17 NC
ไม่ประสา ไม่ประสา... นี่ข้าหลงคิดเช่นนั้นได้เยี่ยงไร!!
แรกเริ่มเพียงปากประกบเขากดนิ่งชะงัก ยี่หวาจึงใจกล้าเป็นฝ่ายแย้มริมฝีปากเสียเองอย่างที่รู้มาจากหนังเอวี ส่งลิ้นเล็กเรียวปาดขอบริมฝีปากล่างของชายร่างโต - - ชีพจรมู่เฉินเต้นแรงกว่าเดิมคงตื่นเต้น
เบียดกายสาวลงจนสัมผัสถึงบางสิ่งยาวใหญ่ นางจงใจคลึงเบียดลงกดแน่น ร่างใหญ่สะดุ้งเฮือก - - เห็นไหม
“ท่าน มู่เฉิน เจ้าเคยแบบนี้หรือไม่” ยี่หวาละริมฝีปากออกก้มลงซอกคอขบเม้ม มือเลื่อนลูบยังเชือกคาดเอวกระตุกดึงสอดมือเข้าสาบเสื้อแหวะเปิดออกกระทั่งลอดเข้าไปยังเสื้อตัวใน สัมผัสถึงกายแกร่งชายร่างโต อุ่นจนร้อนจัด หนั่นแน่นกล้ามเนื้อ
นางเลื่อนปากขึ้นไถลพรมจูบส่งความร้อนลวกเป็นทาง ลมหายใจเป่ารดซอกคอชายด้านล่างกระทั่งถึงใบหู เอ่ยกระซิบเสียงกระเส่า
“เจ้า เคยแบบนี้หรือไม่ อืม”
มือเล็กเรียวเลื่อนเคลื่อนไหววนรอบฐานนมชายชาตรีแล้วไถลผ่านหน้าท้องลงสู่เบื้องล่าง ซอกหลืบวางมือทาบลงท่อนเนื้ออุ่นจัดพลันกายชายสะดุ้งเฮือกอีกครั้ง - - ใช่แล้
18 NCหลี่เหว่ยจับจ้องดวงหน้าหวานงดงามเผยอปากคล้ายโต้เถียง แต่แล้วพลันเงียบเสียงลง สีหน้าละมุนผ่อนคลายจึงค่อยคลายใจ รอจนนางเอนกายลงดั่งเดิม“เปิดขาเจ้ายี่หวา ให้กว้าง”น้ำเสียงเข้มข้นระคนกระเส่าพาให้กายสาวสะท้านไหว ยี่หวานอนนิ่งชันเข่าแล้วค่อยเปิดออก“อีกแม่นางน้อย ให้กว้าง”ชีพจรแม่ทัพหนุ่มโลดแรงยามมองเรียวขางามเปิดออกทีละน้อย แต่มันยังไม่พอ หลี่เหว่ยยังต้องการให้กว้างกว่านี้ให้มาก ๆ เพราะมันหมายถึงการยินยอมศิโรราบโดยแท้จริง ดวงตาสีนิลจับจ้องเนินสาวอวบอูมปิดแน่นค่อยเปิดถ่างออกมองเห็นรอยแยกออกเพียงเล็กน้อยหลี่เหว่ยเคลื่อนกายเดินด้วยเข่าขยับไปใกล้เข้าสู่กลางหว่างขา จับหัวเข่านางไว้เปิดออก นั่งชันเข่าก่อนจับเอวคอดกิ่วด้วยมือทั้งสองข้างดึงกระชากจนสะโพกเล็กยกลอย“อ่า ท่าน เดี๋ยวก่อน”เสียงหวานร้องตกใจยามหลี่เหว่ยยกร่างเบาหวิวขึ้นลอยเข้าหาส่วนกลางลำตัว“รัดเอวข้าไว้ยี่หวา”นางกระหวัดเรียวขาเข้าเอวสอบยึดเป็นหลัก หลี่เหว่ยดึงลากแล้วหยุดลงเมื่อปลายหัวป้านลำหยกสัมผัสเนื้ออ่อนนุ่มฉ่ำแฉะ“อืม.. ยี่หว
