13 ตกลง
“ข้อเสนออะไร” สะบัดกระบี่เก็บเข้าฝักแล้ววางไว้ด้านข้าง
“ข้าได้รับจ้างเป็นเงินจำนวนมาก .. หีบใหญ่ทีเดียว ใช้ทั้งชาติก็ไม่หมด ให้ช่วยเหลือท่านแม่ทัพหายจากอาการหลงใหลบุรุษ กลับมาชื่นชอบสตรี และต้องทำให้หญิงผู้นั้นตั้งครรภ์” ยี่หวาพลิกหน้าเอียงไปยังทิศทางของห้องแม่ทัพจึงมิทันได้เห็นสีหน้าตกใจของหลี่เหว่ย
“ใครกันจ้างพวกเจ้า”
“จะใครเสียอีก ผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียของเรื่องนี้มากที่สุด” ยี่หวาหยุดพูดแล้วหันหน้ากลับมาส่งรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ให้
“หลี่ฮูหยินเช่นนั้นหรือ”
“เจ้าฉลาดยิ่ง ใช่แล้ว” นางขยับขาลงแล้ววางเรียบบนพื้นข้างเตาอุ่นจนหลี่เหว่ยต้องมองตาม เท้าเรียวโผล่ออกมาจากชายเสื้อคลุมรวมไปถึงท่อนขาขาวนวลโดยที่นางไม่รู้ตัวเพราะมัวแต่เกลี้ยกล่อม
“ข้ามีทรัพย์สมบัติมากพอแล้วไม่ต้องการอีก”
“นั้นเพราะท่านไม่เห็นว่ามันมากมายขนาดไหน”
“เจ้าจะอยากได้เงินทองไปทำไมกันยี่หวา”
“ก็เพราะข้าไม่ต้องการติดอยู่ที่นี่ตลอดชีวิตนะสิ หากข้ามีเงินทอง ข้าจะท่องเที่ยวไปให้ทั่ว”
“เจ้าหาได้จากทางอื่น” หลี่เหว่ยผลักกระบี่ออกห่างแล้วขยับร่างเข้าใกล้เตาอุ่น นั่นหมายถึงเข้าใกล้ร่างอรชรขึ้นอีกนิด - - ไม่ใช่เพราะอยากดมกลิ่นหรอกนะ อากาศมันหนาว คงเป็นเหตุผลนั้น
“หากท่านช่วยข้าให้สมหวัง มู่เฉิน ข้าจะแบ่งเงินหีบนั้นให้เจ้า ตกลงไหม” ยี่หวามองด้วยสีหน้าวาดหวังส่งรอยยิ้มกระจ่างจนหลี่เหว่ยจำต้องหลุบตาแสร้งมองกระถางเตาอุ่น
“ข้าไม่ได้อยากได้เงินทอง”
“งั้นเจ้าต้องการสิ่งใด ข้ายินยอมทั้งสิ้น” เสียงหวานนุ่มเอ่ยขึ้นกระตือรือร้นพลางขยับตัวลงนั่งพื้นด้านล่าง คุกเข่าขยับไปใกล้อีกจนมือสัมผัสหัวเข่าใหญ่หนา ยี่หวาวางมือลงบนหัวเข่าอย่างไร้ความเกรงกลัว
“ข้อแลกเปลี่ยนของข้าไม่ได้หนักหนาอะไรสำหรับเจ้ายี่หวา เพียงแต่...” หลี่เหว่ยเบือนหน้ากลับมา จ้องนางด้วยสายตาสีนิลคมกริบอย่างที่ใช้ในการรบ มุ่งมั่น เอาจริงเอาจัง จนเป็นยี่หวาเองที่ต้องขยับตัวออกห่างแต่มือแกร่งรั้งข้อมือเธอไว้เสียก่อน
“เพียงแต่อะไร” น้ำเสียงขาดหายไปในลำคอเมื่อกระแสธารปรารถนาผ่านแวบขึ้นในดวงตาคมด้านบน
“หากต้องการให้ท่านแม่ทัพเปลี่ยนใจจากชื่นชอบบุรุษเป็นสตรี เจ้าคงหวังให้ท่านแม่ทัพร่วมหลับนอนกับหญิงใช่หรือไม่”
“ใช่ แต่เป็นหญิงใดไม่ได้นอกจากน้องสาวของข้า เยี่ยนฟาง”
“เหตุใดจึงเป็นเยี่ยนฟาง” หลี่เหว่ยขยับข้อมือดึงจนยี่หวาจำต้องลุกจากท่าคุกเข่าแล้วลงนั่งด้านข้าง
“เพราะนางดีต่อข้า และนางต้องการบุตร ต้องการที่พึ่งพิงในยามแก่ชรา”
“แล้วเจ้าไม่ต้องการหรอกหรือ” เสียงทุ้มต่ำเหมือนแหบลงอีกอย่างน่าประหลาด เขามองดวงหน้า รอยยิ้ม และไฝเหนือริมฝีปากจนเผลอยกมือขึ้นลูบ ร่างอรชรตรงหน้าสะดุ้งเล็กน้อยแต่ไม่ได้ถอยหนี ยินยอมปล่อยให้นิ้วหยาบกระทำตามใจ ลูบไล้ไฝเม็ดเล็กเล่น
“ฮึ ไม่หรอก ข้ามิต้องการผู้ใดนอกจากตัวข้าเอง นี่ท่าน ข้าให้ท่านแตะตัวข้า ลูบไฝข้ามานานพอแล้วมู่เฉิน ท่านจะตอบได้หรือยังว่าต้องการสิ่งใด” ยี่หวายกมือจับข้อมือสีเข้มไว้ดึงลงแต่หลี่เหว่ยยังขืนแรงพลิกข้อมือจนเป็นนางเองที่โดนจับตรึงแน่น
“ข้าต้องการเจ้า ยี่หวา เจ้ายินยอมหรือไม่” หลี่เหว่ยมิอาจห้ามใจได้ยกข้อนิ้วลูบกรอบหน้าที่ตอนนี้เหวอไปแล้วด้วยความประหลาดใจ “เป็นอันใดกัน มีอะไรผิดแผก”
“ท่าน...ต้องการข้า ท่าน ท่าน มิได้ชอบบุรุษดอกหรือ มิใช่ มิใช่..”
