หน้าหลัก / รักโบราณ / ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก / Chapter 29. เพื่อให้มีชีวิตถึงวันที่สี่สิบเก้า  

แชร์

Chapter 29. เพื่อให้มีชีวิตถึงวันที่สี่สิบเก้า  

ผู้เขียน: เพลงมีนา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-17 22:30:45

ภาพของเซียวเหรินปรากฏในสมองน้อยๆ ของนาง สามวันนางต้องกลืนกินลมหายใจของเซียวเหรินเพื่อมีชีวิตให้ถึงสี่สิบเก้าวัน นางห่างชายผู้นั้นได้เพียงสามวัน เห็นทีว่านางต้องลากเขาเข้ามาเกี่ยวพันกับเรื่องเหล่านี้เร็วกว่าที่คาดไว้

เขาจะโกรธหรือเกลียดนางก็ไม่เป็นไร ขอเพียงแค่...

เพียงแค่นางทำให้อูหลันโหยวสมปรารถนาก็พอ

หัวใจของนกน้อยเจ็บแปลบขึ้นมาทันที

นางต้องการเพียงแค่นั้นจริงหรือ?

            เพียงเสียงผลักบานประตูแผ่วเบาก็ทำให้มือใหญ่ที่กำลังปลดสายคาดเอวอยู่นั้นชะงักไปเล็กน้อย กรุ่นไอสีขาวขมุกขมัวลอยอยู่เหนืออ่างอาบน้ำ เซียวเหรินไม่ชอบให้ใครมาปรนนิบัติ แต่ไหนแต่ไรเขาจัดการดูแลตัวเองได้  เพียงแค่เมื่อมาอยู่ที่หมู่ตึกนกยูงทอง เจ้าของเรือนก็ส่งเด็กรับใช้มาคอยปรนนิบัติ เขาเอ่ยปากขับไล่ไปหลายครา เวลานี้จึงไม่น่าจะมีใครกล้าเข้ามารบกวนเวลาอาบน้ำของเขาอีก

            แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีใครกล้า

            ร่างเล็กๆ ยื่นหน้าเข้ามาจากหลังฉากกั้น เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยังไม่ได้เปลือยกายนางจึงกล้าก้าวเข้ามายืนทั้งตัวพร้อมส่งรอยยิ้มกว้าง

            “เจ้าเข้ามาทำอะไร”  เซียวเหรินเห็นท่าทางกระโดกกระเดกของนางก็ได้แต่จนใจ ได้ยินว่าก่อเรื่องจนจูเต๋ออี้ปวดหัวขอไปสงบสติอารมณ์เลยทีเดียว

            “ข้ามาปรนนิบัติท่านเซียวเจ้าค่ะ”

            เซียวเหรินขมวดคิ้ว  “ใครสั่ง”

            “พี่เต๋ออี้บอกว่า ข้าควรมารับใช้ท่านเซียวถือเป็นการตอบแทนบุญคุณที่ท่านเซียวเมตตาข้าเจ้าค่ะ”

            เห็นแววตาวาววับราวลูกแมวน้อยแล้วก็ได้แต่ระบายลมหายใจอย่างอ่อนใจ  “แล้วนี่เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้ากำลังจะทำอะไร”

            “อาบน้ำไงเจ้าค่ะ”  หญิงสาวยิ้มกว้าง “ข้าเห็นบ่าวรับใช้เตรียมน้ำร้อนอยู่ แสดงว่าท่านเซียวกำลังจะอาบน้ำ ข้าฉลาดหรือไม่เจ้าคะ”

            “ฉลาดงั้นรึ”  เขายกมือขึ้นกอดอกมองหญิงสาวอย่างประเมิน 

นางพยักหน้าขึ้นลงแล้วรีบพูดขึ้น   “ข้าไม่ต้องถามผู้อื่นก็รู้ว่าท่านกำลังจะอาบน้ำไงเจ้าคะ ข้าฉลาดถึงเพียงนี้ สมแล้วที่คุณหนูชื่นชมข้าตลอดเวลา”

เซียวเหรินมองดวงตาใสซื่อของนางแล้วก็หรี่ตามองอย่างจับพิรุจ “กงเสวี่ยหลิงชื่นชมเจ้ามากสินะ”  

“เจ้าค่ะ คุณหนูบอกว่าข้าเก่งและฉลาดที่สุด”  พูดจบนางก็ยื่นมือไปหมายจะช่วยถอดเสื้อผ้าให้เขาอาบน้ำ  ชายหนุ่มหมุนตัวหลบอย่างรวดเร็วกลับมาเป็นฝ่ายยืนซ้อนด้านหลังหญิงสาว  มือหนึ่งจับท้ายทอยกดใบหน้าที่ยังระบายยิ้มอยู่นั้นลงในอ่างอาบน้ำทันที

