9 พับผ้าย้ายเข้าจวน
“หาวววววววว...”
หลี่ฮูหยินปิดปากหาวหวอดใหญ่ ยามเช้าปลายฤดูฝนใกล้ต้นฤดูหนาวอากาศเลวร้ายทั้งเย็นเยียบ ทั้งวังเวง นางกระชับเสื้อคลุมขนสัตว์ที่เพิ่งได้รับพระราชทานลงมาจากเบื้องบน
“ฮูหยินเจ้าคะ เกิดเรื่องแล้วเจ้าค่ะ”
แม่บ้านโจวผลักประตูพรวดพราดเข้ามายังห้องอุ่นหน้าตาตื่นตระหนกทั้งดวงตาเบิกกว้างจนหลี่ฮูหยินต้องเอ็ด
“เจ้าเอะอะแต่เช้ามีเรื่องอันใดกัน ข้านี่ตกใจหมด” หลี่ฉือยกมือทาบอกเหลือบสายตาไปยังหลานสาวจินเยว่กำลังส่งจอกน้ำชาให้
“แต่ฮูหยิน เรื่องนี้เรื่องใหญ่ยิ่งเจ้าค่ะ ตอนนี้เกิดข่าวลือทั้งเมืองเรื่องท่านแม่ทัพเป็นพวกต้วนซิ่วเจ้าค่ะ” แม่บ้านโจวพูดพลางหอบหายใจ ตายังเบิกโตแล้วสะดุ้งเมื่อจู่ ๆ หลานสาวหลี่ฮูหยินร้องห่มร้องไห้
“ท่านป้า ฮือ ๆ ท่านพี่ ฮือ ๆ เป็นเรื่องจริงหรือเจ้าคะ ฮือ ๆ” จินเยว่ยกมือปาดน้ำตาทิ้งเป็นระยะ ๆ มองป้าห่าง ๆ แปดไม้ไผ่ตีไม่ถึง[1]ด้วยดวงตาบอบช้ำระคนต่อว่า
“เจ้าใจเย็น ๆ เยว่เอ๋อร์ ยังมิทันได้สอบความ เจ้าเร่งด่วนตัดสินเช่นนี้ หรือเจ้า มิต้องการแต่งให้ท่านแม่ทัพแล้ว”
“มิได้เจ้าค่ะ ข้าเพียง เพียงใจเสีย ข้าจากบ้านมาเสียไกลเนิ่นนาน เฝ้ารออยู่ที่จวนนี้จนอายุข้าเลยใกล้เลยวัยออกเรือน หากให้ข้ากลับบ้านเสียตอนนี้คงหาชายใดแต่งด้วยไม่ได้เจ้าค่ะ”
“เฮ้อ...เจ้าอย่าเพิ่งร้อนใจไปเยว่เอ๋อร์ ไหนป้าโจวลองเล่าให้ฟังอีกครั้งสิ” หลี่ฉือเบือนหน้ากลับไปทางแม่บ้านที่บัดนี้ดวงหน้าเริ่มสงบลงแล้ว
“ข่าวลือเจ้าค่ะ เริ่มจากเมื่อค่ำวานนี้ ทางการได้จัดประมูลสาวงามและชายหนุ่มจากหอซีหยางโหลว แล้วปรากฎว่าขณะกำลังเริ่มประมูล สาวงาม บนเวทีได้เอ่ยถามท่านแม่ทัพไปตรง ๆ แล้ว แล้ว ท่านแม่ทัพตอบว่าใช่เจ้าค่ะ” แม่บ้านโจวจ้องหน้าขึงตาพยักหน้าเน้นว่าที่พูดเรื่องเป็นจริง จนหลี่ฮูหยินยกมือทาบอก คิ้วขมวดครุ่นคิด
“คราแรกข้าคิดว่าคงเป็นเพียงข่าวลือ แต่...เจ้าแน่จใจนะว่าท่านแม่ทัพพูดออกมาเอง”
“เจ้าค่ะ ทั่วร้านตลาดเหล่าคุณชายที่ไปมาเมื่อคืนต่างพูดถึงกันครึกครื้นสนุกปากเจ้าค่ะ”
“โธ่...หากเป็นเช่นนี้ ตระกูลหลี่เราจะเป็นเยี่ยงไร จะไร้ผู้สืบทอดหรือป้าโจว”
