16 แต่งให้เจ้า?
“มู่เฉินนน ท่านควรปล่อยให้ข้าได้นอน อือ ห้องท่านร้อนอะไรเยี่ยงนี้” ยี่หวาพลิกตัวอีกครั้งนอนหงายชันเข่าขึ้นใช้มือปัดชายกระโปรงออกให้ท่อนขารับลมเย็นแล้วลูบจนพ้นต้นขา
หลี่เหว่ยตะแคงมองสายตาเข้มข้น ยกมือลูบท่อนขาเนียนนุ่มมือคล้ายปลอบประโลม ขยับพาร่างสูงใหญ่เข้าใกล้
“ยังไม่ได้บอกเลย ยาอะไร” เสียงทุ้มเริ่มสั่นยามมือเลื่อนขึ้นล้วงลงต้นขาด้านใน ปลายนิ้วกำลังสัมผัสบางสิ่งอ่อนนุ่ม
“เซ่อเซียง อยู่ตรงนี้” ยี่หวาวางมือบนหน้าท้อง “แปะไปได้ไม่ทันสองเค่อ ข้ามึนศีรษะเหลือเกิน แล้วยังร้อนไปทั่วร่าง อืออ มู่เฉินมือท่านเย็นดีนัก ลูบขึ้นมาอีกข้าชอบ”
ยี่หวาคว้ามือหลี่เหว่ยไว้แล้วพาไปวางยังต้นขาด้านหน้าสีหน้าพึงพอใจผิดไปจากบุรุษร่างใหญ่ที่นิ่งขึง ดวงหน้าแกร่งแดงซ่านทีละน้อย
“เจ้าไม่รู้หรือว่าเซ่อเซียงออกฤทธิ์บางอย่างคล้ายยากำหนัด”
“ยากำหนัด” น้ำเสียงแผ่วเบาค่อยลืมตาขึ้น “หมายความว่าตอนนี้ข้า ข้ากำลังมีอารมณ์จากฤทธิ์ยา”
“ฮึ มีอารมณ์ เจ้าใช้คำได้แปลกมาก หากเจ้าหมายถึงกำลังเกิดกำหนัดล่ะก็ใช่ เจ้ากำลังมีอารมณ์” หลี่เหว่ยสังเกตดวงตาหรี่ปรือกำลังไหวระริก “แผ่นแปะเซ่อเซียงจะออกฤทธิ์ดีเมื่อแปะรอบสะดือ”
“อืม..ถูกต้องแล้ว” ยี่หวาชี้นิ้วอีกมือวนรอบกลางลำตัวคลี่ยิ้มหวานตาหยาดเยิ้ม “เจ้านั่นมันอยู่ตรงนี้ คิก คิก”
“เจ้าหัวเราะ” หลี่เหว่ยกระเถิบร่างใหญ่เข้าใกล้อีก มือหนึ่งเท้าศีรษะตะแคงตัวหันหาร่างงาม อีกมือทาบบนหน้าท้อง
“ข้าเพียงนึกภาพแล้วตลก คิก คิก ท่านอยากเห็นไหม” ยี่หวาไม่รอให้หลี่เหว่ยตอบรับ นางดึงป้านปี้ด้านหน้าหลุดออก ตัวเสื้อด้านในแบบเกาะอกเพียงไร้ซึ่งเชือกรั้งไว้พลันคลายตัวเลื่อนออกเผยเนื้อหนังเนินขาวครึ่งเต้า
“อ่า เจ้า...ดูท่าเซ่อเซียงคงออกฤทธิ์แรงหนัก” หลี่เหว่ยเองแม้เป็นทหารกล้าผู้ซื่อสัตย์ แต่กลับเรื่องหญิงงามแล้วเขาย่อมต้องการทำตามใจตนเอง ละมือออกจากหน้าท้องเลื่อนขึ้นใช้นิ้วเกี่ยวขอบผ้าบาง
“ท่านอย่าได้ชักช้า ข้าต้องการให้ท่านเห็น กลิ่นมันแรงนัก อืออ ข้าเวียนหัวอีกแล้ว” ยี่หวาผลักมือใหญ่ออกแล้วเป็นฝ่ายเลื่อนผ้าลงเสียเองโดยไม่รู้ตัวสักนิดว่าทำให้บุรุษร่างโตสะดุ้งเฮือกทันใด
เนินขาวนูนอวบเต่งตึงกลมกลึงได้รูปเบียดชิดดั่งดอกบัวเบียดเข้าหากันในบึงบัว ป้านหัวยอดสีชมพูเล็ก ยิ่งเม็ดตรงกลางชูชันน้อยนิดอย่างสาวแรกรุ่น