สองมือของหลันหลันเกาะขอบอ่างอาบน้ำไว้แน่น เพราะไม่ทันตั้งตัวจึงไม่ได้กลั้นหายใจเก็บอากาศไว้ได้ทัน และไม่คิดว่าเซียวเหรินจะหนักมือถึงเพียงนี้  นางสำลักน้ำเข้าไปมากรู้สึกเหมือนกำลังจะหมดสติ มือที่กดท้ายทอยอยู่ก็เปลี่ยนเป็นดึงนางขึ้นมาจากน้ำ   นางไอแคกๆ เอาน้ำออกมาหลายคำ

หญิงสาวได้แต่เบิกตามองชายหนุ่มเบื้องหน้าที่ยังมีสีหน้าราบเรียบ

เหตุใดเขาจึงทำกับนางเช่นนี้

“ได้ยินว่าแคว้นเฉียนเหลียงมีคนนับถือแม่มดหมอผี มีสกุลอูทำหน้าที่บวงสรวงฟ้าดิน ทำพิธีกรรมต่างๆ เจ้าเกี่ยวข้องอันใดกับคนพวกนั้นหรือไม่”

หญิงสาวจ้องมองชายหนุ่มเบื้องหน้า เผลอเม้มริมฝีปากแน่นจนเรียบตึง  เมื่อมั่นใจว่านางไม่ยอมอ้าปากพูด  นางถูกพลิกตัวแล้วกดศีรษะลงไปในอ่างน้ำอีกครั้ง แต่คราวนี้หลันหลันเก็บกักลมหายใจไว้ได้ทันก่อนที่ใบหน้าจะกระแทกน้ำ   ดวงตาคมปลาบมองดูมือเล็กที่เกาะขอบอ่างอาบน้ำเกร็งจนเห็นเส้นเลือดปูดโปน คราวนี้นางไม่ดิ้นรนเหมือนครั้งแรก ราวกับยอมจำนนแต่ไม่ปริปากพูด

ข้าโกหกไม่เก่งและจะไม่โกหกท่าน

ซือจือเป็นคนสำคัญที่สุด

เสียงของนางดังก้องในศีรษของเขา เซียวเหรินดึงนางขึ้นมาจากน้ำ ใบหน้าซีดไร้สีเลือด เขาปล่อยมือจากท้ายทอยของนางมาประคองใบหน้าแล้วก้มลงประกบริมฝีปากที่เผยอขึ้นสูดอากาศเพื่อหายใจ  กรุ่นลมหายใจอบอุ่นไหลเวียนสู่ร่างกายของหญิงสาว หลันหลันละโมบอยากได้มากกว่านี้จึงเขย่งปลายเท้าให้ริมฝีปากตนเองได้ใกล้ชิดกับอีกฝ่ายมากยิ่งขึ้น จนกระทั้งเรียวลิ้นร้อนระอุแทรกเข้ามาในโพรงปาก ดวงตากลมจึงเบิกกว้างมากขึ้น ถูกเรียวลิ้นรุกไล่ในโพรงปากเป็นพัลวัล  จากที่เมื่อครู่นางรู้สึก ‘อิ่ม’ กับลมหายใจที่ได้กลืนกิน ยามนี้สองขาและร่างทั้งร่างอ่อนระทวย จนต้องยกมือขึ้นขยุ้มสาบเสื้อของเขาเพื่อพยุงตัวเองไม่ให้ทรุดลงไปกองกับพื้น

เห็นพวงแก้มฝาดสีเลือดขึ้นแล้ว เซียวเหรินจึงยอมถอนริมฝีปากออก เลื่อนมือมาจับไหล่สองข้างของนางเพื่อช่วยพยุงไม่ให้ร่างนางล้มลงไป

“อย่าให้ข้ารู้จากผู้อื่น ว่าเจ้าปิดบังสิ่งใดกับข้าไว้”

“ข้า...ข้า...”  สมองของนางมึนงงไปหมด มือใหญ่ผลักไหล่นางเบาๆ แต่ทำให้นางเซถอยห่างจากเขาไปหลายก้าว

“ออกไปได้แล้ว ข้าไม่ชอบให้ใครมาวุ่นวายเวลาอาบน้ำ”

หลันหลันได้แต่พยักหน้าหงึกหงักแล้วหมุนตัววิ่งออกไปโดยเร็ว  เซียวเหรินหรี่ตามองร่างเล็กออกไปพ้นสายตาแล้วจึงถอนหายใจหนักหน่วง ปลดเปลื้องเสื้อผ้าของตนออกแล้วพาร่างกายกำยำทว่าบนแผ่นหลังมีรอยแผลเป็นขนาดใหญ่หลายแผล เขาก้าวขาลงแช่ในอ่างน้ำอุ่นและหลับตาอย่างเหนื่อยอ่อน

เขาเป็นฝ่ายถอยหลังจนสุดหน้าผาแล้ว เหตุใดจึงไม่ปล่อยเขาไป เหตุใดไม่ทำตามที่เคยให้สัตย์สัญญากับเขา จะบีบเค้นให้มือสองข้างนี้ต้องเปื้อนเลือดอีกแล้วหรือ?  เขาเพียงหวังใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายเท่านั้น เหตุใดต้องบังคับให้ปีศาจร้ายใยตัวเขาตื่นขึ้นมาด้วย

