3
ความไกลห่าง
ไม่นานภาคินก็เข้าไปอยู่บ้านหลังใหม่เต็มตัว ความเป็นสัดเป็นส่วนตัว ไม่มีใครมายุ่งยากกับชีวิตเขา ทำให้ชายหนุ่มเรียกหายิหวาอยู่บ่อยๆ
“คอยฉันนะ เรียนจบกลับมาฉันจะบอกเรื่องนี้กับคุณแม่คุณพ่อ”
ภาคินเขาสัญญากับลูกสาวคนใช้ ที่เขารู้สึกทั้งรักทั้งผูกพัน ชายหนุ่มกลัวหญิงสาวไม่เชื่อใจ และจะมอบหัวใจให้คนอื่นไปเสีย เมื่อเขาไม่อยู่
“ยิหวาจะคอยคุณค่ะ แต่ลูกคนใช้ไม่กล้าหวังอะไรมากไปกว่าการที่คุณจะไม่ลืม ว่ายิหวารักคุณมากแค่ไหน”
ความเจียมตัว ทำให้สาวน้อยไม่กล้าหวังที่จะเป็นอะไรมากกว่า เมียเก็บที่มีเพียงเขาและเธอรู้เท่านั้น
“เธอดูถูกความรู้สึกของฉันมากไปแล้ว ถ้าฉันมองเธอไร้ค่า คงไม่รักเธอแบบนี้ เธอคือเมียฉันจำไว้นะ”
มือหนาชายคางแหลม ของคนที่เขาเพิ่งเรียกว่าเมีย ปาหยักหนาค่อยๆก้มลงไปทาบทับ ก่อนที่ปากเล็กจะอ้ารับลิ้นสาก ที่กำลังต้องการเข้าไปสาละวนในปากเล็กของเธอ
เตียงนอนขนาดหกฟุต ที่กว้างเกินไปสำหรับนอนคนเดียว ยิหวาจึงถูกเรียกมาหาเกือบทุกคืน โดยที่ไม่มีใครในบ้านสงสัย เพราะทั้งคู่สนิทสนมกันตั้งแต่เด็กๆ
“ทำอะไรคะ”
หญิงสาวตกใจ เมื่อภาคินจับตัวเธอกับเขา สลับหัวท้ายกัน
“ถอดกางเกงให้หน่อย” ภาคินลูบตัวหญิงสาวเพื่อให้ทำตามที่เขาพูด
เมื่อกางเกงถูกถอดออก เขาไม่ใส่กางเกงอีกชั้น มังกรใหญ่ที่ซ่อนอยู่ภายใน เจอแสงไฟยิ่งทำให้ภาพชัดเจน
“ตกใจเหรอ”
ชายหนุ่มถามเมื่อเห็นหญิงสาวทำท่าสะดุ้ง เมื่อสายตาของเธอกำลังจ้องมองความเป็นชายของเขา
“ยิหวาไม่เคยเห็นชัดๆแบบนี้ ปกติเราปิดไฟกัน”
ถึงแม้ทั้งคู่จะมีอะไรกันหลายครั้งแล้ว แต่ไม่เคยมีสักครั้ง ที่หญิงสาวได้เห็นสิ่งตรงหน้าชัดเจนแบบนี้
“เอามือจับเล่นดู มันเป็นของเธอ”
มือเล็กทำตามอย่างว่าง่าย ตอนนี้หน้าของเธออยู่ใกล้กับน้องชายของเขา ส่วนหน้าของเขาอยู่ใกล้กลับกลีบสีชมพูของเธอ
“โอ๊ย.....อือ...”
ยิหวาครางออกมาด้วยความเสียวและตกใจ เมื่อชายหนุ่มกำลังใช้นิ้วเรียวใหญ่ของเขา เข้าไปเล่นในถ้ำน้อยของเธอ
“เคยกินไอติมไหม ที่อยู่ในมือเธอมันก็ไม่ต่างจากไอติม ไม่เชื่อลองเลียดูสิ แต่ถ้าอดใจไม่ไหวจะอมหรือดูดก็ได้นะ”
อารมณ์ที่กำลังฟุ้งซ่านไปหนทางแห่งสวรรค์ ทำให้หญิงสาวกล้าทำทุกอย่าง เพื่อให้ชายหนุ่มที่เธอรักมีความสุขที่สุด
เมื่อมังกรแข็งตระหง่านได้ที่ กลีบชมพูหวานของหญิงสาวก็ชุ่มชื้นไปด้วยน้ำแห่งรัก
ภาคินก็สวมบทบาทผู้นำ ร่างใหญ่คร่อมหญิงสาวที่ยังอยู่ในอารมณ์ที่เนื้อตัวเบาหวิว
สองมือเล็กลูบไล้หลังกว้าง ก่อนที่จะเลื่อนลงมาที่แผงอก บีบเล่นหัวนม ก่อนที่จะจิกเล็บลงที่แขนทั้งสองข้างของเขา เมื่อถูกท่อนแข็งบุกรุกเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย
“อ่า......อ๋อย......”