“ยี่หวา เจ้าอายุเท่าไร” หลี่เหว่ยกลืนน้ำลายละสายตาออกจากสิ่งยั่วยวนมองไปยังมือเล็กที่บัดนี้ทาบบนกลางท้อง
“ข้าสิบเจ็ด เคยบอกไปแล้วไยไม่รู้จักจำ ท่านควรดูสิ่งนี้ ฮ่า ฮ่า มันมีกลิ่นพิกล” ยี่หวาใช้นิ้วชี้วนรอบสะดือบุ๋ม แผ่นแปะไม่เล็กไม่ใหญ่ส่งกลิ่นคล้ายตัวชะมด สีหม่นน่าเกลียด
“มันค่อนข้าง ไม่น่าดูนัก”
“มันน่าเกลียด และเหม็น ท่านดึงออกให้ข้าหน่อย ข้าพยายามดึงหลายครั้งแล้วแต่ทำอย่างไรมันก็ยังติดแน่น จึงได้เร่งรีบมาหาท่าน เอื้อก ข้า เมาอีกแล้ว”
พูดจบยี่หวาดีดตัวลุกนั่งโก่งคอคล้ายจะอาเจียนแต่มีเพียงลมจนหลี่เหว่ยต้องลูบหลังให้ สัมผัสฝ่ามือร้อนทาบลงเรือนร่างร้อนยิ่ง ร่างอรชรแอ่นรับครางในลำคอ
“เจ้าต้องนอนลงก่อน เดี๋ยวข้าเอาออกให้เอง” หลี่เหว่ยเสียงแหบพร่าประคองร่างเล็กกว่าให้นอนลง แล้ววกมือลงเข้าหาแผ่นแปะพยายามดึงแต่ไม่ออกคล้ายมันดูดเนื้อไว้
“ไม่ออก ข้าจะลองใช้มีดเล็ก”
“ท่าน...”
หลี่เหว่ยล้วงเอามีดเล็กที่มักพกติดตัวออกมาจากชายกางเกง ลองสะกิดขอบแผ่นเซ่อเซียง
“น่าจะหลุด เจ้านอนนิ่ง ๆ” หลี่เหว่ยตวัดสายตากลับไปมองเมื่อร่างเล็กขยุกขยิก
“อืม ข้าเพียงจักกะจี้”
“อีกนิด อืม...ติดแน่น” ในระหว่างใช้มีดสะกิด ฝ่ามือใหญ่หลี่เหว่ยแตะโดนฐานเนินทรวงนุ่มตลอดเวลาทำใจบุรุษเต้นระทึก ลอบมองความกลมกลึง
“ท่านแอบมองนมข้า” ยี่หวาพูดแผ่วเบากลั้วหัวเราะ แล้วเลื่อนมือขึ้นปิดเนินทรวงอกตนเอง
“ข้าเปล่า เหตุใดข้าต้องแอบมองในเมื่อคืนนี้เจ้าย่อมต้องเป็นของข้า”
“ก็เพราะว่า...” ยี่หวาเงียบเสียงไปจนหลี่เหว่ยต้องหยุดมือเอี้ยวหน้าไปมอง “เพราะว่ามันน่าตื่นเต้นดีเป็นบ้า จริงหรือไม่”
“ตื่นเต้น” เสียงทุ้มต่ำแหบลงอีกหลายส่วน
“ใช่แล้ว” ยี่หวาเลื่อนนิ้วตนไปยังแผ่นแปะเขี่ยเล่น “เวลาแอบมองผู้อื่นหัวใจเราจะเต้นแรง เยี่ยงนี้” นางทาบมือลงเนินนมตนเองก่อนยื่นออกมาวางบนอกซ้ายของหลี่เหว่ย ซึ่งยามนี้เต้นแรงกว่าครั้งไหน
“ท่านใจเต้นแรง แสดงว่าท่านแอบมองข้า”
“ฮึ เอาล่ะ ออกเสียที” หลี่เหว่ยเขี่ยแผ่นแปะออกได้ในที่สุดแล้วยืดกายกลับไปนอนหงาย หยิบแผ่นแปะชูขึ้นสูงเหนือศีรษะ “ใครเอามาให้เจ้า”
