19 อ่อนแรง
“เจ้าว่าอย่างไรนะ สองคืนติดเช่นนั้นหรือ”
หลี่ฮูหยินถึงกับวางตะเกียบในยามเช้า เอียงหน้าท้วมอย่างหญิงวัยกลางคนมีอันจะกินไปทางแม่บ้านโจว สีหน้ายินดีแต่เพียงชั่วครู่พลันนิ่งงัน
“เจ้าค่ะฮูหยิน สองคืนติด ฮูหยินวางใจได้แล้วเจ้าค่ะว่าท่านแม่ทัพมิได้ชื่นชอบบุรุษ”
“แต่ว่า นี่ไม่หลงรูปโฉมนางคณิกาเกินไปหน่อยหรือไร”
“ฮูหยินเจ้าค่ะ คุณชายบ้านใดบ้างที่ไม่มีหญิงสาวคอยอุ่นเตียง ท่านแม่ทัพเองต่างหากที่แปลกแตกต่างจากบ้านอื่น ไม่มีแม้กระทั่งสาวใช้ข้างห้อง”
“อืม จริงอย่างเจ้าว่ามา เอาล่ะ ข้าควรทำจิตใจให้ปลอดโปร่งเลิกคิดเรื่องนี้ หากลูกเหว่ยข้าต้องการยกนางเป็นอนุข้าควรยินดี เพียงแต่อย่าให้มีบุตรก่อนที่ลูกข้าได้แต่งงานกับคุณหนูดี ๆ สักคน”
“เจ้าค่ะ เมื่อวานนี้ข้านำสมุนไพรต้มอย่างดีไปให้แล้วเจ้าค่ะ”
“นางดื่มหมดหรือไม่”
“เจ้าค่ะ ตอนไปเก็บถ้วยชาหมดเกลี้ยงเจ้าค่ะ”
“ดีแล้ว เออจริงสิ หลานเยว่ ช่วงนี้เจ้าเองควรมั่นไปเรือนหลง ทำขนมของว่างไปให้พี่ของเจ้าบ้าง ยามดึกลูกเหว
20 ของฝากอากาศภายในโถงอุ่นสบายยิ่ง ยี่หวาเดินเตร่สำรวจไปทางนั้นทีทางนี้ทีอย่างใคร่รู้ คราวก่อนที่มู่เฉินพาหลบฝนไม่ได้พานางมาห้องนี้ยี่หวาแหงนดวงหน้าขึ้นสูงมองขื่อคานทำจากไม้เนื้อแข็งอย่างดีท่อนใหญ่สีดำ เลื่อนสายตารอบห้องประดับด้วยภาพวาดจากจิตรกรงดงาม ตรงกลางท้ายโถงยกพื้นขึ้นเล็กน้อยมีเก้าอี้สีดำเช่นกันตัวใหญ่ตั้งตระหง่าน นางเคาะนิ้วกับริมฝีปากขยับร่างเปียกปอนไปใกล้“นี่คงเป็นเก้าอี้ของท่านแม่ทัพหลี่เหว่ยสินะ” นางลูบเก้าอี้เล่นแล้วยิ้มในหน้าพรึบ! สะบัดผ้าพลิ้วหมุนตัวแล้วหย่อนก้นลง“อ่า ความรู้สึกของผู้เป็นใหญ่เป็นเช่นนี้สินะ” ยี่หวายิ้มกว้างยกขาไขว้ห้าง เอนกายไปด้านหลังยกนิ้วชี้ขึ้นชี้ไปตรงหน้า“ถ้าข้าอยากจะใช้คนเพียงชี้นิ้วใช่หรือไม่ นำเจ้านั้นไปฆ่า ฮ่ะ ฮ่า ช่างน่าสนุก อืม” นางยกมือกอดอกทำท่าทางเลียนแบบยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่ผู้เดียวจนไม่ทันสังเกตว่าบุรุษหนึ่งยืนอยู่มุมเสามาสักพักใหญ่แล้วหลี่เหว่ยเอนร่างใช้หัวไหล่พิงเสาลอบมองหญิงคณิกาเปียกไปทั้งตัว (อีกแล้ว) ทำท่าทางพิลึกพิกล บ้างหัวเราะ บ้างพูดคนเดียวราวคนว
