Share

ท่านฮั่ว ซวยแล้วคุณหญิงขอหย่า
ท่านฮั่ว ซวยแล้วคุณหญิงขอหย่า
ผู้แต่ง: ฉวนเจี้ยน

บทที่ 1

ตอนที่ได้รับข้อความของฉือซวน ฉือมู่เจินกําลังเลือกของขวัญครบรอบวันแต่งงานรอบสามปีให้ฮั่วหยุนถิง

ภาพถ่ายล่อแหลมสิบกว่ารูปที่ได้ปรากฏขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัวนั้น ก็ทำให้ฉือมู่เจินอึ้ง และหน้าของเธอก็ซีดเลยทันที

ตัวเอกของภาพ คือฮั่วหยุนถิงและฉือซวนน้องสาวฝาแฝดของเธอ!

ทั้งสองคนกําลังกอดกัน หรือจูบกัน……สิ่งเดียวที่เหมือนกันคือ ทุกภาพดวงตาของฮั่วหยุนถิงที่มองไปที่ฉือซวนนั้นเต็มไปด้วยความเอาใจใส่

แม้ได้อยู่ข้างเขาอย่างเงียบ ๆ มาสามปี แต่เขาก็ไม่เคยมองตัวเองด้วยสายตาแบบนี้มาก่อน

"คุ้นไหม?"

ฉือมู่เจินนวดขมับที่กำลังปวด ฉากในภาพนั้นคุ้นเคยเล็กน้อย แต่ก่อนที่เธอจะนึกได้ ฉือซวนก็ส่งข้อความมาต่อ

"พี่ นี่คือเรื่อนหอของพี่ พี่จําไม่ได้เหรอ?"

"อ่อ……ฉันเกือบลืมไปเลย นอกจากคืนแต่งงานแล้ว พี่หยุนถิงดูเหมือนจะไม่ให้พี่ก้าวเข้ามาที่นี่อีก พี่รู้ไหมว่าทําไม?"

"เพราะว่า เรือนหอนี้เป็นห้องที่พี่หยุนถิงเตรียมไว้ให้ฉัน ถ้าไม่ใช่เพราะการตัดสินใจของคุณย่าฮั่วในวันที่พวกพี่แต่งงาน ชาตินี้พี่ไม่มีวันมีเหยียบเข้ามาที่นี่แน่!"

ทุกคําพูดของฉือซวนเป็นเหมือนหนามที่ทิ่มแทงใจของฉือมู่เจิน มือของเธอสั่นเล็กน้อยโดยไม่รู้ตัว

เธอจับโทรศัพท์ไว้แน่น แล้วพิมพ์ออกมาประโยคหนึ่ง

"ฉือซวน เลิกส่งรูปถ่ายเหล่านี้มาให้ฉันอีก เธอและฮั่วหยุนถิงมันเป็นเพียงอดีตไปแล้ว"

"หึหึ พี่คิดว่าเรื่องของพวกเราเป็นอดีตไปแล้วจริงๆเหรอ?"

"ฉันกลับประเทศมาสองเดือนแล้ว แล้วสองเดือนมานี้พี่หยุนถิงไม่ได้กลับบ้านเลยใช่ไหม?"

"ช่วงที่เขาไม่กลับบ้าน ทุกวันหลังเลิกงานเขาจะมาที่เรือนหอนี้เพื่อมาเจอฉัน พี่รู้ไหมว่าเขาว่าพี่ยังไงตอนอยู่บนเตียง? เขาบอกว่าพี่น่าเบื่อมาก เหมือนตุ๊กตายางไม่มีผิด "

"เป็นผู้หญิงได้ล้มเหลวขนาดนี้ ถ้าฉันเป็นพี่ ฉันคงไปชนเสาตายไปนานแล้ว!"

"อาศัยตอนที่พี่หยุนถิงยังรำลึกวันเก่าๆ ฉันแนะนําให้พี่ถอนตัวไปซะ ไม่อย่างนั้นคนที่น่าสมเพชนั้นก็คือพี่!"

