26 ลำแสงแรกพระอาทิตย์
ตึก ตึก ตึก
เสียงวิ่งบนพื้นหิมะทำให้ทั้งสองหันตัวกลับไปมองต้นเสียง เห็นจินเยว่วิ่งหน้าตั้งสีหน้าเบิกบานยิ้มกว้างจนถึงใบหู หน้าแดงฝ่าลมหนาวเหน็บแล้วหยุดหอบหายใจตรงบันไดขึ้นเรือนเล็ก
“อันใดกันจินเยว่ วิ่งราวกับวิ่งหนีใครมา”
“แฮก ๆ ข้า เดี๋ยวก่อน ขอพัก”
จินเยว่ยังหอบหายใจมือกุมท้องขณะก้าวขึ้นเรือนแล้วนั่งลงข้างยี่หวา
“สงสัยเรื่องดี ดูจินเยว่สิ ยิ้มกว้างขนาดนี้” ยี่หวาเอ่ยเย้าขณะส่งมือดึงแก้มแม่นางน้อย
“อุ๊ย..เจ็บพี่ยี่หวา มีม้าเร็วมา แจ้งว่าท่านแม่ทัพกำลังเข้าเขตเมืองฉางอานแล้ว อีกไม่กี่วันจะถึงจวน”
สิ้นเสียงจินเยว่ ดวงหน้าของยี่หวาพลันสดชื่นขึ้นทันตา นางเผยรอยยิ้มสดใสเป็นครั้งแรกไม่แสแสร้งในรอบหลายเดือน รวมไปถึงแววตาพราวเปล่งประกาย
“เพิ่งพูดถึงก็มาเสียแล้วกองทัพเสือดำ” ฮุ่ยซิ่งพูดเย้ายี่หวาที่บัดนี้พวงแก้มแดงระเรื่อยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
“เจ้าจะรอก่อนไหมฮุ่ยซิ่ง”
“ไม่ ข้าตั้งใจแล้วไม่เคยเปลี่ยนใจ”
“รออะไร พี่ฮุ่ยซิ่งจะไปไหน”
“ข้าต้องจากจวนห
27 ตามหมอ หมอหลวงงงงงง“นางใกล้คลอดหรือยัง”มู่เฉินยืนนิ่งด้านข้างเก้าอี้ในห้องทำงาน เบื้องหน้าคือหมอหลวงที่ท่านแม่ทัพให้แฝงตัวเข้าไปดูแลครรภ์แม่นางยี่หวาในหอซีหยางโหลว ทั้งส่งคนเฝ้าห่าง ๆ ตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา“ใกล้แล้วท่านแม่ทัพ คงอีกไม่กี่วัน”“ถึงวันให้ส่งคนมาแจ้ง ข้าจะไปดูด้วยตนเอง”กล่าวจบหลี่เหว่ยยกมือโบกไล่แล้วกลับไปอ่านเอกสารราชการตรงหน้าต่อ มือยังถือพู่กัน ดวงหน้านิ่งเฉย มู่เฉินรินน้ำชาเพิ่มช่วยลดความตึงเครียด“น้ำชาท่านแม่ทัพ”“กำชับคนให้ดูแลหอซีหยางโหลวอย่างดี อย่าแสดงตัวให้นางเห็น แล้วเมียเจ้า เยี่ยนฟางเป็นเยี่ยงไรบ้าง”“ใกล้คลอดเช่นกันท่านแม่ทัพ คงไล่เลี่ยห่างกันไม่กี่วัน”“ดี”มู่เฉินนิ่งเงียบเมื่อท่านแม่ทัพหมดคำถาม“อากาศเริ่มร้อนแล้ว เจ้าส่งน้ำแข็ง ไม่สิ ไม่ได้ ไม่ดีต่อสุขภาพ เจ้าให้คนนำพัดอันใหม่ไปให้นางหรือยัง”“ขอรับท่านแม่ทัพ ฝากฮุ่ยซิ่งไปเช่นเดิม แม่นางยี่หวาไม่มีทางรู้ว่าส่งมาจากท่านขอรับ”“อืม...กว่าจะเคี
