ฉือมู่เจินมองเธอด้วยสีหน้านิ่งๆ"กลับบ้าน""กลับบ้านน่าเบื่อจะตาย วันนี้นะเพื่อฉลองเธอกลับเข้าบริษัทเอ็มวายแถมยังได้ออกจากขุมนรกคนแต่งงาน ฉันจองที่นั่งไว้ที่เมอเซอร์ ได้ยินว่าช่วงนี้มีโฮสต์มาใหม่ ฉันจะพาเธอไปทำความรู้จักสักหน่อย!"เสิ่นเถียนยิ้มพลางยักคิ้ว ดวงตาเธอเต็มไปด้วยความตื่นเต้นที่กลั้นไม่ไหวรอได้เจอโฮสต์หนุ่มพวกนั้นก่อนเถอะ ยัยนี่คงกระโจนใส่พวกเขาเป็นแน่ ฉือมู่เฉินแอบคิดเธอตอบอย่างยิ้มๆพลางมองเสิ่นเถียน "สรุปคือพาฉันไปทำความรู้จักหรือเธออยากรู้จักเองกันแน่?"เสิ่นเถียนไม่รู้สึกอายเลยแม้แต่น้อย เธอเดินมาข้างหน้าฉือมู่เจินและยิ้มพร้อมกับเกี่ยวคอฉือมู่เจิน: "ที่รัก เราจะมานั่งแบ่งแยกกันทำไมล่ะ! แถมก่อนหน้านี้เธอเอาแต่ชอบฮั่วหยุนถิง เพราะงั้นเธอเลยยังไม่เคยเห็นความเจริญของโลกนี้"คืนนี้ไปกับพี่เถอะน้อง รับรองน้องจะต้องประทับใจการบริการจนพรุ่งนี้เช้าลืมไปเลยใครคือฮั่วหยุนถิง!"ฉือมู่เจินกลั้นไม่ไหว"พรืด" หัวเราะพรืดออกมาพร้อมพูดว่า:"ช่างมันเถอะ เรื่องดีๆแบบนี้เธอเก็บไว้เองเถอะ ฉันไม่สนใจ"เมื่อเห็นว่าฉือมู่เจินตั้งท่าจะจากไป เสิ่นเถียนก็รีบคว้าแขนของเธอไว้"ถึงยังไงกลับบ้าน
คนสามสี่คนในห้องคาราโอเกะนั้นหันไปมอง ก็เห็นสายตาเยือกเย็นของฮั่วหยุนถิงที่จับต้องฉือมู่เจิน นัยน์ตาลึกเต็มไปด้วยความโกรธสายตาฉือมู่เจินเต็มไปด้วยความไม่คาดคิด เธอไม่คิดเลยว่าจะมาเจอฮั่วหยุนถิงที่นี่หลังจากนั้นครู่เดียวเธอก็มองเขากลับด้วยหน้าเรียบเฉย เธอยกแก้วเหล้าขึ้นมาจิบราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเมื่อเห็นเธอเพิกเฉยใส่เขา ฮั่วหยุนถิงก็โกรธจนหน้าซีดเผือก เขาก้าวเดินไปข้างๆฉือมู่เจิน คว้าข้อมือเธอแล้วลากเธอออกมาดวงตาของเสิ่นเถียนเริ่มเย็นชา เธอรีบเดินไปหยุดต่อหน้าฮั่วหยุนถิงและพูดอย่างเย็นชา:"ประธานฮั่วนี่คุณกำลังอะไรไม่ทราบ?!"ฮั่วหยุนถิงเหลือบมองเธอด้วยสายตาเย็นชาและพูดอย่างโกรธเคือง:"หลีกไป!"เสิ่นเถียนหัวเราะเย้ย"เจินเจินเป็นเพื่อนฉันนะ ประธานฮั่วจะพาเพื่อนฉันไปก็ควรจะอธิบายอะไรสักหน่อย"ฮั่วหยุนถิงแสดงออกอย่างเย็นชา ความอดทนในแววตาของเขาถึงขีดแล้ว"ผมจะพูดเป็นครั้งสุดท้ายหลีกไป!"เมื่อเห็นทั้งสองคนไม่ยอมหักยอมงอ ฉือมู่เจินรู้ดีว่าถ้าต้องเผชิญหน้าจริงๆฝั่งเสิ่นเถียนเธอแย่แน่ เธอเม้มริมฝีปากแล้วพูดว่า: "เถียนเถียน ฉันไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันกลับมา"เสิ่นเถียนมองเธอด้วยสีหน้าเป็น