“นี่เจ้าคิดอะไรอยู่ยี่หวา คิดว่าข้าเป็นคนสนิทของท่านแม่ทัพ รับใช้ทั้งนอกเตียงในเตียงงั้นสิ” น้ำเสียงเริ่มห้วนเล็กน้อย
ยี่หวาไม่อาจพูดเอ่ยวาจาใดได้ ความแปลกประหลาดใจทำให้นางได้แต่พยักหน้ารับ แล้วสะดุ้งสุดตัวเมื่อมือแกร่งตรงหน้าเลื่อนลงลูบผ่านลำคอเขี่ยสาบเสื้อกระทั่งถึงสายคาดผูกเอว
ผึ่ง!!
ชายตรงหน้าดึงสายคาดนางออกเลื่อนมือเข้าหาหน้าท้องอ่อนนุ่มแบนราบกางทาบไว้ส่งกระไอร้อนแล้วลงแรงกำแน่นดึงกระชากร่างเล็กเข้าหาจนนางเสียหลัก
“ท่าน มู่เฉิน ข้า ข้ายังมิได้ตกลง” ยี่หวายันฝ่ามือบนบ่ากำยำทั้งสองข้าง ดูไปแล้วบุรุษผู้นี้ช่างหน้าหนาเพราะหาได้ใส่ใจเสียงประท้วงราวกับว่าเคยชินกับการสั่งการแล้วได้ในสิ่งที่ต้องการมาตลอด
มือสีเข้มยังรุกรานเลื่อนผ้าเสื้อคลุมตัวใหญ่ออกจากหัวไหล่จนมองเห็นความขาวนวลเนียนทีละน้อย
“ข้ามิได้ชอบบุรุษยี่หวา หากเจ้าตอบตกลงข้าจะช่วยให้เจ้าสมหวัง” สายตาหลี่เหว่ยกวาดไล้ผิวพรรณนวลเนียน จากลาดไหล่เลื่อนลงสู่เนินทรวงนูนเด่นกลมกลึงใหญ่ล้นมือ พลางกลืนน้ำลาย “แต่..วันนี้ข้าเพียงขอมัดจำสักเล็กน้อย”
“มัดจำ อื้อออ มู่เฉิน ท่าน หยุดก่อน นั่นหัวนมข้า อย่ากัด อึก”
ใจบุรุษแกร่งดั่งหินผาหากแต่เพียงได้ยลสิ่งสวยงามล่อตาด้วยปลายป้านยอดเล็กชมพูสดดั่งผลเชอรี่ กลับหวั่นไหวใจเต้นโหมแรง ต้องการจับต้อง ดูดกลืน ปาดเลีย ทำทุกทางให้หัวเล็กเต่งตึงนั้นชอกช้ำคาปาก
มือกระชากดึงบั้นเอวเล็กกระชับแนบแน่นลำกายแกร่ง อีกมือจับต้นขาให้นั่งคร่อมเพื่อให้เนินนมสล้างกระเพื่อมไหวด้านหน้าตรงพอดีสำหรับกระทำอย่างที่ใจต้องการ
ลิ้นสากปาดขึ้นจากฐานทรวงขบเม้มตลอดทางจนถึงยอดปลายหัว ออกแรงขบกัดสัมผัสสนิทชิดเชื้อร้อนแรงจนยี่หวาสะท้านเฮือก ยึดบ่าเกาะเกี่ยวเป็นหลัก
“ตกลงสิยี่หวา อืม”
“ข้า ข้า คิดไม่ออก ท่านหยุดก่อน อื้ออ” ยี่หวาพยายามอย่างยิ่งแล้วในการบิดกายหนี แต่ใจกลับทำตรงข้ามแอ่นร่างส่งยอดหัวเล็กสีชมพูเข้าปากหนาของชายด้านล่าง ให้เขาได้ขบกัดไล้เลียตามใจชอบ
“คืนวันส่งตัวเยี่ยนฟางได้สุขสม คืนวันต่อมาข้าต้องได้ตัวเจ้า และเป็นเช่นนั้นทุกคืนจนกว่าเยี่ยนฟางจะตั้งครรภ์ดีหรือไม่” หลี่เหว่ยทอดถอนใจรดทรวงอกงาม ขยับใบหน้าแกร่งซุกไซ้ซอกคอขบเม้มลากลิ้นขึ้นหาซอกหูชอนไช ก่อนเลื่อนดวงหน้ามาตรงหน้านาง จดจ้องสบตากันและกัน รอคอยด้วยใจระทึก
“แค่ตั้งครรภ์ใช่หรือไม่” ยี่หวาเอ่ยเสียงเบากว่าปกติผิดวิสัยจนเรียกยิ้มมุมปากของชายร่างแกร่ง
“ใช่ แค่นั้น” หลี่เหว่ยหรี่ตาลง หลุบมองริมฝีปากตรงหน้า รอให้นางขยับปากตอบตกลง - - ลมปรารณภายในปั่นป่วนอีกแล้ว
“ตกลง”
สิ้นคำยี่หวาพลันถูกครอบครองด้วยริมฝีปากหนาอุ่นร้อนจัด เขาฉกแย้มปากนางด้วยลิ้น กวาดไล้ ชอนไช เสาะหาความหวานล้ำ แล้วถอนออก จากนั้นกดอีกครั้งหนักหน่วงกว่าเดิม พลิกร่างจนนางนอนหงายโดยมีเขาสวมใส่อาภรณ์เต็มยศชะโงกง้ำเหนือกาย บดเบียดแนบแน่นจนเป็นเนื้อเดียวกันพร้อมลากฝ่ามือทั่วร่างกาย เปิดปากด้วยลิ้นชำนาญ
“คืนนี้เลย ให้เยี่ยนฟางมาคืนนี้เลย” หลี่เหว่ยหอบหายใจแล้วลดปากลงเข้าหาอีกครั้งก่อนปล่อย
“ระ เร็ว มาก”
“ข้าแค่ใจร้อน คืนนี้เมื่อเยี่ยนฟางได้สุขสม พรุ่งนี้บ่ายเจ้าต้องมาหาข้า” หลี่เหว่ยอดใจไม่ไหวดึงสาบเสื้อด้านหน้าออกแล้วก้มลงมองกวาดสายตาจดจำเนื้อนวลใต้ร่างทุกตารางนิ้ว
“ทำไมบ่าย ไม่มากลางคืน อือ...ท่าน”
มือสากเลื่อนลงถึงหน้าท้องทาบไว้ก่อนชะโงกกายขึ้นสบตาด้วยดวงตาของนักรบที่ได้รับชัยชนะ
“ข้าแรงเยอะ ครั้งเดียวไม่เคยพอ” พูดเสียงราบเรียบเหมือนเป็นเรื่องธรรมดาผิดไปจากคนใต้ร่างที่เพียงฟังกลับสะดุ้ง
“แต่...”
