Share

Chapter 53.จบ

last update Last Updated: 2025-01-01 16:12:13

            ชีวิตสี่ปีของหลันหลันเป็นเช่นนี้เรื่อยมา

            หลัววั่งรู้สึกว่ามีคนเข้ามา จึงเงยหน้าขึ้น เมื่อเห็นว่าผู้มาใหม่เป็นใครเขาก็ส่งยิ้มกว้างแล้วเดินออกไปอย่างเงียบๆ

            “ท่านรีบกลับเถิด ที่นี่ข้าจัดการเองได้”

            “ไยรีบไล่ข้าไปเล่า หรือเจ้านัดผู้ใดไว้”

            หญิงสาวได้ยินน้ำเสียงที่คุ้นเคยจึงเงยหน้าขึ้น บุรุษร่างสูงโปร่งสวมอาภรณ์สีเขียวใบไผ่ใบหน้าอ่อนล้าแต่ยังมีรอยยิ้มอ่อนโยน

“ท่านมาแล้ว”

เซียวเหรินส่งยิ้มให้นาง แม้เหนื่อยล้าจากการเร่งรีบเดินทางมา ทว่าเพียงได้เห็นรอยยิ้มนาง ความเหน็ดเหนื่อยเหล่านั้นพลันมลายหายไปสิ้น

“เหตุใดกลับเร็วนักเล่า”  หลันหลันอดเป็นห่วงไม่ได้ “ตามจริงต้องอีกสิบวันท่านจะกลับไม่ใช่หรือ? เดินทางไปตรวจดูการซ่อมแซมเขื่อนเป็นอย่างไรบ้าง ”

“เจ้าไม่อยากเห็นหน้าสามีหรือไร”

เขาทำเสียงไม่พอใจแต่เดินไปนั่งใกล้ๆ แล้วจับชีพจรให้นาง และไม่พูดเรื่องงานกับนาง จะว่าไป ก็ไม่มีมีเรื่องใดในชีวิตของเขาที่หลุดรอดสายตาของนาง เช่นเดียวกับที่เขารู้ว่าในแต่ละวันนางทำอะไร นางมีคนคอยส่งข่าว ส่งเขาให้จูเต๋ออี้วางองครักษ์ลับไว้โดบรอบ

 “พิษในตัวข้ายังต้องใช้เวลาในการขับพิษ”  นางดึงข้อมือกลับ ทุกครั้งที่เขาเรียกตนเองว่า ‘สามี’  หลันหลันต้องหน้าแดงอย่างห้ามไม่ได้ทุกที   “ฮ่องเต้น้อยเป็นอย่างไรบ้าง”

“ยังจะเรียกฮ่องเต้น้อยอีกหรือ? อีกไม่กี่ปี หงก่วงก็ตัวสูงกว่าเจ้าแล้ว”  เซียวเหรินปล่อยมือจากข้อมือของนางแล้วหยิบเอากล่องใบเล็กๆ ส่งให้ “หงก่วงฝากมาให้ป้าสะใภ้ของเขา”

“เรียกเช่นนี้ข้ารู้สึกแก่พิกล” หญิงสาวเบ้ปากใส่  ท่าทางน่าเอ็นดูของนางทำให้เซียวเหรินหัวเราะออกมา

“เจ้ากราบไหว้ฟ้าดินกับข้าแล้ว ก็ต้องเป็นป้าสะใภ้ให้เจ้าฮ่องเต้น้อยนั้นสิ”

หลันหลันส่ายหน้าไปมารับกล่องมาเปิดออกดู ด้านในบรรจุลูกอมดอกกุ้ยฮวา นางถึงกับหัวเราะออกมา

“ฮ่องเต้น้อยคงเห็นข้ากินยามากกระมัง ถึงได้ส่งขนมหวานมาให้เช่นนี้”

เซียวเหรินส่ายหน้าระอาใจ เฝ้าเพียรสั่งสอนมาหลายปี หงก่วงยังมีนิสัยเป็นเด็กเอาแต่ใจ แต่เขาก็วางใจ หากแผ่นแคว้นโฮ่วฉินอยู่ภายใต้การปกครองของหงก่วง

หลันหลันเอนกายเข้าหาเซียวเหริน กลิ่นอายจากกายเขาทำให้ใจของนางสงบ เขาวาดวงแขนโอบกอดนางไว้ทุกครั้งโดยไม่ต้องร้องขอ  นางคิดถึงวันเวลาที่ผ่านมา กงอี้เทาพานางมาส่งที่เรือนแห่งนี้พร้อมกับปล่อยข่าวว่านางตายไปแล้ว โลกนี้จึงไม่มีอูหลันโหยวอยู่ มีเพียงแค่ ‘หลันหลัน’ ภรรยาของ ‘เซียวเหริน’ เท่านั้น  แต่กระนั้น กงเสวี่ยหลิงยังอดห่วงใยนางไม่ได้ ให้จางซงหยวนแวะเวียนมาเยี่ยมเยือนนางเป็นครั้งคราวอยู่เสมอ รวมทั้งอู๋ซิงว่านและอู๋หมิ่นลี่  นับได้ว่านางมีมิตรสหายที่ดีแล้วในชีวิตนี้

“เจ้าคิดอะไรอยู่” 

เซียวเหรินถามเมื่อเห็นว่านกน้อยของเขาเงียบไป สายลมแผ่วเบาผัดผ่าน กลิ่นหอมของดอกโบตั๋นที่ผลิบานอบอวลไปทั่วเรือนหลังนี้

“ข้าคิดถึงวันที่ได้พบท่านที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก วันนั้นก็มีดอกโบตั๋นแบ่งบานเช่นนี้”

มุมปากของชายหนุ่มยกยิ้มแล้วจุมพิตที่หน้าผากของหญิงคนรัก ทั้งเขาและนางต่างรู้ดีว่า อีกไม่นานทั้งสองจะได้ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายร่วมกัน

“ข้าทำให้เจ้าลำบากแล้ว”  เขาเอ่ยแล้วส่งยิ้มอ่อนโยนให้

“ไม่ลำบากเสียหน่อย” ‘ความลำบากหรือ? นางเคยลำบากมามากกว่านี้ การที่มีชีวิตอยู่ถึงเวลานี้นับว่านางมีบุญมากแล้ว’ “ท่านตามใจข้ามากแล้วจริงๆ ความจริงท่านไม่จำเป็นต้องรับข้าเป็นภรรยา ท่านควรมีชีวิตที่รุ่งโรจน์ มีทายาทสืบสกุล”

“เคยสัญญาว่าจะไม่พูดเรื่องนี้กันแล้วนี่” เขาขมวดคิ้วแสร้งทำหน้าดุ “หากเจ้ายังคิดเช่นนี้อีก ข้าจะรับเจ้าเข้าวังไม่สนใจคำพูดของผู้ใด

ทั้งสิ้น หรือไม่ก็...เราหนีไปด้วยกันไม่ให้ผู้ใดติดตามได้”

“ได้ๆ ข้าไม่พูดแล้ว”  นางหัวเราะออกมา

มือใหญ่วางบนหน้าท้องของหญิงคนรักแล้วโน้มหน้ากระซิบ “เจ้าไม่เชื่อในวิชาแพทย์ของข้าหรือ?”

