หลินอี้เฉิงแต่งงานกับลู่ซานเหอมาสามปีเต็ม ไม่ได้คาดหวังว่าจะทำให้หัวใจของเขาอบอุ่นได้ แต่อย่างน้อยเธอก็คิดว่าตัวเองแตกต่างออกไป สุดท้ายลู่ซานเหอมีชู้อยู่ข้างนอก รักสุดหัวใจ ปฏิบัติกับเธอราวกับของล้ำค่า ท้ายที่สุดหลินอี้เฉิงก็รับรู้ถึงความจริง หย่าอย่างสง่าผ่าเผย หันหลังออกไป ห้าปีผ่านไป ข้างกายหลินอี้เฉิงมีเด็กผู้ชายคนหนึ่งเพิ่มขึ้นมา ลู่ซานเหอมองเขา พร้อมกระซิบเย้ยหยัน “เดรัจฉานน้อย” เด็กผู้ชายมองเขาด้วยสายตาเย็นยะเยียบ “เดรัจฉานใหญ่” ระยะเวลาห้าปี เพียงพอให้ลู่ซานเหอกลับตัวกลับใจ เปลี่ยนเป็นคนใหม่ เขาเชื่อมั่นว่าจะง้อภรรยาของตัวเองกลับมาได้อีกครั้ง กระทั่งเขาพบว่า...แม่มันเถอะ ทำไมบนโลกใบนี้ถึงมีศัตรูหัวใจของเขาเต็มไปหมด?
ดูเพิ่มเติมในตอนนี้เองหลินอี้เฉิงถึงพูดขึ้นว่า “แสดงว่าคุณฟู่ไม่ได้มีความทุกข์ใจจากการถูกครอบครัวบีบให้แต่งงานเชื่อมสัมพันธ์สินะคะ”“ถูกบีบ? ทุกข์ใจ?” ฟู่ซือหนานตกตะลึงเป็นอย่างมาก “ถ้าคนที่ผมต้องแต่งงานด้วยเป็นนางฟ้าเหมือนอย่างเฉิงเฉิง จะมีความทุกข์ใจได้ยังไงกัน นี่มันของหวานที่ฟ้าประทานให้ชัด ๆ ผมคงสะดุ้งตื่นจากฝันเพราะยิ้มไม่หยุดด้วยซ้ำ!”ครั้งนี้หลินอี้เฉิงถูกเขาหยอกล้อจนโพล่งขำออกมาจริง ๆขณะลู่ซานเหอเข้ามา สิ่งที่เห็นก็คือหลินอี้เฉิงหัวเราะจนไหล่สั่นใส่ฟู่ซือหนานครั้งนี้มาปาร์ตี้รวมตัวกันที่นี่ เนื่องจากหลินอี้เฉิงเกิดอุบัติเหตุ ปาร์ตี้รวมตัวเองก็จบไปทั้งแบบนั้นเช่นกันธุระในเรื่องงานของเขาก็ใกล้จะจบลงแล้ว บรรดาเพื่อน ๆ จึงชวนให้เขามารวมตัวที่นี่อีกครั้งไม่คิดเลยว่าจะเจอหลินอี้เฉิงอีกครั้งครั้งนี้เธอกลับไม่ได้ตกอยู่ในอันตราย แต่เธอนั่งอยู่ตรงข้ามผู้ชายคนอื่น ปั้นหน้าฉีกยิ้มหวานแหวว ยิ่งขัดหูขัดตาเข้าไปใหญ่!ลู่ซานเหอทิ้งหยางอวี่ถงกับเพื่อนคนอื่น ๆ ไปเลย จากนั้นก็เดินอาด ๆ ไปทางหลินอี้เฉิงหยางอวี่ถงคิดจะตามไป ทว่าซือฉางไห่รั้งเธอเอาไว้ พร้อมส่ายหน้าใส่เธอหยางอวี่ถงพลันปั้นหน้า