ความเจ็บที่เคยมีในครั้งแรก ตอนนี้มันหายไปจนสิ้น มีแต่ความเสียวซ่าน จนหายใจผิดจังหวะ เมื่อภาคินขยับสะโพกไปมา
เมื่อพายุแห่งอารมณ์ถาโถมในหัวใจของทั้งคู่ ร่างกายต่างก็ทำหน้าที่ ทั้งรุกและรับสลับกันไป ไม่นาน เส้นทางแห่งความสุขก็มาถึงจุดเสร็จ สำเร็จอย่างใจหวัง เสียงหายใจหอบเหนื่อยของภาคิน ดังออกมาจากอกกว้างของเขา จนยิหวากลัวว่าเขาจะเป็นอะไร
“ทำไมคุณหายใจแรงแบบนั้นคะ”
หญิงสาวเอามือเล็กวางทาบลงบนหัวใจของเจ้านาย และรู้สึกว่ามันเต้นดังมาก
“มันทั้งเสียว ทั้งเหนื่อย จะไม่ให้หัวใจเต้นแรงได้ยังไงกัน ก็เธอมันไม่ใช่เด็กสาวธรรมดา”
ชายหนุ่มมองหน้าอมยิ้ม สบตาหญิงสาวที่นอนอยู่ในอ้อมแขนเขาอย่างเปลือยเปล่า
“คุณภาคินหมายความว่าอะไรคะ ที่ว่ายิหวา เป็นเด็กสาวไม่ธรรมดา” คนถามไม่เข้าใจเลยหน้าตาบูดบึ้ง
“ก็เธอมันทั้งหอม ทั้งหวาน แถมฟิตจนฉันแทบจะรั้งอารมณ์ไว้ไม่ไหว กลัวจะเสร็จก่อนเธอ”
“บ้า ทะลึ่ง”
เมื่อฟังคำอธิบาย หญิงสาวถึงกลับอายหน้าแดง รีบดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดบังตัวไว้
“อีกสองวันฉันจะเดินทางแล้วนะ คืนนี้เราคงได้เจอกันเป็นคืนสุดท้าย ฉันอยากกอดเธอไว้แบบนี้ทั้งคืนเลย”
อีกสองวัน ชายหนุ่มก็ต้องเดินทางแล้ว เขากลัวความไกล จะมาทำให้หญิงสาวเปลี่ยนใจไปจากเขา
“รีบเรียนให้จบเร็วๆนะคะ ยิหวาจะรอคุณอยู่ที่นี่ ตรงนี้ไม่ไปไหน แต่ถ้าคุณเจอใคร ไม่ต้องเป็นกังวลกับผู้หญิงอย่างฉันนะคะ ฉันยินดีที่จะเห็นคุณมีความสุข”
“จำไว้นะ ไม่ว่าเธอจะคิดว่าเธอเป็นใคร แต่สำหรับฉันเธอคือเมีย”
ภาคินดึงหญิงสาวมากอดไว้ เหมือนกลัวเธอจะหายไปไหน เพราะเขารู้ ว่าครั้งนี้อาจจะเป็นครั้งสุดท้าย เวลาและความไกล มักทำให้หัวใจเปลี่ยนแปลง
“ภาคินสวัสดีร่ำลาทุกคนในบ้านซะสิลูก อีกนานกว่าจะได้กลับมา”
วันเดินทางก็มาถึง ฐานิตาให้ลูกชายบอกลาป้าช้อยและดาริน เพราะทั้งคู่ก็ช่วยดูแลภาคินมาตั้งแต่เด็กๆ
“ดูแลตัวเองดีๆนะยิหวา”
ชายหนุ่มหันไปสบตาหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างหลังป้าช้อย เขาอยากจะเข้าไปกอดเธอ แต่ความเป็นจริงเขาก็ไม่สามารถทำได้
“กลับมา อาจจะเจอยิหวาแต่งงานแล้วก็ได้นะ ยิ่งสวยแบบนี้ หนุ่มคงจองตัวกันเป็นแถว”
ฐานิตาพูดแทงใจดำ ก่อนที่จะดึงมือลูกชาย ให้เตรียมตัวขึ้นรถ
“ภาคินลูกต้องไปอยู่คนเดียว ไปเริ่มต้นใหม่ที่นู่น อะไรที่มันอยู่ที่นี่ก็ทิ้งมันไว้ที่นี่ ตั้งใจเรียนให้จบ แล้วแม่กับพ่อจะไปหาที่นู่นนะลูก”
ชายหนุ่มได้ยินคำพูดของมารดา เขารู้สึกใจหายอย่างบอกไม่ถูก ตั้งแต่ที่บอกว่า เขากลับมาอาจจะเจอว่ายิหวาแต่งงานแล้ว หรือที่บอกให้เขาไปเริ่มต้นใหม่ ภาคินกลัว กลัวว่าเขาจะต้องเสียหญิงสาวไป
เมื่อรถยนต์ขับออกจากรั้วประตูบ้านไป ยิหวาแทบจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่ไหว
“แม่คะ หนูขอไปดูบ้านนู้นนะคะ เพื่อคุณภาคินจะลืมอะไร”
ไม่รอคำตอบจากมารดา หญิงสาววิ่งไปยังบ้านของชายหนุ่ม เธอมองไปรอบๆ ไม่มีเขาอยู่อีกแล้ว ต่อไปนี้โลกของเธอจะไม่มีคนที่คอยบอกว่ารักเธออีกแล้ว
“ฉันจะรอคุณ และจะรักคุณคนเดียวตลอดไป”
น้ำตาแห่งความคิดถึง ไหลออกมาอาบแก้ม หญิงสาว เธอรู้สึกเหมือนใจจะขาด เธอได้แต่ยืนพูดกับรูปถ่ายของเจ้าของบ้านที่ติดอยู่บนฝาผนังเท่านั้น