แววตากรุ้มกริ่มของเขา ทำให้ใบหน้าของหลันหลันผ่าวร้อนจนต้องหลุบตาลงแล้วตีมือของเขาเบาๆ ใครจะเชื่อว่าภายใต้ความเย็นชาที่ผู้คนพบเห็นซุกซ่อนความร้อนแรงไว้มิดชิด

เซียวเหรินไม่อยากปล่อยเวลาให้ผ่านไปอย่างเปล่าประโยชน์  ที่เร่งสะสางจนให้เสร็จโดยเร็วเพื่อจะได้มีเวลาอยู่กับคนรักได้มากขึ้น เขาหยิบผ้ามาเช็ดมือให้หญิงสาวแล้วอุ้มร่างนุ่มนิ่มเดินเข้ามาในบ้าน

“ท่านจะทำอะไร”  ถามแล้วก็ซุกหน้ากับแผงอก นางรู้ว่าเขาส่งองครักษ์ลับคอยดูแลนางอยู่ แม้นางอยู่ลำพังแต่ไม่โดดเดี่ยว เขาอุ้มนางแบบนี้ นางจึงรู้สึกเหมือนตัวเองอยู่ในสายตาผู้อื่น

“ทำให้เจ้าเชื่อว่าข้าถอนพิษในร่างของเจ้าได้” หลังจากได้รับการบำรุงอย่างดี เจ้าของร่างนี้ก็มีน้ำมีนวลกว่าแต่ก่อนมาก เขาอุ้มนางไปวางไว้บนเตียงสบตากับดวงตาเป็นประกายของนาง

“เหลวไหลใหญ่แล้ว นี่...นี่กลางวันอยู่นะ” ทำอย่างไรนางก็หยุดเขินอายไม่ได้เสียที

“หลันเอ๋อร์” เขาเรียกนางเสียงพร่าจัดการลอกคราบภรรยาตัวน้อยออกอย่างใจเย็น “เจ้าก็รู้ว่าวิธีขับพิษออกจากร่างที่ได้ผลดีวิธีหนึ่งคือการขับออกทางเหงื่อ เจ้าไม่ชอบกินยา ข้าช่วยทำให้เจ้ามีเหงื่อ จะได้ขับพิษออกโดนเร็ว”

นางอ้าปากแต่ไม่ทันได้โต้เถียงก็ถูกริมฝีปากอุ่นทาบทับ ความทรงจำยามนางยามขโมยจุมพิต เพื่อกลืนกินลมหายใจของเขาปรากฏขึ้นอีกคราว  นางล่วงเกินเขาไว้มาก ยามนี้ถูกเขาเอาคืน ทำได้เพียงตอบสนองด้วยความเต็มใจ เรียวลิ้นหยอกล้อจนกลายเป็นระลอกหวามแสนรัญจวน สองมือผลักไสเสื้อผ้าของเขาออกอย่างไม่รู้ตัว

เซียวเหรินถอนจุมพิตขยับตัวออกห่างเล็กน้อย เพื่อคลายเสื้อผ้าของตนออก ทำให้ร่างกายของทั้งสองเปลือยเปล่า เขาทาบทับร่างนางอีกครั้ง นอกจากนางแล้ว เขาไม่ปรารถนาหญิงใดอีก กลิ่นอายของนางให้ความรู้สึกเหมือนถูกโอบกอดด้วยแสงตะวันในฤดูใบไม้ผลิ ทุกความเหนื่อยล้าจางหายเมื่ออยู่ใกล้  ความหลงใหลของเขาทำให้หญิงสาวครางเสียงหวาน ริมฝีปากร้อนครอบครองยอดอกที่ชูชันสั่นไหว  มือข้างหนึ่งลูบไล้ผิวกายปลุกปั่นจนร่างนางบิดเร่า จนกระทั่งเขาแทรกนิ้วแกร่งยางเข้าไปในช่องทางรักที่ฉ่ำหวาน เรียวขาแยกออกเชื้อเชิญอย่างไม่รู้ตัว ทุกการขยับเข้าออกของเรียวนิ้วเรียกร้องให้ตอบสนอง หญิงสาวได้แต่ปล่อยกายใจไปกับความสุขที่เขามอบให้จนร่างกายเกร็งกระตุกด้วยถึงจุดสุขสม

“เห็นไหม เหงื่อเจ้าออกแล้ว”  เซียวเหรินกระซิบหยอกล้อ ถอนนิ้วของตนออกแล้วกดแก่นกายของบุรุษเพศไปแทนที่

เรียวขางามโอบรัดเอวสอบ เสียงคำรามในลำคออย่างพอใจที่ถูกกอดรัดเช่นนี้ เขาโน้มหน้าลงประกบริมฝีปากที่เผยอขึ้น แทรกเรียวลิ้นเกี่ยวกระหวัดกับลิ้นน้อยๆ ทรวงอกคู่งามบดเบียดแผ่นอกกำยำ ร่างสองร่างแนบชิดก่อนที่เขาจะเริ่มขยับสะโพกแกร่งบดเบียดเรียกร้องจนหญิงสาวครางเสียงหวาน เสียงของนางยิ่งปลุกเร้าชายหนุ่มให้ขยับเคลื่อนไหว เร็วขึ้นแต่กระนั้นก็ไม่ได้รุนแรงและไม่ได้กดทับจนเกินไป

หลันหลันแปลกใจเล็กน้อย ทว่ายังไม่ทันคิดหาเหตุผล เขาก็จับนางพลิกให้นอนตะแคง ยกเรียวขางามขึ้นและเริ่มบทรักอีกระลอก ความเสียวซ่านที่เขาบรรจงมอบให้ทำให้นางลืมสิ้นทุกสิ่ง  ร่างกายสั่นไหวรับจังหวะสอดประสาน น้ำรักไหลอาบต้นขา นางได้แต่หอบครางและปล่อยให้เขานำพาไปถึงจุดสุขสมอีกครั้ง และเป็นจังหวะเดียวกับที่เขาปลดปล่อยสายธารรักในส่วนลึกของกายนาง เสียงคำรามดังขึ้นข้างหูของหญิงสาว นางสั่นสะท้านจนกายสั่นระริก เขารอจนหัวใจเต้นเป็นปกติแล้วจึงค่อยๆ ถอนตัวตนออกช้าๆ พลิกตัวนางกลับมาในวงแขน ทว่ากลับวางฝ่ามือไว้บนหน้าท้องของนางอย่างทะนุถนอม นางจับมือของเขาแล้วเงยหน้าขึ้นสบตา

“อีกหน่อยเจ้าเป็นแม่คนแล้ว อย่าทำตัวดื้อรั้นเด็ดขาด ต้องเชื่อฟังข้า เข้าใจไหม”

“ท่าน...ท่านพูดจริงหรือ?” 

ถ้อยคำของเขาทำให้หัวใจของนางแทบหยุดเต้นไป ทำไมนางไม่รู้ตัวเลย  หรือว่า...ที่ผ่านมา เพราะคิดว่าตัวเองไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ จึงไม่ได้สนใจการเปลี่ยนแปลงของร่างกายตนเอง

“ถือว่าเจ้ารับปากแล้ว”  เขาจุมพิตหน้าผากของนางอีกครั้ง “ถึงเวลานั้นเราจะอยู่ด้วยกันพ่อแม่ลูก”

แน่นอนว่า เขาไม่ยอมให้นางดื้อดึงอีก ตามใจเจ้านกน้อยตัวนี้มามากเกินไปแล้ว นับจากนี้ไป นางต้องอยู่ในสายตาของเขา ให้เขาได้ดูแลทั้งแม่และลูกที่กำลังจะเกิดมา

หลันหลันสบตากับดวงตาที่เผยความจริงใจของเขาแล้วก็รู้สึกว่า สายตาคู่นี้มองนางเช่นนี้มาตั้งแต่วันแรกที่ได้พบเจอ

และนางรู้ว่าจะเป็นเช่นนี้ตลอดไป

The End

Related chapters

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 1. ‘หมอเทวดาไร้ใจ’

    “ไม่เอาแล้ว ข้าไม่ฝึกฝนอีกแล้ว”เด็กน้อยมองฝ่ามือสองข้างที่ยังสั่นระริกของตนเอง ร่างเล็กนั่งขดตัวในพุ่มดงดอกโบตั๋น ดวงตางดงามฉ่ำวาวด้วยน้ำตาที่เอ่อคลอ เด็กหญิงกลั้นเสียงสะอื้นแล้วยกหลังมือขึ้นปาดน้ำตาเร็วๆ ไม่ให้น้ำตาไหลเปื้อนแก้ม“ไม่เอาแล้ว ข้าไม่ฝึกฝนอีกแล้ว”พุ่มไม้ที่นางซ่อนตัวอยู่ขยับสั่นไหว เด็กน้อยรู้สึกตัวจึงเงยหน้าขึ้น เป็นจังหวะที่มือข้างหนึ่งแหวกพุ่มไม้ออก นางหลุดปากหวีดร้องแล้วขยับกายเข้าไปด้านในเพื่อซ่อนตัว “อ้าว! มีคนอยู่รึ” น้ำเสียงคุ้นเคยแม้ไม่ได้อ่อนโยน แต่ทำให้เด็กหญิงได้สติ นางกะพริบไล่หยดน้ำตาที่เอ่อคลอ เพื่อจะได้มองคนที่แหวกพุ่มไม้แล้วโน้มตัวลงมาจ้องมองนางอยู่ “เจ้า!” นางอ้าปากส่งเสียงได้เพียงแค่หนึ่งคำ เด็กหนุ่มตรงหน้ายกมุมปากเป็นรอยยิ้มบางเบาที่แทบจะมองไม่เห็น และไม่ได้เห็นบ่อยนัก มันเริ่มขึ้นเมื่อไหร่ไม่รู้ที่สายตาของนางมีเขาเพียงผู้เดียวเสียงวัตถุตกลงผิวน้ำอย่างแรงทำให้ชายหนุ่มที่อยู่ใกล้บริเวณนั้นหันไปมองทันที เพียงพริบตา ร่างสูงโปร่งทิ้งตะกร้าใส่สมุนไพรลงพื้น ใช้วิชาตัวเบาพุ่งไปราวเหาะเหิน ทว่าร่างหญิงสาว

    Last Updated : 2024-12-02
  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 2. เซียวเหริน

    หลัววั่งเป็นอีกคนในหมู่บ้านที่แวะเวียนมาบ้านของเซียวเหรินทุกวัน คอยช่วยงานทั่วไป และหากมีใครเจ็บป่วยมาแล้วทำกิริยาไม่ดีต่อท่านเซียว หลัววั่งจะออกหน้าขับไล่และปกป้องเสมอ ภายนอกเซียวเหรินคล้ายไม่สนใจผู้อื่น แท้จริงแล้วกลับห่วงใยยิ่งนัก แม้อยู่คนเดียวอย่างสันโดษ แต่ชาวบ้านผลัดกันแวะเวียนมาดูแล หลัววั่งทำไร่ไถนาดูเป็นคนไม่ค่อยฉลาดนัก แต่มีพละกำลังมหาศาล คนในหมู่บ้านจึงลงความเห็นให้หลัววั่งมาคอยดูแลเซียวเหริน หากมีเรื่องต้องแบกหามคนเจ็บคนป่วย หลัววั่งทำได้อย่างไม่ลำบาก ส่วนติงชุ่ยเป็นลูกสาวผู้ใหญ่บ้าน นางแอบหลงรักเซียวเหรินตั้งแต่ที่ชายผู้นี้มาอยู่ที่กระท่อมเชิงเขาเป่ยหมางแต่เดิมไม่มีใครรู้ว่าเซียวเหรินมีความรู้รักษาผู้คนได้ จนกระทั่งวันหนึ่งมีเด็กตกต้นไม้บาดเจ็บสาหัส หมู่บ้านเล็กๆ ไม่มีหมอ แม่ของเด็กน้อยวิ่งมาที่ภูเขาหวังใจจะบนบานกับเทพภูเขา เซียวเหรินอยู่ระหว่างเก็บของป่าได้ยินเข้าจึงติดตามไปดูอาการของเด็กน้อย ราวกับปาฏิหาริย์เด็กน้อยผู้นั้นฟื้นคืนสติ ขาที่บิดพลิกรูปก็ถูกเซียวเหรินพลิกกลับคืนรูปร่างเดิม เด็กน้อยพักฟื้นเพียงสิบกว่าวันก็สามารถวิ่งเล่นได้อีกครั้ง นับแต่นั้น ย

