10 ฮุ่ยซิ่ง แห่งซีหยางโหลว
“ฮะ แฮ่ม เอาไงดีพี่ยี่หวา” เยี่ยนฟางลอบชำเลืองมองประตูเรือนที่ยังปิดตาย พวกนางยืนรอมาสักพักแล้ว ซ้ำอากาศยามนี้ปลายฝนต้นหนาวให้ความเย็นเฉียดผิวกายใต้เสื้อผ้าเนื้อบาง
“ดูท่าตระกูลหลี่คงไม่เต็มใจให้เรามาอยู่ด้วยกระมัง”
“แต่พวกเรายืนอยู่เช่นนี้มาสักพักแล้ว ข้าว่าจะร่วมสองเค่อ”
“ตะโกนเรียก”
“ไม่ ไม่ได้ หากขืนท่านทำเช่นนั้นการอยู่ที่นี่ต่อไปจะยิ่งลำบาก”
“แล้วจะให้ทำเช่นไรเยี่ยนฟาง พี่หนาวจะแย่แล้ว”
“ข้าช่วยเองเอาไหม” เสียงสวบสาบดังขึ้นด้านหลังพร้อมเสียงนุ่มนวลแหบต่ำอย่างบุรุษก็ไม่ใช่สตรีก็ไม่เชิงโพล่งออกมา
บุรุษรูปร่างบอบบางอ้อนแอ้นสวมใส่ชุดหนาทนหนาวด้วยขนสัตว์ราคาแพงก้าวเดินหยุดขนาบข้างยี่หวา อีกด้านคงเป็นบริวารที่นำมาด้วยเพราะท่าทางนอบน้อมถือข้าวของพะรุงพะรัง ดวงหน้าเรียวงามปากนิดจมูกหน่อยผิวพรรณอย่าให้เอ่ย นวลเนียนยิ่งกว่าหญิงคณิกาชื่อดัง
“ข้าฮุ่ยซิ่ง พวกเจ้าคงเป็นคณิกาจากหอเยว่โหลว” น้ำเสียงแค่นดูถูกในทีพลางขยับเคลื่อนกายในชุดงดงามราวคุณชายชนชั้นสูงตรงไปทางบันไดขึ้นเรือน เอียงศีรษะส่งสัญญาณเด็กที่มาด้วยกัน
ยี่หวามองการกระทำตรงหน้าอย่างทึ่งในใจ เด็กหนุ่มน้อยที่มาด้วยอายุคงเพียงสิบสี่ปีเท่านั้นกระวีกระวาดเดินขึ้นเรือนหลี่ฮูหยินแล้วจึงค่อยเอ่ยถ้อยคำไพเราะออกมาทว่าข่มขู่ในที
“เรียกท่านหลี่ฮูหยิน พวกข้าล้วนเป็นเพียงหิ่งห้อยตัวน้อยจากหอซีหยางโหลวและหอเยว่โหลว วันนี้พวกข้าเข้ามาจวนจำต้องพึงพาบารมีของหลี่ฮูหยินคุ้มกะลาหัว เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรคุ้มครองพวกข้า คนต่ำต้อยที่ฮ่องเต้ลงทุนประมูลมาเพื่อท่านแม่ทัพ ขอหลี่ฮูหยินจงเปิดรับการคารวะพวกข้าด้วยเถิด”
สิ้นคำหนุ่มน้อย ประตูเรือนเปิดผ่างออกกว้างพร้อมแม่บ้านหน้าตาขึงขังนางหนึ่งท้วมอ้วนเตี้ยล่ำใบหน้าถมึงทึง สวมผ้าสีฟ้าอ่อนดูท่าจะเป็นหัวหน้าของจวนแห่งนี้ สายตากวาดมองหัวจดเท้าประเมินเหล่าคณิกาชายหญิงแล้วเบี่ยงกายออกทางซ้ายมือ
“เชิญ”
ยี่หวาเหลือบมองหนุ่มน้อยแล้วยิ้มกว้างกว่าเดิม
“เจ้าชื่ออะไร วาจาเก่งกาจนัก”
