แชร์

บทที่ 7

ผู้เขียน: ซีซีโหย่วอวี๋
หลินอี้เฉิงไม่รู้ว่าทำไมอยู่แล้ว

จี้ซูเหยียนพูดต่อ “คืนนี้มีงานประมูลการกุศล เธอไปกับฉัน?”

หลินอี้เฉิงถามขึ้น “พูดถึงหยางอวี่ถงอยู่ไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงเปลี่ยนเรื่องแล้วล่ะ”

จี้ซูเหยียนตอบกลับอย่างมีลับลมคมใน “ถึงเวลาเธอก็จะรู้เอง แต่ว่าก่อนไปงานเลี้ยงคืนนี้ เธอมาที่บ้านฉันก่อน ฉันจะให้คนแต่งหน้าทำผมให้เธอ”

วันนี้หลินอี้เฉิงไม่มีผ่าตัด ตอนบ่ายจึงลาหนึ่งชั่วโมง แล้วไปบ้านของจี้ซูเหยียน

หลังมาถึงก็ถูกจี้ซูเหยียนกดลงตรงหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง และเริ่มแต่งหน้าให้กับเธอ

ช่างแต่งหน้าเป็นช่างที่มีชื่อเสียงในวงการ เคยแต่งหน้าให้กับดาราชั้นนำมาไม่น้อย

เธอพูดขึ้นว่า “ผิวของคุณหลินดีจริง ๆ นี่สิถึงจะเป็นผิวเนียนนุ่มน่าถนอมของจริง อีกอย่างใบหน้าของคุณ ไม่เข้าวงการบันเทิงช่างน่าเสียดายจริง ๆ”

หลินอี้เฉิงตอบ “ฉันทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง ขืนไปก็คงเป็นได้แค่แจกัน”

“บางคนน่ะ อยากจะเป็นแจกันยังเป็นไม่ได้เลยค่ะ”

ช่างแต่งหน้าพูดคุยกับเธอไปด้วย พลางแต่งหน้าเบา ๆ ที่เหมาะกับสภาพผิวและบุคลิกของเธอไปด้วย

ชุด เมคอัพ ทรงผม ต่างจัดการเสร็จเรียบร้อยแล้ว หลินอี้เฉิงลุกขึ้น แววตาของจี้ซูเหยียนเต็มไปด้วยความตกตะลึง

“วันนี้เฉิงเฉิงของเราจะสวยเด่นกว่าคนทั้งงาน! ไป! ออกเดินทาง!”

หลินอี้เฉิงทำเป็นว่าเธอมีนิสัยเด็ก ๆ เมื่อถึงงานประมูล ถึงได้รู้ว่าทำไมเธอถึงให้ตนแต่งตัวขนาดนี้

เพราะลู่ซานเหอพาหยางอวี่ถงไปด้วย

หลินอี้เฉิงเจอกับเจียงจี้เชินก่อน

เมื่อเจียงจี้เชินเห็นเธอ ก็มองประเมินตั้งแต่หัวจรดเท้า จากนั้นก็ฉีกยิ้มพลางเอ่ยว่า “นี่เทพเซียนบ้านไหนหลุดออกมาเนี่ย? ถ้าไม่มีใครต้องการ ฉันชิงกลับบ้านแล้วนะ”

“พูดให้มันน้อย ๆ หน่อย” หลินอี้เฉิงตีเขาทีหนึ่ง “พี่มาได้ยังไงเนี่ย?”

“ฉันมาเป็นเพื่อนแม่ฉันน่ะ” เจียงจี้เชินถามเธอกลับ “เธอมากับเหยียนเหยียนเหรอ? ต่อไปยังไงก็ให้เหยียนเหยียนแต่งตัวให้เธอเถอะนะ สถาพก่อนหน้านี้ของเธอ คิด ๆ ดูแล้วฉันรู้สึกเสียดายทำของดี ๆ เสียหมด”

“ใช่แล้ว” จี้ซูเหยียนพูดขึ้นอยู่ข้าง ๆ “ฉันเห็นด้วย! ให้เป็นหน้าที่ฉันเอง หลังจากนี้ฉันจะทำให้เธอเปล่งประกายทุกวัน ทำให้ทุกคนตกตะลึงไปเลย!”

หลินอี้เฉิงเอ่ยขึ้นอย่างจนใจ “ฉันเป็นหมอนะ ต้องไปรักษาคนช่วยคนที่โรงพยาบาลทุกวัน ไม่ได้ไปประกวดนางงามสักหน่อย”

เจียงจี้เชินเอ่ย “คนไข้เห็นหมอสวย ๆ ก็อารมณ์ดี พออารมณ์ดีก็หายป่วยเร็ว”

หลินอี้เฉิงถลึงตาใส่เขา “มีแต่พี่นี่แหละที่พูดมาก”

เจียงจี้เชินรีบมองไปที่จี้ซูเหยียน “เหยียนเหยียน เธอดูสิ เขารู้จักแต่รังแกฉัน”

ทั้งสามคนโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก สนิทสนมกันมากกว่าปกติ เมื่อมาพูดคุยด้วยกันแล้ว บรรยากาศดูอบอุ่นปรองดองกัน

พูดคุยกันไปได้ครู่หนึ่ง จี้ซูเหยียนก็ออกไปรับโทรศัพท์ข้าง ๆ เหลือเพียงเจียงจี้เชินและหลินอี้เฉิง

“เดี๋ยวถ้าถูกใจอะไร ก็บอกฉันนะ ฉันจะประมูลมาให้เธอเอง” เจียงจี้เชินพูดเสริมต่อ “วันนี้เธอแต่งตัวสวยขนาดนี้ ก็คิดเสียว่าเป็นรางวัลให้เธอแล้วกัน”

“มีแต่เครื่องประดับอัญมณีทั้งนั้น พี่ก็รู้ว่าฉันไม่ชอบของพวกนั้น” หลินอี้เฉิงฉีกยิ้ม “พี่ประมูลให้เหยียนเหยียนก็พอ”

แม้จะบอกว่าจี้ซูเหยียนได้รับความสำเร็จที่แน่นอนในวงการ ทว่าเมื่อเทียบกับชีวิตในก่อนหน้านี้ ตอนนี้สภาพการเงินของเธอกลับไม่คล่องนัก

เมื่อลู่ซานเหอและหยางอวี่ถงเข้ามา ไม่รู้เป็นเพราะอะไร คนที่เขาเห็นเป็นคนแรกก็คือหลินอี้เฉิง

เธออยู่ในชุดราตรีกระโปรงทรงเอเชื่อมกับทรงหางปลา ผ้าซีทรูบาง ๆ ปกปิดแขนที่แสนเล็กเรียวทั้งสองข้างของเธอเอาไว้อย่างสมบูรณ์แบบ เชื่อมไปถึงเกาะอกที่มีลูกปัดคริสตัลโปร่งใสอยู่กระจัดกระจายด้านล่าง รัดรอบเอวจนบางแคบ ผ้าซับในสีดำบนตัวท่อนบนถูกออกแบบมาเป็นจีบรูปร่างคลื่น ครอบคลุมไปถึงหลังบั้นท้าย ส่วนเว้าโค้งของเรือนร่างอันงดงามถูกเผยออกมาอย่างไม่ต้องสงสัย

