เขาไม่ชอบฉือมู่เจินไม่ใช่เหรอ?!ทําไมล่ะ !สวีโร่วเห็นสีหน้าเศร้าของฉือซวนก็ทุกข์ใจ รีบเข้าไปพยุงร่างฉือซวนที่จะทรงตัวแทบไม่ไหว"ซวนซวนลูกอย่าเศร้าไป ฮั่วหยุนถิงอาจจะไม่อยากให้ตระกูลฉือเราเสียหน้าเลยจงใจพูดแบบนั้นต่อหน้าทุกคน!"เมื่อได้ยินแบบนี้ฉือซวนรู้สึกเหมือนคว้าขอนไม้สุดท้ายไว้ เธอพยักหน้าไม่รู้ตัว:"อืม ต้องเป็นแบบนี้แน่ พี่หยุนถิงไม่มีทางชอบพี่แน่ ต้องเราสิที่เป็นคู่กันน่ะ!"เฒ่าแก่ฉือกับคุณนายฉือเหลือบตามองกัน นัยน์ตาทั้งสองฝ่ายฉายแววตกใจพวกเขาคิดมาตลอดว่าความสัมพันธ์ของฮั่วหยุนถิงกับฉือมู่เจินนั้นไม่ค่อยดี ตอนนี้ฉือซวนกลับมาแล้ว ทั้งสองคนต้องหย่ากันแน่ ถึงได้กำเริบเสิบสานดูถูกฉือมู่เจิน ถ้าฮั่วหยุนถิงมีใจให้ฉือมู่เจินล่ะก็พวกเขาคงต้องชั่งน้ำหนักกันใหม่แล้ว!ไม่นานเฒ่าแก่ฉือก็เข้าไปหาฮั่วหยุนถิง:"ประธานฮั่วคุณคิดมากแล้วครับ พวกเราแค่คิดว่าต้องมีอะไรเข้าใจผิดกันแน่ๆ ก็เลยอยากให้มู่เจินอธิบายให้แขกเข้าใจ เขาจะไม่ได้ไม่เข้าใจมู่เจินผิดกันครับ!"สีหน้าของฮั่วหยุนถิงเยือกเย็น เขาพูดเน้น:"เข้าใจผิดอะไร?! วันนั้นผมอยู่ในบาร์ด้วย ตอนนั้นผมกับเธอขัดแย้งกันเธอเลยเรียกใช้บริการโฮส
ฉือมู่เจินเม้มริมฝีปากเธอ"คุยเรื่องที่คุณเอาเรื่องที่เราแอบแต่งงานมาพูดในงานเลี้ยง"โชคดีที่วันนี้คนที่มาที่งานส่วนใหญ่เป็นคนที่รู้จักของตระกูลฉือ แค่แอบจัดการเบื้องหลังหน่อย เรื่องที่เธอกับฮั่วหยุนถิงแอบแต่งงานมาสามปีจะไม่ถูกเปิดเผยออกไปมากกว่านี้ฮั่วหยุนถิงเงียบไปหลายวินาที ดวงตาของเขามีความโกรธแฝงอยู่: "ฉือมู่เจิน คุณอย่าลืมว่าถ้าไม่ใช่เพราะผมช่วยคุณ เรื่องที่คุณเรียกใช้บริการโฮสต์อาจจะกลายเป็นเรื่องใหญ่กว่านี้ก็ได้!"ฉือมู่เจินหัวเราะออกมาเบาๆ ทว่านัยน์ตาเธอไร้ซึ่งความอบอุ่น"ดูเหมือนว่าฉันจะไม่ได้ขอให้คุณช่วยเลยนะ คุณตัดสินใจทำของคุณเอง อีกอย่างคุณทำแบบนี้กลายเป็นสร้างปัญหาให้ฉันอีก"สีหน้าของฮั่วหยุนถิงเย็นชา เขามองฉือมู่เจินราวสบประมาท"ปัญหาอะไร มีผลกระทบกับสามีใหม่หรือยัง?"ฉือมู่เจินขมวดคิ้ว"คุณต้องพูดกัดขนาดนี้เลยหรือไง""เรื่องจริงมักทำใจได้ยากเสมอแหละ""ฮั่วหยุนถิง ฉันไม่ได้อยากทำให้เรื่องมันวุ่นวายขนาดนั้น คุณต้องการอะไรกันแน่ถึงจะยอมหย่า?"จู่ๆ ฮั่วหยุนถิงก็ลุกขึ้นยืนแล้วมองลงมาที่ฉือมู่เจินเขาพูดเน้น:"ผมบอกแล้วไงว่าผมไม่เห็นด้วยที่จะหย่าแน่ คุณรีบๆเลิกหวังไปเ