“ฮึ เป็นคณิกาเสียเปล่า หอเยว่โหลวมิสั่งสอนอบรมวาจามาหรือไร เอาเถิดไหน ๆ เรือลำนี้ไปในทางเดียวกัน บรรจุคนเพิ่มอาจคลอนเอียงไปบ้างแต่ข้าคงพอประคองไหว ส่วนชื่อของคนรับใช้ข้าชื่อ ฮุ่ยเสียว” พูดจบสะบัดเดินขึ้นบันไดล่วงหน้าไปก่อน
ยี่หวากับเยี่ยนฟางมองหน้ากันแล้วยิ้มหัวเดินตามคณิการชายขึ้นเรือน โดยฮุ่ยเสียวยืนรออยู่ด้านนอกเพียงลำพัง
ภายในห้องอุ่นของเรือนซิ่วอิงไม่ร้อนจัดแต่ไม่หนาวมากนัก เรียกได้ว่ากำลังดีมิต้องสวมเสื้อผ้าหนาชิ้น หลี่ฮูหยินนั่งนิ่งรอกระทั่งพวกนางเดินเข้ามาใกล้จึงค่อยเอ่ยขึ้น
“คนไหนที่ท่านแม่ทัพขอให้มาเพิ่ม”
หญิงวัยกลางคนตรงกลางโถงห้องอุ่น คนที่ยี่หวาคาดเดาว่าคงเป็นหลี่ฮูหยินเอ่ยขึ้น หางตาลอบสังเกตเห็ยว่ามีอีกหญิงหนึ่ง อายุยังน้อยเพียงสิบห้าสิบหกปียืนนิ่งมิพูดจา
“ข้าเอง” ยี่หวาก้าวเท้าเดินขึ้นหน้ามาหนึ่งก้าว ประกบมือขวาทับซ้ายตรงกลางลำตัวแล้วย่อกาย “ข้า ยี่หวา ข้ามิได้ถูกร่วมประมูล เป็นน้องสาวของข้าเยี่ยนฟาง” ผายมือไปด้านข้างก่อนเอ่ยต่อ “เป็นข้อตกลงใหม่ของท่านแม่ทัพ ฉะนั้นถือเสียว่าตัวข้าเป็นเพียงผู้ติดตามของเยี่ยนฟาง มิได้เข้ามาเพื่อให้ความสำราญแก่ท่านแม่ทัพ”
หลี่ฮูหยินได้ฟังถึงกับอึ้ง คณิกาผู้นี้เอ่ยวาจาอุดรูปิดทาง ปิดความหวังของนางที่ต้องการให้บุตรชายได้มีบุตรธิดา แต่พอจะอ้าปาก
“ส่วนข้าฮุ่ยซิ่ง คนของซีหยางโหลว มาเพื่อให้ความสำราญแก่ท่านแม่ทัพโดยตรง” น้ำเสียงอ่อนหวานคล้ายหญิงโค้งคำนับหลี่ฮูหยินอมยิ้มเล็กน้อยจนทำให้หลี่ฮูหยินต้องจำใจยิ้มตามอย่างอดไม่ได้ก่อนจะหุบยิ้ม
“เจ้าเป็นชาย มิต้องให้ความสำราญ”
“แต่ว่า ... ท่านแม่ทัพอาจชื่นชอบ...”
“ไม่ได้! ข้าไม่ยอม นี่จวนข้า ห้ามเจ้าเข้าห้องท่านแม่ทัพ” หลี่ฮูหยินเผลอตะโกนดังอย่างตกใจ กลัวว่าหลี่เหว่ยเป็นจริงดั่งข่าวลือ แล้วสกุลหลี่คงต้องสิ้นสุดสายกันคราวนี้ “แม่บ้านโจว”
คณิกาชายหญิงทั้งสามมองไปทางแม่บ้านคนเดิมที่บัดนี้เดินออกมาจากห้องนอนด้านข้างติดกัน ในมือคือหีบเล็ก - - ก็ไม่เล็กนะถ้านึกว่ามันบรรจุเต็มไปด้วยของมีค่า
ผ่าง..
