ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก

ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก

last updateTerakhir Diperbarui : 2025-01-01
Oleh:   เพลงมีนา  Baru saja diperbarui
Bahasa: Thai
goodnovel16goodnovel
Belum ada penilaian
53Bab
209Dibaca
Baca
Tambahkan

Share:  

Lapor
Ringkasan
Katalog
Tinggalkan ulasan Anda di APP

มันเริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ที่สายตาของนางมีเขาเพียงผู้เดียว เพราะหนีการถูกไล่ล่า หญิงสาวจึงเลือกจะกระโดดผาน้ำตกพร้อมนกหงส์หยกตัวน้อย เสียงวัตถุตกลงผิวน้ำอย่างแรงทำให้ชายหนุ่มที่อยู่ใกล้บริเวณนั้นหันไปมองทันที เขาใช้วิชาตัวเบาพุ่งไปช่วยหญิงสาวในชุดสีแดงดำดิ่งลงไปในน้ำลึกอย่างเร็ว เลือดสีสดปะปนในสายน้ำ มือแกร่งแหวกสายน้ำพยายามคว้าร่างของหญิงสาวไว้ เขาประกบริมฝีปากส่งลมหายใจเข้าปากของนาง เพียงดวงตาคู่นั้นเบิกกว้าง สีหน้าของนางแสดงความตื่นตระหนก ริมฝีปากสั่นระริกพยายามส่งเสียงอย่างยากลำบาก ทำให้เขาจำใจโน้มศีรษะลงใกล้เพื่อได้ยินคำพูดของนาง “ข้า...ได้...พบ...ท่าน...แล้ว... ซือจื่อ”

Lihat lebih banyak

Bab terbaru

Pratinjau Gratis

Chapter 1. ‘หมอเทวดาไร้ใจ’

“ไม่เอาแล้ว ข้าไม่ฝึกฝนอีกแล้ว”เด็กน้อยมองฝ่ามือสองข้างที่ยังสั่นระริกของตนเอง ร่างเล็กนั่งขดตัวในพุ่มดงดอกโบตั๋น ดวงตางดงามฉ่ำวาวด้วยน้ำตาที่เอ่อคลอ เด็กหญิงกลั้นเสียงสะอื้นแล้วยกหลังมือขึ้นปาดน้ำตาเร็วๆ ไม่ให้น้ำตาไหลเปื้อนแก้ม“ไม่เอาแล้ว ข้าไม่ฝึกฝนอีกแล้ว”พุ่มไม้ที่นางซ่อนตัวอยู่ขยับสั่นไหว เด็กน้อยรู้สึกตัวจึงเงยหน้าขึ้น เป็นจังหวะที่มือข้างหนึ่งแหวกพุ่มไม้ออก นางหลุดปากหวีดร้องแล้วขยับกายเข้าไปด้านในเพื่อซ่อนตัว “อ้าว! มีคนอยู่รึ” น้ำเสียงคุ้นเคยแม้ไม่ได้อ่อนโยน แต่ทำให้เด็กหญิงได้สติ นางกะพริบไล่หยดน้ำตาที่เอ่อคลอ เพื่อจะได้มองคนที่แหวกพุ่มไม้แล้วโน้มตัวลงมาจ้องมองนางอยู่ “เจ้า!” นางอ้าปากส่งเสียงได้เพียงแค่หนึ่งคำ เด็กหนุ่มตรงหน้ายกมุมปากเป็นรอยยิ้มบางเบาที่แทบจะมองไม่เห็น และไม่ได้เห็นบ่อยนัก มันเริ่มขึ้นเมื่อไหร่ไม่รู้ที่สายตาของนางมีเขาเพียงผู้เดียวเสียงวัตถุตกลงผิวน้ำอย่างแรงทำให้ชายหนุ่มที่อยู่ใกล้บริเวณนั้นหันไปมองทันที เพียงพริบตา ร่างสูงโปร่งทิ้งตะกร้าใส่สมุนไพรลงพื้น ใช้วิชาตัวเบาพุ่งไปราวเหาะเหิน ทว่าร่างหญิงสาว...