4 คิดถึงและรอคอย เกือบเดือนแล้วที่ภาคินเดินทางไปเรียนต่อต่างประเทศ ไม่มีวันไหนที่ยิหวาไม่คิดถึงเขา ยังโชคดีที่การติดต่อสื่อสาร ในสมัยนี้ทำได้ง่าย ทุกวันภาคินจะโทรไลน์มาหายิหวา บอกเล่าว่าแต่ละวันเขาทำอะไรบ้าง “วันนี้ที่เมืองไทยฝนตกด้วยค่ะ ที่อเมริกาอากาศเป็นอย่างไรบ้างคะ” ยิหวามักจะแอบรับสาย ในที่ที่เธอคิดว่าจะไม่มีใครเห็นและได้ยิน “อากาศเย็นสบาย ไม่หนาวมากเกินไป แต่อยากให้เธอกอดจัง” ชายหนุ่มปากหวาน หยอดคำหวานให้คนที่รออยู่ทางนี้ ยิ้มได้ แม้มันจะเป็นแค่คำพูด ของคนที่อยู่ห่างไกลกัน “คิดถึงคุณจังค่ะ” ในใจมีคำมากมายที่อยากเล่า อยากบอก แต่มันพูดได้แค่คำว่าคิดถึงเท่านั้น “อดทนนะ นี่แค่เดือนเดียวเอง อีกตั้งนานกว่าเราจะได้กลับไปเจอกัน” ยิหวาสัญญากับคนไกลทุกวัน ว่าเธอจะรอเขา ไม่ยอมให้ชายใด มีโอกาสเข้ามาใกล้ทั้งตัวและหัวใจของเธอ หลายครั้งที่หญิงสาว อยากขอคำสัญญาจากอีกฝ่ายบ้าง แต่หัวใจและสมอง มันก็คอยเตือนเธอ ว่าเธอไม่มีสิทธิ์ “ยิหวาไปไหนมาลูก” ดาร
5วันที่รอคอย “เป็นไงกันบ้าง ทิ้งให้อยู่กันสามคนมาเสียหลายวัน” ฐานิตาทักทาย ทุกคนในบ้านที่พากันมานั่งรอเธอและสามีที่ห้องรับแขก “คิดถึงคุณท่านทั้งสอง ป้านอนไม่หลับเลย” ป้าช้อยพูดก่อนใคร เพราะหญิงวัยเกินครึ่งชีวิต นอนไม่หลับอย่างที่บอกจริงๆ เอาแต่เป็นห่วงคุณท่านทั้งสอง “ป้าช้อย ฉันกลับมาแล้ว คืนนี้นอนหลับให้สนิทเลยนะ พรุ่งนี้ฉันยอมให้ตื่นสายได้หนึ่งวัน” นายหญิงของบ้าน ส่งยิ้มอย่างใจดีให้ป้าช้อย แม่บ้านเก่าแก่ของบ้าน ที่อยู่กับฐานิตามาตั้งแต่เธอแต่งงานกับคณินใหม่ๆ “แยกย้ายกันไปนอนได้แล้ว พรุ่งนี้มีของฝากสำหรับทุกคน” เกือบเที่ยงคืนแล้ว กว่าที่ทั้งสองคนจะเดินทางมาถึง แต่ทุกคนในบ้านก็ตั้งตารอคอย “ยิหวา อย่าเพิ่งไป อยู่คุยกับฉันก่อน”นายหญิงของบ้านเรียกเด็กสาวที่ทำท่าเหมือนกำลังอยากได้ยินข้อความที่จะถูกฝากมาจากแดนไกล“ภาคินเขาฝากขอบคุณมานะสำหรับผ้าพันคอ”คนพูดเหมือนแค่เพียงเกริ่นเท่านั้น แต่จริงๆแล้วเธอกำลังจะพูดอะไรมากกว่านั้น“ยิหวา เธอเป็นเด็กที่น่ารัก เรียนเก่ง และเป็นเด็กดีมาตลอด เธอไม่เคยทำให้ฉันผ
6 ครั้งแรกในรอบสามปี “แม่คะ ยิหวาขอไม่ยกอาหารไปได้ไหมค่ะ รู้สึกไม่ค่อยสบายกลัวไปเดินทำหกทำหล่น” หญิงสาวรับหน้าที่จัดเตรียมแต่ไม่ของยกอาหารไปจัดวางที่โต๊ะ “เดี๋ยวแม่จัดการเอง จัดใส่จานใส่ชามให้เรียบร้อย แล้วไปกินยานอนเลย” ดารินเห็นหน้าของลูกสาวดูซีดเซียวเหมือนคนไม่มีเลือด เธอก็เชื่อว่ายิหวาคงไม่สบายจริงๆ “คิดถึงกับข้าวฝีมือป้าช้อยกับน้าดารินจังเลยครับ” ภาคินกลับมาคราวนี้รูปหล่อกว่าเดิมมาก และที่สำคัญดูพูดเก่งกว่าแต่เดิมมาก “คิดถึงก็กินเยอะนะคะ น้าทำแต่ของชอบคุณภาคินทั้งนั้น ป้าช้อยเองก็นั่งทำขนมบัวลอยตั้งแต่เช้า กลัวจะไม่ทันคุณภาคินมา” ดารินมีฝีมือด้านทำกับข้าว ส่วนป้าช้อยเองก็ถนัดเรื่องทำขนม “ตั้งแต่มาผมยังไม่เห็นยิหวาเลย ไม่อยู่เหรอครับ” เพ้ง! เมื่อสิ้นคำถามของลูกชาย ฐานิตาถึงกับทำช้อนหลุดจากมือ “คุณแม่เป็นอะไรหรือเปล่าครับ” ลูกชายถามเพราะตกใจเสียงช้อนกระทบจาน “เปล่าลูก กินข้าวกันเถอะ” ฐานิตาหันมาขยิบตาให้ดารินเดินเข้าครัวไป “น้าดารินครับ
