แชร์

บทที่9

ผู้เขียน: moonlight -mini
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-23 15:19:58

บทที่9

ดูเหมือนโอกาสที่เยว่เหลียนต้องการจะมาเร็วกว่าที่คิดเพราะถึงจะไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับการหมั้นหมายว่าแท้จริงแล้วสัญญาที่ว่านั่นต้นสายปลายเหตุเกิดมาเพราะสิ่งใด รู้เพียงว่าเป็นสิ่งที่มารดารของนางต้องการ แต่นางก็จับสังเกตท่าทางของตงเนี่ยนเจินที่มาจวนในครั้งนี้ก็พอจะเดาได้ เขาดูเหมือนจะจัดการสิ่งที่กังวลใจไปได้แล้ว และสิ่งนั้นก็คือนางนี่แหละ เพราะเขาดูโล่งอกโล่งใจและแสดงออกกับเยว่เม่ยอยากเปิดเผยมากกว่าคราแรกที่เห็นเสียอีก เยว่เหลียนคิด เพียงแต่หญิงสาวไม่เข้าใจ หากมีการพูดคุยเรื่องยกเลิกแล้วทำไมถึงไม่มีใครแจ้งมาที่จวนตระกูลเยว่เลย

“ท่านพี่เหม่ออะไรอยู่เจ้าคะ คนมากมาย ระวังหลงนะเจ้าคะ ท่านเองก็อาจจะไม่เคยชินเพราะมาจากชนบท”

เยว่เหลียนที่ใบหน้าซ่อนอยู่ใต้หมวกสานที่มีผ้าปิดหัวเราะขันให้กับคำของน้องสาว หากนางใจร้ายกว่านี้สักนิดคงจะกระซิบถามอีกคนว่าไม่ตะโกนเลยเล่า เมื่อครู่อาจจะมีใครไม่ได้ยินเจ้าก็ได้ เสียงยังเบาไปนิด

เยว่เหลียนพบว่าแท้จริงแล้ว เยว่เม่ยไม่ได้เป็นคนฉลาดอะไรเลย บางทีเย่วเหลียนก็คิดกับตนเอง ชาติก่อนเป็นเพราะอะไรกันนะ นางถึงได้มองไม่ออกถึงการกระทำหน้าไหว้หลังหลอกเช่นนี้ ขนาดตอนน
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บัวขาวแต้มสี   บทที่10

    บทที่10ระหว่างนั่งรอหญิงสาวที่กำลังจะกลายมาเป็นคู่หมายของเขาออกมาตงห่าวก็นึกถึงเรื่องในจวนของตนเมื่อหลายวันก่อน เขาเห็นท่าทางแปลก ๆ ของน้องชายตั้งแต่เจ้าตัวกลับมาจากที่จวนตระกูลเยว่แล้ว นึกอยู่แล้วว่าจะต้องมีอะไร แต่ก็ตั้งใจเดินเลี่ยงออกไปเพื่อให้น้องชายได้คุยกับท่านพ่อไม่นึกว่าเรื่องที่น้องชายของเขาจะคุยกับท่านพ่อก็คือเรื่องงานมงคลระหว่างตนเองกับเยว่เหลียน“เรื่องคู่หมาย” น้ำเสียงไม่แน่ใจของน้องชายทำให้ตงห่าวที่กำลังจะเดินออกไปแล้วหยุดฟังอยู่ที่ข้างประตู“ข้าไม่อยากแต่งกับนางเลยท่านพ่อ” คนเป็นพ่อได้ฟังก็รู้สึกไม่รู้จะพูดเช่นไร เรื่องนี้มิใช่ว่าอยากแต่งก็แต่งได้ อยากยกเลิกก็ยกเลิกได้ การรับปากระหว่างสองตระกูลเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่เด็กทั้งสองยังไม่ถือกำเนิดเลยด้วยซ้ำ อยากแต่งหรือไม่มันเลือกได้ที่ไหนกัน“แต่เจ้าต้องทำตามคำสัญญาที่ผู้ใหญ่ตกลงกันเอาไว้เปลี่ยนแปลงมิได้” ตงเนี่ยนเจินแสดงสีหน้าราวกับถูกบังคับให้กลืนยาขม “แต่ว่านาง…ท่านพ่อไม่เห็น ทั้งใบหน้าและการกระทำช่างไม่เหมาะสม” เมื่อเห็นว่าบิดาหันกลับมาสนใจคำของตนตงเนี่ยนเจินก็พูดต่อ“ข้าเป็นขุนนาง หน้าที่การงานก็กำลังจะดีขึ้นเรื่อย ๆ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-23
  • บัวขาวแต้มสี   บทที่11

