แชร์

นางรำอย่างข้าคงเป็นได้แค่เครื่องบรรณาการของท่านแม่ทัพ
นางรำอย่างข้าคงเป็นได้แค่เครื่องบรรณาการของท่านแม่ทัพ
ผู้แต่ง: พริมริน

ภาคเปิดตัว

ภาคเปิดตัว

“อ้าว ๆ อย่าชักช้า เร็วดิโว้ย!”

เสียงตะโกนจากผู้กำกับวัยดึกเอะอะมะเทิ่งโวยวายแต่เช้ามืดของกองถ่ายละครพีเรียด แผดเสียงดังจนเป็นที่ชินชาของเด็ก ๆ ในกอง ตะวันไม่ทันพ้นขอบฟ้าหากเวลาไม่รอช้า เร่งรีบให้ทันลำแสงแรกเพื่อให้ได้ภาพออกมางดงามที่สุด

“ยี่หวา”

“คะ ผู้กำกับ”

“วันนี้มึงต้องเอาให้สมจริงนะโว้ย”

“แหม มือระดับพระกาฬอย่างยี่หวา ไม่พลาดหรอก”

“เออจะไว้ใจอะไรได้ ยิ่งไอ้ชุดพวกนี้รุ่มร่ามเกะกะตัว มึงมัดให้ดี”

ยี่หวาก้มมองร่างของตัวเองในชุดจีนโบราณสมัยใดเธอเองไม่แน่ใจ ก่อนเงยหน้าขึ้นยิ้มให้ผู้กำกับเมื่อเขาตบบ่าเธอสองครั้ง

“มึงไปเตรียมตัวแล้วกัน แล้วไอ้พวกนั้นไปไหนหมด”

“กำลังมาถึงแล้วผู้กำกับ”

หยาดพิรุณ จินดา หรือ ยี่หวา ยิ้มอ่อนให้ผู้กำกับอีกครั้ง หันกายกลับไปยังลานกว้างเพื่อเริ่มออกกำลังกายเบา ๆ อุ่นเครื่อง

เธอกวาดตามองกองถ่ายทำในต่างจังหวัดไม่ไกลจากกรุงเทพมากนัก บรรยากาศชนบทตรงหน้าคือบึงน้ำขนาดเล็ก ยอมรับในใจว่าวันนี้รู้สึกวูบโหวงแปลก ๆ ทั้งที่ทำงานเป็นสแตนอินบทยาก ๆ ให้นักแสดงมานานเกือบสิบปี

มือเรียวเล็กแต่แข็งแรงสะบัดผ้าชุดจีนโบราณตรงสะโพกขึ้นโบก ซีรีส์ตลกร้ายเรื่องนี้ให้นางเอกดันย้อนยุคไปจีนโบราณ ทั้งที่เป็นคนไทย ฉากสำคัญเช้านี้เป็นฉากนางเอกถูกใส่ตะกร้าจับถ่วงน้ำ - - เฮ้อ...พวกสมัยก่อนนี่โหดร้ายใช่ย่อย

“ยี่หวา”

“เฮ้ย! มากันแล้ว เร็ว เปลี่ยนเสื้อผ้า”

ยี่หวาหันตามเสียงเรียกจนพบใบหน้าคุ้นเคย เพทาย เป็นทั้งเพื่อน เป็นทั้งพี่ชาย และครูสอนวิชาต่อสู้ ก็นักแสดงแทนอย่างเธอมักถูกใช้ในช่วงจังหวะที่ดาราตัวจริงต้องเสี่ยง เลยโยนความเสี่ยงมาให้อาชีพนี้แทน แต่อย่างไรเสียค่าตอบแทนมันคุ้มค่า

“วันนี้ลงน้ำ ระวังล่ะ ไอ้ชุดนี่มัน...ดูไม่ไหวเลย”