“เลือกเอายี่หวา”
และนั่นเป็นคำสุดท้ายที่ยี่หวาได้ยินเพราะเพียงแค่นางเอ่ยตอบตกลง ชายผู้นั้นพลันลุกขึ้นดึงนางให้ยืนแล้วผูกสาบเสื้อเข้าหากันก่อนดันแผ่นหลังหลุนออกจากห้องทันทีไม่รอช้า - - ไม่ทันได้สวมรองเท้าด้วยซ้ำ
ยี่หวายังยืนมึนสงสัยงวยงันหน้าเรือนหลง ยามนี้ฝนหยุดตกแล้วมองเห็นรุ้งทอแสงเจ็ดสีทำสะพานโค้งบนขอบฟ้างดงามยิ่ง เลื่อนดวงหน้าลงมองทหารยาม ยังคงยืนนิ่งไม่รับรู้เมื่อยี่หวาพาร่างอรชรเดินผ่านในชุดเสื้อคลุมสีเข้มเนื้อดีปักลายนกกระเรียน - - ยกมือทาบอกที่ยังไม่หยุดเต้นรัว
เอาล่ะ ในเมื่อสวรรค์ลิขิตให้นางต้องมาเกิดใหม่ในชาตินี้ ในเรือนร่างงดงามของหญิงคณิกาซูฮวา ฉะนั้นนางคงต้องยอมปล่อยให้มันเป็นไปตามโชคชะตากำหนดคงดีที่สุด
ดวงหน้าหวานค่อยคลี่ยิ้มมุมปากแล้วออกเดินอย่างมั่นใจด้วยเท้าเปล่า ย่ำลงพื้นหญ้านุ่มพลิ้วกาย ลืมเลือนเรื่องพัดที่เขาผู้นั้นต้องชดใช้ ในหัวสมองมีเพียงเรื่องพรุ่งนี้
รอคอยด้วยใจระทึก
14 ซ้อนแผน แล้วซ้อนอีก “ว่าอย่างไรนะท่านแม่ทัพ” มู่เฉินร้องตะโกนเสียงหลง“ข้าบอกว่าคืนนี้ เยี่ยนฟางจะมาให้ความสำราญแก่ข้า เพียงแต่คนที่จะให้ความสำราญมิใช่ข้า แต่เป็นเจ้ามู่เฉิน” มือหลี่เหว่ยพลิกหน้าตำราพิชัยยุทธิ์ขณะเอ่ยเสียงราบเรียบ“แต่..ผู้น้อย มู่เฉิน”“เป็นกระไร อ้ำ ๆ อึ้ง ๆ มีสาวงามมาให้เชยชมถึงที่ไยถึงอึกอัก”“แต่นาง นางคิดว่าข้าเป็นท่านแม่ทัพ”“นั่นล่ะที่ข้าต้องการ”พรึบ...เสียงพลิกหน้ากระดาษไม่เบาไม่ดังกำลังดีหลี่เหว่ยหยิบพู่กันจุ่มหมึกเขียนส่วนสำคัญที่ได้อ่านเพื่อจดบันทึกกันลืม มู่เฉินยังอึ้งงันไม่แม้แต่ขยับกาย จ้องท่านแม่ทัพตาแทบถลนจนหลี่เหว่ยต้องถอนหายใจ“เจ้าเป็นอะไรมู่เฉิน เจ้าเป็นทหารหาญ บ้านเมืองต้องการชายผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบ จวนตระกูลหลี่ก็เปรียบดั่งสนามรบแห่งหนึ่งเช่นกัน ต้องการทั้งฝ่ายปกครอง ทั้งฝ่ายทหารเพื่อฝากความหวัง เจ้าจงทำตัวให้มีความสามารถพอเพียง มีขันติธรรมแบกหาบหนักได้ มิใช่ได้รับภารกิจเล็กน้อยกลับอ้ำอึ้ง แล้วเช่นนี้จะเป็น
15 เมายายี่หวาหน้าบึ้งล้วงเอาเงินที่มีติดตัวไม่มากนักวางลงกลางฝ่ามือนุ่มนิ่มดั่งหญิงสาวซึ่งพอได้ก็กำแน่นหัวเราะเบา ๆ“พรุ่งนี้ข้าจะให้เด็กนำสมุนไพรมาให้”“แต่ข้าไม่เอาพวกสารหนูนะ มันอันตราย”ฮุ่ยซิ่งเคาะพัดเป็นจังหวะกับพื้นไม้“งั้นเจ้าต้องจ่ายแพงเสียหน่อย แผ่นแปะเซ่อเซียงที่บรรดาพระสนมในวังใช้ราคาสูงลิบ แต่ได้ผลชะงัก”“ได้ ๆ”“งั้นข้าไปนอนก่อนแล้ว อยู่ที่นี่ไม่มีอะไรให้ทำน่าตื่นเต้นเลย น่าเบื่อ”ยี่หวามองตามร่างสูงโปร่งอ้อนแอ้นดั่งสตรีของฮุ่ยซิ่งลุกยืนบิดขี้เกียจก่อนลับหายไปยังห้องด้านใน จึงเอี้ยวมองไปยังเรือนหลง เวลาผ่านไปเนิ่นนานแล้วแต่เยี่ยนฟางยังมิได้ออกมา จะสำเร็จหรือไม่นะ - - เริ่มหวั่นใจ“ว่าอันใดนะป้าโจว พูดอีกครั้ง พูดให้ข้าได้ชื่นใจ” หลี่ฉือแทบทะลึ่งตัวลุกยืนยามได้ยินคราแรกว่าบุตรชายเรียกนางคณิกาสาวเข้ารับใช้เมื่อคืนนี้“เจ้าค่ะฮูหยิน ท่านแม่ทัพเรียกเยี่ยนฟางขึ้นห้องกว่าจะที่นางจะได้กลับเรือนเกือบเช้า” แม่บ้านโจวใส่น้ำเสียงเน้นคำท้ายยิ่งทำให้เจ้า
