หลายวันผ่านไปไม่มีผู้ใดย่างกรายเข้ามาในเรือนของชายารองอีกเลย หลิวเหมียนพลันดีใจยิ่งนัก นางจะได้มีเวลาเลี้ยงเจ้าแฝดอีกทั้งปรุงยาขาย
นางตั้งใจว่าจะเปิดโรงหมอก่อนอื่นต้องมีเงินทุนเสียก่อน สินเดิมของนางก็ไม่มีแล้ว หากเปิดไม่ได้ก็ทำได้แค่ปรุงยาแล้วนำไปขาย
ปรุงยาแล้วนำไปขายดีกว่า เป็นความคิดที่ดีเช่นกัน นางจะได้มีเงินมาเลี้ยงลูก เพราะชายาเอกไม่ส่งเบี้ยให้นาง
สารเลวสิ้นดี !!!
วัน ๆ หลิวเหมียนเอาแต่ขังตัวเองอยู่ในห้องปรุงยาหน้าเด้งขาย ยาตัวนี้มาจากโลกอนาคต นางจึงคิดค้นที่จะขายในยุคนี้ โชคดีที่ของวิเศษเวลาที่นางอยู่คนเดียวนางสามารถเข้าไปในกระเป๋าใบนั้นได้ มีทั้งของกิน ยา ความสวยความงาม นางเอาออกมาหมดมิได้
หลิวเหมียนพลันมองตลับยาหน้าเด้งนับร้อยเอาล่ะเสร็จเหลือแค่นำไปขาย ในแคว้นต้าโจวมีร้านหมอหลายร้าน นางจะต้องออกไปสืบความดูเสียก่อน ออกช่องหมารอดตามเดิม
อีกด้านหนึ่ง
เรือนพระชายาเอก ลีเฟยพลันนั่งบนตั่งยาว สายตากลอกกลิ้งไปมา นางกำลังคิดว่าเหตุใดชายารองถึงได้เปลี่ยนไป จากที่เงียบ ๆ กลายเป็นคนร้าย ๆ กล้าตบตีผู้คน หรือผีจะสิงนางแล้ว มิได้นางจะต้องบอกไหวอ๋องจัดการชายารอง
ไหวอ๋องไปประจำที่ชายแดนใต้มิกลับมา หลังจากที่แต่งงานกันเมื่อหกปีก่อน ในตอนนั้นไหวอ๋องแต่งทั้งชายาเอกกับชายารองพร้อมกัน ลีเฟยเป็นชายาเอก เพราะนางเป็นคู่เล่นม้าไผ่เหมยเขียวกับเขา เขาในตอนนั้นที่ตกลงไปในสระบัว เขาลืมตาขึ้นมาพบว่านางเป็นคนช่วยชีวิตเขา ยิ่งทำให้เขารักนางมากกว่าเดิม แต่ที่จริงแล้วหาใช่ลีเฟย แต่เป็นคนอื่นต่างหาก
ลีเฟยไม่คิดว่าคู่หมั้นของนางไปงานเลี้ยงท่านแม่ทัพหลิวชาง ในวันนั้นรู้เพียงว่าหลิวเหมียนทำเรื่องชั่วปีนเตียงไหวอ๋อง ทั้งที่อีกหนึ่งเดือนนางกับเขาก็จะแต่งกันอยู่แล้ว
แต่ทว่าฮ่องเต้กวนเหิงพระราชทานงานแต่งครั้งนี้ให้หลิวเหมียนเป็นชายารอง เนื่องจากเห็นแก่หน้าของแม่ทัพหลิวชาง
ลีเฟยไม่ได้เข้าหอกับเขาวันแต่งงานเนื่องจากทางชายแดนมีสงคราม ซึ่งไหวอ๋องเป็นเทพสงครามจำเป็นต้องประจำการอยู่ที่นั้น นางเลยอดทนรอเขาหกปีเต็ม ในระหว่างหกปีนั้น นังแพศยาได้คลอดลูกแฝดผู้หญิงเด็กนรกสองคน
ส่วนนางเป็นชายาเอกไม่มีแม้แต่เด็กในท้องเฝ้ามองพวกมันสามคน ลีเฟยให้คนไปกลั่นแกล้งชายารองสารพัด
นางเกลียดหลิวเหมียนที่สุด หลิวเหมียนคือคนที่ช่วยชีวิตไหวอ๋องไว้เมื่อห้าปีก่อน ไหวอ๋องจะไม่มีวันได้รู้ความจริงเรื่องนี้