แม่บ้านโจวไร้ซึ่งคำปลอบใจยืนนิ่งลอบมองป้าหลาน หนึ่งสีหน้าครุ่นคิด หนึ่งยังร้องไห้กระซิก ๆ
“แล้วผลประมูลเป็นยังไงบ้าง ไยเช้านี้ไม่เห็นมีผู้ใดส่งคนมา”
“ไม่ทราบเจ้าค่ะฮูหยิน แต่ดูเหมือนว่ามีใบเรียกเก็บเงินส่งไปยังเรือนหลงเจ้าค่ะ พันตำลึงทอง”
“พันตำลึงทอง นี่ ลูกเหว่ยร่วมประมูลกับเขาด้วยเช่นนั้นหรือ เป็นของหอใด”
“หอเยว่โหลวเจ้าค่ะ”
“หอเยว่โหลว มิใช่ซีหยางโหลวนะ”
“เจ้าค่ะ เยว่โหลวเจ้าค่ะ”
“ดี ถ้าเช่นนั้นข้าค่อยมีความหวังขึ้นมาสักหน่อย เจ้าไปสืบข่าวมาว่าเป็นผู้ใดชนะการประมูลเมื่อคืนนี้”
“เจ้าค่ะ” ป้าโจวรับคำแล้วรีบเดินออกจากห้องอุ่นทันที พาร่างอวบอ้วนในชุดสีฟ้าอ่อนไปทางห้องครัว แหล่งรวมเรื่องนินทาของเมือง
“นี่ ๆ พวกเจ้า” หยุดยืนหน้าโรงครัวแล้วชี้นิ้ว “เล่ามาให้หมด ตอนนี้ในเมืองลือเรื่องท่านแม่ทัพว่าอันใดบ้าง”
“เฮ้อ....เฮ้อ.....”
เสียงถอนหายใจหลายคราทำให้เยี่ยนฟางหยุดมือขณะพับผ้าลงหีบไม้ เอี้ยวหน้ามองยี่หวานั่งเท้าคางหน้าก้มต่ำ
“อาเจี่ย ไม่รีบเก็บเสื้อผ้าประเดี๋ยวรถม้าจวนมารับจะเสียมารยาท” เยี่ยนฟางลงมือเก็บของต่อด้วยสีหน้าชื่นบาน
“เสียมารยาท ฮึ ช่างหัวมารยาทเถิด ใครคิดจะบ่นด่าข้าเช่นไร ก็ช่างหัวมารดาเถิด”
“พี่ยี่หวา!! พูดจาระวังปาก เข้าไปอยู่ในจวนกันเพียงสองคน ระวังเนื้อระวังปากไว้เป็นดีที่สุด”
ยี่หวาทิ้งตัวหมดแรงนอนกับพื้นทันควันแล้วพลิกนอนหงายมองเพดานขื่อคานด้านบนดวงตาปวดร้าวเพราะคับแค้นใจเสียมากกว่า
“ข้าเจ็บใจนัก เจ้านั่น ร่ำรวยเงินทองยอมควักเนื้อออกมาก่อนหนึ่งถึงพันตำลึงทอง ข้าจะไปสู้ได้เยี่ยงไร ทั้งเนื้อทั้งตัวหยิบยืมน้อง ๆ ในหอมารวบรวมได้มากสุดเพียงสามร้อยตำลึงทองเท่านั้น”
“พี่ยี่หวาก็ถือเสียว่าเป็นโชคชะตาบันดาลให้ท่านและข้าได้เข้าจวนท่านแม่ทัพก็แล้วกัน”
ยี่หวาพลิกตัวตะแคงข้างยกมือยันศีรษะตัวเองไว้ข้อศอกเท้าพื้น อีกมือกวักแกว่งตรงหน้า
“เจ้าว่า ในจวนจะเป็นเยี่ยงไร”
“ข้า...ไม่รู้สิ” เยี่ยนฟางหยุดมือแล้วหันมองยี่หวา “แต่อย่างไรเสียข้าคิดไว้แล้วว่าจะต้องทำให้ท่านแม่ทัพหลงข้า ให้ข้าได้มีบุตรโดยเร็ว”
“ท่านแม่ทัพไม่เห็นจะสง่าผ่าเผย หน้าตาก็งั้น ๆ ยังสู้เจ้าปากดีองครักษ์คนนั้นไม่ได้เลย”
