู่เบื้องหลังโรงน้ำชาแห่งนี้ลีเฟยพลันเดินตามหลังเสี่ยวเอ้อร์มาที่ห้องของหยางอ๋องชั้นบนสุด"คารวะหยางอ๋อง""น้องสะใภ้เชิญนั่ง" ลีเฟยพลันนั่งลงหยางอ๋องไล่บ่าวออกไป กระนั้นรินน้ำชาให้นาง"ข้าทำเองได้เจ้าค่ะ" นางตั้งใจจะมาปรึกษาเรื่องไหวอ๋อง"หยางอ๋อง ข้าตั้งใจจะมาปรึกษาเรื่องไหวอ๋องเจ้าค่ะ" นางมาเพราะเรื่องนี้ ใบหน้าของหยางอ๋องพลันแดงก่ำลีเฟยคิดว่าเหล่าองค์ชายสนิทกันมาก กระนั้นนางมิได้สังเกตเลยว่า ยามที่เล่าเรื่องของไหวอ๋อง หยางอ๋องมีท่าทีเช่นไร"ลีเฟย ข้านึกว่าเจ้าจะฉลาด" ลีเฟยตกใจที่หยางอ๋องเอ่ยเช่นนี้ นางกลัวเขามาก"หยางอ๋องข้าขอตัวเจ้าค่ะ" นางไม่ควรมาพบเขาสองต่อสอง ทันทีที่นางลุกขึ้นหยางอ๋องก็ขวางหน้าประตูไว้"ท่านจะทำอะไร ข้าคือน้อ
"ข้าสามารถรักษาเขาได้" ทุกสายตาหันไปมองสตรีชุดขาวอรกครั้ง หมอเหอตงพลันมองสตรีชุดเขา เขารักษาไม่ได้แต่สตรีนางนี้มาจากไหนถึงจะรักษาจ้าวซูได้ "หากเจ้าทำได้ ข้าจะคุกเข่าให้ท่านและเรียกท่านว่าพี่หญิง อีกทั้งมอบเงินให้ท่านห้าร้อยตำลึง" จ้าวหยงพลันยื่นข้อเสนอ "ตกลง" หลิวเหมียนรับปาก "หากท่านทำไม่ได้จงไสหัวไปอย่าได้มาร้านอาหารของข้าเป็นอันขาด" จ้าวหยงพลันเอ่ยขึ้นดวงตาของเขามองนางอย่างนึกขำ แม้แต่หมอเหอตงยังทำไม่ได้ แล้วนางเป็นใครจะทำได้ "ได้" หลิวเหมียนพลันสั่งให้คนนำตัวจ้าวซูไปที่เตียงแล้วไล่ทุกคนออกไปให้หมด นางในยามนี้ดึงเครื่องมืออกจากกระเป๋าวิเศษ ง้างปลาของตาแก่นี้ออกจากนั้นให้ที่คีบคีบเอากระดูกที่อยู่ลึก ๆ ออกมา หญิงสาวทำเสร็จแล้ว จ้าวซูพลันได้สติกลับมาพลันมองคนที่ช่วยชีวิตเขาไว้ "หมอเทวดา ขอบคุณท่านมากที่ช่วยชีวิตข้าไว้" เสียงนี้ทำให้จ้าวหยงรู้ว่าบิดาฟื้นแล้วจึงผลักประตูเข้ามา "ท่านพ่อฟื้นแล้ว" จ้าวหยงดีใจมากที่บิดายังไม่ตาย เขามองสตรีชุดขาว "คารวะพี่หญิงขอรับ" จ้าวหยงทำตามวาจาที่ก
ภายในรถม้าหลังจากช่วยคนผู้นั้นแล้ว หลิวเหมียนกับลูก ๆ และแม่นมหวังนั่งชมทิวทัศน์กันอย่างมีความสุข เจ้าแฝดไม่คิดว่ามารดาจะเก่งช่วยคนได้ ท่านแม่เปลี่ยนไปแล้วจริง ๆ "พระชายาท่านมีความสามารถยิ่งนัก" แม่นมหวังชมเจ้านายของนาง หลิวเหมียนพลันยิ้มอย่างอ่อนโยน นางไม่ใช่หลิวเหมียนคนเดิม นางคือคนใหม่แน่นอนว่าชีวิตพวกนางหลังจากนี้จะดีขึ้นกว่าเดิม "พระชายามีคนรอบทำร้ายพวกเรา" สารถีพลันเอ่ยขึ้น เพราะมีลูกธนูปักที่รถม้า "แม่นมหวังกับเจ้าแฝดหมอบลงไป" หลิวเหมียนสั่งพวกเขาย่อมทำตาม นางหยิบเข็มพิษออกมาโผล่หน้าออกไปทางหน้าต่างสาดเข็มพิษใส่คนร้ายจนพวกมันร้องอย่างโหยหวน ส่วนสารถีรีบควบม้าอย่างไว จนพวกมันตามไม่ทัน หลิวเหมียนขมวดคิ้วเป็นปมผู้ใดกันต้องการสังหารพวกนาง "ท่านแม่เก่งที่สุด" สองแฝดกอดมารดา "นับแต่นี้จะไม่มีผู้ใดมารังแกพวกเราได้" แม่นมหวังพลันถอนหายใจ เมื่อกี้นางเกือบตายโชคดีที่พระชายารองมีฝีมือสาดเข็มพิษใส่พวกมันจนพวกมันร้องโหวยหวน รถม้ามุ่งหน้าเข้ามาในเมืองหลวงแล้ว หลิวเหมียนสั่งให้ลุงสารถีมุ่งห
"ท่านอ๋องกินกุ้งไหมเจ้าคะ ข้าอนุแกะให้" ผินเจียวรู้สึกไม่ถูกชะตากับชายาเอกคนนี้เหลือเกิน "ท่านอ๋องกินเนื้อดีกว่าเจ้าคะ ข้าจะป้อนท่าน" ชายาเอกไม่ยอมแพ้นังอนุชั้นต่ำอย่างผินเจียว ไม่คิดเลยว่าอ้ายกุ้ยเฟยจะส่งนางกำนัลมาเป็นอนุไหวอ๋อง แม้ร่างกายลีเฟยจะระบม นางก็ยังคงไหว เพื่อให้ไหวอ๋องกลับมารักนางอีกครั้ง "พอได้แล้ว พวกเจ้าทั้งสองออกไปให้หมดเลย ไม่ต้องเข้ามาในเรือนข้า" ในที่สุดไหวอ๋องก็ระเบิดอารมณ์ออกมา ชายาเอกอึ้งงัน ลีเฟยไม่รู้ว่าไหวอ๋องเป็นคนเย็นชากับนางเมื่อใดกัน นางเฝ้ารอเขากลับมาตั้งหกปี แต่สิ่งสุดท้ายคือความไม่ใส่ใจของเขามอบให้นาง เขาเปลี่ยนไปเมื่อใดกัน เขาไม่มีพื้นที่ในใจให้นางแล้ว ไหวอ๋องพลันลุกขึ้น "ไสหัวไป!!!" หนึ่งชายาหนึ่งอนุสาวเท้าออกจากเรือนไหวอ๋องแทบไม่ทันเลยทีเดียว แน่นอนว่ามิใช่เขาไร้รักลีเฟย แต่เป็นลีเฟยโกหกเขาแต่แรก นางมิได้ช่วยเขาในครั้งนั้น แต่เป็นหลิวเหมียนที่ช่วยเขา เรื่องนี้เขาให้คนไปสืบความก่อนจะกลับมา ไหวอ๋องตั้งใจจะทำดีกับหลิวเหมียนให้มากเพรา
เจ้าคนลามก !!!หลิวเหมียนรับชุดแล้วรุดไปที่เรือนของนางทันที "หวังชา" ไหวอ๋องเรียกหวังชาองครักษ์เงาของเขา หวังชาปรากฏตัวทันที "เจ้าจงไปสืบความว่าวันนี้เกิดเรื่องอะไรที่ร้านอาหารอันดับหนึ่งภายในครึ่งชั่วยามข้าต้องได้คำตอบ" ไหวอ๋องพลันมองหวังชารับคำแล้วหายไปประดุจสายลม มือหนาใหญ่พลันยกจอกน้ำชาขึ้นมาจิบอย่างอารมณ์ดี ไหวอ๋องคิดว่าชายารองมีสิ่งปิดบังเขาอยู่...