แชร์

9  พับผ้าย้ายเข้าจวน

9  พับผ้าย้ายเข้าจวน

“หาวววววววว...”

หลี่ฮูหยินปิดปากหาวหวอดใหญ่ ยามเช้าปลายฤดูฝนใกล้ต้นฤดูหนาวอากาศเลวร้ายทั้งเย็นเยียบ ทั้งวังเวง นางกระชับเสื้อคลุมขนสัตว์ที่เพิ่งได้รับพระราชทานลงมาจากเบื้องบน

“ฮูหยินเจ้าคะ เกิดเรื่องแล้วเจ้าค่ะ”

แม่บ้านโจวผลักประตูพรวดพราดเข้ามายังห้องอุ่นหน้าตาตื่นตระหนกทั้งดวงตาเบิกกว้างจนหลี่ฮูหยินต้องเอ็ด

“เจ้าเอะอะแต่เช้ามีเรื่องอันใดกัน ข้านี่ตกใจหมด” หลี่ฉือยกมือทาบอกเหลือบสายตาไปยังหลานสาวจินเยว่กำลังส่งจอกน้ำชาให้

“แต่ฮูหยิน เรื่องนี้เรื่องใหญ่ยิ่งเจ้าค่ะ ตอนนี้เกิดข่าวลือทั้งเมืองเรื่องท่านแม่ทัพเป็นพวกต้วนซิ่วเจ้าค่ะ” แม่บ้านโจวพูดพลางหอบหายใจ ตายังเบิกโตแล้วสะดุ้งเมื่อจู่ ๆ หลานสาวหลี่ฮูหยินร้องห่มร้องไห้

“ท่านป้า ฮือ ๆ ท่านพี่ ฮือ ๆ เป็นเรื่องจริงหรือเจ้าคะ ฮือ ๆ” จินเยว่ยกมือปาดน้ำตาทิ้งเป็นระยะ ๆ มองป้าห่าง ๆ แปดไม้ไผ่ตีไม่ถึง[1]ด้วยดวงตาบอบช้ำระคนต่อว่า

“เจ้าใจเย็น ๆ เยว่เอ๋อร์ ยังมิทันได้สอบความ เจ้าเร่งด่วนตัดสินเช่นนี้ หรือเจ้า มิต้องการแต่งให้ท่านแม่ทัพแล้ว”

“มิได้เจ้าค่ะ ข้าเพียง เพียงใจเสีย ข้าจากบ้านมาเสียไกลเนิ่นนาน เฝ้ารออยู่ที่จวนนี้จนอายุข้าเลยใกล้เลยวัยออกเรือน หากให้ข้ากลับบ้านเสียตอนนี้คงหาชายใดแต่งด้วยไม่ได้เจ้าค่ะ”

“เฮ้อ...เจ้าอย่าเพิ่งร้อนใจไปเยว่เอ๋อร์ ไหนป้าโจวลองเล่าให้ฟังอีกครั้งสิ” หลี่ฉือเบือนหน้ากลับไปทางแม่บ้านที่บัดนี้ดวงหน้าเริ่มสงบลงแล้ว

“ข่าวลือเจ้าค่ะ เริ่มจากเมื่อค่ำวานนี้ ทางการได้จัดประมูลสาวงามและชายหนุ่มจากหอซีหยางโหลว แล้วปรากฎว่าขณะกำลังเริ่มประมูล สาวงาม บนเวทีได้เอ่ยถามท่านแม่ทัพไปตรง ๆ แล้ว แล้ว ท่านแม่ทัพตอบว่าใช่เจ้าค่ะ” แม่บ้านโจวจ้องหน้าขึงตาพยักหน้าเน้นว่าที่พูดเรื่องเป็นจริง จนหลี่ฮูหยินยกมือทาบอก คิ้วขมวดครุ่นคิด

“คราแรกข้าคิดว่าคงเป็นเพียงข่าวลือ แต่...เจ้าแน่จใจนะว่าท่านแม่ทัพพูดออกมาเอง”

“เจ้าค่ะ ทั่วร้านตลาดเหล่าคุณชายที่ไปมาเมื่อคืนต่างพูดถึงกันครึกครื้นสนุกปากเจ้าค่ะ”

“โธ่...หากเป็นเช่นนี้ ตระกูลหลี่เราจะเป็นเยี่ยงไร จะไร้ผู้สืบทอดหรือป้าโจว”

