Share

 3 ท่านแม่ทัพ

 3 ท่านแม่ทัพ

กุบ กับ กุบ กับ ....

เสียงฝีเท้าม้าเร็วพุ่งทะยานโผนตัวฝ่าฝุ่นดินตีตลบยามฝีเท้าม้ากระทบลงพื้นดินชานเมืองหลวง

แม่ทัพใหญ่กองทัพเสือดำ หลี่เหว่ยนั่งนิ่งบนหลังม้าสีน้ำตาลเข้มเกือบดำตัวใหญ่ ทอดสายตามองม้าเร็วใกล้เข้ามา นัยน์ตาสีนิลคมกริบเรียวดุจเหยี่ยวรับคิ้วคมเฉียงขึ้นดุจเดียวกับกระบี่ในมือสีเข้ม กรามแกร่งบัดนี้รกครึ้มด้วยหนวดเคราที่ไม่ได้ชำระทำความสะอาดโกนให้เรียบร้อยมาหลายเดือน เสื้อเกราะสัมฤทธิ์เหม็นกลิ่นเน่าบูด รวมไปถึงผมยาวมัดมวยใต้หมวกเหล็กด้วยเช่นกัน

ขอบปากด้านล่างหนากว่าด้านบนเริ่มขยับ เอียงศีรษะไปด้านซ้าย ส่งเสียงไม่ดังมากนัก

“มู่เฉิน”

ทหารรับใช้คนสนิทขยับฝีเท้าเข้าใกล้ตาดวงตาทอดไกลไปยังม้าเร็วตรงหน้าเช่นกัน

“ขอรับท่านแม่ทัพ”

“เจ้าคิดหรือไม่ว่าวันนี้ทางเข้าฉางอานไร้ผู้คนสัญจร ไร้ซึ่งพ่อค้าแม่ขายจนผิดสังเกต”

“ขอรับ ยามปกติฉางอานมักมีขบวนพ่อค้าต่อแถวยาวเหยียดสุดลูกหูลูกตาตั้งแต่ยามเหม่า[1]”

หลี่เหว่ยเพียงฟังแล้วนิ่ง ตัวเขาออกรบเสียสองปี จากบ้านจวนตระกูลหลี่ไปยังชายแดนทางเหนือป้องกันพวกชนกลุ่มน้อยกระทั่งยอมศิโรราบ บัดนี้เมื่อได้กลับมาถึงบ้าน แทนที่จะได้พักผ่อนคงไม่แคล้วต้องเดินขบวนผ่านกลางเมืองแล้วรอทักทายราษฎรเป็นแน่แท้

บนหลังม้าเร็วคือทหารรูปร่างสันทัดไม่ใหญ่ไม่เล็กนักท่าทางคล่องแคล่วกระโดดลงจากม้าวิ่งตรงคุกเข่าหนึ่งข้างยกฝ่ามือประกบซ้ายทับขวาทำความเคารพ

“ท่านแม่ทัพ เป็นจริงอย่างที่คาด ชาวเมืองตั้งขบวนทิวแถวสุดลูกตา บางร้านถึงขนาดปิดร้านเลยทีเดียว”

คิ้วกระบี่กระตุกวาบหรี่ตาเหยี่ยวเล็กแคบลงหงุดหงิดฉุนเฉียวขึ้นอีกสามส่วน บัดซบ..แท้ ร่างกายชายชาตรีแม้แข็งแกร่งแต่ย่อมเหน็ดเหนื่อยต้องการพักผ่อน ไยต้องเดินขบวนแห่ให้คนเมืองได้ชื่นชมความสำเร็จกันเล่า

“มู่เฉิน”

ทหารรับใช้คนสนิทไม่ขานรับ เอี้ยวหน้ามองท่านแม่ทัพที่ตนรับใช้มาเนิ่นนาน แล้วเริ่มประหวั่นใจยามเห็นสีหน้าแปรเปลี่ยนเป็นเจ้าเล่ห์

“เจ้าไปเป็นแม่ทัพแทนข้าหน่อยแล้วกัน”

“ท่านแม่ทัพ!”

มู่เฉินทำได้เพียงร้องตะโกนเรียก เพราะตัวท่านแม่ทัพควบม้าหนีหายไปเสียแล้วเพียงลำพัง

“เอาไงดีท่านมู่เฉิน”

มู่เฉินเอี้ยวหน้าไปทางซ้ายมือแล้วส่ายหน้าให้หยางฟาง พลทหารดาบมือหนึ่งของค่ายเสือดำตระกูลหลี่ หนวดเคราเฟิ้มร่างใหญ่โตแข็งแน่น

“จะเอาเช่นไรได้ นอกจากเสียจาก ... เฮ้อ ท่านแม่ทัพน้อ ทำไมทำกับข้าเช่นนี้”

หยางฟางหัวร่อร่ายกมือลูบท้องเล่น ท่าทางอันเป็นเอกลักษณ์ประจำตัว

“เช่นนั้นจะชักช้าอยู่ไยกัน ท่านมู่เฉิน ข้าคิดถึงเมียรักจะแย่แล้ว ต้องการเนื้อนิ่มอุ่นกกกอด”

มู่เฉินไม่ทันได้เอ่ยตอบ หยางฟางพลันควบม้านำหน้าพร้อมพลพรรคทหารเดินม้า ทหารเดินเท้าจำนวนมาก มุ่งตรงสู่ประตูเมืองฉางอาน

¨    ¨    ¨    ¨    ¨    ¨    ¨    ¨

“น้อง ๆ เจ้า เจ้า มานี่ ข้าต้องการสั่งอาหาร”