บทที่14เธอคือส่วนเติมเต็ม เกือบสัปดาห์แล้วที่นาเดียร์มาเป็นสาวน้อยขวัญใจของบ้าน จากที่มาตอนแรกเอาแต่เกาะคนเลี้ยงไม่ยอมไปไหน แต่ตอนนี้ออกมาวิ่งเล่นเข้าห้องนั้นออกห้องนี้ โดยเฉพาะห้องคุณปู่ นาเดียร์ชอบมาฟังนินทานที่คุณปู่จ๋า หามาเล่าได้วันละหลายๆเรื่อง “คุณปู่ต้องขยันพยายามขยับตัวนะคะ จะได้ลุกมานั่งเล่านิทานให้หลานฟังได้” พยาบาลสาวพูดโน้มน้าวใจคนป่วย ที่ตอนนี้กลับมามีกำลังใจอีกครั้ง “หนูอยากให้คุณปู่จ๋านั่งได้” นาเดียร์เด็กน้อย อยากฟังนิทานแบบที่คนเล่านั่งเล่าบ้าง “แบบนี้กำลังใจคุณปู่มาเต็ม” ติณห์กลับมาจากทำงาน ทันได้ยินที่ลูกสาวให้กลังใจคนป่วย “พ่อจ๋า หนูอยากเล่นสระน้ำ พี่รัตน์กับแม่จ๋าบอกให้รอพ่อจ๋ากลับมาก่อน” เด็กน้อยขอให้เล่นน้ำก็ไม่มีใครยอมเพราะกลัวเธอจะไม่สบาย ช่วงนี้อากาศยิ่งแปรปรวนอยู่ “โอเค ไปเตรียมตัวเลย แต่ห้ามเล่นนานนะ ไปชวนแม่จ๋ามาเล่นด้วยนะครับ” ชายหนุ่มเป็นคนที่ตามใจนาเดียร์มากที่สุดในบ้าน “ปู่จ๋า หนูไปเล่นน้ำก่อนนะ” เด็กน้อยเดินไปใกล้หน้าคนป่วย ส่งยิ้มหวานให้ก่อนวิ่งออกไป “พ่
บทที่15ลูกอิจฉา เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ลลิลมาอยู่ที่บ้านหลังนี้ได้เกือบหกเดือนแล้ว ส่วนนาเดียร์ก็มาเป็นขวัญใจของทุกคนที่บ้านนี้ได้เกือบสามเดือนเช่นกัน สัปดาห์นี้ทั้งสัปดาห์ลูกสาวคนสวยต้องมานอนกับพ่อจ๋าและแม่จ๋าตลอด เพราะอากาศที่เปลี่ยนแปลง เด็กน้อยเป็นไข้ช่วงกลางคืนตลอด ติณห์เองก็เลยอยากให้ลลิลดูแลลูกสาวอย่างใกล้ชิด งานช่วงนี้ถึงแม้จะหนัก ทั้งงานบริษัท งานบ่อนที่ต้องจัดการเพราะใกล้จะปิดตัวอย่างถาวร และยังมีในเรื่องของการเปิดร้านอาหารที่กำลังจะเริ่มต้น ติณห์ยังต้องกลับมาดูแลลูกสาวที่เป็นไข้ เขาจะคอยตื่นขึ้นเพื่อมาวัดไข้และเช็ดตัวให้นาเดียร์ด้วยตัวเอง “คุณนอนเถอะค่ะ ลิลจัดการเรื่องลูกเอง ทำงานเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ยังจะมานอนน้อยอีก” หญิงสาวเป็นห่วงชายหนุ่มที่นอนหลับๆตื่นๆ “มันนอนไม่หลับเอง พอจะหลับมันก็กังวลขึ้นมาต้องลุกมาดูลูก” ชายหนุ่มอธิบาย ค่ำคืนแห่งการดูแลลูกสาว ที่ป่วยเป็นไข้อยู่ทุกคืนได้ผ่านพ้นไป ชายหนุ่มได้กลับมานอนเต็มตาอีกครั้ง นาเดียร์เองก็กลับไปนอนกับพี่เลี้ยงเหมือนเดิม “ทำไมเดี๋ยวนี้คุณดูหน้าซ
บทที่16อารมณ์ที่แปรปรวน “เดี๋ยวไปเตรียมของนะ ผมจะพาคุณไปฝากท้องที่โรงพยาบาล” เมื่อเดินออกมาจากห้องของบิดา ชายหนุ่มก็บอกให้หญิงสาวไปเตรียมตัวไปหาหมอ “คุณไม่คิดจะพาลิลไปกินข้าวก่อนเหรอคะ” หญิงสาวหันมาทำตาค้อนใส่ ก่อนที่จะเดินกลับไปหยิบกระเป๋าที่เรือนหลังเล็ก ติณห์ยืนมองคนตัวเล็กที่กำลังเดินไปด้วยความงง นี่เขาทำอะไรผิด แค่ลืมพูดว่าไปกินข้าวก่อนแล้วค่อยไปหาหมอแค่นี้ ทำไมหญิงสาวต้องทำตาค้อนใส่เขาด้วย “คุณแม่จะกินอะไรครับ” ชายหนุ่มรีบถามก่อนเพราะกลัวจะถูกงอนอีก “กินอะไรก็ได้ค่ะ” หญิงสาวตอบ “ถ้าอย่างนั้นกินข้าวมันไก่ร้านข้างหน้าละกัน เจ้าดังเลย ที่คุณเคยชอบ” ร้านนี้เขาเคยซื้อไปฝากหญิงสาว เธอกินจนหมดกล่อง “ไม่เอาค่ะ ไม่อยากกินไก่” ลลิลส่ายหัว “แล้วคุณอยากกินอะไร เดี๋ยวผมพาไป” ชายหนุ่มถามทวนอีกรอบ “อะไรก็ได้ค่ะ คุณก็เลือกเลย ลิลกินได้หมด” หญิงสาวยังยืนยันคำเดิม แต่น้ำสียงเหมือนเริ่มหงุดหงิด “ต้มเลือดหมู ซดน้ำร้อนๆ” ติณห์คิดขึ้นได้ว่าข้างหน้ามีร้านต้มเลือดหมูอร่อยอยู่