    บทที่11ตงฮูหยินให้คนไปเรียกบุตรชายตัวดีให้มาพบ“คุกเข่าลง! ” นางเอ็ดบุตรชายหัวแก้วหัวแหวนทันทีที่ตงเนี่ยนเจินเดินเข้ามาในเรือน หลังจากคนสนิทของนางมาบอกว่าบุตรชายของนางไปขอให้ยกเลิกงานแต่งที่กำลังจะเกิดขึ้นตงเนี่ยนเจินรู้ดีอยู่เต็มอกว่ามารดาต้องไม่พอใจเหตุนี้เขาถึงไปพูดโน้มน้าวบิดาแทน“เจ้าทำอะไรลงไป ที่ผ่านมาเจ้าก็ฟังแม่เสมอ ไม่เคยขัดใจแม่เลย แม่แค่ขอให้เจ้าอดทนอีกนิดเดียวเท่านั้น” ตงฮูหยินตัดพ้อบุตรชายเสียงแผ่ว นางอ่อนอกอ่อนใจเหลือเกิน แม้จะเข้าใจดีว่าตงเยี่ยนเจินรักเยว่เม่ย แต่การแต่งกับเยว่เหลียนก็ล้วนแต่ดีกับตัวตงเนี่ยนเจินเอง“ท่านแม่ไม่เห็นใบหน้านาง นางอัปลักษณ์ขนาดนั้น ข้าจะทนนอนร่วมเตียงกับนางได้อย่างไร ท่านบอกข้าเองว่านางโตมาย่อมมีใบหน้าเหมือนสหายท่าน แต่ไม่เลยนางโตมาไม่เพียงแต่อัปลักษณ์นางยังป่าเถื่อน ลงมือทำร้ายเย่วเม่ยของข้าอีก ขนาดตอนนี้นางยังไม่รู้ว่าข้ากับเยว่เม่ยเป็นคนรักกันนางยังทำได้ถึงเพียงนี้ หากแต่งแล้วอยู่จวนเดียวกันในวันข้างหน้านางต้องลงมือทำร้ายเยว่เม่ยของข้าแน่นอน”“นางไม่งดงามงั้นหรือ” ตงฮูหยินขมวดคิ้ว ถามบุตรชายเพื่อความมั่นใจอีกครั้ง ตงเนี่ยนเจินพยักหน้าห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-26
  • บัวขาวแต้มสี   บทที่12

    บทที่12“เจ้าทั้งสองพ่อคิดมาแล้วเรื่องของคุณหนูเยว่เหลียน” หลังจากตัดสินใจอยู่นานนับชั่วยาม ที่จริงต้องบอกว่าถูกแม่ของบุตรชายคนรองโน้มน้าวเสียมากกว่า หัวหน้าตระกูลตงอย่างตงชี่จวิ้นก็เอ่ยกับทุกคนตอนที่กำลังกินข้าวเย็นและอยู่กันพร้อมหน้าตงชี่จวิ้นตั้งใจจะขอเปลี่ยนตัวจากเยว่เหลียนเป็นเยว่เม่ย แม้อาจจะถูกครหา แต่อย่างไรชาวบ้านชาวเมืองก็คงจะพอรู้อยู่บ้างแล้วถึงความสัมพันธ์ของคุณชายรองตระกูลตงและคุณชายรองตระกูลเยว่ แต่ยังไม่ทันจะได้เอ่ยคำที่ตั้งใจ เสียงของบุตรชายคนโตก็ดังขึ้น “เรื่องที่ท่านพ่อบอกกับข้าเมื่อกลางวัน ข้าตอบรับ ข้าจะแต่งกับนางเอง เพียงแต่จะต้องถามนางก่อนว่ายินยอมหรือไม่” การพูดเช่นนั้นทำให้ตงเนี่ยนเจินหุบปากไม่เอ่ยอะไรออกมาอีกเพราะคิดว่าได้ปัดสวะพ้นตัวแล้วที่จริงหากเขารู้ว่าบิดากำลังจะเอ่ยอะไรเขาอาจจะเสียดายก็ได้ คนเป็นแม่อย่างตงฮูหยินก็แสดงสีหน้ายินดีอย่างเปิดเผย คนนอกอาจมองว่านางยังรักษาคำมั่นที่ให้เอาไว้กับสหายได้ อย่างไรตงห่าวก็ได้ขึ้นชื่อเป็นบุตรชายของนางตามฐานะ แม้เปลี่ยนเป็นบุตรชายคนโตจะต้องไปตบแต่งกับหญิงสาวอัปลักษณ์ได้ยินแล้วแต่ที่แปลกใจคือตงห่าวกลับอ้าแขนรับอย่างไม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-26
  • บัวขาวแต้มสี   บทที่13