“อาเจี่ยชอบบุรุษผู้นั้นหรือ” ผินหน้ากลับไปทางยี่หวาอย่างเร็ว
“เปล่า ข้าเปล่าสักหน่อย บุรุษใดรูปงาม ข้าก็ชื่นชมทุกคนนั่นแล่ะ อีกอย่างนะ” ยี่หวาขยับตัวลุกนั่งขัดสมาธิ “ข้ายอมรับว่าเจ้านั่นมีดีที่หัวสมอง” ยกนิ้วเคาะขมับหรี่ตาให้เยี่ยนฟาง
“แต่ถึอย่างไรบุรุษนั้นหาใช่ท่านแม่ทัพ ท่านกับข้าเข้าไปในจวนแล้วนอกจากให้ความสำราญร้องรำทำเพลง ต่อกลอน ยังต้องช่วยท่านแม่ทัพอุ่นเตียงนะอย่าลืมสิอาเจี่ย”
“เชอะ...เชิญเจ้าเถิด ข้ามิขอนอนเตียงเดียวกับท่านแม่ทัพเด็ดขาด เออ..พูดแล้วนึกขึ้นได้ ในเมื่อชอบบุรุษพวกเราอาจจะรอดก็เป็นได้เยี่ยนฟาง”
“นี่แล่ะที่ข้ากังวลอาเจี่ย เห็นว่างานประมูลเมื่อคืนที่ซีหยางโหลวก็ใช่ย่อย”
“ใครกันที่ถูกประมูลได้” ขยับร่างเหยียดตรงตั้งใจฟังเยี่ยนฟาง
“ฮุ่ยซิ่ง ว่ากันว่ารูปงามนัก ผิวพรรณดั่งหญิงสาวแม่นางน้อย อ้อนแอ้นบอบบาง”
ยี่หวาฟังด้วยสีหน้าตื่นตะลึงก่อนคลี่ยิ้มกว้างแล้วหัวเราะงอหายจนยกมือกุมท้อง
“อาเจี่ยหัวเราะเรื่องอะไร” เยี่ยนฟางสงสัย “นี่มันไม่ใช่เรื่องตลกนะ”
“ตลกสิ เจ้าไม่คิดเหรอว่างานนี้เจ้าแย่แน่เยี่ยนฟาง แข่งกับใครไม่แข่ง เจ้าต้องแข่งกับบุรุษ เยี่ยงนี้แล้วเจ้าจะสมใจได้มีบุตรกับท่านแม่ทัพหรือ”
เยี่ยนฟางตาเบิกกว้างขบคิด แล้วถอนหายใจยาวบ่นพึมเสียงอ่อย
“เอาเถิดอาเจี่ย เข้าไปก่อนค่อยว่ากัน ท่านต้องคิดหาหนทางช่วยข้าด้วยแล้วกัน”
“ย่อมต้องเป็นเช่นนั้นอยู่แล้วเยี่ยนฟาง เปรียบไปเราเสมือนลงเรือลำเดียวกัน หากน้องสาวพี่ต้องการ พี่ย่อมต้องช่วยเหลือกัน นำพาเรือของเราไปให้ตลอดรอดฝั่ง” ยี่หวาลุกขึ้นวางฝ่ามือลงบ่าเล็กของเยี่ยนฟาง ตบเบา ๆ ให้กำลังใจด้วยดวงหน้ากรุ้มกริ่ม
เพียงไม่นานหลังจากนั้นเรียกได้ว่านายแม่จางลี่แทบผลักเธอทั้งสองออกจากหอเยว่โหลวก็ไม่ปาน - - แน่ล่ะสิตัวปัญหาอย่างนางใครกันจะต้องการเลี้ยงดู
ฉะนั้นสองขาของนางและของเยี่ยนฟางจึงได้ยืนนิ่งอยู่ตรงหน้าเรือนซิ่วอิงรอคารวะหลี่ฮูหยิน มารดาของท่านแม่ทัพกองทัพเสือดำ ข้างตัวคือกองหีบไม้มากมายของเยี่ยนฟาง ซึ่งมีส่วนของยี่หวาเพียงสองหีบ
[1] ห่างมาก