เมื่อจี้ซูเหยียนออกมา ลู่ซานเหอกับหยางอวี่ถงก็ออกไปแล้วจี้ซูเหยียนเห็นหลินอี้เฉิง ก็รีบถามขึ้นทันที “เฉิงเฉิง ทำไมเธอถึงชูป้าย?”ขณะดำเนินการเรื่องเอกสาร จี้ซูเหยียนไม่รู้ว่าฝ่ายผู้ซื้อเป็นใคร และเธอเองก็ไม่ได้ยินคนที่เสนอราคา เป็นลู่ซานเหอหลินอี้เฉิงฉีกยิ้มพลางตอบ “แน่นอนว่าเพราะชอบไงล่ะ ฉันคิดว่ามันคู่ควรกับราคานั้น”ที่หลินอี้เฉิงพูดเป็นความจริง เธอชอบชุดนี้จริง ๆ ฉะนั้นจึงไม่อยากให้มันไปอยู่บนตัวหยางอวี่ถงทว่าในท้ายที่สุด ลู่ซานเหอก็เป็นคนประมูลชุดไปการมาท่องเที่ยวต่างประเทศครั้งนี้ นับว่าเป็นจุดสิ้นสุดแล้วจี้ซูเหยียนไม่รู้ว่าหลินอี้เฉิงไปเจอเหตุการณ์น่าหวาดผวาอะไรนอกบาร์มา ยังไม่ได้ดูการแสดงเนกไท เธอยังอยากไปอีกเธออารมณ์ดีมาก ๆ หลินอี้เฉิงไม่อยากทำให้ผิดหวัง ทั้งสองคนจึงมุ่งหน้าไปที่นั่นเลยเพียงแต่ หลินอี้เฉิงคิดไม่ถึงว่า จะเจอฟู่ซือหนานที่บาร์เมื่อฟู่ซือหนานเห็นพวกเธอ ทั้งใบหน้าก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจ “เฉิงเฉิง? พวกคุณก็มาเที่ยวเล่นที่นี่ด้วยเหรอ?”นับตั้งแต่ครั้งก่อนหลินอี้เฉิงพูดไปแล้ว พยายามสวมเขาให้ลู่ซานเหอ เมื่อดูฟู่ซือหนาน จี้ซูเหยียนรู้สึกว่าถูกชะตาที
ชุดชุดนี้ ตกลงราคาประมูลในท้ายที่สุดที่สิบล้านเมื่อเดินออกมาจากที่จัดงานประมูล หลินอี้เฉิงก็ไปห้องน้ำ และฉวยโอกาสรอจี้ซูเหยียนไปดำเนินการเรื่องด้วยเธอออกมาจากห้องน้ำ ก็เห็นหยางอวี่ถงเติมเครื่องสำอางอยู่ด้านนอก“พี่อี้เฉิง” เธอเห็นหลินอี้เฉิงก็รีบฉีกยิ้มสดใสใส่ “คุณก็มาด้วยเหรอคะ งั้นคุณก็น่าจะรู้ว่าซานเหอประมูลเสื้อผ้าของคุณจี้ชุดนั้นมาให้ฉันแล้วใช่ไหมคะ?”หลินอี้เฉิงเอ่ยขึ้นชืด ๆ “ยินดีด้วยนะ”“ก็ไม่ได้มีอะไร ฉันบอกแล้วว่าไม่เอา ซานเหอก็จะประมูลมาให้ฉันให้ได้”หลินอี้เฉิงนึกถึงอะไรบางอย่าง ก็พลันขำออกมา ก่อนจะถามว่า “ลู่ซานเหอซื้อแค่หยกให้คุณเหรอ? คุณไม่ได้ให้เขาซื้ออย่างอื่นให้?”เธอขอแล้ว แต่ลู่ซานเหอไม่ฟังเธอเลยตอนนี้หยางอวี่ถงยังไม่รู้ว่าทำไมหลินอี้เฉิงถึงเอาแต่จับประเด็นนี้ไม่ปล่อย ต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลแน่ ๆหยางอวี่ถงไม่ยอมให้ตัวเองเผยความอ่อนแอต่อหน้าเธอเป็นอันขาด หยางอวี่ถงจึงพูดขึ้นว่า “แน่นอนว่ามีอยู่แล้ว ฉันอยากได้อะไร ซานเหอก็จะซื้อให้ฉัน”หลินอี้เฉิงตอบกลับ “งั้นก็ดีแล้ว แต่ว่า คุณเคยคิดบ้างหรือเปล่า ของที่ลู่ซานเหอซื้อให้คุณ ใช้สินสมรสที่มีร่วมกันของสามีภรร