    บทที่13 เยว่เหลียนมองปิ่นที่ตงห่าวหยิบขึ้นมาไม่วางตา สิ่งที่เกิดขึ้นเปลี่ยนแปลงไปจากชาติก่อน เพียงแค่นางขี้ริ้วขี้เหร่อย่างนั้นหรือ“ที่จริงปิ่นอันนี้ข้าเตรียมเอาไว้ให้เจ้านานแล้ว แต่มิมีโอกาสได้ให้” เยว่เหลียนย่อมเข้าใจถึงความหมายของชายหนุ่มที่คิดจะซื้อปิ่นเป็นของขวัญแทนใจอยู่แล้ว เพียงแต่ชาติที่แล้วนางไม่ได้มองตงห่าวเช่นนั้น แม้จะรู้ว่าเขารู้สึกเช่นไรกับนางก็ตาม เมื่อคิดถึงสายตาของชายหนุ่มไม่ว่าจะตอนนี้หรือชาติก่อนอีกฝ่ายก็ทั้งหวังดีและมองนางด้วยแววตาที่สื่อความหมายเสมอ แต่ทั้งเขาและนางก็ต่างหลบเลี่ยงที่จะพูดคุยในเรื่องนั้น เป็นเพราะสถานะของนางในตอนนั้น“ปักให้ข้าได้หรือไม่เจ้าคะ” ตงห่าวแทบจะเสียอาการเมื่อได้ยินเสียงหวานเอ่ย เพราะคำนั้นเหมือนกับนางบอกเขากลาย ๆ ว่าไม่ได้รังเกียจเขา“ย่อมปักให้เจ้าได้อยู่แล้ว เพราะยามนี้เจ้ามิได้เป็นของตงเนี่ยนเจินอีกแล้ว” ตงห่าวขยับเข้าใกล้เยว่เหลียน และทันทีที่ปิ่นปักลงไปที่ผมยาวสวยของหญิงสาว ชายหนุ่มก็จบประโยคที่เขาเริ่มก่อนหน้า “เพราะเจ้ากำลังจะเป็นของข้า”ตงห่าวถอยกลับไปยืนที่เดิม “ข้าขอโทษที่ไม่ได้บอกเจ้าเร็วกว่านี้ แต่ดูเหมือนแผนการของเจ้าจ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-26
  • บัวขาวแต้มสี   บทที่14

    บทที่14“น้องสาว เจ้าเป็นอะไรสีหน้าไม่ดีเลย” เยว่เหลียนเอ่ยทักทายน้องสาวต่อหน้าสาวใช้ เมื่อก่อนเยว่เม่ยชอบหลอกเหล่าสาวใช้โดยการทำเป็นบาดเจ็บและบอกว่าถูกพี่สาวจากชนบทอย่างนางกลั่นแกล้งเพื่อเรียกความเห็นใจจากทุกคนแต่ยามนี้ทั้งจวนต่างเห็นว่าเยว่เหลียนมิเคยทำร้ายน้องสาวต่างมารดาของตนเลยสักครา นั่นก็เพราะเยว่เหลียนคอยระมัดระวังการกระทำกับน้องสาวต่างมารดาของนางผู้นี้เสมอ ๆ มิได้ทำเป็นเขินอายและไม่กล้าทักทายกับน้องสาวเหมือนชาติก่อน “ไม่มีอันใดหรอกเจ้าค่ะ ข้าก็แค่ถูกท่านพ่อว่ากล่าวเรื่องการใช้เงินก็เท่านั้น” เยว่เหลียนยิ้มมุมปากอย่างพอใจ แต่ยังไม่ทันที่นางจะต่อความยาวกับน้องสาว สาวใช้จากท่านพ่อก็มาตามนางให้ไปพบ“คุณหนูใหญ่เจ้าคะ นายท่านเรียกหาเจ้าค่ะ” เย่วเหลียนเร่งเดินไปหา นางคิดว่าจะต้องเป็นเรื่องเกี่ยวกับจดหมายจากตระกูลตงฉบับนั้นแน่ ๆ ขณะที่เยว่เหลียนเดินออกไปอย่างมีความสุข เยว่เม่ยกลับมีสีหน้าอมทุกข์จนสาวใช้ต้องเอ่ยถาม“คุณหนูรองเป็นอะไรหรือไม่เจ้าคะ” เยว่เม่ยหันมองอีกฝ่ายด้วยสายตาไม่พอใจ “จะเป็นอะไรได้อย่างไร มีอะไรก็ไปทำเถอะ” หญิงสาวมองไปยังพี่สาวต่างมารดาด้วยสายตาอาฆาตแค้น ดูเหมือ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-26
  • บัวขาวแต้มสี   บทที่15

    บทที่15ไม่กี่วันหลังจากนั้นการพูดคุยของแม่สื่อจากตระกูลตงกับตระกูลเยว่ก็เกิดขึ้น แต่นั่นไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเยว่เหลียนเลยสักนิด นั่นก็เพราะทางนั้นส่งคนมาคุยเรื่องของเยว่เม่ยต่างหาก เยว่เหลียนอดคิดไม่ได้ว่า พวกนั้นไม่คิดที่จะเก็บอาการกันเลยหรือ ส่วนนางต้องรอให้ท่านตาของตงห่าวมาถึงก่อนจึงจะไปพูดคุยกัน และเพราะฐานะของอีกฝ่ายสถานที่พูดคุยคงมิใช่ตระกูลตงหรือตระกูลเยว่หรอก แต่เป็นหนึ่งในตำหนักที่ฮ่องเต้ให้จวิ้นอ๋องเข้าพักได้ชั่วคราวต่างหากแน่นอนว่าเรื่องของนางยังไม่ได้เกิดขึ้นในวันนี้ แต่เยว่เหลียนรู้เพราะตงห่าวบอกกับนางเอาไว้แล้ว ต่างกันกับเยว่เม่ยและอดีตคู่หมายของนางที่เร่งรีบอย่างกับกลัวว่านางจะยกเลิกเปลี่ยนใจแต่งกับตงเนี่ยนเจินเสียอย่างนั้น“พี่สาวมานั่งทำอะไรอยู่เงียบ ๆ ตรงนี้ล่ะเจ้าคะ” เยว่เหลียนไม่แปลกใจสักนิด มั่นใจอยู่แล้วว่านางจะต้องมาวุ่นวายแน่ ๆ “ข้าก็แค่วาดแบบปักผ้าคลุมน่ะ” เยว่เม่ยเร่งเดินเข้ามาหยิบดูอย่างเร็ว นางคงลืมไปแล้วว่าต้องรักษาอาการ“มิเห็นจะสวย” เยว่เม่ยเบ้ปาก นางแสดงออกอย่างเปิดเผยว่าไม่ชอบเยว่เหลียน เพราะตอนนี้นางไม่จำเป็นต้องใช้เยว่เหลียนบังหน้าเพื่อแต่งเข้าสก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-26
  • บัวขาวแต้มสี   บทที่16