“คนออกเยอะ เซฟตี้พร้อม ไม่เป็นไรหรอกอย่ากังวล ไปเถอะเตรียมตัว ผู้กำกับโวยวายอีกแล้ว” พูดเสียงอ่อนให้กำลังตัวเองไปในตัว แล้วสะบัดร่างโบกชายผ้าสีสดใสในชุดจีนโบราณเดินนำเพทายไปก่อนด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม กระทั่งมองเห็นตะกร้าที่ต้องเข้าไปอยู่ จึงค่อยเปลี่ยนสีหน้า

“ตอนซ้อมไม่เล็กขนาดนี้นี่ผู้กำกับ”

“กูลองดูฟุตเทจแล้ว มันไม่สวย ไม่สะใจ ต้องเล็กหน่อยคนดูจะได้ลุ้น”

“ถ้างั้นยี่หวาขอลองซ้อมอีกรอบ”

“ไม่ทันแล้ว แสงกำลังได้ มึงเข้าไปอยู่ในตะกร้าเลย ไอ้เพทาย มึงคอยดูน้องมึงด้วย”

เพทายไม่ตอบ ดวงตาคมกล้ามีแววกังวลใจ จับจ้องตะกร้าไม้สานอันเล็กกว่าเดิม

“ไหวไหมยี่หวา”

“ไม่ไหวยังไง มาถึงหน้างานขนาดนี้แล้ว พี่คอยระวังให้หน่อยแล้วกัน”

“พี่ทำแบบนั้นเสมอ ยี่หวาไม่ต้องกลัว ลงไปเถอะ”

เธอมองตะกร้าไม้ไผ่สีหน้าไม่ค่อยดีนักแล้วก้าวลงไปนั่ง ให้เพทายรัดฝาตะกร้าด้วยเชือก

“อย่าแน่นนะ”

“รู้แล้ว”

ตะกร้าที่มีเธอนั่งอยู่ข้างในถูกยกสูงด้วยผู้ชายสองคน จากนั้นขึ้นไปยืนริมฝั่งบึงน้ำที่มีกล้องถ่ายใต้น้ำรออยู่

“อ้าว เตรียมตัวนะ”

ผู้กำกับตะโกนใส่โทรโข่งแล้วหันไปหาคนตีสเลทแล้วพยักหน้าให้เริ่มได้

“ซีนน้ำหนึ่งร้อยหนึ่ง คัทสาม ตอนที่สิบแปด เทคหนึ่ง”

ตึก! ตุบ!

สิ้นเสียงคนตีสเลท ฉากเล็กสีดำถูกสับ ตะกร้าสานถูกโยนลงน้ำจมดิ่งลงก้นบึงทันทีเช่นกัน

ยี่หวาลืมตาในน้ำด้วยความชำนาญ เธอดิ้นรนอยู่ภายในตะกร้าด้วยท่าทีของหญิงโดนทำร้าย พยายามตั้งสติว่าตนเองกลั้นลมหายใจได้นานเท่าใดกันนะ - - สามนาที หรือจะห้า

ดวงตาหยีเล็กอย่างคนไทยเชื้อสายจีนเริ่มเบิกกว้างเมื่อเวลาถอยหลังเหลือน้อยลงทุกขณะ น้ำในบึงเย็นเยียบจากอากาศรุ่งเช้า เธอเห็นแสงลอดลงมาจากเหนือผิวน้ำ มองอย่างมีความหวังว่าผู้กำกับคงกำลังสั่งคัท

ร่างกายที่ทนทานกว่าคนปกติทั่วไปเริ่มไม่อาจทานไหว แรงอัดของน้ำทำให้ทรวงอกเธอเริ่มแสบร้อน - - เธอต้องหายใจ

ยี่หวาดิ้นขลุกขลักเป็นพักกระทั่งหมดแรงต้านทาน ปล่อยให้กระแสน้ำเอื่อยใต้บัวบึงทะลักเข้าร่างกาย เธอสำลักทันที ดิ้นรนทรวงอกร้อนแทบระเบิด แสงยามรุ่งลอดผ่านน้ำด้านบนคือสิ่งสุดท้ายที่เธอมองเห็น จากนั้นทุกสิ่งก็ดำมืดลง

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status