“ฮุ่ยซิ่ง อือ ค่อยยังชั่ว อาการมึนศีรษะดีขึ้นทันตาเลย” ยี่หวาพยุงกายนั่งดึงผ้าขึ้นปิดเนินหน้าอก พอสติเลอะเลือนเริ่มกลับเข้าทีความอายพลันเข้ามาแทรก พวงแก้มทั้งสองซ่านแต้มสีแดงระเรื่อลามลงถึงซอกคอ “ข้าจ่ายไปมากพอดู แต่ถ้าดึงออกเสียแล้ว ข้าจะคุมกำเนิดได้ยังไงกัน”
“คุมกำเนิด เจ้าหมายถึงอะไร” หลี่เหว่ยโยนแผ่นแปะทิ้งแล้วนอนตะแคงไปทางสาวงาม กวาดสายตาเรือนร่างอรชรแม้ดึงผ้าปิดกายหากแต่ยังมีบางส่วนเปิดเปลือย
“ข้าหมายถึง ข้ากลัวว่าจะตั้งครรภ์เลยขอให้ฮุ่ยซิ่งคิดหาวิธีช่วยไม่ให้น้ำของท่านผสมเข้ากับไข่ของข้า”
“ไข่ของเจ้า” น้ำเสียงสงสัย
“พูดไปท่านก็ไม่เข้าใจ เอาเป็นว่าข้ายังไม่อยากมีลูก” ยี่หวาผูกป้านปี้ดั่งเดิม สะบัดผมไปอีกทางหลังจากที่มันหลุดลุ่ยคลายออกจนทิ้งตัวยาวสยาย
“เหตุใดถึงไม่อยากมีลูกกับข้า เจ้าไม่อยากเป็นแม่คนหรอกหรือ”
“ฮึ อยากสิ ถ้าเป็นไปได้ชาตินี้ข้าเองก็ต้องการเป็นแม่คน แต่หากข้าท้องเสียแล้ว แผนการท่องยุทธภพข้าคงต้องจบสิ้น”
“ดูท่าท่องยุทธภพสำคัญต่อเจ้ามาก”
“ย่อมแน่นอน ข้าต้องการอิสระ”
“แล้วถ้าเปลี่ยนเป็นท้องกับท่านแม่ทัพล่ะ ดีไหม เจ้าชื่นชอบกว่าไหม”
“ท่านแม่ทัพ! ยิ่งแล้วใหญ่ จวนหลังนี้กฎระเบียบมากมาย ซ้ำร้ายได้เป็นเพียงอนุผู้หนึ่งที่เมื่อคลอดบุตรให้แล้ว ข้าคงแห้งเหี่ยวเฉามองดูบุรุษชั่วผู้นั้นมีหญิงอื่น” ยี่หวาพูดพร่ำไม่ทันสังเกตหางคิ้วหลี่เหว่ยกระตุกถี่
“แต่เจ้าได้อยู่สุขสบาย ไม่ต้องตรากตรำทำงานหนัก เสวยสุขชี้นิ้วสั่งงาน” หลี่เหว่ยพยายามอดกลั้น เอ่ยน้ำเสียงเรียบเฉยแต่ภายในกลับร้อนรุ่ม ไม่เคยได้ยินมาก่อนว่ามีหญิงใดไม่ต้องการแต่งกับเขา นักรบผู้เกรียงไกร เงินทองมากมาย
“มู่เฉิน ท่านย่อมรู้ว่าหญิงเราเกิดมาย่อมทำตามความประสงค์ของบิดามารดา ส่วนข้าไม่มี การที่ข้ารักอิสระเสรีผิดที่ตรงใด อีกอย่าง ข้าได้อยู่สุขสบายแล้วอย่างไร จวนหลังนี้เปรียบไปเป็นดั่งกรงทองขนาดใหญ่ ข้าอยู่กับเขาไร้ซึ่งศักดิ์ เสียง เป็นเพียงเครื่องบรรณาการชิ้นหนึ่งที่มีไว้ตั้งแสดง บ่งบอกถึงอำนาจล้นฟ้าของท่านแม่ทัพ มิสู้ออกไปเผชิญโลกภายนอก กินเมื่อไร นอนที่ไหนย่อมแล้วแต่ใจตน โดยเฉพาะบุรุษ ข้าจะเลือกใครก็ได้มาทำสามี”
หัวคิ้วเข้มขมวดยุ่งจนเกือบติดยามได้ยิน อกแกร่งข้างในอัดแน่นแปลกพิกล ทั้งร้อนรุ่มยามนึกภาพหญิงตรงหน้ากอดรัดกับบุรุษอื่น
“งั้น เจ้าแต่งให้ข้าเล่า”