    บทที่16รถม้าของตระกูลตงวิ่งผ่านเหล่าคนที่หยุดยืนพูดคุยอยู่ที่หน้าจวนตระกูลเยว่ “นั่นมันรถม้าตระกูลตงใช่หรือไม่” แม่ค้าเห็นป้ายเพียงครู่เดียวจึงคิดว่าอาจจะเป็นคุณชายตงไปง้อคุณหนูใหญ่หรือเปล่า งดงามออกเพียงนั้นไม่รู้ว่าทำไมถึงต้องมาเจอเรื่องเช่นนี้ แต่สาวใช้ที่เคยเห็นรถม้าคันนั้นแล้วกลับบอกว่าไม่ใช่ “นั่นเป็นรถม้าของคุณชายใหญ่ตระกูลตง ตงห่าว ว่าที่สามีของคุณหนูเยว่เหลียน” จากเรื่องเล็ก ๆ ที่ควรจะไม่มีใครรู้มากมาย ตอนนี้กลายเป็นเรื่องที่รู้กันไปทั่วเมืองหลวง เมื่อก่อนหากพูดถึงการหมั้นหมายระหว่างตระกูลตงและตระกูลเยว่ก็คงไม่มีใครรู้หรอกว่าเรื่องราวเป็นเช่นไร เพราะเรื่องยาวนานมาแล้ว จะเปลี่ยนคนหรือปรับอย่างไรก็คงจะไม่มีใครสนแต่เมื่อเป็นเช่นนี้ทุกอย่างกลับเปลี่ยนไปหมด เรื่องราวรักสามเศร้าของคุณหนูทั้งสองของตระกูลเยว่กับคุณชายรองตระกูลตงนั้นโด่งดังได้ภายในหนึ่งวันกันเลยทีเดียว แต่คนที่สร้างเรื่องทั้งหมดยังไม่มีใครรู้ เยว่เหลียนหอบเหนื่อย ไม่ใช่ใกล้ ๆ เลยกว่านางจะเดินมาถึงวัดบนเขานี่ได้ ที่จริงก็ดีเหมือนกันจะได้มาขอบคุณเหล่าทวยเทพที่ประทานพรเช่นนี้ให้กับนาง ให้นางได้มีโอกาสแก้ไขเรื่องรา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-28
  • บัวขาวแต้มสี   บทที่17

    บทที่17หลังจากนั้นไม่ถึงสิบวัน เป็นสิบวันที่เยว่เหลียนจะต้องทนรำคาญกับน้องสาวต่างมารดาของนางอย่างมาก และเอาเข้าจริงนางก็คงจะต้องทนไปอีกพักใหญ่ แต่รถม้าที่ตกแต่งไม่ธรรมดาที่จอดอยู่ที่หน้าจวนก็ทำให้สองแม่ลูกหุบปากไปได้บ้าง เยว่เหลียนขอบิดาเอาไว้ว่านี่เป็นเรื่องของนาง และไม่อยากให้แม่เลี้ยงเข้ามายุ่ง มีเพียงบิดาและท่านย่าเท่านั้นที่เป็นครอบครัว แม้จะไม่อยากจะทำแบบนั้นนักแต่คนเป็นพ่อก็ต้องยอม นั่นก็เพราะผู้ใหญ่ของคุณชายใหญ่ตระกูลตง ตงห่าวนั้นยิ่งใหญ่ไม่น้อย เทียบเชิญเอ่ยชัดและระบุตัวตนว่าผู้ใดสามารถเข้าร่วมได้บ้าง ต่อให้เขาอยากจะนำฮูหยินของตนมาก็มิควร เพราะจวิ้นอ๋องเสด็จมาพักอยู่ที่ตำหนักบนเขา จึงใช้เวลาเดินทางกันพอสมควร ท่านย่าเองที่จริงก็ไม่ได้อยากมานัก แต่เพราะเทียบเชิญที่ระบุชื่อชัดจากคนที่มีฐานันดรเทียบเท่าคนในราชวงศ์จึงไม่แปลกที่ท่านย่าจะยอมลำบากเพื่อเดินทาง และเพราะนี่เป็นการเดินทางส่วนตัวเรื่องทั้งหมดจึงถูกเก็บเป็นความลับ ทั้งสามเดินเข้าไปในห้องโถงรับรอง ถึงจะเป็นการคุยเกี่ยวกับเรื่องมงคลและที่จริงก็ไม่ควรมีชายหนุ่มกับหญิงสาวมา แต่เพราะจวิ้นอ๋องท่านตาของตงห่าวอยากพบกับว่าที่หล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-28