21 เซาปิ่งเท้าใหญ่เดินนำแล้วหยุดรอกระทั่งยี่หวาลุกขึ้นเดินตามอย่างจำใจผ่านร่างเขาไปจึงปิดประตูตามหลัง“ห้องนี้อุ่นจริงอย่างเจ้าว่า ไหนขนมอะไร”ร่างอรชรตรงดิ่งไปยังโต๊ะเล็กบนพื้นยกข้างหน้าต่าง นั่งลงแล้วขยับไปเปิดหน้าต่างออกกว้าง“ตรงนี้มองเห็นบึงบัว ไยไม่เปิดให้บ่อย ๆ” ว่าพลางยกน้ำแกงอุ่นขึ้นดื่มทีละน้อย“ท่านแม่ทัพไม่ชอบให้ใครมาสอดรู้สอดเห็น เที่ยวแอบมองเข้ามาในห้อง” เขานั่งลงใกล้กันสะกิดให้ยี่หวาขยับไปด้านใน“เหตุใดไม่นั่งตรงอื่น”“หนาว” หน้าหนาด้านเช่นเขาย่อมพูดได้ทุกอย่าง - - ยกยิ้มอีกครั้ง“ข้ามีเรื่องมาแจ้ง เจ้าทำให้ข้าหลงลืมตลอด เวลาอยู่ใกล้” มือเรียวบิดขนมเซาปิ่งเป็นชิ้นเล็กส่งเข้าปาก“เรื่องอะไร”หลี่เหว่ยนั่งคล้ายขัดสมาธิแต่ยกขาขึ้นหนึ่งข้างชันเข่าให้ลำแขนพาดวางไว้ ดูอหังการเหลือทน“คืนนี้เยี่ยนฟางมาไม่ได้”“...”หลี่เหว่ยยกมือปัดปอยผมออกจากปากกระจับเมื่อนางงับเอาเข้าปากไปด้วย“ข้าเดาว่าความคิดเจ้า ยี่หวา”นางเอี้ยวหน้ามองมู่เฉินแล้วพลันห
22 Nc“เจ้าทำข้าช้ำ มู่เฉิน เจ็บ!!”“ข้าจะระวัง ต่อนะ..” ยังหน้าด้านส่งเสียงกระเส่ามุดหน้าลงแรงหญิงอ่อนแอมิใช่สาวสแตนอินดั่งแต่ก่อน เพียงหลี่เหว่ยสะบัดหน้าขืนไว้มือนางพลันหลุดออกจากผมดกหนา ใช้มือกอบดันขึ้นฉกปากครอบหิวกระหายมือเริ่มวุ่นวายด้านล่างปัดชายเสื้อคลุมพ้นทาง ล้วงมือเข้า“อืออ เบามือ เจ้ามือหยาบนัก มู่เฉิน อื้อออ อ่า อา”เสียงหวานต่อต้านได้เพียงครู่ผันเปลี่ยนเป็นร้องคราง มือหยาบหนาอย่างที่ยี่หวาว่ากล่าวกำลังเริ่มทำร้ายรอยแยกกลีบอ่อนบาง เลื่อนลงขยับนิ้วแยกแหวกออก ส่งนิ้วชี้ล้วงลึกเข้ากระทั่งพบหนทางชุ่มฉ่ำหลี่เหว่ยไม่รั้งรอสอดนิ้วดันลึกขบกัดยอดหัวนมจนยี่หวาร้องลั่น นางกอดคอหนาไว้ยกสะโพกหนีแต่ดูเหมือนชายหน้าด้านยิ่งส่งลึกตามติด“จะหนีไปไหน รออีกเดี๋ยว”“มัน ลึกไป”“ไม่ ไม่ลึกสักนิด ยังได้อีก” หากตำราว่าไม่ผิด สามารถเข้าได้ถึงสามนิ้วหมดข้อ แต่หลี่เหว่ยมิได้เอ่ยออกมา ทำตามสิ่งที่ตำราปกขาวกล่าวไว้ ด้วยความฉลาดเฉลียวศึกษาเพียงค่อนวันสามารถจดจำได้หมดสิ้น เคยร่วมเตียงกับหญิงไม่กี่ค
23 เรือลำน้อยกลางบึงบัว“ตกลง เจ้าได้นัดมู่เฉินหรือไม่ยี่หวา”ฮุ่ยซิ่งคาดคั้นทันทีที่นางเหยียบเรือนหลังเล็กในช่วงดึกล่วงยามห้าย[1] ไปแล้ว เท้าเล็กเรียวชะงักแหงนหน้าขึ้นเห็นบุรุษหอซีหยางโหลวโบกพัดยืนเท้าเอวเป็นเงาทะมึนกลางเรือน“เจ้ายังไม่นอนอีกหรือ” น้ำเสียงอ่อนแรงเดินยังหมดแรงค่อยก้าวอย่างระมัดระวังเพราะเจ็บหนึบ“ถ้านอนแล้วเจ้าจะเห็นหรือยี่หวา