แชร์

ต่อรองรักกับนายปากไม่ตรงกับใจ
ต่อรองรักกับนายปากไม่ตรงกับใจ
ผู้แต่ง: ซีซีโหย่วอวี๋

บทที่ 1

ผู้เขียน: ซีซีโหย่วอวี๋
โรงพยาบาลเฟิงหยวนเมืองหวยเป่ย แผนกฉุกเฉิน

หลินอี้เฉิงผ่าตัดต่อกันหลายเคส ทำงานจนเวียนหัวตาลาย กำลังเตรียมจะเลิกงาน ทว่าเพิ่งถอดชุดทำงานบนตัวไปได้ครึ่งหนึ่ง จู่ ๆ ประตูห้องก็ถูกคนเปิดออก

ลู่ซานเหอปรากฎตัวขึ้นตรงหน้าเธอในชุดสูททำมือราคาแพง

ชายหนุ่มบุคลิกเย็นชาเย่อหยิ่ง ดวงหน้าเคร่งขรึม จมูกโด่งริมฝีปากบาง กรามแข็งแกร่งประณีต รูปลักษณ์หล่อเหลามากจริง ๆ

ทว่าตอนนี้ เขาอุ้มหญิงสาวร่างอรชรอ้อนแอ้นคนหนึ่งเอาไว้ในอ้อมอก ภายใต้สีหน้าเย็นชาปกปิดความกังวลเอาไว้ไม่อยู่ “เธอได้รับบาดเจ็บ ดูให้เธอหน่อย”

สายตาของหลินอี้เฉิงตกไปบนดวงหน้าของหญิงสาว

หญิงสาวหน้าตาสวยหวาน แววตาไร้เดียงสา

หลินอี้เฉิงรู้มาตลอด แนวที่ลู่ซานเหอชอบก็คือแบบนี้

หลายปีแล้ว รสนิยมของเขาก็ไม่เคยเปลี่ยนเลย

“ได้รับบาดเจ็บตรงไหน?”

“ข้อเท้าแพลงน่ะ”

หลินอี้เฉิงก้มหน้าที่ไร้ซึ่งอารมณ์ใด ๆ ลงไปดูข้อเท้าของเธอ “แพลงได้ยังไง? ขยับได้ไหม?”

มือของเธอเพิ่งจะสัมผัสลงไป หญิงสาวก็ซี๊ดออกมา พร้อมมีหยาดน้ำตาเอ่อขึ้นมาในดวงเนตรแล้ว

ลู่ซานเหอรีบโน้มตัวลงไปมองจุดที่หญิงสาวได้รับบาดเจ็บทีหนึ่ง น้ำเสียงเย็นยะเยียบ “คุณเบาหน่อยได้ไหม!”

จากนั้นก็ก้มศีรษะลงไปเอ่ยกับหญิงสาวอย่างอ่อนโยนว่า “อดทนหน่อยนะ”

หยางอวี่ถงน้ำตาคลอ “ไม่โทษหมอหลินหรอกค่ะ ฉันเซนซิทีฟเกินไปเอง”

แต่งงานกับลู่ซานเหอมาสามปี หลินอี้เฉิงไม่เคยได้ยินลู่ซานเหอใช้น้ำเสียงอ่อนโยนแบบนี้ปลอบเธอเลย

เย้ยหยันกันดีจริง ๆ

มุมปากของหลินอี้เฉิงยกยิ้ม พร้อมเขียนคำสั่ง “ไปเอกซเรย์ก่อน”

ลู่ซานเหออุ้มหยางอวี่ถงไปเอกซเรย์

เมื่อฟิล์มเอกซเรย์ออกมา หลินอี้เฉิงเอ่ยขึ้นว่า “กระดูกกับเส้นเอ็นไม่มีปัญหา กลับไปพักฟื้นที่บ้านก็พอแล้ว ฉันจะสั่งยาให้นิดหน่อย กลับบ้านไปอย่าลืมทายาให้ตรงเวลานะคะ”

เธอเขียนใบสั่งยาเรียบร้อยก็ส่งไปในมือลู่ซานเหอ

ลู่ซานเหอเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “คุณรออยู่ที่นี่ก่อนนะ ผมจะไปจ่ายเงิน”

หยางอวี่ถงพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง

ลู่ซานเหอมองไปยังหลินอี้เฉิงด้วยสายตาเย็นชา พร้อมเอ่ยกำชับว่า “คุณช่วยดูแลถงถงให้ผมหน่อยนะ”

ไม่รอให้หลินอี้เฉิงตอบรับอะไร ลู่ซานเหอก็ย่างเท้าอาด ๆ ออกไป

หยางอวี่ถงถูกหลินอี้เฉิงมองจนต้องก้มศีรษะลงไป เธออธิบายด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “ฉัน ฉันไม่ระวังเลยเท้าพลิก ประธานลู่เห็นเข้า ประธานลู่...มีน้ำใจ ก็เลยพาฉันมาโรงพยาบาลน่ะค่ะ”

ลู่ซานเหอเป็นคนมีน้ำใจ?

เกรงว่านี่คงเป็นเรื่องตลกที่ตลกที่สุดที่หลินอี้เฉิงได้ยินในปีนี้ ไม่มีอะไรเทียบได้จริง ๆ

ก่อนหน้านี้พ่อแม่ของลู่ซานเหอเข้าโรงพยาบาล เรื่องลงทะเบียนจ่ายเงินแบบนี้ เขามอบหน้าที่ให้เลขาจัดการทั้งนั้น

วันนี้กลับไปจ่ายค่าตรวจให้หยางอวี่ถงด้วยตัวเอง

ในใจของหลินอี้เฉิงผุดความขมขื่นและความหงุดหงิดขึ้นมาเล็กน้อย ทว่ากลับพูดเรื่องข้อควรระวังด้วยใบหน้าไร้ซึ่งอารมณ์ใด ๆ

หยางอวี่ถงพยักหน้า

ไม่นานลู่ซานเหอก็กลับมา

หยางอวี่ถงมองลู่ซานเหอทั้งน้ำตาคลออยากจะร่ำไห้ “ประธานลู่ เมื่อกี้หมอหลินบอกมาเยอะมาก แต่ฉันจำไม่ได้...”

แววตาของลู่ซานเหอเต็มไปด้วยความอ่อนโยนพะเน้าพะนอที่หลินอี้เฉิงไม่เคยเห็นมาก่อน

“คุณไม่ต้องจำหรอก ให้ผมจำให้ก็พอแล้ว”

หยางอวี่ถงกะพริบตา ในสายตาเต็มไปด้วยความชื่นชม “ประธานลู่ คุณเก่งจังเลยค่ะ”

หลังทั้งสองคนออกไป พยาบาลก็เข้ามา “หมอหลิน ผู้ชายคนเมื่อกี้หล่อสุด ๆ ไปเลย! ดูแล้วเหมือนประธานของลู่ซื่อ กรุ๊ปมาก ๆ”

ตระกูลลู่คือการมีอยู่ของยอดพีระมิดในแวดวงไฮโซหวยเป่ย มักขึ้นพาดหัวข่าวอยู่บ่อย ๆ ใครบ้างที่ไม่รู้จักลู่ซานเหอ?