ก่อนหน้านี้ที่จี้ซูเหยียนออกแบบเสื้อผ้าแค่เล่น ๆ เท่านั้นที่บ้านเธอมีเงิน ไม่จำเป็นต้องหาเลี้ยงชีพด้วยสิ่งยี้ เป็นแค่งานอดิเรกที่สนใจเท่านั้นทว่าเธอมีพรสวรรค์ในด้านนี้จริง ๆตอนหกขวบก็เข้าร่วมการแข่งขันออกแบบเสื้อผ้าระดับโลก ประสบความสำเร็จอย่างโดดเด่นด้วยชุดราตรีสไตล์จีนที่ผสมผสานระหว่างยุคโบราณและสมัยใหม่เข้าด้วยกันทว่าหลังจากนั้นเธอก็หายไปจากสายตาของโลกการออกแบบเสื้อผ้า คนที่ไม่รู้เหตุการณ์ภายในมากมาย ยังบอกว่าเธอพรสวรรค์ถดถอย ไร้ความสามารถจึงไม่ได้รับความสนใจแต่ไม่รู้เลยว่า ตอนนั้นจี้ซูเหยียนใช้เวลามาเรียนมากขึ้นความคิดของเธอเรียบง่าย เสื้อผ้าที่ออกแบบออกมาราวกับก็แฝงความชัดเจนของความงามที่ชวนให้คนตาลุกวาวชุดราตรีในครั้งนี้ เรียบง่ายเป็นอย่างยิ่ง ทว่าความล้ำค่าและงดงามเด่นชัดมาจากรายละเอียดขณะประมูล เมื่อนางแบบออกมา คนที่ชูป้ายก็มีไม่หยุดหย่อนตามปกติ หากชุดชุดหนึ่งไม่ฝังอัญมณีที่ราคาค่อนข้างสูงลิ่ว ประมูลถึงราคาหลักหลายแสนหรือหลักล้าน ก็นับว่าเป็นราคาที่ดีมากแล้วหากตกแต่งด้วยอัญมณี ประมูลถึงหลายล้าน ก็มีให้เห็นมากมายทว่าชุดนี้ของจี้ซูเหยียน ไม่ได้ตกแต่งด้วยอัญม
เดี๋ยวก็ช่วยเธอ เดี๋ยวก็ใส่ยาให้เธอลู่ซานเหอยกเท้าของเธอขึ้นช้า ๆ แล้วมองเฝือกที่ข้อเท้าเธอ “ผมบอกไปแล้วว่า ไม่มีเรื่องสมควรอะไรทั้งนั้น เพราะงั้น...คุณนายน้อยลู่ต้องพิจารณาสักหน่อยหรือเปล่า ว่าจะตอบแทนบุญคุณผมยังไง?”“อะไรนะ?” หลินอี้เฉิงอึ้ง “ตอบแทนบุญคุณอะไร?”“เขาว่ากันว่า บุญคุณช่วยชีวิต เอาอะไรมาตอบแทนไม่ได้...ข้างหลังว่ายังไงต่อแล้วนะ?”หลินอี้เฉิงตอบ “บุญคุณช่วยชีวิต เอาอะไรมาตอบแทนไม่ได้ ชาติหน้าเป็นทาสรับใช้ ตอบแทนบุญคุณประธานลู่ ได้ไหม?”ลู่ซานเหอยกมือขึ้นตีเธอ “หลินอี้เฉิง คุณตั้งใจหรือเปล่า?”หลินอี้เฉิงเตะเท้าออกไป “ถูกความใคร่ครอบงำ!”