10 ฮุ่ยซิ่ง แห่งซีหยางโหลว“ฮะ แฮ่ม เอาไงดีพี่ยี่หวา” เยี่ยนฟางลอบชำเลืองมองประตูเรือนที่ยังปิดตาย พวกนางยืนรอมาสักพักแล้ว ซ้ำอากาศยามนี้ปลายฝนต้นหนาวให้ความเย็นเฉียดผิวกายใต้เสื้อผ้าเนื้อบาง“ดูท่าตระกูลหลี่คงไม่เต็มใจให้เรามาอยู่ด้วยกระมัง”“แต่พวกเรายืนอยู่เช่นนี้มาสักพักแล้ว ข้าว่าจะร่วมสองเค่อ”“ตะโกนเรียก”“ไม่ ไม่ได้ หากขืนท่านทำเช่นนั้นการอยู่ที่นี่ต่อไปจะยิ่งลำบาก”“แล้วจะให้ทำเช่นไรเยี่ยนฟาง พี่หนาวจะแย่แล้ว”“ข้าช่วยเองเอาไหม” เสียงสวบสาบดังขึ้นด้านหลังพร้อมเสียงนุ่มนวลแหบต่ำอย่างบุรุษก็ไม่ใช่สตรีก็ไม่เชิงโพล่งออกมาบุรุษรูปร่างบอบบางอ้อนแอ้นสวมใส่ชุดหนาทนหนาวด้วยขนสัตว์ราคาแพงก้าวเดินหยุดขนาบข้างยี่หวา อีกด้านคงเป็นบริวารที่นำมาด้วยเพราะท่าทางนอบน้อมถือข้าวของพะรุงพะรัง ดวงหน้าเรียวงามปากนิดจมูกหน่อยผิวพรรณอย่าให้เอ่ย นวลเนียนยิ่งกว่าหญิงคณิกาชื่อดัง“ข้าฮุ่ยซิ่ง พวกเจ้าคงเป็นคณิกาจากหอเยว่โหลว” น้ำเสียงแค่นดูถูกในทีพลางขยับเคลื่อนกายในชุดงดงามราวคุณชายชนชั้นสูงตรงไปทางบัน
11 ลีลานักแสดงเก่าซ่า ........เพียงวันแรกที่ต้องเริ่มแผนการฟ้าฝนก็ไม่เป็นใจ ตกพรำยังไม่ทันย่ำรุ่ง เสียงหยดน้ำกระทบใบไม้ต้นสูงใหญ่ริมสระ ทั้งเสียงสรรพสัตว์ตัวน้อยกำลังร่าเริงสำราญใจรับฝนทำให้ทุกสิ่งราวต้องมนต์ ห้วงเวลาหยุดชะงัก รวมไปถึงนางยี่หวานอนคว่ำหน้ากับพื้นระเบียงหน้าเรือน ในมือเป็นใบไผ่แกว่งไกวไปมาครุ่นคิด ดวงตาเพ่งมองตรงไปทางเรือนหลงซึ่งมองเห็นได้จากระยะไกล ทหารเดินยามยังคงยืนนิ่งกลางสายฝน น่าเกรงขามยิ่ง - - ทนทรมานไปเพื่ออันใด ถ้าเป็นข้ากลับบ้านไปกกเมียจะดีกว่าจดจ้องไม่นานพลันเห็นประตูจวนเปิดออกพร้อมขบวนกลุ่มชายราวห้าหกคน รูปร่างใหญ่โตสวมใส่ชุดสำหรับฝึกซ้อมเดินไปยังด้านซ้ายของเรือนหลงแล้วลับหายไปด้านหลังยี่หวาผุดลุกนั่งขัดสมาธิทันควัน เหมือนว่านางเห็นบุรุษผู้นั้นเดินหน้าสุด บุรุษที่มีวาจาเชือดเฉือนสตรีอ่อนแอเช่นนาง บุรุษไร้มารยาท บุรุษที่ทำให้แผนของนางพังพินาศ คิ้วเรียวดั่งเอ๋อเหมยขมวดยุ่งจนเกือบชนกัน มือคว้าพัดพับคู่ใจลุกยืน ไม่ทันได้หยิบร่มก้าวพรวดออกจากเรือนตรงไปยังมุ