……

ฉือมู่เจินไม่รู้ว่าตนกลับบ้านยังไง จนกระทั่งได้ยินมีเสียงปลดล็อคลายนิ้วมือตรงประตูดังขึ้น เธอถึงรู้สึกตัว

ฮั่วหยุนถิงเปิดประตู ฉากที่เห็นคือฉือมู่เจินนั่งอยู่บนพื้นตรงทางเดิน

เขาขมวดคิ้ว และดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ

"คุณนั่งทำอะไรตรงนี้?"

ฉือมู่เจินเงยหน้าขึ้นมองไปที่เขา ใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาก็ปรากฏขึ้น ยังคงทำให้เธอใจเต้นเหมือนเดิม

เธอต้องการหาความรักแม้ว่าจะมีแค่เศษเสี้ยวในดวงตาของเขา แต่ไม่มีอะไรนอกจากหงุดหงิดและความไม่พอใจ

เขามองตัวเองด้วยสายตาแบบนี้มาสามปีแล้วแท้ๆ แต่เมื่อพบว่าเขาสามารถมองผู้หญิงคนอื่นได้อย่างอ่อนโยนแบบนั้น หัวใจก็เหมือนถูกกีด มันเจ็บเกินจะทนไหว

เธอค่อยๆ ลุกขึ้นยืน และมองไปที่ฮั่วหยุนถิง

"เรื่องที่ฉือซวนกลับมา ทําไมคุณต้องปกปิดฉันคะ?"

ดวงตาของฮั่วหยุนถิงตกตะลึง จากนั้นก็พูดอย่างเฉยเมย:"คุณไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่ดีกับซวนซวน ดังนั้นจึงไม่จําเป็นต้องบอกคุณ"

ฉือมู่เจินขำ ไม่จําเป็น หรือกลัวว่าเธอจะรู้เรื่องชู้สาวของเขากับฉือซวน?

เธอหลับตา และพูดทีละคํา:"ฮั่วหยุนถิง ถ้าคุณเห็นว่าฉันเป็นภรรยาของคุณจริงๆ คุณก็คงไม่อยู่กับฉือซวนในเรือนหอของพวกเรา!"

สีหน้าของฮั่วหยุนถิงเปลี่ยนไป"คุณรู้ได้ไง?"

"ฉันรู้ได้ไง? คุณควรถามเรื่องนี้กับฉือซวน! ฉันก็อยากรู้มือที่สามอย่างเธอมีหน้าส่งภาพเหล่านั้นให้ฉันขยะแขยงได้ไง!"

"ฉือมู่เจิน!"

ใบหน้าของฮั่วหยุนถิงเต็มไปด้วยความโกรธ สายตาที่เย็นชานั้นก็เหมือนลูกศรคมที่แทงมาใส่เธอ

ในความคิดของเขา ฉือซวนเป็นเด็กใสซื่อ ไม่มีทางทำเรื่องที่ทําร้ายผู้อื่น ยิ่งไม่มีทางมายั่วโมโหฉือมู่เจิน

"ผมกับซวนซวนไม่ได้ทำอะไรน่าเกียจเหมือนที่คุณว่า เธอก็แค่ขออาศัย อีกอย่างซวนซวนก็ไม่มีทางส่งรูปอะไรให้คุณ!"

สายตาของเขาก็ได้ทิ่มแทงฉือมู่เจิน ดวงตาเธอได้แดงก่ำทันที"อาศัย? คุณเห็นว่าฉันเป็นคนโง่เหรอ? และคุณบอกว่าเธอไม่มีทางส่งรูปอะไรให้ฉัน คุณกำลังหมายความว่าฉันใส่ร้ายเธอ?"