เรือนหลังเล็กของชายารอง หลิวเหมียนเดินเข้ามามอบชุดให้แม่นมหวังไปเก็บ แม่นมหวังถามถึงเรื่องวันนี้ "พวกนางไม่กล้าที่จะเล่าความจริงหรอกนะแม่นมหวัง นางกล้าหาข้าว่าท้องกับชายอื่นสวมหมวกให้ไหวอ๋อง แม่นมลองคิดดูหากเอ่ยเช่นนี้ต่อหน้าไหวอ๋อง คิดรึว่าพวกนางจะรอด เท่ากับว่าเป็นการดูหมิ่นไหวอ๋อง" หลิวเหมียนคิดไว้แต่แรกแล้ว พวกนางไม่พูดหรอก ช่างสมน้ำหน้าจริง ๆ ใบหน้าพวกนางปูดบวมคงจะไปงานเลี้ยงวังหลวงไม่ได้กระมัง งานเลี้ยงถูกจัดขึ้นในตอนเช้า ไหวอ๋องต้องพาชายาเอกและชายารองไปร่วมงานเลี้ยงครั้งนี้ด้วย ในรถม้ามีชายาเอกนั่งฝั่งเดียวกับไหวอ๋อง ลีเฟยสวมชุดสีชมพูลายดอกไห่ถัง ส่วนหลิวเหมียนสวมชุดสี
คนกลุ่มใหญ่มุ่งหน้าไปทางตำหนักรับรองทันที หลิวฮูหยินพลันมองหาชายารองไหวอ๋อง แต่ทว่าไม่เจอ นางพลันมองหน้าแม่ทัพหลิวชาง "ไม่มีทางเป็นบุตรสาวของเราเป็นอันขาด" แม้จะตัดขาดกับนางไปแล้ว แต่ทว่าก็ยังมีความรักให้นางเสมอ "เหตุใดไม่เห็นชายารองไหวอ๋อง" หลิวซูซูพลันเอ่ยขึ้น ทุกสายตามองไปที่ไหวอ๋องกับชายาเอก เหมยซื่อสะใภ้รองตระกูลหลิวภรรยาเอกหลิวเจาขุนนางผู้ตรวจการพลันมองบุตรสาว นางคิดว่าบุตรสาวต้องรู้อะไรสักอย่าง คนกลุ่มใหญ่มุ่งหน้าไปที่เรือนรับรอง ฮ่องเต้กวนเหิงพลันวิตกอย่างมากหากเป็นชายารองไหวอ๋อง เขาคงจะต้องสั่งประหารนางโทษฐานทำให้ราชวงศ์เสื่อมเสียชื่อเสียง ชายาเอกของเยียนอ๋อง ลู่อ๋อง เจาอ๋อง พลันดีใจไม่น้อยหากเป็นหลิวเหมียนจริง ๆ เพราะพวกนางไม่ได้ชำระแค้นหลิวเหมียนที่ทำร้ายพวกนาง หากหลิวเหมียนเป็นหญิงงามเมือง เรื่องนี้ถือว่าโชคเข้าข้างพวกนางโดยไม่ต้องทำอันใดเลย หยางอ๋องพลันกระตุกยิ้มให้เป็นชายารองไหวอ๋อง เขาจะสมน้ำหน้าไหวอ๋อง เพราะแสดงให้เห็นว่าไหวอ๋องไร้น้ำยาเรื่องบนเตียง ชายารองถึงได้ทำเรื่องน่าอายเช่นนี้ เยียนอ๋อ
"ในเมื่อทุกอย่างเป็นปกติแล้ว ทุกคนเข้าไปในงานเลี้ยงกันดีกว่า" ชิงฮองเฮาเป็นคนเอ่ยขึ้น เพื่อทำลายบรรยากาศที่ตึงเครียดเช่นนี้ "ช้าก่อน จะได้อย่างไร เมื่อครูเป็นนางกำนัลขององค์หญิงหกก่อกวนงานเลี้ยงของไหวอ๋อง ที่สู้รบทำศึกสงครามมานานปี ช่างขายหน้ายิ่งนัก เราว่า นางกำนัลเป็นเช่นนี้ เจ้านายมิอบรมให้ดี เราว่าลงโทษองค์หญิงหกขังให้หอพระธรรมคัดคำภีร์สตรีสอนหญิงเสียดีกว่า" ไม่คิดเลยว่าเหมยไทเฮาจะเอ่ยเช่นนี้ กวนอิงแทบจะเป็นลมจะเป็นไปได้อย่างไร ที่เสด็จย่าจะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับนังสารเลวหลิวเหมียน ชิงฮองเฮาก็ตกใจเช่นกัน เหตุใดถึงเป็นเช่นนี้ไปได้เล่า "เสด็จแม่ไม่นะเพคะ" ชิงฮองเฮาพลันมองกวนอิงด้วยความสงสาร "ขายหน้าเหล่าขุนนาง และทุกคนจะปล่อยไปได้อย่างไร เจ้ายังไม่รีบไปอีก" เหมยไทเฮาพลันมองไปที่กวนอิง "เพคะเสด็จย่า" กวนอิงและนางกำนัลพลันรีบไปทันที เหตุใดเหตุการณ์ถึงเป็นเช่นนี้ไปได้ หลิวซูซูพลันตกใจไม่น้อย นังสารเลวนั่นกลายเป็นคนโปรดของไทเฮาได้อย่างไรกัน ไม่เพียงแต่หลิวซูซูคิด ไหวอ๋องก็พลันคิดไปได้ เสด็จย่าไม่เคยโปรดผู้ใด ทำไมโปรดปร
"ฝ่าบาทชายาเอกรัชทายาททรงนั่งคุกเข่ามาหลายวันแล้วนะพ่ะย่ะค่ะ" เกากงกงเห็นแก่ครั้งก่อนที่หลิวเหมียนเคยมีน้ำใจให้เขา กระนั้นเขาจึงรายงานต่อฝ่าบาททุก ๆ ชั่วยาม"ปล่อยนางเถอะ ครั้งนี้เราช่วยอะไรนางมิได้จริง ๆ" กวนเหิงจะทำอย่างไรได้ ในเมื่อรัชทายาททำผิดโทษก็ไม่ต่างจากการลงโทษประชาชน โอรสสวรรค์ทำผิดต้องรับโทษเช่นกัน จะอยู่เหนื่อยกฎหมายได้อย่างไร เจ้าไปฆ่าเขา เขาก็ต้องฆ่าเจ้า มันก็สมควรแล้ว หากมีการให้ท้ายคนใหญ่คนโต บ้านเมืองจะน่าอยู่ได้อย่างไร กฎหมายจะมีไว้ทำไม หากทำผิดไม่ได้รับโทษกวนเหิงพลันถอนหายใจอย่างเหนื่อย อีกทั้งยังไอเป็นเลือด เกากงกงพลันรีบหายาให้ฝ่าบาททันมีหลิวเหมียนพลันมีของวิเศษติดตัวมา แน่นอนว่านางดื่มน้ำอุ่นตลอด อีกทั้งกินอาหารในของวิเศษ นางมิได้โง่นะ ใบหน้างามเผยอยิ้ม ไม่ลืมทาสีผึ้งเพื่อทำให้ปากซีด นางแต่งหน้าให้ป่วยด้วยเครื่องสำอางสมัยใหม่ยามเช้าของวันถัดมาหิมะตกลงมาอย่างหนัก เกากงกงพบว่าชายาเอกรัชทายาทพลันได้หายไปแล้ว หรือนางจะทำใจมิได้ ช่างเถอะก็ดีเหมือนกัน นางจะมิได้เห็นรัชทายาทในสภาพที่น่าเวทนากวนเหิงนั่งบนบัลลังก์ทองพลันมองหยางอ๋อง เยียนอ๋อง ลู่อ๋อง เจาอ๋อง และเหล่าข
จวนอ๋องหลิวเหมียนมาถึงห้องนางนอนอย่างสบายใจ นางเหนื่อยมาทั้งวัน ไหวอ๋องจุมพิตที่หน้าผากงาม เรื่องในวันนี้หยางอ๋องกับชิงฮองเฮาต้องไม่พอใจเขาอย่างแน่นอนแม้ไหวอ๋องรับตำแหน่งรัชทายาทแล้ว แต่ทว่าเขาก็ยังคงอยู่ในตำหนักอ๋องตามเดิมมิได้ย้ายไปตำหนักใหม่ เขายังไม่ประกาศเรื่องตั้งครรภ์ของหลิวเหมียนออกไปเกรงว่าจะไม่เป็นผลดีกับนางอีกอย่างหยางอ๋องคงจะไม่หยุดเป็นแน่แท้คงต้องคิดหาวิธีแย่งตำแหน่งรัชทายาทกับเขาเป็นแน่นอนหลิวเหมียนพลันมองหน้าไหวอ๋อง