            อู๋ซิงว่านเดินเข้ามาพร้อมห่อขนมในมือซ้าย แขนขวายังคงทิ้งข้างตัวอย่างไร้เรี่ยวแรง แต่แววตาของชายหนุ่มเปี่ยมไปด้วยความมีชีวิตชีวา  พี่สาวของเขาชอบทำขนมของกินเล่น ตั้งแต่มารดาของเขาตายจาก อู๋หมิ่นลี่ที่อายุมากเขาแค่ปีเดียวก็ทำหน้าที่แทนมารดาทุกอย่าง เรื่องที่พี่สาวชื่นชมคุณชายเซียวเหรินนั้น เขาและบิดารู้ดี  ทว่าเซียวเหรินไม่มีท่าทีใดกับพี่สาวของเขาเลยสักนิด  แม้เขาเห็นใจพี่สาวแต่ก็เข้าใจจิตใจของผู้ชายด้วยกันดี  

            ยังไม่ทันถึงที่หมาย เขาเห็นร่างเล็กๆ ผลักบานประตูออกมาด้วยท่าทีรีบร้อน หัวคิ้วขมวดมุ่นด้วยความสงสัย หญิงสาวเงยหน้าขึ้นเห็นอู๋ซิงว่านที่กำลังเดินมาทางนางพอดี ใบหน้าหวานเผยรอยยิ้มกว้างที่ทำเอาจิตใจบุรุษสั่นไหว  นางรีบวิ่งมาแล้วขดตัวหลบอยู่ด้านหลังของอู๋ซิงว่านทันที

            “แม่นางหลัน”

            “เจ้าอยู่นิ่งๆ ก่อน”  หลันหลันสั่งโดยไม่สนใจว่าอีกฝ่ายเป็นถึงคุณชายแห่งตระกูลอู๋  มือเรียวเล็กขยุ้มเสื้อด้านหลังของชายหนุ่มแน่น ใช้อีกฝ่ายเป็นกำแพง ป้องกันตัวจากคนที่เดินออกมาจากในห้องด้วยหน้าตาบึ้งตึง

            “หลันหลัน!”   จูเต๋ออี้ตวาดเสียงดังด้วยความโมโห ใบหน้าของเขามีคราบน้ำหมึกกระเซ็นเปื้อนเปรอะ รวมทั้งเสื้อที่สวมอยู่ด้วย

            อู๋ซิงว่านรับรู้ได้ว่าคนด้านหลังสะดุ้งโหยงแล้วขดตัวให้เล็กลงไปอีก ไม่ว่านางจะพยายามทำตัวให้ลีบเล็กลงเท่าไหร่ ก็ไม่อาจหลุดรอดสายตาของจูเต๋ออี้ได้ แต่เพราะเห็นว่าอู๋ซิงว่านยืดอกออกรับหน้าแทนหญิงสาว  เขาก็ได้แต่กัดฟันกรอดๆ

            “เจ้านี่มัน…เฮ้ย! ข้าจะไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว!”

            สิ้นประโยคของจูเต๋ออี้ เขาสะบัดแขนเสื้อเดินพรวดพราดไปทิศทางอื่น หลันหลันยื่นหน้ามาจากด้านหลังของอู๋ซิงว่านแล้วตะโกนออกไปก่อนที่ร่างของจูเต๋ออี้จะเดินจากไป

            “พี่เต๋ออี้รีบอาบน้ำนะ ประเดี๋ยวจะล้างหมึกไม่ออก ข้าจะเก็บให้เอง”

            จูเต๋ออี้หันขวับกลับมาแล้วตะโกนตอบ “เจ้าเป็นคนทำย่อมต้องเป็นคนเก็บ!”

            “ใช่ๆ ข้าเป็นคนทำ ข้าต้องเป็นคนเก็บ”  นางหดคอเหมือนเต่าตัวน้อย รอจนจูเต๋ออี้เดินหายไปลับตาแล้ว จึงถอนหายใจโล่งอกแล้วออกมา

จากด้านหลังของอู๋ซิงว่าน

            อู๋ซิงว่านอดหัวเราะไม่ได้ ปกติจูเต๋ออี้ไม่ใช่คนแสดงอารมณ์ความรู้สึกออกมา เท่าที่เคยพบเจอกัน ชายผู้นี้ไม่ปริปากพูด ไม่ยิ้ม แต่ครั้งนี้กลับยอมเสียมารยาท ต่อหน้าเขายังกล้าตวาดเสียงดังออกมาเช่นนี้ได้