Buku bagus disaat bersamaan

Komen

Tidak ada komentar
53 Bab
Chapter 1. ‘หมอเทวดาไร้ใจ’
“ไม่เอาแล้ว ข้าไม่ฝึกฝนอีกแล้ว”เด็กน้อยมองฝ่ามือสองข้างที่ยังสั่นระริกของตนเอง ร่างเล็กนั่งขดตัวในพุ่มดงดอกโบตั๋น ดวงตางดงามฉ่ำวาวด้วยน้ำตาที่เอ่อคลอ เด็กหญิงกลั้นเสียงสะอื้นแล้วยกหลังมือขึ้นปาดน้ำตาเร็วๆ ไม่ให้น้ำตาไหลเปื้อนแก้ม“ไม่เอาแล้ว ข้าไม่ฝึกฝนอีกแล้ว”พุ่มไม้ที่นางซ่อนตัวอยู่ขยับสั่นไหว เด็กน้อยรู้สึกตัวจึงเงยหน้าขึ้น เป็นจังหวะที่มือข้างหนึ่งแหวกพุ่มไม้ออก นางหลุดปากหวีดร้องแล้วขยับกายเข้าไปด้านในเพื่อซ่อนตัว “อ้าว! มีคนอยู่รึ” น้ำเสียงคุ้นเคยแม้ไม่ได้อ่อนโยน แต่ทำให้เด็กหญิงได้สติ นางกะพริบไล่หยดน้ำตาที่เอ่อคลอ เพื่อจะได้มองคนที่แหวกพุ่มไม้แล้วโน้มตัวลงมาจ้องมองนางอยู่ “เจ้า!” นางอ้าปากส่งเสียงได้เพียงแค่หนึ่งคำ เด็กหนุ่มตรงหน้ายกมุมปากเป็นรอยยิ้มบางเบาที่แทบจะมองไม่เห็น และไม่ได้เห็นบ่อยนัก มันเริ่มขึ้นเมื่อไหร่ไม่รู้ที่สายตาของนางมีเขาเพียงผู้เดียวเสียงวัตถุตกลงผิวน้ำอย่างแรงทำให้ชายหนุ่มที่อยู่ใกล้บริเวณนั้นหันไปมองทันที เพียงพริบตา ร่างสูงโปร่งทิ้งตะกร้าใส่สมุนไพรลงพื้น ใช้วิชาตัวเบาพุ่งไปราวเหาะเหิน ทว่าร่างหญิงสาว
last updateTerakhir Diperbarui : 2024-12-02
Baca selengkapnya
Chapter 2. เซียวเหริน
หลัววั่งเป็นอีกคนในหมู่บ้านที่แวะเวียนมาบ้านของเซียวเหรินทุกวัน คอยช่วยงานทั่วไป และหากมีใครเจ็บป่วยมาแล้วทำกิริยาไม่ดีต่อท่านเซียว หลัววั่งจะออกหน้าขับไล่และปกป้องเสมอ ภายนอกเซียวเหรินคล้ายไม่สนใจผู้อื่น แท้จริงแล้วกลับห่วงใยยิ่งนัก แม้อยู่คนเดียวอย่างสันโดษ แต่ชาวบ้านผลัดกันแวะเวียนมาดูแล หลัววั่งทำไร่ไถนาดูเป็นคนไม่ค่อยฉลาดนัก แต่มีพละกำลังมหาศาล คนในหมู่บ้านจึงลงความเห็นให้หลัววั่งมาคอยดูแลเซียวเหริน หากมีเรื่องต้องแบกหามคนเจ็บคนป่วย หลัววั่งทำได้อย่างไม่ลำบาก ส่วนติงชุ่ยเป็นลูกสาวผู้ใหญ่บ้าน นางแอบหลงรักเซียวเหรินตั้งแต่ที่ชายผู้นี้มาอยู่ที่กระท่อมเชิงเขาเป่ยหมางแต่เดิมไม่มีใครรู้ว่าเซียวเหรินมีความรู้รักษาผู้คนได้ จนกระทั่งวันหนึ่งมีเด็กตกต้นไม้บาดเจ็บสาหัส หมู่บ้านเล็กๆ ไม่มีหมอ แม่ของเด็กน้อยวิ่งมาที่ภูเขาหวังใจจะบนบานกับเทพภูเขา เซียวเหรินอยู่ระหว่างเก็บของป่าได้ยินเข้าจึงติดตามไปดูอาการของเด็กน้อย ราวกับปาฏิหาริย์เด็กน้อยผู้นั้นฟื้นคืนสติ ขาที่บิดพลิกรูปก็ถูกเซียวเหรินพลิกกลับคืนรูปร่างเดิม เด็กน้อยพักฟื้นเพียงสิบกว่าวันก็สามารถวิ่งเล่นได้อีกครั้ง นับแต่นั้น ย
last updateTerakhir Diperbarui : 2024-12-02
Baca selengkapnya
Chapter 3.เป็นไปได้อย่างไร
หลัววั่งที่พยักหน้าแรงๆ “ใช่แล้วๆ เคยมีคนป่วยที่บอกว่าตัวเองเป็นเทพเจ้าอาละวาดบ้าคลั่งถูกมัดมือมัดเท้ามา ท่านเซียวก็ฝังเข็มรักษาจนหายดี” “ติงชุ่ย ถ้าเจ้าลำบากใจก็ออกไปให้พ้นหน้าข้า” “ข้าเข้าใจแล้วเจ้าค่ะ” นางฝืนยิ้มออกมา หากยอมห่างกายเซียวเหรินก็มิรู้ว่าหญิงคนนี้สติไม่ดีจริงหรือมาหลอกลวงเซียวเหรินกันแน่ “ออกไปได้แล้ว” เซียวเหรินรอจนในห้องไม่มีใครแล้ว เขาก้มมองหญิงสาวที่หลับใหลไปอีกครั้ง เขามั่นใจว่าไม่เคยพบนางมาก่อน แต่เขารู้จัก ‘กงเสวี่ยหลิง’ เป็นการรู้จักที่ไม่เคยพบหน้ากันสักครา แต่คนแซ่กงนั้นมีคนที่เขารู้จักสนิทสนมด้วย ซึ่งบัดนี้มีตำแหน่งเป็นรัชทายาท เขาเผลอระบายลมหายใจหนักหน่วง แม้ตนเองจะใช้ชีวิตปลีกตัวจากโลกภายนอกมานานสี่ปี แต่ก็ใช่ว่าเขาจะไม่รู้เรื่องใดเลย เขาไม่ได้สนใจที่นางยืนยันว่าเป็นนกหงส์หยก แต่เป็นเพราะชุดเจ้าสาวที่นางสวมและรอยบอบช้ำตามร่างกายต่างหาก ยังไม่นับรวมที่เขาตรวจพบว่านางต้องพิษมายาวนาน “เจ้าจะเป็นนกหรือเป็นผู้ใดก็ตาม ข้าจะรักษาเจ้าจนหายดี” เป็นไปได้อย่างไร หญิงสาวถามตั
last updateTerakhir Diperbarui : 2024-12-02
Baca selengkapnya
Chapter4. หลันหลัน
ในมือของกงเสวี่ยหลิงกำปิ่นปักผมเปื้อนเลือดแน่น ดวงตาที่เคยอ่อนโยนคู่นั้นแข็งกร้าวไร้ความอ่อนแอ เพราะความตกใจทำให้มือสกปรกปล่อยนกน้อยให้ร่วงหล่นเพื่อไปกุมเป้ากางเกงที่ถูกปิ่นของนางจ้วงแทง กงเสวี่ยหลิงยื่นมือไปรองรับร่างของนกน้อยได้ทัน แล้วรีบหมุนตัววิ่งออกไปท่ามกลางเสียงร้องโหยหวนของชายผู้นั้น