นางเคยเป็นดั่งดอกบัวขาว บริสุทธิ์ผุดผ่องมองแล้วสบายตา แต่เขาและน้องสาวต่างมารดาของนางกลับมาแต้มหมึกดำลงบนบัวขาวดอกนี้ คุณหนูเยว่เหลียน นางเปรียบดั่งดอกบัวขาว งดงามใสสะอาดบริสุทธิ์ผุดผ่อง รอยยิ้มของนางกระจ่างใส ไม่ว่าผู้ใดอยู่ใกล้นางก็สบายใจ ฮูหยินตระกูลเยว่และตระกูลตงเป็นสหายรักกันเติบโตเคียงข้างกันมาตั้งแต่เยาว์วัย เมื่อเยว่ฮูหยินคลอดบุตรสาวออกมา จึงถูกจับหมั้นหมายกับคุณชายรองของตระกูลตงทันที แต่เยว่ฮูหยินก็บุญน้อยเสียเหลือเกิน ไม่สามารถเฝ้ามองบุตรสาวผู้งดงามเติบใหญ่ได้ เยว่ฮูหยินจมน้ำเสียชีวิตเมื่อเยว่เหลียนอายุเพียงห้าปี
View Moreบทที่31“ที่ช่วงนี้พระชายาทรงรู้สึกเพลีย ๆ มิได้เป็นเพราะพระองค์ทรงงานหนักไปหรอกพ่ะย่ะค่ะ แต่เป็นเพราะกำลังทรงตั้งครรภ์ต่างหาก” ใบหน้าของเยว่เหลียนแดงซ่าน นางเพิ่งคลอดอาฉีออกมาได้ไม่นานนัก เหตุใดจึงตั้งครรภ์อีกแล้วเล่า “เช่นนี้เองที่เขาบอกว่าหัวปีท้ายปี จริงไหมตาเฒ่าหงเฉิน” คนเป็นตาทั้งสองที่ตอนแรกเป็นห่วงรีบมาเยี่ยมหลานและหลานสะใภ้ที่หมดสติ กลายเป็นว่านี่คือเรื่องมงคลจะต้องกลับไปฉลองกันเสียแล้ว“ทำไมทำหน้าเช่นนั้น เจ้าไม่ดีใจหรือ” หลังจากทุกคนออกไปจากห้องตงห่าวก็เอ่ยถามชายาของตน “มิใช่ไม่ดีใจ แต่ข้าอาย” เยว่เหลียนไม่เคยรู้สึกเขินอายเท่านี้มาก่อน นางเพิ่งคลอดลูกไปได้ไม่นานแท้ ๆ“อายทำไมกันเล่า เรื่องธรรมชาติ ใครก็เป็นเช่นนี้กันได้ทั้งนั้น ดีเสียอีก อาฉีจะได้มีน้องอายุไล่ ๆ กัน ถ้าคนนี้เป็นชายก็ดีนะสิ ตระกูลหงของท่านตาก็จะได้มีคนสืบต่อ”และทั้ง ๆ ที่สองคนหมายมั่นเอาไว้เช่นนั้นแต่ท้องที่สองกลับกลายเป็นธิดาไปเสียได้ มิใช่มิยินดี แน่นอนว่าเด็กหญิงก็น่ารักไปอีกแบบ และครานี้ตงชี่จวิ้นก็หลงรักหลานตัวน้อยของเขาเอามาก ๆ ถึงขนาดมาอยู่เมืองฉีนานนับปีจนคนเป็นตงฮูหยินต้องกลับไปเมืองหลวงก่อน เพรา