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 30. เจ้าก่อเรื่องใด

    “เจ้าก่อเรื่องใดอีกล่ะ” “เจ้ามีตาทิพย์รึ” หลันหลันทำตาโตกวาดตามองชายหนุ่มเบื้องหน้า แต่อีกฝ่ายกลับหัวเราะแล้วยื่นห่อขนมส่งให้นาง เพียงได้กลิ่นหอมหวานนางก็ลืมสิ้นทุกสิ่ง รีบยื่นมือไปคว้าไว้แต่อู๋ซิงว่านกลับชูมือขึ้นเหนือศีรษะทำให้นางคว้าห่อขนมไมได้ นางไม่ยอมแพ้กระโดดยื่นไปสุดมือแต่ยังไม่ได้ อู๋ซิงว่านหมุนตัวหลบหลีกว่องไวแต่หญิงสาวที่ไร้วรยุทธกลับพลิกกายไล่ตามติดได้อย่างเหลือเชื่อ สายตาของนางจับจ้องเพียงห่อขนมในมือซ้ายของอู๋ซิงว่าน ทำให้ไม่ทันระวังก้อนหินที่อยู่บนพื้น ปลายเท้าเตะเข้าไปอย่างเต็มที เสียงร้องเจ็บดังขึ้นทันทีพร้อมกับทรุดลงนั่งเอามือกุมเท้าตัวเอง “เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง เจ็บมากไหม” อู๋ซิงว่านรีบทรุดตัวลงนั่ง ยื่นหน้าไปหมายจะดูว่านางบาดเจ็บที่ใด แต่หญิงสาวกลับเงยหน้าขึ้นมาพร้อมรอยยิ้มแล้วยื่นมือคว้าห่อขนมในมือของเขาไปอย่างรวดเร็ว “ได้แล้ว!” หลันหลันร้องขึ้นด้วยดีใจ รีบเปิดห่อผ้าออกหยิบขนมเปี๊ยะเข้าปากคำโต ราวกลับกลัวว่าจะถูกแย่งไป “ไม่ต้องรีบร้อน นี่ข้าเอามาให้เจ้าอยู่แล้ว” อู๋ซิงว่านหัวเราะในความเจ้าเล่ห์ของนาง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-17
  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 31.อย่าพูดเสียงดังไป

    เดิมทีเซียวเหรินไม่ชอบให้ผู้อื่นติดตาม แต่เพราะครั้งนี้คนที่ร้องขอคือลูกสาวของอู๋ซั่วไต้ที่เขานับถือเสมือนเป็นสหายต่างวัย เขาจึงไม่ได้ปฏิเสธคำขอของนาง หลายปีมานี่ใช่ว่าเขาจะไม่รู้ว่าสายตาที่อู๋หมิ่นลี่มองเขาเป็นเช่นไร แต่สำหรับเขาแล้ว นางเหมือนน้องสาวตัวน้อยที่เมื่อใดที่หันไปสบตา นางจะส่งรอยยิ้มให้เสมอ ไม่ว่าเขาจะมีสีหน้าใดก็ตาม ขณะที่เขาชะลอฝีเท้าเพื่อให้หญิงสาวทั้งสองเดินตามได้ทัน นอกจากสินค้าหลากหลายและอาหารเลิศรสแล้ว เสียงนักเล่านิทานข้างถนนยังเรียกผู้คนเข้าไปห้อมล้อมได้อีกด้วย “พวกท่านว่าอย่างไร! เสนาบดีฉ้อฉลล้มตายที่ละคน พวกเจ้าคิดว่าอย่างไรกันเล่า นั้นเพราะสวรรค์ลงทัณฑ์แล้ว” “อย่าพูดเสียงดังไป เรื่องพวกนี้ใช่เรื่องที่จะเอามาล้อเล่นรึ!” “แผ่นดินฟอนเฟะถึงเพียงนี้ เจ้าดูซิ ขอทานมีมากล้นเมืองแล้ว” “พวกเจ้าเคยได้ยินหรือไม่ แท้จริงแล้วพระเชษฐาขององค์ฮองเต้ยังมีพระชนม์ชีพอยู่” “เอ๋? องค์ชายเหรินนะหรือ? มิใช่สิ้นพระชนม์ไปตั้งแต่หกหรือเจ็ดปีก่อนรึ?” “ใช่ๆ ได้ยินว่าป่วยตายหรืออย่างไรนี่แหละ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-24
  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 32.ทำงาน