เธอก็ว่า ทำไมลู่ซานเหอถึงดีกับเธอขนาดนี้ที่แท้ก็มีเจตนาแอบแฝงนี่เอง“ธรรมชาติของมนุษย์คือเรื่องกินและเรื่องเพศ” ลู่ซานเหอคว้าเท้าน้อย ๆ ที่เตะคนของเธอข้างนั้นเอาไว้ ก่อนจะจูบลงบนหลังเท้าเล็กเรียวของเธอทีหนึ่ง “คุณนายน้อยลู่ ควรทำหน้าที่ของคุณได้แล้ว”หลินอี้เฉิงเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง “แล้วหลายคืนมานี้ ไปนอนที่ไหนมา?”“หลินอี้เฉิง” ลู่ซานเหอยกเท้าของเธอพลางจูบไล่ขึ้นมาตามข้อเท้าของเธอ “คุณถามแบบนี้ เหมือนกำลังหึงอยู่เลยนะ”“
หลินอี้เฉิงคิดเอาไว้แล้วว่า ถึงเวลานั้นถ้าคนเหล่านั้นมีตาแต่ไร้แวว ไม่เข้าใจความดีของเสื้อผ้าจี้ซูเหยียน เธอก็จะแอบประมูลมาลู่ซานเหอพูดเอาไว้แล้วไม่ใช่เหรอ เงินที่เขาหามาได้ เธอเองก็ใช้ได้ตัดใจจ่ายเงินก้อนโตซื้อเครื่องประดับหยกให้ชู้ได้ เธอแค่ซื้อเสื้อผ้า ไม่เกินไปหรอกใช่ไหม?หลินอี้เฉิงตัดสินใจแล้ว พยายามใช้ราคาที่สูงที่สุด ประมูลเสื้อผ้าของจี้ซูเหยียนมาอีกอย่าง ชุดนั้นเธอก็ชอบจริง ๆถ้าไม่ได้เป็นเพราะข้อเท้าเธอได้รับบาดเจ็บ กระทั่งจี้ซูเหยียนยังคิดเอาไว้ว่า จะให้เธอขึ้นเวทีไปเป็นนางแบบจี้ซูเหยียนยังต้องแก้จุดรายละเอียดบางอย่าง หลินอี้เฉิงคิดจะลอบจัดการแผลด้วยตัวเอง จึงคิดจะไปห้องน้ำเดิมทีทั้งสองคนไม่ได้พักด้วยกัน ทว่าลู่ซานเหอไม่กลับมา จี้ซูเหยียนกลัวจะไม่มีใครดูแลหลินอี้เฉิง ฉะนั้นจึงให้หลินอี้เฉิงมาพักด้วยกันเธอกำลังคิดจะขยับ ก็ได้ยินเสียงประตูถูกเคาะดังขึ้นเธอเดินไปเปิดประตู พบว่าลู่ซานเหอยืนอยู่นอกห้องจี้ซูเหยียนถาม “ใคร?”“ลู่ซานเหอ” หลินอี้เฉิงตอบกลับประโยคหนึ่ง “ฉันออกไปเอง”พูดจบเธอก็ออกจากห้องไป แล้วปิดประตู“มีธุระอะไร?”ลู่ซานเหอเอาแต่มองเธอ ไม่ตอบอะไ
ซือฉางไห่ยืนอยู่ข้าง ๆ ฉีกยิ้มอย่างมีเจตนาไม่แน่ชัดลู่ซานเหอไม่พูดพร่ำทำเพลง อุ้มหลินอี้เฉิงลงมาแล้ววางเธอลงบนวีลแชร์เลยลู่ซานเหอกำลังคิดจะไปเข็น ทว่าหยางอวี่ถงรีบเดินเข้ามา “ฉันเข็นเองค่ะ”เธอเข็นวีลแชร์ไปพลางพูดกับลู่ซานเหอขึ้นว่า “เดี๋ยวฉันไปส่งพี่อี้เฉิงเองค่ะ พี่รอฉันอยู่ที่โถง โอเคไหมคะ?”