หายหน้าไปค่อนคืนกลับมาอ่อนระโหยดั่งออกศึก”“ข้าออกศึกมาจริง ๆ หาววว ข้าง่วงแล้ว”“ประเดี๋ยว” ฮุ่ยซิ่งคว้าต้นแขนไว้ “ตกลงนัดหรือยัง”“ข้าลืม”คิ้วเรียวฮุ่ยซิ่งกระตุกถี่“เจ้ารู้หรือไม่ว่าเรื่องนี้สำคัญยิ่ง เยี่ยนฟางเสียท่านอนกับใคร ใช่ท่านแม่ทัพหรือไม่ หรือเป็นเพียงทหารธรรมดา เงินในหีบที่เจ้าฝันไว้สลายหายวับไปกับตา”เป๊าะ...ฮุ่ยซิ่งดีดนิ้วใส่หน้าแล้วสะบัดพัดพับโขกหัวสตรีตรงหน้า“หัวสมองเจ้ายามนี้มีแต่บุรุษ หญิงมิเคยต้องมือชายก็เป็นเช่นนี้ หลงเสน่หาเจ้าหมอนั่นเต็มเปา”23ข้าเปล่า ถอยไปข้าจะนอน”
24 ลอยละล่องดวงตารีดั่งหงส์หลุบมองมือหนา เรียวยาวเสียแต่ว่าเต็มไปด้วยรอยแผลเป็น“เจ้าทำศึกมามาก เคยนึกเบื่อบ้างหรือไม่มู่เฉิน” ยี่หวาโพล่งขึ้นจนหลี่เหว่ยเบือนหน้ากลับมามองอย่างแปลกใจ แล้วจึงยิ้มอ่อน“ไม่ ข้าไม่เบื่อ ข้าเกิดมาเพื่อสิ่งนี้ ปกป้องบ้านเมือง”“เจ้าเคยคิดหรือไม่ว่าวันหนึ่ง ยามสงครามสุขสงบ เจ้าจะทำสิ่งใด”หลี่เหว่ยนิ่งอึ้งไปชั่วครู่ ดวงตาหลุบลงคล้ายครุ่นคิด ก่อนคลี่ยิ้ม“ข้าไม่เคยคิดถึงบ้านเมืองยามสงบสุขได้เลย ตั้งแต่เด็กจนบัดนี้สงครามเกิดขึ้นทุกหย่อมหญ้า การรบราฆ่าฟัน การป้องกันเขตแดน ข้าเพียงทำหน้าที่ตามบัญชาองค์ฮ่องเต้ แต่หากบ้านเมืองไร้ศึกจริงอย่างที่เจ้าว่า ข้าคงกลายเป็นบุรุษว่างงาน ไร้จุดหมาย”“เจ้าไม่เคยทำสิ่งอื่นหรือมู่เฉิน เช่น ค้าขาย หรือ ปลูกผัก”“ปลูกผัก!! ข้าคงมิอาจคิดไปไกลถึงขนาดนั้น หากให้ข้าลงมือปลูกผัก เจ้าผักพวกนั้นคงตายก่อนผลิใบรับแสงตะวัน มิสู้ให้ข้าเอาดาบฟันมันเลย ตายตั้งแต่ยังไม่ได้โดนแดดคงดีเส
25 ยังรอเจ้าอยู่มิได้พบยุพเยาว์ทนห่มหนาวไม่ชิดใกล้คืนยาวนานทำเช่นไรเราต่างไร้คู่นอนเคียง[1]หลี่เหว่ยกวาดตามองทหารนายกองรอบวงร่วมสิบกว่านาย ตรงกลางคือแผ่นที่ทราย ยามนี้ใกล้เคียงจุดแตกหักสิ้นสุดของสงครามอันยืดเยื้อมานานร่วมปี ก่อนที่กองทัพเสือดำจะเร่งเดินทางร่วมทัพเสริม“ท่านแม่ทัพ” มู่เฉินเอ่ยกระซิบข้างหูสองสามคำ“ข้าต้องขอตัว ทางบ้านมีเรื่อง”หลี่เหว่ยผุดลุกร้อนรน ไม่ใส่ใจสีหน้าของนายกองที่นั่งปรึกษาเรื่องสำคัญ การเคลื่อนทัพหนสุดท้ายในวันพรุ่งนี้ใจแม่ทัพหนุ่มกระเด้งกระดอนไปทั้งทรวงยามได้ยินคำว่า ‘ตั้งครรภ์’ หลี่เหว่ยย่ำฝีเท้าเร็วตามมู่เฉินออกมาจากกระโจมบัญชาการ เห็นคนเดินสารม้าเร็วยืนเข่ารอจึงรีบส่งมือออกไปรับสารยามนี้เยี่ยนฟางตั้งครรภ์ได้ห้าเดือน ขอให้เจ้าอย่าได้กังวล แม่ได้จัดเตรียมหมอตำแย เชิญหมอหลวงมาตรวจครรภ์มิได้ขาด ย้ายนางขึ้นมานอนยังเรือนใหญ่ก่อนเพื่อรอเจ้ากลับมาสั