    ดวงตาคมหรี่ลงอย่างใช้ความคิด เขาไม่เชื่อเรื่องภูติผี ที่ผ่านมาจะเดินทางร่อนเร่ไปทั่วยุทธภพมีเรื่องแปลกประหลาดอยู่มากมาย ทว่าเรื่องราวเหล่านั้นมีเหตุผลอันรองรับให้เชื่อถือได้ แต่กับนางที่บอกว่าตัวเองเป็นนกหงส์หยกมาอยู่ในร่างของกงเสวี่ยหลิง ออกจะเหลือเชื่อเกินไปสักหน่อยกระมั้ง ทว่าลักษณะท่าทางของนางคล้ายว่าเพิ่งเคยกระทำเป็นครั้งแรก เขายังจำครั้งที่นางพยายามจับตะเกียบกินข้าว จับพู่กันเขียนอักษร หรือแม้กระทั่งให้เขาป้อนขนมให้ นางเชื่ออย่างสุดจิตสุดใจว่าตนเองเป็นนกหงส์หยก เรื่องเช่นนี้มันมีจริงหรือ? วิญญาณนกมาสิงในร่างมนุษย์ หากเป็นเช่นนั้นจริง กงเสวี่ยหลิงอาจตายไปแล้ว ลมหายใจของชายหนุ่มสะดุดไปเล็กน้อย หลังจากเขาพบหลันหลันแล้ว เคยย้อนกลับไปดูที่ธารน้ำแต่ไม่พบผู้ใดอีก เขาเองมีความทรงจำเกี่ยวกับกงเสวี่ยหลิงน้อยเหลือเกิน กล่าวตามจริงคือเขาไม่เคยพบหน้านางมาก่อน เพียงแค่รู้ว่านางคือน้องสาวของกงอี้เทาและถูกส่งมาเป็นเครื่องบรรณาการเท่านั้น ได้ยินว่าการเป็นอยู่ในวังของนางนั้นไม่ดีนัก ยังดีที่จางซงหยวนปลอมตัวเป็นพ่อค้าค่อยส่งเสบียงของใช้ไปให้ แต่กระนั้นเขาย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-24
  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 33.ไม่เชื่อว่าข้าเป็นนก

    เพียงปลายนิ้วสัมผัสท่อนแขนเรียวเล็กเย็นเฉียบราวแผ่นน้ำแข็ง เขาก็ขมวดคิ้ว มืออ่อนแรงยื่นมาคล้องคอของเขาไว้รั้งให้ใบหน้าใกล้ชิดอีกฝ่าย ดวงตาคมจ้องมองหญิงสาวในวงแขนทว่านางกลับหลุบตาลง ริมฝีซีดเซียวเผยอขึ้นเล็กน้อย แต่นั้นก็มากพอที่จะทำให้เขาโน้มหน้าลงประกบริมฝีปากกับนางอย่างรวดเร็ว ลมหายใจอุ่นแทรกเข้ามาในโพรงปาก ปลุกร่างกายให้อุ่นร้อนขึ้นมาอีกครั้งพร้อมจังหวะหัวใจที่เต้นเป็นปกติ นางผละจากริมฝีปากของเขา “ท่านเซียว” นางเรียกเขาเสียงแผ่วเบา ฝืนยิ้มให้เขา และเมื่อตั้งสติได้ก็ขยับตัวออกจากวงแขนที่โอบกอดอยู่“ขอบคุณท่านเซียว” “ข้าหวังว่าเจ้าจะรู้ว่าตนเองทำสิ่งใดอยู่” เขาเอ่ยเตือนสตินาง เขารู้ว่านางมิได้เดือดร้อนเรื่องเงินทองจนต้องไปที่หอนางโลมหรือมาที่ร้านขายสมุนไพร แต่เขาไม่ต้องการให้นางกลายเป็นเพียงแค่เครื่องมือของผู้ใดหรือต้องเสียสละตัวเองเพื่อปณิธานอันยิ่งใหญ่ที่อาจไม่มีวันเป็นจริง “สมุนไพรของท่านอยู่ด้านนอกแล้ว” นางเอ่ยบอกแล้วก้มหน้าลงเล็กน้อย เพียงครู่เดียวนางก็เงยหน้าขึ้นแล้วยิ้มกว้าง “ท่านเซียวเคยได้ยินหรือไม่ มีนางรำงดงามมากมาแสดงการร่ายรำที่หอช

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-24
  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 34.มือที่มีไว้ช่วยผู้คน

    เด็กหนุ่มพยักหน้ายอมรับ ที่นางพูดออกมาล้วนเป็นเรื่องจริง ที่แห่งนี้งดงามนัก มันอาจเป็นการค้นพบที่ยิ่งใหญ่สำหรับเขาที่ได้เจอสถานที่งดงามแสนพิเศษนี้ แต่ใครจะคิดว่าสถานที่ที่เขาคิดว่าเป็นคนแรกที่ค้นพบจะเจอเด็กหญิงประหลาดที่ฝึกปีนป่ายต้นไม้อยู่ “เจ้าเลือกเป็นหมอแล้วใช่ไหม” นางสาวเท้าเร็วๆ เพื่อให้ก้าวตามร่างสูงนั้นทัน “ข้าไม่ชอบรักษาผู้ใด” เขาตอบและไม่ได้หันมามองนางเลยสักนิด “แต่เจ้าศึกษาเรื่องสมุนไพร” “เพราะข้าชอบการปรุงยา” “ก็ไม่เห็นต่างกันเลยนี่” “แล้วเหตุใดเจ้าต้องใส่ใจด้วย” เขากลอกตามองท้องฟ้า ปกติเขาไม่ใช่คนช่างพูด แต่เจอกับเด็กหญิงผู้นี้ทีไหร่เขากลายเป็นคนพูดมากเกินความจำเป็นทุกที “เพราะหากข้าบาดเจ็บหรือต้องพิษ เจ้าจะได้รักษาข้าได้อย่างไรเล่า” คราวนี้เขาชะงักเท้าแล้วหันกลับมามองนาง ดวงตาคมกริบหรี่ตามองพลางพินิจพิเคราะห์ว่าเหตุใดนางจึงคาดหวังว่าเขาจะเป็นหมอเพื่อนาง หรือเขาเผลอไปให้ความหวังนางเข้าให้ หรือนางแอบหลงใหลในตัวเขา นางจึงมองเขาด้วยดวงตาเปี่ยมความมั่นใจ ริมฝึปากอิ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-24
  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 35.ช่างเป็นนกหงส์หยกที่กะล่อนเสียจริง