หลินอี้เฉิงตอบกลับไปด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ “ไม่รู้จัก”

หลังจากนั้นก็ถอดชุดทำงานออกก่อนจะเลิกงาน

เมื่อหลินอี้เฉิงกลับถึงบ้าน ก็ถูกคนเข้าสวมกอดจากเบื้องหลัง

ลมหายใจแสนคุ้นเคยของชายหนุ่ม ทำให้เธอฉงน

เขาเพิ่งกลับมาเมื่อวาน ทำไมวันนี้กลับมาอีกแล้วล่ะ?

น้ำเสียงของลู่ซานเหอเย็นยะเยียบ “เห็นผมกับอวี่ถงอยู่ด้วยกัน ก็ทนไม่ไหวจนต้องไปฟ้องคุณปู่? บีบให้ผมกลับบ้าน? หลินอี้เฉิง คุณนี่มันแน่จริง ๆ”

หลินอี้เฉิงยืดหลังตรง “คุณปู่บอกให้เรามีลูกด้วยกัน”

ลู่ซานเหอไม่ได้ตอบกลับอะไร ทว่าวินาทีถัดไป ลมหายใจของเขาก็แผ่คลุมหลินอี้เฉิงไปทุกส่วน

เดิมทีความต้องการในด้านนี้ของเขาก็สูงกว่าคนปกติอยู่แล้ว คืนนี้ไม่รู้ได้รับแรงกระตุ้นอะไร ถึงฮึกเหิมมากกว่าปกติ

หลินอี้เฉิงแทบจะต้านทานการจู่โจมของเขาไม่อยู่ จึงอดไม่ได้ที่จะครางเบา ๆ “คุณ คุณช้าหน่อย...”

ลู่ซานเหอกัดไปยังจุดเซนซิทีฟบนร่างกายเธอ การกระทำดำเนินต่อเนื่อง “ช้าแล้วจะทำให้คุณพอใจได้ยังไงล่ะ?”

หลินอี้เฉิงกัดไปยังลูกกระเดือกของเขา กลับถูกชายหนุ่มบีบเอวเล็ก ๆ แสนเรียวบาง พร้อมออกแรงรุกหนักขึ้น

ใครจะไปรู้ ชายหนุ่มแสนเย็นชาเฉยเมย บนเตียงกลับเร่าร้อนขนาดนี้

หลินอี้เฉิงนอนยาวจนถึงเที่ยงของวันต่อมา หลังกินข้าวเธอได้รับสายของเพื่อนสนิท จึงออกไปตามนัดข้างนอก

ภายในคลับไฮเอนด์ หลินอี้เฉิงเพิ่งเข้าไป หางตาก็เหลือบไปเห็นแผ่นหลังที่รู้สึกคุ้นเคยเล็กน้อย

แผ่นหลังแผ่นนั้นเข้าไปในห้องรับรองห้องหนึ่ง ถ้าเธอจำไม่ผิด นั่นเป็นห้องของเฉพาะของลู่ซานเหอ

ฉะนั้น ลู่ซานเหอก็อยู่ด้วย?

หลังส่งข้อความหาเพื่อนสนิท หลินอี้เฉิงก็เดินไปเคาะประตูโดยตรง

เพิ่งจะยกมือขึ้นมา ประตูก็ถูกเปิดออกจากด้านใน

ดวงหน้าไร้เดียงสาบริสุทธิ์แฝงไปด้วยรอยยิ้มสวยหวานดวงหน้าหนึ่งปรากฏขึ้นตรงหน้าเธอ

หยางอวี่ถงอยู่ในชุดเดรสยาวแขนตุ๊กตา สวยน่ารักทรงเสน่ห์เป็นอย่างยิ่ง

หลินอี้เฉิงอดไม่ได้ที่จะก้มศีรษะไปมองปกคอบัวของตน ในดวงเนตรฉายแววเศร้าสลดอยู่สองสามส่วน

“ซานเหอคุณกลับมาแล้วเหรอ...”

รอยยิ้มบนใบหน้าของหยางอวี่ถง หายวับไปในทันทีที่เห็นหลินอี้เฉิง

เธอกะพริบตาปริบ ๆ มือทั้งสองไพล่อยู่ด้านหลัง เม้มริมฝีปากแน่น

มองไปยิ่งดูไม่เป็นพิษเป็นภัยใด ๆ

“ลู่ซานเหอล่ะ?” หลินอี้เฉิงกวาดตามองไปในห้องรับรอง ก่อนจะเปิดประตูออกเลย

เมื่อคืนถูกลู่ซานเหอทรมานอยู่นานสองนาน บวกกับเป็นการมาเจอเพื่อนอีก เธอจึงไม่มีกะจิตกะใจจะแต่งตัว ได้แต่สวมชุดง่าย ๆ ทั้งตัวเต็มไปด้วยความเกียจคร้าน

ทว่าใบหน้าของเธอโดดเด่น แม้จะไม่ได้แต่งหน้า แต่ก็ไม่สามารถทำให้คนละเลยความงามของเธอได้

ใช่แล้ว ดวงหน้าของเธอสวยเพริศพริ้งทว่าเย็นชา อันที่จริงก็ไม่ค่อยเข้ากับชุดน่ารัก ๆ แบบนี้สักเท่าไร

เมื่อหยางอวี่ถงเห็นเธอ ก็สลัดความคิดอื่นทิ้งไป ก่อนจะถอยหลังหนึ่งก้าว บนใบหน้าพลันฉายแววความลุกลี้ลุกลนสองสามส่วน “ประธานลู่เขา...”

เมื่อกี้ยังเรียกว่าซานเหอ ตอนนี้เปลี่ยนเป็นประธานลู่แล้ว?

หลินอี้เฉิงเอ่ยถามขึ้นอย่างอดทน “เขาไปไหน?”

“เขาไปซื้อของให้ฉันน่ะค่ะ” หยางอวี่ถงกัดริมฝีปากล่าง น้ำเสียงยิ่งไร้เดียงสาเข้าใหญ่ “จู่ ๆ ประจำเดือนของฉันก็มาน่ะค่ะ...”

หลินอี้เฉิงกอดอกพลางเลิกคิ้ว

เธอกับลู่ซานเหอโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก แถมยังแต่งงานกันอีกสามปี ไม่เคยใช้ให้ลู่ซานเหอไปซื้อของให้เธอเลย

ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ของส่วนตัวที่ผู้หญิงใช้กันนั่นเลย

และ...หลินอี้เฉิงเพิ่งสังเกตเห็นในตอนนี้นี่เอง สูทตัวนอกที่คลุมอยู่บนตัวหยางอวี่ถง ราวกับดูคุ้นตาเล็กน้อย

ยังไงเธอก็เป็นภรรยาที่ถูกต้องของลู่ซานเหอ จึงมองประเมินหยางอวี่ถงทั้งอย่างนี้ หยางอวี่ถงไม่กล้าสบตากับเธอ เอาแต่ก้มหน้า น้ำเสียงอ่อนลงเรื่อย ๆ “เดี๋ยว...ก็น่าจะกลับมาแล้วค่ะ”

เมื่อสิ้นเสียงเธอ ก็มีชายหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้ามาจากเบื้องหลัง พร้อมพูดขึ้นว่า “ถงถง คุณยืนทำอะไรอยู่ตรงนั้นน่ะ? ซานเหอเพิ่งไปแค่เดี๋ยวเดียว คุณก็รอไม่ไหวแล้ว...”