19 อ่อนแรง“เจ้าว่าอย่างไรนะ สองคืนติดเช่นนั้นหรือ”หลี่ฮูหยินถึงกับวางตะเกียบในยามเช้า เอียงหน้าท้วมอย่างหญิงวัยกลางคนมีอันจะกินไปทางแม่บ้านโจว สีหน้ายินดีแต่เพียงชั่วครู่พลันนิ่งงัน“เจ้าค่ะฮูหยิน สองคืนติด ฮูหยินวางใจได้แล้วเจ้าค่ะว่าท่านแม่ทัพมิได้ชื่นชอบบุรุษ”“แต่ว่า นี่ไม่หลงรูปโฉมนางคณิกาเกินไปหน่อยหรือไร”“ฮูหยินเจ้าค่ะ คุณชายบ้านใดบ้างที่ไม่มีหญิงสาวคอยอุ่นเตียง ท่านแม่ทัพเองต่างหากที่แปลกแตกต่างจากบ้านอื่น ไม่มีแม้กระทั่งสาวใช้ข้างห้อง”“อืม จริงอย่างเจ้าว่ามา เอาล่ะ ข้าควรทำจิตใจให้ปลอดโปร่งเลิกคิดเรื่องนี้ หากลูกเหว่ยข้าต้องการยกนางเป็นอนุข้าควรยินดี เพียงแต่อย่าให้มีบุตรก่อนที่ลูกข้าได้แต่งงานกับคุณหนูดี ๆ สักคน”“เจ้าค่ะ เมื่อวานนี้ข้านำสมุนไพรต้มอย่างดีไปให้แล้วเจ้าค่ะ”“นางดื่มหมดหรือไม่”“เจ้าค่ะ ตอนไปเก็บถ้วยชาหมดเกลี้ยงเจ้าค่ะ”“ดีแล้ว เออจริงสิ หลานเยว่ ช่วงนี้เจ้าเองควรมั่นไปเรือนหลง ทำขนมของว่างไปให้พี่ของเจ้าบ้าง ยามดึกลูกเหว
20 ของฝากอากาศภายในโถงอุ่นสบายยิ่ง ยี่หวาเดินเตร่สำรวจไปทางนั้นทีทางนี้ทีอย่างใคร่รู้ คราวก่อนที่มู่เฉินพาหลบฝนไม่ได้พานางมาห้องนี้ยี่หวาแหงนดวงหน้าขึ้นสูงมองขื่อคานทำจากไม้เนื้อแข็งอย่างดีท่อนใหญ่สีดำ เลื่อนสายตารอบห้องประดับด้วยภาพวาดจากจิตรกรงดงาม ตรงกลางท้ายโถงยกพื้นขึ้นเล็กน้อยมีเก้าอี้สีดำเช่นกันตัวใหญ่ตั้งตระหง่าน นางเคาะนิ้วกับริมฝีปากขยับร่างเปียกปอนไปใกล้“นี่คงเป็นเก้าอี้ของท่านแม่ทัพหลี่เหว่ยสินะ” นางลูบเก้าอี้เล่นแล้วยิ้มในหน้าพรึบ! สะบัดผ้าพลิ้วหมุนตัวแล้วหย่อนก้นลง“อ่า ความรู้สึกของผู้เป็นใหญ่เป็นเช่นนี้สินะ” ยี่หวายิ้มกว้างยกขาไขว้ห้าง เอนกายไปด้านหลังยกนิ้วชี้ขึ้นชี้ไปตรงหน้า“ถ้าข้าอยากจะใช้คนเพียงชี้นิ้วใช่หรือไม่ นำเจ้านั้นไปฆ่า ฮ่ะ ฮ่า ช่างน่าสนุก อืม” นางยกมือกอดอกทำท่าทางเลียนแบบยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่ผู้เดียวจนไม่ทันสังเกตว่าบุรุษหนึ่งยืนอยู่มุมเสามาสักพักใหญ่แล้วหลี่เหว่ยเอนร่างใช้หัวไหล่พิงเสาลอบมองหญิงคณิกาเปียกไปทั้งตัว (อีกแล้ว) ทำท่าทางพิลึกพิกล บ้างหัวเราะ บ้างพูดคนเดียวราวคนว
21 เซาปิ่งเท้าใหญ่เดินนำแล้วหยุดรอกระทั่งยี่หวาลุกขึ้นเดินตามอย่างจำใจผ่านร่างเขาไปจึงปิดประตูตามหลัง“ห้องนี้อุ่นจริงอย่างเจ้าว่า ไหนขนมอะไร”ร่างอรชรตรงดิ่งไปยังโต๊ะเล็กบนพื้นยกข้างหน้าต่าง นั่งลงแล้วขยับไปเปิดหน้าต่างออกกว้าง“ตรงนี้มองเห็นบึงบัว ไยไม่เปิดให้บ่อย ๆ” ว่าพลางยกน้ำแกงอุ่นขึ้นดื่มทีละน้อย“ท่านแม่ทัพไม่ชอบให้ใครมาสอดรู้สอดเห็น