สุดท้ายเป็นกระโปรงยาวลากถึงพื้นผ้าซาตินระยิบระยับ รอบวงสะบัดกว้าง ระหว่างการเปล่งประกายราวหยดน้ำพริ้วพราวระหว่างเคลื่อนไหว ดั่งดวงดารากระจายเต็มท้องฟ้า ไม่ว่าอย่างไรก็ทำให้คนละสายตาไม่ได้

ไม่ใช่เพียงเรือนร่าง ภายใต้การขับให้เด่นของวัสดุผ้าสีดำ ผิวที่เดิมทีก็ขาวผ่องอยู่แล้วของเธอยิ่งขาวผ่องจนเปล่งประกาย

แขนเล็กเรียว ต้นคอระหงดุจหงส์ ไหนจะเอวบางที่ใช้มือเดียวโอบยังเหลือเฟือ

ปกติแล้ว ความสวยงามเหล่านี้ของเธอ มีเพียงลู่ซานเหอเท่านั้นที่จะได้เห็น

ทว่าวันนี้ เธอเปิดเผยต่อหน้าทุกคนอย่างใจกว้าง ฉีกยิ้มจนทำคนหลงขนาดนั้น

ฝีเท้าของลู่ซานเหออดไม่ได้ที่จะก้าวยาวขึ้นมา

หยางอวี่ถงตกใจ เกือบถูกเขาพาล้ม

ในตอนนี้เองลู่ซานเหอถึงได้สติกลับมา แล้วหยุดรอเธอ

หยางอวี่ถงอยู่ในชุดราตรีที่หลินอี้เฉิงสวมใส่เมื่อครั้งก่อนชุดนั้น

สำหรับหยางอวี่ถง เธอสวยสู้หลินอี้เฉิงไม่ได้ ถึงอย่างไรใบหน้าของหลินอี้เฉิงนั้น ก็สวยไร้ที่ติจริง ๆ

แต่ลู่ซานเหอไม่ชอบ

ต่อให้สวยอีกสักแค่ไหนแล้วจะมีประโยชน์อะไร

นอกจากหน้าตาแล้ว หยางอวี่ถงคิดว่าตนสาวกว่าหลินอี้เฉิง รูปร่างและผิวพรรณของเธอ ก็ไม่แพ้หลินอี้เฉิงเช่นกัน

เสื้อผ้าที่หลินอี้เฉิงใส่แล้วดูดี หากเธอได้ใส่ต้องสวยกว่าแน่นอน

ก็เหมือนกับ...เมื่อเทียบกับหลินอี้เฉิงแล้ว เธอดูเหมาะสมกับลู่ซานเหอมากกว่า

เป็นอย่างที่คิดเอาไว้ เมื่อหยางอวี่ถงสวมชุดราตรีสีเทาเงินชุดนั้น บวกกับแต่งหน้าทำผม ราวกับเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ถูกคนมากมายชื่นชม

ถึงอย่างไร ก่อนหน้านี้เธอก็ไม่เคยสวมชุดที่ทั้งสวยและราคาสูงลิ่วขนาดนี้มาก่อน

เธออดใจไม่ไหวที่จะปรากฏตัวตรงหน้าลู่ซานเหอ อยากปรากฏตัวต่อหน้าทุกคน พิสูจน์ว่าเธอเหมาะสมมากกว่าหลินอี้เฉิง

เหมาะสมกับชุดนี้ และเหมาะสมกับลู่ซานเหอ

ทว่าความจริงแล้ว สำหรับมืออาชีพอย่างจี้ซูเหยียน รูปร่าง ลักษณะกระดูกและบุคลิกของหยางอวี่ถงไม่ได้ดีกว่าหลินอี้เฉิงเลยสักนิด สวมเสื้อผ้าเหมือนกัน ทว่านี่เป็นการเลียนแบบแต่สวยไม่เท่าของจริงชัด ๆ

เสื้อผ้าแบบเดียวกัน เมื่อถูกสวมอยู่บนตัวหลินอี้เฉิงดูเย็นชากว่าปกติ ราวกับนางฟ้าสวรรค์ชั้นเก้าลงมาจุติยังโลกมนุษย์

ทว่าบุคลิกของหยางอวี่ถงเอนเอียงไปทางหยกงามกลางเถื่อนเสียมากกว่า น่ารักน่าพะเน้าพะนอ อันที่จริงชุดแบบนี้ไม่เหมาะกับเธอเลยแม้แต่น้อย

ฉะนั้นเมื่อรู้ว่าหยางอวี่ถงจะมางานประมูลนี้ เธอจึงอดใจไม่ไหวที่จะให้หลินอี้เฉิงได้เห็นเช่นกัน

เมื่อคุยโทรศัพท์เสร็จ แล้วเงยหน้ามองไป ก็เห็นลู่ซานเหอจ้องหลินอี้เฉิงอยู่พอดี

ไม่แปลกใจเลยที่เธอเห็นลู่ซานเหอในชั่วพริบตาเดียว อันที่จริงผิวเผินและรูปร่างสูงใหญ่ของผู้ชายชาติหมาคนนี้ยอดเยี่ยมไม่เบา ยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชน คือการมีอยู่ของนกกระเรียนในฝูงไก่

เธอสาบานเลยว่า ตนเห็นความตกตะลึงในแววตาของลู่ซานเหอ

เธอบรรลุเป้าหมายแล้ว

นั่นก็คือการทำให้ผู้ชายชาติหมาคนนี้รู้ว่า เฉิงเฉิงของพวกเขาสวยแค่ไหน ยอดเยี่ยมขนาดไหน น่าหลงใหลขนาดไหน

หลินอี้เฉิงเองก็เห็นลู่ซานเหอกับหยางอวี่ถงแล้ว

เหมือนกับนิทรรศการภาพวาดครั้งก่อน หยางอวี่ถงยังคงควงแขนของลู่ซานเหอดังเดิม

เธอเองก็ได้รับการจับตามองของชายหนุ่มเช่นกัน

สายตาของลู่ซานเหอเย็นเยียบ แววตาที่มองเธอนั้น ดุเดือด ราวกับกำลังมอง...ศัตรู

หยางอวี่ถงเองก็เห็นหลินอี้เฉิงแล้ว

ในวินาทีที่เห็นนั้น เธอตกตะลึงไปเลย

เธอคิดไม่ถึงว่าจะเจอหลินอี้เฉิงที่นี่ และยิ่งคิดไม่ถึงว่า หลินอี้เฉิงจะใส่ชุดที่สวยกว่าครั้งก่อนเสียอีก

กระทั่งเธอยังรู้สึกตกตะลึง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงผู้ชายเลย

เธอมองไปที่ลู่ซานเหอโดยอัตโนมัติ

สุดท้าย กลับเห็นความเดือดดาลเล็กน้อยจากในแววตาของชายหนุ่ม

ในช่วงนี้ที่ได้อยู่ใกล้ชิดลู่ซานเหอ ก็พอเข้าใจนิสัยของเขาบ้างเล็กน้อยแล้ว

ตอนนี้เขาเม้มริมฝีปากบางแน่น แววตาเย็นเยียบ ด้านนอกมองอารมณ์ใด ๆ ไม่ออก ทว่าหยางอวี่ถงรู้ดี เขาโมโหขึ้นมาแล้ว

ฉะนั้น พอเห็นหลินอี้เฉิงที่สวยเพริศพริ้งแบบนี้ เขาไม่เพียงไม่ตกตะลึงใด ๆ กลับยังโกรธอีก?