    Last Updated : 2024-12-02
  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 3.เป็นไปได้อย่างไร

    หลัววั่งที่พยักหน้าแรงๆ “ใช่แล้วๆ เคยมีคนป่วยที่บอกว่าตัวเองเป็นเทพเจ้าอาละวาดบ้าคลั่งถูกมัดมือมัดเท้ามา ท่านเซียวก็ฝังเข็มรักษาจนหายดี” “ติงชุ่ย ถ้าเจ้าลำบากใจก็ออกไปให้พ้นหน้าข้า” “ข้าเข้าใจแล้วเจ้าค่ะ” นางฝืนยิ้มออกมา หากยอมห่างกายเซียวเหรินก็มิรู้ว่าหญิงคนนี้สติไม่ดีจริงหรือมาหลอกลวงเซียวเหรินกันแน่ “ออกไปได้แล้ว” เซียวเหรินรอจนในห้องไม่มีใครแล้ว เขาก้มมองหญิงสาวที่หลับใหลไปอีกครั้ง เขามั่นใจว่าไม่เคยพบนางมาก่อน แต่เขารู้จัก ‘กงเสวี่ยหลิง’ เป็นการรู้จักที่ไม่เคยพบหน้ากันสักครา แต่คนแซ่กงนั้นมีคนที่เขารู้จักสนิทสนมด้วย ซึ่งบัดนี้มีตำแหน่งเป็นรัชทายาท เขาเผลอระบายลมหายใจหนักหน่วง แม้ตนเองจะใช้ชีวิตปลีกตัวจากโลกภายนอกมานานสี่ปี แต่ก็ใช่ว่าเขาจะไม่รู้เรื่องใดเลย เขาไม่ได้สนใจที่นางยืนยันว่าเป็นนกหงส์หยก แต่เป็นเพราะชุดเจ้าสาวที่นางสวมและรอยบอบช้ำตามร่างกายต่างหาก ยังไม่นับรวมที่เขาตรวจพบว่านางต้องพิษมายาวนาน “เจ้าจะเป็นนกหรือเป็นผู้ใดก็ตาม ข้าจะรักษาเจ้าจนหายดี” เป็นไปได้อย่างไร หญิงสาวถามตั

    Last Updated : 2024-12-02
  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter4. หลันหลัน

    ในมือของกงเสวี่ยหลิงกำปิ่นปักผมเปื้อนเลือดแน่น ดวงตาที่เคยอ่อนโยนคู่นั้นแข็งกร้าวไร้ความอ่อนแอ เพราะความตกใจทำให้มือสกปรกปล่อยนกน้อยให้ร่วงหล่นเพื่อไปกุมเป้ากางเกงที่ถูกปิ่นของนางจ้วงแทง กงเสวี่ยหลิงยื่นมือไปรองรับร่างของนกน้อยได้ทัน แล้วรีบหมุนตัววิ่งออกไปท่ามกลางเสียงร้องโหยหวนของชายผู้นั้น ท่ามกลางความตกตะลึงของคนรอบข้างที่ไม่รู้ว่าจะต้องช่วยผู้เป็นนายที่ร้องอย่างเจ็บปวดหรือตามหญิงสาวที่วิ่งหนีสุดฝีเท้า ‘หลันหลัน’ นกน้อยถูกกอดแนบอก ได้ยินเสียงหัวใจเต้นแรงของกงเสวี่ยหลิงแทบจะทะลุทรวงอกออกมา เท้าเล็กๆ สะดุดพื้นดินขรุขระล้มจนศีรษะกระแทกก้อนหิน แต่นางรีบยันกายขึ้นแล้วออกวิ่งไม่สนใจเลือดที่ไหลลงมาเปื้อนใบหน้า เสียงคนวิ่งไล่ตามมาด้านหลัง กงเสวี่ยหลิงไม่เสียเวลาหันไปมอง นางรู้สึกถึงบางสิ่งที่พุ่งมาเฉียดใบหูของนาง ‘ธนู!’ ‘หลันหลัน’น้ำเสียงของกงเสวี่ยหลิงเด็ดเดี่ยวและผสานความผ่อนคลายอย่างคนยอมรับชะตากรรม ‘เจ้าโบยบินไปสู่ท้องฟ้าอันอิสระเถิด อย่าถูกกักขังเช่นข้า ข้าติดค้างเจ้า รั้งนกน้อยอย่างเจ้าให้อยู่เป็นเพื่อนข้า ทั้งที่บ้านของเจ้าคือท้องฟ้

    Last Updated : 2024-12-02
  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter5. ข้ากินไม่อิ่ม

    นางมองแผ่นหลังของเซียวเหรินที่ยุ่งกับการตรวจคนป่วยที่นอนบนแคร่ไม้ไผ่ นางกินอาหารที่ติงชุ่ยยกมาให้ ติงชุ่ยหน้าตาบึ้งตึงพูดอะไรไม่รู้มากมายแล้วหมุนตัวเดินจากไป ปล่อยให้นางกินโจ๊กหอมกรุ่น เป็นครั้งแรกที่นางจับช้อนตักอาหารเข้าปากด้วยตนเอง นางเงอะงะอยู่ครู่หนึ่งจึงทำได้โดยไม่หกเลอะเทอะ นางได้กินโจ๊กหอมกรุ่นจนเกลี้ยงชาม แต่เหตุใดนางยังไม่รู้สึกอิ่ม หญิงสาวลูบท้องของตนเบาๆ เมื่อครั้งเป็นนกนางก็กินเพียงเล็กน้อย เคยเฝ้าดูคุณหนูกินอาหารแต่ละมื้อก็กินเพียงเล็กน้อยเช่นกัน แต่เหตุใดนางกินจนเกลี้ยงชามแล้วยังไม่รู้สึกอิ่ม ร่างกายยังอ่อนแรงอยู่ นางจึงยอมขัดคำสั่งของเซียวเหรินที่ให้นางอยู่แต่ในห้อง ถือชามโจ๊กออกมาด้านนอก หญิงงามแม้อยู่ในชุดหญิงชาวบ้านเสื้อผ้าเปื่อยเก่าแต่ไม่อาจปกปิดความงามนั้นไว้ได้ ผมยาวดำขลับเพียงถูกรวบไว้ง่ายๆ ด้วยปิ่นไม้ นางประคองชามโจ๊กที่ว่างเปล่าราวกับขอทานน้อย แววตาตื่นตระหนก ริมฝีปากแดงชาดเม้มแน่นดูน่าสงสารนัก “เจ้าออกมาทำไมกัน” ติงชุ่ยถามพลางเดินไปลากแขนแทบจะปลิวลมของหญิงสาวมาใกล้ นางไม่ยินดีเห็นสตรีอื่นหน้าตาโดดเด่นมาอยู่ใกล้นัก เดิมทีได้