เขายังพูดไม่ทันจบก็เห็นหลินอี้เฉิงเสียก่อน

ภายในห้องรับรองก็ไม่ได้เงียบ หลินอี้เฉิงอาจจะไม่ได้ยินคำพูดของเขาก็เป็นได้

เมื่อชายหนุ่มสบเข้ากับนัยน์ตาดำขลับเพริศแพร้วของหลินอี้เฉิง ก็เกิดความกระวนกระวายใจขึ้นมาอย่างไร้สาเหตุ

เขาหัวเราะฮ่า ๆ ก่อนจะกลับไปอีกครั้ง

หยางอวี่ถงยิ่งลุกลี้ลุกลน “คุณอย่าเข้าใจผิดนะคะ ประธานลู่แค่กลัวว่าฉันจะอาย ก็เลยหวังดีช่วยฉันเลย...”

ตอนบ่ายก็มีน้ำใจ ตอนนี้ก็หวังดี

เธอเป็นภรรยาของลู่ซานเหอ กลับไม่รู้เลยว่าลู่ซานเหอมีข้อดีเยอะขนาดนี้เชียว

และเมื่อครู่ผู้ชายคนนั้นพูดว่าอะไร เธอเองก็ได้ยิน

ผู้ชายคนนั้นเป็นเพื่อนที่โตมาด้วยกันของลู่ซานเหอ เล่นด้วยกันกับลู่ซานเหอมาตั้งแต่เด็ก ๆ ท่าทีของเขาอธิบายคำถามบางอย่างได้ชัดเจนเป็นอย่างมาก

นึกถึงตอนแรก ผู้ชายคนนั้นอคติกับเธอไม่น้อยเลยทีเดียว

เมื่อฟังคำเรียกที่เขาเรียกหยางอวี่ถงอีก...

ถ้าไม่ได้รับคำสั่งหรือได้รับอนุญาตจากลู่ซานเห คนเหล่านั้นไม่มีทางไม่มีบันยะบันยังขนาดนี้

อย่างไรก็ตาม เหล่ารุ่นที่สองในแวดวงชั้นสูงของเมืองหวยเป่ย ใครบ้างที่ไม่เย่อหยิ่ง จะทำตัวสนิทสนมเป็นกันเองกับคนใหม่ของฝ่ายเลขาขนาดนี้ได้ยังไง

หลินอี้เฉิงมองหยางอวี่ถงเพิ่มอีกทีหนึ่ง ในตอนนี้เธอเพิ่งพบว่า ราวกับเธอเคยเจอ...หญิงสาวตรงหน้าที่ไหนมาก่อนหน้านี้หรือเปล่า?

เบื้องหลังมีเสียงฝีเท้าแสนคุ้นเคยแว่วดังขึ้นมา หลินอี้เฉิงหันหน้าไป ก็เห็นลู่ซานเหอ

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ต่อรองรักกับนายปากไม่ตรงกับใจ   บทที่ 2

    บนตัวชายหนุ่มแฝงความเย็นชาและความถือตนของการอยู่บนความสูงส่งมาเนิ่นนาน ในมือกลับหิ้วถุงพลาสติกสีดำทั่วไปถุงหนึ่งไม่ต้องบอก สิ่งที่ใส่ไว้ข้างในคือผลิตภัณฑ์สำหรับประจำเดือนที่หยางอวี่ถงต้องการในตอนนี้หลินอี้เฉิงชักสายตากลับ แล้วถามเขาว่า “คืนนี้คุณปู่ให้เรากลับไปกินข้าวที่บ้านใหญ่ คุณไปได้ไหม?”ลู่ซานเหอกลับไม่มองเธอ สายตาตกไปที่หยางอวี่ถง “ยังปวดท้องอยู่หรือเปล่า? ดื่มน้ำร้อนหรือยัง?”พูดจบเขาก็ยื่นมือส่งของไปให้ หยางอวี่ถงรับไปพร้อมฉีกยิ้มอย่างเหนียมอาย แล้วตวัดสายตามองหลินอี้เฉิงอย่างรวดเร็วอีกครั้ง ถึงพูดขึ้นว่า “ดีขึ้นเยอะแล้วค่ะ ขอบคุณนะคะ”“ไปเถอะ ผมจะรอคุณอยู่ตรงนี้” ลู่ซานเหอมองเธอด้วยสีหน้าอ่อนโยน พลางพูดเสริมอีกประโยคหนึ่ง “เดี๋ยวผมจะไปส่งคุณกลับบ้าน”หยางอวี่ถงชำเลืองมองหลินอี้เฉิงด้วยความระมัดระวังอีกทีหนึ่ง จกานั้นก็หันหลังเดินออกไป“ตามมาถึงที่นี่เลยเหรอ?” ในตอนนี้เองลู่ซานเหอถึงมองไปที่หลินอี้เฉิง “มีความหมายเหรอ?”หลินอี้เฉิงเองก็ไม่อธิบายใด ๆ ได้แต่พูดว่า “ประธานลู่ครั้งนี้...จริงจังแล้วใช่ไหม?”ก่อนหน้านี้คนที่ตกเป็นข่าวกับเขา ส่วนใหญ่เป็นดาราสาวในวงการบันเท

  • ต่อรองรักกับนายปากไม่ตรงกับใจ   บทที่ 3

    ชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ หน้าตาหล่อเหลา หญิงสาวสวยหวานน่ารัก มองไปดูเหมาะสมกันอย่างมากทว่างานแบบนี้ คนส่วนใหญ่ล้วนสวมชุดทางการ โดยเฉพาะผู้หญิง กระทั่งแข่งประชันชุดราตรีบนตัวกันด้วยซ้ำเมื่อมองเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงยีนของหยางอวี่ถง ช่างไม่เข้ากันอยู่เล็กน้อยเห็นได้ชัดว่า ลู่ซานเหอกลับไม่ได้สนใจรายละเอียดพรรค์นี้เลยแต่เมื่อมองไปที่ชุดราตรีสีเทาเงินพอดีตัวของหลินอี้เฉิง หยางอวี่ถงก็กัดริมฝีปากล่าง บนใบหน้างดงามปรากฏความน้อยใจและความอึดอัดสองสามส่วน“เป็นอะไรไป?” ลู่ซานเหอก้มหน้าถามเธอหยางอวี่ถงตอบกลับด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “พวกเธอใส่ชุดทางการดี ๆ กันทั้งนั้น โดยเฉพาะหมอหลิน เดรสที่เธอใส่สวยจังเลยค่ะ”ในแววตาที่เพิ่งชักกลับมาเมื่อครู่ของลู่ซานเหอ ยังแฝงไปด้วยความเย็นชาอยู่หลายส่วนเขาเพิ่งเข้ามา ก็เห็นหลินอี้เฉิงกับเจียงจี้เชินพูดคุยหัวเราะคิกคักเจียงจี้เชินยังลูบผมของหลินอี้เฉิงด้วยให้เขาระวังรู้จักบันยะบันยัน แล้วเธอล่ะ?หลินอี้เฉิงขมวดคิ้วมองลู่ซานเหอเล็กน้อยก่อนหน้านี้เพิ่งบอกให้เขาระวังรู้จักบันยะบันยัง ตอนนี้เขากลับกล้าพาคนมาอยู่ในสายตาของทุกคนอย่างโจ่งแจ้งโชคดีที่ เม