หลินอี้เฉิงเหนื่อยจนไม่อยากพูดอะไร แล้วแต่พวกเขาจะทำยังไงลู่ซานเหอมองหลินอี้เฉิงทีหนึ่ง ก่อนจะอืมออกมาหยางอวี่ถงเข็นหลินอี้เฉิงเข้าไปในลิฟต์หยางอวี่ถงรีบเอ่ยขึ้นว่า “พี่อี้เฉิง ฉันหวังว่าคุณจะไม่คิดมากนะ ซานเหอเป็นคนซื่อตรงยึดมั่นในความเป็นธรรมอยู่แล้ว เขาช่วยคุณ ไม่ได้แปลว่าเขาจะมีความรู้สึกกับคุณ”หลินอี้เฉิงแสยะยิ้มเสียงหนึ่ง “คุณเป็นชู้ แต่ยังมาทำตัวอยู่เหนือกว่าอีกเนี่ยนะ”สีหน้าของหยางอวี่ถงไม่ค่อยสู้ดีนัก เธอสูดลมหายใจเข้าลึกทีหนึ่งถึงเอ่ยขึ้นว่า “ฉันจะแต่งงานกับซานเหอ ฉันจะรอเขา”หลินอี้เฉิงหลับตาลงหยางอวี่ถงพูดต่อว่า “ที่งานประมูลสองวันก่อน เขาประมูลเครื่องประดับหยกให้ฉันชุดหนึ่ง คุณรู้ไหมว่าเท่าไร?”หลินอี้เฉิงลืมตาขึ้นมา ก็เห็นความสะใจและความโอ้อวดในแววตาของหยางอวี่ถ
หลินอี้เฉิงตอบ “ฉันรอเหยียนเหยียนอยู่”ลู่ซานเหอถามขึ้นอย่างเดือดดาลว่า “เธอไปไหน? เธอทิ้งคุณไว้ที่นี่คนเดียว?”หลินอี้เฉิงรู้ว่าลู่ซานเหอมีเจตนาจะพาลใส่จี้ซูเหยียนแต่เรื่องพรรค์นี้ โทษจี้ซูเหยียนไม่ได้อยู่แล้วเมื่อลู่ซานเหอเห็นเธอไม่ตอบ ก็หมุนวีลแชร์เลย “กลับไป!”บอกตามตรง ตอนนี้หลินอี้เฉิงยังนึกกลัวในภายหลังอยู่มาต่างประเทศ ความรู้สึกปลอดภัยไม่ได้มีมากมายเท่ากับในประเทศตัวเองอยู่แล้วแถมยังเกิดเรื่องแบบเมื่อครู่อีกเมื่อเห็นสีหน้าหลินอี้เฉิงซีดเผือด ลู่ซานเหอเองก็ไม่ได้พูดอะไรอีกขณะที่หลินอี้เฉิงส่งข้อความหาจี้ซูเหยียน ปลายก็นิ้วยังสั่นเทาอยู่ลู่ซานเหอเข็นวีลแชร์อยู่ ทีแรกสีหน้าหยางอวี่ถงไร้อารมณ์ จากนั้นเธอก็มาควงแขนของลู่ซานเหอ แล้วถามเขาว่า “คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ? บาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า?”ลู่ซานเหอส่ายหน้า “ผมไม่เป็นไร ทำให้คุณเป็นห่วงแล้ว”ซือฉางไห่เองก็ตามไปด้วยส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ แม้เขาจะไม่เห็น แต่ก็พอจะคาดเดาได้คงเป็นเพราะใบหน้านั้นของหลินอี้เฉิง ล่อเสือล่อจระเข้เข้ามาซือฉางไห่แสยะยิ้มอยู่ด้านหลังเสียงหนึ่งแม้เจอเรื่องแบบนี้ ต่อให้เป็นคนแป
