Share

ราชโองการ

Author: Ai Chi Tudou
last update Last Updated: 2025-02-28 19:07:59

มู่จิงหนิงเห็นท่าทางของซูหลีก็เกิดอาการไม่พอใจ นางยอมลดตัวเป็นคู่หมั้นของคนสกุลซูก็ดีเท่าไหร่แล้ว ใครๆ ต่างก็รู้ว่าสกุลซูเพิ่งย้ายมาอยู่ที่เมืองหนานได้เพียงห้าปี นายท่านแต่ละคนเป็นขุนนางที่ถูกลดขั้นมาจากเมืองหลวง

สกุลดังแต่ไม่เป็นที่โปรดปราน ลูกหลานจะได้ดิบได้ดีแค่ไหนเชียว

ตอนนี้หลินจื่อตี๋ คู่หมั้นของซูโหย่วผู้ซึ่งเป็นพี่ชายของซูเหยียนออกไปท่องเที่ยวต่างเมือง มู่จิงหนิงจึงข่มใจรอให้นางกลับมาเสียก่อน แล้วค่อยชวนมาต้อนรับซูเหยียนกลับจวน

สตรีที่ถูกบุรุษปฏิเสธ น่าอับอายอย่างมาก มู่จิงหนิงอยากจะทำให้ซูเหยียนรู้บ้างว่านางไม่ใช่คนที่จะเมินใส่ได้ง่ายๆ

........

ซูเหยียนเข้ามาภายในจวนท่ามกลางสายาตาแปลกประหลาดของบ่าวรับใช้ แต่เมื่อเดินใกล้เรือนหลักก็มีพ่อบ้านเก่าแก่ของสกุลซูวิ่งเข้ามาทักทายนางสีหน้าดีใจ

“คุณหนูรองกลับมาแล้ว”

“พ่อบ้านหมี่” ซูเหยียนยิ้มตอบ นางกวาดสายตาสำรวจเขาแล้วกล่าว “ท่านยังดูแข็งแรงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน”

“คุณหนูรองชมเกินไปแล้ว พวกนายท่านอยู่ด้านใน เชิญคุณหนูเข้าไปเถอะ”

ซูเหยียนพยักหน้ารับ นางก้าวเท้าเข้าเรือนหลัก เรือนนี้เป็นเรือนที่ใช้พูดคุยพร้อมหน้าพร้อมตาของคนในตระกูล รวมถึงรับแขกที่มาเยี่ยมเยือนอย่างเป็นทางการ

พอนางเข้าไปภายในเรือนก็ถูกสายตาของคนข้างในจับจ้อง เมื่อพวกเขาเห็นใบหน้าของซูเหยียนชัดเจน ต่างก็ส่งเสียงทักทายด้วยความดีใจ

โดยเฉพาะบิดามารดาของนาง

“เหยียนเอ๋อร์”

กงหว่านลี่ มารดาของซูเหยียนลุกขึ้นมาโอบกอดลูกสาวตนด้วยความคิดถึง “ลำบากเจ้ามาหลายปี กลับบ้านก็ดีแล้ว”

ซูเหยียนมองผู้คนในเรือน นางย่อตัวคารวะญาติผู้ใหญ่ของตนอย่างนอบน้อม

“เหยียนเอ๋อร์คารวะท่านปู่ ท่านย่า ท่านลุง ท่านป้า ท่านพ่อ ท่านแม่”

ญาติผู้ใหญ่อยู่กันครบ แต่ญาติรุ่นเดียวกัน นางเพิ่งเจอซูหลีเพียงคนเดียว

“พวกเรากำลังคุยกันถึงเรื่องแต่งงานของพี่น้องเจ้า เจ้ากลับมาทันงานแต่งของพวกเขาก็ดี” ท่านย่าของซูเหยียนเอ่ย

“แต่งงาน” ซูเหยียนงุนงงเล็กน้อย ญาติพี่น้องแต่งงาน หมายถึงพวกเขาจะแต่งงานพร้อมกันเลยหรือ

“ใช่จ้ะ หลีเอ๋อร์ โหรวเอ๋อร์ และโหย่วเอ๋อร์พี่ชายเจ้าจะแต่งงานพร้อมกัน”

หวังอวี๋เยว่ป้าสะใภ้บอกด้วยความกระตือรือร้น การแต่งงานสามคู่เป็นเรื่องที่น่ามงคลอย่างมาก

ซูเหยียนส่งเสียง “อ่อ” นางไม่ได้พูดอะไรต่อเพราะไม่รู้จักผู้ที่จะมาแต่งงานกับญาติพี่น้องของตัวเองเลยสักคน

ยกเว้นมู่จิงหนิงที่พบเจอเมื่อครู่

มารยาทไม่ผ่าน

“ข้านั่งรถมานานอยากพักผ่อนจังเลยเจ้าค่ะ”

ซูเหยียนตัดบทสนทนาไม่อยากอยู่พูดคุยต่อ กงหว่านลี่ผู้เป็นมารดาจึงเรียกสาวใช้นางหนึ่งให้พาซูเหยียนไปเรือนนอน

ก่อนที่ซูเหยียนจะกลับมาถึง ไทเฮาได้ส่งจดหมายมาบอกล่วงหน้าว่าจะให้รถม้าส่งซูเหยียนกลับมา สกุลซูจึงมีเวลาเตรียมที่พักให้นาง

........

วังหลวง

“เสด็จพ่อ เมื่อไหร่ข้าจะไปหาฮูหยินได้” จ้าวอิ้งฉางทำตัวเหมือนเด็ก งอแงอยู่ข้างจ้าวอิงสือผู้เป็นพระบิดา

“คำก็ฮูหยิน สองคำก็ฮูหยิน เจ้าแต่งนางเข้ามาในตระกูลของข้าตั้งแต่เมื่อไหร่กัน”

จ้าวอิงสือบ่นน้ำเสียงรำคาญ “สะสางงานที่ค้างของเจ้าให้เสร็จก่อนแล้วค่อยไป ข้ารับดูแลแค่เรื่องใหม่เท่านั้น”

จ้าวอิงสือทำท่าหงุดหงิดใส่บุตรชาย เมื่อก่อนก็ทำแต่งานไม่สนใจสตรี พอติดใจสตรีขึ้นมาทำเอาเดือดร้อนกันทั้งวังหลวง โดยเฉพาะตัวเขา

มีแคว้นไหนบ้างที่อดีตฮ่องเต้ต้องมาสำเร็จราชการแทน แล้วยินยอมให้ฮ่องเต้องค์ปัจจุบันวิ่งแจ้นไปหาสตรี

คงมีแค่แคว้นหมิงของเขานี่กระมัง

“คิดให้รอบคอบด้วย หากพานางมา เจ้าจะให้นางพักที่ไหน ตำแหน่งอะไร จัดงานอะไรบ้าง เชิญใครมางาน อ่อ แล้วก็วิธีจัดการขุนนางที่จะออกมาคัดค้าน” จ้าวอิงสือร่ายยาวให้บุตรชายที่เคยฉลาดของตนฟัง

ความรักความลุ่มหลงทำให้คนโง่เขลา

เขาส่ายศีรษะแล้วก็เดินหนีอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว

........