  • ต่อรองรักกับนายปากไม่ตรงกับใจ   บทที่ 4

    หลินอี้เฉิงไม่เข้าใจเรื่องในสนามธุรกิจพวกนั้น แต่เธอเองก็รู้ว่า ตั้งแต่แต่งงานเชื่อมสัมพันธ์กับตระกูลลู่ ความมั่งคั่งของตระกูลหลิน อย่างน้อยก็ขยายตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าสามเท่าและเพราะแบบนี้ หลินโค่วชิงจึงไม่พอใจหลินอี้เฉิงวางตะเกียบลงและลุกขึ้น “หนูกินอิ่มแล้ว ขอตัวกลับก่อนนะคะ พ่อกับแม่ค่อย ๆ กินไปนะคะ”หลินโค่วชิงตะคอกด้วยความเดือดดาลอยู่เบื้องหลังเธอ “อย่าลืมสิว่าย่าแกพูดอะไรกับแกก่อนจะเสีย!”แผ่นหลังของหลินอี้เฉิงชะงักไปครู่หนึ่ง เธออึ้งอยู่หลายวินาที ทว่าก็ยังเดินออกไปเมื่อมาถึงโรงพยาบาล ไม่คิดเลยว่าเธอจะได้รับสายจากหยางอวี่ถงทีแรกเมื่อเห็นว่าเป็นเบอร์ทั่วไป เธอยังไม่อยากรับ ทว่าโทรศัพท์ดังขึ้นไม่หยุด เธอจึงทำได้เพียงรับสายเมื่อรับสาย เสียงร่ำไห่ของหยางอวี่ถงก็แว่วดังขึ้นมา “หมอหลิน คุณรีบมาเร็ว ซานเหอได้รับบาดเจ็บ!”หลินอี้เฉิงมาถึงอย่างลุกลี้ลุกลน สุดท้ายพบว่ามือของลู่ซานเหอถูกพันแผลเรียบร้อยแล้วเมื่อเห็นหลินอี้เฉิง เขาก็ขมวดคิ้ว “คุณมาได้ยังไง?”หลินอี้เฉิงมองหยางอวี่ถงทีหนึ่ง เธอไม่ตอบ ได้แต่ถามว่า “ไปทำอะไรมา?”“ประธานลู่...ได้รับบาดเจ็บก็เพราะช่วยฉัน...” หยางอว

  • ต่อรองรักกับนายปากไม่ตรงกับใจ   บทที่ 5

    หลินอี้เฉิงดูโทรศัพท์ ยังไม่เที่ยงคืนซึ่งก็หมายความว่า ผู้ชายคนนี้เพิ่งขย่มตัวเธออย่างขยันขันแข็งเสร็จ ก็จะรีบเร่งไปโอ๋หยางอวี่ถงแล้วเขายุ่งมากจริง ๆหลินอี้เฉิงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เธอได้ยินเพียงเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นของหยางอวี่ถงหลังวางสายลู่ซานเหอก็เริ่มสวมเสื้อผ้าบนตัวหลินอี้เฉิงยังแฝงความอิ่มเอมและความปวดเมื่อยหลังสุขจนถึงจุดสูงสุด เธอพาดตัวอยู่บนเตียงมองลู่ซานเหอสวมกางเกง ปกปิดกล้ามเนื้อหน้าท้องที่เห็นชัดเจนเป็นก้อน ๆ เอาไว้เขาสวมไปด้วยพลางพูดไปด้วยว่า “น้องชายของถงถงประสบอุบัติเหตุ ผมจะไปดูหน่อย ถ้าร้ายแรง คุณช่วยติดต่อโรงพยาบาลให้ที...ช่างเถอะ คุณไปกับผมเลยแล้วกัน”หลินอี้เฉิงไม่กระดุกกระดิกเขากำลังติดกระดุมเสื้อเชิ้ตแล้ว เขามองมาพร้อมขมวดคิ้ว “ทำไมไม่ขยับอีกล่ะ?”“เหมือนฉันจะไม่ได้มีหน้าที่ต้องไปช่วย...”เธอครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อคิดคำที่ค่อนข้างเหมาะสมได้แล้วก็พูดต่อว่า “ช่วยน้องชายของชู้คุณหรือเปล่า?”“คุณเป็นหมอ ช่วยชีวิตคนใกล้ตายดูแลคนบาดเจ็บเป็นหน้าที่ที่ต้องทำ” แววตาของลู่ซานเหอเต็มไปด้วยความเย็นเยียบ “หลินอี้เฉิง คุณอย่าเลือดเย็นขนาดนี้สิ”หลินอี

  • ต่อรองรักกับนายปากไม่ตรงกับใจ   บทที่ 6

    ขอบตาของหยางอวี่ถงพลันแดงระเรื่อ เธอส่ายหน้า “ฉันไม่ได้ตั้งใจค่ะ หมอหลิน ขอโทษนะคะ...”พูดจบเธอก็ถอยหลังก้าวหนึ่ง แล้วค้อมตัวให้หลินอี้เฉิงไม่เพียงแค่ค้อมตัว เธอยังค้อมอยู่นานไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมาอีกด้วยลู่ซานเหอพลันเดือดดาล “หลินอี้เฉิง นี่คุณทำอะไรน่ะ? ถงถงเธอยังเด็ก เรียกคุณว่าพี่มีปัญหาเหรอ?”“พ่อแม่ฉันมีฉันแค่คนเดียว ฉันเป็นพี่เธอไม่ได้” หลินอี้เฉิงกระตุกรอยยิ้มถากถางมุมปาก “พวกคุณต่อเถอะ”พูดจบเธอก็หมุนตัวเดินออกไปลู่ซานเหอย่างเท้าเตรียมจะตามไปทว่าถูกคนดึงชายเสื้อเอาไว้เขาหันหน้ากลับไป หยางอวี่ถงมองเขาทั้งน้ำตาไหลพราก“ซานเหอ...”“รอผมอยู่ที่นี่ก่อนนะ”ลู่ซานเหอพูดทิ้งท้ายไว้ประโยคหนึ่ง ก่อนจะรีบตามออกไปฝ่ามือที่ว่างเปล่าของหยางอวี่ถง ค่อย ๆ กำหมัดขึ้น จนเล็บทิ่มเข้าไปในเนื้อเธอกันฟันกรอด สูดลมหายใจเข้าลึก บอกตัวเองว่าจะรีบร้อนไม่ได้ ค่อย ๆ ค่อย ๆลู่ซานเหอตามไปคว้าแขนของหลินอี้เฉิงเอาไว้ “คุณงอนอะไร?”“ฉันงอน?” หลินอี้เฉิงเดือดดาลจนโพล่งขำ “ฉันมีคุณสมบัติให้งอนด้วยเหรอ?”จู่ ๆ ลู่ซานเหอก็ถามเธอขึ้นว่า “เมื่อวานคุณ...จงใจใช่ไหม?”หลินอี้เฉิงฉงน “อะไร?”“ให้