ท่ามกลางความตกตะลึงของคนรอบข้างที่ไม่รู้ว่าจะต้องช่วยผู้เป็นนายที่ร้องอย่างเจ็บปวดหรือตามหญิงสาวที่วิ่งหนีสุดฝีเท้า ‘หลันหลัน’ นกน้อยถูกกอดแนบอก ได้ยินเสียงหัวใจเต้นแรงของกงเสวี่ยหลิงแทบจะทะลุทรวงอกออกมา เท้าเล็กๆ สะดุดพื้นดินขรุขระล้มจนศีรษะกระแทกก้อนหิน แต่นางรีบยันกายขึ้นแล้วออกวิ่งไม่สนใจเลือดที่ไหลลงมาเปื้อนใบหน้า เสียงคนวิ่งไล่ตามมาด้านหลัง กงเสวี่ยหลิงไม่เสียเวลาหันไปมอง นางรู้สึกถึงบางสิ่งที่พุ่งมาเฉียดใบหูของนาง ‘ธนู!’ ‘หลันหลัน’น้ำเสียงของกงเสวี่ยหลิงเด็ดเดี่ยวและผสานความผ่อนคลายอย่างคนยอมรับชะตากรรม ‘เจ้าโบยบินไปสู่ท้องฟ้าอันอิสระเถิด อย่าถูกกักขังเช่นข้า ข้าติดค้างเจ้า รั้งนกน้อยอย่างเจ้าให้อยู่เป็นเพื่อนข้า ทั้งที่บ้านของเจ้าคือท้องฟ้
last updateTerakhir Diperbarui : 2024-12-02
Baca selengkapnya
Chapter5. ข้ากินไม่อิ่ม
นางมองแผ่นหลังของเซียวเหรินที่ยุ่งกับการตรวจคนป่วยที่นอนบนแคร่ไม้ไผ่ นางกินอาหารที่ติงชุ่ยยกมาให้ ติงชุ่ยหน้าตาบึ้งตึงพูดอะไรไม่รู้มากมายแล้วหมุนตัวเดินจากไป ปล่อยให้นางกินโจ๊กหอมกรุ่น เป็นครั้งแรกที่นางจับช้อนตักอาหารเข้าปากด้วยตนเอง นางเงอะงะอยู่ครู่หนึ่งจึงทำได้โดยไม่หกเลอะเทอะ นางได้กินโจ๊กหอมกรุ่นจนเกลี้ยงชาม แต่เหตุใดนางยังไม่รู้สึกอิ่ม หญิงสาวลูบท้องของตนเบาๆ เมื่อครั้งเป็นนกนางก็กินเพียงเล็กน้อย เคยเฝ้าดูคุณหนูกินอาหารแต่ละมื้อก็กินเพียงเล็กน้อยเช่นกัน แต่เหตุใดนางกินจนเกลี้ยงชามแล้วยังไม่รู้สึกอิ่ม ร่างกายยังอ่อนแรงอยู่ นางจึงยอมขัดคำสั่งของเซียวเหรินที่ให้นางอยู่แต่ในห้อง ถือชามโจ๊กออกมาด้านนอก หญิงงามแม้อยู่ในชุดหญิงชาวบ้านเสื้อผ้าเปื่อยเก่าแต่ไม่อาจปกปิดความงามนั้นไว้ได้ ผมยาวดำขลับเพียงถูกรวบไว้ง่ายๆ ด้วยปิ่นไม้ นางประคองชามโจ๊กที่ว่างเปล่าราวกับขอทานน้อย แววตาตื่นตระหนก ริมฝีปากแดงชาดเม้มแน่นดูน่าสงสารนัก “เจ้าออกมาทำไมกัน” ติงชุ่ยถามพลางเดินไปลากแขนแทบจะปลิวลมของหญิงสาวมาใกล้ นางไม่ยินดีเห็นสตรีอื่นหน้าตาโดดเด่นมาอยู่ใกล้นัก เดิมทีได้
last updateTerakhir Diperbarui : 2024-12-02