สิบสองวันผ่านไป

ซูเหยียนได้แต่นั่งเหม่อลอยนอกหน้าต่าง ต้าอิ้ง บุรุษของนางไม่เห็นจะมาหาเสียที คิดว่าเขาคงมีคนอื่นแทนนางไปแล้ว

สตรีมองบรรดาบ่าวรับใช้ที่เดินกันวุ่นวาย เพราะวันนี้คู่หมั้นของพี่น้องทั้งสามคนจะมาพร้อมหน้าพร้อมตา ทั้งยังจะเป็นครั้งแรกที่นางได้เจอครบทุกคน

ภายในจวนวันนี้จึงคล้ายกับมีงานเลี้ยงภายในครอบครัว

ซูเหยียนนั่งเล่น มองคนนั้นที อ่านหนังสือที ก็มีสาวใช้มาเรียกที่หน้าเรือน

“คุณหนูรอง คุณหนูใหญ่ให้ข้าน้อยมาเชิญเจ้าค่ะ”

“อืม” ซูเหยียนรับคำ นางลุกขึ้นแล้วเดินไปทางสวนดอกไม้ที่จัดเลี้ยงรับรอง

“พี่หญิง พี่ใหญ่ ท่านพี่” ซูเหยียนส่งเสียงเรียกเมื่อเจอพี่น้องของตน

“เหยียนเอ๋อร์ มาทางนี้” ซูโหย่วพี่ชายของซูเหยียนกวักมือเรียกน้องสาว ให้มาทำความรู้จักกับบรรดาคู่หมั้นทั้งหลาย

“นี่หลินจื่อตี๋ คู่หมั้นของพี่พวกเจ้าทำความรู้จักกันไว้นะ”

สตรีหน้าตาน่ารักจ้องมองซูเหยียนแล้วยิ้มสดใส

“ได้ยินมานานแล้วว่าท่านพี่ซูเหยียนงดงามล่มเมือง เป็นดังคำชม ไม่เกินจริง”

“ชมเกินไปแล้ว” ซูเหยียนยิ้มตอบ สายตาพลันมองเห็นบุรุษที่ไม่คุ้นหน้ากับสตรีที่เคยเจอมาก่อนหน้านี้

“นี่มู่จิงหนิง เจ้าเคยพบนางแล้ว” ซูหลีเอ่ยเสียงเรียบ ความสัมพันธ์ของเขากับสตรีนางนี้ไม่สู้ดีนัก นางชอบข่มเขาแล้วพูดจาดูถูกสกุลซูบ่อยครั้งจนเขาเอือมระอา

แต่ก็พูดอะไรมากไม่ได้เพราะเป็นสตรีที่ท่านแม่หามาให้

“คนนี้คือคู่หมั้นข้า ว่าที่พี่เขยเจ้า ซินเคอจี้” ซูโหรวญาติผู้พี่อีกคนเอ่ยแนะนำบุรุษหน้าตาเย่อหยิ่งจองหอง

บุรุษคนดังกล่าวไม่พูดจา แค่เพียงก้มหน้าเล็กน้อยทักทายซูเหยียน สายตากวาดมองนางตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าราวกับคนไม่เคยเรียนมารยาท

เขาก้มหน้าให้ นางจึงพยักหน้าตอบ แล้วมองเขาทั่วทั้งตัวเช่นกัน

บุรุษผู้นี้ หล่อไม่เท่าขี้เล็บต้าอิ้งคนของนางเลยแม้แต่น้อย

“โหรวเอ๋อร์ ญาติผู้น้องเจ้าเหตุใดถึงไร้มารยาทเช่นนี้”

ซินเคอจี้พูดกับซูโหรวให้ซูเหยียนได้ยิน “ข้าจะเป็นพี่เขยของนาง ดูนางสิไม่เอ่ยทักทาย ไม่มีความนอบน้อม”

“เป็นคนหยาบกระด้างเช่นนี้กระมัง ฝ่าบาทจึงไล่กลับมา” มู่จิงหนิงพูดสมทบ

คำพูดและสีหน้าท่าทางของคนทั้งสองทำให้ซูหลีกับซูโหรวเอือมระอาอย่างมาก ไม่รู้ว่าท่านแม่ของพวกเขาไปรู้จักคนตระกูลพวกนี้ได้อย่างไร

อยากจะถอนหมั้นให้รู้แล้วรู้รอด

“สกุลซูก็ช่างใจกล้าดีที่ส่งบุตรสาวมารยาทแย่แบบนี้เข้าวัง สงสัยคงเห็นว่าหน้าตาดีหน่อยฝ่าบาทคงพอพระทัย เหอะ สตรีงามล่มเมืองหาที่ไหนก็ได้”

ซินเคอจี้เอ่ยถากถาง เขาเตี๊ยมกับมู่จิงหนิงมาแล้ว ก่อนแต่งงานจะต้องข่มซูหลีกับซูโหรวให้อยู่หมัด เวลาแต่งงานไปสองคนนี้จะได้ไม่มีปากไม่มีเสียง

ตระกูลของพวกเขาจะได้เอาเปรียบอีกฝ่ายง่ายๆ ตระกูลที่ไม่ก้าวหน้าในเส้นทางขุนนาง อย่างไรเสียก็ต้องพึ่งบารมีสกุลของพวกเขาอยู่ดี

เดิมพวกเขาทั้งสองก็ไปพบหลินจื่อตี๋มาแล้ว แต่นางไม่เห็นด้วยกับความคิดเห็นของพวกเขา จึงปฏิเสธทันที

อย่างไรเสีย หลินจื่อตี๋ก็เป็นบุตรสาวของเจ้าเมืองหนาน ทั้งยังชอบพอกับซูโหย่วมาหลายปี ไม่ได้ถูกจับคู่เหมือนกับพวกเขา

มู่จิงหนิงกับซินเคอจี้จึงทำอะไรนางไม่ได้ ได้แต่ต้องร่วมมือกันเองสองคน

“ราชโองการ”

เสียงดังมาจากหน้าประตูจวน บ่าวชายและสาวรับใช้วิ่งหน้าตาแตกตื่นเพราะเพิ่งเคยเจอราชโองการเช่นนี้

บรรดาญาติผู้ใหญ่ในสกุลซูก็ตกใจเช่นกัน ซูเหยียนเพิ่งกลับจวนได้ไม่กี่วันก็มีราชโองการมาถึงจวน ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องดีหรือเรื่องร้าย