16 แต่งให้เจ้า?“มู่เฉินนน ท่านควรปล่อยให้ข้าได้นอน อือ ห้องท่านร้อนอะไรเยี่ยงนี้” ยี่หวาพลิกตัวอีกครั้งนอนหงายชันเข่าขึ้นใช้มือปัดชายกระโปรงออกให้ท่อนขารับลมเย็นแล้วลูบจนพ้นต้นขาหลี่เหว่ยตะแคงมองสายตาเข้มข้น ยกมือลูบท่อนขาเนียนนุ่มมือคล้ายปลอบประโลม ขยับพาร่างสูงใหญ่เข้าใกล้“ยังไม่ได้บอกเลย ยาอะไร” เสียงทุ้มเริ่มสั่นยามมือเลื่อนขึ้นล้วงลงต้นขาด้านใน ปลายนิ้วกำลังสัมผัสบางสิ่งอ่อนนุ่ม“เซ่อเซียง อยู่ตรงนี้” ยี่หวาวางมือบนหน้าท้อง “แปะไปได้ไม่ทันสองเค่อ ข้ามึนศีรษะเหลือเกิน แล้วยังร้อนไปทั่วร่าง อืออ มู่เฉินมือท่านเย็นดีนัก ลูบขึ้นมาอีกข้าชอบ”ยี่หวาคว้ามือหลี่เหว่ยไว้แล้วพาไปวางยังต้นขาด้านหน้าสีหน้าพึงพอใจผิดไปจากบุรุษร่างใหญ่ที่นิ่งขึง ดวงหน้าแกร่งแดงซ่านทีละน้อย“เจ้าไม่รู้หรือว่าเซ่อเซียงออกฤทธิ์บางอย่างคล้ายยากำหนัด”“ยากำหนัด” น้ำเสียงแผ่วเบาค่อยลืมตาขึ้น “หมายความว่าตอนนี้ข้า ข้ากำลังมีอารมณ์จากฤทธิ์ยา”“ฮึ มีอารมณ์ เจ้าใช้คำได้แปลกมาก หากเจ้าหมายถึงกำลังเกิดกำหนัดล่ะก็ใช่ เจ้ากำลังมีอารม
17 NCไม่ประสา ไม่ประสา... นี่ข้าหลงคิดเช่นนั้นได้เยี่ยงไร!!แรกเริ่มเพียงปากประกบเขากดนิ่งชะงัก ยี่หวาจึงใจกล้าเป็นฝ่ายแย้มริมฝีปากเสียเองอย่างที่รู้มาจากหนังเอวี ส่งลิ้นเล็กเรียวปาดขอบริมฝีปากล่างของชายร่างโต - - ชีพจรมู่เฉินเต้นแรงกว่าเดิมคงตื่นเต้นเบียดกายสาวลงจนสัมผัสถึงบางสิ่งยาวใหญ่ นางจงใจคลึงเบียดลงกดแน่น ร่างใหญ่สะดุ้งเฮือก - - เห็นไหม“ท่าน มู่เฉิน เจ้าเคยแบบนี้หรือไม่” ยี่หวาละริมฝีปากออกก้มลงซอกคอขบเม้ม มือเลื่อนลูบยังเชือกคาดเอวกระตุกดึงสอดมือเข้าสาบเสื้อแหวะเปิดออกกระทั่งลอดเข้าไปยังเสื้อตัวใน สัมผัสถึงกายแกร่งชายร่างโต อุ่นจนร้อนจัด หนั่นแน่นกล้ามเนื้อนางเลื่อนปากขึ้นไถลพรมจูบส่งความร้อนลวกเป็นทาง ลมหายใจเป่ารดซอกคอชายด้านล่างกระทั่งถึงใบหู เอ่ยกระซิบเสียงกระเส่า“เจ้า เคยแบบนี้หรือไม่ อืม”มือเล็กเรียวเลื่อนเคลื่อนไหววนรอบฐานนมชายชาตรีแล้วไถลผ่านหน้าท้องลงสู่เบื้องล่าง ซอกหลืบวางมือทาบลงท่อนเนื้ออุ่นจัดพลันกายชายสะดุ้งเฮือกอีกครั้ง - - ใช่แล้
18 NCหลี่เหว่ยจับจ้องดวงหน้าหวานงดงามเผยอปากคล้ายโต้เถียง แต่แล้วพลันเงียบเสียงลง สีหน้าละมุนผ่อนคลายจึงค่อยคลายใจ รอจนนางเอนกายลงดั่งเดิม“เปิดขาเจ้ายี่หวา ให้กว้าง”น้ำเสียงเข้มข้นระคนกระเส่าพาให้กายสาวสะท้านไหว ยี่หวานอนนิ่งชันเข่าแล้วค่อยเปิดออก“อีกแม่นางน้อย ให้กว้าง”ชีพจรแม่ทัพหนุ่มโลดแรงยามมองเรียวขางามเปิดออกทีละน้อย แต่มันยังไม่พอ หลี่เหว่ยยังต้องการให้กว้างกว่านี้ให้มาก ๆ เพราะมันหมายถึงการยินยอมศิโรราบโดยแท้จริง ดวงตาสีนิลจับจ้องเนินสาวอวบอูมปิดแน่นค่อยเปิดถ่างออกมองเห็นรอยแยกออกเพียงเล็กน้อยหลี่เหว่ยเคลื่อนกายเดินด้วยเข่าขยับไปใกล้เข้าสู่กลางหว่างขา จับหัวเข่านางไว้เปิดออก นั่งชันเข่าก่อนจับเอวคอดกิ่วด้วยมือทั้งสองข้างดึงกระชากจนสะโพกเล็กยกลอย“อ่า ท่าน เดี๋ยวก่อน”เสียงหวานร้องตกใจยามหลี่เหว่ยยกร่างเบาหวิวขึ้นลอยเข้าหาส่วนกลางลำตัว“รัดเอวข้าไว้ยี่หวา”นางกระหวัดเรียวขาเข้าเอวสอบยึดเป็นหลัก หลี่เหว่ยดึงลากแล้วหยุดลงเมื่อปลายหัวป้านลำหยกสัมผัสเนื้ออ่อนนุ่มฉ่ำแฉะ“อืม.. ยี่หว