ลีเฟยยิ้มเหี้ยม
"พระชายาเจ้าคะ ท่านอ๋องกลับมาแล้วเจ้าค่ะ ตอนนี้กำลังเข้ามาในเมืองเจ้าค่ะ" เสี่ยวฮวาสาวใช้คนสนิทรายงาน ดวงตาของชายาเอกมีความหวังอย่างมาก
"เปลี่ยนชุดให้ข้า ข้าจะออกไปต้อนรับท่านอ๋อง" ลีเฟยพลันดีใจนัก
อีกด้านหนึ่งบนถนนที่แออัด เหล่าทหารม้าพลันเข้ามาในเมืองแล้ว ชาวเมืองต้าโจวต่างสรรเสริญไหวอ๋องที่เป็นเทพสงคราม ทำให้ชายแดนใต้ที่ติดกับแคว้นฉินพลันสงบสุขลงได้ หกปีมานี้ได้ทำการลงนามไว้แล้ว ฉินจะไม่รุกรานต้าโจว ต้าโจวจะไม่รุกรานฉินเช่นกัน
หลิวเหมียนในชุดผ้าฝ้ายธรรมดากับหมวกสีขาวปกหน้า นางเพิ่งออกมาจากโรงหมอสกุลจาง หมอจางหยงได้รับปากทำการค้ากับนางแล้ว เขาได้ตำรับยาหน้าเด้งของนางพอใจมาก กระนั้นจึงให้นางนำมาให้เขาในวันพรุ่ง
"ไหวอ๋องกลับมาแล้ว" เสียงชาวบ้านพลันตะโกนขึ้นมา
หลิวเหมียนพลันมองไปที่บุรุษชุดสีน้ำเงินนั่งบนหลังอาชาสวมหน้ากากผีเสื้อ ทำให้นางไม่เห็นหน้าที่แท้จริงของเขา
นี่สินะไหวอ๋อง หลิวเหมียนพลันเบ้ปาก อย่างนึกชัง เจ้าของร่างเดิมคงตาบอดแล้วที่ไปชอบคนเช่นนี้
ไหวอ๋องหันไปที่มุมเสาตรงนั้น กลับว่างเปล่า หลิวเหมียนหลบทัน
ไหวอ๋องสั่งกองทัพทหารม้าให้กลับไปที่ค่ายก่อน ส่วนตัวเขาจะกลับไปที่จวนอ๋องก่อนแล้วค่อยไปเข้าเฝ้าเสด็จพ่อ
จวนไหวอ๋อง
สตรีร่างบางในอาภรณ์สีแดงลายบุปผางามล้ำ พลันยืนรอสามีหน้าจวนพร้อมบ่าวรับใช้
ไหวอ๋องกวนเทียนพลันมองลีเฟยชายาเอกของเขาออกมาต้อนรับ
"คำนับท่านอ๋องเจ้าค่ะ" ลีเฟยพลันยอบตัวลง ไหวอ๋องพลันมองนาง ใบหน้านางซูบผอมลงยิ่งนัก
"เข้าจวนกันเถอะ" ชายาเอกคล้องแขนไหวอ๋องเดินเข้าไปในจวน รั้งท้ายด้วยสาวใช้ตามเข้าไป ภายในเรือนของชายาเอกเต็มไปด้วยกลิ่นกำยานหอม นางพลันมองไหวอ๋องนั่งดื่มน้ำชา
"ท่านอ๋อง ข้าจะให้คนเตรียมอาหารเย็นเจ้าค่ะ"
"ไม่ต้องประเดี๋ยวข้าต้องเข้าวังแล้ว" มาถึงก็จะเข้าวังแล้ว ไม่คิดถึงนางบ้างเลยจริง ๆ
"เจ้าค่ะ"
"ข้าไปก่อนแล้วกัน"
ไหวอ๋องสาวเท้าออกไปอย่างฉับไว ชายาพลันมองอย่างน้อยใจ
ไหวอ๋องเดินผ่านภูเขาจำลองพลันได้ยินเสียงเด็กหัวเราะ ลูกใครมาเล่นในจวนของเขา
"อาหนิงรีบกลับเถอะ" กวนหยูเอ่ยกับแฝดพี่ ทั้งสองกำลังออกจากภูเขาจำลองต้องตกใจบุรุษใบหน้าที่เต็มด้วยหนวดเครา เขาถอดหน้ากาผีเสื้อออกแล้ว