26 ลำแสงแรกพระอาทิตย์ตึก ตึก ตึกเสียงวิ่งบนพื้นหิมะทำให้ทั้งสองหันตัวกลับไปมองต้นเสียง เห็นจินเยว่วิ่งหน้าตั้งสีหน้าเบิกบานยิ้มกว้างจนถึงใบหู หน้าแดงฝ่าลมหนาวเหน็บแล้วหยุดหอบหายใจตรงบันไดขึ้นเรือนเล็ก“อันใดกันจินเยว่ วิ่งราวกับวิ่งหนีใครมา”“แฮก ๆ ข้า เดี๋ยวก่อน ขอพัก”จินเยว่ยังหอบหายใจมือกุมท้องขณะก้าวขึ้นเรือนแล้วนั่งลงข้างยี่หวา“สงสัยเรื่องดี ดูจินเยว่สิ ยิ้มกว้างขนาดนี้” ยี่หวาเอ่ยเย้าขณะส่งมือดึงแก้มแม่นางน้อย“อุ๊ย..เจ็บพี่ยี่หวา มีม้าเร็วมา แจ้งว่าท่านแม่ทัพกำลังเข้าเขตเมืองฉางอานแล้ว อีกไม่กี่วันจะถึงจวน”สิ้นเสียงจินเยว่ ดวงหน้าของยี่หวาพลันสดชื่นขึ้นทันตา นางเผยรอยยิ้มสดใสเป็นครั้งแรกไม่แสแสร้งในรอบหลายเดือน รวมไปถึงแววตาพราวเปล่งประกาย“เพิ่งพูดถึงก็มาเสียแล้วกองทัพเสือดำ” ฮุ่ยซิ่งพูดเย้ายี่หวาที่บัดนี้พวงแก้มแดงระเรื่อยิ้มน้อยยิ้มใหญ่“เจ้าจะรอก่อนไหมฮุ่ยซิ่ง”“ไม่ ข้าตั้งใจแล้วไม่เคยเปลี่ยนใจ”“รออะไร พี่ฮุ่ยซิ่งจะไปไหน”“ข้าต้องจากจวนห
27 ตามหมอ หมอหลวงงงงงง“นางใกล้คลอดหรือยัง”มู่เฉินยืนนิ่งด้านข้างเก้าอี้ในห้องทำงาน เบื้องหน้าคือหมอหลวงที่ท่านแม่ทัพให้แฝงตัวเข้าไปดูแลครรภ์แม่นางยี่หวาในหอซีหยางโหลว ทั้งส่งคนเฝ้าห่าง ๆ ตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา“ใกล้แล้วท่านแม่ทัพ คงอีกไม่กี่วัน”“ถึงวันให้ส่งคนมาแจ้ง ข้าจะไปดูด้วยตนเอง”กล่าวจบหลี่เหว่ยยกมือโบกไล่แล้วกลับไปอ่านเอกสารราชการตรงหน้าต่อ มือยังถือพู่กัน ดวงหน้านิ่งเฉย มู่เฉินรินน้ำชาเพิ่มช่วยลดความตึงเครียด“น้ำชาท่านแม่ทัพ”“กำชับคนให้ดูแลหอซีหยางโหลวอย่างดี อย่าแสดงตัวให้นางเห็น แล้วเมียเจ้า เยี่ยนฟางเป็นเยี่ยงไรบ้าง”“ใกล้คลอดเช่นกันท่านแม่ทัพ คงไล่เลี่ยห่างกันไม่กี่วัน”“ดี”มู่เฉินนิ่งเงียบเมื่อท่านแม่ทัพหมดคำถาม“อากาศเริ่มร้อนแล้ว เจ้าส่งน้ำแข็ง ไม่สิ ไม่ได้ ไม่ดีต่อสุขภาพ เจ้าให้คนนำพัดอันใหม่ไปให้นางหรือยัง”“ขอรับท่านแม่ทัพ ฝากฮุ่ยซิ่งไปเช่นเดิม แม่นางยี่หวาไม่มีทางรู้ว่าส่งมาจากท่านขอรับ”“อืม...กว่าจะเคี