Baca selengkapnya
Chapter6. มีเรื่องเช่นนี้ด้วยรึ
“ต๋าฟู่อย่าเสียมารยาท”“แต่...” เสียงหญิงวัยสี่สิบปลายๆ เอ่ยสั่งลูกชายตัวโตของตนเอง มือหยาบกร้านยื่นเปะปะเพื่อควานหาร่างของลูกชายตน น้ำเสียงอ่อนโยนแต่ดวงตาเป็นสีขาวขุ่น ชายร่างใหญ่ปล่อยมือจากหญิงสาวแล้วหันไปประคองมารดาของตน หลันหลันเห็นหญิงวัยสี่สิบผู้นี้แล้วก็อ้าปากกว้าง“ท่านป้าต๋าซู”หญิงสาวเรียกแล้วกระโดดไปเกาะแขนของหญิงผู้นั้น“น้ำเสียงนี้...” ป้าต๋าซูผงะไปเล็กน้อยแล้วยื่นมือสั่นเทาลูบไล้โครงหน้าของหญิงสาวอย่างเบามือ “ทะ...ท่าน...ท่าน...” “ข้าหลันหลันเองท่านป้าต๋าซู” นางเอนศีรษะถูไถกับฝ่ามือที่คุ้นเคยหญิงต่างวัยชะงักไปเล็กน้อย นิ่งคิดครู่หนึ่งก่อนพยักหน้ารับ“หลันหลัน”“ท่านป้าต๋าซูใจดีแอบเอาผลไม้มาให้ข้ากับคุณหนูบ่อยๆ” นางยิ้มกว้าง ฐานะความเป็นอยู่ของกงเสวี่ยหลิงไม่ค่อยดีนัก ไม่มีใครกล้าทำดีกับนาง แต่ละคนล้วนอยากอยู่ห่าง แม้แต่บ่าวรับใช้ที่ถูกส่งมาปรนนิบัติคุณหนูก็ทำแบบขอไปที แต่ยังมีคนจิตใจดีสงสารคุณหนู แอบนำผลไม้หรือขนมใส่ตะกร้ามาวางไว้ที่หน้าประตูหลายครั้ง ด้วยความอยากรู้ นางจึงบินไปซุ่มดูจึงรู้ว่าเป็นป้าต๋าซู นางเป็นหญิงรับใช้ของคุณหนู แต่ปกติจะทำเย็นชาใส่ แต่ยามไม่มีใครเห
last updateTerakhir Diperbarui : 2024-12-04
Baca selengkapnya
Chapter7. มีเวลาสี่สิบเก้าวัน
“หลันหลันเด็กดี เป็นเด็กกตัญญูรู้คุณ ค่อยๆ ตรองดูเถิดว่าเวลาสี่สิบเก้าวันที่เจ้าลืมตามาอยู่ในร่างนี้ต้องทำสิ่งใดบ้าง” “สี่สิบเก้าวัน? ท่านป้าหมายความว่าอย่างไรเจ้าคะ” “นี่ไม่ใช่ร่างของเจ้า ดวงจิตของเจ้ามาอยู่ในร่างนี้ได้เพียงแค่สี่สิบเก้าวันเท่านั้น” ป้าต๋าซูยังคงลูบศีรษะนางเบาๆ “ที่เจ้ายังมีชีวิตอยู่บนโลกนี้ได้เพราะมีผู้มอบลมหายใจต่ออายุให้เจ้า” หลันหลันขมวดคิ้ว “ใครกันเจ้าคะ?” “ในสี่สิบเก้าวันที่เจ้าอยู่บนโลกมนุษย์นี้ เจ้าต้องกลืนกินลมหายใจของเขาเพื่อต่ออายุเจ้า” “ท่านป้า ท่านช่วยอธิบายให้นกน้อยอย่างข้าเข้าใจง่ายๆ ด้วยเถิดเจ้าค่ะ” นางเบ้ปากทำหน้าอยากร้องไห้เต็มที “คุณหนูของข้าอยู่ที่ไหน