"คุณอาจไม่ใส่ร้ายคนอื่น แต่คุณไม่ชอบซวนซวนมาตลอด เรื่องแบบนี้ ก็ใช่ว่าคุณไม่เคยทำ"

ฉือมู่เจินเม้มปาก จู่ๆก็รู้สึกว่าตนนั้นน่าขำ เขาไม่ได้ถามด้วยซ้ำว่าเรื่องเป็นมายังไง ก็ได้เข้าข้างฉือซวนแล้ว

ก็ไม่น่าแปลกใจเลยที่ ฉือซวนจะกล้าส่งรูปถ่ายเหล่านั้นให้เธอแบบนี้

คงคํานวณไว้แล้วว่า ฮั่วหยุงถิงจะเข้าข้างเธอ

เธอหลับตาอย่างเหนื่อยล้า พูดไปเรียบ ๆ :"แล้วแต่คุณจะพูด คิดว่าฉันใส่ร้ายเธอก็ได้"

ดวงตาของฮั่วหยุนถิงได้ประกายความโกรธ และพูดอย่างเย็นชา:"ซวนซวนไม่ได้ติดค้างอะไรคุณ ต่อไปอย่าให้ผมได้ยินคุณพูดอะไรแบบนี้อีก!"

เธอยังไม่ทันทำอะไรฉือซวนเลย เขาก็ปกป้องหล่อนขนาดนี้ ถ้าเธอทำอะไรฉือซวนขึ้นมาจริงๆ เกรงว่าฮั่วหยุนถิงไม่ปล่อยตนไปแน่

ฉือมู่เจินยิ้มดูถูกตัวเอง"ฮั่วหยุนถิง เราแต่งงานกันมาสามปี คุณเคยชอบฉันไหม หรือแค่นิดเดียวก็ได้?"

สายตาที่เย็นชาของฮั่วหยุนถิงมองหน้าเธอ"ผมได้แต่งงานกับคุณแล้ว ผมก็จะดูแลคุณไปตลอดชีวิต"

ไม่ยอมตอบ ก็คงเพราะไม่เคยชอบเธอ……

ฉือมู่เจินหัวเราะเบาๆ หันหน้าไปทางอื่นไม่อยากให้เขาเห็นน้ำตาของตน พูดอย่างถอดใจว่า:"พวกเราหย่ากันเถอะค่ะ"

เธอพยายามมาสามปี คิดว่าความจริงใจของเธอจะสามารถได้ความรักจากเขา แต่สุดท้ายก็แค่การหลอกตัวเองเท่านั้น

ตอนนี้ เธอควรตื่นได้แล้ว

ฮั่วหยุนถิงขมวดคิ้ว แววตาได้มีความหงุดหงิด"ฉือมู่เจิน เลิกงอแงได้แล้ว!"

ฉือมู่เจินคิดไม่ถึงว่า การกระทำของเธอมันก็เป็นเพียงแค่การงอแงในสายตาเขา

เธอยกมือขึ้นเช็ดน้ําตา มองไปที่ฮั่วหยุนถิงพูดอย่างจริงจัง:"ฉันไม่ได้งอแงกับคุณค่ะ ฉันจะให้ทนายร่างหนังสือสัญญาหย่าให้เรียบร้อย สมบัติทั้งหมดของคุณ ฉันไม่เอาแม้แต่อย่างเดียว!"

ตอนแต่งงานกับเขาเธอไม่ได้เอาอะไรมา ตอนนี้จะหย่ากันแล้ว เธอไม่อยากให้เขาคิดว่าเธออยากได้ทรัพย์สินของเขา

ทันทีที่คําพูดจบ สีหน้าของฮั่วหยุนถิงก็ดูไม่ดีเอามากๆ บรรยากาศรอบตัวก็ได้เย็นลง

"ฉือมู่เจิน ผมงานยุ่งมาก ไม่มีเวลาทะเลาะกับคุณ คำพูดวันนี้ผมทำเป็นว่าไม่เคยได้ยินมันมาก่อน คุณสงบสติอารมณ์เมื่อไหร่เราค่อยมาคุยกัน!"