เขาคิดอันใดอยู่ "ท่านอ๋องคิดอะไรอยู่เจ้าคะ" นางนำน้ำแกงรังนกมามอบให้เขา เพราะเห็นเขาอยู่ห้องหนังสือทั้งวัน"อาเหมียน ข้ากำลังคิดว่าหยางอ๋องคงไม่หยุดนิ่งแน่นอน เพราะตำแหน่งรัชทายาทเป็นของเขา แต่ทว่าบัดนี้เสด็จพ่อมอบให้ข้า ข้าเกรงว่าเขาจะต้องมีแผนร้าย อีกทั้งได้ยินมาว่า เขาตีสนิทกับรัชทายาทจ้าวตี้เมื่อหลายวันก่อนนี้" ที่แท้ท่านอ๋องของนางกังวลเรื่องนี้เอง"ท่านอ๋องเอาอย่างนี้ดีรึไม่ ส่งคนไปซุ่มดูรัชทายาทจ้าวตี้กับหยางอ๋องดีกว่า หากพวกเขามีแผนการอะไร พวกเราจะได้รับมือง่าย" หลิวเหมียนพลันแนะนำ"ดีเหมือนกันข้าก็คิดเช่นนั้น" กระนั้นไหวอ๋องได้ส่งสาวใช้ยอดฝีมองสอ
หลิวเหมียนพลันยิ้มอย่างเยาะเย้ย ไหวอ๋องไม่คิดว่านางจะฉลาดเพียงนี้ แต่ทว่าหากนางแพ้ เขาจะต้องแต่งหญิงอื่นเป็นชายาเอก หากนางชนะ เมืองจินจะตกเป็นของต้าโจวจ้าวตี้พลันปวดศีรษะขึ้นมาทันที หากแพ้จะต้องเสียเมืองจินแน่นอน หากชนะน้องสาวจะได้เป็นชายาอ๋องมันช่างไม่คุ้มเอาเสียเลยจ้าวเหลียนมองหน้ารัชทายาทนึกเสียใจภายหลังเสียจริง ๆ"องค์หญิงจ้าวเหลียนมิกล้ารึ" หลิวเหมียนเห็นฝ่ายตรงข้ามเงียบไปเลยถามขึ้น"ใครว่า เรากล้าเราตกลง" จ้าวเหลียนออกปากไปแล้วขุนนางแต่ละท่านต่างรอชมการแสดงครั้งนี้ องค์หญิงจ้าวเหลียนดีดพิณฉิน เพลงของนางเริ่มจากความอ่อนหวาน แสดงถึงความรักของหนุ่มสาวคู่หนึ่งที่รักกันมิได้เพราะครอบครัวกีดกัน รักระหว่างคนเร่ร่อนกับบุตรสาวขุนนางจะเป็นไปได้อย่างไร คนที่ฟังองค์หญิงจ้าวดีพิณจนจบต่างร้องไห้ไปกับความรักของทั้งสองคนเลือกผูกคอตายไปด้วยกัน ช่างเป็นรักที่นิรันดร์เสียจริง"เยี่ยมมาก" เหล่าขุนนางต่างเอ่ยชมไม่ขาดปากยิ่งทำให้จ้าวเหลียนได้ใจยิ่ง ว่านางจะต้องชนะหลิวเหมียน นางจะต้องได้เป็นชายาอ๋องหลิวเหมียนพลันยิ้มให้ทุกคน นางนั่งลงกรีดนิ้วลงไปในสายพิณ สายลมพัดกระทบหน้าของนาง หลิวเหมียนพลันรู้ว
หลิวเหมียนมัวยุ่งกับการขายครีมหน้าเด้งของนาง นางขายผ่านโรงหมอจางหยง กำไรนับหมื่นในแต่ละเดือน หลิวเหมียนพลันมีความสุขยิ่งนักแม่นมหวังก็พลันวิ่งวุ่นกับท่านหญิงน้อยทั้งสองในจวน"เหมียนเอ๋อร์นี่คือชุดของเจ้ากับเจ้าแฝดที่จะไปร่วมงานเลี้ยงต่อนรับคณะทูตแคว้นจ้าวช่วงเย็น" หลิวเหมียนพลันมองไหวอ๋องที่ยืนใกล้นางมาก"ท่านถอยออกไปเลยนะ ข้าเหม็น"เหตุใดนางถึงได้เหม็นกลิ่นตัวของไหวอ๋องเช่นนี้อวก !!! หลิวเหมียนพลันอาเจียนออกมา "ไปตามหมอหลวงมาเร็ว" เขารีบอุ้มนางไปที่เตียงใหญ่ทันทีหลิวเหมียนกำลังคิดว่ารอบเดือนของนางไม่มาสองเดือนแล้ว หรือว่านางจะตั้งครรภ์ ไหวอ๋องก็คิดเหมือนกับหลิวเหมียนไม่นานนักหมอหลวงก็พลันมาถึงตรวจชีพจรของหลิวเหมียนใบหน้าของท่านหมอมีรอยยิ้มเจือปนอยู่"ข้าน้อยขอแสดงความยินดีกับท่านอ๋องด้วย ชายาเอกมีชีพจรมงคลพ่ะย่ะค่ะ" หมอหลวงประสานมือคำนับไหวอ๋องดีใจจึงพูดไม่ออกวันนั้นไหวอ๋องตกรางวัลให้บ่าวในจวนทุกคนในจวนหมอหลวงก็เช่นกัน หลิวเหมียนพลันอึ้งงันไม่น้อย นางท้องแล้ว น่าจะประมาณสองเดือนกระมังในงานเลี้ยงต้อนรับคณะทูตแคว้นจ้าวจัดขึ้นช่วงเย็น หลิวเหมียนกับไหวอ๋องไปด้วยกัน สองแฝดไม่อยากไปร
ปีใหม่ผ่านพ้นไปหลิวเหมียนพลันแจกเงินซองแดงให้กับบ่าวทุกคนในจวนอ๋อง คนในจวนอ๋องมีร้อยกว่าชีวิต หลิวเหมียนช่างเป็นนายหญิงที่ดีเสียจริงยามนี้หิมะพลันตกโปรยปราย หลิวเหมียนในชุดผ้าคลุมสีดำ ใบหน้างามล้ำ พลันมองอาหารของร้านอันดับหนึ่ง กุ้งแช่น้ำปลา อีกหนึ่งเมนูที่หลิวเหมียนมอบให้จ้าวหยงจ้าวหยงพลันมองพี่สาวคนดีของเขา นางช่างเก่งเรื่องคิดสูตรอาหารเหลือเกิน"พี่หญิงช่างเก่งยิ่งนัก คิดสูตรอาหารให้ข้า" จ้าวหยงสั่งให้คนไปเตรียมกุ้งแช่น้ำปลามาให้หลิวเหมียนลองทาน ไม่นานนักสาวใช้ก็พลันยกถาดกุ้งแช่น้ำปลาเข้ามาทันทีที่หลิวเหมียนสบตากับสาวใช้นางต้องตกใจอย่างมาก สาวใช้นางนี้คล้ายอนุผินเจียวที่หายตัวไปเดือนก่อน "สาวใช้คนนี้ของเจ้า เจ้าไปเอานางมาจากไหน" เสี่ยวชีพลันตกใจมากไม่คิดว่านายหญิงจะถามหาที่มาที่ไปของนาง"นายหญิงบ่าวความจำเสื่อมอย่าไล่บ่าวไปเลยเจ้าค่ะ" เสี่ยวชีพลันคุกเข่าลง จ้าวหยงพลันมองเสี่ยวชี"พี่หญิง เสี่ยวชีโดนทำร้าย นางอยู่ในรถเข็นผักใบหน้าอาบไปด้วยเลือดเมื่อเดือนก่อน นางจำตัวเองไม่ได้ ข้าเลยเก็บนางไว้" ผินเจียวก็มาหลบร้านอาหารอันดับหนึ่ง ไหวอ๋องพลิกแผ่นดินหา ถึงหานางไม่เจอ"นางคืออนุของ