ข้าจะไปตามหาคุณหนู” “เจ้าไปหาคุณหนูตอนนี้ไม่ได้” “คุณหนูรอข้าอยู่ใช่ไหมเจ้าคะ” “หลันหลัน จำไว้ เจ้าอยู่ได้แค่สี่สิบเก้าวัน และต้องกลืนกินลมหายใจของผู้มีพระคุณของเจ้า เจ้าจึงยังอยู่บนโลกนี้ได้” มือหยาบกร้านปล่อยศีรษะนางแล้วค่อยๆ หมุนตัวเดินจากไป “ท่านป้า ท่านจะไปไหน” หลัน
last updateTerakhir Diperbarui : 2024-12-04
Baca selengkapnya
Chapter8. บอกข้า
“ช่างเถอะ” เขาโบกมือไปมา “บอกข้า คุณหนูกงของเจ้าเล่าเรื่องใดเกี่ยวกับข้าบ้าง” หลันหลันฉีกยิ้มกว้าง ดวงตาเป็นประกายดุจดวงดาวบนฟากฟ้า “คุณหนูเล่าเรื่องซือจื่อทุกเรื่อง ท่านเป็นสหายร่วมอาจารย์กับคุณชายกงอี้เทาและท่านจางซงหยวน ทุกครั้งที่ท่านจางลอบมาพบคุณหนู มักนำเรื่องราวของซือจื่อมาเล่าให้คุณหนูฟังเสมอ” เซียวเหรินยกมือขึ้นนวดขมับ เจ้าสองคนนั้นปากเปราะยังไม่พอ นี่กงเสวี่ยหลิงยังเล่าเรื่องเกี่ยวกับตัวเขาให้สาวใช้ฟังด้วยหรือ? “มีเรื่องอะไรบ้าง” “ซือจื่อเป็นคนโมโหร้ายแต่ไม่แสดงออก” นางพูดด้วยรอยยิ้ม “ซือจื่อทำตัวเป็นสัตว์กินพืชทั้งที่ชอบกินเนื้อ ซือจื่อเก่งกล้าสามารถแต่ไม่อวดตัว ซือจื่อชอบศึกษากลยุทธ์การทำศึกแต่ไม่ชอบสงคราม ซือจื่อไม่ชอบอากาศเย็นและไม่ชอบกินถั่วแดง ซือจื่อ...” “พอแล้ว” มีแต่เรื่องไร้สาระทั้งนั้น เขาไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้กับสาวใช้ของกงเสวี่ยหลิงดี นางไร้เดียงสาเกินไป นอกจากใบหน้างดงามอ่อนหวานและเรือนร่างบอบบางนี้ นางเป็นสาวใช้ที่ไม่น่าจะเอาตัวรอดในวังหลวงอันโหดเหี้ยมได้เลย หรือเพราะกงเ
last updateTerakhir Diperbarui : 2024-12-04
Baca selengkapnya
Chapter9. ไม่อยากร้องไห้
ติงชุ่ยได้แต่บอกตัวเองให้ซ่อมชุดเก่าของตนมาให้เจ้านกน้อยใส่อีกสักชุด ดูท่านางจะตัวเล็กกว่ามาก ขนาดแขนเสื้อยังยาวเลยข้อมือออกมามาก เซียวเหรินผลักบานประตูห้องออกมา เขากวาดตามองแต่ไม่เห็นร่างของหญิงสาวตัวเล็ก นางจะอยู่หรือไปไหนทำสิ่งใดมิใช่เรื่องของเขาเลยสักนิด แต่ก็อดมองหาไม่ได้ เขาเม้มปากครุ่นคิดด้วยความเคยชิน