19 อ่อนแรง“เจ้าว่าอย่างไรนะ สองคืนติดเช่นนั้นหรือ”หลี่ฮูหยินถึงกับวางตะเกียบในยามเช้า เอียงหน้าท้วมอย่างหญิงวัยกลางคนมีอันจะกินไปทางแม่บ้านโจว สีหน้ายินดีแต่เพียงชั่วครู่พลันนิ่งงัน“เจ้าค่ะฮูหยิน สองคืนติด ฮูหยินวางใจได้แล้วเจ้าค่ะว่าท่านแม่ทัพมิได้ชื่นชอบบุรุษ”“แต่ว่า นี่ไม่หลงรูปโฉมนางคณิกาเกินไปหน่อยหรือไร”“ฮูหยินเจ้าค่ะ คุณชายบ้านใดบ้างที่ไม่มีหญิงสาวคอยอุ่นเตียง ท่านแม่ทัพเองต่างหากที่แปลกแตกต่างจากบ้านอื่น ไม่มีแม้กระทั่งสาวใช้ข้างห้อง”“อืม จริงอย่างเจ้าว่ามา เอาล่ะ ข้าควรทำจิตใจให้ปลอดโปร่งเลิกคิดเรื่องนี้ หากลูกเหว่ยข้าต้องการยกนางเป็นอนุข้าควรยินดี เพียงแต่อย่าให้มีบุตรก่อนที่ลูกข้าได้แต่งงานกับคุณหนูดี ๆ สักคน”“เจ้าค่ะ เมื่อวานนี้ข้านำสมุนไพรต้มอย่างดีไปให้แล้วเจ้าค่ะ”“นางดื่มหมดหรือไม่”“เจ้าค่ะ ตอนไปเก็บถ้วยชาหมดเกลี้ยงเจ้าค่ะ”“ดีแล้ว เออจริงสิ หลานเยว่ ช่วงนี้เจ้าเองควรมั่นไปเรือนหลง ทำขนมของว่างไปให้พี่ของเจ้าบ้าง ยามดึกลูกเหว
20 ของฝากอากาศภายในโถงอุ่นสบายยิ่ง ยี่หวาเดินเตร่สำรวจไปทางนั้นทีทางนี้ทีอย่างใคร่รู้ คราวก่อนที่มู่เฉินพาหลบฝนไม่ได้พานางมาห้องนี้ยี่หวาแหงนดวงหน้าขึ้นสูงมองขื่อคานทำจากไม้เนื้อแข็งอย่างดีท่อนใหญ่สีดำ เลื่อนสายตารอบห้องประดับด้วยภาพวาดจากจิตรกรงดงาม ตรงกลางท้ายโถงยกพื้นขึ้นเล็กน้อยมีเก้าอี้สีดำเช่นกันตัวใหญ่ตั้งตระหง่าน นางเคาะนิ้วกับริมฝีปากขยับร่างเปียกปอนไปใกล้“นี่คงเป็นเก้าอี้ของท่านแม่ทัพหลี่เหว่ยสินะ” นางลูบเก้าอี้เล่นแล้วยิ้มในหน้าพรึบ! สะบัดผ้าพลิ้วหมุนตัวแล้วหย่อนก้นลง“อ่า ความรู้สึกของผู้เป็นใหญ่เป็นเช่นนี้สินะ” ยี่หวายิ้มกว้างยกขาไขว้ห้าง เอนกายไปด้านหลังยกนิ้วชี้ขึ้นชี้ไปตรงหน้า“ถ้าข้าอยากจะใช้คนเพียงชี้นิ้วใช่หรือไม่ นำเจ้านั้นไปฆ่า ฮ่ะ ฮ่า ช่างน่าสนุก อืม” นางยกมือกอดอกทำท่าทางเลียนแบบยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่ผู้เดียวจนไม่ทันสังเกตว่าบุรุษหนึ่งยืนอยู่มุมเสามาสักพักใหญ่แล้วหลี่เหว่ยเอนร่างใช้หัวไหล่พิงเสาลอบมองหญิงคณิกาเปียกไปทั้งตัว (อีกแล้ว) ทำท่าทางพิลึกพิกล บ้างหัวเราะ บ้างพูดคนเดียวราวคนว
21 เซาปิ่งเท้าใหญ่เดินนำแล้วหยุดรอกระทั่งยี่หวาลุกขึ้นเดินตามอย่างจำใจผ่านร่างเขาไปจึงปิดประตูตามหลัง“ห้องนี้อุ่นจริงอย่างเจ้าว่า ไหนขนมอะไร”ร่างอรชรตรงดิ่งไปยังโต๊ะเล็กบนพื้นยกข้างหน้าต่าง นั่งลงแล้วขยับไปเปิดหน้าต่างออกกว้าง“ตรงนี้มองเห็นบึงบัว ไยไม่เปิดให้บ่อย ๆ” ว่าพลางยกน้ำแกงอุ่นขึ้นดื่มทีละน้อย“ท่านแม่ทัพไม่ชอบให้ใครมาสอดรู้สอดเห็น เที่ยวแอบมองเข้ามาในห้อง” เขานั่งลงใกล้กันสะกิดให้ยี่หวาขยับไปด้านใน“เหตุใดไม่นั่งตรงอื่น”“หนาว” หน้าหนาด้านเช่นเขาย่อมพูดได้ทุกอย่าง - - ยกยิ้มอีกครั้ง“ข้ามีเรื่องมาแจ้ง เจ้าทำให้ข้าหลงลืมตลอด เวลาอยู่ใกล้” มือเรียวบิดขนมเซาปิ่งเป็นชิ้นเล็กส่งเข้าปาก“เรื่องอะไร”หลี่เหว่ยนั่งคล้ายขัดสมาธิแต่ยกขาขึ้นหนึ่งข้างชันเข่าให้ลำแขนพาดวางไว้ ดูอหังการเหลือทน“คืนนี้เยี่ยนฟางมาไม่ได้”“...”หลี่เหว่ยยกมือปัดปอยผมออกจากปากกระจับเมื่อนางงับเอาเข้าปากไปด้วย“ข้าเดาว่าความคิดเจ้า ยี่หวา”นางเอี้ยวหน้ามองมู่เฉินแล้วพลันห