หลิวเหมียนพลันมองสถานที่แห่งนี้ ด้านหลังที่โอบล้อมไปด้วยไม้ไผ่ นางไม่คิดว่าจวนอ๋องจะมี บ่อน้ำพุร้อนยังไม่ทันที่นางจะถามหวังชาว่าเกิดอะไรขึ้นกับไหวอ๋อง หวังชาหายตัวไปก่อนเสียแล้ว"เหมียนเอ๋อร์ช่วยข้าด้วย" จู่ ๆ ไหวอ๋องโผล่ขึ้นมาจากน้ำพุ ร่างหนาพลันเปลือยกายด้านบน เขาสวมเพียงกางเกงชั้นในสีขาว หลิวเหมียนพลันมองห่อหมกขนาดใหญ่มารดามันเถอะ นางเลือดกำเดาไหลแล้ว ใบหน้าหลิวเหมียนร้อนผ่าว"ข้าโดนยาปลุกกำหนัด เจ้าช่วยข้าด้วย" ไหวอ๋องดึงนางเข้ามากอดพร้อมจุมพิต หลิวเหมียนพลันเบิกดวงตาอย่างกว้าง นางตกใจ นางจะหย่ากับเขาแล้ว เขาจะมาทำเช่นนี้กับนางมิได้ไหวอ๋องจูบอย่างดูดดื่มจนนางแทบจะหายใจไม่ออก อีกทั้งปากยังบวมอีกต่างหาก"ข้าไม่ยอม ข้าจะหย่าท่าน" "ข้ารักเจ้า ทุกทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านมา เป็นข้าที่หูเบา เป็นข้าที่เชื่อคนอื่นมิได้ใส่ใจเจ้า" ไหวอ๋องพูดออกมาจากใจจริง ในวันที่เขารู้เรื่องว่านางเป็นคนช่วยเขาจากการจมน้ำเพราะเขาเป็นตะคริว นางช่วยขึ้นมาแต่ถูกลีเฟยสวมรอยว่าเป็นคนช่วยเขาไว้หลิวเหมียนเหมือนจะใจอ่อนเคลิบเคลิ้มไปกับเขา ร่างบางจุมพิตท่ามกลางบ่อน้ำพุร้อน อาภรณ์ของหญิงสาวปลดออกจนหมด หลิวเหมียนหลั
ข่าวลือในเมืองหลวง ว่าหลิวเหมียนปีนเตียงไหวอ๋องนั้นไม่จริง เช้าของวันนี้ในตลาดต่างเห็นใจหลิวเหมียนที่โดนกระทำว่าปีนเตียงไหวอ๋อง บัดนี้ความจริงพลันปรากฏแล้วว่า เป็นฝีมือคุณหนูรอง หกปีเต็ม ๆ ที่หลิวเหมียนต้องแบกรับความอัปยศนี้ข่าวนี้ทราบไปถึงเหมยไทเฮา พระนางทรงพระราชทานผ้าแพร ทองคำร้อยชั่ง มอบเงินให้หนึ่งพันตำลึงทองปลอบขวัญหลิวเหมียน ให้เสี่ยวเต่าประกาศราชโองการหลิวเหมียนพลันดีใจอย่างมาก นางได้รับความเมตตาจากองค์ไทเฮา หลิวเหมียนมอบก้อนทองให้เสี่ยวเต่า "ขอบคุณชายารอง" ยังมอบตลับยาหน้าเด้งฝากให้เหมยไทเฮาด้วยเรือนหลังเล็กของหลิวเหมียนเต็มไปด้วยเงินก้อนกับทองคำนางมีความสุขมากไหวอ๋องพลันมาหานางที่เรือน มีเรื่องราวหลายอย่างที่เขาอยากจะขอโทษนาง"อาเหมียนข้าขอโทษ" ในตอนนั้นเมื่อหกปีที่แล้ว เขาฟื้นขึ้นมา เขาพบว่านางนอนอยู่ข้างกายเขา ไหวอ๋องพลันตบหน้าหลิวเหมียนอย่างแรง ใช่เขารังเกียจนางมากตอนนั้น จวบจนมีราชโองการให้นางเป็นชายารอง..."อดีตไม่ต้องพูดถึง ถึงอย่างไรข้ากับท่านก็ต้องหย่ากันอยู่แล้วในอีกไม่กี่วันข้างหน้า"หลิวเหมียนพลันยิ้มหน้าบาน ในเมื่อนางล้างมลทินให้ตัวเองเรียบร้อยแล้ว นางควรจะไ