    เซียวเหรินพึมพำกับตนเองมากกว่าจะพูดกับจูเต๋ออี้ แม้เขาสงสัยในตัวหลันหลัน และกงอี้เทากับจางซงหยวนไม่พูดความจริงกับเขาเรื่อง หลันหลัน แต่เขาพอจะคาดเดาได้ไม่ยาก แม้ไม่รู้วิธีการแต่จุดหมายนั้นนั้นเขาย่อมรู้ดีแก่ใจ และไม่หายตัวไปทำอะไร ทุกครั้งที่นางกลับมา นางจะมายืนจ้องหน้าเขา เขย่งปลายเท้ายื่นหน้าประทับริมฝีปากเขาสูดเอาลมหายใจเข้าไป นับวันนางยิ่งชำนาญยิ่ง ไม่รอให้ครบสามวันแต่มาเก็บกินเอาวันละเล็กละน้อย บางครั้งก็แอบเลียริมฝีปากของเขาแล้วผลุบหนีไปราวกับเขาจะจับตัวมาตีก้นช่างเป็นนกหงส์หยกที่กะล่อนเสียจริงจูเต๋ออี้ไม่ล่วงรู้ความคิดของผู้เป็นนาย เห็นเพียงสีหน้าเย็นชาตามปกติ เมื่อมื้อเช้าเสร็จสิ้น เซียวเหรินตระเตรียมยาสำหรับอู๋ซิงว่านเสร็จแล้วจึงให้จูเต๋ออี้ไปตามหลันหลันมายกยาออกไป หลันหลันประคองถาดใส่ถ้วยยาด้วยความตั้งใจยิ่ง และไม่รู้ว่าจูเต๋ออี้หายตัวไปที่ใดแล้ว อู๋ซิงว่านกำลังฝึกฝนการใช้กระบี่ด้วยมือซ้าย หลายวันมานี่ฝีมือของเขาพัฒนาไปมาก ขนาดอู๋ซั่วไต้ผู้เป็นบิดายังเอ่ยชม อู่หมิ่นลี่เดินเข้ามาพร้อมกับไป๋ชิว ใบหน้าของคุณหนูใหญ่แห่งหมู่ตึกนกยูงทองปรากฏรอยยิ้มตื้นตันใจยิ่งนัก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-24
  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 36.ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก

    อู๋ซิงว่านได้แต่มองร่างเล็กๆ ที่วิ่งตามเซียวเหรินไปสุดสายตา เขารู้สึกับนางอย่างไรนั้น เขาย่อมรู้ดี แต่นางนั้นเล่า จะยอมอยู่เคียงข้างเขาหรือติดตามแผ่นหลังของเซียวเหรินเช่นนั้น หลันหลันก้าวเร็วๆ จนเกือบจะเป็นวิ่ง จนกระทั้งจู่ๆ เซียวเหรินก็หยุดเดิน นางเกือบหยุดไม่ทันปะทะกับแผ่นหลังของเขาเกือบหงายหลังล้มลง แต่เซียวเหรินไวพอจะคว้ามือเรียวเล็กฉุดไว้ได้ทันก่อนที่นางจะก้นกระแทกพื้น มือเรียวเล็กอยู่ในอุ้งมือของเขา ภาพมือของเขาอยู่ในอุ้งมือของเด็กหญิงวัยสิบขวบ ปรากฏขึ้นมาในสมองซ้อนทับกับมือของเขาที่จับมือนางไว้ “ขอบคุณท่านเซียว” หลันหลันยิ้มทะเล้น เมื่อทรงตัวได้แล้วจะดึงมือตนเองกลับแต่มือใหญ่ของเซียวเหรินกลับบีบแรงขึ้นจนรอยยิ้มของนางเจือนไป “ข้าเคยได้ยินว่าที่คนสกุลอูในแคว้นเฉียนเหลียงมีความสามารถพิเศษ นอกจากมนต์ดำคุณไสย์แล้วยังมีวิชาสะกดจิต” “วิชาสะกดจิต?” นางทำตาโตแสร้งทำเป็นไม่รู้สึกเจ็บปวดกับแรงบีบที่เพิ่มมากขึ้น “คืออะไรรึเจ้าคะ” เซียวเหรินหรี่ตามองดวงตาสุกใสของนาง ครู่ต่อมาจึงคลายมือออกแล้วหันหลังเดินมุ่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-24
  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 37. ไม่ถูกต้อง