คนทั้งสามตาเบิกโพลงแทบถลนยามมองสิ่งของภายในหีบเล็กล้ำค่า ทั้งเงินตำลึงทองหลายสิบก้อน ทั้งสร้อยมุก หยกมันแพะ และยังเครื่องประดับอีกหลายรายการ ดูเหมือนมีแผ่นกระดาษพับรวมด้วยอีกหลายแผ่น
“พวกเจ้าอยากได้สิ่งของในหีบหรือไม่” หลี่ฮูหยินชะโงกกายออกมาไม่รู้ตัว ดวงตาแพรวพราวราวดวงดาวยามค่ำคืน ยี่หวาพยักหน้ารับก่อนใคร
“แน่นอนข้าอยากได้ แต่หลี่ฮูหยิน ข้อแลกเปลี่ยนคืออะไร”
“เจ้าฉลาดมาก หากพวกเจ้าทำให้บุตรชายของข้าเลิกชอบบุรุษหันมาชื่นชอบสตรี ให้หลานคนแรกแก่ข้า หีบใบนี้จะเป็นของพวกเจ้า”
“พวกข้า นั่นหมายถึงหารสามเช่นนั้นหรือ” ฮุ่ยซิ่งรีบเอ่ยถาม
“นั่นแล้วแต่พวกเจ้า หากพวกเจ้าร่วมมือกันดีย่อมหารสาม หรืออาจสองถ้าหนึ่งในสองนางนี้ตั้งครรภ์”
ยี่หวามองหน้าเยี่ยนฟางที่บัดนี้ดวงหน้าน้องสาวร่วมหอคณิกาครุ่นคิดหนัก
“ข้าไม่ขอร่วมอภิรมย์ท่านแม่ทัพ เอาเป็นว่าข้าจะช่วยน้องเยี่ยน ฟางให้สมหวัง มีลูกแก่ท่านแม่ทัพ ฮุ่ยซิ่งเจ้าจะว่าอย่างไร”
ฮุ่ยซิ่งมองแม่นางทั้งสองประเมินค่ากวาดสายตาคำนวณ ว่ากันตามจริงยี่หวานั้นโดดเด่นยิ่งกว่าเยี่ยนฟาง ถ้าเป็นยี่หวาการย่อมสำเร็จโดยเร็วกว่า แต่ยี่หวาดูท่าแล้วคงต้องการเพียงเงินทอง จึงพยักหน้าตอบตกลง
“ฉะนั้นหารสอง ตกลงข้าร่วมมือ”
หลี่ฮูหยินค่อยคลี่ยิ้มคลายใจหลังจากอึดอัดมาหลายวันนับแต่ข่าวลือแพร่สะพัด
“แม่บ้านโจว รบกวนเจ้าพาพวกแม่นางทั้งสาม เออ..ข้าหมายถึงสองแม่นางและหนึ่งบุรุษไปยังเรือนท้ายจวนติดสระน้ำ”
“เจ้าค่ะ”
ยี่หวาย่อกายทำความเคารพเจ้าของบ้านพร้อมกับเยี่ยนฟางและฮุ่ยซิ่ง ก่อนเคลื่อนกายจากมา ลอบชำเลืองมองแม่บ้านโจวสีหน้าเคร่งครัดเจ้าระเบียบจึงรีบเอ่ยชวนคุย
“แม่บ้านโจว ท่านพอแจกแจงกฎระเบียบของจวนให้ข้าสักหน่อยได้หรือไม่”
“มิมีอะไรมาก จวนท้ายค่อนข้างใหญ่มีหลายห้อง พวกเจ้าอยู่ด้วยกันได้สบาย ๆ ทั้งร่มรื่นมีครัวเล็กไว้ใช้งาน พวกข้าวปลาอาหารมาเบิกได้ที่ห้องครัวใหญ่”
“แล้วยามเช้าพวกข้าต้องไปคารวะหลี่ฮูหยินหรือไม่” เป็นฮุ่ยซิ่งที่เอ่ยถามออกมาได้ตรงใจยี่หวายิ่งนัก นางหันกลับไปทางแม่บ้านทันที
“ไม่ต้อง พวกเจ้าไม่ใช่สะใภ้ ลูกหลาน ไม่ได้เกี่ยวข้องกับหลี่ฮูหยิน ถือว่าพวกท่านเป็นแขกที่ฮ่องเต้พระราชทานลงมา เพียงแค่ส่งข่าวคราวที่ได้ไหว้วานกันก็พอแล้วสักเจ็ดวันครั้ง”