12 เจ้ายิ้มเช่นนี้ ไม่ใช่เรื่องดี“ก็แค่บทกลอนของชายชราผมขาวที่วัน ๆ เอาแต่ร่ำสุรา ท่องเที่ยว พร่ำพรรณนา”พั่บชายตรงหน้าสะบัดพับกับฝ่ามือแล้วยื่นส่งให้ด้วยสีหน้ากวนโมโห ยี่หวาหลุบตามองพัดในมือใหญ่ นิ้วเรียวยาวงดงามทว่าเต็มไปด้วยร่องรอยแผลเป็นขีดขาว นางยังนิ่งไม่รับพัดแล้วตวัดตากลับเหลือบมองชายสูงใหญ่กว่านางมาก“ข้ายังไม่รับ เพราะหากข้ารับนั่นหมายถึงท่านจะไม่ชดใช้ให้ข้า มู่เฉิน” ยี่หวาส่งน้ำเสียงเย็นเยียบหรี่ตามองแล้วพลันสังเกตว่าท่านแม่ทัพด้านหลังสะดุ้งเฮือก - - เหตุใดกันบุรุษตรงหน้าคลี่รอยยิ้มกวนใจอีกคราแล้วยืดกายกลับมือกระชับกำพัดไว้แล้วกอดอกนิ่ง“ชดใช้เช่นนั้นหรือ”“ใช่ ชดใช้ พัดนี่ข้าสั่งทำมาเป็นพิเศษ กว่าจะได้ตัวกวีนิพนธ์มาเขียนให้ข้าได้ ข้ารอร่วมเกือบปี” ยี่หวายืดกายเลียนแบบมู่เฉินเช่นกัน กอดอกเงยหน้ามอง“งั้นเจ้าคิดไว้ในใจแล้วหรือยังว่าให้ข้าชดใช้เท่าไร”“ฮึ ข้ายังไม่ทันคิด ไว้ข้าจะบอกเจ้าวันหลัง ฉะนั้นพัดนี่ข้าไม่ขอรับคืน” ปากกระจับยังคงพูดเจื้อยแจ้วต่ออีกไม
13 ตกลง“ข้อเสนออะไร” สะบัดกระบี่เก็บเข้าฝักแล้ววางไว้ด้านข้าง“ข้าได้รับจ้างเป็นเงินจำนวนมาก .. หีบใหญ่ทีเดียว ใช้ทั้งชาติก็ไม่หมด ให้ช่วยเหลือท่านแม่ทัพหายจากอาการหลงใหลบุรุษ กลับมาชื่นชอบสตรี และต้องทำให้หญิงผู้นั้นตั้งครรภ์” ยี่หวาพลิกหน้าเอียงไปยังทิศทางของห้องแม่ทัพจึงมิทันได้เห็นสีหน้าตกใจของหลี่เหว่ย“ใครกันจ้างพวกเจ้า”“จะใครเสียอีก ผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียของเรื่องนี้มากที่สุด” ยี่หวาหยุดพูดแล้วหันหน้ากลับมาส่งรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ให้“หลี่ฮูหยินเช่นนั้นหรือ”“เจ้าฉลาดยิ่ง ใช่แล้ว” นางขยับขาลงแล้ววางเรียบบนพื้นข้างเตาอุ่นจนหลี่เหว่ยต้องมองตาม เท้าเรียวโผล่ออกมาจากชายเสื้อคลุมรวมไปถึงท่อนขาขาวนวลโดยที่นางไม่รู้ตัวเพราะมัวแต่เกลี้ยกล่อม“ข้ามีทรัพย์สมบัติมากพอแล้วไม่ต้องการอีก”“นั้นเพราะท่านไม่เห็นว่ามันมากมายขนาดไหน”“เจ้าจะอยากได้เงินทองไปทำไมกันยี่หวา”“ก็เพราะข้าไม่ต้องการติดอยู่ที่นี่ตลอดชีวิตนะสิ หากข้ามีเงินทอง ข้าจะท่องเที่ยวไปให้ทั่ว”“เจ้าหาได้จากทางอื่น” หลี่เหว่