    Last Updated : 2024-12-02
  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter6. มีเรื่องเช่นนี้ด้วยรึ

    “ต๋าฟู่อย่าเสียมารยาท”“แต่...” เสียงหญิงวัยสี่สิบปลายๆ เอ่ยสั่งลูกชายตัวโตของตนเอง มือหยาบกร้านยื่นเปะปะเพื่อควานหาร่างของลูกชายตน น้ำเสียงอ่อนโยนแต่ดวงตาเป็นสีขาวขุ่น ชายร่างใหญ่ปล่อยมือจากหญิงสาวแล้วหันไปประคองมารดาของตน หลันหลันเห็นหญิงวัยสี่สิบผู้นี้แล้วก็อ้าปากกว้าง“ท่านป้าต๋าซู”หญิงสาวเรียกแล้วกระโดดไปเกาะแขนของหญิงผู้นั้น“น้ำเสียงนี้...” ป้าต๋าซูผงะไปเล็กน้อยแล้วยื่นมือสั่นเทาลูบไล้โครงหน้าของหญิงสาวอย่างเบามือ “ทะ...ท่าน...ท่าน...” “ข้าหลันหลันเองท่านป้าต๋าซู” นางเอนศีรษะถูไถกับฝ่ามือที่คุ้นเคยหญิงต่างวัยชะงักไปเล็กน้อย นิ่งคิดครู่หนึ่งก่อนพยักหน้ารับ“หลันหลัน”“ท่านป้าต๋าซูใจดีแอบเอาผลไม้มาให้ข้ากับคุณหนูบ่อยๆ” นางยิ้มกว้าง ฐานะความเป็นอยู่ของกงเสวี่ยหลิงไม่ค่อยดีนัก ไม่มีใครกล้าทำดีกับนาง แต่ละคนล้วนอยากอยู่ห่าง แม้แต่บ่าวรับใช้ที่ถูกส่งมาปรนนิบัติคุณหนูก็ทำแบบขอไปที แต่ยังมีคนจิตใจดีสงสารคุณหนู แอบนำผลไม้หรือขนมใส่ตะกร้ามาวางไว้ที่หน้าประตูหลายครั้ง ด้วยความอยากรู้ นางจึงบินไปซุ่มดูจึงรู้ว่าเป็นป้าต๋าซู นางเป็นหญิงรับใช้ของคุณหนู แต่ปกติจะทำเย็นชาใส่ แต่ยามไม่มีใครเห

    Last Updated : 2024-12-04
  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter7. มีเวลาสี่สิบเก้าวัน

    “หลันหลันเด็กดี เป็นเด็กกตัญญูรู้คุณ ค่อยๆ ตรองดูเถิดว่าเวลาสี่สิบเก้าวันที่เจ้าลืมตามาอยู่ในร่างนี้ต้องทำสิ่งใดบ้าง” “สี่สิบเก้าวัน? ท่านป้าหมายความว่าอย่างไรเจ้าคะ” “นี่ไม่ใช่ร่างของเจ้า ดวงจิตของเจ้ามาอยู่ในร่างนี้ได้เพียงแค่สี่สิบเก้าวันเท่านั้น” ป้าต๋าซูยังคงลูบศีรษะนางเบาๆ “ที่เจ้ายังมีชีวิตอยู่บนโลกนี้ได้เพราะมีผู้มอบลมหายใจต่ออายุให้เจ้า” หลันหลันขมวดคิ้ว “ใครกันเจ้าคะ?” “ในสี่สิบเก้าวันที่เจ้าอยู่บนโลกมนุษย์นี้ เจ้าต้องกลืนกินลมหายใจของเขาเพื่อต่ออายุเจ้า” “ท่านป้า ท่านช่วยอธิบายให้นกน้อยอย่างข้าเข้าใจง่ายๆ ด้วยเถิดเจ้าค่ะ” นางเบ้ปากทำหน้าอยากร้องไห้เต็มที “คุณหนูของข้าอยู่ที่ไหน ข้าจะไปตามหาคุณหนู” “เจ้าไปหาคุณหนูตอนนี้ไม่ได้” “คุณหนูรอข้าอยู่ใช่ไหมเจ้าคะ” “หลันหลัน จำไว้ เจ้าอยู่ได้แค่สี่สิบเก้าวัน และต้องกลืนกินลมหายใจของผู้มีพระคุณของเจ้า เจ้าจึงยังอยู่บนโลกนี้ได้” มือหยาบกร้านปล่อยศีรษะนางแล้วค่อยๆ หมุนตัวเดินจากไป “ท่านป้า ท่านจะไปไหน” หลัน

    Last Updated : 2024-12-04
  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter8. บอกข้า

    “ช่างเถอะ” เขาโบกมือไปมา “บอกข้า คุณหนูกงของเจ้าเล่าเรื่องใดเกี่ยวกับข้าบ้าง” หลันหลันฉีกยิ้มกว้าง ดวงตาเป็นประกายดุจดวงดาวบนฟากฟ้า “คุณหนูเล่าเรื่องซือจื่อทุกเรื่อง ท่านเป็นสหายร่วมอาจารย์กับคุณชายกงอี้เทาและท่านจางซงหยวน ทุกครั้งที่ท่านจางลอบมาพบคุณหนู มักนำเรื่องราวของซือจื่อมาเล่าให้คุณหนูฟังเสมอ” เซียวเหรินยกมือขึ้นนวดขมับ เจ้าสองคนนั้นปากเปราะยังไม่พอ นี่กงเสวี่ยหลิงยังเล่าเรื่องเกี่ยวกับตัวเขาให้สาวใช้ฟังด้วยหรือ? “มีเรื่องอะไรบ้าง” “ซือจื่อเป็นคนโมโหร้ายแต่ไม่แสดงออก” นางพูดด้วยรอยยิ้ม “ซือจื่อทำตัวเป็นสัตว์กินพืชทั้งที่ชอบกินเนื้อ ซือจื่อเก่งกล้าสามารถแต่ไม่อวดตัว ซือจื่อชอบศึกษากลยุทธ์การทำศึกแต่ไม่ชอบสงคราม ซือจื่อไม่ชอบอากาศเย็นและไม่ชอบกินถั่วแดง ซือจื่อ...” “พอแล้ว” มีแต่เรื่องไร้สาระทั้งนั้น เขาไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้กับสาวใช้ของกงเสวี่ยหลิงดี นางไร้เดียงสาเกินไป นอกจากใบหน้างดงามอ่อนหวานและเรือนร่างบอบบางนี้ นางเป็นสาวใช้ที่ไม่น่าจะเอาตัวรอดในวังหลวงอันโหดเหี้ยมได้เลย หรือเพราะกงเ