ยี่หวาเลือกที่นั่งได้ชั้นสองของหอผิงผิง มุมระเบียงมองลงเบื้องล่างคือถนนสายหลักของเมืองหลวงที่บัดนี้ผู้คนต่างพากันตั้งแถวกันแน่นขนัด นางกวักมือตะโกนเรียกเด็กในร้านทันทีที่เห็นเดินผ่าน

“ขอรับท่านใต้เท้า”

“ข้าต้องการขาหมูน้ำแดง เซาปิ่ง และสุรารสเลิศมาสักกา”

“เจี่ยเจย!!” เยี่ยนฟางร้องเบา ๆ ข้างหูมือคว้าแขนยี่หวา

“ชูวว อย่าดังไปสิ เอาตามที่ข้าสั่ง ไปได้”

“ขอรับใต้เท้า”

“พี่ยี่หวา ท่านบอกว่าแค่ดื่มน้ำชากินเซาปิ่ง แต่..ท่านดื่มอีกแล้ว”

“ฮึ จะให้ข้าทำกระไรในวันที่แสนว่างเปล่า นอกจากร่ำสุรา เจ้าอย่าได้เอะอะไป ประเดี๋ยวคนอื่นจะจับได้ว่าเรามิใช่บุรุษ”

เยี่ยนฟางถอนหายใจสะบัดหน้ากลับไปทางถนน สังเกตว่าคนเริ่มเงียบเสียง

“พี่ยี่หวา สงสัยมากันแล้ว”

ร่างเล็กกว่าอ้อนแอ้นแต่งกายบุรุษคลุมผ้าสวมหมวกลุกผลุงจากเก้าอี้ ปรี่ไปยังราวกันตกไม้ชะโงกมองลงไปเบื้องล่าง

“เจ้านี่ ต้องการเห็นหน้าวีรบุรุษเสียจริงนะเยี่ยนฟาง”

ยี่หวาเงียบลงเมื่อเด็กหอผิงผิงนำของที่สั่งวางบนโต๊ะ รอกระทั่งเดินห่างออไปแล้วจึงค่อยเอ่ยขึ้นอีกครั้งพลางรินสุราลงจอก

“บุรุษย่อมเหมือนกันหมด ข้ามิเห็นว่าบุรุษใดในเมืองนี้มิเหมือนกัน”

“เจี่ยเจียหมายความว่ากระไร บุรุษย่อมแตกต่างเฉกเช่นสตรี ข้ากับท่านยังไม่เห็นเหมือนกัน”

เสียงหวานใสหัวเราะลงลำคอ ยกสุรากระดกหมดจอกวางอย่างแรงแล้วลุกไปยืนเคียงข้างเยี่ยนฟาง สะบัดพัดงดงามในมือขึ้นพัด

“เจ้ามองลงไปเยี่ยนฟาง”

“ข้ามองอยู่”

“เจ้าเห็นอะไร”

“ก็ เห็นคนไง ชาวเมืองมากมายต่างยืนตั้งแถวรอรับวีรบุรุษ”

“ถูกต้อง”

“ข้าไม่เห็นเข้าใจ อาเจี่ยหมายถึงอะไรกัน” เยี่ยนฟางเอี้ยวหน้ากลับมา แต่ไม่เห็นดวงหน้าของยี่หวาเพราะผ้าคลุมสีดำปิดเกือบหมด

“ข้าไม่ได้หมายถึงหน้าตา ข้าหมายถึงนิสัยต่างหากเล่า เจ้าดูสิ บุรุษดีที่ใดกันถึงทำนิสัยอยากรู้อยากเห็น ทั้งอิจฉาตาร้อนต้องการเห็นหน้าท่านแม่ทัพ เพื่อนำมาเปรียบเทียบกับตัวเอง”

“พี่ยี่หวาหมายความว่า บุรุษที่ดีย่อมสุขุมนิ่งขรึมเช่นนั้นหรือ”

“ไม่ใช่เช่นนั้นเสมอไป บุรุษที่ดีย่อมมิอยากรู้อยากเห็น ต้องตั้งมั่นอยู่กับตน มั่นใจในตนเอง และที่สำคัญต้องไม่เอ่ยวาจานินทาผู้อื่น ซึ่งเท่าที่ข้าเห็นบุรุษเมืองนี้ที่หอเย่วโหลว แต่ละคน...เฮ้อ..หาใช่บุรุษที่ดี มิคู่ควรกับสตรีใดทั้งสิ้น”

“คิก คิก พี่ยี่หวาตลกดี หากบุรุษร่ำรวยพวกนั้นมิคู่ควรกับสตรีใด หญิงงามทั้งหลายคงไม่ได้แต่งงานออกเรือน” เยี่ยนฟางยกมือปิดปากหัวเราะด้วยความเคยชิน

ยี่หวาหมุนตัวกลับไปรินสุราลงสองจอก หยิบยื่นให้เยี่ยนฟางและยกของตัวเองขึ้นมา พอดีกับเสียงฮือฮาด้านล่าง

“สงสัยมากันแล้วอาเจี่ย” เยี่ยนฟางตื่นเต้นชะโงกตัวชะเง้อหน้าออกไปนอกชาน ผิดไปจากคนอายุมากกว่า นางกระโดดขึ้นนั่งบนราวกันตกเหยียดขายาวหนึ่งข้าง อีกข้างชันขึ้นดั่งบุรุษเสเพล ยกยิ้มแล้วจิบสุรา

[1] 05.00-06.59

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status