แม่บ้านโจวไร้ซึ่งคำปลอบใจยืนนิ่งลอบมองป้าหลาน หนึ่งสีหน้าครุ่นคิด หนึ่งยังร้องไห้กระซิก ๆ

“แล้วผลประมูลเป็นยังไงบ้าง ไยเช้านี้ไม่เห็นมีผู้ใดส่งคนมา”

“ไม่ทราบเจ้าค่ะฮูหยิน แต่ดูเหมือนว่ามีใบเรียกเก็บเงินส่งไปยังเรือนหลงเจ้าค่ะ พันตำลึงทอง”

“พันตำลึงทอง นี่ ลูกเหว่ยร่วมประมูลกับเขาด้วยเช่นนั้นหรือ เป็นของหอใด”

“หอเยว่โหลวเจ้าค่ะ”

“หอเยว่โหลว มิใช่ซีหยางโหลวนะ”

“เจ้าค่ะ เยว่โหลวเจ้าค่ะ”

“ดี ถ้าเช่นนั้นข้าค่อยมีความหวังขึ้นมาสักหน่อย เจ้าไปสืบข่าวมาว่าเป็นผู้ใดชนะการประมูลเมื่อคืนนี้”

“เจ้าค่ะ” ป้าโจวรับคำแล้วรีบเดินออกจากห้องอุ่นทันที พาร่างอวบอ้วนในชุดสีฟ้าอ่อนไปทางห้องครัว แหล่งรวมเรื่องนินทาของเมือง

“นี่ ๆ พวกเจ้า” หยุดยืนหน้าโรงครัวแล้วชี้นิ้ว “เล่ามาให้หมด ตอนนี้ในเมืองลือเรื่องท่านแม่ทัพว่าอันใดบ้าง”

“เฮ้อ....เฮ้อ.....”

เสียงถอนหายใจหลายคราทำให้เยี่ยนฟางหยุดมือขณะพับผ้าลงหีบไม้ เอี้ยวหน้ามองยี่หวานั่งเท้าคางหน้าก้มต่ำ

“อาเจี่ย ไม่รีบเก็บเสื้อผ้าประเดี๋ยวรถม้าจวนมารับจะเสียมารยาท” เยี่ยนฟางลงมือเก็บของต่อด้วยสีหน้าชื่นบาน

“เสียมารยาท ฮึ ช่างหัวมารยาทเถิด ใครคิดจะบ่นด่าข้าเช่นไร ก็ช่างหัวมารดาเถิด”

“พี่ยี่หวา!! พูดจาระวังปาก เข้าไปอยู่ในจวนกันเพียงสองคน ระวังเนื้อระวังปากไว้เป็นดีที่สุด”

ยี่หวาทิ้งตัวหมดแรงนอนกับพื้นทันควันแล้วพลิกนอนหงายมองเพดานขื่อคานด้านบนดวงตาปวดร้าวเพราะคับแค้นใจเสียมากกว่า

“ข้าเจ็บใจนัก เจ้านั่น ร่ำรวยเงินทองยอมควักเนื้อออกมาก่อนหนึ่งถึงพันตำลึงทอง ข้าจะไปสู้ได้เยี่ยงไร ทั้งเนื้อทั้งตัวหยิบยืมน้อง ๆ ในหอมารวบรวมได้มากสุดเพียงสามร้อยตำลึงทองเท่านั้น”

“พี่ยี่หวาก็ถือเสียว่าเป็นโชคชะตาบันดาลให้ท่านและข้าได้เข้าจวนท่านแม่ทัพก็แล้วกัน”

ยี่หวาพลิกตัวตะแคงข้างยกมือยันศีรษะตัวเองไว้ข้อศอกเท้าพื้น อีกมือกวักแกว่งตรงหน้า

“เจ้าว่า ในจวนจะเป็นเยี่ยงไร”

“ข้า...ไม่รู้สิ” เยี่ยนฟางหยุดมือแล้วหันมองยี่หวา “แต่อย่างไรเสียข้าคิดไว้แล้วว่าจะต้องทำให้ท่านแม่ทัพหลงข้า ให้ข้าได้มีบุตรโดยเร็ว”