บทที่17คำนี้ที่ต้องการ “มาแต่เช้าเลยวันนี้ ” ป้าช่วยกำลังป้อนข้าวคนป่วยถามด้วยความแปลกใจ “ผมมีเรื่องไม่ค่อยสบายใจ อยากปรึกษาพ่อกับป้าช่วยเสียหน่อย” ชายหนุ่มนั่งลงข้างๆคนป่วย โดยมีป้าช่วยอยู่ฝั่งตรงข้าม กำลังถือถ้วยข้าวต้มคนป่วยอยู่ “ทำหน้าจริงจัง พ่อนี่อยากรู้เลยเรื่องอะไร ทำลุกชายพ่อจริงจังได้ขนาดนี้” ติณห์ขำลุกชาย ที่ทำหน้าเหมือนกำลังจะไปออกรบ “ก็จะเรื่องใครได้ล่ะครับ นอกจากลลิล” ชายหนุ่มถอนหายใจ “ทำไมคะ คุณลิลเป็นอะไร” ป้าช่วยทำท่าตกใจ “ตั้งแต่ท้อง เธอจะชอบพูดว่า ขอบคุณผมเรื่องที่ดูแลลูกของเธอ บางครั้งก็ย้อนกลับไปพูดถึงสถานะที่เธอเข้ามาอยู่ที่นี่ ว่าเธอไม่ลืมหรอก ว่าเธอคือใคร คือผมไม่เข้าใจ ที่ผมอยู่ทุกวันนี้ ลิลยังไม่เข้าใจอีกเหรอ ว่าผมรู้สึกแบบไหน” ชายหนุ่มคิ้วขมวดกันด้วยความเครียด “ไม่รู้หรอกค่ะ ป้าเอง คุณท่านเอง ก็ยังไม่รู้เลย ว่าตกลง คุณกับคุณลิลเป้นอะไรกัน อยู่กันในสถานะไหน แล้วตัวคุณลิลเองเธอกำลังท้อง เธอต้องการความมั่งคง แต่คุณทำเหมือน ไม่หลักอะไรให้เธอได้ยึดเลย” เรื่องความสัมพั
บทที่18หมดหน้าที่นางบำเรอ “ไปไหนกันมาคะ นาเดียร์งอนแล้ว พ่อจ๋าแม่จ๋าไปไหนไม่ชวนลูกเลย” เด็กน้อยตัวขาวยืนกอดอก ปากติดจมูก งอนพ่อกับแม่ ยิ่งมองยิ่งน่าเอ็นดู “ไม่ได้ชวนแต่ซื้อของมาไถ่โทษไม่รู้จะมีคนหายงอนไหมนะ” ติณห์ก็มตัวลงอุ้มลูกสาวขึ้นมาบนอก ก่อนจะยื่นถุงของฝากให้ “น่ารักทั้งนั้นเลย ของหนูคนเดียวเลยใช่ไหม หนูเอาไปอวดคุณปู่นะคะ” เด็กน้อยรีบลงจากอกของชายหนุ่มคว้าถุงวิ่งไปที่ห้องคนคุณปู่ทันที เสร็จสิ้นภารกิจในวันนี้ หญิงสาวนอนหลับอมยิ้มอยู่ภายในใจ คำว่ารักที่เธออยากฟังจากเขามานาน ในที่สุดวันนี้เธอก็ได้ยินมันแล้ว การแต่งงานที่เธอไม่เคยคิด ว่าผู้หญิงที่มาเป็นนางบำเรอจะมีโอกาส เขาก็ทำมันให้เธอ พรุ่งนี้เอกับพ่อก็จะได้เจอกันแล้ว ลลิลอยากกอดพ่อของเธอที่สุดเลย อยากให้พ่อได้รู้ว่าเธอกำลังจะมีลูก พ่อกำลังจะเป็นคุณตา ‘แม่คะพรุ่งนี้ลิลจะได้เจอพ่อแล้วนะ’หญิงสาวพูดในใจ หวังให้มารดาของเธอที่อยู่บนสวรรค์ได้ยิน “พร้อมแล้วใช่ไหม ที่จะได้เจอพ่อของคุณ” ติณห์ถามหญิงสาวก่อนขึ้นรถออกจากบ้าน “พร้อมแล้วค่ะ ขอบคุณมากนะค
18อบอุ่นพร้อมหน้า “พรุ่งนี้ผมจะพาคุณไปฝากท้องนะ” ภาคินเดินประคองพาภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของเขา เข้าไปในบ้านที่เข้าตั้งใจไว้เพื่อเป็นบ้านของครอบครัวที่น่ารักของเขา “วันนี้ยิหวาไม่ต้องแอบเหมือนทุกๆครั้งที่มาที่นี่” คำพูดของหญิงสาว ทำให้ภาคิน สำนึกได้ว่าที่ผ่านมา เขาไม่เป็นลูกผู้ชาย เขาไม่ให้เกียรติผู้หญิงที่เขารัก ทำเหมือนเธอเป็นสิ่งไร้ค่า พอถึงเวลาที่เสียไป เขาถึงเพิ่งรู้ว่าเธอมีค่าแค่ไหน “ฉันขอโทษนะ ที่ทำให้เธอรู้สึกไม่มีค่า เรามาเริ่มต้นจุดเทียนกันใหม่ แต่เทียนเล่มนี้ จะมีทั้งความรักและความอบอุ่น เป็นกำบังคอยป้องกันทุกอย่าง ที่จะมาทำให้เทียนแห่งรักนี้ดับลง ฉันสัญญาจะรักและดูแลเธอกับลูกไปตลอดชีวิต” หญิงสาวเชื่อทุกคำที่ภาคินพูด เพราะทุกอย่างที่เขาทำในเวลานี้ มันเป็นบทพิสูจน์แล้ว “ขอบคุณนะคะ ที่ทำทุกอย่างเพื่อยิหวากับลูก” บ้านหลังนี้ ที่ภาคินเคยคิดว่ามันใหญ่เกินไป เพราะมีถึงสี่ห้องนอน แต่ตอนนี้ มันจะเหลือว่างแค่เพียงสองห้อง เพราะอีกห้องต้องเตรียมไว้ สำหรับลูกของเขาที่กำลังจะเกิดมา ศศิวัฒน์กลับไป