14 ซ้อนแผน แล้วซ้อนอีก “ว่าอย่างไรนะท่านแม่ทัพ” มู่เฉินร้องตะโกนเสียงหลง“ข้าบอกว่าคืนนี้ เยี่ยนฟางจะมาให้ความสำราญแก่ข้า เพียงแต่คนที่จะให้ความสำราญมิใช่ข้า แต่เป็นเจ้ามู่เฉิน” มือหลี่เหว่ยพลิกหน้าตำราพิชัยยุทธิ์ขณะเอ่ยเสียงราบเรียบ“แต่..ผู้น้อย มู่เฉิน”“เป็นกระไร อ้ำ ๆ อึ้ง ๆ มีสาวงามมาให้เชยชมถึงที่ไยถึงอึกอัก”“แต่นาง นางคิดว่าข้าเป็นท่านแม่ทัพ”“นั่นล่ะที่ข้าต้องการ”พรึบ...เสียงพลิกหน้ากระดาษไม่เบาไม่ดังกำลังดีหลี่เหว่ยหยิบพู่กันจุ่มหมึกเขียนส่วนสำคัญที่ได้อ่านเพื่อจดบันทึกกันลืม มู่เฉินยังอึ้งงันไม่แม้แต่ขยับกาย จ้องท่านแม่ทัพตาแทบถลนจนหลี่เหว่ยต้องถอนหายใจ“เจ้าเป็นอะไรมู่เฉิน เจ้าเป็นทหารหาญ บ้านเมืองต้องการชายผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบ จวนตระกูลหลี่ก็เปรียบดั่งสนามรบแห่งหนึ่งเช่นกัน ต้องการทั้งฝ่ายปกครอง ทั้งฝ่ายทหารเพื่อฝากความหวัง เจ้าจงทำตัวให้มีความสามารถพอเพียง มีขันติธรรมแบกหาบหนักได้ มิใช่ได้รับภารกิจเล็กน้อยกลับอ้ำอึ้ง แล้วเช่นนี้จะเป็น
15 เมายายี่หวาหน้าบึ้งล้วงเอาเงินที่มีติดตัวไม่มากนักวางลงกลางฝ่ามือนุ่มนิ่มดั่งหญิงสาวซึ่งพอได้ก็กำแน่นหัวเราะเบา ๆ“พรุ่งนี้ข้าจะให้เด็กนำสมุนไพรมาให้”“แต่ข้าไม่เอาพวกสารหนูนะ มันอันตราย”ฮุ่ยซิ่งเคาะพัดเป็นจังหวะกับพื้นไม้“งั้นเจ้าต้องจ่ายแพงเสียหน่อย แผ่นแปะเซ่อเซียงที่บรรดาพระสนมในวังใช้ราคาสูงลิบ แต่ได้ผลชะงัก”“ได้ ๆ”“งั้นข้าไปนอนก่อนแล้ว อยู่ที่นี่ไม่มีอะไรให้ทำน่าตื่นเต้นเลย น่าเบื่อ”ยี่หวามองตามร่างสูงโปร่งอ้อนแอ้นดั่งสตรีของฮุ่ยซิ่งลุกยืนบิดขี้เกียจก่อนลับหายไปยังห้องด้านใน จึงเอี้ยวมองไปยังเรือนหลง เวลาผ่านไปเนิ่นนานแล้วแต่เยี่ยนฟางยังมิได้ออกมา จะสำเร็จหรือไม่นะ - - เริ่มหวั่นใจ“ว่าอันใดนะป้าโจว พูดอีกครั้ง พูดให้ข้าได้ชื่นใจ” หลี่ฉือแทบทะลึ่งตัวลุกยืนยามได้ยินคราแรกว่าบุตรชายเรียกนางคณิกาสาวเข้ารับใช้เมื่อคืนนี้“เจ้าค่ะฮูหยิน ท่านแม่ทัพเรียกเยี่ยนฟางขึ้นห้องกว่าจะที่นางจะได้กลับเรือนเกือบเช้า” แม่บ้านโจวใส่น้ำเสียงเน้นคำท้ายยิ่งทำให้เจ้า
