เค่อหนิงก้มศีรษะลง สีหน้าเขาเต็มไปด้วยรู้สึกผิด"ประธานฮั่วครับ ยังสืบอยู่ครับ แต่ว่าคุณหนูฉือหลังจากไปจากวิลล่าได้ไม่นานก็หายไปจากที่จับตาดู เพราะงั้นการจะเริ่มสิบยากมากครับ ตอนนี้ยังสืบไม่เจอว่าอยู่ที่ไหนครับ""สืบต่อไป!"หลังจากเค่อหนิงจากไป ความหงุดงหิดในใจของอั่วหยุนถิงก็เพิ่มทวีขึ้น เอกสารในมืออ่านยังไงก็ไม่เข้าหัว......คืนนั้นฉือมู่เจินกลับถึงวิลล่าทางตอนเหนือของเมืองก็เป็นเวลาตีสองแล้วเธอฝืนพยุงร่างกายเปิดประตู ทันทีที่เดินเข้าบ้านก็พยุงร่างกายต่อไม่ไหวจะล้มลงกับพื้นทันใดนั้นก็มีแขนคว้าเอวเธอไว้ ฉือมู่เจินคิดจะลืมตาดูว่าเป็นใคร ทว่าเปลือกตานั้นไม่อาจลืมตาขึ้นได้เลยวินาทีก่อนจะหมดสตินั้น เธอได้ยินเสียงถอนหายใจเบาๆที่ฟังแทบไม่ได้ยินเมื่อตื่นขึ้นมา ฉือมู่เจินก็เห็นว่าบาดแผลบนตัวเธอนั้นถูกพันแผลแล้วเรียบร้อย เธอฝืนลุกขึ้น คลุมตัวเองด้วยชุดนอนก่อนจะพยุงตัวเองเดินออกมาทันทีที่เดินลงมาถึงข้างล่าง ร่างกายเธอก็เหงื่อแตกเต็มตัวเธอได้ยินเสียงดังมาจากในครัว กำลังคิดว่าจะเข้าไปดูก็เห็นซืออีเหิงเดินออกมาจากห้องครัวพร้อมถือชามซุปไก่เมื่อเห็นฉือมู่เจิน สายตาเขาก็เต็มไปด้วยคว
ฉือมู่เจินขมวดคิ้ว สีหน้าเธอเริ่มหงุดหงิด"ฮั่วหยุนถิง คุณเลิกมาวุ่นวายกับฉันทีได้ไหม ตอนนั้นฉันผิดที่แต่งงานกับคุณโดยที่คุณไม่เต็มใจ แต่ฉันก็ช่วยรักษาขาคุณแล้ว สามปีที่ผ่านมาฉันไม่เคยทำอะไรผิดต่อคุณเลย ตอนนี้ฉันอยากออกมามีชีวิตของตัวเอง คงไม่เกินไปหรอกใช่ไหม?"ม่านตาของฮั่วหยุนถิงหดลงเล็กน้อย หลายวินาทีต่อมาเขากัดฟัน:"ผมบอกแล้วไงว่าเรื่องหย่าน่ะเป็นไปไม่ได้!ผมสืบมาเรียบร้อยแล้ว ช่วงวันก่อนนั้นคุณไม่ได้อยู่กับซืออีเหิง ตกลงแล้วคุณไปไหนมา แล้วสองร้อยห้าสิบล้านนั่นมายังไง ถ้าไม่อยากให้ผมสืบต่อก็กลับวิลล่ากับผมเดี๋ยวนี้!"ฉือมู่เจินกระชับมือเธอแน่นไม่รู้ตัว สายตาฉายแววขัดขืน หลังจากนนั้นก็สะบัดหลุดจากมือเขาแล้วขึ้นรถด้วยตัวเธอเองระหว่างทางกลับ ทั้งสองต่างไม่พูดอะไรในใจของฉือมู่เจินนั้นหงุดหงิดจนหาที่เปรียบไม่ได้ เธอไม่รู้ว่าฮั่วหยุนถิงเป็นบ้าอะไรกันแน่เธอตกลงที่จะหย่า เขาก็ควรจะรีบไปหย่ากับเธอไม่ใช่เหรอ!ตอนนี้กลับพันกันยุ่งเหยิงไปหมด จนต่างฝ่ายต่างไม่มีความสุขกลับมาถึงวิลล่าฉือมู่เจินก็เดินตรงขึ้นข้างบนทันที จังหวะที่เพิ่งถึงตรงบันได เสียงของฮั่วหยุนถิงก็ดังมาจากข้างหลัง"วั