พวกเขารีบออกมาเรียงแถวคุกเข่ารับราชโองการอย่างรวดเร็ว

บุรุษร่างสูงหน้าตาเรียบร้อยแต่พยายามเก็กหน้าขรึมถือราชโองการเดินเข้ามา ด้านหลังของเขามีทหารองครักษ์ของจ้าวอิ้งฉางเดินมาเป็นขบวนสร้างความตื่นตระหนกให้คนภายในจวนเป็นอย่างมาก

เพราะแต่ละคนหน้าตาดุดัน ราวกับจะมาจับตัวคน

ทางด้านมู่จิงหนิงกับซินเคอจี้เห็นดังนั้นก็ตกใจกลัวจนตัวสั่น พวกเขารีบบอกเลิกกับซูหลีกับซูโหรว แล้วแยกตัวออกมาคุกเข่าด้านข้าง ทำเหมือนกับว่าหากสกุลซูนี้ทำผิดอะไรก็ไม่เกี่ยวข้องกับพวกเขา

บุรุษที่ถือราชโองการเห็นดังนั้นก็ลอบยกยิ้มมุมปาก ก่อนเปิดราชโองการออกมาอ่านเสียงดัง

Related chapters

  • ฝ่าบาท อย่ามาคลั่งรักหม่อมฉัน   ข้าคือสามีนาง

    “ราชโองการ ฝ่าบาททรงแต่งตั้งให้แม่นางซูเหยียนเข้าเป็นพระสนมในวัง รอแต่งตั้งเป็นฮองเฮา ส่วนขุนนางสกุลซูที่เคยถูกลดขั้น ให้เพิ่มคนละสามขั้นจากตำแหน่งปัจจุบัน ทั้งให้ย้ายกลับไปสังกัดเดิม ทำงานในเมืองหลวงเช่นเดิม”ผู้อื่นที่ได้ยินล้วนดีใจจนอยากจะกระโดดโลดเต้น สกุลซูจะได้กลับมามีหน้ามีตาอีกครั้ง ยกเว้นซูเหยียนที่สีหน้าซีดเผือกนางยกมือคัดค้านราชโองการนี้ทันที“ใต้เท้า ข้าคงเป็นฮองเฮาไม่ได้ เอ่อ ข้ามีสามีแล้ว” นางพูดตามความเป็นจริง สตรีไม่บริสุทธิ์เช่นนางจะเป็นพระสนมของฮ่องเต้ได้อย่างไรอีกทั้งฝ่าบาทเล่นอะไรอยู่ หน้าตานางก็ไม่เคยเห็น จู่ๆ มาทำกลับกลอกเดี๋ยวให้เข้าๆ ออกๆ วัง จะปั่นหัวนางกับสกุลซูหรืออย่างไรบุรุษที่ถือราชโองการยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ สตรีนางนี้ไม่เห็นแก่ลาภยศ ทั้งยังซื่อสัตย์ต่อตนเองและคนรัก เขาจึงก้มตัวลงไปกระซิบที่ข้างหูของซูเหยียน“ฝ่าบาทมีพระนามว่าจ้าวอิ้งฉาง แต่ใช้ชื่อต้าอิ้งเวลาพูดกับสหาย”ก่อนที่ซูเหยียนจะตกใจว่าบุรุษที่ตนเองนอนด้วยมานานคือฝ่าบาท นางกลับตกใจกับชื่อของเขา ชื่อจริงคือ ‘แข็งและยาว’ ชื่อเล่นที่ใช้เรียกคือ ‘ใหญ่และแข็ง’ ฝ่าบาทเป็นคนแบบใดกัน ถึงได้ตั้งชื่อเช่นนี้

    Last Updated : 2025-02-28
  • ฝ่าบาท อย่ามาคลั่งรักหม่อมฉัน   พากลับวัง

    ซูเหยียนนั่งแช่ชั่วครู่ นางหลับตาซึมซับความรู้สึกที่ห่างหายไปนาน และท่านี้เข้าลึกกว่าที่เคยทำมาทุกครั้งเวลาช่องรักตอดรัดความใหญ่ของอีกฝ่าย ทำให้รู้สึกดีจริงๆนั่งแช่สักพัก สักโพกกลมก็เริ่มถูไถบนท่อนล่างของบุรุษ มังกรยักษ์จึงถูกรูดเข้าออกจนบุรุษหลับตารับความสบายนี้ถูไถจนน้ำใสหลั่งออกมาเยอะพอประมาณ นางก็เปลี่ยนเป็นยกสะโพกขึ้นแล้วกดสะโพกลงล่าง เหมือนกับซาลาเปาตกใส่ตะปูปับ ปับ ปับ เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังขึ้นจ้าวอิ้งฉางมองเรือนร่างอวบอัดกระแทกขึ้นลง เต้านมสวยทั้งสองกระเด้งไปมา ท่อนเอ็นของตนก็ผลุบเข้าออกตามจังหวะของสะโพกกลมกลึงละสายตายากเสียจริงเขาเอื้อมมือหนาขึ้นขยำอกอวบอิ่ม นิ้วเรียวบีบและบี้ยอดถันอย่างเพลิดเพลินเสียงเนื้อกระทบเนื้อและเสียงครางดังออกมาถึงนอกเรือนพวกเขาไม่ได้ทำรักกันมาสิบกว่าวัน เจอกันทั้งทีจึงใส่กันไม่หยุดจ้าวอิ้งฉางเมื่อได้จังหวะก็ยกสะโพกกระแทกสวนบั้นท้ายของซูเหยียนที่กดลงมา ท่อนเอ็นใหญ่ตอกใส่ร่องรักจนหัวหยักแตะถึงปลายสุดโพรงรักของสตรี“อ้า” ซูเหยียนส่งสายตาหวานฉ่ำและเคลิบเคลิ้มให้บุรุษ บ่งบอกว่านางในตอนนี้ตกอยู่ในห้วงความซาบซ่านอย่างถอนตัวไม่ขึ้นจ้าวอิ้งฉางเห็