บทล่าสุด

  • บัวขาวแต้มสี   บทที่31

    บทที่31“ที่ช่วงนี้พระชายาทรงรู้สึกเพลีย ๆ มิได้เป็นเพราะพระองค์ทรงงานหนักไปหรอกพ่ะย่ะค่ะ แต่เป็นเพราะกำลังทรงตั้งครรภ์ต่างหาก” ใบหน้าของเยว่เหลียนแดงซ่าน นางเพิ่งคลอดอาฉีออกมาได้ไม่นานนัก เหตุใดจึงตั้งครรภ์อีกแล้วเล่า “เช่นนี้เองที่เขาบอกว่าหัวปีท้ายปี จริงไหมตาเฒ่าหงเฉิน” คนเป็นตาทั้งสองที่ตอนแรกเป็นห่วงรีบมาเยี่ยมหลานและหลานสะใภ้ที่หมดสติ กลายเป็นว่านี่คือเรื่องมงคลจะต้องกลับไปฉลองกันเสียแล้ว“ทำไมทำหน้าเช่นนั้น เจ้าไม่ดีใจหรือ” หลังจากทุกคนออกไปจากห้องตงห่าวก็เอ่ยถามชายาของตน “มิใช่ไม่ดีใจ แต่ข้าอาย” เยว่เหลียนไม่เคยรู้สึกเขินอายเท่านี้มาก่อน นางเพิ่งคลอดลูกไปได้ไม่นานแท้ ๆ“อายทำไมกันเล่า เรื่องธรรมชาติ ใครก็เป็นเช่นนี้กันได้ทั้งนั้น ดีเสียอีก อาฉีจะได้มีน้องอายุไล่ ๆ กัน ถ้าคนนี้เป็นชายก็ดีนะสิ ตระกูลหงของท่านตาก็จะได้มีคนสืบต่อ”และทั้ง ๆ ที่สองคนหมายมั่นเอาไว้เช่นนั้นแต่ท้องที่สองกลับกลายเป็นธิดาไปเสียได้ มิใช่มิยินดี แน่นอนว่าเด็กหญิงก็น่ารักไปอีกแบบ และครานี้ตงชี่จวิ้นก็หลงรักหลานตัวน้อยของเขาเอามาก ๆ ถึงขนาดมาอยู่เมืองฉีนานนับปีจนคนเป็นตงฮูหยินต้องกลับไปเมืองหลวงก่อน เพรา

  • บัวขาวแต้มสี   บทที่30

    บทที่30ทุกอย่างกลับเข้าสู่สภาวะปกติ หลังจากช่วยเลี้ยงหลานอยู่นานนับเดือน ตงชี่จวิ้นก็กลับไปเมืองหลวงพร้อมกับฮูหยินของตน เพราะได้ข่าวว่าอนุ ต้องบอกว่ายามนี้นางเป็นฮูหยินเอกของคุณชายรองตงเนี่ยนเจินก็กำลังจะคลอดลูกไม่ต่างกัน และเพราะคำนั้นทำให้เยว่เหลียนแกล้งเอ่ยถามกับสามีของนางเกี่ยวกับเยว่เม่ย“ข้าขอโทษที่ปิดบังเจ้า แต่สถานการณ์ของตระกูลเยว่ไม่ดีนัก”ทั้ง ๆ ที่ตงห่าวกังวลกลัวว่าพระชายาของตนจะรู้สึกไม่ดีเกี่ยวกับข่าวของตระกูลทางบิดา แต่ก็เปล่าใบหน้าของเยว่เหลียนนิ่งสนิท “หม่อมฉันไม่ได้เป็นคนที่สูงส่งขนาดจะไม่รู้สึกอะไรกับคนที่ทำร้ายมารดาหรอกเพคะ”ตงห่าวดึงพระชายาตนเข้ามากอด “ใช้คำพวกนี้อีกแล้ว ข้าบอกเจ้าว่าอย่างไร” เยว่เหลียนมองพระสวามีของนางที่ตอนนี้รับตำแหน่งแทนท่านตาเรียบร้อยแล้ว“เรื่องบางเรื่องก็ควรทำเพื่อให้คนอื่นดู แต่หากพระองค์อยากได้ยินหม่อมฉันคุยกับท่านอ๋องเช่นพระองค์เหมือนแต่ก่อน คงต้องรอยามที่อยู่กันสองต่อสองแล้ว” ตงห่าวมองคนรักของเขาที่นับวันก็ดูคล้ายจะยั่วยวนมากขึ้นทุกขณะ“ว่าแต่เจ้าแน่ใจนะเรื่องตระกูลเยว่”เยว่เหลียนพยักหน้า “หากพระองค์จะช่วยอะไรก็ทำแต่พอดีเถอะเพคะ แต่