เธอกัดริมฝีปากล่างและพูดอย่างเย็นชา:"คุณไม่กลัวฉือซวนรู้เหรอ?!"ฮั่วหยุนถิงจ้องนัยน์ตาที่เต็มไปด้วยความเย็นชาของฉือมู่เจิน เขาพูดราวเน้นย้ำ:"ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณนี่ คุณแค่ตอบผมมาว่าคุณสมยอมหรือไม่สมยอม"ฉือมู่เจินหายใจเข้าลึกๆ แล้วถอยหลังมามองเขาอย่างเย็นชา"ฉันขอปฏิเสธ!"ฮั่วหยุนถิงยิ้ม"ดูท่าคุณก็ไม่ได้อยากจะหย่าขนาดนั้น"ฉือมู่เจินตอนนี้ใจเย็นลงแล้ว เธอมองฮั่วหยุนถิงด้วยสีหน้าเรียบเฉย:"ฉันไม่จำเป็นต้องใช้วิธีนี้เพื่อหย่า คุณต้องเห็นด้วยสักวันแน่"เห็นความมั่นใจในแววตาเธอ ในใจของฮั่วหยุนถิงก็เต็มไปด้วยความหงุดหงิด เขาพูดอย่างเยือกเย็นว่า:"ไปให้พ้น!"ฉือมู่เจินหันหลังเดินจากไป เดินออกมาจากห้องนอนหลัก สายตาเย็นชาด้านหลังก็หายไปไม่นานก็ถึงวันเกิดเฒ่าแก่ฉือ เฒ่าแก่ฉือก็โทรหาฉือเจิ้นแต่เช้าตรู่"วันนี้ประธานฮั่วจะมาไหม?"แม้ว่าอั่วหยุนถิงจะเป็นสามีของฉือมู่เจินแต่ทุกคนในตระกูลฉือก็ไม่กล้าทำเมินเฉยเขา หลังจากที่ทุกฝ่ายยอมเห็นด้วยที่จะทำงานร่วมกับตระกูลฉือเพราะเห็นแก่ความสัมพันธ์ของตระกูลฉือกับฮั่วหยุนถิงถ้าวันนี้ฮั่วหยุนถิงมางานวันเกิดเฒ่าแก่ฉือได้ล่ะก็ตระกูลฉือต้องได้หน้าแน่ๆ
"ซวนซวน เธอต้องดูแลพี่สาวฝาแฝดเธอหน่อย หลายปีมานี้เธอไม่อยู่ในประเทศ ไม่แน่ว่าอาจจะทำอะไรลับหลังไปหลายเรื่อง ระวังเธอแย่งฮั่วหยุนถิงไปแล้วกัน"เรื่องที่ฉือมู่เจินแต่งกับฮั่วหยุนถิง ไป๋เสวียหนิงยังไม่รู้ เธอคิดว่าฉือซวนกับฮั่วหยุนถิงคบกันมาตลอด เจอแบบนี้ครั้งแรกเธอจึงคิดว่าฉือมู่เจินแอบอ่อยฮั่วหยุนถิงลับหลังฉือซวนฉือซวนฝืนยิ้ม เธอพูดอย่างไร้เดียงสา:"เสวียหนิงวิดีโอนี้ไม่ได้สื่อถึงอะไรเลยสักหน่อย อาจจะเพราะพี่ฉันเกิดเรื่องอะไรที่บาร์ หยุนถิงเห็นแก่หน้าฉันก็เลยช่วยน่ะ"ไป๋เสวียหนิงส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้"ซวนซวน เธอน่ะไม่รุ้อะไร วันนั้นเธอเรียกโฮสตืด้วยนะที่บาร์อะ แถมยังป้อนผลไม้ให้โฮสต์อีก ฉันเห็นภาพนั้นแล้วรู้สึกไม่น่ามองอย่างมาก เธอคงไม่คิดว่าพี่เธอจะเป็นสาวพรหมจรรย์อยู่หรอกใช่ไหม?!"ฉือซวนเงียบไปสองสามวินาที เธอเม้มริมฝีปาก:"เสวียหนิง เธอบอกพี่ฉันเรียกโฮสต์นี่มีหลักฐานเหรอ""ฉันไม่ได้ถ่ายไว้แต่กล้องวงจรปิดร้านต้องบันทึกไว้แน่!"เมื่อเห็นฉือซวนไม่พูดอะไร จู่ๆไป๋เสวียหนิงก็มีข้อเสนอขึ้นมา:"ซวนซวน ฉันมีความคิดดีๆแล้ว!"ฉือซวนมองไปที่ไป๋เสวียหนิงด้วยใบหน้างงงวย"วิธีอะไร? "ไป๋เสวีย