พูดจบ ฮั่วหยุนถิงก็จากไปโดยไม่ลังเล

ทุกครั้งที่ทะเลาะกันเขาก็เป็นแบบนี้ ไม่คุยกับฉือมู่เจินเลย จนกระทั่งฉือมู่เจินยอมแพ้แล้วไปขอโทษเขา

พอตัดสินใจที่จะปล่อยมือแล้วนั้น ฉือมู่เจินถึงได้พบว่าเมื่อก่อนตนนั้นน่าสมเพชแค่ไหน น่าสมเพชจนเขานั้นไม่ยอมง้อเธอเลย

แต่ว่าจะไม่เป็นแบบนั้นอีกแล้ว

เช้าวันรุ่งขึ้น ฉือมู่เจินไปหาทนายร่างหนังสือสัญญาหย่าเรียบร้อย

ในตอนปริ้นสัญญา ทนายความก็อดไม่ได้ที่จะเกลี้ยกล่อมเธอ

"คุณหญิงฮั่ว บริษัท ฮั่วซือ กรุ๊ปตอนนี้มีมูลค่าทางตลาดปัจจุบันหลายแสนล้าน คุณอยู่กับประธานฮั่วมาสามปี และยังยอมปิดบังเรื่องแต่งงานมาตลอด ให้ประธานฮั่วแบ่งเงินคุณสักสองสามร้อยล้านก็สมเหตุสมผลนะครับ"

ฉือมู่เจินยิ้มอย่างขมขื่น"ไม่ต้องหรอกค่ะ ฉันแค่อยากหย่ากับเขาให้เร็วที่สุด"

เมื่อเห็นแบบนี้ทนายความก็ไม่เกลี้ยกล่อมต่อ เอาหนังสือสัญญาหย่าให้ฉือมู่เจินแล้วก็จากไป

เมื่อพลิกสัญญาถึงหน้าสุดท้าย ฉือมู่เจินไม่มีความลังเลใดๆ แล้วก็เซ็นชื่อของเธอเลยทันที ถอดแหวนบนมือของเธอวางบนหนังสือสัญญาหย่า ลุกขึ้นและขึ้นไปชั้นบนเพื่อเก็บของ

ไม่ถึงชั่วโมง ฉือมู่เจินก็ได้เก็บของเสร็จเรียบร้อย ของของเธอมีไม่มาก เธอไม่เอาของที่ฮั่วหยุนถิงซื้อให้ เพราะงั้นกระเป๋าเดินทางใบเดียวก็เพียงพอ

มองบ้านที่อยู่มาเป็นเวลาสามปีเป็นครั้งสุดท้าย แววตาของฉือมู่เจินไม่ได้มีความโหยหาอีกต่อไป ของที่ไม่ได้เป็นของเธอ ไม่ว่าพยายามยังไงก็ไร้ประโยชน์

ข้อนี้ เธอใช้เวลากว่าสามปีถึงได้รู้

แต่ว่าก็ไม่สายเกินไป

เธอหันหลังและเดินออกจากบ้าน ที่ประตูได้มีรถแลมโบกินี่สีแดงจอดอยู่

เมื่อเห็นเธอออกมา ก็ได้บีบแตร

หลังจากที่ฉือมู่เจินยกกระเป๋าเดินขึ้นรถเสร็จ ก็ได้เปิดประตูขึ้นนั่งที่นั่งข้างคนขับ

ในที่นั่งคนขับก็ได้มีหญิงหุ่นแซบ ผิวขาวคนหนึ่งนั่งอยู่

เธอสวมแว่นกันแดดขนาดใหญ่ เกือบจะปกปิดใบหน้าเกือบครึ่งใบ ทําให้ใบหน้าทั้งใบดูเล็กเข้าไปอีก

หลังจากฉือมู่เจินนั่งลง เสิ่นเถียนก็เลิกคิ้วและพูดว่า:"ตัดสินใจได้แล้ว?"

ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
วิไล ยอดสุรินทร์
นิยายดีแต่เปิดอ่านยาก
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status