ฉือมู่เจินตอบด้วยสีหน้าเฉยเมย:"สิ่งที่ภรรยาควรทำหรือไม่ควรทำเธอก็ทำหมดแล้ว คุณสองคนน่ะขาดก็แค่ทะเบียนสมรส"ฮั่วหยุนถิงจ้องมองไปที่ใบหน้าของฉือมู่เจิน คิดมองหาความรู้สึกเสียใจบนใบหน้าเธอ ทว่าไม่มีเลย เธอไม่สนใจแล้วจริงๆไม่รู้ทําไม ฮั่วหยุนถิงรู้สึกเจ็บปวดในหัวใจเขาเขาลืมตาแล้วพูดอย่างเย็นชา:"ตราบใดที่เรายังไม่หย่า คุณก็มีหน้าที่ต้องดูแลผม!"ฉือมู่เจินรู้สึกหงุดหงิดในใจ แต่ก็ไม่อยากต้องจัดการกับฮั่วหยุนถิง เธอหยิบโทรศัพท์ออกมาและปลดบล็อกฉือซวนแล้วส่งข้อความไปหาเธอณ ตระกูลฉือฉือซวนเดิมทีอาบน้ําและเตรียมเข้านอนอหลังจากได้รับข้อความจากฉือมู่เจินหน้าเธอก็ซีดลงซือมู่เจินอีตัวดี!เธอรีบลุกขึ้นเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยรวดเร็ว เธอลงมาเจอกับสวีโร่วและฉือเจิ้นที่เพิ่งกลับจากงานเลี้ยงพอดี เมื่อเห็นว่าเธอกําลังจะออกไปข้างนอกทั้งคู่ก็อดขมวดคิ้วไม่ได้"ซวนซวน ดึกดื่นแล้วลูกจะไปไหน?"ฉือซวนฝืนยิ้นมองสวีโร่ว:"คุณแม่ พี่หยุนถิงเขาดื่มมากไป น่ะค่ะ ตอนนี้เขาอยู่บ้านคนเดียว หนูเป็นห่วงเขาเลยว่าจะฉันไปดู"สวีโร่วเหลือบมองฉือเจิ้น เห็นว่าสีหน้าเขาไม่มีอาการอะไรออกมา เธอยิ้มให้ฉือซวน:"ตอนนี้ดึกแล้ว ล
"ผม......"เหลียงเจียนชางแอบกังวล ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านที่ผ่านมา นอกเหนือจากการยัดเยียดคนเข้ามาในบริษัทแล้ว เรื่องอื่นๆเขาก็ทิ้งให้เป็นเรื่องของผู้ถือหุ้นรายอื่นทั้งหมด จะรู้ได้ยังไงว่าช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาทำงานอะไรกันไปบ้างภายใต้สายตาที่อันนิ่งเฉยของฉือมู่เจิน ใบหน้าอันมีอายุของเหลียงเจียนชางเต็มไปด้วยความละอายใจ ศีรษะของเขาก้มลงอย่างไม่รู้ตัวด้วยความรู้สึกผิด"ประธานเหลียง นี่คือคุณตอบไม่ได้ หรือไม่อยากตอบ?"ไม่ว่าจะเลือกคำตอบไหน เขาก็ต้องตกลงไปในหลุมที่ฉือมู่เจินขุดให้ตัวเองอย่างเลี่ยงไม่ได้ ใบหน้าของเหลียงเจียนชางแฝงไปด้วยความโมโห"ประธานฉือคุณก็รู้ดีว่าผมบริหารจัดการบริษัทไม่ค่อยเก่ง คุณจงใจถามคําถามพวกนี้เพื่อทำให้เรื่องมันยากสำหรับผม?!"ดวงตาของฉือมู่เจินฉายแววของความเยือกเย็นและพูดด้วยสีหน้าที่ไร้อารมณ์:"เนื่องจากประธานเหลียงก็ทราบดีว่าตัวเองไม่เก่งเรื่องจัดการบริหารบริษัท ดังนั้นก็ดูเหมือนนี่จะไม่ใช่เรื่องของประธานเหลียงที่จะมากำหนดว่าฉันจะตัดสินใจอะไรนะ "เหลียงเจียนชาง:"......"เสิ่นเถียนมาพร้อมเอกสารเพื่อให้ฉือมู่เจินเซ็น ทันทีที่เดินไปถึงประตูเธอก็เห็นเหลียงเจียนช