ฮั่วหยุนถิงน้ําเสียงไม่แยแสอะไร"ตอบคำถามพี่มา ""ไม่ใช่! ถึงฉันจะทนพี่ไม่ไหว แต่พี่ก็เป็นพี่แท้ๆฉันนะฉันจะไปทำร้ายเธอลงได้ยังไง!"เมื่อได้ยินเช่นนั้น ความเย็นเยือกในดวงตาของฮั่วหยุนถิงก็ฉายออกมา เขาพูดด้วยเสียงหนักแน่นว่า: "เรื่องนี้พี่ได้ตรวจสอบอย่างละเอียดแล้ว ดูเหมือนว่าคนทำคือไป๋เสวียหนิง ถ้าสืบต่อก็ไม่ได้แปลว่าจะไม่เจอเบาะแสเพิ่ม พี่ให้โอกาสเธอครั้งสุดท้าย ตกลงเธอเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ไหม?!"น้ำเสียงเย็นชาที่ฮั่วหยุนถิงทำให้ฉือซวนตกใจ เธอเงียบไปสักพักก่อนจะพูดออกมา: "ใช่ ฉันเป็นคนทำ เพราะฉันทนเห็นพี่อยู่กับเธอไม่ไหว ทั้งที่คนที่ควรอยู่ข้างพี่คือฉัน!"ฉันอิจฉาเธอ ฉันอิจฉาเธอจนแทบบ้า! เพราะงั้นฉันเลยทำเรื่องแบบน้ันไง! พี่คิดว่าฉันมันน่าขันดีใช่ไหมล่ะ?!"ฮั่วหยุนถิงเม้มริมฝีปากแน่น สีหน้าเย็นชา พูดด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าวว่า: "ครั้งนี้ถือว่าเตือน อย่ามาเล่นละครน่าเบื่อแบบนี้อีก พี่ไม่อยากทำให้เธอต้องทำลายเรื่องดีๆที่พี่เคยทำให้เธอ!"หลังวางสายโทรศัพท์ ในใจของฮั่วหยุนถิงก็เต็มไปด้วยความหงุดหงิดดูท่าต้องรีบซื้อบริษัทเอ็มวายให้เร็วที่สุด หลังยกบริษัทเอ็มวายให้ฉือซวนแล้ว เขาจะไม่ให้
ทันทีที่เหลียงเต๋อชางพูดจบ ผู้ถือหุ้นหลายคนก็เดินเข้าร่วมแจมด้วย"ใช่ ทางฝั่งผมด้วย งานยุ่งเหยิงไปหมดแล้ว! เดิมทีทำงานกันสามคน ตอนนี้หนักที่คนคนเดียว ใครจะไปทนไหว?!""ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป ผมว่าบริษัทเอ็มวายคงต้องปิดกิจการ!""ตรงๆนะครับ ถึงบริษัทเอ็มวายประธานฉือจะก่อตั้งมาด้วยมือคุณเองคนเดียว แต่หลายปีมานี้คุณไม่ได้อยู่บริษัทเลย ถ้ามีความคิดเปลี่ยนอะไรก็ควรจะทีละขั้นไป ไม่ใช่มาเปลี่ยนตู้มเดียวแบบนี้ !"ฉือมู่เจินไม่ตอบอะไร เธอมองเสิ่นเถียนด้วยสีหน้าเฉยๆ:"เอางานที่แผนกประธานเหลียงดูแลอยู่ตอนนี้มาให้ฉันดูที"สีหน้าของเหลียงเต๋อชางเปลี่ยนไป"ประธานฉือ นี่คุณหมายความว่ายังไง คุณไม่เชื่อใจผมเหรอ?!"ฉือมู่เจินรับเอกสารจากเสิ่นเถียน เธอยิ้ม:"ประธานเหลียง ถ้าให้เทียบกับนิสัยคุณ ฉันเชื่อตัวเลขมากกว่า ยังไงตัวเลขมันก็ไม่โกหกฉันค่ะ""คุณ!"เหลียงเต๋อชางโกรธจนหน้าซีด ฉือมู่เจินกลับปิดเอกสารแล้วมองเขาด้วยสายตาเย็นชา"ดูจากเอกสารแล้ว แผนกที่ประธานเหลียงรับผิดชอบนั้นมีห้าโปรเจค สามโปรเจคในนี้เดดไลน์ครึ่งปีหลัง ส่วนอีกสองเริ่มโปรเจคตั้งแต่ปีที่แล้ว ตอนนี้ก็ยังไม่เสร็จ คุณไม่ควรต้องมาหาฉันค่ะ