"นั่นมันเสียงอะไรหลิวฮูหยิน" ฮูหยินท่านขุนนางคนหนึ่งเอ่ยขึ้นเมื่อเดินผ่านเรือนรับ หลิวฮูหยินอาสาพาฮูหยินคนอื่นเดินเล่นชมสวนในจวนงานเลี้ยง"เจ้าเข้าไปดูสิ" ใบหน้าของหลิวฮูหยินแดงก่ำ สาวใช้คนนั้นพลันเปิดประตูเข้าไปอย่างช้า ๆ พอนางเข้าไป นางวิ่งหน้าตื่นออกมา"ฮูหยิน เป็นคุณหนูรองกับคนเลี้ยงม้าเจ้าค่ะ" ทุกสายตาต่างอึ้งงัน อีกทั้งตกใจอย่างมาก เหมยซื่อสะใภ้บ้านรองพลันตกใจนางพลันเข้าไปในห้องนั้นพบว่าเป็นบุตรสาวของนางที่นอนอยู่กับบุรุษเลี้ยงม้า"ท่านแม่" หลิวซูซูพลันอึ้งงัน นางมองมารดาอีกทั้งหน้าประตูยังเห็นฮูหยินอีกหลายคน"นี่เจ้า" เหมยซื่อพูดไม่ออก เหตุใดถึงเป็นเช่นนี้ หลิวซูซูจำได้ว่านางเข้ามาในเรือนรับรอง จากนั้นเห็นอาเวย ชายเลี้ยงม้าในจวน อาเวยพลันมองคุณหนูรองที่เป็นของเขาแล้ว"ฮูหยินรองข้ากับคุณหนูรองรักกันนะขอรับ" อาเวยพลันเอ่ยออกมา ใช่เขารักนางมากจริง ๆ ยอมทำทุกอย่าง แม้จะอยู่ในแผนการผู้อื่นก็ตาม ในจวนนี้มีเพียงหลิวซูซูดีกับเขา"เจ้าสารเลว ข้าจะตีเจ้า" หลิวซูซูพลันขาดสติ ฮูหยินบางท่านทนดูไม่ได้จึงได้ขอตัวกลับจวนกลางคัน ชายาเอกเยียนอ๋อง ลู่อ๋อง เจาอ๋อง ทนดูเรื่องบัดสีมิได้เหมือนกัน จ
หลิวเหมียนกับสองแฝดตั้งใจว่าเช้านี้พวกนางสามคนแม่ลูกจะออกไปตัดชุด เพื่อไปร่วมงานเลี้ยงของฮูหยินผู้เฒ่าหลิวแต่ทว่าสาวใช้จากเรือนไหวอ๋องถือชุดที่ตัดเรียบร้อยมามอบให้สามคนแม่ลูก "ไหวอ๋องให้บ่าวนำชุดมามอบให้พวกท่านทั้งสามคนเจ้าค่ะ" หลิวเหมียนพยักหน้าพลันให้แม่นมหวังรับชุดไว้ สาวใช้ทั้งสองคนของตัวลาลายผ้าปักชั้นดี งานฝีมือนี้คงจะมาจากวังหลวงเป็นแน่แท้ ผ้าต่วนสีชมพูลายวิหคเหินฟ้า ทั้งสามชุดเหมือนกันหมด ใต้ชุดนั้นมีเครื่องประดับปิ่นซ่อนไว้ หลิวเหมียนพลันคิดได้ว่าไหวอ๋องมิอยากให้เครื่องประดับนางโดยตรง เพราะเขินอายถึงอย่างไรนางก็จะหย่ากับเขาอยู่ดี แม้เขาจะดีกับเจ้าแฝดก็ตาม สาเหตุเพราะนางมิได้รักเขา แม้เขาจะหล่อก็เถอะไหวอ๋องพลันให้อาหารปลาเสร็จพลันมองสาวใช้เข้ามารายงาน"เรียบร้อยเจ้าค่ะ""นางว่าอย่างไรบ้าง""ชายารองทรงมิได้เอ่ยอันใดออกมาเจ้าค่ะ" ไหวอ๋องโบกมือไล่สาวใช้ให้ไปทำงานต่อ...เรือนของชายาเอก ยามนี้ลีเฟยพลันวิตกเรื่องของอนุผินหยางอ๋องส่งข่าวว่ายังไม่พบร่างของผินเจียว นังสารเลวนั่นมันอยู่ไหนกันแน่ แม้จะพลิกแผ่นดินหาต้องหานังสารเลวนั่นให้เจอ "ชายาเอกบ่าวได้ยินว่าไหวอ๋องส่งชุดร่วมงา