28 คลอดแล้วจ้า“อุแว้ แง ........ แง......”ยี่หวาทิ้งตัวอ่อนแรงทันใดยามลูกน้อยคลอดออกมาอย่างปลอดภัย มือห้อยลงขอบเตียงหอบหายใจ ได้ยินเสียงยินดี เสียงท่านหมอ เสียงหมอตำแยวุ่นวายผสมปนเปจนมั่วเละเทะ“ยินดีด้วย ยินดีด้วยท่านแม่ทัพ บุตรชายเจ้าค่ะ”แว่วเสียงหมอตำแยร้องบอกยินดี ยี่หวาหลับตาถอนหายใจ ในที่สุดบุรุษหน้าหนาก็มาเสียทีหลังจากที่ปล่อยให้ทหารมาเฝ้านางเสียหลายเดือนบัดนี้นางผู้คลอดลูกนอนหมดแรงไม่ทันได้เห็นหน้าบุตรชาย กลายเป็นชายหน้าด้านได้โอบอุ้มเห็นหน้าก่อนข้าเสียอีก - - ข้าต้องโกรธให้นานเสียหน่อยยี่หวาพลิกตัวตะแคงหันหนีทันที ไม่ต้องการเห็นหน้าคนหลอกลวง“ฮูหยินเจ้าคะ บุตรชายเจ้าค่ะ”ในที่สุดคงถึงคราวข้าได้ยลโฉมบุตรชายตนเองเสียที เอียงหน้ากลับไปพลันพบสบสายตาที่ยืนนิ่งข้างเตียง ในอ้อมแขนใหญ่โอบอุ้มบุตรชายตัวน้อยที่ยังร้องจ้า“หลี่จงต้องการดื่มนม”คิ้วเรียวสวยกระตุกยามได้ยินชื่อบุตรชาย ‘หลี่จง’ เจ้าหน้าตายบังอาจตั้งชื่อลูกข้า“เออ..เจ้าลุกไหวห
28 ดื่มเหล้ามงคล“เจ้าคิดสิ่งใดยี่หวา ต้องไม่ใช่เรื่องดี” หลี่เหว่ยใช้นิ้วดีดเบากลางหน้าผากเอ่ยเสียงนุ่มอ่อนโยนก่อนนั่งลงบนเตียงด้านหลัง ชะโงกหน้าผ่านซอกไหล่ก้มมองบุตรชายนอนนิ่งไม่ส่งเสียงร้องดั่งเด็กทั่วไป“ท่านขยับออกห่างหน่อยไม่ได้หรือไร ข้าร้อน แล้วไยไม่ไปทำงาน”“ข้าลางานแล้ว”“ลางาน?”“ข้าต้องอยู่เดือน”“...”ยี่หวาคิ้วกระตุก อยู่เดือนมิใช่หน้าที่ของสามี แต่นี่มันคือข้ออ้างชัด ๆ“ท่านแม่ทัพเพียงต้องการเป่าประกาศว่าเป็นชายมีน้ำยาใช่หรือไม่” แค่นลมเมื่อพูดจบจนอกแกร่งด้านหลังกระเพื่อม“รู้ดีเยี่ยงนี้ต้องรีบยกน้ำชา”“ข้าไม่ได้รับปาก ท่านอย่าซี้ซั้วพูดเองฝ่ายเดียว ข้ายอมมาอยู่จวนท่านเพราะเห็นแต่เจ้าก้อนแป้งต่างหาก”หลี่เหว่ยไม่นำพาปล่อยให้ยี่หวาพูดไปเรื่อยส่วนมือเริ่มเลื้อยอ้อมมาด้านหน้ารัดเอวนางไว้ผ่าง...ไม่ทันได้ลวนลามมากไปกว่านั้นประตูเปิดกว้างออกอย่างแรงพร้อมใบหน้าของหญิงวัยกลางคนพรวดพราดเดินเข้ามา“หลานข้า หลี่จง” น้ำเสียงโหยหวนสักเล็กน้อย
29 NC “ทะ ท่าแม่ทัพ นั่น อะ อะไรน่ะ”ยี่หวากอบผ้าขึ้นปิดทรวงอกกระเถิบถอยหนีเมื่อเห็นท่านแม่ทัพใหญ่จู่ ๆ ก็ลุกขึ้นจากเตียงขณะโรมรันกอดรัดฟัดเหวี่ยงกำลังได้ที่ใกล้สอดใส่ เดินกลับมาอีกครั้งพร้อมผ้าสีแดงเส้นเล็กพันมือทั้งสองข้างแล้วกระตุกขึงจนตึงมือพรึบ ๆ ..“เชือกผ้าไหม”“ทะ ท่านเอาสิ่งนี้มาทำอะไร” น้ำเสียงกระท่อนกระแท่นเหลือบมองเชือกแล้วตวัดสายตาขึ้นมองสีหน้าท่านแม่ทัพดูคล้ายพึงพอใจสุดขีดด้วยรอยยิ้มมารร้าย“ตำราปกขาวเขียนไว้ว่า หากต้องการมัดใจภรรยาให้อยู่หมัด ไม่ให้ปั่นใจหนีหายไปที่อื่น จงมัด...” พึมพำในลำคอไม่เต็มเสียง กลัวภรรยารักถอยหนี แต่ยี่หวายังได้ยินอยู่ดี“มัด!!!”ตึก ... คุกเข่าลงเตียง“ตามตำราบอกว่าสตรีทุกนางล้วนชื่นชอบยิ่งนัก ซ้ำร้องครางลั่นราวขึ้นสวรรค์ชั้นฟ้า”“...”ยี่หวาอ้าปากเหวอ ‘ตำรา’ นี่ท่านแม่ทัพของนางถึงขั้นอ่านตำรากามสูตรเพื่อมาทำสิ่งนี้กับนาง“ข้า ข้า ไร้ซึ่งคำพูด ท่านแม่ทัพ”“เจ้าไม่ต้อง