บทที่30ทุกอย่างกลับเข้าสู่สภาวะปกติ หลังจากช่วยเลี้ยงหลานอยู่นานนับเดือน ตงชี่จวิ้นก็กลับไปเมืองหลวงพร้อมกับฮูหยินของตน เพราะได้ข่าวว่าอนุ ต้องบอกว่ายามนี้นางเป็นฮูหยินเอกของคุณชายรองตงเนี่ยนเจินก็กำลังจะคลอดลูกไม่ต่างกัน และเพราะคำนั้นทำให้เยว่เหลียนแกล้งเอ่ยถามกับสามีของนางเกี่ยวกับเยว่เม่ย“ข้าขอโทษที่ปิดบังเจ้า แต่สถานการณ์ของตระกูลเยว่ไม่ดีนัก”ทั้ง ๆ ที่ตงห่าวกังวลกลัวว่าพระชายาของตนจะรู้สึกไม่ดีเกี่ยวกับข่าวของตระกูลทางบิดา แต่ก็เปล่าใบหน้าของเยว่เหลียนนิ่งสนิท “หม่อมฉันไม่ได้เป็นคนที่สูงส่งขนาดจะไม่รู้สึกอะไรกับคนที่ทำร้ายมารดาหรอกเพคะ”ตงห่าวดึงพระชายาตนเข้ามากอด “ใช้คำพวกนี้อีกแล้ว ข้าบอกเจ้าว่าอย่างไร” เยว่เหลียนมองพระสวามีของนางที่ตอนนี้รับตำแหน่งแทนท่านตาเรียบร้อยแล้ว“เรื่องบางเรื่องก็ควรทำเพื่อให้คนอื่นดู แต่หากพระองค์อยากได้ยินหม่อมฉันคุยกับท่านอ๋องเช่นพระองค์เหมือนแต่ก่อน คงต้องรอยามที่อยู่กันสองต่อสองแล้ว” ตงห่าวมองคนรักของเขาที่นับวันก็ดูคล้ายจะยั่วยวนมากขึ้นทุกขณะ“ว่าแต่เจ้าแน่ใจนะเรื่องตระกูลเยว่”เยว่เหลียนพยักหน้า “หากพระองค์จะช่วยอะไรก็ทำแต่พอดีเถอะเพคะ แต่
บทที่29หลังจากคำนั้นของสามีเยว่เหลียนก็ต้องปลอบใจคนตัวใหญ่ใจเล็กอยู่นาน อีกฝ่ายทั้งอายุมากกว่า ทั้งเก่งกาจ ทำทุกอย่างได้ดีไปหมดจนบางครั้งหญิงสาวก็ลืมไปว่าบางอย่างก็ต้องพูดกันตรง ๆ “ท่านพี่ข้าขอโทษ เพราะเป็นฝ่ายที่ถูกท่านรักจนเคยชินจึงลืมที่จะเอ่ยความในใจออกไป ข้ารักท่านมานานมากแล้ว งานมงคลของเราก็ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะความไม่เต็มใจ ท่านพี่อย่ากังวลใจไปนะเจ้าคะ” มือเรียวประคองใบหน้าของผู้เป็นสามีเข้ามาจุมพิตเบา ๆ หลังจากรับรู้ความรู้สึกของตงห่าวในวันนี้ เยว่เหลียนต้องยอมรับเลยว่าทุกสิ่งมันทำให้นางมองตงห่าวไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป แต่มิใช่ในทางที่ไม่ดี นางกลับรู้สึกว่าชายหนุ่มนั้นดูเป็นคนธรรมดามากขึ้น มิได้เพียบพร้อมไปเสียทุกสิ่ง"ท่านพี่ ข้าเองก็ไม่เคยรักใครมาก่อน ไม่เคยต้องกังวลใจเพราะใครมาก่อนนอกจากคนในครอบครัวเช่นนั้นแล้วหากมีเรื่องอะไร ท่านพี่สามารถพูดกับข้าได้เลยนะเจ้าคะ อย่างไรเราก็เป็นคู่ชีวิตกันแล้ว อย่างเช่นเรื่องนี้หากข้าไม่เอ่ยคำว่ารักออกไปชั่วชีวิตนี้ท่านพี่ก็จะอยู่ไปกับความรู้สึกที่ไม่แน่ใจนี่หรือ เรื่องบางเรื่องก็ต้องพูดต้องคุยนะเจ้าคะ” เยว่เหลียนจำต้องเอ่ยต่อว่าสามีของนางไ