  • บัวขาวแต้มสี   บทที่29

    บทที่29หลังจากคำนั้นของสามีเยว่เหลียนก็ต้องปลอบใจคนตัวใหญ่ใจเล็กอยู่นาน อีกฝ่ายทั้งอายุมากกว่า ทั้งเก่งกาจ ทำทุกอย่างได้ดีไปหมดจนบางครั้งหญิงสาวก็ลืมไปว่าบางอย่างก็ต้องพูดกันตรง ๆ “ท่านพี่ข้าขอโทษ เพราะเป็นฝ่ายที่ถูกท่านรักจนเคยชินจึงลืมที่จะเอ่ยความในใจออกไป ข้ารักท่านมานานมากแล้ว งานมงคลของเราก็ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะความไม่เต็มใจ ท่านพี่อย่ากังวลใจไปนะเจ้าคะ” มือเรียวประคองใบหน้าของผู้เป็นสามีเข้ามาจุมพิตเบา ๆ หลังจากรับรู้ความรู้สึกของตงห่าวในวันนี้ เยว่เหลียนต้องยอมรับเลยว่าทุกสิ่งมันทำให้นางมองตงห่าวไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป แต่มิใช่ในทางที่ไม่ดี นางกลับรู้สึกว่าชายหนุ่มนั้นดูเป็นคนธรรมดามากขึ้น มิได้เพียบพร้อมไปเสียทุกสิ่ง"ท่านพี่ ข้าเองก็ไม่เคยรักใครมาก่อน ไม่เคยต้องกังวลใจเพราะใครมาก่อนนอกจากคนในครอบครัวเช่นนั้นแล้วหากมีเรื่องอะไร ท่านพี่สามารถพูดกับข้าได้เลยนะเจ้าคะ อย่างไรเราก็เป็นคู่ชีวิตกันแล้ว อย่างเช่นเรื่องนี้หากข้าไม่เอ่ยคำว่ารักออกไปชั่วชีวิตนี้ท่านพี่ก็จะอยู่ไปกับความรู้สึกที่ไม่แน่ใจนี่หรือ เรื่องบางเรื่องก็ต้องพูดต้องคุยนะเจ้าคะ” เยว่เหลียนจำต้องเอ่ยต่อว่าสามีของนางไ

  • บัวขาวแต้มสี   บทที่28

    บทที่28วันเวลาผ่านไปท้องของเยว่เหลียนก็โตขึ้นทุกที อาการของท่านตาก็ดีขึ้นที่จริงก็ต้องบอกว่าท่านตาทั้งสอง เพราะตอนนี้ทั้งคู่ชอบมานั่งเล่นหมากล้อมด้วยกันเกือบทุกวันชีวิตของเยว่เหลียนดีแตกต่างจากทางตระกูลเยว่ของนางยิ่งนัก และก็ไม่มีใครกล้าเล่าเรื่องราวหลาย ๆ อย่างในตระกูลเยว่ให้หญิงสาวได้ฟัง นั่นก็เพราะตงห่าวห้ามเอาไว้ เขากลัวภรรยาจะรู้สึกไม่ดีหากได้รับรู้ข่าวที่น่าอดสูหลาย ๆ เรื่องจากตระกูลของบิดา“ท้องเจ้าใหญ่มากหรือจะมิได้มีคนเดียว” คำพูดของสามีทำให้เยว่เหลียนกังวลไม่ใช่น้อย เพราะนางเคยได้ยินหญิงสาวที่ในหนึ่งท้องมีบุตรสองคน ได้ข่าวมาว่าอันตรายยิ่งนัก ทั้งยังคลอดยาก“อย่าเลยเจ้าค่ะ ข้ากลัว ค่อย ๆ ท้องค่อย ๆ คลอดทีละคนดีกว่า” ตงห่าวยิ้มมือแกร่งก็ลูบไปบนหน้าท้องที่นูนขึ้นมา “พูดเช่นนี้เจ้าอยากจะให้ข้าทำให้ตามที่เจ้าขอหรือ” เมื่อเข้าใจความของคำพูดสามีใบหน้าสวยก็แดงซ่าน แม้จะอยู่ด้วยกันมานาน แต่เยว่เหลียนก็ยังเขินอายการได้อยู่กับตงห่าวมันทำให้เยว่เหลียนรู้แล้วว่าสิ่งที่นางรู้สึกกับตงเนี่ยนเจินในชาติก่อนนั้นมันไม่ใช่ความรักเลยแม้แต่นิด กับตงห่าวสิถึงจะเรียกว่าความรักได้ยามนี้หญิงสาว

  • บัวขาวแต้มสี   บทที่27

    บทที่27ข่าวการตั้งครรภ์ของเยว่เหลียนที่มาถึงตระกูลเยว่ยิ่งทำให้เยว่เม่ยที่เพิ่งได้รับหนังสือหย่าจากสามีมาหมาด ๆ เกิดความริษยา ที่ของเยว่เหลียนควรจะเป็นของนางตั้งแต่แรก ชีวิตของนางไม่ควรจะต้องมาติดอยู่กับผู้ชายเฮงซวยอย่างตงเนี่ยนเจิน ทั้ง ๆ ที่เป็นพี่น้องกับตงห่าวแต่ทำไมก็ไม่รู้นิสัยถึงไม่ได้เหมือนกันเลยแม้แต่นิดหญิงสาวนั่งอยู่หน้าป้ายวิญญาณของท่านแม่ของนาง ไม่มีใครสนใจที่จะนำป้ายวิญญาณของท่านแม่ไปร่วมกับศาลบรรพชนของตระกูล นางเองที่กลับมาอยู่ในจวนหลังจากหย่าร้างกับตงเนี่ยนเจินก็เก็บตัวอยู่แต่ในห้องนอนของตัวเอง นางไม่มีหน้าไปสู้หน้าใครอีกแล้ว ท่านพ่อไม่สนใจนางตั้งแต่สงสัยเรื่องท่านแม่ฆ่าฮูหยินเอก แม้ท่านแม่จะบอกกับท่านพ่อว่าไม่ได้ทำอะไร แต่ความสงสัยเมื่อเกิดแล้วก็ไม่สามารถจะทำให้มันหายไปได้ ที่จริงนางรู้เรื่องทั้งหมด ท่านแม่เคยเล่าให้ฟัง หากฮูหยินยังอยู่ แม่ของนางที่เป็นเพียงอนุก็ไม่มีทางที่จะมีที่ยืนในตระกูลเยว่แห่งนี้ ในตอนที่มารดาของนางตั้งครรภ์ท่านจึงลงมือฆ่าอดีตตงฮูหยิน แสร้งทำเป็นอุบัติเหตุ มันได้ผล ได้ผลเท่าอายุของนางจนถึงวันที่ท่านแม่จากไป เยว่เม่ยคิดอย่างเศร้าใจ มารดาของน