ฉือมู่เจินขมวดคิ้ว"คุณไม่ได้บอกอีกฝ่ายเหรอว่าชุดนั้นไม่ขาย?"ชุดนั้นคือเธอออกแบบเพื่อจะมอบให้เสิ่นเถียนเป็นของขวัญวันเกิด แต่แค่ช่วงนี้ยุ่งมากจนไม่มีเวลาไปเอา"พูดไปแล้วค่ะ แต่อีกฝ่ายคือไป๋เสวียหนิง คุณหนูตระกูลไป๋ เธอยืนกรานจะซื้อให้ได้ บอกว่าจ่ายสิบเท่าก็ยอม ฉันกลัวจะเผลอไปล่วงเกินตระกูลไป๋เข้า ตอนนี้ก็เลยไม่รู้จะทำยังไงครับ"ฉือมู่เจินเงียบไปสองวินาที ก่อนจะพูดด้วยท่าทีนิ่งๆ:"คุณบอกเธอไปว่านอกจากชุดนั้นเธอจะเลือกชุดไหนในร้านก็ได้ ให้เธอไป""ค่ะ ฉันรู้แล้วว่าต้องทำยังไง"หลังจากวางสายเฉินเวินยาก็เดินไปหาฉือซวนกับไป๋เสวียหนิงพร้อมสีหน้าขอโทษ"คุณหนูไป๋ ต้องขอโทษด้วยเถ้าแก่ไม่ยินยอมจะขายชุดเผลอใจนั่น เพื่อเป็นการขอโทษ ชุดอื่นๆในร้านนี้ขอแค่คุณหนูอยากได้ เรายินดีมอบให้คุณหนูค่ะ"แววตาของไป๋เสวียหนิงฉายแววตื่นเต้น ชุดของร้านเจเอ็มนั้นออกแบบใหม่หมด แทบทุกตัวราคาอยู่หลักแสน ก่อนจะชอบชุดเผลอใจนั้นเธอเองก็ถูกใจหลายชุดเธอกวาดสายตากระโปรงที่เธอเคยชอบ แม้ว่ามันสวยมาก แต่เมื่อเทียบกับชุดเผลอใจแล้วก็ไม่รู้สึกโดดเด่นนักสายตาจับไปที่ชุดเผลอใจนั่น เธอนึกภาพตัวเองใส่ไปงานเลี้ยงออกเลยว่าจะต้อ
ฉือมู่เจินไม่มีทางเลือก"เมื่อก่อนฉันออกแบบชุดๆหนึ่งว่าจะให้เธอเป็นของขวัญวันเกิดถูกพนักงานคนใหม่เอามาแขวน ผลคือมีคนชอบอยากซื้อ"เสิ่นเถียนเลิกคิ้ว ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น"ชุดแบบไหนน่ะ! คืนนี้ไปงานเลี้ยงพอดี เธอบอกเวินยาทีว่าให้ส่งมาให้ฉัน ฉันจะใส่ไปร่วมงานเลี้ยง!""ยังห่างจากวันเกิดเธออีกตั้งครึ่งเดือน รอถึงวันเกิดเธอค่อยว่ากัน รีบไปทำงานเถอะ ฉันอยากดูเอกสารแล้ว"เสิ่นเถียนตื้อฉือมู่เจินอยู่ครู่หนึ่งทว่าไม่สำเร็จ ทำได้แค่ไปทำงานแล้วล่ะตกเย็น ขณะกำลังจะเลิกงานฉือมู่เจินก็ได้รับสายจากฮั่วหยุนถิง"ฉันอยู่ข้างล่างตึกบริษัทเอ็มวาย คุณเลิกงานกี่โมง"เสียงของฮั่วหยุนถิงเย็นชา เห็นได้ชัดว่ายังโกรธเรื่องเมื่อคืนอยู่"ห้าโมง อีกประมาณสิบนาที แต่ถ้าคุณรีบล่ะก็ผมไปเลยก็ได้""ไม่ต้อง ฉันจะรอ"ทันทีที่ถึงเวลาเลิกงาน ฉือมู่เจินก็วางงานในมือแล้วลงมาข้างล่างเดินออกมาจากบริษัทเอ็มวาย ก็เห็นรถมายบัคสีดำจอดอยู่ข้างๆเธอเดินไปที่ด้านข้างของรถ ทันทีที่เปิดประตูขึ้นไปนั่ง ร่างกายก็สัมผัสได้ถึงบรรยากาศเย็นเยือกฮั่วหยุนถิงจ้องเอกสารในมือ เขาบอกให้คนขับขับรถโดยไม่เงยหน้าขึ้นมาด้ว