ฮั่วหยุนถิงยิ้มอย่างเยือกเย็น"นี่เรียกว่ามากเกินไป? ผมยังไม่ได้ขอให้คุณปฏิบัติตามภาระผูกพันสามีภรรยาของเราด้วยซ้ำ!"ฉือมู่เจินกัดฟัน"คุณฝันไปเถอะ!""กลับไปกับผม หรือจะให้ผมอยู่ที่นี่กับคุณคุณเลือกเอา"ฉือมู่เจินสูดหายใจเข้าลึก ๆก่อนจะคิดกับตัวเองว่าเพียงอดทนแค่หนึ่งสัปดาห์ทุกอย่างก็จะผ่านไปแล้ว เมื่อคิดได้เช่นนั้นจึงหันหลังกลับและเดินตรงไปที่รถมายบัคที่จอดอยู่ข้างถนนฮั่วหยุนถิงหยุดเธอไว้ก่อนถาม"คุณไม่เก็บข้าวของ? "สีหน้าของฉือมู่เจินเรียบเฉยไม่แยแส"หนึ่งสัปดาห์ฉันก็จะกลับมาแล้ว ไม่จำเป็นต้องเก็บ"สีหน้าของฮั่วหยุนถิงถอดสี ก่อนจะขึ้นรถออกไปอย่างเย็นชา อีกทั้งยังไม่เอ่ยปากคุยอะไรกับฉือมู่เจิน เพียงหยิบเอกสารขึ้นมาและอ่านต่อฉือมู่เจินที่นั่งอยู่ด้านข้างเหลือบมองเอกสารในมือของเขาด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง ก่อนจะเปลี่ยนผันไปทันที "คุณต้องการจะซื้อบริษัทเอ็มวาย?"ฮั่วหยุนถิงขมวดคิ้วและมองเธอด้วยสายตาเย็นชา"เมื่อก่อนคุณไม่สนใจเรื่องของบริษัทของผมไม่ใช่เหรอ?"นัยย์ตาของฉือมู่เจินฉายแววความเหน็บแนม"พูดอย่างกับว่าถ้าชั้นสนใจคุณจะบอกฉันอย่างนั้นล่ะ"เมื่อนึกถึงสิ่งที่ฉือมู่เจินพูดเกี่ยวกับก
ฉือมู่เจินมองเธออย่างเฉยเมย"ดูเหมือนว่าเธอจะไม่มีสิทธิ์มาถามคําถามนี้กับฉันนะ"หลังจากที่เธอพูดจบ เธอก็หันหลังกลับจะขึ้นไปชั้นบน ทันใดนั้นเสียงเย็นชาของฉือซวนก็ดังขึ้นข้างหลังเธอ"หยุดนะ!"มุมปากของฉือมู่เจินยกยิ้มอย่างเย็นชาก่อนจะหันมามองไปที่ฉือซวนด้วยสีหน้าเยาะเย้ย"เป็นเมียน้อยแต่กลับทำท่าทีหยิ่งผยองขนาดนี้ ฉันเพิ่งจะเคยเห็นครั้งแรกเลยนะเนี่ย"ใบหน้าของฉือซวนเปลี่ยนไป เธอจ้องมอง ฉือมู่เจินเขม็งและพูดว่า:"คนที่พี่หยุนถิงรักก็คือฉัน แม้ว่าพี่จะใช้กลอุบายเพื่อให้อยู่ที่นี่ เขาก็ไม่มีทางที่เขาจะตกหลุมรักพี่ รู้อย่างนี้แล้วก็รีบๆหย่ากับเขาซะ" !"เห็นทีการหนีไปไกลไกลคงจะเป็นการดีที่สุด ไม่ต้องปรากฏตัวต่อหน้าพวกเขาอีกเลยยิ่งดีฉือมู่เจินเลิกคิ้ว ก่อนพยักหน้าแล้วพูดว่า "โอเค ถ้าเธอให้เงินฉันสองร้อยห้าสิบล้าน ฉันจะหย่ากับเขาทันที"ม่านตาของฉือซวนหดลงเล็กน้อยเธอกัดฟันและพูดว่า:"หลายปีที่ผ่านมานี้พี่หยุนถิงยังให้เงินพี่ไม่มากพอหรือไง?ฉือมู่เจิน พี่อย่าโลภเกินไปหน่อยเลย!""เธอเป็นคนที่รีบร้อนอยากให้ฉันหย่ากับฮั่วหยุนถิงเองนะ จะไม่ทุ่มเทอะไรเพื่อพิสูจน์ความรู้สึกของเธอต่อเขาหน่อยหรือไง?"