  • ต่อรองรักกับนายปากไม่ตรงกับใจ   บทที่ 7

    หลินอี้เฉิงไม่รู้ว่าทำไมอยู่แล้วจี้ซูเหยียนพูดต่อ “คืนนี้มีงานประมูลการกุศล เธอไปกับฉัน?”หลินอี้เฉิงถามขึ้น “พูดถึงหยางอวี่ถงอยู่ไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงเปลี่ยนเรื่องแล้วล่ะ”จี้ซูเหยียนตอบกลับอย่างมีลับลมคมใน “ถึงเวลาเธอก็จะรู้เอง แต่ว่าก่อนไปงานเลี้ยงคืนนี้ เธอมาที่บ้านฉันก่อน ฉันจะให้คนแต่งหน้าทำผมให้เธอ”วันนี้หลินอี้เฉิงไม่มีผ่าตัด ตอนบ่ายจึงลาหนึ่งชั่วโมง แล้วไปบ้านของจี้ซูเหยียนหลังมาถึงก็ถูกจี้ซูเหยียนกดลงตรงหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง และเริ่มแต่งหน้าให้กับเธอช่างแต่งหน้าเป็นช่างที่มีชื่อเสียงในวงการ เคยแต่งหน้าให้กับดาราชั้นนำมาไม่น้อยเธอพูดขึ้นว่า “ผิวของคุณหลินดีจริง ๆ นี่สิถึงจะเป็นผิวเนียนนุ่มน่าถนอมของจริง อีกอย่างใบหน้าของคุณ ไม่เข้าวงการบันเทิงช่างน่าเสียดายจริง ๆ”หลินอี้เฉิงตอบ “ฉันทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง ขืนไปก็คงเป็นได้แค่แจกัน”“บางคนน่ะ อยากจะเป็นแจกันยังเป็นไม่ได้เลยค่ะ”ช่างแต่งหน้าพูดคุยกับเธอไปด้วย พลางแต่งหน้าเบา ๆ ที่เหมาะกับสภาพผิวและบุคลิกของเธอไปด้วยชุด เมคอัพ ทรงผม ต่างจัดการเสร็จเรียบร้อยแล้ว หลินอี้เฉิงลุกขึ้น แววตาของจี้ซูเหยียนเต็มไปด้วยความตกตะลึ

  • ต่อรองรักกับนายปากไม่ตรงกับใจ   บทที่ 8

    ลู่ซานเหอไม่ชอบหลินอี้เฉิงเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ตอนนี้เมื่อเห็นเธอพูดคุยอย่างเป็นกันเองขนาดนั้นกับผู้ชายคนอื่น เดาว่าคงยิ่งเกลียดเธอมากกว่าเดิมสินะ?หยางอวี่ถงพูดต่ออีกว่า “หมอหลินนี่เก่งจริง ๆ เลยนะคะ ไม่ว่ากับใครก็คุยดีด้วยได้หมด เหมือนฉันจะโง่มาก ไม่เคยกล้าคุยกับคนแปลกหน้าเลย โดยเฉพาะกับผู้ชาย...”ยังไม่ทันพูดจบ เธอก็ทอดถอนใจออกมาเสียงหนึ่งฝีเท้าของลู่ซานเหอยิ่งฉีกกว้างขึ้นกว่าเดิม ถูลู่ถูกังพาเธอเดินไปเบื้องหน้าเธอสวมรองเท้าส้นสูง แถมกระโปรงก็ไม่เอื้อกับการก้าวยาว ลู่ซานเหอไม่ได้สนใจความรู้สึกของเธอเลยสักนิด แทบจะลากเธอเดินไปข้างหน้าด้วยซ้ำหยางอวี่ถงต้องวิ่งเหยาะถึงจะตามเขาทัน สนใจความสง่าสูงส่งอะไรไหวเสียที่ไหนกันทั้งตัวเธอเหลือเพียงความกระอักกระอ่วนราวกับสายตาของทุกคนจับจ้องมาบนตัวเธอกระทั่งเธอยังได้ยินว่ามีคนกำลังแอบกระซิบกระซาบกัน“นั่นคือผู้ช่วยของประธานลู่? เห็นชุดราตรีที่เธอใส่นั่นไหม? ฉันเองก็ไปนิทรรศการภาพวาดก่อนหน้านี้มาเหมือนกัน เหมือนว่าหลินอี้เฉิงจะเคยใส่แบบเดียวกันเป๊ะ”“ใช่ เหมือนกันเป๊ะ ๆ จริง ๆ แต่ว่า ต้องดูว่าใครใส่ ไม่พูดไม่ได้ หลินอี้เฉิงใส่อะไรก็ส

  • ต่อรองรักกับนายปากไม่ตรงกับใจ   บทที่ 9

    หลินอี้เฉิงกลับมาในที่จัดงานประมูล เจียงจี้เชินประมูลสร้อยคอฝังเพชรอีกเส้นให้จี้ซูเหยียนแล้วส่วนลู่ซานเหอและหยางอวี่ถง ไม่ได้กลับมาอีกหลังการประมูลจบลง เจียงจี้เชินจะลากพวกเธอทั้งสองคนไปบาร์ให้ได้อันที่จริงไปบาร์ก็ดื่มไม่ได้อยู่ดี เพราะวันรุ่งขึ้นเธอกับเจียงจี้เชินต้องไปทำงานสุดท้ายเมื่อมาถึงบาร์ จี้ซูเหยียนได้รับสายจากลูกค้าสายหนึ่ง จากนั้นก็รีบลุกลี้ลุกลนออกไปเลยเจียงจี้เชินลากหลินอี้เฉิงมาดื่มน้ำผลไม้ ดูคนอื่นเต้นรำ หลินอี้เฉิงดื่มจนอยากอาเจียน ทว่าเขายังไม่อยากไปสุดท้ายหลินอี้เฉิงก็ทนไม่ไหวแล้วจริง ๆ “พี่ดื่มไปคนเดียวเถอะ ฉันขอตัวก่อน”ในตอนนี้เองเจียงจี้เชินถึงได้ลุกขึ้น บอกว่าจะไปส่งเธอกลับบ้านหลินอี้เฉิงมองออกว่าเขามีเรื่องในใจ เป็นอย่างที่คิด เมื่อถึงที่หมายเขาก็ดับรถ ทว่าไม่ยอมให้หลินอี้เฉิงลงจากรถ“ว่ามาสิ เป็นอะไรกันแน่” หลินอี้เฉิงเอ่ยขึ้น “พี่เป็นคนเงียบขรึมตั้งแต่เมื่อไร?”ตอนอยู่ที่บาร์ ไม่ว่าจะถามยังไงเขาก็ไม่ตอบเจียงจี้เชินเบือนตัวมองมา “หลินอี้เฉิง สามปีแล้ว เธอยังทนรับไม่พออีกเหรอ?”หลินอี้เฉิงมองไปนอกหน้าต่าง “ถ้าพี่ไม่เป็นอะไร ฉันก็จะกลับบ้านแล้