“ข้าขอถามอีกสักคำถามแม่บ้านโจว แม่นางน้อยที่อยู่ในห้องคือผู้ใดกัน” ยี่หวาทะลุถามกลางปล้องเห็นท่าทีอึกอักจึงเอ่ยสมทบ “หากพวกข้าต้องกระทำตามแผนยั่วยวน เออ น่าจะเป็นคำนี้ แก่ท่านแม่ทัพ ข้าจำต้องรู้เรื่องของจวนนี้ให้ลึกเสียหน่อย อีกอย่างพวกของชอบ เวลาตื่น เวลานอน ทุกสิ่งที่เกี่ยวข้อง”
.แม่บ้านโจวยังคงก้าวมั่นคงอย่างหญิงท้วมพลางพยักหน้ารับเห็นด้วยก่อนเอ่ยเสียงเบาลง
“ทางซ้ายมือคือเรือนหลง ที่พักท่านแม่ทัพ”
ทั้งหมดหันไปทางซ้ายพร้อมเพรียงกันแล้วผงะเล็กน้อยเมื่อเห็นทหารยามเดินเวรมากมาย ทั้งยืนนิ่ง ทั้งเดิน หน้าตาโหดเหี้ยมผิวคล้ำกรำแดดจากศึกรบที่เพิ่งผ่านมา
“น่ากลัวอาเจี่ย” เยี่ยนฟางกระซิบแผ่วเบาขยับเท้าเคลื่อนเข้าหายี่หวาทันควัน
“ท่านแม่ทัพตื่นแต่เช้าฝึกยุทธิ์ทุกวันมิเคยขาดลานด้านหลัง ซึ่งเป็นเขตหวงห้าม หลังจากนั้นจึงค่อยทำงานอื่น เช่นตรวจบัญชี ข้อร้องเรียน หรืออ่านตำรา ข้าวเช้า กลางวัน เย็น ท่านแม่ทัพจัดการเสร็จสรรพที่เรือนหลง ไม่ได้มาทานร่วมกับหลี่ฮูหยิน ยกเว้นวันสำคัญ ส่วนความชอบ อันที่จริงพวกข้าเป็นข้ารับใช้ในจวนนี้มานานตั้งแต่ท่านแม่ทัพยังเด็ก ทว่าไม่เคยล่วงรู้ว่าท่านแม่ทัพนั้นชื่นชอบสิ่งใดเป็นพิเศษ ท่านแม่ทัพไม่เคยปริปากบ่นหรือติชมอาหารคาวหวาน ส่งสิ่งใดไปล้วนจัดการเรียบ ถึงแล้วเรือนท้ายจวน”
เรือนท้ายจวนติดสระน้ำมิเล็กมิใหญ่ขนาดกำลังดีนอนได้หลายคน พวกนางเดินขึ้นสำรวจจนทั่ว ดูเหมือนว่าทางจวนส่งคนมาปัดกวาดเช็ดถูให้เรียบร้อยแล้ว
ฮุ่ยซิ่งล้วงมือเข้าชายแขนเสื้อหยิบถุงแดงส่งให้กับมือแม่บ้านโจว อย่างรู้งาน
“ขอบคุณแม่บ้านโจวมาก ที่เหลือพวกข้าจะจัดการเอง ฝากแจ้งย้ำหลี่ฮูหยินว่ามิต้องเป็นกังวลเรื่องที่ไหว้วาน”
สีหน้าแม่บ้านโจวแย้มขึ้นราวเก้าส่วนเห็นจะได้ มือกำถุงแดงเขย่าในมือคล้ายชั่งน้ำหนัก “มีอันใดเรียกใช้เด็กในจวนได้ทุกคน” แม่บ้านโจวเอ่ยกำกับก่อนเดินจากไป
ยี่หวายิ้มเย็นยกมุมปากสะบัดผ้านั่งลงเอียงศีรษะไปทางฮุ่ยซิ่ง
“เอาล่ะ เราควรวางแผนเสียแต่ตอนนี้ อยู่นานไปข้าว่าแทนที่จะได้เงินกลับเป็นทองร่อยหรอเสียมากกว่า”