    Last Updated : 2024-12-04

Latest chapter

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 53.จบ

    ชีวิตสี่ปีของหลันหลันเป็นเช่นนี้เรื่อยมา หลัววั่งรู้สึกว่ามีคนเข้ามา จึงเงยหน้าขึ้น เมื่อเห็นว่าผู้มาใหม่เป็นใครเขาก็ส่งยิ้มกว้างแล้วเดินออกไปอย่างเงียบๆ “ท่านรีบกลับเถิด ที่นี่ข้าจัดการเองได้” “ไยรีบไล่ข้าไปเล่า หรือเจ้านัดผู้ใดไว้” หญิงสาวได้ยินน้ำเสียงที่คุ้นเคยจึงเงยหน้าขึ้น บุรุษร่างสูงโปร่งสวมอาภรณ์สีเขียวใบไผ่ใบหน้าอ่อนล้าแต่ยังมีรอยยิ้มอ่อนโยน“ท่านมาแล้ว”เซียวเหรินส่งยิ้มให้นาง แม้เหนื่อยล้าจากการเร่งรีบเดินทางมา ทว่าเพียงได้เห็นรอยยิ้มนาง ความเหน็ดเหนื่อยเหล่านั้นพลันมลายหายไปสิ้น“เหตุใดกลับเร็วนักเล่า” หลันหลันอดเป็นห่วงไม่ได้ “ตามจริงต้องอีกสิบวันท่านจะกลับไม่ใช่หรือ? เดินทางไปตรวจดูการซ่อมแซมเขื่อนเป็นอย่างไรบ้าง ”“เจ้าไม่อยากเห็นหน้าสามีหรือไร”เขาทำเสียงไม่พอใจแต่เดินไปนั่งใกล้ๆ แล้วจับชีพจรให้นาง และไม่พูดเรื่องงานกับนาง จะว่าไป ก็ไม่มีมีเรื่องใดในชีวิตของเขาที่หลุดรอดสายตาของนาง เช่นเดียวกับที่เขารู้ว่าในแต่ละวันนางทำอะไร นางมีคนคอยส่งข่าว ส่งเขาให้จูเต๋ออี้วางองครักษ์ลับไว้โดบรอบ “พิษในตัวข้ายังต้องใช้เ

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 52.ไม่มีอะไรให้ลังเลและกังวลอีกแล้ว

    “คิดสิ” นางหัวเราะเบาๆ เสียงหัวเราะของนางทำให้กงอี้เทาปล่อยนางจากวงแขน เขาคิดว่านางจะเปลี่ยนใจจึงยอมคลายมือจากข้อมือนาง ทำให้นางส่งยาเม็ดนั้นส่งเข้าปากแล้วกลืนลงคอทันทีท่ามกลางดวงตาที่เบิกกว้างของกงอี้เทา “เจ้า!” “ข้าไม่เสียใจ” นางยิ้มแล้วยกมือลูบใบหน้าของกงอี้เทา “บอกจางซงหยวนให้ดูแลกงเสวี่ยหลิงให้ดี” “หลันโหยว!” “ข้าอยากขอร้องเจ้าครั้งสุดท้าย” นางพูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาลง “ได้ข้ารับปากเจ้า ข้ารับปากเจ้าทุกเรื่อง” กงอี้เทาประคองร่างที่อ่อนยวบลงในวงแขน มือของเขาสั่นเทาอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ใบหน้าของหญิงสาวมีรอยยิ้ม แต่ดวงตาของนางปิดลง ชีพจรเต้นช้าลง ร่างกายเริ่มเย็นเยียบขึ้นมาที่ละน้อย นางวางมือไว้บนหน้าอก บริเวณหัวใจของตนเองที่เต้นแผ่วเบาลงไปทุกที ทุกที ทุกที ไม่มีอะไรให้นางลังเลและกังวลอีกแล้ว..จูเต๋ออี้เดินเข้ามาอย่างเงียบเฉียบ ภาพที่เห็นจนเริ่มชินตาคือเจ้าของร่างสูงสง่านั่งเหยียดแผ่นหลังตั้งตรง แววตามุ่งมั่นและมือตวัดพู่กันแก้ไขปัญหาน้อยใหญ่ที่ฮ่องเต้พระองค์ก่อนทิ้งปัญหาไว้มากมายเหลือคณานับ

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 51. เจ้านกตะกละ

    “เจ้านกตะกละ!” เขาดุนางพลางแหวนหน้าคำรามเสียงพร่า ถูกนางรุกเร้าจนแท่งหยกไถลลื่นเข้าไปจนสุด นางหวีดร้องเบาๆ โผเข้ากอดเขา ปลายเล็บจิกที่แผ่นหลังไม่เคยรู้เลยว่าบุรุษผู้นี้จะมีซ่อนสิ่งใหญ่โตไว้ถึงเพียงนี้ ความเสียวซ่านแผ่นกระจายไปทั่วร่าง จนถึงปลายนิ้วเท้าที่เกร็งแทบเป็นตะคริว นางครวญเสียงกระเส่า ยามเมื่อเขาขยับสะโพกถอนแก่นกายออกช้าๆ แล้วกดกลับเข้ามาใหม่ นางได้แต่หวีดร้องส่งเสียงครางแทบขาดใจ เหงื่อร้อนหลั่งออกมาจนหยดบนกายของนาง ความเจ็บแปลบที่เกิดขึ้นในคราวแรกหายไปสิ้น ทุกการเติมเต็มของเขาทำให้ร่างกายที่เคยเยียบเย็นร้อนระอุ เหงื่อร้อนผุดขึ้นทุกรูขุมขน ร่างกายนางทวีความร้อนและเปียกชื้น รวมทั้งที่ใจกลางของดอกไม้สาวที่รองรับการเคลื่อนไหวของผีเสื้อหนุ่มช่างแนบแน่น ลึกล้ำและซ่านเสียว“ข้า...” นางไม่รู้ว่าตนเองจะพูดอะไร เขาป้อนความสุขสมที่นางไม่เคยรู้จัก ทำให้นางอิ่มเอมครั้งแล้วครั้งเล่า และหิวโหยต้องการไม่สิ้นสุด ไม่ว่าท่วงท่าใดที่เขานำพา ล้วนทำให้นางปรารถนาในตัวเขามากขึ้น มากขึ้น“เซียวเหริน!”ดวงตาของเซียวเหรินราวลูกไฟ ไฟปรารถนาเผาไหม้หัวใจทำให้เคลื่อนไหวร่างกายเร็วขึ้น ถาโถมและโหมกระหน