บทล่าสุด

  • ต่อรองรักกับนายปากไม่ตรงกับใจ   บทที่ 40

    ในตอนนี้เองหลินอี้เฉิงถึงพูดขึ้นว่า “แสดงว่าคุณฟู่ไม่ได้มีความทุกข์ใจจากการถูกครอบครัวบีบให้แต่งงานเชื่อมสัมพันธ์สินะคะ”“ถูกบีบ? ทุกข์ใจ?” ฟู่ซือหนานตกตะลึงเป็นอย่างมาก “ถ้าคนที่ผมต้องแต่งงานด้วยเป็นนางฟ้าเหมือนอย่างเฉิงเฉิง จะมีความทุกข์ใจได้ยังไงกัน นี่มันของหวานที่ฟ้าประทานให้ชัด ๆ ผมคงสะดุ้งตื่นจากฝันเพราะยิ้มไม่หยุดด้วยซ้ำ!”ครั้งนี้หลินอี้เฉิงถูกเขาหยอกล้อจนโพล่งขำออกมาจริง ๆขณะลู่ซานเหอเข้ามา สิ่งที่เห็นก็คือหลินอี้เฉิงหัวเราะจนไหล่สั่นใส่ฟู่ซือหนานครั้งนี้มาปาร์ตี้รวมตัวกันที่นี่ เนื่องจากหลินอี้เฉิงเกิดอุบัติเหตุ ปาร์ตี้รวมตัวเองก็จบไปทั้งแบบนั้นเช่นกันธุระในเรื่องงานของเขาก็ใกล้จะจบลงแล้ว บรรดาเพื่อน ๆ จึงชวนให้เขามารวมตัวที่นี่อีกครั้งไม่คิดเลยว่าจะเจอหลินอี้เฉิงอีกครั้งครั้งนี้เธอกลับไม่ได้ตกอยู่ในอันตราย แต่เธอนั่งอยู่ตรงข้ามผู้ชายคนอื่น ปั้นหน้าฉีกยิ้มหวานแหวว ยิ่งขัดหูขัดตาเข้าไปใหญ่!ลู่ซานเหอทิ้งหยางอวี่ถงกับเพื่อนคนอื่น ๆ ไปเลย จากนั้นก็เดินอาด ๆ ไปทางหลินอี้เฉิงหยางอวี่ถงคิดจะตามไป ทว่าซือฉางไห่รั้งเธอเอาไว้ พร้อมส่ายหน้าใส่เธอหยางอวี่ถงพลันปั้นหน้า

  • ต่อรองรักกับนายปากไม่ตรงกับใจ   บทที่ 39

    เมื่อจี้ซูเหยียนออกมา ลู่ซานเหอกับหยางอวี่ถงก็ออกไปแล้วจี้ซูเหยียนเห็นหลินอี้เฉิง ก็รีบถามขึ้นทันที “เฉิงเฉิง ทำไมเธอถึงชูป้าย?”ขณะดำเนินการเรื่องเอกสาร จี้ซูเหยียนไม่รู้ว่าฝ่ายผู้ซื้อเป็นใคร และเธอเองก็ไม่ได้ยินคนที่เสนอราคา เป็นลู่ซานเหอหลินอี้เฉิงฉีกยิ้มพลางตอบ “แน่นอนว่าเพราะชอบไงล่ะ ฉันคิดว่ามันคู่ควรกับราคานั้น”ที่หลินอี้เฉิงพูดเป็นความจริง เธอชอบชุดนี้จริง ๆ ฉะนั้นจึงไม่อยากให้มันไปอยู่บนตัวหยางอวี่ถงทว่าในท้ายที่สุด ลู่ซานเหอก็เป็นคนประมูลชุดไปการมาท่องเที่ยวต่างประเทศครั้งนี้ นับว่าเป็นจุดสิ้นสุดแล้วจี้ซูเหยียนไม่รู้ว่าหลินอี้เฉิงไปเจอเหตุการณ์น่าหวาดผวาอะไรนอกบาร์มา ยังไม่ได้ดูการแสดงเนกไท เธอยังอยากไปอีกเธออารมณ์ดีมาก ๆ หลินอี้เฉิงไม่อยากทำให้ผิดหวัง ทั้งสองคนจึงมุ่งหน้าไปที่นั่นเลยเพียงแต่ หลินอี้เฉิงคิดไม่ถึงว่า จะเจอฟู่ซือหนานที่บาร์เมื่อฟู่ซือหนานเห็นพวกเธอ ทั้งใบหน้าก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจ “เฉิงเฉิง? พวกคุณก็มาเที่ยวเล่นที่นี่ด้วยเหรอ?”นับตั้งแต่ครั้งก่อนหลินอี้เฉิงพูดไปแล้ว พยายามสวมเขาให้ลู่ซานเหอ เมื่อดูฟู่ซือหนาน จี้ซูเหยียนรู้สึกว่าถูกชะตาที

  • ต่อรองรักกับนายปากไม่ตรงกับใจ   บทที่ 38

    ชุดชุดนี้ ตกลงราคาประมูลในท้ายที่สุดที่สิบล้านเมื่อเดินออกมาจากที่จัดงานประมูล หลินอี้เฉิงก็ไปห้องน้ำ และฉวยโอกาสรอจี้ซูเหยียนไปดำเนินการเรื่องด้วยเธอออกมาจากห้องน้ำ ก็เห็นหยางอวี่ถงเติมเครื่องสำอางอยู่ด้านนอก“พี่อี้เฉิง” เธอเห็นหลินอี้เฉิงก็รีบฉีกยิ้มสดใสใส่ “คุณก็มาด้วยเหรอคะ งั้นคุณก็น่าจะรู้ว่าซานเหอประมูลเสื้อผ้าของคุณจี้ชุดนั้นมาให้ฉันแล้วใช่ไหมคะ?”หลินอี้เฉิงเอ่ยขึ้นชืด ๆ “ยินดีด้วยนะ”“ก็ไม่ได้มีอะไร ฉันบอกแล้วว่าไม่เอา ซานเหอก็จะประมูลมาให้ฉันให้ได้”หลินอี้เฉิงนึกถึงอะไรบางอย่าง ก็พลันขำออกมา ก่อนจะถามว่า “ลู่ซานเหอซื้อแค่หยกให้คุณเหรอ? คุณไม่ได้ให้เขาซื้ออย่างอื่นให้?”เธอขอแล้ว แต่ลู่ซานเหอไม่ฟังเธอเลยตอนนี้หยางอวี่ถงยังไม่รู้ว่าทำไมหลินอี้เฉิงถึงเอาแต่จับประเด็นนี้ไม่ปล่อย ต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลแน่ ๆหยางอวี่ถงไม่ยอมให้ตัวเองเผยความอ่อนแอต่อหน้าเธอเป็นอันขาด หยางอวี่ถงจึงพูดขึ้นว่า “แน่นอนว่ามีอยู่แล้ว ฉันอยากได้อะไร ซานเหอก็จะซื้อให้ฉัน”หลินอี้เฉิงตอบกลับ “งั้นก็ดีแล้ว แต่ว่า คุณเคยคิดบ้างหรือเปล่า ของที่ลู่ซานเหอซื้อให้คุณ ใช้สินสมรสที่มีร่วมกันของสามีภรร