    “ไม่ถูกต้อง!” นางรีบแย้ง “ไม่เป็นในสิ่งที่ตนเลือกเสียหน่อย ข้าไม่ได้อยากเป็นคนสกุลอูเลย แล้วก็ไม่ได้อยากสังหารผู้ใดด้วย” นางเบ้ปากพึมพำเบาๆ ไม่คิดว่าเขาจะได้ยิน แต่อีกฝ่ายไม่มีสีหน้าตื่นตระหนก ซ้ำยังยื่นมือมาโยกศีรษะนางอย่างหยอกล้อ “เมื่อถึงวันหนึ่ง เจ้าจะรู้คำตอบเอง” เขายังคงยิ้มให้ “หวังว่าเมื่อถึงเวลานั้น เจ้าจะเห็นแก่มิตรภาพของเราละเว้นชีวิตข้าบ้าง” “เหตุใดข้าต้องฆ่าเจ้าด้วย” นางเอียงคอมองอย่างสงสัย “ไม่รู้สิ” เขายิ้มขบขันกับแววตาไร้เดียงสาของนาง เด็กหนุ่มยันกายลุกขึ้นยืนยื่นมือไปให้นางจับเพื่อพยุงตัวลุกขึ้นแต่นางกลับส่ายหน้าไปมา“ข้าจะลงเขาแล้ว ไปด้วยกันเถิด”นางมองมือที่ยื่นมาตรงหน้า สองมือของนางยังกอดเข่าตัวเองแน่น นางเป็นเด็กหญิงอายุสิบขวบที่ถูกฝึกฝนไม่ให้รับความช่วยเหลือจากผู้ใด ‘หัวใจตีด้วยเหล็กกล้า เจ้าไม่ควรรู้สึกต่อสิ่งใด’ นั่นเป็นประโยคที่อาจารย์หญิงสั่งสอนนางอยู่เสมอ “ภูเขานี้ไม่มีสัตว์ร้าย เจ้าจะนั่งอยู่ก็ไม่เป็นไรกระมัง” เขาเข้าใจไปว่านางยังทิฐิอยู่จึงไม่อยากกลับลงไปตอนนี้“หรือไม่ก็...เจ้าน่ากลัวกว่าส

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-26

บทล่าสุด

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 53.จบ

    ชีวิตสี่ปีของหลันหลันเป็นเช่นนี้เรื่อยมา หลัววั่งรู้สึกว่ามีคนเข้ามา จึงเงยหน้าขึ้น เมื่อเห็นว่าผู้มาใหม่เป็นใครเขาก็ส่งยิ้มกว้างแล้วเดินออกไปอย่างเงียบๆ “ท่านรีบกลับเถิด ที่นี่ข้าจัดการเองได้” “ไยรีบไล่ข้าไปเล่า หรือเจ้านัดผู้ใดไว้” หญิงสาวได้ยินน้ำเสียงที่คุ้นเคยจึงเงยหน้าขึ้น บุรุษร่างสูงโปร่งสวมอาภรณ์สีเขียวใบไผ่ใบหน้าอ่อนล้าแต่ยังมีรอยยิ้มอ่อนโยน“ท่านมาแล้ว”เซียวเหรินส่งยิ้มให้นาง แม้เหนื่อยล้าจากการเร่งรีบเดินทางมา ทว่าเพียงได้เห็นรอยยิ้มนาง ความเหน็ดเหนื่อยเหล่านั้นพลันมลายหายไปสิ้น“เหตุใดกลับเร็วนักเล่า” หลันหลันอดเป็นห่วงไม่ได้ “ตามจริงต้องอีกสิบวันท่านจะกลับไม่ใช่หรือ? เดินทางไปตรวจดูการซ่อมแซมเขื่อนเป็นอย่างไรบ้าง ”“เจ้าไม่อยากเห็นหน้าสามีหรือไร”เขาทำเสียงไม่พอใจแต่เดินไปนั่งใกล้ๆ แล้วจับชีพจรให้นาง และไม่พูดเรื่องงานกับนาง จะว่าไป ก็ไม่มีมีเรื่องใดในชีวิตของเขาที่หลุดรอดสายตาของนาง เช่นเดียวกับที่เขารู้ว่าในแต่ละวันนางทำอะไร นางมีคนคอยส่งข่าว ส่งเขาให้จูเต๋ออี้วางองครักษ์ลับไว้โดบรอบ “พิษในตัวข้ายังต้องใช้เ

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 52.ไม่มีอะไรให้ลังเลและกังวลอีกแล้ว