หยางอวี่ถงพลันวางใจ

ลู่ซานเหอต้องเกลียดหลินอี้เฉิงแค่ไหนกัน แค่เห็นเธอก็โมโหแล้ว ไม่แยแสการแต่งตัวของเธอเลยสักนิด

หยางอวี่ถงกระซิบขึ้นว่า “ซานเหอ เราจะเข้าไปทักทายหมอหลินไหมคะ? แต่ว่า ฉันเห็นเธอพูดคุยกับผู้ชายข้าง ๆ คนนั้นดูสนุกสนานมากทีเดียว”

เมื่อหยางอวี่ถงพูดประโยคนี้ออกมา ก็ค้นพบได้สำเร็จ สีหน้าของลู่ซานเหอปั้นยากอีกสองสามส่วนแล้ว

เป็นอย่างที่คิด ผู้หญิงหลายใจ ไม่มีผู้ชายคนไหนชอบหรอก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ต่อรองรักกับนายปากไม่ตรงกับใจ   บทที่ 8

    ลู่ซานเหอไม่ชอบหลินอี้เฉิงเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ตอนนี้เมื่อเห็นเธอพูดคุยอย่างเป็นกันเองขนาดนั้นกับผู้ชายคนอื่น เดาว่าคงยิ่งเกลียดเธอมากกว่าเดิมสินะ?หยางอวี่ถงพูดต่ออีกว่า “หมอหลินนี่เก่งจริง ๆ เลยนะคะ ไม่ว่ากับใครก็คุยดีด้วยได้หมด เหมือนฉันจะโง่มาก ไม่เคยกล้าคุยกับคนแปลกหน้าเลย โดยเฉพาะกับผู้ชาย...”ยังไม่ทันพูดจบ เธอก็ทอดถอนใจออกมาเสียงหนึ่งฝีเท้าของลู่ซานเหอยิ่งฉีกกว้างขึ้นกว่าเดิม ถูลู่ถูกังพาเธอเดินไปเบื้องหน้าเธอสวมรองเท้าส้นสูง แถมกระโปรงก็ไม่เอื้อกับการก้าวยาว ลู่ซานเหอไม่ได้สนใจความรู้สึกของเธอเลยสักนิด แทบจะลากเธอเดินไปข้างหน้าด้วยซ้ำหยางอวี่ถงต้องวิ่งเหยาะถึงจะตามเขาทัน สนใจความสง่าสูงส่งอะไรไหวเสียที่ไหนกันทั้งตัวเธอเหลือเพียงความกระอักกระอ่วนราวกับสายตาของทุกคนจับจ้องมาบนตัวเธอกระทั่งเธอยังได้ยินว่ามีคนกำลังแอบกระซิบกระซาบกัน“นั่นคือผู้ช่วยของประธานลู่? เห็นชุดราตรีที่เธอใส่นั่นไหม? ฉันเองก็ไปนิทรรศการภาพวาดก่อนหน้านี้มาเหมือนกัน เหมือนว่าหลินอี้เฉิงจะเคยใส่แบบเดียวกันเป๊ะ”“ใช่ เหมือนกันเป๊ะ ๆ จริง ๆ แต่ว่า ต้องดูว่าใครใส่ ไม่พูดไม่ได้ หลินอี้เฉิงใส่อะไรก็ส

  • ต่อรองรักกับนายปากไม่ตรงกับใจ   บทที่ 9

    หลินอี้เฉิงกลับมาในที่จัดงานประมูล เจียงจี้เชินประมูลสร้อยคอฝังเพชรอีกเส้นให้จี้ซูเหยียนแล้วส่วนลู่ซานเหอและหยางอวี่ถง ไม่ได้กลับมาอีกหลังการประมูลจบลง เจียงจี้เชินจะลากพวกเธอทั้งสองคนไปบาร์ให้ได้อันที่จริงไปบาร์ก็ดื่มไม่ได้อยู่ดี เพราะวันรุ่งขึ้นเธอกับเจียงจี้เชินต้องไปทำงานสุดท้ายเมื่อมาถึงบาร์ จี้ซูเหยียนได้รับสายจากลูกค้าสายหนึ่ง จากนั้นก็รีบลุกลี้ลุกลนออกไปเลยเจียงจี้เชินลากหลินอี้เฉิงมาดื่มน้ำผลไม้ ดูคนอื่นเต้นรำ หลินอี้เฉิงดื่มจนอยากอาเจียน ทว่าเขายังไม่อยากไปสุดท้ายหลินอี้เฉิงก็ทนไม่ไหวแล้วจริง ๆ “พี่ดื่มไปคนเดียวเถอะ ฉันขอตัวก่อน”ในตอนนี้เองเจียงจี้เชินถึงได้ลุกขึ้น บอกว่าจะไปส่งเธอกลับบ้านหลินอี้เฉิงมองออกว่าเขามีเรื่องในใจ เป็นอย่างที่คิด เมื่อถึงที่หมายเขาก็ดับรถ ทว่าไม่ยอมให้หลินอี้เฉิงลงจากรถ“ว่ามาสิ เป็นอะไรกันแน่” หลินอี้เฉิงเอ่ยขึ้น “พี่เป็นคนเงียบขรึมตั้งแต่เมื่อไร?”ตอนอยู่ที่บาร์ ไม่ว่าจะถามยังไงเขาก็ไม่ตอบเจียงจี้เชินเบือนตัวมองมา “หลินอี้เฉิง สามปีแล้ว เธอยังทนรับไม่พออีกเหรอ?”หลินอี้เฉิงมองไปนอกหน้าต่าง “ถ้าพี่ไม่เป็นอะไร ฉันก็จะกลับบ้านแล้