  • บัวขาวแต้มสี   บทที่25

    บทที่25หลังจากกินอาหารและอาบน้ำกันเรียบร้อยทั้งสองก็มานอน เยว่เหลียนนอนไม่หลับ เฉกเช่นเดียวกันกับตงห่าว คนหนึ่งไม่หลับเพราะเป็นห่วงท่านตาของตน แต่อีกคนเป็นห่วงภรรยา และแน่นอนท่านตาของภรรยา“ท่านพี่ถาวกู่นั่น...” เยว่เหลียนกำลังจะบอกว่านางไม่ได้ตั้งใจจะเก็บของที่ตงเนี่ยนเจินให้เอาไว้ดูต่างหน้านะ แต่ก็เป็นตงห่าวที่พูดออกมาเสียก่อน “ถาวกู่ที่ข้าซ่อมให้เจ้าน่ะหรือ” เยว่เหลียนพยักหน้า“มีสิ่งใดหรือ” เยว่เหลียนที่ได้ยินคำถามก็ตัดสินใจอยู่นานนางกับสามีไม่ค่อยมีเรื่องราวอะไรกัน นางก็ไม่อยากให้ผิดใจกันเพราะเรื่องเช่นนี้ “ที่ข้าเก็บเอาไว้เพราะลืมทิ้งนะเจ้าคะ ข้าไม่ได้คิดอะไรกับตงเนี่ยนเจินจริง ๆ ” ตงห่าวยิ้ม ช่างเป็นความรู้สึกที่ดีจริง ๆ แม้จะมีเรื่องไม่สบายของท่านตา แต่ปกติเยว่เหลียนไม่ค่อยเปิดเผยความในใจ ตอนนี้นางกลับดูกระวนกระวายเพราะกลัวว่าเขาจะเข้าใจผิด“ที่จริงข้าเองก็มีความจริงจะบอกเจ้า แล้วก็ดีแล้วที่เจ้าไม่ทิ้งมันไป เพราะถาวกู่อันนั้นข้าเป็นคนให้เจ้าเอง ที่จริงตงเนี่ยนเจินไม่เคยส่งอะไรมาให้เจ้า ขนมหรือของฝากก็ล้วนเป็นข้าทั้งสิ้น หลัง ๆ ข้าไม่อยากโกหกเจ้าแล้วเลยบอกว่าเป็นของฝากข้าเอ

  • บัวขาวแต้มสี   บทที่24

    บทที่24“ท่านตา ท่านตาอยู่ที่ใดเจ้าคะ” เยว่เหลียนเดินไปรอบ ๆ เรือนจนไปเจอเข้ากับสาวใช้ “ท่านตาข้าอยู่ที่ใดกัน” สาวใช้ทำท่าอึกอักก่อนจะเดินนำไปยังห้องพักของเจ้าของเรือน“ท่านตาของคุณหนูไม่ยอมให้พวกเราส่งข่าวไป ท่านเจ็บออด ๆ แอด ๆ มาพักใหญ่แล้วเจ้าค่ะ กินอาหารก็ไม่ค่อยได้ ให้หมอมาดูแล้วก็ไม่ดีขึ้น ที่ทำได้ตอนนี้ก็แค่รักษาตามอาการไปเรื่อย ๆ เจ้าค่ะ” คำของสาวใช้ทำให้เยว่เหลียนรู้สึกว่านางนั้นเป็นหลานที่อกตัญญูยิ่งนักที่ไม่ดูดำดูดีท่านตาที่เลี้ยงนางมาอย่างดีแม้ว่านางจะไม่ได้เพียบพร้อมแบบคุณหนูในเมืองแต่ท่านตาก็เลี้ยงนางมาได้ดีมาก นางไม่เคยรู้สึกขาดอะไรเลยแม้แต่น้อย “ท่านตา เหลียนเอ๋อร์มาแล้วเจ้าค่ะ ท่านตาได้ยินหลานไหมเจ้าคะ” หญิงสาวจับมือที่เหี่ยวแห้ง ส่วนตงห่าวก็บอกให้คนสนิทของเขาที่ติดตามมาด้วยส่งคนไปตามหมอฝีมือดีในเมืองฉีให้เร่งเดินทางมาที่นี่โดยไว“เหลียนเอ๋อร์รึ” เสียงแหบแห้งของคนชราดังขึ้น “น้ำ ขอน้ำหน่อย” เยว่เหลียนเร่งรินน้ำใส่ถ้วยให้ท่านตาของนาง “น้ำเจ้าค่ะท่านตา” เมื่อคนสูงอายุลุกขึ้นมาดื่มน้ำได้แล้วเยว่เหลียนก็ยิ่งร้องไห้หนัก “ทำไมท่านตาไม่ส่งจดหมายไปบอกข้า ข้าส่งข่าวทุกอย่