ฮุ่ยซิ่งแหงนหน้าหัวเราะร่าชอบใจนั่งลงเคียงกันที่เก้าอี้ไม้ยาวราวกันตกระเบียงเล็กหน้าเรือน ก้มหน้าก้มกระซิบกระซาบโดยมีเยี่ยนฟางยืนฟังสีหน้าคล้ายไม่สู้ดีนัก
11 ลีลานักแสดงเก่าซ่า ........เพียงวันแรกที่ต้องเริ่มแผนการฟ้าฝนก็ไม่เป็นใจ ตกพรำยังไม่ทันย่ำรุ่ง เสียงหยดน้ำกระทบใบไม้ต้นสูงใหญ่ริมสระ ทั้งเสียงสรรพสัตว์ตัวน้อยกำลังร่าเริงสำราญใจรับฝนทำให้ทุกสิ่งราวต้องมนต์ ห้วงเวลาหยุดชะงัก รวมไปถึงนางยี่หวานอนคว่ำหน้ากับพื้นระเบียงหน้าเรือน ในมือเป็นใบไผ่แกว่งไกวไปมาครุ่นคิด ดวงตาเพ่งมองตรงไปทางเรือนหลงซึ่งมองเห็นได้จากระยะไกล ทหารเดินยามยังคงยืนนิ่งกลางสายฝน น่าเกรงขามยิ่ง - - ทนทรมานไปเพื่ออันใด ถ้าเป็นข้ากลับบ้านไปกกเมียจะดีกว่าจดจ้องไม่นานพลันเห็นประตูจวนเปิดออกพร้อมขบวนกลุ่มชายราวห้าหกคน รูปร่างใหญ่โตสวมใส่ชุดสำหรับฝึกซ้อมเดินไปยังด้านซ้ายของเรือนหลงแล้วลับหายไปด้านหลังยี่หวาผุดลุกนั่งขัดสมาธิทันควัน เหมือนว่านางเห็นบุรุษผู้นั้นเดินหน้าสุด บุรุษที่มีวาจาเชือดเฉือนสตรีอ่อนแอเช่นนาง บุรุษไร้มารยาท บุรุษที่ทำให้แผนของนางพังพินาศ คิ้วเรียวดั่งเอ๋อเหมยขมวดยุ่งจนเกือบชนกัน มือคว้าพัดพับคู่ใจลุกยืน ไม่ทันได้หยิบร่มก้าวพรวดออกจากเรือนตรงไปยังมุ
12 เจ้ายิ้มเช่นนี้ ไม่ใช่เรื่องดี“ก็แค่บทกลอนของชายชราผมขาวที่วัน ๆ เอาแต่ร่ำสุรา ท่องเที่ยว พร่ำพรรณนา”พั่บชายตรงหน้าสะบัดพับกับฝ่ามือแล้วยื่นส่งให้ด้วยสีหน้ากวนโมโห ยี่หวาหลุบตามองพัดในมือใหญ่ นิ้วเรียวยาวงดงามทว่าเต็มไปด้วยร่องรอยแผลเป็นขีดขาว นางยังนิ่งไม่รับพัดแล้วตวัดตากลับเหลือบมองชายสูงใหญ่กว่านางมาก“ข้ายังไม่รับ เพราะหากข้ารับนั่นหมายถึงท่านจะไม่ชดใช้ให้ข้า มู่เฉิน” ยี่หวาส่งน้ำเสียงเย็นเยียบหรี่ตามองแล้วพลันสังเกตว่าท่านแม่ทัพด้านหลังสะดุ้งเฮือก - - เหตุใดกันบุรุษตรงหน้าคลี่รอยยิ้มกวนใจอีกคราแล้วยืดกายกลับมือกระชับกำพัดไว้แล้วกอดอกนิ่ง“ชดใช้เช่นนั้นหรือ”“ใช่ ชดใช้ พัดนี่ข้าสั่งทำมาเป็นพิเศษ กว่าจะได้ตัวกวีนิพนธ์มาเขียนให้ข้าได้ ข้ารอร่วมเกือบปี” ยี่หวายืดกายเลียนแบบมู่เฉินเช่นกัน กอดอกเงยหน้ามอง“งั้นเจ้าคิดไว้ในใจแล้วหรือยังว่าให้ข้าชดใช้เท่าไร”“ฮึ ข้ายังไม่ทันคิด ไว้ข้าจะบอกเจ้าวันหลัง ฉะนั้นพัดนี่ข้าไม่ขอรับคืน” ปากกระจับยังคงพูดเจื้อยแจ้วต่ออีกไม