  • ต่อรองรักกับนายปากไม่ตรงกับใจ   บทที่ 10

    เสียงคุ้นหูเป็นอย่างมาก เป็นหยางอวี่ถง?ลู่ซานเหอเดินไปตามเสียง ก่อนจะผลักประตูทั้งสองบานของทางหนีไฟออกโดยตรง“ซานเหอ!”ลู่ซานเหอก้มหน้ามองไป จากนั้นเป็นอันต้องขมวดคิ้วเป็นปมแน่นหลินอี้เฉิงหกล้มอยู่บนพื้น ใบหน้าน้อย ๆ ขาวผ่องเต็มไปด้วยสีหน้าของความเจ็บปวดเธอใช้มือจับข้อเท้าเอาไว้ กำลังเงยหน้ามองขึ้นมาพอดีลู่ซานเหอรู้มาโดยตลอดว่า หน้าตาของหลินอี้เฉิงงดงามเป็นอย่างมากทว่าสำหรับเขา การตัดสินคนจากรูปลักษณ์ภายนอกเป็นการประเมินค่าความงามที่ต่ำที่สุดทว่าในวินาทีนี้ ดวงตาที่แยกตาดำตาขาวชัดเจนของหลินอี้เฉิงทั้งสองกะพริบตามองมาปริบ ๆ ในดวงตาแฝงไปด้วยหยาดน้ำตาโปร่งใสดุจคริสตัล ลู่ซานเหอพลันตกตะลึงไปในทันใด“ซานเหอ!”หยางอวี่ถงเรียกอีกครั้งทั้ง ๆ ที่เธอก็หกล้มอยู่ข้างหลินอี้เฉิง ทำไมสายตาของลู่ซานเหอถึงตกไปที่ตัวหลินอี้เฉิงคนเดียวล่ะ?เสียงของหยางอวี่ถงดึงสติของลู่ซานเหอกลับมาเขารีบมองไปที่หยางอวี่ถง จากนั้นก็เดินอาด ๆ ลงบันไดไป แล้วคุกเข่าลงข้างกายเธอ “เกิดอะไรขึ้น?”หยางอวี่ถงมองเขาทั้งน้ำตาที่กำลังหยดลงมา “ซานเหอ ฉันไม่ได้คิดจะยั่วโมโหพี่อี้เฉิงจริง ๆ แต่ฉันไม่รู้ว่าทำไมพี่

  • ต่อรองรักกับนายปากไม่ตรงกับใจ   บทที่ 11

    หลินอี้เฉิงอึ้งจนทำอะไรไม่ถูกเจียงจี้เชินคนนี้ แม้ปกติจะดูปากคอเราะร้ายความคิดสุดโต่ง ทว่าตอนที่เขาทำงาน ความจริงแล้วตั้งใจและเคร่งครัดเป็นอย่างมาก ไม่อย่างนั้นคงไม่มีหมอสาวพยาบาลสาวถูกภาพลักษณ์ไม่ยุ่งเรื่องผู้หญิงและสุภาพจอมปลอมของเขาตกหรอกเมื่อพูดถึงลู่ซานเหอ นั่นยิ่งเป็นจ้าวแห่งความเฉยเมยเคร่งขรึม ต่อให้ภูเขาไท่ซานถล่มตรงหน้าก็ไม่เปลี่ยนสีหน้าเจียงจี้เชินต่อยตีขึ้นมาก็น่าประหลาดใจอยู่แล้ว ทำไมลู่ซานเหอถึงลงไม้ลงมือด้วยล่ะ?เห็นได้ชัดว่าทั้งสองคนล้วนเป็นคนที่ฝึกการต่อสู้ หมัดทีเท้าที เกิดเสียงลมพรึ่บ ๆกระบวนท่าหนึ่งการเคลื่อนไหวหนึ่ง มีมามีกลับหลินอี้เฉิงกระวนกระวาย ทว่าจะขยับก็ไม่ได้ “เลิกต่อยกันได้แล้ว! พวกคุณเลิกต่อยกันได้แล้ว! เจียงจี้เชิน! ลู่ซานเหอ! หยุดนะ!”หลินอี้เฉิงเดือดดาลแทบแย่ และเมื่อเห็นเจียงจี้เชินกำลังจะตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ เธอก็ยิ่งร้อนใจเธอรู้ว่าลู่ซานเหอไม่มีทางฟังเธอแน่ จึงได้แต่เรียกเจียงจี้เชิน “อาเชิน! พี่จะทำให้ฉันโมโหจนตายเลยหรือไง? เลิกต่อยกันได้แล้ว รีบมาเร็ว!”“อาเชิน! พี่เชื่อฟังสิ! เลิกต่อยกันได้แล้ว!”“เจียงจี้เชิน!”“เชื่อไหมว่าฉันจะต

  • ต่อรองรักกับนายปากไม่ตรงกับใจ   บทที่ 12

    หลินอี้เฉิงไม่กล้าเชื่อหูตัวเองลู่ซานเหอว่าอะไรนะ?เขาเป็นสัตว์เดรัจฉานเหรอ?เธอเป็นถึงขนาดนี้แล้ว ไม่คิดเลยว่าเขายังคิดเรื่องอย่างว่าอีก?เมื่อเห็นใบหน้าของหลินอี้เฉิงเต็มไปด้วยความประหลาดใจ ลู่ซานเหอก็ถอดเสื้อเชิ้ตออก “ไม่ต้องให้คุณขยับเลย”ใบหน้าน้อย ๆ ของหลินอี้เฉิง เห็นได้ชัดว่ายิ่งสดใสมีชีวิตชีวามากขึ้นเนื่องจากเดือดดาลเธอมองลู่ซานเหอทั้งเดือดเป็นฟืนเป็นไฟ “คุณ...มันเดรัจฉาน!”ลู่ซานเหอกดลงไป และยันพนักพิงโซฟาด้วยมือข้างเดียว แล้วเข้าใกล้เธอทีละนิด ๆ “ถ้าไม่เป็นเดรัจฉาน แล้วจะทำให้คุณพอใจได้ยังไง? คุณนายน้อยลู่ คุณเลือกเองสิ จะกลับห้องนอน หรือว่า...ตรงนี้?”หลินอี้เฉิงผละเขาออกไป “ลู่ซานเหอ คุณกล้าเหรอ!”“ทำไมผมจะไม่กล้าล่ะ?” ลู่ซานเหอกุมข้อมือของเธอเอาไว้ “คุณเป็นคนพูดเองนะว่าไม่ให้ผมแตะต้องคนอื่น งั้นคุณคิดว่า ผมควรทำยังไงล่ะ?”หลินอี้เฉิงอับอายจนเกรี้ยวกราด “คุณอย่าคิดก็สิ้นเรื่องแล้ว!”“ผมเป็นผู้ชาย จะไม่ให้คิดเรื่องพรรค์นี้ได้ยังไง” ลู่ซานเหอหัวเราะเบา ๆ ในเสียงหัวเราะแฝงไปด้วยความเย็นชา “หลินอี้เฉิง ถ้าคุณไม่ไหว งั้นผมไปหา...”หลินอี้เฉิงสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ เฮ