“แต่งให้เจ้า? แต่งให้เจ้า.. มู่เฉิน ทุกวันนี้เจ้าเป็นเพียงทหารผู้น้อยใต้บังคับบัญชาทำตามสั่ง ท่านแม่ทัพชี้นกเป็นนก ชี้ไม้เป็นไม้ สั่งให้ท่านไปตายเมื่อใดก็ย่อมได้ ข้ายังไม่อยากเป็นม่ายแต่ยังสาวหรอกนะ”
คราวนี้หลี่เหว่ยทนอยู่นิ่งไม่ได้อีกต่อไปแล้ว นี่เขานั่งให้นางสบประมาทมาหลายประโยค จึงจัดแจงลุกขึ้นนั่งกำลังชะโงกตัวไปใกล้แสดงให้นางรู้ว่าใครเหนือกว่า พลันเสียงหนึ่งเล็ดลอดเข้ามา
อือ....อ่า ท่านพี่ อา ข้า อา
กึก กึก กึก
อ่า เจ้างามนัก อืมมม
พวงแก้มยี่หวาแดงซ่านหนักกว่าเก่าเหลือบสายตาไปทางซ้ายมือสีหน้าหลี่เหว่ยเองตกตะลึงและแดงซ่านพอกัน
“ฮะ แฮ่ม เออ ข้าว่า ผนังเรือนหลงของท่านแม่ทัพ ไม่ค่อยหนาสักเท่าใด เห็นควรเพิ่มผนังอีกสักชั้น” ยี่หวาป้องปากพูดเสียงเบาขึ้น
หลี่เหว่ยหันมองไปทางต้นเสียง ผนังห้องฝั่งขวาซึ่งเป็นฝั่งที่ใช้ผนังห้องร่วมกัน
กึก กึก กึก ... เสียงเตียงโยกไหวดังต่อเนื่อง
เสียงกระเส่าของคนทั้งคู่เริ่มดังขึ้นอีกจนหลี่เหว่ยอดกลั้นไม่อยู่ หัวเราะออกมา
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ข้า ข้า ไม่คาดคิดมาก่อนว่าผนังเรือนหลงเป็นเยี่ยงนี้”
“ท่านหมายความว่ากระไร ท่านไม่เคยได้ยินหรอกหรือ”
“ไม่ ท่านแม่ทัพไม่เคยเสพสำราญที่จวนมาก่อน”
“ไม่เคย แล้วยามปกติท่านแม่ทัพไปที่ใดกัน”
หลี่เหว่ยนิ่งคิด ตามปกติออกรบตัวเขามักยุ่งอยู่สนามรบตลอดเวลา มีบ้างบางเวลาที่หัวเมืองส่งสาวงามมาให้ทหารได้ผ่อนคลาย แต่ตัวเขาไม่เคยปล่อยให้อารมณ์พวกนั้นมารบกวนสมาธิ แต่จะให้ตอบอย่างไรดี ถ้าบอกไม่ก็เหมือนไก่อ่อน แต่ถ้ายอมรับว่านอนกับสตรีในค่ายย่อมดูไม่ดี
“หรือว่าพวกท่านช่วยตัวเอง” ยี่หวาเหลือบสายตาลงแก่นกลางลำตัวของชายตรงหน้าแล้วทำมือกำหลวมขยับรูดเลียนแบบท่าทางจนเป็นหลี่เหว่ยที่อ้าปากค้าง
“เจ้า เจ้า นี่เจ้าใช่สตรีจริงหรือไม่ ถึงได้ทำอากัปกิริยาเยี่ยงนี้”
“ปัดโธ่! มู่เฉิน มันเรื่องธรรมดาของผู้ชาย เจ้านี่ไม่ต้องมาอาย ถามจริง ท่านแม่ทัพกับเจ้ามิใช่พวกรักชาย ไม่เที่ยวร่วมเตียงกับสตรี งั้นเหลือวิธีเดียวคือการทำร้ายตนเอง ฉึก ฉึก”
ยี่หวาทำเสียงประกอบกลัวชายตรงหน้าไม่เข้าใจ ยิ่งเห็นสีหน้าแดงซ่านทั้งที่ผิวสีเข้มคล้ำแดดยิ่งคิดว่าไม่เข้าใจจึงทำมือเร็วขึ้นอีกจนหลี่เหว่ยแทบกระอักเลือดคว้ามือนางไว้ดึงกระชากเข้ามาใกล้