17เผชิญหน้ากับทุกปัญหา “ภาคินลูกไปไหนมาทั้งวัน คุณพ่อก็อีกคนยังไม่กลับมาเลย” ฐานิตาลุกออกจาโซฟา เดินมาหาลูกชายที่หน้าประตูบ้าน “ผมไปรับภรรยาผมกลับบ้านครับ” ภาคินยิ้มมุมปาก “ภรรยา ลูกหมายความว่าอะไร” ฐานิตายืนมองหน้าลูกชาย เธอไม่เข้าใจในสิ่งที่ภาคินพูด แต่มันต้องเป็นเรื่องที่เธอจะต้องไม่ชอบใจแน่ๆ “สวัสดีค่ะคุณท่าน” ยิหวาเดินตามหลังภาคินเข้ามา “หมายความว่ายังไง ที่ภาคินบอกว่าพาภรรยามา” ฐานิตายืนถลึงตาด้วยความไม่พอใจ“นี่ค่ะ ทะเบียนสมรสเราเพิ่งไปจดกันมา เมื่อช่วงบ่ายนี่เอง”ยิหวายื่นกระดาษในมือของเธอ ให้มารดาของภาคินดู เพื่อให้เธอได้เห็นชื่อชัดๆว่าใครสมรสกับใคร“ไม่จริ๊ง ไม่จริง ภาคินลูกจะทำแบบนี้ไม่ได้นะ แม่ไม่ยอม”ฐานิตาเดินตามทั้งคู่เข้ามาในบ้าน โดยครั้งนี้ยิหวา ไม่ได้นั่งข้างล่างเหมือนแต่ก่อน เธอนั่งบนโซฟาข้างๆสามีของเธอ“ลูกจะต้องแต่งงานกับหนูลิตาเท่านั้น ” ฐานิตากระแทกเสียง“ก็ได้นะคะ ถ้าคุณลิตาจะยอมเป็นเมียน้อย” ยิหวาต่อปากต่อคำ“ยิหวา ฉันหลงคิดว่าเธอมันเป็นเด็กดี ที่แท้ก็ไม่ต่างอะไรกับแม่ของเธอ”ฐานิตาลืมตัว
16ตามหัวใจคืน “ยิหวา เธอหลบหน้าฉันทำไม” หญิงสาวสะดุ้งสุดตัว เมื่อจำได้ว่าเสียงที่กำลังเรียกชื้อเธอนั้นคือใคร “คุณภาคิน คุณมาที่นี่ได้ยังไง”หญิงสาวพยายามดึงมือที่จับแขนเธอไว้แน่น แต่มันไม่ขยับเลย“เปิดประตูแล้วเข้าไปคุยกันในห้อง อยากมายืนเถียงกันให้อายคนอื่นเหรอ”ภาคินเคล้นเสียงหนักแน่น แต่เบาเพราะไม่อยากให้ใครได้ยิน“คุณจะตามฉันมาทำไม”ยิหวาตวาดเสียงแหลมใส่หน้าชายหนุ่มทันที เมื่อประตูถูกปิดลง“ก็เพราะเธอหนีออกมาแบบนี้ไง”ภาคินคว้าแขนเล็กไว้และดึงร่างบางอย่างแรง จนหญิงสาวแทบจะเซล้ม“ฉันไม่ได้หนีคุณ แล้วทำไมต้องหนี การที่ฉันจะไปอยู่ที่ไหนทำอะไร มันไม่ได้เกี่ยวกับคุณเลย เราก็เป็นแค่อดีตเจ้านายกับลูกสาวคนรับใช้แค่นั้น”ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะพูดอะไรต่อ ชายหนุ่มก็ปิดปากของเธอด้วยปากของเขา สองมือหนาประคองใบหน้ารูปไข่ไว้ในมืออย่างทะนุถนอม“พอ หยุดเถอะ ฉันรักเธอ ยิหวา ได้ยินไหมฉันรักเธอ” ชายหนุ่มดึงหญิงสาวมากอดไว้ แล้วพูดอยู่ซ้ำๆแบบนั้น“คุณรักฉันไม่ได้ค่ะ คนที่คุณควรรักคือคุณลิตา เขาคือคนที่คุณกำลังจะแต่งงานด้วย”หญิงสาวกัดฟันพูดด้วยความแค้น เธอพูดทุกถ้อยคำช้าๆแ