“ท่านแม่ทัพไม่เห็นจะสง่าผ่าเผย หน้าตาก็งั้น ๆ ยังสู้เจ้าปากดีองครักษ์คนนั้นไม่ได้เลย”

“อาเจี่ยชอบบุรุษผู้นั้นหรือ” ผินหน้ากลับไปทางยี่หวาอย่างเร็ว

“เปล่า ข้าเปล่าสักหน่อย บุรุษใดรูปงาม ข้าก็ชื่นชมทุกคนนั่นแล่ะ อีกอย่างนะ” ยี่หวาขยับตัวลุกนั่งขัดสมาธิ “ข้ายอมรับว่าเจ้านั่นมีดีที่หัวสมอง” ยกนิ้วเคาะขมับหรี่ตาให้เยี่ยนฟาง

“แต่ถึอย่างไรบุรุษนั้นหาใช่ท่านแม่ทัพ ท่านกับข้าเข้าไปในจวนแล้วนอกจากให้ความสำราญร้องรำทำเพลง ต่อกลอน ยังต้องช่วยท่านแม่ทัพอุ่นเตียงนะอย่าลืมสิอาเจี่ย”

“เชอะ...เชิญเจ้าเถิด ข้ามิขอนอนเตียงเดียวกับท่านแม่ทัพเด็ดขาด เออ..พูดแล้วนึกขึ้นได้ ในเมื่อชอบบุรุษพวกเราอาจจะรอดก็เป็นได้เยี่ยนฟาง”

“นี่แล่ะที่ข้ากังวลอาเจี่ย เห็นว่างานประมูลเมื่อคืนที่ซีหยางโหลวก็ใช่ย่อย”

“ใครกันที่ถูกประมูลได้” ขยับร่างเหยียดตรงตั้งใจฟังเยี่ยนฟาง

“ฮุ่ยซิ่ง ว่ากันว่ารูปงามนัก ผิวพรรณดั่งหญิงสาวแม่นางน้อย อ้อนแอ้นบอบบาง”

ยี่หวาฟังด้วยสีหน้าตื่นตะลึงก่อนคลี่ยิ้มกว้างแล้วหัวเราะงอหายจนยกมือกุมท้อง

“อาเจี่ยหัวเราะเรื่องอะไร” เยี่ยนฟางสงสัย “นี่มันไม่ใช่เรื่องตลกนะ”

“ตลกสิ เจ้าไม่คิดเหรอว่างานนี้เจ้าแย่แน่เยี่ยนฟาง แข่งกับใครไม่แข่ง เจ้าต้องแข่งกับบุรุษ เยี่ยงนี้แล้วเจ้าจะสมใจได้มีบุตรกับท่านแม่ทัพหรือ”

เยี่ยนฟางตาเบิกกว้างขบคิด แล้วถอนหายใจยาวบ่นพึมเสียงอ่อย

“เอาเถิดอาเจี่ย เข้าไปก่อนค่อยว่ากัน ท่านต้องคิดหาหนทางช่วยข้าด้วยแล้วกัน”

“ย่อมต้องเป็นเช่นนั้นอยู่แล้วเยี่ยนฟาง เปรียบไปเราเสมือนลงเรือลำเดียวกัน หากน้องสาวพี่ต้องการ พี่ย่อมต้องช่วยเหลือกัน นำพาเรือของเราไปให้ตลอดรอดฝั่ง” ยี่หวาลุกขึ้นวางฝ่ามือลงบ่าเล็กของเยี่ยนฟาง ตบเบา ๆ ให้กำลังใจด้วยดวงหน้ากรุ้มกริ่ม

เพียงไม่นานหลังจากนั้นเรียกได้ว่านายแม่จางลี่แทบผลักเธอทั้งสองออกจากหอเยว่โหลวก็ไม่ปาน - - แน่ล่ะสิตัวปัญหาอย่างนางใครกันจะต้องการเลี้ยงดู

ฉะนั้นสองขาของนางและของเยี่ยนฟางจึงได้ยืนนิ่งอยู่ตรงหน้าเรือนซิ่วอิงรอคารวะหลี่ฮูหยิน มารดาของท่านแม่ทัพกองทัพเสือดำ ข้างตัวคือกองหีบไม้มากมายของเยี่ยนฟาง ซึ่งมีส่วนของยี่หวาเพียงสองหีบ

[1] ห่างมาก

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status