“ข้าว่าเราเสียเวลาพูดคุยเรื่องนี้มานานเกินไปแล้วยี่หวา หากเจ้าคิดว่าข้าไม่ประสา เห็นทีเจ้าควรทดลองด้วยตนเองเป็นดีที่สุด” น้ำเสียงยโสโอหังปนแค่นเสียง แต่มือกลับรั้งร่างเล็กอรชรขึ้นช้อนแก้มก้นสะโพกงามจนนางนั่งคร่อมร่างแล้วโอบลำแขนรัดนางไว้จนแน่น
“ข้าว่าเราควรเริ่มจากจูบ”
ยี่หวายันอกแกร่งไว้เพ่งมองจดจ้องสบตาสีนิลที่ยามนี้แปรเปลี่ยนเป็นเข้มข้นดำมืดหลุบต่ำมองเพียงริมฝีปากเล็กของนาง อกซ้ายมู่เฉินใต้ฝ่ามือเต้นแรงดั่งกลองตี นั่นทำให้นางค่อยคลายประหม่า - - ที่แท้ท่านก็ไม่ประสาเช่นข้า มู่เฉิน
17 NCไม่ประสา ไม่ประสา... นี่ข้าหลงคิดเช่นนั้นได้เยี่ยงไร!!แรกเริ่มเพียงปากประกบเขากดนิ่งชะงัก ยี่หวาจึงใจกล้าเป็นฝ่ายแย้มริมฝีปากเสียเองอย่างที่รู้มาจากหนังเอวี ส่งลิ้นเล็กเรียวปาดขอบริมฝีปากล่างของชายร่างโต - - ชีพจรมู่เฉินเต้นแรงกว่าเดิมคงตื่นเต้นเบียดกายสาวลงจนสัมผัสถึงบางสิ่งยาวใหญ่ นางจงใจคลึงเบียดลงกดแน่น ร่างใหญ่สะดุ้งเฮือก - - เห็นไหม“ท่าน มู่เฉิน เจ้าเคยแบบนี้หรือไม่” ยี่หวาละริมฝีปากออกก้มลงซอกคอขบเม้ม มือเลื่อนลูบยังเชือกคาดเอวกระตุกดึงสอดมือเข้าสาบเสื้อแหวะเปิดออกกระทั่งลอดเข้าไปยังเสื้อตัวใน สัมผัสถึงกายแกร่งชายร่างโต อุ่นจนร้อนจัด หนั่นแน่นกล้ามเนื้อนางเลื่อนปากขึ้นไถลพรมจูบส่งความร้อนลวกเป็นทาง ลมหายใจเป่ารดซอกคอชายด้านล่างกระทั่งถึงใบหู เอ่ยกระซิบเสียงกระเส่า“เจ้า เคยแบบนี้หรือไม่ อืม”มือเล็กเรียวเลื่อนเคลื่อนไหววนรอบฐานนมชายชาตรีแล้วไถลผ่านหน้าท้องลงสู่เบื้องล่าง ซอกหลืบวางมือทาบลงท่อนเนื้ออุ่นจัดพลันกายชายสะดุ้งเฮือกอีกครั้ง - - ใช่แล้
18 NCหลี่เหว่ยจับจ้องดวงหน้าหวานงดงามเผยอปากคล้ายโต้เถียง แต่แล้วพลันเงียบเสียงลง สีหน้าละมุนผ่อนคลายจึงค่อยคลายใจ รอจนนางเอนกายลงดั่งเดิม“เปิดขาเจ้ายี่หวา ให้กว้าง”น้ำเสียงเข้มข้นระคนกระเส่าพาให้กายสาวสะท้านไหว ยี่หวานอนนิ่งชันเข่าแล้วค่อยเปิดออก“อีกแม่นางน้อย ให้กว้าง”ชีพจรแม่ทัพหนุ่มโลดแรงยามมองเรียวขางามเปิดออกทีละน้อย แต่มันยังไม่พอ หลี่เหว่ยยังต้องการให้กว้างกว่านี้ให้มาก ๆ เพราะมันหมายถึงการยินยอมศิโรราบโดยแท้จริง