15พบกันครั้งแรก “เราว่าแกไม่ต้องตามหาลูกสาวแล้วแหละ” คณินพูดเมื่อสายตาของเขาหันไปเห็นผู้หยิงสองคนที่เขาคุ้นเคยในร้านอาหารข้างๆ“ดาริน”ศศิวัฒน์มองตามสายตาของเพื่อนที่มองไปยัง ร้านอาหารอีกร้านที่อยู่ข้างกัน มีเพียงแค่ทางเดินเล็กๆในห้างกั้นอยู่“นานแล้ว แกยังจำได้อยู่อีกเหรอ” คณินแปลกใจที่เพื่อนของเขายังจำคนรักเก่าได้อยู่ ทั้งที่ทั้งสองคนไม่ได้เจอกันยี่สิบกว่าปี“ฉันไม่ได้ยังจำได้ แต่ฉันไม่เคยลืมต่างหาก” ศศิวัฒน์พูดจากหัวใจเราเข้าไปคุยกับทั้งคู่ตอนนี้คงไม่ดี เดี๋ยวเราว่ารอให้ ดารินกับยิหวาต้องแยกกันกลับบ้าน เรารอคุยกับยิหวาคนเดียวจะดีกว่าคณินเสนอความคิดเห็น และศศิวัฒน์ก็เห็นด้วย เพราะเขาไม่แน่ใจว่าดารินจะยังอยากเจอหน้าเขาอยู่ไหมในที่สุดสองคนแม่ลูกก็แยกกัน ดารินลงไปชั้นล่างเพื่อขึ้นรถกลับ ส่วนยิหวาเดินแยกไปทางร้านขายเครื่องเขียน“ยิหวา” คณินเรียกหลังจากเดินตามหญิงสาวไป“ยิหวา นี่ศศิวัฒน์เพื่อนของฉัน” คณินแนะนำเพียงเท่านี้ก่อน“สวัสดีค่ะคุณศศิวัฒน์” หญิงสาวยกมือไหว้อย่างอ่อนน้อมนี่เป็นครั้งแรก ที่ศศิวัฒน์ได้มีโอกาสเห็นหน้าลูกสาวของเขา แบบตัวเป็นๆ และเธอก็มีหน้าตาที่เหมือน
14ความลับ “แกยังจำดารินได้ไหม” คณินเริ่มเข้าเรื่อง “จำได้สิ ผู้หญิงที่ฉันรักทั้งคนนะ แล้วแกถามถึงทำไม แกเจอดารินเหรอ” ศศิวัฒน์ทำท่ากระตือรือร้นอยากรู้ “อืม...เจอทุกวันเลย เจอมาหลายปีแล้วด้วย” คนตอบไม่พูดตรงๆ “หมายความว่าอะไรวะ คณินแกจะมายียวนเพื่ออะไร มีอะไรเกี่ยวกับดาริน แกพูดมาให้หมดเลย” ศศิวัฒน์รักและจริงใจกับดาริน เขาต้องการจะให้เธอเป็นภรรยาที่ถูกต้องกับเขา แต่ทุกอย่างก็พังลง เมื่อมารดาของเขาประกาศผ่านสื่อ ว่าเขากำลังจะแต่งงานกับหญิงสาวชั้นสูง ตั้งแต่นั้นมาศศิวัฒน์ก็ไม่เจอดารินอีกเลย “ดารินเขาอยู่ที่บ้านฉัน ตั้งแต่ที่แม่แกประกาศว่าแกจะแต่งงานนั่นแหละ” คณินเริ่มเล่า “เฮ้ย! แล้วทำไมแกไม่บอกฉัน แกรู้ไหมคณินว่าฉันตามหาดารินจนแทบบ้า” ศศิวัฒน์ขึ้นเสียง “ดารินเขาขอฉันไว้ เขาบอกถ้าฉันบอกแก เขาก็จะพาลูกในท้องหนีไปที่อื่น ฉันสงสารเด็ก” “ลูกในท้อง” ศศิวัฒน์พูดทวนคำพูดของเพื่อน เพราะเขาไม่เคยรู้เลย ว่าดารินท้อง “ใช่ ดารินเขาท้อง” คณินเน้นย้ำ เพราะหวังว่าเพื่อนจะพอเข้าใจ ว่าเรื่องราว
13ตามหา หนึ่งเดือนแล้ว ที่ภาคินไม่ได้เจอไม่ได้คุยไม่ได้ข่าวอะไรของหญิงสาวที่เขาสุดแสนจะคิดถึง ชายหนุ่มคิดถึงครั้งที่เขาไปเรียนอยู่อเมริกา เขาก็เคยทำกับเธอแบบนี้ เธอคงทั้งเจ็บทั้งเสียใจ ไม่ต่างกับเขา “คุณรู้ไหม ภาคินไม่ไปทำงานหลายวันแล้ว ผมถามหนูลิตา เธอก็บอกว่า ภาคินดื่มหนักเกือบทุกคืน” คณินทำงานที่เดียวกับลุกชายและลลิตา เขาถึงมีโอกาสได้สังเกตพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของลูกชาย “คุณคิดว่ายังไงคะ” ฐานิตาไม่เข้าใจ ว่าสามีต้องการจะบอกอะไร “ผมว่าการที่ยิหวาออกไปอยู่ข้างนอกแบบนี้ มันยิ่งทำให้ทุกอย่างแย่ ลูกชายเราเป็นแบบนี้ คุณคิดว่า คนอย่างหนูลิตาเขาจะอยากฝากชีวิตไว้ด้วยเหรอ” ฐานิตาเห็นด้วยกับคำพูดของสามี แต่เธอก็ไม่สามารถจะยอมรับความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นระหว่างลูกชายเธอกับคนงานในบ้านได้ “ไม่ใช่ว่าฉันไม่สงสารลูกนะ แต่คุณจะให้ฉันยอมรับลูกคนรับใช้มาเป็นสะใภ้ ฉันทำใจไม่ได้หรอก” “คุณรังเกียจยิหวา เพียงเพราะมันเป็นลูกสาวคนใช้ใช่ไหม และถ้าสมมุติว่าวันนึง ลูกสาวคนใช้กลายเป็นลูกสาวเพียงคนเดียวของข้าราชการระดับสูงในบ้านเมืองเร