    Last Updated : 2025-02-28
  • ฝ่าบาท อย่ามาคลั่งรักหม่อมฉัน   ผักตัวน้อย

    เขาก้มลงดูดเม้มและเลียจุกหวานสีน้ำตาลอมชมพู ยิ่งเขาดูดดุนนานขึ้นก็พบว่าจุกหวานแข็งและขยายใหญ่ขึ้นเกือบเท่าปลายนิ้วก้อย แต่ก็ทำให้ดูดถนัดเต็มปากเต็มคำกว่าเดิมนี่คือการเตรียมเต้านมให้กับบุตรในอนาคตสินะ ยิ่งมารดายอดถันใหญ่ น้ำนมก็จะไหลออกมาได้มากเขาจึงไม่ลังเลใจดูดนมสองเต้าสลับไปมาดุจดั่งตนเองเป็นทารกแรกเกิดส่วนท่อนล่างก็กระแทกเร็วขึ้นและหนักขึ้น เพื่อที่จะได้ส่งน้ำเชื้อคุณภาพพุ่งสู่มดลูกทุกหยาดหยดทุกอย่างนี้ก็เพื่อโอรสสวรรค์ที่กำลังจะถือกำเนิดขึ้นเสด็จแม่จะบ่นก็บ่นไป ตอนนี้เขาไม่สนใจแล้วคืนนี้เขาจะจัดอีกหลายท่าและหลายชั่วยาม อย่างไรเสียช่วงนี้เสด็จพ่อยังสำเร็จราชการแทน ดังนั้นเขาจะส่งสตรีขึ้นแตะเส้นขอบฟ้าทั้งวันทั้งคืน และก็จะตามนางไปแตะขอบฟ้าทั้งวันทั้งคืนเช่นเดียวกัน........“ฉางเอ๋อร์แอบไปหาเหยียนเอ๋อร์อย่างนั้นหรือ”ไทเฮายกยิ้มมุมปากแสดงสีหน้าหมั่นไส้กับข่าวที่ได้รับมา“เขาไม่ได้กินยามาครึ่งเดือนแล้ว ก็ยังแข็งแรงดี ข้าว่าแล้วไม่มีผิด เขาไม่ได้ป่วยหรอก”นางบ่นลูกชายให้จ้าวอิงสืออดีตฮ่องเต้ฟัง“เอาน่า” จ้าวอิงสือเอ่ย“ตอนนั้นเขาคงประหม่า คิดว่าตนเองจะทำเรื่องแบบนั้นได้ไม่ดีพอ เ

    Last Updated : 2025-02-28
  • ฝ่าบาท อย่ามาคลั่งรักหม่อมฉัน   ครั้งแรกที่ได้ดูหนังสด

    “ตรงนี้เย็นสบายดีจัง”ซูเหยียน สตรีวัยสิบแปดปี ใบหน้ารูปแตง ดวงตากลมโต ริมฝีปากอวบอิ่ม เรือนร่างทั้งหน้าอกและสะโพกล้วนโค้งนูนยั่วยวนชวนให้หลงใหล นางหาที่ริมสระน้ำแล้วหย่อนตัวลงนั่งพักผ่อน ซูเหยียนเป็นสตรีที่ฮ่องเต้ทรงเพิกเฉยไม่สนพระทัย นางเข้าวังมาตั้งแต่อายุยังน้อย สิบสี่ขวบปีตระกูลซูส่งนางเข้าวังหลวงเพื่อให้รออภิเษกและแต่งตั้งเป็นฮองเฮา แต่เข้าวังได้ไม่ถึงหนึ่งเดือน ฮ่องเต้ก็เกิดไม่พอพระทัยสกุลซู คนในตระกูลของนางที่รับราชการถูกลดขั้นและไปทำงานต่างเมือง ส่งผลให้คนอื่นๆ ในครอบครัวต้องย้ายตามจนไม่มีผู้ใดอาศัยอยู่ในเมืองหลวง ส่วนตัวนางนั้นถูกส่งมาอยู่แปลงผักในเขตพระราชฐาน ขนาดตำหนักเย็นยังไม่ได้อยู่ ที่ตำหนักเย็นนั่นฮ่องเต้ให้เฉพาะสตรีที่เคยปรนนิบัติแล้วอยู่เท่านั้น นางจึงกลายเป็นสตรีตำแหน่งต่ำต้อยต้องมาคอยปลูกผัก ผักเหล่านี้ปลูกจากเมล็ดพันธุ์ที่เป็นของบรรณาการจากต่างแคว้น เมื่อได้ผลผลิตออกมาก็ถูกส่งให้ฮ่องเต้และบรรดาเชื้อพระวงศ์รวมถึงเหล่านางสนมขั้นสูงในวัง แต่ด้วยความดื้อรั้นของซูเหยียน ผักทั้งหมดที่เพาะปลูกได้นั้นมีหรือจะถูกส่งเข้าครัวหลวงทั้งหมด แน่นอนว่าน

    Last Updated : 2025-02-28
  • ฝ่าบาท อย่ามาคลั่งรักหม่อมฉัน   คนแปลกหน้า

    กำแพงวังหลวงที่สูงท่วมหัว หากไม่ใช่ผู้ที่มีวรยุทธสูงส่งก็ยากมากที่จะกระโดดข้ามได้ แต่ซูเหยียนที่พอมีพื้นฐานวรยุทธ ทั้งยังรู้เรื่องวังหลวงอย่างดี นางกระโดดจับไม้ไผ่จากต้นเตี้ยแล้วไล่ระดับไปที่ต้นสูง สุดท้ายก็กระโดดไปที่ขอบกำแพง ภายนอกกำแพงวังหลวงบริเวณนี้มีแผ่นไม้ขนาดเล็กติดไว้เป็นขั้นบันได คล้ายกับที่วัดส่วนสูงบนผนัง แต่ใช้วัดระดับน้ำคูเมือง หากสูงถึงสีแดงก็เตรียมตัวอพยพออกจากวังหลวงได้เลยซูเหยียนที่อยู่บนขอบกำแพงวังหลวงค่อยๆ ไต่แผ่นไม้วัดระดับน้ำลงมาทีละขั้น ใกล้ถึงด้านล่างก็หยิบท่อนไม้ที่วางซุกพิงกำแพงมาวางพาดข้ามคูน้ำ จากนั้นก็เดินบนท่อนไม้ข้ามคูน้ำอย่างช่ำชอง กว่าจะออกนอกวังหลวงไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับคนทั่วไป ซูเหยียนต้องใช้เวลาเกือบปีถึงคิดวิธีนี้ได้นางดึงท่อนไม้มาวางซ่อนใต้น้ำอีกด้านของคูน้ำ แล้วก็มุ่งหน้าไปยังชุมชนเล็กๆ ที่คนยากไร้อยู่ นางมาที่นี่บ่อยครั้ง ส่วนมากก็นำผักผลไม้มาให้พวกเขา บางครั้งก็แอบนอนสักหนึ่งคืนแล้วค่อยกลับ การมาที่นี่ทำให้นางไม่เหงาจนคิดถึงครอบครัวมากเกินไปชาวบ้านที่นี่ต่างรักและเอ็นดูนาง พวกเขาถึงขั้นสร้างบ้านหลังเล็กไว้ให้ใกล้ๆ กับคูน้ำบริเวณที่นางข้ามม