  • บัวขาวแต้มสี   บทที่23

    บทที่23ผ่านไปไม่ถึงปีความสามารถของฮูหยินของซื่อจื่อก็เป็นที่เล่าลือไปทั่ว และนั่นก็ต้องขอบคุณท่านแม่นมเป็นอย่างมาก “เหนื่อยไหม” เยว่เหลียนหันกลับไปยิ้มให้สามีของตน ตงห่าวดึงร่างสวยขึ้นจากโต๊ะหนังสือ “เพลา ๆ งานบ้างนะ” เยว่เหลียนยิ้ม จะให้นางเพลาได้เช่นไร เพราะท่านยายของตงห่าวสิ้นไปนานแล้ว หน้าที่การดูแลตำหนักจวิ้นอ๋องจึงไม่มีพระชายาจัดการ ก่อนหน้านี้ก็ถูกแบ่งหน้าที่กันไป แต่ยามนี้มีเยว่เหลียน จวิ้นอ๋องจึงให้หลานสะใภ้เป็นคนจัดการ โดยบอกว่าเป็นการฝึกเอาไว้ล่วงหน้า แน่นอนว่าหากเยว่เหลียนไม่เคยได้จัดการบัญชีจวนตระกูลตงมาก่อน นางจะต้องหัวหมุนเป็นแน่ ตอนนั้นก็เหมือนการฝึกงาน งานตรงนี้ต่างหากที่เป็นงานที่รับมือยากจริง ๆ เพราะทั้งคนที่ต้องดูแลก็จำนวนมากกว่า และเงินที่ต้องใช้จ่ายแต่ละเดือนก็มากกว่าหลายสิบเท่าเลยทีเดียวนี่ไม่ใช่งานเพียงอย่างเดียวที่เยว่เหลียนต้องจัดการ เพราะถึงแม้หน้าที่ดูแลตำหนักจวิ้นอ๋องจะสำคัญ แต่ท่านตาของซื่อจื่ออย่างตงห่าวนั้นสนใจเรื่องทายาทมากกว่า แล้วทั้งสองก็ดูเหมือนจะเอาแต่ทำงานกันทั้งคู่จนท่านตาเริ่มกังวล“เดินทางครานี้ก็พาเหลียนเอ๋อร์ไปด้วยสิ” คำของท่านตาไม่ได้

  • บัวขาวแต้มสี   บทที่22

    บทที่22เยว่เหลียนทิ้งความรู้สึกทั้งหมดไปแล้วและตั้งใจจะเริ่มต้นชีวิตใหม่กับคนข้างกาย “ต้องเดินทางไกลเจ้าไม่กังวลใช่หรือไม่” หญิงสาวส่ายหน้าตอบสามีของตน ม่านของรถม้าถูกเปิดออกเพื่อรับอากาศ “เรื่องตอนนี้เหมือนกับความฝันเลยรู้หรือไม่” ตงห่าวอยากบอกความในใจของตนให้กับเยว่เหลียนรู้ อย่างไรตอนนี้ก็ไม่มีใครมาแย่งหญิงสาวไปจากเขาได้อีกแล้ว“ข้าเองก็คิดเช่นนั้น” คำของเยว่เหลียนทำให้ดวงใจของตงห่าวสั่นไหว “ก่อนหน้านี้เจ้าเองก็ชอบข้าเช่นนั้นหรือ” เยว่เหลียนละสายตาจากบรรยากาศข้างทางกลับมามองหน้าสามีของนางก่อนจะพยักหน้าเบา ๆ “เจ้าค่ะ” แม้จะยากที่จะตอบคำถามนี้แต่เยว่เหลียนก็ตอบไปตามตรง ยามนี้ตงห่าวไม่ได้เป็นเพียงหมากที่ใช้ในการแก้แค้นอีกแล้วเมื่อลองนึกดูดี ๆ หากชายหนุ่มที่เอาแต่มาเยี่ยมเยียนนาง เอ่ยคำว่ารักตั้งแต่นางยังไม่กลับไปเมืองหลวงบางทีเยว่เหลียนก็อาจจะตอบรับอีกฝ่ายไปนานแล้ว ต่อให้ท่านพ่อจะตำหนิก็เถอะ แต่ไม่ใช่เยว่เหลียนคิด ตอนนั้นนางเป็นเพียงสาวบ้านนอกหากนางเข้าไปเจอกับจวิ้นอ๋องหรือคนอื่นๆ ในตอนนั้นชีวิตของนางก็อาจจะจบลงในแบบที่เป็นในตอนที่แต่งไปกับตงเนี่ยนเจินบางทีชีวิตตอนนี้อาจจะเหมา

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status