  • ต่อรองรักกับนายปากไม่ตรงกับใจ   บทที่ 37

    ก่อนหน้านี้ที่จี้ซูเหยียนออกแบบเสื้อผ้าแค่เล่น ๆ เท่านั้นที่บ้านเธอมีเงิน ไม่จำเป็นต้องหาเลี้ยงชีพด้วยสิ่งยี้ เป็นแค่งานอดิเรกที่สนใจเท่านั้นทว่าเธอมีพรสวรรค์ในด้านนี้จริง ๆตอนหกขวบก็เข้าร่วมการแข่งขันออกแบบเสื้อผ้าระดับโลก ประสบความสำเร็จอย่างโดดเด่นด้วยชุดราตรีสไตล์จีนที่ผสมผสานระหว่างยุคโบราณและสมัยใหม่เข้าด้วยกันทว่าหลังจากนั้นเธอก็หายไปจากสายตาของโลกการออกแบบเสื้อผ้า คนที่ไม่รู้เหตุการณ์ภายในมากมาย ยังบอกว่าเธอพรสวรรค์ถดถอย ไร้ความสามารถจึงไม่ได้รับความสนใจแต่ไม่รู้เลยว่า ตอนนั้นจี้ซูเหยียนใช้เวลามาเรียนมากขึ้นความคิดของเธอเรียบง่าย เสื้อผ้าที่ออกแบบออกมาราวกับก็แฝงความชัดเจนของความงามที่ชวนให้คนตาลุกวาวชุดราตรีในครั้งนี้ เรียบง่ายเป็นอย่างยิ่ง ทว่าความล้ำค่าและงดงามเด่นชัดมาจากรายละเอียดขณะประมูล เมื่อนางแบบออกมา คนที่ชูป้ายก็มีไม่หยุดหย่อนตามปกติ หากชุดชุดหนึ่งไม่ฝังอัญมณีที่ราคาค่อนข้างสูงลิ่ว ประมูลถึงราคาหลักหลายแสนหรือหลักล้าน ก็นับว่าเป็นราคาที่ดีมากแล้วหากตกแต่งด้วยอัญมณี ประมูลถึงหลายล้าน ก็มีให้เห็นมากมายทว่าชุดนี้ของจี้ซูเหยียน ไม่ได้ตกแต่งด้วยอัญม

  • ต่อรองรักกับนายปากไม่ตรงกับใจ   บทที่ 36

    เดี๋ยวก็ช่วยเธอ เดี๋ยวก็ใส่ยาให้เธอลู่ซานเหอยกเท้าของเธอขึ้นช้า ๆ แล้วมองเฝือกที่ข้อเท้าเธอ “ผมบอกไปแล้วว่า ไม่มีเรื่องสมควรอะไรทั้งนั้น เพราะงั้น...คุณนายน้อยลู่ต้องพิจารณาสักหน่อยหรือเปล่า ว่าจะตอบแทนบุญคุณผมยังไง?”“อะไรนะ?” หลินอี้เฉิงอึ้ง “ตอบแทนบุญคุณอะไร?”“เขาว่ากันว่า บุญคุณช่วยชีวิต เอาอะไรมาตอบแทนไม่ได้...ข้างหลังว่ายังไงต่อแล้วนะ?”หลินอี้เฉิงตอบ “บุญคุณช่วยชีวิต เอาอะไรมาตอบแทนไม่ได้ ชาติหน้าเป็นทาสรับใช้ ตอบแทนบุญคุณประธานลู่ ได้ไหม?”ลู่ซานเหอยกมือขึ้นตีเธอ “หลินอี้เฉิง คุณตั้งใจหรือเปล่า?”หลินอี้เฉิงเตะเท้าออกไป “ถูกความใคร่ครอบงำ!”เธอก็ว่า ทำไมลู่ซานเหอถึงดีกับเธอขนาดนี้ที่แท้ก็มีเจตนาแอบแฝงนี่เอง“ธรรมชาติของมนุษย์คือเรื่องกินและเรื่องเพศ” ลู่ซานเหอคว้าเท้าน้อย ๆ ที่เตะคนของเธอข้างนั้นเอาไว้ ก่อนจะจูบลงบนหลังเท้าเล็กเรียวของเธอทีหนึ่ง “คุณนายน้อยลู่ ควรทำหน้าที่ของคุณได้แล้ว”หลินอี้เฉิงเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง “แล้วหลายคืนมานี้ ไปนอนที่ไหนมา?”“หลินอี้เฉิง” ลู่ซานเหอยกเท้าของเธอพลางจูบไล่ขึ้นมาตามข้อเท้าของเธอ “คุณถามแบบนี้ เหมือนกำลังหึงอยู่เลยนะ”“

  • ต่อรองรักกับนายปากไม่ตรงกับใจ   บทที่ 35

    หลินอี้เฉิงคิดเอาไว้แล้วว่า ถึงเวลานั้นถ้าคนเหล่านั้นมีตาแต่ไร้แวว ไม่เข้าใจความดีของเสื้อผ้าจี้ซูเหยียน เธอก็จะแอบประมูลมาลู่ซานเหอพูดเอาไว้แล้วไม่ใช่เหรอ เงินที่เขาหามาได้ เธอเองก็ใช้ได้ตัดใจจ่ายเงินก้อนโตซื้อเครื่องประดับหยกให้ชู้ได้ เธอแค่ซื้อเสื้อผ้า ไม่เกินไปหรอกใช่ไหม?หลินอี้เฉิงตัดสินใจแล้ว พยายามใช้ราคาที่สูงที่สุด ประมูลเสื้อผ้าของจี้ซูเหยียนมาอีกอย่าง ชุดนั้นเธอก็ชอบจริง ๆถ้าไม่ได้เป็นเพราะข้อเท้าเธอได้รับบาดเจ็บ กระทั่งจี้ซูเหยียนยังคิดเอาไว้ว่า จะให้เธอขึ้นเวทีไปเป็นนางแบบจี้ซูเหยียนยังต้องแก้จุดรายละเอียดบางอย่าง หลินอี้เฉิงคิดจะลอบจัดการแผลด้วยตัวเอง จึงคิดจะไปห้องน้ำเดิมทีทั้งสองคนไม่ได้พักด้วยกัน ทว่าลู่ซานเหอไม่กลับมา จี้ซูเหยียนกลัวจะไม่มีใครดูแลหลินอี้เฉิง ฉะนั้นจึงให้หลินอี้เฉิงมาพักด้วยกันเธอกำลังคิดจะขยับ ก็ได้ยินเสียงประตูถูกเคาะดังขึ้นเธอเดินไปเปิดประตู พบว่าลู่ซานเหอยืนอยู่นอกห้องจี้ซูเหยียนถาม “ใคร?”“ลู่ซานเหอ” หลินอี้เฉิงตอบกลับประโยคหนึ่ง “ฉันออกไปเอง”พูดจบเธอก็ออกจากห้องไป แล้วปิดประตู“มีธุระอะไร?”ลู่ซานเหอเอาแต่มองเธอ ไม่ตอบอะไ