ตุบ !!!"พี่ใหญ่ ท่านตกลงไปในสระบัวแล้ว" กวนหยูพลันตะโกนขึ้นก่อนที่ร่างเล็กจะล่วงลงไปอ้อมกอดอันแข็งแกร่งก็รับกวนหนิงไว้แล้ว"พี่ใหญ่มีคนช่วยท่านแล้ว" กวนหยูเห็นพี่ใหญ่ปลอดภัยพลันสบายใจขึ้นมาทันทีกวนหนิงพลันมองชายผู้นั้น เขาเป็นใครกันพวกนางสองคนไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน "ท่านลุงขอบคุณมากเจ้าค่ะ" กวนหนิงเอ่ยขึ้นปากน้อย ๆ ของนางน่ารักจริง ๆ "ท่านหญิงน้อย" เสียงแม่นมหวังพลันดังขึ้นอีกทั้งตกใจมาก ที่เห็นเจ้าแฝดยืนเคียงข้างไหวอ๋อง ไหวอ๋องกลับมาแล้ว เรื่องนี้ชายารองรู้แล้วรึยังกวนเทียนพลันมองแม่นมหวัง เขาจำยายแก่คนนี้ได้ คนที่เข้ามาพร้อมกับสตรีนางนั้น หลิวเหมียน แล้วเจ้าแฝดสองคนนี้อย่าบอกนะว่าลูกเขา"ท่านอ๋องกลับมาแล้วรึเจ้าคะ" แม่นมหวังพลันเสียงสั่น ทันทีที่เด็ก ๆ ได้ยินว่าแม่นมหวังเรียกคนผู้นั้นว่าท่านอ๋อง แม่นางน้อยทั้งสองรีบถอยหลังไปหลบด้านหลังแม่นมหวังทันที"นางเป็นลูกของใคร" ไหวอ๋องพลันมองแม่นมหวังอย่างต้องการคำตอบแม่นมหวังคิดว่าซวยแล้ว ก็จะเป็นลูกผู้ใดได้ หากมิใช่ลูกของท่าน ใบหน้าชัดเจนปานนี้"กวนหนิง กวนหยู" "ท่านแม่" แม่นมหวังยังไม่ทันได้ตอบคำถามไหวอ๋องหลิวเหมียนก็โผล่มาพอดี จังหว
หลิวเหมียนพลันมองเจ้าแฝดทั้งสองปั้นตุ๊กตาหิมะที่หน้าเรือน ชีวิตในที่แห่งนี้ช่างไม่ดีเอาเสียเลย นางไม่ขออะไรมากขอเพียงได้หย่ากับเจ้าคนชั่วนั่น จากนั้นนาก็จะเลี้ยงดูเจ้าแฝดให้มีความสุขสกุลเดิมป่านนี้คงไม่คิดถึงนางแล้วกระมัง เพราะลีเฟยแท้ ๆ ขัดขวางไม่ยอมให้หลิวเหมียนคนก่อนไปพบบิดามารดาทำให้นางต้องตัดขาดกับบ้านเดิมโดยถาวร"ท่านแม่ข้าหิวข้าวแล้ว" กวนหนิงกับกวนหยูเอ่ยพร้อมกัน"แม่นมเฝ้าเจ้าแฝดไว้ให้ดี ข้าจะไปโรงครัวเล็ก" แน่นอนว่านางต้องทำอาหารให้เจ้าแฝดกิน เป็นบะหมี่ที่นางเอาออกมาจากกระเป๋าวิเศษ หลิวเหมียนลงมือเคี่ยวบะหมี่ให้เจ้าแฝด...พอแม่นมหวังเก็บผ้าหลังเรือนพอกลับมาก็ไม่เห็นท่านหญิงน้อยทั้งสองเสียแล้ว ใบหน้าแม่นมหวังมีเหงื่อไหลพราก ๆ ออกมา นางต้องรีบตามหาสองแฝด"พี่ใหญ่พี่จะหาท่านอ๋องจริง ๆ รึ" กวนหยูถามพี่สาวที่เดินมาถึงทางแยกระหว่างสามเรือน เรือนใหญ่พระชายาเอกไปทางซ้าย เรือนไหวอ๋องไปทางขวา"ถามเขา ว่าเขารักท่านแม่รึไม่" กวนหนิงไม่อบากให้มารดาโดนชายารองกลั่นแกล้งอีกต่อไป ในตอนที่เจอไหวในจังหวะนั้นอ้ายกุ้ยเฟยกับเหล่าข้าหลวงย่างกรายผ่านมาพอดี พระนางจะไปเรือนของไหวอ๋อง"พวกเจ้าเป็นลู