บทที่28วันเวลาผ่านไปท้องของเยว่เหลียนก็โตขึ้นทุกที อาการของท่านตาก็ดีขึ้นที่จริงก็ต้องบอกว่าท่านตาทั้งสอง เพราะตอนนี้ทั้งคู่ชอบมานั่งเล่นหมากล้อมด้วยกันเกือบทุกวันชีวิตของเยว่เหลียนดีแตกต่างจากทางตระกูลเยว่ของนางยิ่งนัก และก็ไม่มีใครกล้าเล่าเรื่องราวหลาย ๆ อย่างในตระกูลเยว่ให้หญิงสาวได้ฟัง นั่นก็เพราะตงห่าวห้ามเอาไว้ เขากลัวภรรยาจะรู้สึกไม่ดีหากได้รับรู้ข่าวที่น่าอดสูหลาย ๆ เรื่องจากตระกูลของบิดา“ท้องเจ้าใหญ่มากหรือจะมิได้มีคนเดียว” คำพูดของสามีทำให้เยว่เหลียนกังวลไม่ใช่น้อย เพราะนางเคยได้ยินหญิงสาวที่ในหนึ่งท้องมีบุตรสองคน ได้ข่าวมาว่าอันตรายยิ่งนัก ทั้งยังคลอดยาก“อย่าเลยเจ้าค่ะ ข้ากลัว ค่อย ๆ ท้องค่อย ๆ คลอดทีละคนดีกว่า” ตงห่าวยิ้มมือแกร่งก็ลูบไปบนหน้าท้องที่นูนขึ้นมา “พูดเช่นนี้เจ้าอยากจะให้ข้าทำให้ตามที่เจ้าขอหรือ” เมื่อเข้าใจความของคำพูดสามีใบหน้าสวยก็แดงซ่าน แม้จะอยู่ด้วยกันมานาน แต่เยว่เหลียนก็ยังเขินอายการได้อยู่กับตงห่าวมันทำให้เยว่เหลียนรู้แล้วว่าสิ่งที่นางรู้สึกกับตงเนี่ยนเจินในชาติก่อนนั้นมันไม่ใช่ความรักเลยแม้แต่นิด กับตงห่าวสิถึงจะเรียกว่าความรักได้ยามนี้หญิงสาว
บทที่27ข่าวการตั้งครรภ์ของเยว่เหลียนที่มาถึงตระกูลเยว่ยิ่งทำให้เยว่เม่ยที่เพิ่งได้รับหนังสือหย่าจากสามีมาหมาด ๆ เกิดความริษยา ที่ของเยว่เหลียนควรจะเป็นของนางตั้งแต่แรก ชีวิตของนางไม่ควรจะต้องมาติดอยู่กับผู้ชายเฮงซวยอย่างตงเนี่ยนเจิน ทั้ง ๆ ที่เป็นพี่น้องกับตงห่าวแต่ทำไมก็ไม่รู้นิสัยถึงไม่ได้เหมือนกันเลยแม้แต่นิดหญิงสาวนั่งอยู่หน้าป้ายวิญญาณของท่านแม่ของนาง ไม่มีใครสนใจที่จะนำป้ายวิญญาณของท่านแม่ไปร่วมกับศาลบรรพชนของตระกูล นางเองที่กลับมาอยู่ในจวนหลังจากหย่าร้างกับตงเนี่ยนเจินก็เก็บตัวอยู่แต่ในห้องนอนของตัวเอง นางไม่มีหน้าไปสู้หน้าใครอีกแล้ว ท่านพ่อไม่สนใจนางตั้งแต่สงสัยเรื่องท่านแม่ฆ่าฮูหยินเอก แม้ท่านแม่จะบอกกับท่านพ่อว่าไม่ได้ทำอะไร แต่ความสงสัยเมื่อเกิดแล้วก็ไม่สามารถจะทำให้มันหายไปได้ ที่จริงนางรู้เรื่องทั้งหมด ท่านแม่เคยเล่าให้ฟัง หากฮูหยินยังอยู่ แม่ของนางที่เป็นเพียงอนุก็ไม่มีทางที่จะมีที่ยืนในตระกูลเยว่แห่งนี้ ในตอนที่มารดาของนางตั้งครรภ์ท่านจึงลงมือฆ่าอดีตตงฮูหยิน แสร้งทำเป็นอุบัติเหตุ มันได้ผล ได้ผลเท่าอายุของนางจนถึงวันที่ท่านแม่จากไป เยว่เม่ยคิดอย่างเศร้าใจ มารดาของน
บทที่25หลังจากกินอาหารและอาบน้ำกันเรียบร้อยทั้งสองก็มานอน เยว่เหลียนนอนไม่หลับ เฉกเช่นเดียวกันกับตงห่าว คนหนึ่งไม่หลับเพราะเป็นห่วงท่านตาของตน แต่อีกคนเป็นห่วงภรรยา และแน่นอนท่านตาของภรรยา“ท่านพี่ถาวกู่นั่น...” เยว่เหลียนกำลังจะบอกว่านางไม่ได้ตั้งใจจะเก็บของที่ตงเนี่ยนเจินให้เอาไว้ดูต่างหน้านะ แต่ก็เป็นตงห่าวที่พูดออกมาเสียก่อน “ถาวกู่ที่ข้าซ่อมให้เจ้าน่ะหรือ” เยว่เหลียนพยักหน้า“มีสิ่งใดหรือ” เยว่เหลียนที่ได้ยินคำถามก็ตัดสินใจอยู่นานนางกับสามีไม่ค่อยมีเรื่องราวอะไรกัน นางก็ไม่อยากให้ผิดใจกันเพราะเรื่องเช่นนี้ “ที่ข้าเก็บเอาไว้เพราะลืมทิ้งนะเจ้าคะ ข้าไม่ได้คิดอะไรกับตงเนี่ยนเจินจริง ๆ ” ตงห่าวยิ้ม ช่างเป็นความรู้สึกที่ดีจริง ๆ แม้จะมีเรื่องไม่สบายของท่านตา แต่ปกติเยว่เหลียนไม่ค่อยเปิดเผยความในใจ ตอนนี้นางกลับดูกระวนกระวายเพราะกลัวว่าเขาจะเข้าใจผิด“ที่จริงข้าเองก็มีความจริงจะบอกเจ้า แล้วก็ดีแล้วที่เจ้าไม่ทิ้งมันไป เพราะถาวกู่อันนั้นข้าเป็นคนให้เจ้าเอง ที่จริงตงเนี่ยนเจินไม่เคยส่งอะไรมาให้เจ้า ขนมหรือของฝากก็ล้วนเป็นข้าทั้งสิ้น หลัง ๆ ข้าไม่อยากโกหกเจ้าแล้วเลยบอกว่าเป็นของฝากข้าเอ
บทที่24“ท่านตา ท่านตาอยู่ที่ใดเจ้าคะ” เยว่เหลียนเดินไปรอบ ๆ เรือนจนไปเจอเข้ากับสาวใช้ “ท่านตาข้าอยู่ที่ใดกัน” สาวใช้ทำท่าอึกอักก่อนจะเดินนำไปยังห้องพักของเจ้าของเรือน“ท่านตาของคุณหนูไม่ยอมให้พวกเราส่งข่าวไป ท่านเจ็บออด ๆ แอด ๆ มาพักใหญ่แล้วเจ้าค่ะ กินอาหารก็ไม่ค่อยได้ ให้หมอมาดูแล้วก็ไม่ดีขึ้น ที่ทำได้ตอนนี้ก็แค่รักษาตามอาการไปเรื่อย ๆ เจ้าค่ะ” คำของสาวใช้ทำให้เยว่เหลียนรู้สึกว่านางนั้นเป็นหลานที่อกตัญญูยิ่งนักที่ไม่ดูดำดูดีท่านตาที่เลี้ยงนางมาอย่างดีแม้ว่านางจะไม่ได้เพียบพร้อมแบบคุณหนูในเมืองแต่ท่านตาก็เลี้ยงนางมาได้ดีมาก