13 ตกลง“ข้อเสนออะไร” สะบัดกระบี่เก็บเข้าฝักแล้ววางไว้ด้านข้าง“ข้าได้รับจ้างเป็นเงินจำนวนมาก .. หีบใหญ่ทีเดียว ใช้ทั้งชาติก็ไม่หมด ให้ช่วยเหลือท่านแม่ทัพหายจากอาการหลงใหลบุรุษ กลับมาชื่นชอบสตรี และต้องทำให้หญิงผู้นั้นตั้งครรภ์” ยี่หวาพลิกหน้าเอียงไปยังทิศทางของห้องแม่ทัพจึงมิทันได้เห็นสีหน้าตกใจของหลี่เหว่ย“ใครกันจ้างพวกเจ้า”“จะใครเสียอีก ผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียของเรื่องนี้มากที่สุด” ยี่หวาหยุดพูดแล้วหันหน้ากลับมาส่งรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ให้“หลี่ฮูหยินเช่นนั้นหรือ”“เจ้าฉลาดยิ่ง ใช่แล้ว” นางขยับขาลงแล้ววางเรียบบนพื้นข้างเตาอุ่นจนหลี่เหว่ยต้องมองตาม เท้าเรียวโผล่ออกมาจากชายเสื้อคลุมรวมไปถึงท่อนขาขาวนวลโดยที่นางไม่รู้ตัวเพราะมัวแต่เกลี้ยกล่อม“ข้ามีทรัพย์สมบัติมากพอแล้วไม่ต้องการอีก”“นั้นเพราะท่านไม่เห็นว่ามันมากมายขนาดไหน”“เจ้าจะอยากได้เงินทองไปทำไมกันยี่หวา”“ก็เพราะข้าไม่ต้องการติดอยู่ที่นี่ตลอดชีวิตนะสิ หากข้ามีเงินทอง ข้าจะท่องเที่ยวไปให้ทั่ว”“เจ้าหาได้จากทางอื่น” หลี่เหว่
14 ซ้อนแผน แล้วซ้อนอีก “ว่าอย่างไรนะท่านแม่ทัพ” มู่เฉินร้องตะโกนเสียงหลง“ข้าบอกว่าคืนนี้ เยี่ยนฟางจะมาให้ความสำราญแก่ข้า เพียงแต่คนที่จะให้ความสำราญมิใช่ข้า แต่เป็นเจ้ามู่เฉิน” มือหลี่เหว่ยพลิกหน้าตำราพิชัยยุทธิ์ขณะเอ่ยเสียงราบเรียบ“แต่..ผู้น้อย มู่เฉิน”“เป็นกระไร อ้ำ ๆ อึ้ง ๆ มีสาวงามมาให้เชยชมถึงที่ไยถึงอึกอัก”“แต่นาง นางคิดว่าข้าเป็นท่านแม่ทัพ”“นั่นล่ะที่ข้าต้องการ”พรึบ...เสียงพลิกหน้ากระดาษไม่เบาไม่ดังกำลังดีหลี่เหว่ยหยิบพู่กันจุ่มหมึกเขียนส่วนสำคัญที่ได้อ่านเพื่อจดบันทึกกันลืม มู่เฉินยังอึ้งงันไม่แม้แต่ขยับกาย จ้องท่านแม่ทัพตาแทบถลนจนหลี่เหว่ยต้องถอนหายใจ“เจ้าเป็นอะไรมู่เฉิน เจ้าเป็นทหารหาญ บ้านเมืองต้องการชายผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบ จวนตระกูลหลี่ก็เปรียบดั่งสนามรบแห่งหนึ่งเช่นกัน ต้องการทั้งฝ่ายปกครอง ทั้งฝ่ายทหารเพื่อฝากความหวัง เจ้าจงทำตัวให้มีความสามารถพอเพียง มีขันติธรรมแบกหาบหนักได้ มิใช่ได้รับภารกิจเล็กน้อยกลับอ้ำอึ้ง แล้วเช่นนี้จะเป็น