  • ต่อรองรักกับนายปากไม่ตรงกับใจ   บทที่ 13

    หลินอี้เฉิงถามเขา “เป็นอะไรไป?”“เรื่องโรงพยาบาลน่ะ” เจียงจี้เชินพูดต่อ “มีคนใช้เส้นสาย อยากจะเข้าแผนกเรา”“หมอ?”เจียงจี้เชินตอบ “ยังไม่สอบกระทั่งใบรับรอง นับเป็นหมออะไรกัน? ฉันดูข้อมูลของเขา ช่าง...ฉันให้เธอดูดีกว่า”เจียงจี้เชินล้วงโทรศัพท์ออกมาแล้วส่งให้หลินอี้เฉิงเลยหลินอี้เฉิงไม่ทันได้ดูข้อมูล ก็เห็นรูปที่อยู่ตรงมุมขวาบนของเรซูเม่เสียก่อนหยางเจียหาว?พอมาดูชื่อ เป็นชื่อนี้อย่างที่คิดจริง ๆหลินอี้เฉิงไม่ดูแล้ว เธอถามขึ้นโดยตรงเลยว่า “เขาเข้ามาโดยผ่านขั้นตอนการรับสมัครปกติเหรอ?”“จะเป็นไปได้ยังไง” เจียงจี้เชินพูดต่อ “เงื่อนไขพรรค์นี้ ถูกปัดตกตั้งแต่รอบแรกแล้ว มีคนมาหาหัวหน้าหลี่โดยตรง เธอเองก็รู้ ด้านบุคคลกรของแผนกเรา ฉันเป็นคนรับผิดชอบมาตลอด”“จัดการตามหลักการเถอะ” หลินอี้เฉิงพูดอีกว่า “เลิกโมโหได้แล้ว”“ที่ฉันโมโหคือ ตอนนี้คนพวกนี้ไม่คิดหาวิธียกระดับตัวเอง รู้จักแต่รีบร้อนจะหาผลประโยชน์ คนแบบนี้จะรักษาโรคช่วยคนดี ๆ ได้เหรอ?”ปากเจียงจี้เชินก็พูดไป มือก็ไม่ปล่อยให้ว่าง จัดการอาหารเช้าให้หลินอี้เฉิงอย่างช่ำชองหลังกินข้าวเช้า เจียงจี้เชินก็พูดขึ้นอีกว่า “เรื่องที่โร

  • ต่อรองรักกับนายปากไม่ตรงกับใจ   บทที่ 14

    คำพูดล้อเล่นของเธอเมื่อกี้ เขา...ได้ยินหรือเปล่า?ทั้งเนื้อตัวของเจียงจี้เชินเองก็ไม่เป็นตัวเองไปหมด ไม่ว่าจะพูดยังไง ที่นี่ก็เป็นอาณาเขตของตระกูลลู่เขาเองก็ไม่อยากให้หลินอี้เฉิงลำบาก จึงลุกขึ้นเลย “เธอก็รักษาตัวดี ๆ กินข้าวดี ๆ นะ ฉันขอตัวก่อน”หลินอี้เฉิงชักสายตากลับ แล้วมองไปที่เจียงจี้เชินด้วยความจริงใจสองสามส่วน “อาเชิน ขอบคุณพี่มากนะ”เจียงจี้เชินเข้าใจความหมายของเธอ ไม่มีอะไรมากไปกว่าไม่ให้เขากระทบกระทั่งกับลู่ซานเหอเจียงจี้เชินพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะสาวเท้าก้าวยาวเดินไปทางลู่ซานเหอโดยตรงกลัวว่าทั้งสองคนจะแลกหมัดกันขึ้นมาอีก หลินอี้เฉิงกำลังคิดจะเปล่งเสียง ก็เห็นเจียงจี้เชินชนไหล่ลู่ซานเหออย่างแรงตรงทางเข้า จากนั้นก็เปิดประตูเดินออกไป สายตาของลู่ซานเหอไม่ได้มองไปที่เจียงจี้เชินแม้แต่น้อยเขาจ้องหลินอี้เฉิงเขม็งหลินอี้เฉิงรับหน้ากับสายตาของเขา “ทำไมถึงกลับมาในเวลานี้ได้ล่ะ? กินข้าวหรือยัง?”ลู่ซานเหอเดินเข้ามาทีละก้าว ๆ สายตาเคร่งขรึมเย็นเยียบเขาใช้ชีวิตด้วยฐานะสูงส่งมานาน บุคลิกน่าเกรงขาม ทรงอิทธิพลเป็นอย่างมากทว่าหลินอี้เฉิงกลับไม่กลัวเลยสักนิดเขายืนอยู่ข้า

  • ต่อรองรักกับนายปากไม่ตรงกับใจ   บทที่ 15

    การแข่งขันออกแบบเสื้อผ้าไม่ได้จัดอาหารและที่พักไว้ให้ ผู้เข้าแข่งขันทุกคนต้องจัดการอาหารและที่พักเองทั้งสองคนหาโรงแรมพักใกล้ ๆ จี้ซูเหยียนนำเสื้อผ้าที่จะเอาร่วมแข่งขัน พร้อมทั้งจักรเย็บผ้าขนาดเล็กและผ้าชนิดต่าง ๆ ติดตัวมาด้วย เธอยังต้องปรับแก้เสื้อผ้าก่อนการแข่งขันรอบก่อนชิงชนะเลิศจะเริ่มหลินอี้เฉิงลงมาด้านล่างเพียงลำพัง อยากจะไปสูดอากาศตรงน้ำพุด้านหน้าทางเข้าโรงแรมสักหน่อยเธอนั่งวีลแชร์ ไปไหนก็ไม่สะดวก แต่แค่ลงมาด้านล่างก็ยังไม่มีปัญหาพนักงานตรงหน้าทางเข้าโรงแรมพาเธอไปส่งตรงหน้าประตู หลินอี้เฉิงขอบคุณเขาเสร็จ ก็บังคับวีลแชร์ไปด้านหน้าด้วยตัวเองเธอไปตามทางลาดที่อยู่ด้านข้างโรงแรม แต่ถึงยังไงก็บังคับไม่ชำนาญ ระดับความชันของทางลาดชันกว่าที่เธอคิดเอาไว้ เธอไม่ทันได้ระวัง วีลแชร์ไหลลงไปอย่างไม่สามารถควบคุมได้เธอกรีดร้องด้วยความตกใจเสียงหนึ่ง เมื่อเห็นว่าวีลแชร์เอียงเนื่องจากเร็วเกินไป และกำลังจะชนเข้ากับกำแพงหินข้าง ๆ หลินอี้เฉิงจะใจเย็นแค่ไหน ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะเกิดความหวาดกลัวขึ้นเล็กน้อยในหัวเธอกำลังคิดหาวิธีช่วยเหลือตัวเอง ทันใดนั้นวีลแชร์ก็กลับมาทรงตัวได้เธอยังหวาด