เช้าวันถัดมาหิมะตกเมื่อคืนทำให้พื้นดินเต็มไปด้วยหิมะ หลิวเหมียนตั้งใจจะนำยาหน้าเด้งไปส่งโรงหมอสกุลจาง นางให้แม่นมหวังพลันรับปากว่าจะดูแลสองแฝดให้ดี มิให้พวกนางออกไปเพ่นพ่านที่ไหนอีกหลิวเหมียนพลันถือตะกร้าออกไปทางประตูหลังจวน สองแฝดตื่นมาไม่เห็นมารดา มีเพียงแม่นมหวังนำข้าวต้มร้อน ๆ มาให้พวกนางสองคนรับประทานกลิ่นหอมมาก สองแฝดกินอย่างช้า ๆ จนหใดชาม ดื่มน้ำตามลงไป"เรือนหลังนี้แหละท่านนักพรต" ลีเฟยพาคนกลุ่มใหญ่มาที่เรือนของชายารองอย่างหลิวเหมียน สาวใช้เสี่ยวจูกับเสี่ยวหงเดินตามหลังเจ้านาย"ชายารองออกมาเดี๋ยวนี้นะ" ลีเฟยพลันตะโกนขึ้นมา เสียงตะโกนนี้ทำให้คนทั้งสามออกมาหน้าเรือน เจ้าแฝดรีบหลบที่หลังแม่นมหวังแม่นมหวังคิดในใจว่าแย่แล้ว เหตุใดพระชายาเอกต้องนำนักพรตมาที่เรือนด้วย"เรือนนี้มีไอปีศาจ ต้องรีบเผาเรือนนี้เสีย" นักพรตเต๋าพลันเอ่ยขึ้น แน่นอนว่าได้รับค่าจ้างแล้วต้องทำให้คุ้มเงินเสียหน่อย ใบหน้าชายาเอกพลันยิ้มระรื่น "อย่านะ อย่าทำเช่นนั้น" แม่นมหวังกับสองแฝดขัดขวางอย่างเต็มทีพระชายารองไปนานแล้วเหตุใดยังไม่รีบกลับมาอีก แม่นมหวังเกรงว่าเรือนแห่งนี้จะเป็นตอตะโกแล้วลีเฟยพลันมอ
ตกเย็นไหวอ๋องสั่งให้โรงครัวทำอาหารมาส่งที่เรือนของชายารอง เป็นอาหารชั้นดี หลิวเหมียนกับแม่นมหวังพลันตกใจยิ่งนักหมูอบน้ำผึ้ง ขนมดอกกุ้ย สาวใช้นำมาส่งแล้วรีบกลับไป หลิวเหมียนรีบใช้เข็มจิ้มดู พบว่าไม่มียาพิษค่อยยังชั่วหน่อย"โชคดีไม่มียาพิษ" เจ้าอ๋องเถื่อนสงสัยสมองมีปัญหานึกจะมาทำดีกับนางและลูก"หรือท่านอ๋องจะคิดได้" แม่นมหวัง คนเช่นนั้นไม่มีทางคิดได้"ท่านแม่ข้ากินได้รึไม่" นางมองหน้าเจ้าแฝด ขนมในวังพวกนี้ไม่เคยกินกระมัง"กินเถอะ" สองแฝดรีบหยิบขนมมาเคี้ยวตุ้ย ๆ อย่างอร่อยเรือนไหวอ๋องสาวใช้เข้ามารายงานว่าชายารองมิได้ปฏิเสธอาหารที่มอบให้ ไหวอ๋องพอใจยิ่งนัก มีสาวใช้มารายงานว่าชายาจะพักอยู่จวนลีวันพรุ่งค่อยกลับมาให้ลีเฟยได้สงบจิตใจบ้างก็ดี ไหวอ๋องคิดเช่นนั้น "ท่านอ๋องอนุผินขอเข้าพบขอรับ" บ่าวเฝ้าประตูพลันรายงาน ไหวอ๋องพลันขมวดคิ้ว เหตุใดนางจะขอพบเขา ไหวอ๋องอนุญาตไม่นานนักร่างบางในอาภรณ์หรูหราอบไปด้วยกลิ่นเครื่องหอมพลันเข้ามาพร้อมน้ำแกง"น้ำแกงรังนกเจ้าค่ะ บ่าวเคี่ยวมาให้ท่าน""เอาวางไว้แล้วออกไปเถอะ" ผินเจียวพลันมองไหวอ๋องไล่นาง กระนั้นนางทำได้เพียงวางไว้แล้วรีบออกไปหวังชารู้หน้าที่ค