15 เมายายี่หวาหน้าบึ้งล้วงเอาเงินที่มีติดตัวไม่มากนักวางลงกลางฝ่ามือนุ่มนิ่มดั่งหญิงสาวซึ่งพอได้ก็กำแน่นหัวเราะเบา ๆ“พรุ่งนี้ข้าจะให้เด็กนำสมุนไพรมาให้”“แต่ข้าไม่เอาพวกสารหนูนะ มันอันตราย”ฮุ่ยซิ่งเคาะพัดเป็นจังหวะกับพื้นไม้“งั้นเจ้าต้องจ่ายแพงเสียหน่อย แผ่นแปะเซ่อเซียงที่บรรดาพระสนมในวังใช้ราคาสูงลิบ แต่ได้ผลชะงัก”“ได้ ๆ”“งั้นข้าไปนอนก่อนแล้ว อยู่ที่นี่ไม่มีอะไรให้ทำน่าตื่นเต้นเลย น่าเบื่อ”ยี่หวามองตามร่างสูงโปร่งอ้อนแอ้นดั่งสตรีของฮุ่ยซิ่งลุกยืนบิดขี้เกียจก่อนลับหายไปยังห้องด้านใน จึงเอี้ยวมองไปยังเรือนหลง เวลาผ่านไปเนิ่นนานแล้วแต่เยี่ยนฟางยังมิได้ออกมา จะสำเร็จหรือไม่นะ - - เริ่มหวั่นใจ“ว่าอันใดนะป้าโจว พูดอีกครั้ง พูดให้ข้าได้ชื่นใจ” หลี่ฉือแทบทะลึ่งตัวลุกยืนยามได้ยินคราแรกว่าบุตรชายเรียกนางคณิกาสาวเข้ารับใช้เมื่อคืนนี้“เจ้าค่ะฮูหยิน ท่านแม่ทัพเรียกเยี่ยนฟางขึ้นห้องกว่าจะที่นางจะได้กลับเรือนเกือบเช้า” แม่บ้านโจวใส่น้ำเสียงเน้นคำท้ายยิ่งทำให้เจ้า
16 แต่งให้เจ้า?“มู่เฉินนน ท่านควรปล่อยให้ข้าได้นอน อือ ห้องท่านร้อนอะไรเยี่ยงนี้” ยี่หวาพลิกตัวอีกครั้งนอนหงายชันเข่าขึ้นใช้มือปัดชายกระโปรงออกให้ท่อนขารับลมเย็นแล้วลูบจนพ้นต้นขาหลี่เหว่ยตะแคงมองสายตาเข้มข้น ยกมือลูบท่อนขาเนียนนุ่มมือคล้ายปลอบประโลม ขยับพาร่างสูงใหญ่เข้าใกล้“ยังไม่ได้บอกเลย ยาอะไร” เสียงทุ้มเริ่มสั่นยามมือเลื่อนขึ้นล้วงลงต้นขาด้านใน ปลายนิ้วกำลังสัมผัสบางสิ่งอ่อนนุ่ม“เซ่อเซียง อยู่ตรงนี้” ยี่หวาวางมือบนหน้าท้อง “แปะไปได้ไม่ทันสองเค่อ ข้ามึนศีรษะเหลือเกิน แล้วยังร้อนไปทั่วร่าง อืออ มู่เฉินมือท่านเย็นดีนัก ลูบขึ้นมาอีกข้าชอบ”ยี่หวาคว้ามือหลี่เหว่ยไว้แล้วพาไปวางยังต้นขาด้านหน้าสีหน้าพึงพอใจผิดไปจากบุรุษร่างใหญ่ที่นิ่งขึง ดวงหน้าแกร่งแดงซ่านทีละน้อย“เจ้าไม่รู้หรือว่าเซ่อเซียงออกฤทธิ์บางอย่างคล้ายยากำหนัด”“ยากำหนัด” น้ำเสียงแผ่วเบาค่อยลืมตาขึ้น “หมายความว่าตอนนี้ข้า ข้ากำลังมีอารมณ์จากฤทธิ์ยา”“ฮึ มีอารมณ์ เจ้าใช้คำได้แปลกมาก หากเจ้าหมายถึงกำลังเกิดกำหนัดล่ะก็ใช่ เจ้ากำลังมีอารม