12เริ่มต้นชีวิตใหม่ หญิงสาวออกไปอยู่ข้างนอก โดยที่เธอบอกทุกคนยกเว้นภาคิน ฐานิตาเห็นด้วย เพราะเธอคิดว่าการที่ยิหวาออกไปอยู่ที่อื่น ลุกชายของเธอ น่าจะลืมเธอได้อีกไม่นาน และคงยอมที่จะแต่งงานกับลลิตา “ดาริน ถ้าเธอจะออกไปอยู่กับลูกสาวก็ได้นะ แต่ฉันขอเวลาหาคนใหม่มาแทนก่อน ส่วนป้าช้อยก็ให้แกอยู่ที่นี่ต่อเถอะ อย่าเอาแกไปลำบากด้วยเลย” ฐานิตาถึงจะรู้สึกเสียดายดาริน เพราะอยู่ด้วยกันมานานจนรู้ใจ แต่ก็ต้องยอมแลกกับการที่ลุกชายของเธอจะได้ห่างจากยิหวา “ค่ะคุณท่าน คงอีกสักพัก ถึงจะย้ายตามลูกไป” ดารินเข้าใจความรู้สึกของคนเป็นแม่ดี ว่าฐานิตาก็ต้องอยากให้ลูกชายของเขาได้ผู้หญิงที่ดีที่สุด “น้าดารินครับ ผมไม่เห็นยิหวาหลายวันแล้ว เธอไปไหน” ภาคินเก็บความอยากรู้และไม่สบายใจไว้ไม่ไหวแล้ว เขาตัดสินใจเข้ามาถามดารินตรงๆ “ยิหวาเขาออกไปอยู่ข้างนอกแล้วค่ะ แต่น้าก็ไม่รู้ว่าไปอยู่ที่ไหน เพราะเขาไม่ได้บอกไว้” ดารินไม่ได้โกหก เพราะลูกสาวของเธอไม่ได้บอกอะไร มากไปกว่า ว่าที่พักอยู่ใกล้กับที่ทำงาน “ทำไมต้องออกไปอยู่ข้างนอก
11ลาก่อน “เป็นอะไรไป หน้าซีดเชียว” ดารินเดินเข้ามาจับตัวลูกสาว เมื่อเห็ใบหน้าที่ซีดเซียว “แม่คะ ถ้าหนูหางานทำได้ เราไปอยู่ที่อื่นกันนะคะ” หญิงสาวพูดออกมาอย่างไม่ทันระวัง ว่ามารดาจะสงสัยว่าอยู่ดีๆทำไมเธอถึงพูดแบบนี้ “ทำไมพูดแบบนี้ล่ะ จะให้แม่ทิ้งคุณท่าน ทิ้งป้าช้อยไปได้ยังไงกัน” ดารินหันไปทไหน้าดุใส่ลูกสาว “เดี๋ยวไม่มีเรา คุณท่านก็หาแม่บ้านใหม่มาทำงาน แม่จะอยู่เป็นคนใช้เขาไปตลอดชีวิตเหรอ” ยิหวาไม่รู้เหมือนกัน ทำไมเธอถึงกล้าพูดแบบนี้ ทั้งที่ดารินก็สอนเธอตั้งแต่เล็กจนโต ว่าให้รู้จักและสำนึกในบุญคุณของครอบครัวอรรถจิรานนท์ ที่ทำให้เธอกับแม่ มีที่ซุกหัวนอนอย่างเช่นทุกวันนี้ “ยิหวา มันเกิดอะไรขึ้นกันลูก คุณท่านเรียกลูกไปพูดเรื่องอะไร ทำไมถึงออกมาแล้วพูดจาแบบนี้” ดารินเลี้ยงลูกมา เธอรู้ว่าลูกสาวของเธอ ไม่เคยคิดจะไปจากที่นี่ และอยู่ดีๆ ทำไมถึงได้มาพูดจาเอาจริงเอาจังแบบนี้ “ไม่มีอะไรหรอกค่ะแม่ หนูไปรีดผ้าต่อนะคะ” นับตั้งแต่วันนั้นยิหวาก็พยายามหางานทำ เอาที่อยู่ไกลจากบ้านของภาคินให้มากที่สุด
10ปล่อยมือหรือเดินต่อ เมื่อไฟถูกปิดลง ความคิดถึงที่ทั้งคู่ต่างถวิลหากันมาเกือบสามปี ก็เหมือนพายุ ที่ถูกปลดปล่อยมาในทันที เสื้อผ้าถูกถอดออกจากเรือนร่างบางเล็กของยิหวา อย่างรวดเร็ว จนเธอยังไม่ทันได้ตั้งตัว ปากหนาทั้งหอมทั้งจูบไปทุกส่วนของร่าง เหมือนเขาอยากจะกลืนกินเธอไปทั้งตัว “คุณภาคินคะ ยิหวาเจ็บนะ” หญิงสาวร้องบอกเขา เพราะเธอรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังช้ำไปทั้งตัว ไม่มีเสียงตอบจากคนที่กำลังรุกราน แต่เขากลับใช้ทั้งสองมือบีบเคล้นอกอวบขึ้นมาก่อนจะใช้ปากหนาทั้งเลียและดูด อย่างกระหาย จนเจ้าของอกกลมต้องบิดไปทั้งตัวด้วยความเสียวซ่าน ที่เธอไม่ได้สัมผัสมันมานานแสนนาน “อ่า...อื้อ......” หญิงสาวกลั้นเสียงครางไว้ไม่ไหวอีกต่อไป โคมไฟหัวเตียงถูกดับลง พร้อมกับความเป็นชายของเขา ที่เข้ามาอยู่ในกลีบชมพูอวบของหญิงสาว สะโพกกลมขยับตามจังหวะที่ชายหนุ่มคอยควบคลุม ให้เธอเคลื่อนไหวตามจังหวะ จากสายน้ำที่ไหลอย่างเชื่องช้า ก็เปลี่ยนเป็นทะเล ที่ถูกเกลียวคลื่นโหมกระหน่ำจน คนตัวเล็กต้องจิกเล็บสวยลงไปบนแผ่นหลังของชายหนุ่