    Last Updated : 2025-02-28
  • ฝ่าบาท อย่ามาคลั่งรักหม่อมฉัน   สรรพคุณของยา

    ขณะที่บุรุษยุ่งวุ่นวายตรงหน้าอกอวบทั้งสองเต้า มือหนาก็เลื่อนลงล่างไปแหวกชุดของสตรีออกแล้วดึงกางเกงทุกชิ้นจนออกมากองที่เข่า จากนั้นนิ้วเท้าของเขาก็รับช่วงต่อ เขี่ยจากเข่าลงไปจนหลุดออกจากปลายเท้า เมื่อไม่มีอาภรณ์ปกปิดช่วงล่าง ฝ่ามือหนาของบุรุษก็ตรงเข้าไปขยำเนินเนื้อนุ่ม นิ้วโป้งคลึงเกสรดอกไม้ด้านล่าง นิ้วชี้กับกลางก็ค่อยๆ แหวกช่องรักแล้วแหย่เข้าไปช้าๆ อืม มันช่างนุ่ม ชุ่มชื้นและอุ่นเสียจริง ถ้าได้ลองยัดของจริงเข้าไปคงจะสบายตัวกว่านี้ สบายตรงส่วนนั้นน่ะ บุรุษคิดพร้อมขยับนิ้วมือเข้าออกโพรงเนื้อนุ่ม ซูเหยียนเมื่อถูกนิ้วแกร่งแยงเข้าออกช่องทางรัก นางก็หลับตาสูดปากเคลิบเคลิ้ม เพิ่งเคยรู้ว่าการถูกล่วงล้ำช่างเสียวซ่านเหลือเกิน มิน่าล่ะ ใครๆ ก็ชอบกัน นิ้วร้ายแยงเข้าออกพร้อมทั้งคลึงจุดเสียว ไม่นานนักซูเหยียนก็เสียวจนรู้สึกว่าน้ำในร่างกายไหลลงมารวมกันอยู่ที่ท้องน้อย และพร้อมจะออกสู่นอกร่างกายได้ทุกเมื่อ นางส่งเสียงครางถี่ขึ้นกว่าเดิม บุรุษจึงต้องถอนริมฝีปากจากเต้าอวบมาประกบปิดปากของหญิงสาว เสียงดังเกินไปเดี๋ยวชาวบ้านคนอื่นจะตื

    Last Updated : 2025-02-28
  • ฝ่าบาท อย่ามาคลั่งรักหม่อมฉัน   ความง่วงเป็นเหตุ

    กลางดึกคืนนั้นเอง จ้าวอิ้งฉางสวมฉลองพระองค์สีดำล้วน เขาออกจากตำหนักหมิงเหอโดยไม่ให้ผู้ใดพบเจอบุรุษเลือกเส้นทางลัดเพื่อไปทางป่าไผ่ จากนั้นก็กระโดดข้ามกำแพงวังอย่างง่ายดายทุกอย่างช่างรวดเร็ว ทว่าในใจของบุรุษอยากให้ทุกอย่างช้าลงเขากลัวว่าหากเจอสตรีคนเมื่อวาน แล้วถ้าความเป็นชายของเขาไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง ตนเองควรจะทำอย่างไรดีเพราะตอนนี้ปัญหาตรงส่วนนั้นและการมีบุตรล้วนฝากไว้ที่นาง หวังว่านางจะช่วยเขาคลี่คลายสถานการณ์ได้จ้าวอิ้งฉางรวบรวมความมั่นใจ ก้าวเท้าไปทางบ้านหลังเล็กริมคูน้ำ เมื่อไปถึงก็พบว่าบ้านนั้นมืดสนิท ไม่มีแสงไฟลอดออกมา และก็ไม่มีสัญญาณของสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่เขาเดินดูรอบบ้านก็ได้แต่ขมวดคิ้วงุนงง สตรีนางนั้นถึงขั้นหอบผ้าหอบผ่อนหนีเขาไป หรือเพราะเขาไม่เอาไหน พานางขึ้นสวรรค์ไม่ได้ นางจึงไม่อยากไปต่อกับเขาคิดไปคิดมาเขาก็กลับวังด้วยความหงุดหงิดงุ่นง่าน ........บ้านหลังเล็กในแปลงผักหลังวังซูเหยียนถูกปลุกขึ้นมากลางดึก เพราะเข่อถิงบอกว่าฝ่าบาทต้องการเสวยผักสดๆ จากต้นนางงัวเงียตื่น บิดขี้เกียจเล็กน้อยแล้วก็บ่นไม่หยุด “ใครเขาเก็บผักเวลานี้กัน ผักในครัวสดไม่พอหรืออย่างไร” สตรีเด

    Last Updated : 2025-02-28
  • ฝ่าบาท อย่ามาคลั่งรักหม่อมฉัน   เข้าได้นิดหน่อย

    จ้าวอิ้งฉางใช้มือหนาดันต้นขาขาวของสตรีให้ยกสูงและกว้างขึ้น จากนั้นก้มหน้าเข้าซอกระหว่างขาของสตรี จมูกโด่งแตะที่เนินเนื้อนุ่มแล้วแลบลิ้นเลียกลีบดอกไม้ที่ขนาบร่องฉ่ำทั้งสองข้าง มือข้างหนึ่งก็ยื่นนิ้วเรียวคลึงติ่งเกสรนูนที่เริ่มโผล่ยื่นออกมาทักทาย“อื้ม อ้า”สตรีที่หลับลึกส่งเสียงครางหวานให้ใจบุรุษหวั่นไหว เขาอยากจะทำขั้นตอนต่อไปเร็วๆ แล้วแต่ก็ต้องข่มกลั้นเอาไว้ จับเรียวขาขาวพาดบ่าของตน แล้วใช้ลิ้นชิมความหวานส่วนล่างของสตรีอย่างพิถีพิถันอืม มันก็นุ่ม เพลินและถูกปากดีนะจิ้วอิ้งฉางพอได้ลองสัมผัสก็เริ่มติดใจ เขาตวัดลิ้นร้อนขึ้นลงและสอดเข้าร่องที่ชุ่มฉ่ำ ริมฝีปากก็ดูดเม้มเนื้อนุ่มเป็นระยะ ทำให้สตรีใต้ร่างแอ่นสะโพกสูงขึ้นราวกับต้องการให้เขากินถนัดกว่าเดิมใช้เวลาประมาณหนึ่งถ้วยน้ำชา ร่างอวบอัดก็เริ่มกระตุกเกร็ง น้ำหวานไหลออกมาจากช่องทางรัก เขาจึงช่วยเลียทำความสะอาดอย่างไม่รังเกียจหลังจากนั้นบุรุษก็เปลี่ยนท่าทางของตน เขานั่งคุกเข่าแล้วดันโคนขาสตรียกสูงอีกครั้ง อีกทั้งยังจับกางออกจนกลีบเนื้ออ้าออก เห็นปากทางเข้าโพรงรักเขากลืนน้ำลายอึกใหญ่ สูดลมหายใจเข้าจนลึก มังกรตัวใหญ่ยาวด้านล่างเริ่มขยับ