30 บทส่งท้ายใบกระจับล้อคลื่นในบัวลู่ลมเรือน้อยชมจงกลกลางนทีพบชายนางก้มยิ้มกลั้นวจีนารีทำปิ่นหยกตกลงน้ำ[1]หลี่เหว่ยยกมือป้องแดดยามบ่ายคล้อยกลางฤดูร้อนที่ยังแผดเผา อีกมือค้ำถ่อเรือลำน้อยลอยละล่องเหนือบึงบัวดอกหลากสี คลี่ยิ้มยามเห็นฮูหยิน ภรรยายอดดวงใจเอนกายพิงกาบเรือแกว่งมือกวักน้ำ บ้างแตะหยอกดอกบัวเอียงดวงหน้างดงามส่งรอยยิ้มอ่อนหวาน“เจ้าร้อนหรือไม่”ยี่หวาส่ายหน้าแทนคำตอบ แล้วค่อยคลานเข่าไปยังแม่ทัพใหญ่หยิบเซาปิ่งแบ่งชิ้นส่งเข้าปากหนาก่อนปัดเศษขนมปังข้างแก้มให้“ปีนี้ร้อนยิ่ง ทว่าข้ามาบึงบัวแห่งนี้คราไร กลับรู้สึกเย็น”ยี่หวาขยับร่างกลับไปที่เดิม ลูบปอยผมออกจากดวงหน้ายามลมโชยพัดจนปลิวไสว เท้าข้อศอกบนกาบเรือเกยคางบนหลังมือ“ข้ามีเรื่องยังไม่ได้บอกเจ้ายี่หวา”น้ำเสียงจริงจังทั้งหลบสายตาทำให้ยี่หวาคิ้วขมวดนิ่ง“อีกไม่กี่วันข้าอาจต้องไปลั่วหยาง”ร่างอ้อนแอ้นที่เอนกายอยู่พลันเหยียดตึงนั่ง
29 NC “ทะ ท่าแม่ทัพ นั่น อะ อะไรน่ะ”ยี่หวากอบผ้าขึ้นปิดทรวงอกกระเถิบถอยหนีเมื่อเห็นท่านแม่ทัพใหญ่จู่ ๆ ก็ลุกขึ้นจากเตียงขณะโรมรันกอดรัดฟัดเหวี่ยงกำลังได้ที่ใกล้สอดใส่ เดินกลับมาอีกครั้งพร้อมผ้าสีแดงเส้นเล็กพันมือทั้งสองข้างแล้วกระตุกขึงจนตึงมือพรึบ ๆ ..“เชือกผ้าไหม”“ทะ ท่านเอาสิ่งนี้มาทำอะไร” น้ำเสียงกระท่อนกระแท่นเหลือบมองเชือกแล้วตวัดสายตาขึ้นมองสีหน้าท่านแม่ทัพดูคล้ายพึงพอใจสุดขีดด้วยรอยยิ้มมารร้าย“ตำราปกขาวเขียนไว้ว่า หากต้องการมัดใจภรรยาให้อยู่หมัด ไม่ให้ปั่นใจหนีหายไปที่อื่น จงมัด...” พึมพำในลำคอไม่เต็มเสียง กลัวภรรยารักถอยหนี แต่ยี่หวายังได้ยินอยู่ดี“มัด!!!”ตึก ... คุกเข่าลงเตียง“ตามตำราบอกว่าสตรีทุกนางล้วนชื่นชอบยิ่งนัก ซ้ำร้องครางลั่นราวขึ้นสวรรค์ชั้นฟ้า”“...”ยี่หวาอ้าปากเหวอ ‘ตำรา’ นี่ท่านแม่ทัพของนางถึงขั้นอ่านตำรากามสูตรเพื่อมาทำสิ่งนี้กับนาง“ข้า ข้า ไร้ซึ่งคำพูด ท่านแม่ทัพ”“เจ้าไม่ต้อง
28 ดื่มเหล้ามงคล“เจ้าคิดสิ่งใดยี่หวา ต้องไม่ใช่เรื่องดี” หลี่เหว่ยใช้นิ้วดีดเบากลางหน้าผากเอ่ยเสียงนุ่มอ่อนโยนก่อนนั่งลงบนเตียงด้านหลัง ชะโงกหน้าผ่านซอกไหล่ก้มมองบุตรชายนอนนิ่งไม่ส่งเสียงร้องดั่งเด็กทั่วไป“ท่านขยับออกห่างหน่อยไม่ได้หรือไร ข้าร้อน แล้วไยไม่ไปทำงาน”“ข้าลางานแล้ว”“ลางาน?”“ข้าต้องอยู่เดือน”“...”ยี่หวาคิ้วกระตุก อยู่เดือนมิใช่หน้าที่ของสามี แต่นี่มันคือข้ออ้างชัด ๆ“ท่านแม่ทัพเพียงต้องการเป่าประกาศว่าเป็นชายมีน้ำยาใช่หรือไม่” แค่นลมเมื่อพูดจบจนอกแกร่งด้านหลังกระเพื่อม“รู้ดีเยี่ยงนี้ต้องรีบยกน้ำชา”“ข้าไม่ได้รับปาก ท่านอย่าซี้ซั้วพูดเองฝ่ายเดียว ข้ายอมมาอยู่จวนท่านเพราะเห็นแต่เจ้าก้อนแป้งต่างหาก”หลี่เหว่ยไม่นำพาปล่อยให้ยี่หวาพูดไปเรื่อยส่วนมือเริ่มเลื้อยอ้อมมาด้านหน้ารัดเอวนางไว้ผ่าง...ไม่ทันได้ลวนลามมากไปกว่านั้นประตูเปิดกว้างออกอย่างแรงพร้อมใบหน้าของหญิงวัยกลางคนพรวดพราดเดินเข้ามา“หลานข้า หลี่จง” น้ำเสียงโหยหวนสักเล็กน้อย