เที่ยวแอบมองเข้ามาในห้อง” เขานั่งลงใกล้กันสะกิดให้ยี่หวาขยับไปด้านใน“เหตุใดไม่นั่งตรงอื่น”“หนาว” หน้าหนาด้านเช่นเขาย่อมพูดได้ทุกอย่าง - - ยกยิ้มอีกครั้ง“ข้ามีเรื่องมาแจ้ง เจ้าทำให้ข้าหลงลืมตลอด เวลาอยู่ใกล้” มือเรียวบิดขนมเซาปิ่งเป็นชิ้นเล็กส่งเข้าปาก“เรื่องอะไร”หลี่เหว่ยนั่งคล้ายขัดสมาธิแต่ยกขาขึ้นหนึ่งข้างชันเข่าให้ลำแขนพาดวางไว้ ดูอหังการเหลือทน“คืนนี้เยี่ยนฟางมาไม่ได้”“...”หลี่เหว่ยยกมือปัดปอยผมออกจากปากกระจับเมื่อนางงับเอาเข้าปากไปด้วย“ข้าเดาว่าความคิดเจ้า ยี่หวา”นางเอี้ยวหน้ามองมู่เฉินแล้วพลันห
22 Nc“เจ้าทำข้าช้ำ มู่เฉิน เจ็บ!!”“ข้าจะระวัง ต่อนะ..” ยังหน้าด้านส่งเสียงกระเส่ามุดหน้าลงแรงหญิงอ่อนแอมิใช่สาวสแตนอินดั่งแต่ก่อน เพียงหลี่เหว่ยสะบัดหน้าขืนไว้มือนางพลันหลุดออกจากผมดกหนา ใช้มือกอบดันขึ้นฉกปากครอบหิวกระหายมือเริ่มวุ่นวายด้านล่างปัดชายเสื้อคลุมพ้นทาง ล้วงมือเข้า“อืออ เบามือ เจ้ามือหยาบนัก มู่เฉิน อื้อออ อ่า อา”เสียงหวานต่อต้านได้เพียงครู่ผันเปลี่ยนเป็นร้องคราง มือหยาบหนาอย่างที่ยี่หวาว่ากล่าวกำลังเริ่มทำร้ายรอยแยกกลีบอ่อนบาง เลื่อนลงขยับนิ้วแยกแหวกออก ส่งนิ้วชี้ล้วงลึกเข้ากระทั่งพบหนทางชุ่มฉ่ำหลี่เหว่ยไม่รั้งรอสอดนิ้วดันลึกขบกัดยอดหัวนมจนยี่หวาร้องลั่น นางกอดคอหนาไว้ยกสะโพกหนีแต่ดูเหมือนชายหน้าด้านยิ่งส่งลึกตามติด“จะหนีไปไหน รออีกเดี๋ยว”“มัน ลึกไป”“ไม่ ไม่ลึกสักนิด ยังได้อีก” หากตำราว่าไม่ผิด สามารถเข้าได้ถึงสามนิ้วหมดข้อ แต่หลี่เหว่ยมิได้เอ่ยออกมา ทำตามสิ่งที่ตำราปกขาวกล่าวไว้ ด้วยความฉลาดเฉลียวศึกษาเพียงค่อนวันสามารถจดจำได้หมดสิ้น เคยร่วมเตียงกับหญิงไม่กี่ค
23 เรือลำน้อยกลางบึงบัว“ตกลง เจ้าได้นัดมู่เฉินหรือไม่ยี่หวา”ฮุ่ยซิ่งคาดคั้นทันทีที่นางเหยียบเรือนหลังเล็กในช่วงดึกล่วงยามห้าย[1] ไปแล้ว เท้าเล็กเรียวชะงักแหงนหน้าขึ้นเห็นบุรุษหอซีหยางโหลวโบกพัดยืนเท้าเอวเป็นเงาทะมึนกลางเรือน“เจ้ายังไม่นอนอีกหรือ” น้ำเสียงอ่อนแรงเดินยังหมดแรงค่อยก้าวอย่างระมัดระวังเพราะเจ็บหนึบ“ถ้านอนแล้วเจ้าจะเห็นหรือยี่หวา หายหน้าไปค่อนคืนกลับมาอ่อนระโหยดั่งออกศึก”“ข้าออกศึกมาจริง ๆ หาววว ข้าง่วงแล้ว”“ประเดี๋ยว” ฮุ่ยซิ่งคว้าต้นแขนไว้ “ตกลงนัดหรือยัง”“ข้าลืม”คิ้วเรียวฮุ่ยซิ่งกระตุกถี่“เจ้ารู้หรือไม่ว่าเรื่องนี้สำคัญยิ่ง เยี่ยนฟางเสียท่านอนกับใคร ใช่ท่านแม่ทัพหรือไม่ หรือเป็นเพียงทหารธรรมดา เงินในหีบที่เจ้าฝันไว้สลายหายวับไปกับตา”เป๊าะ...