16 แต่งให้เจ้า?“มู่เฉินนน ท่านควรปล่อยให้ข้าได้นอน อือ ห้องท่านร้อนอะไรเยี่ยงนี้” ยี่หวาพลิกตัวอีกครั้งนอนหงายชันเข่าขึ้นใช้มือปัดชายกระโปรงออกให้ท่อนขารับลมเย็นแล้วลูบจนพ้นต้นขาหลี่เหว่ยตะแคงมองสายตาเข้มข้น ยกมือลูบท่อนขาเนียนนุ่มมือคล้ายปลอบประโลม ขยับพาร่างสูงใหญ่เข้าใกล้“ยังไม่ได้บอกเลย ยาอะไร” เสียงทุ้มเริ่มสั่นยามมือเลื่อนขึ้นล้วงลงต้นขาด้านใน ปลายนิ้วกำลังสัมผัสบางสิ่งอ่อนนุ่ม“เซ่อเซียง อยู่ตรงนี้” ยี่หวาวางมือบนหน้าท้อง “แปะไปได้ไม่ทันสองเค่อ ข้ามึนศีรษะเหลือเกิน แล้วยังร้อนไปทั่วร่าง อืออ มู่เฉินมือท่านเย็นดีนัก ลูบขึ้นมาอีกข้าชอบ”ยี่หวาคว้ามือหลี่เหว่ยไว้แล้วพาไปวางยังต้นขาด้านหน้าสีหน้าพึงพอใจผิดไปจากบุรุษร่างใหญ่ที่นิ่งขึง ดวงหน้าแกร่งแดงซ่านทีละน้อย“เจ้าไม่รู้หรือว่าเซ่อเซียงออกฤทธิ์บางอย่างคล้ายยากำหนัด”“ยากำหนัด” น้ำเสียงแผ่วเบาค่อยลืมตาขึ้น “หมายความว่าตอนนี้ข้า ข้ากำลังมีอารมณ์จากฤทธิ์ยา”“ฮึ มีอารมณ์ เจ้าใช้คำได้แปลกมาก หากเจ้าหมายถึงกำลังเกิดกำหนัดล่ะก็ใช่ เจ้ากำลังมีอารม
17 NCไม่ประสา ไม่ประสา... นี่ข้าหลงคิดเช่นนั้นได้เยี่ยงไร!!แรกเริ่มเพียงปากประกบเขากดนิ่งชะงัก ยี่หวาจึงใจกล้าเป็นฝ่ายแย้มริมฝีปากเสียเองอย่างที่รู้มาจากหนังเอวี ส่งลิ้นเล็กเรียวปาดขอบริมฝีปากล่างของชายร่างโต - - ชีพจรมู่เฉินเต้นแรงกว่าเดิมคงตื่นเต้นเบียดกายสาวลงจนสัมผัสถึงบางสิ่งยาวใหญ่ นางจงใจคลึงเบียดลงกดแน่น ร่างใหญ่สะดุ้งเฮือก - - เห็นไหม“ท่าน มู่เฉิน เจ้าเคยแบบนี้หรือไม่” ยี่หวาละริมฝีปากออกก้มลงซอกคอขบเม้ม มือเลื่อนลูบยังเชือกคาดเอวกระตุกดึงสอดมือเข้าสาบเสื้อแหวะเปิดออกกระทั่งลอดเข้าไปยังเสื้อตัวใน สัมผัสถึงกายแกร่งชายร่างโต อุ่นจนร้อนจัด หนั่นแน่นกล้ามเนื้อนางเลื่อนปากขึ้นไถลพรมจูบส่งความร้อนลวกเป็นทาง ลมหายใจเป่ารดซอกคอชายด้านล่างกระทั่งถึงใบหู เอ่ยกระซิบเสียงกระเส่า“เจ้า เคยแบบนี้หรือไม่ อืม”มือเล็กเรียวเลื่อนเคลื่อนไหววนรอบฐานนมชายชาตรีแล้วไถลผ่านหน้าท้องลงสู่เบื้องล่าง ซอกหลืบวางมือทาบลงท่อนเนื้ออุ่นจัดพลันกายชายสะดุ้งเฮือกอีกครั้ง - - ใช่แล้