  • ต่อรองรักกับนายปากไม่ตรงกับใจ   บทที่ 34

    ซือฉางไห่ยืนอยู่ข้าง ๆ ฉีกยิ้มอย่างมีเจตนาไม่แน่ชัดลู่ซานเหอไม่พูดพร่ำทำเพลง อุ้มหลินอี้เฉิงลงมาแล้ววางเธอลงบนวีลแชร์เลยลู่ซานเหอกำลังคิดจะไปเข็น ทว่าหยางอวี่ถงรีบเดินเข้ามา “ฉันเข็นเองค่ะ”เธอเข็นวีลแชร์ไปพลางพูดกับลู่ซานเหอขึ้นว่า “เดี๋ยวฉันไปส่งพี่อี้เฉิงเองค่ะ พี่รอฉันอยู่ที่โถง โอเคไหมคะ?”หลินอี้เฉิงเหนื่อยจนไม่อยากพูดอะไร แล้วแต่พวกเขาจะทำยังไงลู่ซานเหอมองหลินอี้เฉิงทีหนึ่ง ก่อนจะอืมออกมาหยางอวี่ถงเข็นหลินอี้เฉิงเข้าไปในลิฟต์หยางอวี่ถงรีบเอ่ยขึ้นว่า “พี่อี้เฉิง ฉันหวังว่าคุณจะไม่คิดมากนะ ซานเหอเป็นคนซื่อตรงยึดมั่นในความเป็นธรรมอยู่แล้ว เขาช่วยคุณ ไม่ได้แปลว่าเขาจะมีความรู้สึกกับคุณ”หลินอี้เฉิงแสยะยิ้มเสียงหนึ่ง “คุณเป็นชู้ แต่ยังมาทำตัวอยู่เหนือกว่าอีกเนี่ยนะ”สีหน้าของหยางอวี่ถงไม่ค่อยสู้ดีนัก เธอสูดลมหายใจเข้าลึกทีหนึ่งถึงเอ่ยขึ้นว่า “ฉันจะแต่งงานกับซานเหอ ฉันจะรอเขา”หลินอี้เฉิงหลับตาลงหยางอวี่ถงพูดต่อว่า “ที่งานประมูลสองวันก่อน เขาประมูลเครื่องประดับหยกให้ฉันชุดหนึ่ง คุณรู้ไหมว่าเท่าไร?”หลินอี้เฉิงลืมตาขึ้นมา ก็เห็นความสะใจและความโอ้อวดในแววตาของหยางอวี่ถ

  • ต่อรองรักกับนายปากไม่ตรงกับใจ   บทที่ 33

    หลินอี้เฉิงตอบ “ฉันรอเหยียนเหยียนอยู่”ลู่ซานเหอถามขึ้นอย่างเดือดดาลว่า “เธอไปไหน? เธอทิ้งคุณไว้ที่นี่คนเดียว?”หลินอี้เฉิงรู้ว่าลู่ซานเหอมีเจตนาจะพาลใส่จี้ซูเหยียนแต่เรื่องพรรค์นี้ โทษจี้ซูเหยียนไม่ได้อยู่แล้วเมื่อลู่ซานเหอเห็นเธอไม่ตอบ ก็หมุนวีลแชร์เลย “กลับไป!”บอกตามตรง ตอนนี้หลินอี้เฉิงยังนึกกลัวในภายหลังอยู่มาต่างประเทศ ความรู้สึกปลอดภัยไม่ได้มีมากมายเท่ากับในประเทศตัวเองอยู่แล้วแถมยังเกิดเรื่องแบบเมื่อครู่อีกเมื่อเห็นสีหน้าหลินอี้เฉิงซีดเผือด ลู่ซานเหอเองก็ไม่ได้พูดอะไรอีกขณะที่หลินอี้เฉิงส่งข้อความหาจี้ซูเหยียน ปลายก็นิ้วยังสั่นเทาอยู่ลู่ซานเหอเข็นวีลแชร์อยู่ ทีแรกสีหน้าหยางอวี่ถงไร้อารมณ์ จากนั้นเธอก็มาควงแขนของลู่ซานเหอ แล้วถามเขาว่า “คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ? บาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า?”ลู่ซานเหอส่ายหน้า “ผมไม่เป็นไร ทำให้คุณเป็นห่วงแล้ว”ซือฉางไห่เองก็ตามไปด้วยส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ แม้เขาจะไม่เห็น แต่ก็พอจะคาดเดาได้คงเป็นเพราะใบหน้านั้นของหลินอี้เฉิง ล่อเสือล่อจระเข้เข้ามาซือฉางไห่แสยะยิ้มอยู่ด้านหลังเสียงหนึ่งแม้เจอเรื่องแบบนี้ ต่อให้เป็นคนแป

  • ต่อรองรักกับนายปากไม่ตรงกับใจ   บทที่ 32

    ฉะนั้นพวกเขาจึงไม่เห็นลู่ซานเหออยู่ในสายตาอยู่แล้วสุดท้ายก็ถูกเตะกระเด็นออกไปคนอื่นอีกสองสามคนเมื่อเห็นดังนั้น ก็เข้ามาห้อมล้อมทันที เหลือเพียงคนที่เข็นวีลแชร์หลินอี้เฉิงนั่น“ฉันแนะนำว่าแกแส่หาเรื่องให้มันน้อย ๆ หน่อยจะดีกว่า” คนที่เป็นหัวหน้าเอ่ยขึ้น “ไม่อย่างนั้น ก็รับผิดชอบผลที่ตามมาเอง!”“ปล่อยเธอ!” สายตาของลู่ซานเหอเย็นเยียบ นัยน์ตาแฝงความเป็นกังวลที่ถูกคนสังเกตเห็นไม่ได้ง่าย ๆคนที่เป็นหัวหน้าทำสัญญาณมือไปทางวีลแชร์ คนที่เข็นวีลแชร์รีบเข็นหลินอี้เฉิงออกไปอย่างรวดเร็วลู่ซานเหอยอมให้เขาไปเสียที่ไหน ลู่ซานเหอก้าวเท้าเตรียมจะตามไป ทว่าถูกสองสามคนนี้รัดเอาไว้“หยุดนะ!” หลินอี้เฉิงกลัวจนใจเต้นรัว กลัวว่าสองสามคนนั้นจะทำให้ลู่ซานเหอบาดเจ็บ และกลัวว่าจะมีคนชักปืนออกมาถึงยังไงข่าวแบบนี้ก็พบเห็นอยู่บ่อยครั้งตอนอยู่ในประเทศทว่าคนคนนั้นกลับเข็นเธอออกไปไกลขึ้นเรื่อย ๆ ในใจของหลินอี้เฉิงตึงเครียด เธอกัดฟันแน่น แล้วกระโดดลงจากวีลแชร์โดยไม่สนใจอาการบาดเจ็บที่ขาของตัวเองเลยเห็นได้ชัดว่าคนคนนั้นก็ไม่คาดคิดเช่นกันว่า เธอจะกลิ้งลงไปจากวีลแชร์ เขาอุทานขึ้นมาด้วยความตกใจ ทว่าปฏิกิริยา

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status