สีหน้าของฉือซวนเขินอายเล็กน้อย เธอพยักหน้า:"ค่ะ"เธอเดินไปที่ด้านข้างของรถเขา ก่อนตะโกนอย่างอ่อนโยนว่า"พี่หยุนถิงทุกคนกําลังรอพี่อยู่นะ ลงมาได้แล้วค่ะ"ภายในรถฉือมู่เจินกับฮั่วหยุนถิงหันหน้าเข้าหากัน จู่ๆได้ยินเสียงนุ่มๆที่ฉือซวนพยายามทำอย่างสุดความสามารถ ฉือมู่เจินอดไม่ไหวตัวสั่นพร้อมกับขนลุกทั่วตัวเธอมองไปที่ฮั่วหยุนถิงด้วยรอยยิ้ม จงใจใช้น้ำเสียงตามฉือซวน:"พี่หยุนถิง น้องสาวที่รักของพี่มองอยู่นอกรถนะ พี่ปล่อยฉันไปได้ไหมคะ"ฮั่วหยุนถิงขมวดคิ้วแน่น กัดฟัน:"ฉือมู่เจิน พูดดีๆ!"ฉือมู่เจินกลอกตา"คุณจับมือฉันแบบนี้ จะให้ฉันพูดดีๆได้ไง"หลังจากเงียบไปสองสามวินาที ฮั่วหยุนถิงก็ปล่อยมือของเธอด้วยสีหน้าเฉยเมยและพูดอย่างเย็นชา:"ลงจากรถเถอะ"ฉือมู่เจินผลักประตูลงจากรถทันที ฉือซวนที่รออยู่ด้านนอกด้วยใบหน้าเขินอายและคาดหวัง เมื่อเห็นฉือมู่เจินก็เปลี่ยนเป็นชักสีหน้าแบบสุดๆ"ฉือมู่เฉิน ทำไมเป็นพี่ได้?!"เธอมาพร้อมฮั่วหยุนถิงจริงด้วย!อีตัวดี!ฉือมู่เจินเลิกคิ้วพร้อมกับยิ้ม:"น้องสาว แค่เห็นพี่ก็ตกใจแบบนี้เลยเหรอ "ไม่ใช่แค่ฉือซวน แต่ทุกคนในตระฉือเมื่อเห็นหน้าฉือมู่เจินสีหน้าก็เปลี่ยน โดย
แน่นอนว่าสายตาที่แขกมองไปที่ฉือมู่เจินนั้นมีอะไรผิดปกติอยู่แล้วแต่ฉือมู่เจินไม่สนใจ เธอถึงขนาดหันศีรษะไปมองอั่วหยุนถิง"คนรักคุณเสียใจแล้วนะยังไม่รีบไปโอ๋อีกเหรอ?"ฮั่วหยุนถิงขมวดคิ้วและพูดอย่างเย็นชา:"ฉือมู่เจิน อย่าให้มากเกินไป!"ฉือมู่เจินยิ้มและไม่พูดอะไรต่อ ตระกูลฉือรู้เรื่องที่ฉือมุ่เจินแต่งงานกับฮั่วหยุนถิง แต่สวีโร่วยังคงรู้สึกว่าฉือมู่เจินเป็นคนที่ฉกฮั่วหยุนถิงไปจากฉือซวนเธอมองไปที่ฉือมู่เจินด้วยสีหน้าเย็นชาและพูดอย่างเย็นชา:"ทำตัวแบบนี้ต่อหน้าคนเยอะๆ รู้สึกยังไงบ้างล่ะ!"สำหรับสวีโร่วนั้นตอนฉือมู่เฉินกลับมาบ้านครั้งแรกเธอยังรู้สึกฝันเฟื่องอยู่บ้าง แต่เพราะว่าความลำเอียงของสวีโร่ว ตอนนี้ฉือมู่เฉินก็ปฏิบัติกับเธอราวกับเป็นแค่คนแปลกหน้าคนหนึ่ง"ฮั่วหยุนถิงเป็นคนมาดึงหนูแม่ไปบอกเขาดีกว่าเรื่องนี้ มันไม่มีประโยชน์ที่จะบอกหนู"เมื่อเห็นว่าฉือมู่เจินไม่สนใจแถมกล้าเถียงเธอ สวีโร่วก็โกรธมากขึ้นและพูดอย่างเย็นชา:"ฉือมู่เจิน แกพูดอะไร ยังเห็นฉันเป็นแม่อยู่ไหมในสายตา!"เฒ่าแก่ฉือที่อยู่ด้านข้างขมวดคิ้ว เขาพูดด้วยเสียงโกรธ"พอแล้ว! พูดให้มันน้อยๆหน่อย คนนอกมองแล้วมันตลก!"ฉือเจ