28 คลอดแล้วจ้า“อุแว้ แง ........ แง......”ยี่หวาทิ้งตัวอ่อนแรงทันใดยามลูกน้อยคลอดออกมาอย่างปลอดภัย มือห้อยลงขอบเตียงหอบหายใจ ได้ยินเสียงยินดี เสียงท่านหมอ เสียงหมอตำแยวุ่นวายผสมปนเปจนมั่วเละเทะ“ยินดีด้วย ยินดีด้วยท่านแม่ทัพ บุตรชายเจ้าค่ะ”แว่วเสียงหมอตำแยร้องบอกยินดี ยี่หวาหลับตาถอนหายใจ ในที่สุดบุรุษหน้าหนาก็มาเสียทีหลังจากที่ปล่อยให้ทหารมาเฝ้านางเสียหลายเดือนบัดนี้นางผู้คลอดลูกนอนหมดแรงไม่ทันได้เห็นหน้าบุตรชาย กลายเป็นชายหน้าด้านได้โอบอุ้มเห็นหน้าก่อนข้าเสียอีก - - ข้าต้องโกรธให้นานเสียหน่อยยี่หวาพลิกตัวตะแคงหันหนีทันที ไม่ต้องการเห็นหน้าคนหลอกลวง“ฮูหยินเจ้าคะ บุตรชายเจ้าค่ะ”ในที่สุดคงถึงคราวข้าได้ยลโฉมบุตรชายตนเองเสียที เอียงหน้ากลับไปพลันพบสบสายตาที่ยืนนิ่งข้างเตียง ในอ้อมแขนใหญ่โอบอุ้มบุตรชายตัวน้อยที่ยังร้องจ้า“หลี่จงต้องการดื่มนม”คิ้วเรียวสวยกระตุกยามได้ยินชื่อบุตรชาย ‘หลี่จง’ เจ้าหน้าตายบังอาจตั้งชื่อลูกข้า“เออ..เจ้าลุกไหวห
27 ตามหมอ หมอหลวงงงงงง“นางใกล้คลอดหรือยัง”มู่เฉินยืนนิ่งด้านข้างเก้าอี้ในห้องทำงาน เบื้องหน้าคือหมอหลวงที่ท่านแม่ทัพให้แฝงตัวเข้าไปดูแลครรภ์แม่นางยี่หวาในหอซีหยางโหลว ทั้งส่งคนเฝ้าห่าง ๆ ตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา“ใกล้แล้วท่านแม่ทัพ คงอีกไม่กี่วัน”“ถึงวันให้ส่งคนมาแจ้ง ข้าจะไปดูด้วยตนเอง”กล่าวจบหลี่เหว่ยยกมือโบกไล่แล้วกลับไปอ่านเอกสารราชการตรงหน้าต่อ มือยังถือพู่กัน ดวงหน้านิ่งเฉย มู่เฉินรินน้ำชาเพิ่มช่วยลดความตึงเครียด“น้ำชาท่านแม่ทัพ”“กำชับคนให้ดูแลหอซีหยางโหลวอย่างดี อย่าแสดงตัวให้นางเห็น แล้วเมียเจ้า เยี่ยนฟางเป็นเยี่ยงไรบ้าง”“ใกล้คลอดเช่นกันท่านแม่ทัพ คงไล่เลี่ยห่างกันไม่กี่วัน”“ดี”มู่เฉินนิ่งเงียบเมื่อท่านแม่ทัพหมดคำถาม“อากาศเริ่มร้อนแล้ว เจ้าส่งน้ำแข็ง ไม่สิ ไม่ได้ ไม่ดีต่อสุขภาพ เจ้าให้คนนำพัดอันใหม่ไปให้นางหรือยัง”“ขอรับท่านแม่ทัพ ฝากฮุ่ยซิ่งไปเช่นเดิม แม่นางยี่หวาไม่มีทางรู้ว่าส่งมาจากท่านขอรับ”“อืม...กว่าจะเคี
26 ลำแสงแรกพระอาทิตย์ตึก ตึก ตึกเสียงวิ่งบนพื้นหิมะทำให้ทั้งสองหันตัวกลับไปมองต้นเสียง เห็นจินเยว่วิ่งหน้าตั้งสีหน้าเบิกบานยิ้มกว้างจนถึงใบหู หน้าแดงฝ่าลมหนาวเหน็บแล้วหยุดหอบหายใจตรงบันไดขึ้นเรือนเล็ก“อันใดกันจินเยว่ วิ่งราวกับวิ่งหนีใครมา”“แฮก ๆ ข้า เดี๋ยวก่อน ขอพัก”จินเยว่ยังหอบหายใจมือกุมท้องขณะก้าวขึ้นเรือนแล้วนั่งลงข้างยี่หวา“สงสัยเรื่องดี ดูจินเยว่สิ ยิ้มกว้างขนาดนี้” ยี่หวาเอ่ยเย้าขณะส่งมือดึงแก้มแม่นางน้อย“อุ๊ย..เจ็บพี่ยี่หวา มีม้าเร็วมา แจ้งว่าท่านแม่ทัพกำลังเข้าเขตเมืองฉางอานแล้ว อีกไม่กี่วันจะถึงจวน”สิ้นเสียงจินเยว่ ดวงหน้าของยี่หวาพลันสดชื่นขึ้นทันตา นางเผยรอยยิ้มสดใสเป็นครั้งแรกไม่แสแสร้งในรอบหลายเดือน รวมไปถึงแววตาพราวเปล่งประกาย“เพิ่งพูดถึงก็มาเสียแล้วกองทัพเสือดำ” ฮุ่ยซิ่งพูดเย้ายี่หวาที่บัดนี้พวงแก้มแดงระเรื่อยิ้มน้อยยิ้มใหญ่“เจ้าจะรอก่อนไหมฮุ่ยซิ่ง”“ไม่ ข้าตั้งใจแล้วไม่เคยเปลี่ยนใจ”“รออะไร พี่ฮุ่ยซิ่งจะไปไหน”“ข้าต้องจากจวนห