ใคร่ครวญว่าควรถามหลัววั่งกับติงชุ่ยที่กำลังรับมือกับคนป่วยที่ทยอยเข้ามาให้เขาตรวจโรคดีหรือไม่ หางตาของเขาก็เห็นคนกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามา ด้วยบุคลิกลักษณะแล้วมิใช่ชาวบ้านทั่วไป กลิ่นไอสังหารเข้ามาก่อนจะมาถึงตัวเขาเสียอีก “ข้ามาพบท่านหมอเซียวเหริน” ติงชุ่ยกระโดดหลบไปอยู่ด้านหลังหลัววั่งทันทีที่เห็นชายฉกรรจ์ท่าทางดุดัน หลัววั่งเองแม้ตัวใหญ่แต่ไร้วรยุทธ์ เขาทำได้เพียงยืดแผ่นอกเตรียมปกป้องคนที่ถูกถามถึง แต่เซียวเหรินรู้ดีว่าคนกลุ่มนี้ไม่ใช่คนที่หลัววั่งจะล่วงเกินได้ เขาจึงก้าวออกมาด้านหน้าแม้ไม่ขยับปากเอ่ยอะไร แต่คนกลุ่มนั้นก็เข้าใจได้อย่างดี “มีธุระอันใด” “มีคนป่วย ต้องการให้ท่านไปรักษา” “ข้าไม่ออกไปรักษาผู้ใด” เซีย
last updateTerakhir Diperbarui : 2024-12-04
Baca selengkapnya
Chapter10.เจ้าตายไปแล้ว
ใช้เวลาเพียงครึ่งชั่วยาม เซียวเหรินก็ถูกเชิญลงจากรถม้า นับว่ายังเป็นการให้เกียรติตามสมควร ไม่ถึงกับฉุดกระชากมารักษาคน บรรดาคหบดีน้อยใหญ่มักมีคฤหาสน์สำหรับพักผ่อนอยู่ชานเมือง นอกจากพักผ่อนหย่อนใจเพื่อหาความสำราญแล้ว บางครั้งก็เป็นสถานที่ไว้หลบซ่อนยามมีภัยในเมืองหลวง เสนาบดีกรมพระคลังนามหลี่จุ้นโป๋ขึ้นชื่อว่าเป็นที่โปรดปรานของฮ่องเต้ และยังเป็นพระญาติของฮองเฮา สกุลหลี่จึงทำสิ่งใดมิใคร่เห็นหัวผู้ใดนัก เสนาบดีหลี่จุ้นโป๋อายุหกสิบแล้วแต่ยังมีข่าวคาวน่ารังเกียจอยู่เสมอ แม้เป็นหญิงชาวบ้านหรือภรรยาผู้อื่น หากถูกตาต้องใจหลี่จุ้นโป๋แล้วไม่หลุดรอดเงื้อมมือไปได้ แต่เพราะเป็นคนสกุลหลี่จึงไม่มีใครกล้าแตะต้องหรือร้องเรียน เซียวเหรินเดินตามชายฉกรรจ์ที่เขาคาดเดาว่าเป็นผู้อารักขาของเสนาบดีหลี่ ภายในคฤหาสน์ตบแต่งหรูหรา เครื่องเรือนล้วนเป็นของอย่างดีราคาสูง ภาพประดับจากจิตรกรที่มีชื่อเสียง ชายหนุ่มเพียงกลอกตามองมิได้แสดงท่าทีใดๆ ออกมา แม้ได้ยินเสียงก่นว่าด่าทอดังมาก่อนที่บานประตูจะถูกเปิดออก ผู้อารักขาลอบถอนหายใจบางเบาก่อนส่งเสียงให้คนด้านในรับทราบ “ท่านหม
last updateTerakhir Diperbarui : 2024-12-04
Baca selengkapnya
DMCA.com Protection Status