นางไม่เคยรู้สึกขาดอะไรเลยแม้แต่น้อย “ท่านตา เหลียนเอ๋อร์มาแล้วเจ้าค่ะ ท่านตาได้ยินหลานไหมเจ้าคะ” หญิงสาวจับมือที่เหี่ยวแห้ง ส่วนตงห่าวก็บอกให้คนสนิทของเขาที่ติดตามมาด้วยส่งคนไปตามหมอฝีมือดีในเมืองฉีให้เร่งเดินทางมาที่นี่โดยไว“เหลียนเอ๋อร์รึ” เสียงแหบแห้งของคนชราดังขึ้น “น้ำ ขอน้ำหน่อย” เยว่เหลียนเร่งรินน้ำใส่ถ้วยให้ท่านตาของนาง “น้ำเจ้าค่ะท่านตา” เมื่อคนสูงอายุลุกขึ้นมาดื่มน้ำได้แล้วเยว่เหลียนก็ยิ่งร้องไห้หนัก “ทำไมท่านตาไม่ส่งจดหมายไปบอกข้า ข้าส่งข่าวทุกอย่
บทที่23ผ่านไปไม่ถึงปีความสามารถของฮูหยินของซื่อจื่อก็เป็นที่เล่าลือไปทั่ว และนั่นก็ต้องขอบคุณท่านแม่นมเป็นอย่างมาก “เหนื่อยไหม” เยว่เหลียนหันกลับไปยิ้มให้สามีของตน ตงห่าวดึงร่างสวยขึ้นจากโต๊ะหนังสือ “เพลา ๆ งานบ้างนะ” เยว่เหลียนยิ้ม จะให้นางเพลาได้เช่นไร เพราะท่านยายของตงห่าวสิ้นไปนานแล้ว หน้าที่การดูแลตำหนักจวิ้นอ๋องจึงไม่มีพระชายาจัดการ ก่อนหน้านี้ก็ถูกแบ่งหน้าที่กันไป แต่ยามนี้มีเยว่เหลียน จวิ้นอ๋องจึงให้หลานสะใภ้เป็นคนจัดการ โดยบอกว่าเป็นการฝึกเอาไว้ล่วงหน้า แน่นอนว่าหากเยว่เหลียนไม่เคยได้จัดการบัญชีจวนตระกูลตงมาก่อน นางจะต้องหัวหมุนเป็นแน่ ตอนนั้นก็เหมือนการฝึกงาน งานตรงนี้ต่างหากที่เป็นงานที่รับมือยากจริง ๆ เพราะทั้งคนที่ต้องดูแลก็จำนวนมากกว่า และเงินที่ต้องใช้จ่ายแต่ละเดือนก็มากกว่าหลายสิบเท่าเลยทีเดียวนี่ไม่ใช่งานเพียงอย่างเดียวที่เยว่เหลียนต้องจัดการ เพราะถึงแม้หน้าที่ดูแลตำหนักจวิ้นอ๋องจะสำคัญ แต่ท่านตาของซื่อจื่ออย่างตงห่าวนั้นสนใจเรื่องทายาทมากกว่า แล้วทั้งสองก็ดูเหมือนจะเอาแต่ทำงานกันทั้งคู่จนท่านตาเริ่มกังวล“เดินทางครานี้ก็พาเหลียนเอ๋อร์ไปด้วยสิ” คำของท่านตาไม่ได้