    Last Updated : 2025-02-28

Latest chapter

  • ฝ่าบาท อย่ามาคลั่งรักหม่อมฉัน   ผักตัวน้อย

    เขาก้มลงดูดเม้มและเลียจุกหวานสีน้ำตาลอมชมพู ยิ่งเขาดูดดุนนานขึ้นก็พบว่าจุกหวานแข็งและขยายใหญ่ขึ้นเกือบเท่าปลายนิ้วก้อย แต่ก็ทำให้ดูดถนัดเต็มปากเต็มคำกว่าเดิมนี่คือการเตรียมเต้านมให้กับบุตรในอนาคตสินะ ยิ่งมารดายอดถันใหญ่ น้ำนมก็จะไหลออกมาได้มากเขาจึงไม่ลังเลใจดูดนมสองเต้าสลับไปมาดุจดั่งตนเองเป็นทารกแรกเกิดส่วนท่อนล่างก็กระแทกเร็วขึ้นและหนักขึ้น เพื่อที่จะได้ส่งน้ำเชื้อคุณภาพพุ่งสู่มดลูกทุกหยาดหยดทุกอย่างนี้ก็เพื่อโอรสสวรรค์ที่กำลังจะถือกำเนิดขึ้นเสด็จแม่จะบ่นก็บ่นไป ตอนนี้เขาไม่สนใจแล้วคืนนี้เขาจะจัดอีกหลายท่าและหลายชั่วยาม อย่างไรเสียช่วงนี้เสด็จพ่อยังสำเร็จราชการแทน ดังนั้นเขาจะส่งสตรีขึ้นแตะเส้นขอบฟ้าทั้งวันทั้งคืน และก็จะตามนางไปแตะขอบฟ้าทั้งวันทั้งคืนเช่นเดียวกัน........“ฉางเอ๋อร์แอบไปหาเหยียนเอ๋อร์อย่างนั้นหรือ”ไทเฮายกยิ้มมุมปากแสดงสีหน้าหมั่นไส้กับข่าวที่ได้รับมา“เขาไม่ได้กินยามาครึ่งเดือนแล้ว ก็ยังแข็งแรงดี ข้าว่าแล้วไม่มีผิด เขาไม่ได้ป่วยหรอก”นางบ่นลูกชายให้จ้าวอิงสืออดีตฮ่องเต้ฟัง“เอาน่า” จ้าวอิงสือเอ่ย“ตอนนั้นเขาคงประหม่า คิดว่าตนเองจะทำเรื่องแบบนั้นได้ไม่ดีพอ เ

  • ฝ่าบาท อย่ามาคลั่งรักหม่อมฉัน   พากลับวัง

    ซูเหยียนนั่งแช่ชั่วครู่ นางหลับตาซึมซับความรู้สึกที่ห่างหายไปนาน และท่านี้เข้าลึกกว่าที่เคยทำมาทุกครั้งเวลาช่องรักตอดรัดความใหญ่ของอีกฝ่าย ทำให้รู้สึกดีจริงๆนั่งแช่สักพัก สักโพกกลมก็เริ่มถูไถบนท่อนล่างของบุรุษ มังกรยักษ์จึงถูกรูดเข้าออกจนบุรุษหลับตารับความสบายนี้ถูไถจนน้ำใสหลั่งออกมาเยอะพอประมาณ นางก็เปลี่ยนเป็นยกสะโพกขึ้นแล้วกดสะโพกลงล่าง เหมือนกับซาลาเปาตกใส่ตะปูปับ ปับ ปับ เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังขึ้นจ้าวอิ้งฉางมองเรือนร่างอวบอัดกระแทกขึ้นลง เต้านมสวยทั้งสองกระเด้งไปมา ท่อนเอ็นของตนก็ผลุบเข้าออกตามจังหวะของสะโพกกลมกลึงละสายตายากเสียจริงเขาเอื้อมมือหนาขึ้นขยำอกอวบอิ่ม นิ้วเรียวบีบและบี้ยอดถันอย่างเพลิดเพลินเสียงเนื้อกระทบเนื้อและเสียงครางดังออกมาถึงนอกเรือนพวกเขาไม่ได้ทำรักกันมาสิบกว่าวัน เจอกันทั้งทีจึงใส่กันไม่หยุดจ้าวอิ้งฉางเมื่อได้จังหวะก็ยกสะโพกกระแทกสวนบั้นท้ายของซูเหยียนที่กดลงมา ท่อนเอ็นใหญ่ตอกใส่ร่องรักจนหัวหยักแตะถึงปลายสุดโพรงรักของสตรี“อ้า” ซูเหยียนส่งสายตาหวานฉ่ำและเคลิบเคลิ้มให้บุรุษ บ่งบอกว่านางในตอนนี้ตกอยู่ในห้วงความซาบซ่านอย่างถอนตัวไม่ขึ้นจ้าวอิ้งฉางเห็

  • ฝ่าบาท อย่ามาคลั่งรักหม่อมฉัน   ข้าคือสามีนาง

    “ราชโองการ ฝ่าบาททรงแต่งตั้งให้แม่นางซูเหยียนเข้าเป็นพระสนมในวัง รอแต่งตั้งเป็นฮองเฮา ส่วนขุนนางสกุลซูที่เคยถูกลดขั้น ให้เพิ่มคนละสามขั้นจากตำแหน่งปัจจุบัน ทั้งให้ย้ายกลับไปสังกัดเดิม ทำงานในเมืองหลวงเช่นเดิม”ผู้อื่นที่ได้ยินล้วนดีใจจนอยากจะกระโดดโลดเต้น สกุลซูจะได้กลับมามีหน้ามีตาอีกครั้ง ยกเว้นซูเหยียนที่สีหน้าซีดเผือกนางยกมือคัดค้านราชโองการนี้ทันที“ใต้เท้า ข้าคงเป็นฮองเฮาไม่ได้ เอ่อ ข้ามีสามีแล้ว” นางพูดตามความเป็นจริง สตรีไม่บริสุทธิ์เช่นนางจะเป็นพระสนมของฮ่องเต้ได้อย่างไรอีกทั้งฝ่าบาทเล่นอะไรอยู่ หน้าตานางก็ไม่เคยเห็น จู่ๆ มาทำกลับกลอกเดี๋ยวให้เข้าๆ ออกๆ วัง จะปั่นหัวนางกับสกุลซูหรืออย่างไรบุรุษที่ถือราชโองการยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ สตรีนางนี้ไม่เห็นแก่ลาภยศ ทั้งยังซื่อสัตย์ต่อตนเองและคนรัก เขาจึงก้มตัวลงไปกระซิบที่ข้างหูของซูเหยียน“ฝ่าบาทมีพระนามว่าจ้าวอิ้งฉาง แต่ใช้ชื่อต้าอิ้งเวลาพูดกับสหาย”ก่อนที่ซูเหยียนจะตกใจว่าบุรุษที่ตนเองนอนด้วยมานานคือฝ่าบาท นางกลับตกใจกับชื่อของเขา ชื่อจริงคือ ‘แข็งและยาว’ ชื่อเล่นที่ใช้เรียกคือ ‘ใหญ่และแข็ง’ ฝ่าบาทเป็นคนแบบใดกัน ถึงได้ตั้งชื่อเช่นนี้