บทล่าสุด

  • ต่อรองรักกับนายปากไม่ตรงกับใจ   บทที่ 40

    ในตอนนี้เองหลินอี้เฉิงถึงพูดขึ้นว่า “แสดงว่าคุณฟู่ไม่ได้มีความทุกข์ใจจากการถูกครอบครัวบีบให้แต่งงานเชื่อมสัมพันธ์สินะคะ”“ถูกบีบ? ทุกข์ใจ?” ฟู่ซือหนานตกตะลึงเป็นอย่างมาก “ถ้าคนที่ผมต้องแต่งงานด้วยเป็นนางฟ้าเหมือนอย่างเฉิงเฉิง จะมีความทุกข์ใจได้ยังไงกัน นี่มันของหวานที่ฟ้าประทานให้ชัด ๆ ผมคงสะดุ้งตื่นจากฝันเพราะยิ้มไม่หยุดด้วยซ้ำ!”ครั้งนี้หลินอี้เฉิงถูกเขาหยอกล้อจนโพล่งขำออกมาจริง ๆขณะลู่ซานเหอเข้ามา สิ่งที่เห็นก็คือหลินอี้เฉิงหัวเราะจนไหล่สั่นใส่ฟู่ซือหนานครั้งนี้มาปาร์ตี้รวมตัวกันที่นี่ เนื่องจากหลินอี้เฉิงเกิดอุบัติเหตุ ปาร์ตี้รวมตัวเองก็จบไปทั้งแบบนั้นเช่นกันธุระในเรื่องงานของเขาก็ใกล้จะจบลงแล้ว บรรดาเพื่อน ๆ จึงชวนให้เขามารวมตัวที่นี่อีกครั้งไม่คิดเลยว่าจะเจอหลินอี้เฉิงอีกครั้งครั้งนี้เธอกลับไม่ได้ตกอยู่ในอันตราย แต่เธอนั่งอยู่ตรงข้ามผู้ชายคนอื่น ปั้นหน้าฉีกยิ้มหวานแหวว ยิ่งขัดหูขัดตาเข้าไปใหญ่!ลู่ซานเหอทิ้งหยางอวี่ถงกับเพื่อนคนอื่น ๆ ไปเลย จากนั้นก็เดินอาด ๆ ไปทางหลินอี้เฉิงหยางอวี่ถงคิดจะตามไป ทว่าซือฉางไห่รั้งเธอเอาไว้ พร้อมส่ายหน้าใส่เธอหยางอวี่ถงพลันปั้นหน้า

  • ต่อรองรักกับนายปากไม่ตรงกับใจ   บทที่ 39

    เมื่อจี้ซูเหยียนออกมา ลู่ซานเหอกับหยางอวี่ถงก็ออกไปแล้วจี้ซูเหยียนเห็นหลินอี้เฉิง ก็รีบถามขึ้นทันที “เฉิงเฉิง ทำไมเธอถึงชูป้าย?”ขณะดำเนินการเรื่องเอกสาร จี้ซูเหยียนไม่รู้ว่าฝ่ายผู้ซื้อเป็นใคร และเธอเองก็ไม่ได้ยินคนที่เสนอราคา เป็นลู่ซานเหอหลินอี้เฉิงฉีกยิ้มพลางตอบ “แน่นอนว่าเพราะชอบไงล่ะ ฉันคิดว่ามันคู่ควรกับราคานั้น”ที่หลินอี้เฉิงพูดเป็นความจริง เธอชอบชุดนี้จริง ๆ ฉะนั้นจึงไม่อยากให้มันไปอยู่บนตัวหยางอวี่ถงทว่าในท้ายที่สุด ลู่ซานเหอก็เป็นคนประมูลชุดไปการมาท่องเที่ยวต่างประเทศครั้งนี้ นับว่าเป็นจุดสิ้นสุดแล้วจี้ซูเหยียนไม่รู้ว่าหลินอี้เฉิงไปเจอเหตุการณ์น่าหวาดผวาอะไรนอกบาร์มา ยังไม่ได้ดูการแสดงเนกไท เธอยังอยากไปอีกเธออารมณ์ดีมาก ๆ หลินอี้เฉิงไม่อยากทำให้ผิดหวัง ทั้งสองคนจึงมุ่งหน้าไปที่นั่นเลยเพียงแต่ หลินอี้เฉิงคิดไม่ถึงว่า จะเจอฟู่ซือหนานที่บาร์เมื่อฟู่ซือหนานเห็นพวกเธอ ทั้งใบหน้าก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจ “เฉิงเฉิง? พวกคุณก็มาเที่ยวเล่นที่นี่ด้วยเหรอ?”นับตั้งแต่ครั้งก่อนหลินอี้เฉิงพูดไปแล้ว พยายามสวมเขาให้ลู่ซานเหอ เมื่อดูฟู่ซือหนาน จี้ซูเหยียนรู้สึกว่าถูกชะตาที

  • ต่อรองรักกับนายปากไม่ตรงกับใจ   บทที่ 38

    ชุดชุดนี้ ตกลงราคาประมูลในท้ายที่สุดที่สิบล้านเมื่อเดินออกมาจากที่จัดงานประมูล หลินอี้เฉิงก็ไปห้องน้ำ และฉวยโอกาสรอจี้ซูเหยียนไปดำเนินการเรื่องด้วยเธอออกมาจากห้องน้ำ ก็เห็นหยางอวี่ถงเติมเครื่องสำอางอยู่ด้านนอก“พี่อี้เฉิง” เธอเห็นหลินอี้เฉิงก็รีบฉีกยิ้มสดใสใส่ “คุณก็มาด้วยเหรอคะ งั้นคุณก็น่าจะรู้ว่าซานเหอประมูลเสื้อผ้าของคุณจี้ชุดนั้นมาให้ฉันแล้วใช่ไหมคะ?”หลินอี้เฉิงเอ่ยขึ้นชืด ๆ “ยินดีด้วยนะ”“ก็ไม่ได้มีอะไร ฉันบอกแล้วว่าไม่เอา ซานเหอก็จะประมูลมาให้ฉันให้ได้”หลินอี้เฉิงนึกถึงอะไรบางอย่าง ก็พลันขำออกมา ก่อนจะถามว่า “ลู่ซานเหอซื้อแค่หยกให้คุณเหรอ? คุณไม่ได้ให้เขาซื้ออย่างอื่นให้?”เธอขอแล้ว แต่ลู่ซานเหอไม่ฟังเธอเลยตอนนี้หยางอวี่ถงยังไม่รู้ว่าทำไมหลินอี้เฉิงถึงเอาแต่จับประเด็นนี้ไม่ปล่อย ต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลแน่ ๆหยางอวี่ถงไม่ยอมให้ตัวเองเผยความอ่อนแอต่อหน้าเธอเป็นอันขาด หยางอวี่ถงจึงพูดขึ้นว่า “แน่นอนว่ามีอยู่แล้ว ฉันอยากได้อะไร ซานเหอก็จะซื้อให้ฉัน”หลินอี้เฉิงตอบกลับ “งั้นก็ดีแล้ว แต่ว่า คุณเคยคิดบ้างหรือเปล่า ของที่ลู่ซานเหอซื้อให้คุณ ใช้สินสมรสที่มีร่วมกันของสามีภรร