ฉะนั้นพวกเขาจึงไม่เห็นลู่ซานเหออยู่ในสายตาอยู่แล้วสุดท้ายก็ถูกเตะกระเด็นออกไปคนอื่นอีกสองสามคนเมื่อเห็นดังนั้น ก็เข้ามาห้อมล้อมทันที เหลือเพียงคนที่เข็นวีลแชร์หลินอี้เฉิงนั่น“ฉันแนะนำว่าแกแส่หาเรื่องให้มันน้อย ๆ หน่อยจะดีกว่า” คนที่เป็นหัวหน้าเอ่ยขึ้น “ไม่อย่างนั้น ก็รับผิดชอบผลที่ตามมาเอง!”“ปล่อยเธอ!” สายตาของลู่ซานเหอเย็นเยียบ นัยน์ตาแฝงความเป็นกังวลที่ถูกคนสังเกตเห็นไม่ได้ง่าย ๆคนที่เป็นหัวหน้าทำสัญญาณมือไปทางวีลแชร์ คนที่เข็นวีลแชร์รีบเข็นหลินอี้เฉิงออกไปอย่างรวดเร็วลู่ซานเหอยอมให้เขาไปเสียที่ไหน ลู่ซานเหอก้าวเท้าเตรียมจะตามไป ทว่าถูกสองสามคนนี้รัดเอาไว้“หยุดนะ!” หลินอี้เฉิงกลัวจนใจเต้นรัว กลัวว่าสองสามคนนั้นจะทำให้ลู่ซานเหอบาดเจ็บ และกลัวว่าจะมีคนชักปืนออกมาถึงยังไงข่าวแบบนี้ก็พบเห็นอยู่บ่อยครั้งตอนอยู่ในประเทศทว่าคนคนนั้นกลับเข็นเธอออกไปไกลขึ้นเรื่อย ๆ ในใจของหลินอี้เฉิงตึงเครียด เธอกัดฟันแน่น แล้วกระโดดลงจากวีลแชร์โดยไม่สนใจอาการบาดเจ็บที่ขาของตัวเองเลยเห็นได้ชัดว่าคนคนนั้นก็ไม่คาดคิดเช่นกันว่า เธอจะกลิ้งลงไปจากวีลแชร์ เขาอุทานขึ้นมาด้วยความตกใจ ทว่าปฏิกิริยา
โรงพยาบาลเฟิงหยวนเมืองหวยเป่ย แผนกฉุกเฉินหลินอี้เฉิงผ่าตัดต่อกันหลายเคส ทำงานจนเวียนหัวตาลาย กำลังเตรียมจะเลิกงาน ทว่าเพิ่งถอดชุดทำงานบนตัวไปได้ครึ่งหนึ่ง จู่ ๆ ประตูห้องก็ถูกคนเปิดออกลู่ซานเหอปรากฎตัวขึ้นตรงหน้าเธอในชุดสูททำมือราคาแพงชายหนุ่มบุคลิกเย็นชาเย่อหยิ่ง ดวงหน้าเคร่งขรึม จมูกโด่งริมฝีปากบาง กรามแข็งแกร่งประณีต รูปลักษณ์หล่อเหลามากจริง ๆทว่าตอนนี้ เขาอุ้มหญิงสาวร่างอรชรอ้อนแอ้นคนหนึ่งเอาไว้ในอ้อมอก ภายใต้สีหน้าเย็นชาปกปิดความกังวลเอาไว้ไม่อยู่ “เธอได้รับบาดเจ็บ ดูให้เธอหน่อย”สายตาของหลินอี้เฉิงตกไปบนดวงหน้าของหญิงสาวหญิงสาวหน้าตาสวยหวาน แววตาไร้เดียงสาหลินอี้เฉิงรู้มาตลอด แนวที่ลู่ซานเหอชอบก็คือแบบนี้หลายปีแล้ว รสนิยมของเขาก็ไม่เคยเปลี่ยนเลย“ได้รับบาดเจ็บตรงไหน?”“ข้อเท้าแพลงน่ะ”หลินอี้เฉิงก้มหน้าที่ไร้ซึ่งอารมณ์ใด ๆ ลงไปดูข้อเท้าของเธอ “แพลงได้ยังไง? ขยับได้ไหม?”มือของเธอเพิ่งจะสัมผัสลงไป หญิงสาวก็ซี๊ดออกมา พร้อมมีหยาดน้ำตาเอ่อขึ้นมาในดวงเนตรแล้วลู่ซานเหอรีบโน้มตัวลงไปมองจุดที่หญิงสาวได้รับบาดเจ็บทีหนึ่ง น้ำเสียงเย็นยะเยียบ “คุณเบาหน่อยได้ไหม!”จากนั...
ความคิดเห็น