ตอนที่ได้รับข้อความของฉือซวน ฉือมู่เจินกําลังเลือกของขวัญครบรอบวันแต่งงานรอบสามปีให้ฮั่วหยุนถิงภาพถ่ายล่อแหลมสิบกว่ารูปที่ได้ปรากฏขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัวนั้น ก็ทำให้ฉือมู่เจินอึ้ง และหน้าของเธอก็ซีดเลยทันทีตัวเอกของภาพ คือฮั่วหยุนถิงและฉือซวนน้องสาวฝาแฝดของเธอ!ทั้งสองคนกําลังกอดกัน หรือจูบกัน……สิ่งเดียวที่เหมือนกันคือ ทุกภาพดวงตาของฮั่วหยุนถิงที่มองไปที่ฉือซวนนั้นเต็มไปด้วยความเอาใจใส่แม้ได้อยู่ข้างเขาอย่างเงียบ ๆ มาสามปี แต่เขาก็ไม่เคยมองตัวเองด้วยสายตาแบบนี้มาก่อน"คุ้นไหม?"ฉือมู่เจินนวดขมับที่กำลังปวด ฉากในภาพนั้นคุ้นเคยเล็กน้อย แต่ก่อนที่เธอจะนึกได้ ฉือซวนก็ส่งข้อความมาต่อ"พี่ นี่คือเรื่อนหอของพี่ พี่จําไม่ได้เหรอ?""อ่อ……ฉันเกือบลืมไปเลย นอกจากคืนแต่งงานแล้ว พี่หยุนถิงดูเหมือนจะไม่ให้พี่ก้าวเข้ามาที่นี่อีก พี่รู้ไหมว่าทําไม?""เพราะว่า เรือนหอนี้เป็นห้องที่พี่หยุนถิงเตรียมไว้ให้ฉัน ถ้าไม่ใช่เพราะการตัดสินใจของคุณย่าฮั่วในวันที่พวกพี่แต่งงาน ชาตินี้พี่ไม่มีวันมีเหยียบเข้ามาที่นี่แน่!"ทุกคําพูดของฉือซวนเป็นเหมือนหนามที่ทิ่มแทงใจของฉือมู่เจิน มือของเธอสั่นเล็กน้อยโดยไ
ฉือมู่เจินเลิกคิ้วเบาๆ นัยน์ตาเธอไม่แสดงอารมณ์เลยแม้แต่น้อย"ในเมื่อฉันเป็นคนโทรหาเธอก็พิสูจน์ได้แล้วนี่ว่าตัดสินใจได้แล้ว"เสิ่นเถียนยิ้มเบาๆเธอเอ่ยขึ้นขณะสตาร์ทรถ:"ฉันอยากให้เธอเตะฮั่วหยุนถิงนั่นออกไปนานแล้ว เธอทุ่มเทรักษาขาเขาไปตั้งเยอะ ไม่คิดว่าเขาจะยังพัวพันกับน้องสาวเธอที่อยู่ต่างประเทศ ช่างเป็นผู้ชายที่เลวจริงๆ ผู้ชายประสาอะไร เธอน่ะเหมาะกับทำงานหาเงินมากกว่า!"เห็นเธอยิ่งพูดยิ่งโมโห รถก็ขับเร็วขึ้นเรื่อย ฉือมู่เจินอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา"ใจเย็นๆก่อนเถอะ ฉันเพิ่งออกจากหลุมของการแต่งงานมาไม่ใช่ว่าอยากจะลงหลุมศพต่อนะ"เมื่อเห็นว่าเธอยังมีกะจิตกะใจพูดเล่นได้ เสิ่นเถียนก็ถอนหายใจออกมาอย่างสบายใจ ก่อนจะถามขึ้นว่า:"หลังจากนี้เธอคิดจะทำอะไรต่อเหรอ?"เดิมทีถ้าฉือมู่เจินไม่ติดต่อเธอมา เธอก็คิดไว้แล้วว่าอีกไม่นานจะไปหาฉือมู่เจินอยู่เหมือนกัน"ขอพักสักระยะแล้วค่อยว่ากัน ที่บริษัทเป็นยังไงบ้าง?"หลายปีที่ผ่านมาฉือมู่เจินทุ่มเททุกอย่างให้ฮั่วหยุนถิงหมด บริษัทเอ็มวายบริษัทเสื้อผ้าที่เธอสร้างมากับมือก็มอบให้ผู้ถือหุ้นดูแลแทน สามปีที่ผ่านมานี้นอกจากรับเงินปันผล เธอก็ไม่ยุ่งเรื่องอื่นเล