  • ต่อรองรักกับนายปากไม่ตรงกับใจ   บทที่ 37

    ก่อนหน้านี้ที่จี้ซูเหยียนออกแบบเสื้อผ้าแค่เล่น ๆ เท่านั้นที่บ้านเธอมีเงิน ไม่จำเป็นต้องหาเลี้ยงชีพด้วยสิ่งยี้ เป็นแค่งานอดิเรกที่สนใจเท่านั้นทว่าเธอมีพรสวรรค์ในด้านนี้จริง ๆตอนหกขวบก็เข้าร่วมการแข่งขันออกแบบเสื้อผ้าระดับโลก ประสบความสำเร็จอย่างโดดเด่นด้วยชุดราตรีสไตล์จีนที่ผสมผสานระหว่างยุคโบราณและสมัยใหม่เข้าด้วยกันทว่าหลังจากนั้นเธอก็หายไปจากสายตาของโลกการออกแบบเสื้อผ้า คนที่ไม่รู้เหตุการณ์ภายในมากมาย ยังบอกว่าเธอพรสวรรค์ถดถอย ไร้ความสามารถจึงไม่ได้รับความสนใจแต่ไม่รู้เลยว่า ตอนนั้นจี้ซูเหยียนใช้เวลามาเรียนมากขึ้นความคิดของเธอเรียบง่าย เสื้อผ้าที่ออกแบบออกมาราวกับก็แฝงความชัดเจนของความงามที่ชวนให้คนตาลุกวาวชุดราตรีในครั้งนี้ เรียบง่ายเป็นอย่างยิ่ง ทว่าความล้ำค่าและงดงามเด่นชัดมาจากรายละเอียดขณะประมูล เมื่อนางแบบออกมา คนที่ชูป้ายก็มีไม่หยุดหย่อนตามปกติ หากชุดชุดหนึ่งไม่ฝังอัญมณีที่ราคาค่อนข้างสูงลิ่ว ประมูลถึงราคาหลักหลายแสนหรือหลักล้าน ก็นับว่าเป็นราคาที่ดีมากแล้วหากตกแต่งด้วยอัญมณี ประมูลถึงหลายล้าน ก็มีให้เห็นมากมายทว่าชุดนี้ของจี้ซูเหยียน ไม่ได้ตกแต่งด้วยอัญม

  • ต่อรองรักกับนายปากไม่ตรงกับใจ   บทที่ 36

    เดี๋ยวก็ช่วยเธอ เดี๋ยวก็ใส่ยาให้เธอลู่ซานเหอยกเท้าของเธอขึ้นช้า ๆ แล้วมองเฝือกที่ข้อเท้าเธอ “ผมบอกไปแล้วว่า ไม่มีเรื่องสมควรอะไรทั้งนั้น เพราะงั้น...คุณนายน้อยลู่ต้องพิจารณาสักหน่อยหรือเปล่า ว่าจะตอบแทนบุญคุณผมยังไง?”“อะไรนะ?” หลินอี้เฉิงอึ้ง “ตอบแทนบุญคุณอะไร?”“เขาว่ากันว่า บุญคุณช่วยชีวิต เอาอะไรมาตอบแทนไม่ได้...ข้างหลังว่ายังไงต่อแล้วนะ?”หลินอี้เฉิงตอบ “บุญคุณช่วยชีวิต เอาอะไรมาตอบแทนไม่ได้ ชาติหน้าเป็นทาสรับใช้ ตอบแทนบุญคุณประธานลู่ ได้ไหม?”ลู่ซานเหอยกมือขึ้นตีเธอ “หลินอี้เฉิง คุณตั้งใจหรือเปล่า?”หลินอี้เฉิงเตะเท้าออกไป “ถูกความใคร่ครอบงำ!”เธอก็ว่า ทำไมลู่ซานเหอถึงดีกับเธอขนาดนี้ที่แท้ก็มีเจตนาแอบแฝงนี่เอง“ธรรมชาติของมนุษย์คือเรื่องกินและเรื่องเพศ” ลู่ซานเหอคว้าเท้าน้อย ๆ ที่เตะคนของเธอข้างนั้นเอาไว้ ก่อนจะจูบลงบนหลังเท้าเล็กเรียวของเธอทีหนึ่ง “คุณนายน้อยลู่ ควรทำหน้าที่ของคุณได้แล้ว”หลินอี้เฉิงเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง “แล้วหลายคืนมานี้ ไปนอนที่ไหนมา?”“หลินอี้เฉิง” ลู่ซานเหอยกเท้าของเธอพลางจูบไล่ขึ้นมาตามข้อเท้าของเธอ “คุณถามแบบนี้ เหมือนกำลังหึงอยู่เลยนะ”“

  • ต่อรองรักกับนายปากไม่ตรงกับใจ   บทที่ 35

    หลินอี้เฉิงคิดเอาไว้แล้วว่า ถึงเวลานั้นถ้าคนเหล่านั้นมีตาแต่ไร้แวว ไม่เข้าใจความดีของเสื้อผ้าจี้ซูเหยียน เธอก็จะแอบประมูลมาลู่ซานเหอพูดเอาไว้แล้วไม่ใช่เหรอ เงินที่เขาหามาได้ เธอเองก็ใช้ได้ตัดใจจ่ายเงินก้อนโตซื้อเครื่องประดับหยกให้ชู้ได้ เธอแค่ซื้อเสื้อผ้า ไม่เกินไปหรอกใช่ไหม?หลินอี้เฉิงตัดสินใจแล้ว พยายามใช้ราคาที่สูงที่สุด ประมูลเสื้อผ้าของจี้ซูเหยียนมาอีกอย่าง ชุดนั้นเธอก็ชอบจริง ๆถ้าไม่ได้เป็นเพราะข้อเท้าเธอได้รับบาดเจ็บ กระทั่งจี้ซูเหยียนยังคิดเอาไว้ว่า จะให้เธอขึ้นเวทีไปเป็นนางแบบจี้ซูเหยียนยังต้องแก้จุดรายละเอียดบางอย่าง หลินอี้เฉิงคิดจะลอบจัดการแผลด้วยตัวเอง จึงคิดจะไปห้องน้ำเดิมทีทั้งสองคนไม่ได้พักด้วยกัน ทว่าลู่ซานเหอไม่กลับมา จี้ซูเหยียนกลัวจะไม่มีใครดูแลหลินอี้เฉิง ฉะนั้นจึงให้หลินอี้เฉิงมาพักด้วยกันเธอกำลังคิดจะขยับ ก็ได้ยินเสียงประตูถูกเคาะดังขึ้นเธอเดินไปเปิดประตู พบว่าลู่ซานเหอยืนอยู่นอกห้องจี้ซูเหยียนถาม “ใคร?”“ลู่ซานเหอ” หลินอี้เฉิงตอบกลับประโยคหนึ่ง “ฉันออกไปเอง”พูดจบเธอก็ออกจากห้องไป แล้วปิดประตู“มีธุระอะไร?”ลู่ซานเหอเอาแต่มองเธอ ไม่ตอบอะไ