  • ฝ่าบาท อย่ามาคลั่งรักหม่อมฉัน   ราชโองการ

    มู่จิงหนิงเห็นท่าทางของซูหลีก็เกิดอาการไม่พอใจ นางยอมลดตัวเป็นคู่หมั้นของคนสกุลซูก็ดีเท่าไหร่แล้ว ใครๆ ต่างก็รู้ว่าสกุลซูเพิ่งย้ายมาอยู่ที่เมืองหนานได้เพียงห้าปี นายท่านแต่ละคนเป็นขุนนางที่ถูกลดขั้นมาจากเมืองหลวงสกุลดังแต่ไม่เป็นที่โปรดปราน ลูกหลานจะได้ดิบได้ดีแค่ไหนเชียวตอนนี้หลินจื่อตี๋ คู่หมั้นของซูโหย่วผู้ซึ่งเป็นพี่ชายของซูเหยียนออกไปท่องเที่ยวต่างเมือง มู่จิงหนิงจึงข่มใจรอให้นางกลับมาเสียก่อน แล้วค่อยชวนมาต้อนรับซูเหยียนกลับจวนสตรีที่ถูกบุรุษปฏิเสธ น่าอับอายอย่างมาก มู่จิงหนิงอยากจะทำให้ซูเหยียนรู้บ้างว่านางไม่ใช่คนที่จะเมินใส่ได้ง่ายๆ........ซูเหยียนเข้ามาภายในจวนท่ามกลางสายาตาแปลกประหลาดของบ่าวรับใช้ แต่เมื่อเดินใกล้เรือนหลักก็มีพ่อบ้านเก่าแก่ของสกุลซูวิ่งเข้ามาทักทายนางสีหน้าดีใจ“คุณหนูรองกลับมาแล้ว”“พ่อบ้านหมี่” ซูเหยียนยิ้มตอบ นางกวาดสายตาสำรวจเขาแล้วกล่าว “ท่านยังดูแข็งแรงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน”“คุณหนูรองชมเกินไปแล้ว พวกนายท่านอยู่ด้านใน เชิญคุณหนูเข้าไปเถอะ”ซูเหยียนพยักหน้ารับ นางก้าวเท้าเข้าเรือนหลัก เรือนนี้เป็นเรือนที่ใช้พูดคุยพร้อมหน้าพร้อมตาของคนในตระกูล รวมถึ

  • ฝ่าบาท อย่ามาคลั่งรักหม่อมฉัน   ส่งกลับบ้าน

    ช่วงสายของอีกวันขณะที่ซูเหยียนกำลังกินอาหารเช้าในสวนหย่อมอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงพ่อบ้านกับคนงานสกุลซูพูดคุยกันน้ำเสียงกังวลใจ“คุณหนูรองไม่เห็นกลับจวนเลย ไหนว่าฝ่าบาทปลดนางสนมทุกคน และส่งตัวออกนอกวังแล้ว”ซูเหยียนนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง เริ่มเข้าใจสถานการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นนางได้รับอิสระแล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่าเป็นอิสระจริงๆ นางยังต้องกลับจวนสกุลซู กลับไปหาครอบครัว ทว่าตอนนี้นางมีบุรุษคนหนึ่งข้างกาย ทั้งยังมีสัมพันธ์ลึกซึ้งโดยที่ยังไม่ได้แต่งงานกันจะทำอย่างไรดี จะบอกแต่ละฝ่ายอย่างไรเรื่องที่นางเคยเป็นสตรีของฮ่องเต้สุดท้ายต้าอิ้งก็ต้องรู้อยู่ดีสตรีรีบกินข้าวจนอิ่มแล้วกลับเรือนไปคิดหาทางออกอย่างแรกก็คือ จะไปจวนสกุลซูด้านข้างอย่างไร ในเมื่อคนของจ้าวอิ้งฉางคอยจับตามองเวลาที่นางป้วนเปี้ยนพยายามปีนออกนอกกำแพงจวนระหว่างที่ซูเหยียนเดินวนไปเวียนมาภายในเรือนอยู่นั้น ก็มีเสียงฝีเท้าของคนจำนวนมากดังขึ้น นางแง้มประตูออกดูก็เห็นบุรุษเรือนกายสูงใหญ่ ตรงกลางเป็นสตรีวัยกลางคนที่มีใบหน้าคุ้นตาไทเฮา“ข้าจะพูดคุยกับแม่นางคนนี้ตามลำพัง พวกเจ้าออกไปให้หมด”ไทเฮาสั่งทั้งกงกง องครักษ์ของตนเองและองครักษ์

  • ฝ่าบาท อย่ามาคลั่งรักหม่อมฉัน   ถูกสืบข่าว

    “ฝ่าบาท เกิดเรื่องแล้วพะย่ะ” หยางกงกงเอ่ยขึ้น สายตามองจ้าวอิ้งฉางเป็นคนแรกก่อนหันมองที่จินเผย “พูดมาเถอะ เขาฟังได้”จ้าวอิ้งฉางกล่าวเสียงราบเรียบ เขากับจินเผยสนิทกันมาก หากไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายระดับบิดามารดาถือมีดไล่ฟันกันด้วยเรื่องชู้สาวก็ไม่มีความจำเป็นต้องปิดบังกัน เรื่องนี้หยางกงกงก็รู้ดี เพียงแต่ต้องการคำรับรองจากจ้าวอิ้งฉาง “กุ้ยเฟยทรงตั้งครรภ์พะย่ะค่ะ อายุครรภ์ประมาณสามเดือน” หยางกงกงกราบทูล สายตาหลุบต่ำรอการตัดสินใจ “กุ้ยเฟยตั้งครรภ์หรือ กับใครกัน”จินเผยขมวดคิ้วสีหน้าสงสัย กุ้ยเฟยเพิ่งถูกแต่งตั้งได้ตำแหน่งไม่นาน จ้าวอิ้งฉางก็ไม่เคยไปหานาง ที่สำคัญก็คือ ถึงไปหาก็ไม่สามารถทำอะไรได้ แล้วนางจะท้องได้อย่างไรหากไม่ใช่เพราะบุรุษอื่นช่วยทำแทน ทั้งหยางกงกงและจินเผยลอบมองจ้าวอิ้งฉาง พวกเขาคิดว่าจ้าวอิ้งฉางคงโกรธเกรี้ยวเพราะตนเองถูกสวมหมวกเขียว กลับกลายเป็นว่าจ้าวอิ้งฉางพูดน้ำเสียงปกติไม่มีคลื่นอารมณ์ใดเจือปน “ปลดนางออกจากตำแหน่งกุ้ยเฟย ส่งนางกลับสกุลเดิม อ่อ หาตัวพ่อเด็กมารับผิดชอบภายในเวลาห้าวัน”