ฮุ่ยซิ่งดีดนิ้วใส่หน้าแล้วสะบัดพัดพับโขกหัวสตรีตรงหน้า“หัวสมองเจ้ายามนี้มีแต่บุรุษ หญิงมิเคยต้องมือชายก็เป็นเช่นนี้ หลงเสน่หาเจ้าหมอนั่นเต็มเปา”23ข้าเปล่า ถอยไปข้าจะนอน”
24 ลอยละล่องดวงตารีดั่งหงส์หลุบมองมือหนา เรียวยาวเสียแต่ว่าเต็มไปด้วยรอยแผลเป็น“เจ้าทำศึกมามาก เคยนึกเบื่อบ้างหรือไม่มู่เฉิน” ยี่หวาโพล่งขึ้นจนหลี่เหว่ยเบือนหน้ากลับมามองอย่างแปลกใจ แล้วจึงยิ้มอ่อน“ไม่ ข้าไม่เบื่อ ข้าเกิดมาเพื่อสิ่งนี้ ปกป้องบ้านเมือง”“เจ้าเคยคิดหรือไม่ว่าวันหนึ่ง ยามสงครามสุขสงบ เจ้าจะทำสิ่งใด”หลี่เหว่ยนิ่งอึ้งไปชั่วครู่ ดวงตาหลุบลงคล้ายครุ่นคิด ก่อนคลี่ยิ้ม“ข้าไม่เคยคิดถึงบ้านเมืองยามสงบสุขได้เลย ตั้งแต่เด็กจนบัดนี้สงครามเกิดขึ้นทุกหย่อมหญ้า การรบราฆ่าฟัน การป้องกันเขตแดน ข้าเพียงทำหน้าที่ตามบัญชาองค์ฮ่องเต้ แต่หากบ้านเมืองไร้ศึกจริงอย่างที่เจ้าว่า ข้าคงกลายเป็นบุรุษว่างงาน ไร้จุดหมาย”“เจ้าไม่เคยทำสิ่งอื่นหรือมู่เฉิน เช่น ค้าขาย หรือ ปลูกผัก”“ปลูกผัก!! ข้าคงมิอาจคิดไปไกลถึงขนาดนั้น หากให้ข้าลงมือปลูกผัก เจ้าผักพวกนั้นคงตายก่อนผลิใบรับแสงตะวัน มิสู้ให้ข้าเอาดาบฟันมันเลย ตายตั้งแต่ยังไม่ได้โดนแดดคงดีเส
25 ยังรอเจ้าอยู่มิได้พบยุพเยาว์ทนห่มหนาวไม่ชิดใกล้คืนยาวนานทำเช่นไรเราต่างไร้คู่นอนเคียง[1]หลี่เหว่ยกวาดตามองทหารนายกองรอบวงร่วมสิบกว่านาย ตรงกลางคือแผ่นที่ทราย ยามนี้ใกล้เคียงจุดแตกหักสิ้นสุดของสงครามอันยืดเยื้อมานานร่วมปี ก่อนที่กองทัพเสือดำจะเร่งเดินทางร่วมทัพเสริม“ท่านแม่ทัพ” มู่เฉินเอ่ยกระซิบข้างหูสองสามคำ“ข้าต้องขอตัว ทางบ้านมีเรื่อง”หลี่เหว่ยผุดลุกร้อนรน ไม่ใส่ใจสีหน้าของนายกองที่นั่งปรึกษาเรื่องสำคัญ การเคลื่อนทัพหนสุดท้ายในวันพรุ่งนี้ใจแม่ทัพหนุ่มกระเด้งกระดอนไปทั้งทรวงยามได้ยินคำว่า ‘ตั้งครรภ์’ หลี่เหว่ยย่ำฝีเท้าเร็วตามมู่เฉินออกมาจากกระโจมบัญชาการ เห็นคนเดินสารม้าเร็วยืนเข่ารอจึงรีบส่งมือออกไปรับสารยามนี้เยี่ยนฟางตั้งครรภ์ได้ห้าเดือน ขอให้เจ้าอย่าได้กังวล แม่ได้จัดเตรียมหมอตำแย เชิญหมอหลวงมาตรวจครรภ์มิได้ขาด ย้ายนางขึ้นมานอนยังเรือนใหญ่ก่อนเพื่อรอเจ้ากลับมาสั