  • ต่อรองรักกับนายปากไม่ตรงกับใจ   บทที่ 34

    ซือฉางไห่ยืนอยู่ข้าง ๆ ฉีกยิ้มอย่างมีเจตนาไม่แน่ชัดลู่ซานเหอไม่พูดพร่ำทำเพลง อุ้มหลินอี้เฉิงลงมาแล้ววางเธอลงบนวีลแชร์เลยลู่ซานเหอกำลังคิดจะไปเข็น ทว่าหยางอวี่ถงรีบเดินเข้ามา “ฉันเข็นเองค่ะ”เธอเข็นวีลแชร์ไปพลางพูดกับลู่ซานเหอขึ้นว่า “เดี๋ยวฉันไปส่งพี่อี้เฉิงเองค่ะ พี่รอฉันอยู่ที่โถง โอเคไหมคะ?”หลินอี้เฉิงเหนื่อยจนไม่อยากพูดอะไร แล้วแต่พวกเขาจะทำยังไงลู่ซานเหอมองหลินอี้เฉิงทีหนึ่ง ก่อนจะอืมออกมาหยางอวี่ถงเข็นหลินอี้เฉิงเข้าไปในลิฟต์หยางอวี่ถงรีบเอ่ยขึ้นว่า “พี่อี้เฉิง ฉันหวังว่าคุณจะไม่คิดมากนะ ซานเหอเป็นคนซื่อตรงยึดมั่นในความเป็นธรรมอยู่แล้ว เขาช่วยคุณ ไม่ได้แปลว่าเขาจะมีความรู้สึกกับคุณ”หลินอี้เฉิงแสยะยิ้มเสียงหนึ่ง “คุณเป็นชู้ แต่ยังมาทำตัวอยู่เหนือกว่าอีกเนี่ยนะ”สีหน้าของหยางอวี่ถงไม่ค่อยสู้ดีนัก เธอสูดลมหายใจเข้าลึกทีหนึ่งถึงเอ่ยขึ้นว่า “ฉันจะแต่งงานกับซานเหอ ฉันจะรอเขา”หลินอี้เฉิงหลับตาลงหยางอวี่ถงพูดต่อว่า “ที่งานประมูลสองวันก่อน เขาประมูลเครื่องประดับหยกให้ฉันชุดหนึ่ง คุณรู้ไหมว่าเท่าไร?”หลินอี้เฉิงลืมตาขึ้นมา ก็เห็นความสะใจและความโอ้อวดในแววตาของหยางอวี่ถ

  • ต่อรองรักกับนายปากไม่ตรงกับใจ   บทที่ 33

    หลินอี้เฉิงตอบ “ฉันรอเหยียนเหยียนอยู่”ลู่ซานเหอถามขึ้นอย่างเดือดดาลว่า “เธอไปไหน? เธอทิ้งคุณไว้ที่นี่คนเดียว?”หลินอี้เฉิงรู้ว่าลู่ซานเหอมีเจตนาจะพาลใส่จี้ซูเหยียนแต่เรื่องพรรค์นี้ โทษจี้ซูเหยียนไม่ได้อยู่แล้วเมื่อลู่ซานเหอเห็นเธอไม่ตอบ ก็หมุนวีลแชร์เลย “กลับไป!”บอกตามตรง ตอนนี้หลินอี้เฉิงยังนึกกลัวในภายหลังอยู่มาต่างประเทศ ความรู้สึกปลอดภัยไม่ได้มีมากมายเท่ากับในประเทศตัวเองอยู่แล้วแถมยังเกิดเรื่องแบบเมื่อครู่อีกเมื่อเห็นสีหน้าหลินอี้เฉิงซีดเผือด ลู่ซานเหอเองก็ไม่ได้พูดอะไรอีกขณะที่หลินอี้เฉิงส่งข้อความหาจี้ซูเหยียน ปลายก็นิ้วยังสั่นเทาอยู่ลู่ซานเหอเข็นวีลแชร์อยู่ ทีแรกสีหน้าหยางอวี่ถงไร้อารมณ์ จากนั้นเธอก็มาควงแขนของลู่ซานเหอ แล้วถามเขาว่า “คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ? บาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า?”ลู่ซานเหอส่ายหน้า “ผมไม่เป็นไร ทำให้คุณเป็นห่วงแล้ว”ซือฉางไห่เองก็ตามไปด้วยส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ แม้เขาจะไม่เห็น แต่ก็พอจะคาดเดาได้คงเป็นเพราะใบหน้านั้นของหลินอี้เฉิง ล่อเสือล่อจระเข้เข้ามาซือฉางไห่แสยะยิ้มอยู่ด้านหลังเสียงหนึ่งแม้เจอเรื่องแบบนี้ ต่อให้เป็นคนแป

  • ต่อรองรักกับนายปากไม่ตรงกับใจ   บทที่ 32

    ฉะนั้นพวกเขาจึงไม่เห็นลู่ซานเหออยู่ในสายตาอยู่แล้วสุดท้ายก็ถูกเตะกระเด็นออกไปคนอื่นอีกสองสามคนเมื่อเห็นดังนั้น ก็เข้ามาห้อมล้อมทันที เหลือเพียงคนที่เข็นวีลแชร์หลินอี้เฉิงนั่น“ฉันแนะนำว่าแกแส่หาเรื่องให้มันน้อย ๆ หน่อยจะดีกว่า” คนที่เป็นหัวหน้าเอ่ยขึ้น “ไม่อย่างนั้น ก็รับผิดชอบผลที่ตามมาเอง!”“ปล่อยเธอ!” สายตาของลู่ซานเหอเย็นเยียบ นัยน์ตาแฝงความเป็นกังวลที่ถูกคนสังเกตเห็นไม่ได้ง่าย ๆคนที่เป็นหัวหน้าทำสัญญาณมือไปทางวีลแชร์ คนที่เข็นวีลแชร์รีบเข็นหลินอี้เฉิงออกไปอย่างรวดเร็วลู่ซานเหอยอมให้เขาไปเสียที่ไหน ลู่ซานเหอก้าวเท้าเตรียมจะตามไป ทว่าถูกสองสามคนนี้รัดเอาไว้“หยุดนะ!” หลินอี้เฉิงกลัวจนใจเต้นรัว กลัวว่าสองสามคนนั้นจะทำให้ลู่ซานเหอบาดเจ็บ และกลัวว่าจะมีคนชักปืนออกมาถึงยังไงข่าวแบบนี้ก็พบเห็นอยู่บ่อยครั้งตอนอยู่ในประเทศทว่าคนคนนั้นกลับเข็นเธอออกไปไกลขึ้นเรื่อย ๆ ในใจของหลินอี้เฉิงตึงเครียด เธอกัดฟันแน่น แล้วกระโดดลงจากวีลแชร์โดยไม่สนใจอาการบาดเจ็บที่ขาของตัวเองเลยเห็นได้ชัดว่าคนคนนั้นก็ไม่คาดคิดเช่นกันว่า เธอจะกลิ้งลงไปจากวีลแชร์ เขาอุทานขึ้นมาด้วยความตกใจ ทว่าปฏิกิริยา

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status