บทที่22เยว่เหลียนทิ้งความรู้สึกทั้งหมดไปแล้วและตั้งใจจะเริ่มต้นชีวิตใหม่กับคนข้างกาย “ต้องเดินทางไกลเจ้าไม่กังวลใช่หรือไม่” หญิงสาวส่ายหน้าตอบสามีของตน ม่านของรถม้าถูกเปิดออกเพื่อรับอากาศ “เรื่องตอนนี้เหมือนกับความฝันเลยรู้หรือไม่” ตงห่าวอยากบอกความในใจของตนให้กับเยว่เหลียนรู้ อย่างไรตอนนี้ก็ไม่มีใครมาแย่งหญิงสาวไปจากเขาได้อีกแล้ว“ข้าเองก็คิดเช่นนั้น” คำของเยว่เหลียนทำให้ดวงใจของตงห่าวสั่นไหว “ก่อนหน้านี้เจ้าเองก็ชอบข้าเช่นนั้นหรือ” เยว่เหลียนละสายตาจากบรรยากาศข้างทางกลับมามองหน้าสามีของนางก่อนจะพยักหน้าเบา ๆ “เจ้าค่ะ” แม้จะยากที่จะตอบคำถามนี้แต่เยว่เหลียนก็ตอบไปตามตรง ยามนี้ตงห่าวไม่ได้เป็นเพียงหมากที่ใช้ในการแก้แค้นอีกแล้วเมื่อลองนึกดูดี ๆ หากชายหนุ่มที่เอาแต่มาเยี่ยมเยียนนาง เอ่ยคำว่ารักตั้งแต่นางยังไม่กลับไปเมืองหลวงบางทีเยว่เหลียนก็อาจจะตอบรับอีกฝ่ายไปนานแล้ว ต่อให้ท่านพ่อจะตำหนิก็เถอะ แต่ไม่ใช่เยว่เหลียนคิด ตอนนั้นนางเป็นเพียงสาวบ้านนอกหากนางเข้าไปเจอกับจวิ้นอ๋องหรือคนอื่นๆ ในตอนนั้นชีวิตของนางก็อาจจะจบลงในแบบที่เป็นในตอนที่แต่งไปกับตงเนี่ยนเจินบางทีชีวิตตอนนี้อาจจะเหมา
บทนำคุณหนูเยว่เหลียน นางเปรียบดั่งดอกบัวขาว งดงามใสสะอาดบริสุทธิ์ผุดผ่อง รอยยิ้มของนางกระจ่างใส ไม่ว่าผู้ใดอยู่ใกล้นางก็สบายใจ ฮูหยินตระกูลเยว่และตระกูลตงเป็นสหายรักกันเติบโตเคียงข้างกันมาตั้งแต่เยาว์วัย เมื่อเยว่ฮูหยินคลอดบุตรสาวออกมา จึงถูกจับหมั้นหมายกับคุณชายรองของตระกูลตงทันที แต่เยว่ฮูหยินก็บุญน้อยเสียเหลือเกิน ไม่สามารถเฝ้ามองบุตรสาวผู้งดงามเติบใหญ่ได้ เยว่ฮูหยินจมน้ำเสียชีวิตเมื่อเยว่เหลียนอายุเพียงห้าปีเยว่ชานผู้นำตระกูลจึงส่งบุตรสาวไปอยู่บ้านตระกูลเดิมของฮูหยินของตน เขาในเวลานี้ไม่อาจทนมองหน้าบุตรสาวได้อีกต่อไป นับวันนางยิ่งมีใบหน้าคล้ายกับฮูหยินรักเยว่เหลียนเติบใหญ่และงดงามราวกับดอกบัวแรกแย้ม นางรู้ดีว่าจวนของบิดายกสตรีอื่นเขามาแทนที่มารดาของตน แต่นางก็ไม่เคยโกรธเคืองบิดา เพราะเข้าใจความทุกข์ของท่านที่เสียมารดาของนางไป ทั้งนางอยู่ห่างไกล ท่านคงเหงา นางถูกท่านตาและท่านย่าพร่ำสอนให้เป็นภรรยาที่ดี เพราะอีกฝ่ายก็เพียบพร้อม ทั้งสองสกุลหาใช่คนอื่นไกล และเมื่ออายุครบ18 ปี นางเดินทางกลับเมืองหลวงเพื่อที่จะแต่งงานกับบุรุษที่หมั้นหมายกันเอาไว้ตั้งแต่ลืมตาดูโลกเดิมเยว่เหลียนก็ก...
Comments