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 50.ใช้หัวใจฟังเสียวหัวใจสิ

    “เจ้าอยู่ที่นี่ให้ข้าถอนพิษให้เจ้าเถิด” “ข้าจะอยู่ที่นี่ในฐานะอะไรได้” นางส่ายหน้าไปมาบนอกเสื้อของเขา นางจงใจทำร้ายองค์ชายหงก่วงต่อหน้าผู้อื่นหากนางยืนข้างกายเขา คนภายใต้การปกครองย่อมมองเขาไม่ดีเป็นแน่ ขณะที่สมองและหัวใจตีกันยุ่งเหยิง ปลายคางของนางถูกช้อนขึ้น ตามด้วยริมฝีปากหยักสวยทาบทับ นางคิดจะถอยหลังหลบหนีแต่เรียวลิ้นร้อนไล่ต้อนจนนางไม่อาจตั้งสติคิดสิ่งใดได้ ถูกจุมพิตของเขาทำให้สับสนจนเกือบขาดอากาศหายใจเขาจึงยอมละริมฝีปากจากนาง “ใจร้าย!” นางทุบแผ่นอกแกร่งของเขา “ข้าต้องการเวลาคิด”“เรื่องแบบนี้ต้องคิดอะไรนานนัก” เขาโน้นหน้าลงจุมพิตดวงตาของนางที่ยังมีหยาดน้ำตาวาวใส “ใช้หัวใจฟังเสียงหัวใจสิ”‘ใช้หัวใจฟังเสียงหัวใจสิ’เป็นอีกครั้งที่นางได้ยินประโยคนี้ ดวงตาของนางเหม่อลอยไปชั่วขณะ และในจังหวะเดียวกัน เซียวเหรินตัดสินใจทำในสิ่งที่ตนเองต้องการ ช้อนร่างนุ่มนิ่มไว้แนบอกพานางกลับมาที่ห้องนอนของตนเอง การกักขังนกตัวหนึ่งไว้นั้น อาจไม่ใช่กรงขังที่แน่นหนาแต่เป็นความรู้สึกปรารถนาที่มีต่อนางจูเต๋ออี้เห็นผู้เป็นนายกลับมาพร้อมกับอุ้มหญิงสาวที่ซุกอยู่ในอกจนแทบมองไม่เห็นใบ

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 49.คิดถึง

    “งานเหล่านี้แท้จริงเป็นของเจ้า ยามนี้ลุงแค่ช่วยจัดการให้ไปก่อน” เขาพูดอย่างใจเย็น บ้านเมืองต้องพลิกฟื้นเป็นการใหญ่ กว่าจะเข้ารูปเข้ารอยคงใช้เวลาอีกสามถึงสี่เป็นอย่างน้อย เขาก้มมองเห็นเด็กน้อยทำหน้านิ่วก็หัวเราะเบาๆ “เจ้าต้องหมั่นเรียนรู้ เข้าใจหรือไม่” “หลานทราบแล้ว เสด็จลุง” “ดี” เขาพูดแล้วขยับปลายนิ้วเรียกจูเต๋ออี้ องครักษ์ข้างกายที่ทำหน้าที่รับใช้มายาวนานถอยออกไป ครู่หนึ่งจึงเดินกลับเข้ามาพร้อมขนม เด็กน้อยทำตาโตแล้วยื่นมือไปรับขนมจากเซียวเหริน “ข้าให้ในครัวปรุงให้เจ้าเป็นพิเศษ ในนี้มีส่วนผสมของสมุนไพรบำรุงร่างกาย เจ้าจะได้แข็งแรงเติบใหญ่เร็วไว” “ขอบพระทัยเสด็จลุง” “ไปเถอะ” “อื้ม!” เด็กน้อยปีนลงจากตัก ขันทีผู้หนึ่งเข้ามารับ เขามองเด็กน้อยที่ชะตาชีวิตลิขิตให้นั่งบัลลังก์มังกร ได้แต่หวังว่าตัวเองจะขัดเกลาเด็กคนนี้ให้เป็นฮ่องเต้ที่ดี คงมีเพียงการทำเช่นนี้ที่ลดทอนความรู้สึกผิดที่เคยให้คำสัตย์สาบานไว้ แม้ว่าชื่อของเขาจะเคยเป็นรัชทายาทก็ตาม เซียวเหรินก้มหน้าอ่านฏีกา หยิบพู่กันขึ

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 48. เหตุใดถึงเจ็บถึงเพียงนี้

    “ข้า...” หลันหลันอ้ำอึ้ง ไม่เคยคิดว่าตัวเองต้องไปจากที่นี่ ไม่ใช่หรอก นางมิได้อาลัยสถานที่แห่งนี้ มีเพียงความรู้สึกที่ต้องจากไกลเซียว เหรินต่างหากที่ทำให้นางปวดใจมือเรียวเล็กยกขึ้นอกที่หน้าอกซ้าย บริเวณที่ถูกเซียวเหรินซัดฝ่ามือเข้าใส่ ความเจ็บปวดระลอกหนึ่งราวเข็มแหลมเล็กนับร้อยนับพันทิ่มแทงหัวใจเจ็บ?เหตุใดถึงเจ็บถึงเพียงนี้“หลันหลัน” อู๋หมินลี่เห็นใบหน้าหลันหลันซีดเซียวไร้สีเลือดก็ตื่นตระหนก “เจ้าเจ็บรึ ให้ข้าตามหมอดีหรือไม่”หลันหลันส่ายหน้าไปมา ครู่หนึ่งนางสูดลมหายใจลึกสะกดความเจ็บปวดทั้งหมดแล้วฝืนยิ้มให้อู๋หมินลี่ พลันเสียงของท่านป้าต๋าฝูดังแว่วเข้ามาในหัวน้อยๆ ของนาง‘มีเวลาเพียงสี่สิบเก้าวัน’จากบันทึกของเซียวเหริน นางเหลือเวลาอีกแค่สามวันแต่ถ้านางลองให้กงอี้เทาถอนมนตร์สะกดจิต บางทีนางอาจมีชีวิตได้ยาวนานกว่านี้ แต่ชีวิตของอูหลันโหยว ไม่อาจอยู่ที่แคว้นเฉียน เหลียงได้“หลันหลัน” อู๋หมิ่นลี่บีบมือเย็นเฉียบของหลันหลัน “ข้าพาเจ้ากลับที่พักดีกว่า” “ให้ข้าประคองนางเองเจ้าค่ะ” ไป๋ชิวเข้ามาช่วยประคองหลันหลันเพื่อเดินกลับที่พัก อู๋ซิงว่านผ่านมาพอดีเห็นไป๋ชิวประคองหลันหลันอยู