ลีเฟยใช้ผ้าคลุมหน้าขึ้นไปบนชั้นสองร้านน้ำชาอันดับหนึ่ง นางบอกเสี่ยวเอ้อร์ว่ามาหานายท่าน เสี่ยวเอ้อร์รู้ความหมายหยางอ๋องที่กำลังนับเงินในห้องพำนักได้ยินเสี่ยวเอ้อร์มารายงานว่ามีสาวงามมาหาเขาเขาพลันนึกออกแล้วเป็นลีเฟย "พานางมาที่ห้องนี้" หยางอ๋องรีบเก็บเงิน ห้องพำนักห้องนี้เป็นห้องนอนของเขาระหว่างวัน กิจการนี้เป็นของพระมารดาเขา กระนั้นหยางอ๋องจึงเป็นผู้อยู่เบื้องหลังโรงน้ำชาแห่งนี้ลีเฟยพลันเดินตามหลังเสี่ยวเอ้อร์มาที่ห้องของหยางอ๋องชั้นบนสุด"คารวะหยางอ๋อง""น้องสะใภ้เชิญนั่ง" ลีเฟยพลันนั่งลงหยางอ๋องไล่บ่าวออกไป กระนั้นรินน้ำชาให้นาง"ข้าทำเองได้เจ้าค่ะ" นางตั้งใจจะมาปรึกษาเรื่องไหวอ๋อง"หยางอ๋อง ข้าตั้งใจจะมาปรึกษาเรื่องไหวอ๋องเจ้าค่ะ" นางมาเพราะเรื่องนี้ ใบหน้าของหยางอ๋องพลันแดงก่ำลีเฟยคิดว่าเหล่าองค์ชายสนิทกันมาก กระนั้นนางมิได้สังเกตเลยว่า ยามที่เล่าเรื่องของไหวอ๋อง หยางอ๋องมีท่าทีเช่นไร"ลีเฟย ข้านึกว่าเจ้าจะฉลาด" ลีเฟยตกใจที่หยางอ๋องเอ่ยเช่นนี้ นางกลัวเขามาก"หยางอ๋องข้าขอตัวเจ้าค่ะ" นางไม่ควรมาพบเขาสองต่อสอง ทันทีที่นางลุกขึ้นหยางอ๋องก็ขวางหน้าประตูไว้"ท่านจะทำอะไร ข้าคือน้อ
"ท่านแม่ อย่าทำท่านแม่ของพวกข้า" เจ้าซาลาเปาน้อยทั้งสองพลันร้องตะโกนขึ้นอย่างสุดเสียงพวกนางทั้งสองคนได้แต่มองมารดาโดนโบยก้น"หากมิใช่เด็กเหลือขออย่างพวกเจ้าขโมยขนมของข้านางรึจะโดนโบยรับโทษแทนพวกเจ้า" ชายาเอกลีเฟยพลันเอ่ยขึ้นลีเฟยกับหลิวเหมียนแต่งเข้ามาพร้อมกัน ลีเฟยคือคู่หมั้นของไหวอ๋องอยู่แล้วเป็นคู่ม้าไผ่เหมยเขียว อีกทั้งนางยังเป็นบุตรสาวของราชครูลีหยาง ส่วนหลิวเหมียนเป็นบุตรสาวของท่านแม่ทัพใหญ่หลิวชางหลิวเหมียนปีนเตียงไหวอ๋องกระนั้นจึงทำให้ไหวอ๋องแต่งชายาพร้อมกันทั้งสองคน ทั้งสามคนแต่งงานกันมาหกปีแล้ว มีแต่หลิวเหมียนที่ตั้งครรภ์มีเจ้าแฝดหญิงสองคน กวนหนิงกับกวนหยูส่วนชายาเอกไม่มีวี่แวว่าจะตั้งครรภ์เลยแม้แต่น้อยหลิวเหมียนทำเรื่องงามหน้าโดยการปีนเตียงไหวอ๋อง กระนั้นคนบ้านเดิมของนางจึงไม่ใยดีนางนัก การเป็นอยู่ในจวนอ๋องของทั้งสามคนแม่ลูกจึงอดอยากอย่างมากทำไมนางรู้สึกเจ็บเช่นนี้ ทันทีที่ลืมตาขึ้นหลิวเหมียนเห็นสตรีในชุดจีนโบราณยิ้มแบะปากให้นาง อีกทั้งเด็กแฝดสองคนร่ำไห้"หยุด!!!" สาวใช้ที่โบยอยู่พลันตกใจ พระชายารองพลันยึดไม้โบยมาฟาดเหล่าสาวใช้ "ชายารองเจ้าจะมากไปแล้วนะ" ชายาเอกไม่เคยเ