17 NCไม่ประสา ไม่ประสา... นี่ข้าหลงคิดเช่นนั้นได้เยี่ยงไร!!แรกเริ่มเพียงปากประกบเขากดนิ่งชะงัก ยี่หวาจึงใจกล้าเป็นฝ่ายแย้มริมฝีปากเสียเองอย่างที่รู้มาจากหนังเอวี ส่งลิ้นเล็กเรียวปาดขอบริมฝีปากล่างของชายร่างโต - - ชีพจรมู่เฉินเต้นแรงกว่าเดิมคงตื่นเต้นเบียดกายสาวลงจนสัมผัสถึงบางสิ่งยาวใหญ่ นางจงใจคลึงเบียดลงกดแน่น ร่างใหญ่สะดุ้งเฮือก - - เห็นไหม“ท่าน มู่เฉิน เจ้าเคยแบบนี้หรือไม่” ยี่หวาละริมฝีปากออกก้มลงซอกคอขบเม้ม มือเลื่อนลูบยังเชือกคาดเอวกระตุกดึงสอดมือเข้าสาบเสื้อแหวะเปิดออกกระทั่งลอดเข้าไปยังเสื้อตัวใน สัมผัสถึงกายแกร่งชายร่างโต อุ่นจนร้อนจัด หนั่นแน่นกล้ามเนื้อนางเลื่อนปากขึ้นไถลพรมจูบส่งความร้อนลวกเป็นทาง ลมหายใจเป่ารดซอกคอชายด้านล่างกระทั่งถึงใบหู เอ่ยกระซิบเสียงกระเส่า“เจ้า เคยแบบนี้หรือไม่ อืม”มือเล็กเรียวเลื่อนเคลื่อนไหววนรอบฐานนมชายชาตรีแล้วไถลผ่านหน้าท้องลงสู่เบื้องล่าง ซอกหลืบวางมือทาบลงท่อนเนื้ออุ่นจัดพลันกายชายสะดุ้งเฮือกอีกครั้ง - - ใช่แล้
18 NCหลี่เหว่ยจับจ้องดวงหน้าหวานงดงามเผยอปากคล้ายโต้เถียง แต่แล้วพลันเงียบเสียงลง สีหน้าละมุนผ่อนคลายจึงค่อยคลายใจ รอจนนางเอนกายลงดั่งเดิม“เปิดขาเจ้ายี่หวา ให้กว้าง”น้ำเสียงเข้มข้นระคนกระเส่าพาให้กายสาวสะท้านไหว ยี่หวานอนนิ่งชันเข่าแล้วค่อยเปิดออก“อีกแม่นางน้อย ให้กว้าง”ชีพจรแม่ทัพหนุ่มโลดแรงยามมองเรียวขางามเปิดออกทีละน้อย แต่มันยังไม่พอ หลี่เหว่ยยังต้องการให้กว้างกว่านี้ให้มาก ๆ เพราะมันหมายถึงการยินยอมศิโรราบโดยแท้จริง ดวงตาสีนิลจับจ้องเนินสาวอวบอูมปิดแน่นค่อยเปิดถ่างออกมองเห็นรอยแยกออกเพียงเล็กน้อยหลี่เหว่ยเคลื่อนกายเดินด้วยเข่าขยับไปใกล้เข้าสู่กลางหว่างขา จับหัวเข่านางไว้เปิดออก นั่งชันเข่าก่อนจับเอวคอดกิ่วด้วยมือทั้งสองข้างดึงกระชากจนสะโพกเล็กยกลอย“อ่า ท่าน เดี๋ยวก่อน”เสียงหวานร้องตกใจยามหลี่เหว่ยยกร่างเบาหวิวขึ้นลอยเข้าหาส่วนกลางลำตัว“รัดเอวข้าไว้ยี่หวา”นางกระหวัดเรียวขาเข้าเอวสอบยึดเป็นหลัก หลี่เหว่ยดึงลากแล้วหยุดลงเมื่อปลายหัวป้านลำหยกสัมผัสเนื้ออ่อนนุ่มฉ่ำแฉะ“อืม.. ยี่หว