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 47.ให้นางตัดสินใจเอง

    นางมุดอยู่ใต้ผ้าห่มแต่หูได้ยินเสียงพวกเขาตกลงต่อรองกัน สุดท้ายกงอี้เทาได้แต่ถอนหายใจหนักหน่วงแล้วก้าวออกไป นางคิดว่าในห้องไม่มีใครแล้วจึงโผล่หน้าออกมาจากผ้าห่ม แต่กลับพบสายตาคู่หนึ่งจ้องมองอยู่ก่อนแล้ว “ระหว่างนี้เจ้าพักอยู่ที่นี่ไปก่อน ข้าจะเป็นฝ่ายหาเวลามาพบเจ้าเอง” เขาพูดด้วยน้ำเสียงสงบนิ่งเช่นที่เคยเป็น “เข้าใจหรือไม่” นางพยักหน้าขึ้นลงเร็วๆ แทนคำตอบ เซียวเหรินไม่เอ่ยอะไรอีก หมุนตัวแล้วเดินออกไปเงียบๆ จนนางมั่นใจว่าครั้งนี้ไม่มีผู้อื่นแล้วจริงๆ จึงยอมลุกขึ้นจากที่นอนอีกครั้ง ‘ให้นางตัดสินใจเอง’ นางคิดมากจนตาลายเดือดร้อนบ่าวรับใช้ที่เฝ้าดูอาการเข้าใจผิดคิดว่าอาการของนางทรุดลง อู๋ซิงว่านรีบเข้ามาดูอาการของนาง พอรู้ว่านางหิวโหยจนหน้ามืดก็แหงนหน้าหัวเราะไม่เกรงใจคนป่วยอย่างนาง สั่งการให้บ่าวไพรยกสำรับอาหารมาให้ หลังจากถูกบิดาเรียกไปอบรม เขารู้ว่าควรทำใจเรื่องหลันหลัน อาจเพราะนางเป็นคนให้กำลังใจจนเขาสามารถใช้แขนขวาได้อีกครั้ง แต่พอรู้ว่านางอาการทรุดลงก็รีบมาดูทันที ใครจะรู้ว่านางแค่หิว ไม่สิ นางหิวมากจนจะเป็นลม ระ

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 46.ผลของการกระทำ

    “คุณหนู” ไป๋ชิวร้อนรน แต่หมอที่เก่งที่สุดกำลังดูแลสตรีอื่นจนทำให้คุณหนูของนางเป็นเช่นนี้ “ข้าไม่เป็นอะไร” นางพยายามสูดลมหายใจลึก แม้รู้อยู่แก่ใจว่าเซียวเหรินมองนางด้วยสายตาเช่นไร แต่นางก็ยังหวัง หวังว่าจะมีสักวันที่เขาจะรับรู้ความรู้สึกของนาง เปิดใจให้นางบ้าง “ไป๋ชิว พาคุณหนูใหญ่ไปพักผ่อนก่อน” อู๋ซั่วไต้เอ่ยขึ้นแล้วมองบุตรสาวด้วยความเห็นใจต่อให้ไม่มีสตรีผู้นั้นเข้ามา หรือแม้กระทั่งเขาจะใช้คนของหมู่ตึกนกยูงทองช่วยชีวิตคนสกุลเซียวเอาไว้ เขาย่อมรู้ดีว่าเรื่องเหล่านี้จะเอามาเป็นบุญคุณเพื่อให้เซียวเหรินแต่งงานกับอู๋หมิ่นลี่ได้ แต่ด้วยฐานะที่แท้จริงของเซียวเหริน อู๋ซั่วไต้รู้ดีว่า บุตรสาวของเขาไม่สามารถเคียงข้างชายผู้นั้นได้ ไม่สิ จะเรียกเซียวเหรินเช่นแต่ก่อนได้อย่างไร ในเมื่อตอนนี้เป็นถึง... “ท่านพ่อ” อู๋หมิ่นลี่กลั้นน้ำตาที่เอ่อคลอ “ท่านรู้อยู่แล้วว่าท่านเซียวเป็นใคร จึงพยายามเตือนลูกใช่ไหมเจ้าคะ” “ลี่เอ๋อร์ เจ้าหักห้ามใจตัวเองเสียเถิด ยังมีบุรุษดีๆ อีกมากมาย พ่อจะคัดเลือกคนที่ดีและเหมาะสมกับเจ้าเอง” “แต่ว่า.

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 45.เสียงเรียกที่แฝงอำนาจ

    “ลูกข้าเป็นอะไร” ไทเฮาถามด้วยสีหน้าตื่นตระหนก “รักษาเขาสิ!” เซียวเหรินถึงกับนิ่งงันด้วยอับจนถ้อยคำ แต่ฮ่องเต้หงฉานหัวเราะเสียงปร่าแล้วโบกมือไปมา “มันใหญ่มากใช่ไหมละ” เขาหัวเราะขืนๆ “อะไรกัน” ไทเฮาหันมาถามอย่างงุนงง แต่เซียวเหรินไม่กล้าพูดออกมา “มันคือฝี” ฮ่องเต้ที่กำลังจะกลายเป็นเพียงอดีตฮ่องเต้พูดขึ้นแล้วกดไปที่ท้องของตัวเอง “กระจายไปทั่วท้องแล้ว” “ไม่จริง... เหตุใดเป็นเช่นนี้” “เป็นมาเนิ่นนานแล้ว หมอหลวงรักษาไม่ได้ ลูกจึง...ไม่ใส่ใจกับมันอีก” ไทเฮาหันมาเขย่าแขนของเซียวเหริน “เจ้าได้ชื่อว่าเป็นหมอเทวดา ต้องรักษาได้!” “ถ้าได้รับการรักษาก่อนหน้านี้คงจะ...” “ช่างมันเถอะ” ฮ่องเต้หงฉานโบกมือไปมาจ้องมองใบหน้าของเซียวเหริน “เรารู้ ถึงได้ปล่อยให้มันเป็นเช่นนี้” “เจ้า! ทำไมโง่เช่นนี้” “เสด็จแม่” ฮ่องเต้พูดอย่างอ่อนแรง “ท่านเองก็รู้ว่า เสด็จพ่อยกบัลลังก์นี้ให้ใครตั้งแต่แรก” “หุบปากเสีย!” “เสด็จแม่...แท้จริงแล้วบัลลังก์นี้เป็น

DMCA.com Protection Status