ดวงตาสีนิลจับจ้องเนินสาวอวบอูมปิดแน่นค่อยเปิดถ่างออกมองเห็นรอยแยกออกเพียงเล็กน้อยหลี่เหว่ยเคลื่อนกายเดินด้วยเข่าขยับไปใกล้เข้าสู่กลางหว่างขา จับหัวเข่านางไว้เปิดออก นั่งชันเข่าก่อนจับเอวคอดกิ่วด้วยมือทั้งสองข้างดึงกระชากจนสะโพกเล็กยกลอย“อ่า ท่าน เดี๋ยวก่อน”เสียงหวานร้องตกใจยามหลี่เหว่ยยกร่างเบาหวิวขึ้นลอยเข้าหาส่วนกลางลำตัว“รัดเอวข้าไว้ยี่หวา”นางกระหวัดเรียวขาเข้าเอวสอบยึดเป็นหลัก หลี่เหว่ยดึงลากแล้วหยุดลงเมื่อปลายหัวป้านลำหยกสัมผัสเนื้ออ่อนนุ่มฉ่ำแฉะ“อืม.. ยี่หว
19 อ่อนแรง“เจ้าว่าอย่างไรนะ สองคืนติดเช่นนั้นหรือ”หลี่ฮูหยินถึงกับวางตะเกียบในยามเช้า เอียงหน้าท้วมอย่างหญิงวัยกลางคนมีอันจะกินไปทางแม่บ้านโจว สีหน้ายินดีแต่เพียงชั่วครู่พลันนิ่งงัน“เจ้าค่ะฮูหยิน สองคืนติด ฮูหยินวางใจได้แล้วเจ้าค่ะว่าท่านแม่ทัพมิได้ชื่นชอบบุรุษ”“แต่ว่า นี่ไม่หลงรูปโฉมนางคณิกาเกินไปหน่อยหรือไร”“ฮูหยินเจ้าค่ะ คุณชายบ้านใดบ้างที่ไม่มีหญิงสาวคอยอุ่นเตียง ท่านแม่ทัพเองต่างหากที่แปลกแตกต่างจากบ้านอื่น ไม่มีแม้กระทั่งสาวใช้ข้างห้อง”“อืม จริงอย่างเจ้าว่ามา เอาล่ะ ข้าควรทำจิตใจให้ปลอดโปร่งเลิกคิดเรื่องนี้ หากลูกเหว่ยข้าต้องการยกนางเป็นอนุข้าควรยินดี เพียงแต่อย่าให้มีบุตรก่อนที่ลูกข้าได้แต่งงานกับคุณหนูดี ๆ สักคน”“เจ้าค่ะ เมื่อวานนี้ข้านำสมุนไพรต้มอย่างดีไปให้แล้วเจ้าค่ะ”“นางดื่มหมดหรือไม่”“เจ้าค่ะ ตอนไปเก็บถ้วยชาหมดเกลี้ยงเจ้าค่ะ”“ดีแล้ว เออจริงสิ หลานเยว่ ช่วงนี้เจ้าเองควรมั่นไปเรือนหลง ทำขนมของว่างไปให้พี่ของเจ้าบ้าง ยามดึกลูกเหว
20 ของฝากอากาศภายในโถงอุ่นสบายยิ่ง ยี่หวาเดินเตร่สำรวจไปทางนั้นทีทางนี้ทีอย่างใคร่รู้ คราวก่อนที่มู่เฉินพาหลบฝนไม่ได้พานางมาห้องนี้ยี่หวาแหงนดวงหน้าขึ้นสูงมองขื่อคานทำจากไม้เนื้อแข็งอย่างดีท่อนใหญ่สีดำ เลื่อนสายตารอบห้องประดับด้วยภาพวาดจากจิตรกรงดงาม ตรงกลางท้ายโถงยกพื้นขึ้นเล็กน้อยมีเก้าอี้สีดำเช่นกันตัวใหญ่ตั้งตระหง่าน นางเคาะนิ้วกับริมฝีปากขยับร่างเปียกปอนไปใกล้“นี่คงเป็นเก้าอี้ของท่านแม่ทัพหลี่เหว่ยสินะ” นางลูบเก้าอี้เล่นแล้วยิ้มในหน้าพรึบ! สะบัดผ้าพลิ้วหมุนตัวแล้วหย่อนก้นลง“อ่า ความรู้สึกของผู้เป็นใหญ่เป็นเช่นนี้สินะ” ยี่หวายิ้มกว้างยกขาไขว้ห้าง เอนกายไปด้านหลังยกนิ้วชี้ขึ้นชี้ไปตรงหน้า“ถ้าข้าอยากจะใช้คนเพียงชี้นิ้วใช่หรือไม่ นำเจ้านั้นไปฆ่า ฮ่ะ ฮ่า ช่างน่าสนุก อืม” นางยกมือกอดอกทำท่าทางเลียนแบบยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่ผู้เดียวจนไม่ทันสังเกตว่าบุรุษหนึ่งยืนอยู่มุมเสามาสักพักใหญ่แล้วหลี่เหว่ยเอนร่างใช้หัวไหล่พิงเสาลอบมองหญิงคณิกาเปียกไปทั้งตัว (อีกแล้ว) ทำท่าทางพิลึกพิกล บ้างหัวเราะ บ้างพูดคนเดียวราวคนว
21 เซาปิ่งเท้าใหญ่เดินนำแล้วหยุดรอกระทั่งยี่หวาลุกขึ้นเดินตามอย่างจำใจผ่านร่างเขาไปจึงปิดประตูตามหลัง“ห้องนี้อุ่นจริงอย่างเจ้าว่า ไหนขนมอะไร”ร่างอรชรตรงดิ่งไปยังโต๊ะเล็กบนพื้นยกข้างหน้าต่าง นั่งลงแล้วขยับไปเปิดหน้าต่างออกกว้าง“ตรงนี้มองเห็นบึงบัว ไยไม่เปิดให้บ่อย ๆ” ว่าพลางยกน้ำแกงอุ่นขึ้นดื่มทีละน้อย“ท่านแม่ทัพไม่ชอบให้ใครมาสอดรู้สอดเห็น เที่ยวแอบมองเข้ามาในห้อง” เขานั่งลงใกล้กันสะกิดให้ยี่หวาขยับไปด้านใน“เหตุใดไม่นั่งตรงอื่น”“หนาว” หน้าหนาด้านเช่นเขาย่อมพูดได้ทุกอย่าง - - ยกยิ้มอีกครั้ง“ข้ามีเรื่องมาแจ้ง เจ้าทำให้ข้าหลงลืมตลอด เวลาอยู่ใกล้” มือเรียวบิดขนมเซาปิ่งเป็นชิ้นเล็กส่งเข้าปาก“เรื่องอะไร”หลี่เหว่ยนั่งคล้ายขัดสมาธิแต่ยกขาขึ้นหนึ่งข้างชันเข่าให้ลำแขนพาดวางไว้ ดูอหังการเหลือทน“คืนนี้เยี่ยนฟางมาไม่ได้”“...”หลี่เหว่ยยกมือปัดปอยผมออกจากปากกระจับเมื่อนางงับเอาเข้าปากไปด้วย“ข้าเดาว่าความคิดเจ้า ยี่หวา”นางเอี้ยวหน้ามองมู่เฉินแล้วพลันห
22 Nc“เจ้าทำข้าช้ำ มู่เฉิน เจ็บ!!”“ข้าจะระวัง ต่อนะ..” ยังหน้าด้านส่งเสียงกระเส่ามุดหน้าลงแรงหญิงอ่อนแอมิใช่สาวสแตนอินดั่งแต่ก่อน เพียงหลี่เหว่ยสะบัดหน้าขืนไว้มือนางพลันหลุดออกจากผมดกหนา ใช้มือกอบดันขึ้นฉกปากครอบหิวกระหายมือเริ่มวุ่นวายด้านล่างปัดชายเสื้อคลุมพ้นทาง ล้วงมือเข้า“อืออ เบามือ เจ้ามือหยาบนัก มู่เฉิน อื้อออ อ่า อา”เสียงหวานต่อต้านได้เพียงครู่ผันเปลี่ยนเป็นร้องคราง มือหยาบหนาอย่างที่ยี่หวาว่ากล่าวกำลังเริ่มทำร้ายรอยแยกกลีบอ่อนบาง เลื่อนลงขยับนิ้วแยกแหวกออก ส่งนิ้วชี้ล้วงลึกเข้ากระทั่งพบหนทางชุ่มฉ่ำหลี่เหว่ยไม่รั้งรอสอดนิ้วดันลึกขบกัดยอดหัวนมจนยี่หวาร้องลั่น นางกอดคอหนาไว้ยกสะโพกหนีแต่ดูเหมือนชายหน้าด้านยิ่งส่งลึกตามติด“จะหนีไปไหน รออีกเดี๋ยว”“มัน ลึกไป”“ไม่ ไม่ลึกสักนิด ยังได้อีก” หากตำราว่าไม่ผิด สามารถเข้าได้ถึงสามนิ้วหมดข้อ แต่หลี่เหว่ยมิได้เอ่ยออกมา ทำตามสิ่งที่ตำราปกขาวกล่าวไว้ ด้วยความฉลาดเฉลียวศึกษาเพียงค่อนวันสามารถจดจำได้หมดสิ้น เคยร่วมเตียงกับหญิงไม่กี่ค