30 บทส่งท้ายใบกระจับล้อคลื่นในบัวลู่ลมเรือน้อยชมจงกลกลางนทีพบชายนางก้มยิ้มกลั้นวจีนารีทำปิ่นหยกตกลงน้ำ[1]หลี่เหว่ยยกมือป้องแดดยามบ่ายคล้อยกลางฤดูร้อนที่ยังแผดเผา อีกมือค้ำถ่อเรือลำน้อยลอยละล่องเหนือบึงบัวดอกหลากสี คลี่ยิ้มยามเห็นฮูหยิน ภรรยายอดดวงใจเอนกายพิงกาบเรือแกว่งมือกวักน้ำ บ้างแตะหยอกดอกบัวเอียงดวงหน้างดงามส่งรอยยิ้มอ่อนหวาน“เจ้าร้อนหรือไม่”ยี่หวาส่ายหน้าแทนคำตอบ แล้วค่อยคลานเข่าไปยังแม่ทัพใหญ่หยิบเซาปิ่งแบ่งชิ้นส่งเข้าปากหนาก่อนปัดเศษขนมปังข้างแก้มให้“ปีนี้ร้อนยิ่ง ทว่าข้ามาบึงบัวแห่งนี้คราไร กลับรู้สึกเย็น”ยี่หวาขยับร่างกลับไปที่เดิม ลูบปอยผมออกจากดวงหน้ายามลมโชยพัดจนปลิวไสว เท้าข้อศอกบนกาบเรือเกยคางบนหลังมือ“ข้ามีเรื่องยังไม่ได้บอกเจ้ายี่หวา”น้ำเสียงจริงจังทั้งหลบสายตาทำให้ยี่หวาคิ้วขมวดนิ่ง“อีกไม่กี่วันข้าอาจต้องไปลั่วหยาง”ร่างอ้อนแอ้นที่เอนกายอยู่พลันเหยียดตึงนั่ง
ภาคเปิดตัว“อ้าว ๆ อย่าชักช้า เร็วดิโว้ย!”เสียงตะโกนจากผู้กำกับวัยดึกเอะอะมะเทิ่งโวยวายแต่เช้ามืดของกองถ่ายละครพีเรียด แผดเสียงดังจนเป็นที่ชินชาของเด็ก ๆ ในกอง ตะวันไม่ทันพ้นขอบฟ้าหากเวลาไม่รอช้า เร่งรีบให้ทันลำแสงแรกเพื่อให้ได้ภาพออกมางดงามที่สุด“ยี่หวา”“คะ ผู้กำกับ”“วันนี้มึงต้องเอาให้สมจริงนะโว้ย”“แหม มือระดับพระกาฬอย่างยี่หวา ไม่พลาดหรอก”“เออจะไว้ใจอะไรได้ ยิ่งไอ้ชุดพวกนี้รุ่มร่ามเกะกะตัว มึงมัดให้ดี”ยี่หวาก้มมองร่างของตัวเองในชุดจีนโบราณสมัยใดเธอเองไม่แน่ใจ ก่อนเงยหน้าขึ้นยิ้มให้ผู้กำกับเมื่อเขาตบบ่าเธอสองครั้ง“มึงไปเตรียมตัวแล้วกัน แล้วไอ้พวกนั้นไปไหนหมด”“กำลังมาถึงแล้วผู้กำกับ”หยาดพิรุณ จินดา หรือ ยี่หวา ยิ้มอ่อนให้ผู้กำกับอีกครั้ง หันกายกลับไปยังลานกว้างเพื่อเริ่มออกกำลังกายเบา ๆ อุ่นเครื่องเธอกวาดตามองกองถ่ายทำในต่างจังหวัดไม่ไกลจากกรุงเทพมากนัก บรรยากาศชนบทตรงหน้าคือบึงน้ำขนาดเล็ก ยอมรับในใจว่าวันนี้รู้สึกวูบโหวงแปลก ๆ ทั้งที่ทำงานเป็นสแตนอินบทยาก ๆ ให้นักแสดงมานานเกือบสิบปีมือเรียวเล็กแต่แข็งแรงสะบัดผ้าชุดจีนโบราณตรงสะโพกขึ้นโบก ซีรีส์ตลกร้ายเรื่องนี้ให้นางเอกดั