25 ยังรอเจ้าอยู่มิได้พบยุพเยาว์ทนห่มหนาวไม่ชิดใกล้คืนยาวนานทำเช่นไรเราต่างไร้คู่นอนเคียง[1]หลี่เหว่ยกวาดตามองทหารนายกองรอบวงร่วมสิบกว่านาย ตรงกลางคือแผ่นที่ทราย ยามนี้ใกล้เคียงจุดแตกหักสิ้นสุดของสงครามอันยืดเยื้อมานานร่วมปี ก่อนที่กองทัพเสือดำจะเร่งเดินทางร่วมทัพเสริม“ท่านแม่ทัพ” มู่เฉินเอ่ยกระซิบข้างหูสองสามคำ“ข้าต้องขอตัว ทางบ้านมีเรื่อง”หลี่เหว่ยผุดลุกร้อนรน ไม่ใส่ใจสีหน้าของนายกองที่นั่งปรึกษาเรื่องสำคัญ การเคลื่อนทัพหนสุดท้ายในวันพรุ่งนี้ใจแม่ทัพหนุ่มกระเด้งกระดอนไปทั้งทรวงยามได้ยินคำว่า ‘ตั้งครรภ์’ หลี่เหว่ยย่ำฝีเท้าเร็วตามมู่เฉินออกมาจากกระโจมบัญชาการ เห็นคนเดินสารม้าเร็วยืนเข่ารอจึงรีบส่งมือออกไปรับสารยามนี้เยี่ยนฟางตั้งครรภ์ได้ห้าเดือน ขอให้เจ้าอย่าได้กังวล แม่ได้จัดเตรียมหมอตำแย เชิญหมอหลวงมาตรวจครรภ์มิได้ขาด ย้ายนางขึ้นมานอนยังเรือนใหญ่ก่อนเพื่อรอเจ้ากลับมาสั
24 ลอยละล่องดวงตารีดั่งหงส์หลุบมองมือหนา เรียวยาวเสียแต่ว่าเต็มไปด้วยรอยแผลเป็น“เจ้าทำศึกมามาก เคยนึกเบื่อบ้างหรือไม่มู่เฉิน” ยี่หวาโพล่งขึ้นจนหลี่เหว่ยเบือนหน้ากลับมามองอย่างแปลกใจ แล้วจึงยิ้มอ่อน“ไม่ ข้าไม่เบื่อ ข้าเกิดมาเพื่อสิ่งนี้ ปกป้องบ้านเมือง”“เจ้าเคยคิดหรือไม่ว่าวันหนึ่ง ยามสงครามสุขสงบ เจ้าจะทำสิ่งใด”หลี่เหว่ยนิ่งอึ้งไปชั่วครู่ ดวงตาหลุบลงคล้ายครุ่นคิด ก่อนคลี่ยิ้ม“ข้าไม่เคยคิดถึงบ้านเมืองยามสงบสุขได้เลย ตั้งแต่เด็กจนบัดนี้สงครามเกิดขึ้นทุกหย่อมหญ้า การรบราฆ่าฟัน การป้องกันเขตแดน ข้าเพียงทำหน้าที่ตามบัญชาองค์ฮ่องเต้ แต่หากบ้านเมืองไร้ศึกจริงอย่างที่เจ้าว่า ข้าคงกลายเป็นบุรุษว่างงาน ไร้จุดหมาย”“เจ้าไม่เคยทำสิ่งอื่นหรือมู่เฉิน เช่น ค้าขาย หรือ ปลูกผัก”“ปลูกผัก!! ข้าคงมิอาจคิดไปไกลถึงขนาดนั้น หากให้ข้าลงมือปลูกผัก เจ้าผักพวกนั้นคงตายก่อนผลิใบรับแสงตะวัน มิสู้ให้ข้าเอาดาบฟันมันเลย ตายตั้งแต่ยังไม่ได้โดนแดดคงดีเส
23 เรือลำน้อยกลางบึงบัว“ตกลง เจ้าได้นัดมู่เฉินหรือไม่ยี่หวา”ฮุ่ยซิ่งคาดคั้นทันทีที่นางเหยียบเรือนหลังเล็กในช่วงดึกล่วงยามห้าย[1] ไปแล้ว เท้าเล็กเรียวชะงักแหงนหน้าขึ้นเห็นบุรุษหอซีหยางโหลวโบกพัดยืนเท้าเอวเป็นเงาทะมึนกลางเรือน“เจ้ายังไม่นอนอีกหรือ” น้ำเสียงอ่อนแรงเดินยังหมดแรงค่อยก้าวอย่างระมัดระวังเพราะเจ็บหนึบ“ถ้านอนแล้วเจ้าจะเห็นหรือยี่หวา หายหน้าไปค่อนคืนกลับมาอ่อนระโหยดั่งออกศึก”“ข้าออกศึกมาจริง ๆ หาววว ข้าง่วงแล้ว”“ประเดี๋ยว” ฮุ่ยซิ่งคว้าต้นแขนไว้ “ตกลงนัดหรือยัง”“ข้าลืม”คิ้วเรียวฮุ่ยซิ่งกระตุกถี่“เจ้ารู้หรือไม่ว่าเรื่องนี้สำคัญยิ่ง เยี่ยนฟางเสียท่านอนกับใคร ใช่ท่านแม่ทัพหรือไม่ หรือเป็นเพียงทหารธรรมดา เงินในหีบที่เจ้าฝันไว้สลายหายวับไปกับตา”เป๊าะ...ฮุ่ยซิ่งดีดนิ้วใส่หน้าแล้วสะบัดพัดพับโขกหัวสตรีตรงหน้า“หัวสมองเจ้ายามนี้มีแต่บุรุษ หญิงมิเคยต้องมือชายก็เป็นเช่นนี้ หลงเสน่หาเจ้าหมอนั่นเต็มเปา”23ข้าเปล่า ถอยไปข้าจะนอน”