ฮั่วหยุนถิงหยุดชะงัก เขาเงียบไปสองสามวิก่อนจะเอ่ยปากว่า:"อืม นายโทรไปหาเธอที"พวกเขามาถึงซีแอตเทิลได้ไม่นาน ฉือซวนก็ตามมา ปากว่ามาเที่ยว แต่ทุกคนในสาขาซีแอตเทิลต่างก็รู้ว่าเธอน่ะตามฮั่วหยุนถิงมา"ครับ "เค่อหนิงจองตั่วเครื่องบินด้วยความรวดเร็ว หลังไปรับฉือซวนพวกเขาก็รีบไปที่สนามบินทันทีหลังจากนั่งเครื่องบินกว่าบินชั่วโมง ในที่สุดพวกเขาก็ถึงสนามบินหรงเฉิงอย่างราบรื่นตลอดสิบกว่าชั่วโมงนี้ เค่อหนิงเห็นฮั่วหยุนถิงเอาใจใส่ดูแลฉือซวนทุกอย่างหลังลงเครื่องพวกเขาก็เดินไปที่ฝั่งประตูสนามบินในช่วงเวลาที่คนเยอะนั้นฮั่วหยุนถิงจะคอยปกป้องดูแลฉือซวนโดยไม่รู้ตัวเมื่อก่อนฉือมู่เจินก็เคยเดินทางกับฮั่วหยุนถิงเหมือนกัน แต่ทั้งหมดจะเป็นเธอที่ดูแลฮั่วหยุนถิง ฮั่วหยุนถิงเอาแต่มีท่าทีเย็นชากับเธอถ้าเทียบกับฉือมู่เจินแล้ว ฉือซวนดูเป็นภรรยาฮั่วหยุนถิงมากกว่าอีก......ในขณะเดียวกัน ฉือมู่เจินก็เดินออกมาจากทางออกสนามบินอีกทางหนึ่งเธอใส่ชุดเดรสยาวคอวีสายเดี่ยว สวมแว่นกันแดด บนใบหน้านั่นมีรอยยิ้มจางๆ ดูจากท่าทีแล้วอารมณ์ดีเสิ่นเถียนมารอตรงประตูสนามบินตั้งแต่เช้า ทันทีที่เห็นฉือมู่เจินก็โบกไม้โ
เวลานี้ฉือมู่เจินเพิ่งเดินทางถึงวิลล่าพอดีประตูเปิดออกปรากฎให้เห็นซืออีเหิง แววตาเธอเปล่งประกายด้วยความประหลาดใจ"นายมาอยู่ที่นี่ได้ไง?"ซืออีเหิงยิ้มมุมปาก ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงอบอุ่น:"ไม่เจอกันนานนะ บังเอิญมีถ่ายโฆษณาที่หรงเฉิงพอดี ก็เลยแวะมานอนนี่สักคืน ไม่คิดว่าเธอจะมา ถ้าเธอไม่สบายใจ เดี๋ยวอีกสักฉันไปเอง"ก่อนแต่งงานกับฮั่วหยุนถิง ฉือมู่เจินเคยทำงานเบื้องหลังเป็นเอเจนซี่อยู่ช่วงหนึ่ง ซืออีเหิงก็คือศิลปินที่เธอพาเข้ามา และเขาก็เป็นคนที่ขยันคนหนึ่งเลยฉือมู่เจินชื่นชมในตัวเขามาก ทั้งสองนั้นเป็นเพื่อนทั้งครู หลังจากที่ฉือมู่เจินกับเขาเลิกทำงานด้วยกัน ฉือมู่เจินก็ช่วยหาเอเจนซี่ระดับชั้นนำให้เขาอีก หลายปีมานี้ซืออีเหิงนับวันยิ่งโด่งดังขึ้นเมื่อเธอรู้ข่าวครอบครัวของซืออีเหิงกำลังประสบปัญหา เธอได้เอากุญแจวิลล่าหลังนี้ให้กับซืออีเหิงพร้อมบอกว่า เขาอยากจะมาพักเมื่อไหร่ก็ได้ตามสบายภายหลังจากที่ฉือมู่เจินแต่งงานกับฮั่วหยุนถิง เธอก็อุทิศตนเพื่อรักษาขาของฮั่วหยุนถิง จนลืมเรื่องนี้ไปเสียงั้น"ไม่เป็นไรตอนนี้ก็มืดแล้ว นายตอนนี้ก็เป็นที่สนอกสนใจของคนอื่นอยู่ ถ้าไปอยู่โรงแรมคงจะไม่สะดวก