23 เรือลำน้อยกลางบึงบัว“ตกลง เจ้าได้นัดมู่เฉินหรือไม่ยี่หวา”ฮุ่ยซิ่งคาดคั้นทันทีที่นางเหยียบเรือนหลังเล็กในช่วงดึกล่วงยามห้าย[1] ไปแล้ว เท้าเล็กเรียวชะงักแหงนหน้าขึ้นเห็นบุรุษหอซีหยางโหลวโบกพัดยืนเท้าเอวเป็นเงาทะมึนกลางเรือน“เจ้ายังไม่นอนอีกหรือ” น้ำเสียงอ่อนแรงเดินยังหมดแรงค่อยก้าวอย่างระมัดระวังเพราะเจ็บหนึบ“ถ้านอนแล้วเจ้าจะเห็นหรือยี่หวา หายหน้าไปค่อนคืนกลับมาอ่อนระโหยดั่งออกศึก”“ข้าออกศึกมาจริง ๆ หาววว ข้าง่วงแล้ว”“ประเดี๋ยว” ฮุ่ยซิ่งคว้าต้นแขนไว้ “ตกลงนัดหรือยัง”“ข้าลืม”คิ้วเรียวฮุ่ยซิ่งกระตุกถี่“เจ้ารู้หรือไม่ว่าเรื่องนี้สำคัญยิ่ง เยี่ยนฟางเสียท่านอนกับใคร ใช่ท่านแม่ทัพหรือไม่ หรือเป็นเพียงทหารธรรมดา เงินในหีบที่เจ้าฝันไว้สลายหายวับไปกับตา”เป๊าะ...ฮุ่ยซิ่งดีดนิ้วใส่หน้าแล้วสะบัดพัดพับโขกหัวสตรีตรงหน้า“หัวสมองเจ้ายามนี้มีแต่บุรุษ หญิงมิเคยต้องมือชายก็เป็นเช่นนี้ หลงเสน่หาเจ้าหมอนั่นเต็มเปา”23ข้าเปล่า ถอยไปข้าจะนอน”
24 ลอยละล่องดวงตารีดั่งหงส์หลุบมองมือหนา เรียวยาวเสียแต่ว่าเต็มไปด้วยรอยแผลเป็น“เจ้าทำศึกมามาก เคยนึกเบื่อบ้างหรือไม่มู่เฉิน” ยี่หวาโพล่งขึ้นจนหลี่เหว่ยเบือนหน้ากลับมามองอย่างแปลกใจ แล้วจึงยิ้มอ่อน“ไม่ ข้าไม่เบื่อ ข้าเกิดมาเพื่อสิ่งนี้ ปกป้องบ้านเมือง”“เจ้าเคยคิดหรือไม่ว่าวันหนึ่ง ยามสงครามสุขสงบ เจ้าจะทำสิ่งใด”หลี่เหว่ยนิ่งอึ้งไปชั่วครู่ ดวงตาหลุบลงคล้ายครุ่นคิด ก่อนคลี่ยิ้ม“ข้าไม่เคยคิดถึงบ้านเมืองยามสงบสุขได้เลย ตั้งแต่เด็กจนบัดนี้สงครามเกิดขึ้นทุกหย่อมหญ้า การรบราฆ่าฟัน การป้องกันเขตแดน ข้าเพียงทำหน้าที่ตามบัญชาองค์ฮ่องเต้ แต่หากบ้านเมืองไร้ศึกจริงอย่างที่เจ้าว่า ข้าคงกลายเป็นบุรุษว่างงาน ไร้จุดหมาย”“เจ้าไม่เคยทำสิ่งอื่นหรือมู่เฉิน เช่น ค้าขาย หรือ ปลูกผัก”“ปลูกผัก!! ข้าคงมิอาจคิดไปไกลถึงขนาดนั้น หากให้ข้าลงมือปลูกผัก เจ้าผักพวกนั้นคงตายก่อนผลิใบรับแสงตะวัน มิสู้ให้ข้าเอาดาบฟันมันเลย ตายตั้งแต่ยังไม่ได้โดนแดดคงดีเส