ภาคดำเนินเรื่อง 1 ยี่หวา “เร่เข้ามา เร่เข้ามา ค่ำนี้แม่นางเพ่ยเพ่ยขึ้นเวที ร่ายรำ กระบี่ไร้ใจ”เสียงตะโกนเรียกลูกค้าของเด็กจากหอเยว่โหลว หอสูงราวห้าชั้นทำจากไม้เนื้อดี ตัวหอหันหน้าเข้าสู่คลองลำน้ำสายหลักใสสะอาด และเป็นทางสัญจรทางน้ำที่นิยมใช้กันในเมืองนี้ อีกด้านประตูหน้าติดถนนสายหลักสำคัญ ตลาดทางทิศใต้คึกคักยิ่งนัก“หาวววววว....”ยี่หวายกพัดแบบพับ พัดโบกใบหน้าที่แต่งแต้มสีขาวผ่องอมเหลือง ตรงกลางหน้าผากระบายฮวาเตี้ยนสีแดงลายดอกกุ้ยฮวา นั่งยกขาขึ้นพาดเก้าอี้มองลงยังเบื้องล่าง“เจ้าไห่เทายังเรียกลูกค้าอยู่ได้ ดูสิไร้คนสนใจยังไม่ละความพยายาม”“บ่นพึมพำอะไรผู้เดียวเจี่ยเจีย”สาวร่างเล็กกว่ารูปร่างอรชรเอวคอดสวมชุดสีเขียวสด เสื้อคลุมเนื้อบางใสจนมองเห็นลาดไหล่ขาวราวหยกสีเดียวกับผ้าป่านปี้สีเขียวเข้ม ชะเง้อดวงหน้างดงามคิ้วโก่งดั่งปีกผีเสื้อ ริมฝีปากแดงชาด มองลอดขอบหน้าต่างไม้ฉลุลวดลายของระเบียงนั่งเล่นชั้นสาม อันเป็นห้องนอนของยี่หวา“ฮึ จะอะไรเสียอีก นายแม่จางลี่ให้เจ้าไห่เทาออกไปเรียกแขกแต่หัววัน ตะวันยังไม่ทันเที่ยงตรง จะมีชายใดกันย่างเท้าเข้ามายังหอคณิกาแห่งนี้”“นายแม่สั่งเช่นนี้ถูกต้อ
2 เยี่ยนฟางยี่หวาลุกคุกเข่าแล้วแย่งขวดสุรากลับมาจากมือเยี่ยนฟางยกกระดกรวดเดียวหมดแล้วหัวเราะร่า เยี่ยนฟางยังมีสีหน้าเพ้อฝันขณะหย่อนร่างลงด้านข้างกัน ชะโงกหน้าออกไปนอกราวกันตก พวงแก้มยุ้ยขึ้นพาดด้วยรอยยิ้มมีความหวัง“เป็นหญิงคณิกาแล้วอย่างไรกัน เรามิได้ขายตัว เพียงขายความสามารถ ข้ายังบริสุทธิ์ผุดผ่องไร้ราคีและพี่ยี่หวาก็เช่นกัน”“อืม...แล้วถ้าเจ้า ได้เข้าไปเป็นเครื่องบรรณาการจริง เจ้าต้องกลายเป็นหญิงอุ่นเตียงท่านแม่ทัพ เช่นนั้นดีแล้วหรือเยี่ยนฟาง เจ้าคิดดูให้ดีนะ มิสู้อยู่เช่นนี้ ร่ำสุรา” เว้นหัวเราะแกว่งขวดสุราเปล่าตรงหน้า “แสร้งหยอกเย้าบุรุษหลอกเอาเงินเข้าหอเยว่โหลว เก็บเงินให้มากสักหน่อยจากนั้นไถ่ตัวเอง แล้วออกจากที่นี่ท่องเที่ยวไปทั่วยุทธภพ ไม่ต้องพึ่งพาบุรุษใดอีก”“พี่ยี่หวาพูดจาให้ข้าขบขันอีกแล้ว หญิงใดกันที่มิต้องพึ่งบุรุษ”“หญิงอย่างข้าไง”“พี่ยี่หวาเก่งกาจทั้งวาจา เดินหมาก ฉลาดหลักแหลม ชายใดได้พูดคุยย่อมสบายใจ แต่ข้ามิใช่เช่นนั้น ข้าเก่งเพียงร้องเพลงและเต้นรำ ย่อมต้องหาบุรุษที่พึงใจข้า ข้าอาจคลอดบุตรชายให้เขาสักคนแล้วหลังจากนั้นข้าจึงจะสบาย”ยี่หวายกยิ้มเอนกายลักษณะคล้ายบุรุษ