เมื่อเห็นใบหน้าตื่นตระหนกของเสิ่นเถียน ฉือมู่เจินก็ตอบนิ่งๆว่า:"แม้ว่าคราวนี้จะหลีกเลี่ยงได้ คราวหน้าเขาก็ยังหาโอกาสอื่นมาวางแผนต่อต้านฉันอยู่ดี สู้ให้เขาเรียนรู้ที่จะเชื่อฟังในครั้งนี้ไปเลยจะดีกว่า""ลูกค้าที่เขาให้คุณคงจะรับมือด้วยยากมากน่าดู ถ้าถึงเวลาแล้วเธอเสียเปรียบขึ้นมาจะทำไง?!"ฉือมู่เจินยิ้ม"ไม่ต้องกังวล เธอไปทํางานเถอะ""จะให้ฉันวางใจได้อย่างไรล่ะเวลาเธอจะพูดคุยอะไรฉันก็อยู่ด้วยตลอด""ไม่ต้องเลยถ้าเรื่องแค่นี้ฉันยังไม่สามารถแก้ปัญหาด้วยตัวเองได้ ในอนาคตถ้าบริษัทเกิดเจอปัญหาที่ยากลำบากมากกว่านี้จะไม่จบเห่เอาเหรอ?"เมื่อเห็นเธอยืนกรานเช่นนั้น เสิ่นเถียนก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องถอยหลังไปหนึ่งก้าว"โอเค แต่ถ้ามีอะไรฉุกเฉินเธอต้องโทรหาฉันนะ อย่ามัวแต่แบกมันคนเดียวล่ะ!""อื้ม เข้าใจแล้ว"ไม่นานหลังจากที่เสิ่นเถียนออกไป เหลียงเต๋อชางก็มาส่งมอบสัญญาเพื่อการเจรจาดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความพอใจ"ประธานฉือยังไงผมจะรอคุณเซ็นสัญญาและกลับมานะครับ!""อืม หากประธานเหลียงไม่มีอะไรแล้วก็ออกไปเถอะ ฉันยังมีงานต้องทำอีกมาก"ดวงตาของเหลียงเต๋อชางลุกวาวไปด้วยความโกรธ ก่อนจะยิ้มอย่างเยือ
ไป๋เซียงเหล่ยรีบส่ายหัวอย่างรวดเร็ว "เปล่านะ...ผมแค่ล้อเล่น คุณหนูฉือ คุณเป็นคนใจดีมีเมตตา...อย่าถือสาผมเลย..."ในขณะที่ไป๋เซียงเหล่ยพูดเขาก็เริ่มตบตัวเองฉือมู่เจินมองมาที่เขาด้วยสีหน้าเย็นชา นัยน์ตาของเธอไร้อารมณ์จนกระทั่งใบหน้าของไป๋เซียงเหล่ยเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง ฉือมู่เจินถึงค่อยๆยกเท้ากลับ ก่อนจะหันหลังและเดินจากไปทันใดนั้นดวงตาที่แต่เดิมหวาดกลัวของไป๋เซียงเหล่ยก็แปรเปลี่ยนแข็งเป็นหินทันที เขาจ้องเขม็งไปที่แผ่นหลังของฉือมู่เจินวันนี้เขาได้บันทึกความเกลียดชังนี้ไว้แล้ว และเขาจะไม่มีวันปล่อยฉือมู่เจินไปอย่างแน่นอน!เมื่อเห็นว่าฉือมู่เจินจากไปแล้ว ฮั่วหยุนถิงก็หันหลังกลับและขึ้นไปชั้นบนสีหน้าของเขาดูเรียบเฉยไม่แยแส แต่ในใจของเขาเริ่มเกิดความสงสัยในตัวฉือมู่เจินเห็นทีอาจจะถึงเวลาให้เค่อหนิงตรวจสอบฉือมู่เจินเสียแล้วก่อนหน้านี้เขาเข้าใจว่าเข้าฉือมู่เจิน คือลูกสาวของตระกูลฉือที่หายตัวไปสิบหกปีและมีฉือซวนเป็นพี่น้องฝาแฝดตลอดสามปีนับตั้งแต่พวกเขาสองคนแต่งงานกัน เธอพยายามอย่างดีที่สุดที่จะดูแลเขาไม่ต่างจากผู้หญิงปกติทั่วไป แต่ทว่าวันนี้มันช่างเปิดหูเปิดตาสำหรับเขาจริงๆ!!