  • ฝ่าบาท อย่ามาคลั่งรักหม่อมฉัน   สำเร็จลุล่วง

    “เสียงร้องครางเช่นนี้เด็ดเสียจริง ทำเอาข้าอยากไปส่งเสียงให้กำลังใจถึงภายในห้อง”จินเผยนั่งโต๊ะที่อยู่ไม่ไกลเรือนนอน เมื่อได้ยินเสียงก็รู้สึกคึกคักอยากโห่ร้องเสียงดัง อีกใจก็อยากเข้าไปชี้แนะอย่างละเอียดยิบที่ข้างเตียง เห็นเขาหน้าตาหงิมๆ ดูเรียบร้อย ทว่าตั้งแต่ศึกษาเรื่องอย่างว่าพร้อมกับจ้าวอิ้งฉาง เขาก็ลองใช้ทฤษฎีปฏิบัติกับนางคณิกา เมื่อค้นพบว่าสุขสม ล่องลอยและสบายตัว เขาจึงไปหอนางโลมเพื่อทบทวนทักษะนี้อยู่เป็นประจำ อนาคตฮูหยินของเขาต้องติดใจร้องขอไม่หยุดปากแน่นอน ........ ร่างของสตรีกระตุกเกร็ง ท่อนล่างตอดรัดนิ้วเรียวตุบๆ แถมยังหลั่งน้ำใสชโลมนิ้วจนสตรีต้องหลบสายตาของบุรุษที่จ้องมองใบหน้านางด้วยความพอใจ ใช้แค่นิ้วก็ส่งนางขึ้นสวรรค์ได้แล้ว เขานี้เก่งกาจเสียจริง บุรุษมองสายตาเย้ายวนของสตรี จากนั้นก็ลงมือในขั้นตอนถัดไป ลงลิ้นให้สะโพกนางร่อนไปมา โลมเลียให้นางเสียวซ่านร้องครางลั่นห้อง เขาก้มหน้าลงให้จมูกและปากประทับลงบนร่องรักที่ยังเปียกชุ่ม ลิ้นร้อนตวัดเลียความหวานบนกลีบเนื้อแล้วสลับแหย่ร่องรักพร

  • ฝ่าบาท อย่ามาคลั่งรักหม่อมฉัน   พามาเป็นเมียเก็บ

    “นี่ท่านจะพาข้าไปไหน”ซูเหยียนดิ้นรนขัดขืนในอ้อมแขนแกร่งของจ้าวอิ้งฉาง นางอุตส่าห์หาที่หลบซ่อนตัวได้แล้ว ดันมาเจอคนที่ตนเองหนีหน้าเสียง่ายๆ “ไม่ต้องดิ้นแล้ว เจ้าหนีข้าไม่พ้นหรอก”จ้าวอิ้งฉางเอ่ยเสียงเข้ม เขายังคิดหาที่ดีๆ พานางไปหลบซ่อนตัวไม่ได้ จะพาเข้าวังโดยที่นางสถานะเป็นแม่หม้าย คงถูกบรรดาสนมในวังเล่นงาน และถ้าเกิดเล็ดลอดเข้าหูของขุนนางบางคน เขาคงถูกถวายฎีกาให้เลิกข้องเกี่ยวกับนาง “สามีเจ้าตายไปกี่ปีแล้ว”จ้าวอิ้งฉางวางซูเหยียนบนรถม้า ต้องเริ่มวางแผนนำสตรีนางนี้เข้าวังอย่างถูกต้องตามธรรมเนียม ซูเหยียนกรอกตาครุ่นคิดรวดเร็ว “สองปี ข้ายังต้องไว้ทุกข์” นางโกหกเพื่อที่จะได้ไม่ต้องทำเรื่องน่าอายกับบุรุษผู้นี้อีก “เกินครึ่งปีก็พอแล้ว” จ้าวอิ้งฉางกล่าวเสียงเรียบ เขาคิดว่าสตรีที่แต่งงานแต่ไม่ได้มีอะไรกับสามี ก็เหมือนไม่มีสิ่งใดเกี่ยวข้องกัน ที่มีปัญหาก็แค่ครอบครัวของทั้งสองฝ่าย เห็นทีกลับวังไปเขาต้องออกราชโองการ ปล่อยสตรีหม้ายทุกคนที่สามีเสียชีวิตเกินหนึ่งปีสามารถเป็นอิสระจากตระกูลสามีและแต่งงานใหม่ได้ จากน

  • ฝ่าบาท อย่ามาคลั่งรักหม่อมฉัน   เข้าได้นิดหน่อย

    จ้าวอิ้งฉางใช้มือหนาดันต้นขาขาวของสตรีให้ยกสูงและกว้างขึ้น จากนั้นก้มหน้าเข้าซอกระหว่างขาของสตรี จมูกโด่งแตะที่เนินเนื้อนุ่มแล้วแลบลิ้นเลียกลีบดอกไม้ที่ขนาบร่องฉ่ำทั้งสองข้าง มือข้างหนึ่งก็ยื่นนิ้วเรียวคลึงติ่งเกสรนูนที่เริ่มโผล่ยื่นออกมาทักทาย“อื้ม อ้า”สตรีที่หลับลึกส่งเสียงครางหวานให้ใจบุรุษหวั่นไหว เขาอยากจะทำขั้นตอนต่อไปเร็วๆ แล้วแต่ก็ต้องข่มกลั้นเอาไว้ จับเรียวขาขาวพาดบ่าของตน แล้วใช้ลิ้นชิมความหวานส่วนล่างของสตรีอย่างพิถีพิถันอืม มันก็นุ่ม เพลินและถูกปากดีนะจิ้วอิ้งฉางพอได้ลองสัมผัสก็เริ่มติดใจ เขาตวัดลิ้นร้อนขึ้นลงและสอดเข้าร่องที่ชุ่มฉ่ำ ริมฝีปากก็ดูดเม้มเนื้อนุ่มเป็นระยะ ทำให้สตรีใต้ร่างแอ่นสะโพกสูงขึ้นราวกับต้องการให้เขากินถนัดกว่าเดิมใช้เวลาประมาณหนึ่งถ้วยน้ำชา ร่างอวบอัดก็เริ่มกระตุกเกร็ง น้ำหวานไหลออกมาจากช่องทางรัก เขาจึงช่วยเลียทำความสะอาดอย่างไม่รังเกียจหลังจากนั้นบุรุษก็เปลี่ยนท่าทางของตน เขานั่งคุกเข่าแล้วดันโคนขาสตรียกสูงอีกครั้ง อีกทั้งยังจับกางออกจนกลีบเนื้ออ้าออก เห็นปากทางเข้าโพรงรักเขากลืนน้ำลายอึกใหญ่ สูดลมหายใจเข้าจนลึก มังกรตัวใหญ่ยาวด้านล่างเริ่มขยับ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status