    “คิดสิ” นางหัวเราะเบาๆ เสียงหัวเราะของนางทำให้กงอี้เทาปล่อยนางจากวงแขน เขาคิดว่านางจะเปลี่ยนใจจึงยอมคลายมือจากข้อมือนาง ทำให้นางส่งยาเม็ดนั้นส่งเข้าปากแล้วกลืนลงคอทันทีท่ามกลางดวงตาที่เบิกกว้างของกงอี้เทา “เจ้า!” “ข้าไม่เสียใจ” นางยิ้มแล้วยกมือลูบใบหน้าของกงอี้เทา “บอกจางซงหยวนให้ดูแลกงเสวี่ยหลิงให้ดี” “หลันโหยว!” “ข้าอยากขอร้องเจ้าครั้งสุดท้าย” นางพูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาลง “ได้ข้ารับปากเจ้า ข้ารับปากเจ้าทุกเรื่อง” กงอี้เทาประคองร่างที่อ่อนยวบลงในวงแขน มือของเขาสั่นเทาอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ใบหน้าของหญิงสาวมีรอยยิ้ม แต่ดวงตาของนางปิดลง ชีพจรเต้นช้าลง ร่างกายเริ่มเย็นเยียบขึ้นมาที่ละน้อย นางวางมือไว้บนหน้าอก บริเวณหัวใจของตนเองที่เต้นแผ่วเบาลงไปทุกที ทุกที ทุกที ไม่มีอะไรให้นางลังเลและกังวลอีกแล้ว..จูเต๋ออี้เดินเข้ามาอย่างเงียบเฉียบ ภาพที่เห็นจนเริ่มชินตาคือเจ้าของร่างสูงสง่านั่งเหยียดแผ่นหลังตั้งตรง แววตามุ่งมั่นและมือตวัดพู่กันแก้ไขปัญหาน้อยใหญ่ที่ฮ่องเต้พระองค์ก่อนทิ้งปัญหาไว้มากมายเหลือคณานับ

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 51. เจ้านกตะกละ

    “เจ้านกตะกละ!” เขาดุนางพลางแหวนหน้าคำรามเสียงพร่า ถูกนางรุกเร้าจนแท่งหยกไถลลื่นเข้าไปจนสุด นางหวีดร้องเบาๆ โผเข้ากอดเขา ปลายเล็บจิกที่แผ่นหลังไม่เคยรู้เลยว่าบุรุษผู้นี้จะมีซ่อนสิ่งใหญ่โตไว้ถึงเพียงนี้ ความเสียวซ่านแผ่นกระจายไปทั่วร่าง จนถึงปลายนิ้วเท้าที่เกร็งแทบเป็นตะคริว นางครวญเสียงกระเส่า ยามเมื่อเขาขยับสะโพกถอนแก่นกายออกช้าๆ แล้วกดกลับเข้ามาใหม่ นางได้แต่หวีดร้องส่งเสียงครางแทบขาดใจ เหงื่อร้อนหลั่งออกมาจนหยดบนกายของนาง ความเจ็บแปลบที่เกิดขึ้นในคราวแรกหายไปสิ้น ทุกการเติมเต็มของเขาทำให้ร่างกายที่เคยเยียบเย็นร้อนระอุ เหงื่อร้อนผุดขึ้นทุกรูขุมขน ร่างกายนางทวีความร้อนและเปียกชื้น รวมทั้งที่ใจกลางของดอกไม้สาวที่รองรับการเคลื่อนไหวของผีเสื้อหนุ่มช่างแนบแน่น ลึกล้ำและซ่านเสียว“ข้า...” นางไม่รู้ว่าตนเองจะพูดอะไร เขาป้อนความสุขสมที่นางไม่เคยรู้จัก ทำให้นางอิ่มเอมครั้งแล้วครั้งเล่า และหิวโหยต้องการไม่สิ้นสุด ไม่ว่าท่วงท่าใดที่เขานำพา ล้วนทำให้นางปรารถนาในตัวเขามากขึ้น มากขึ้น“เซียวเหริน!”ดวงตาของเซียวเหรินราวลูกไฟ ไฟปรารถนาเผาไหม้หัวใจทำให้เคลื่อนไหวร่างกายเร็วขึ้น ถาโถมและโหมกระหน

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 50.ใช้หัวใจฟังเสียวหัวใจสิ

    “เจ้าอยู่ที่นี่ให้ข้าถอนพิษให้เจ้าเถิด” “ข้าจะอยู่ที่นี่ในฐานะอะไรได้” นางส่ายหน้าไปมาบนอกเสื้อของเขา นางจงใจทำร้ายองค์ชายหงก่วงต่อหน้าผู้อื่นหากนางยืนข้างกายเขา คนภายใต้การปกครองย่อมมองเขาไม่ดีเป็นแน่ ขณะที่สมองและหัวใจตีกันยุ่งเหยิง ปลายคางของนางถูกช้อนขึ้น ตามด้วยริมฝีปากหยักสวยทาบทับ นางคิดจะถอยหลังหลบหนีแต่เรียวลิ้นร้อนไล่ต้อนจนนางไม่อาจตั้งสติคิดสิ่งใดได้ ถูกจุมพิตของเขาทำให้สับสนจนเกือบขาดอากาศหายใจเขาจึงยอมละริมฝีปากจากนาง “ใจร้าย!” นางทุบแผ่นอกแกร่งของเขา “ข้าต้องการเวลาคิด”“เรื่องแบบนี้ต้องคิดอะไรนานนัก” เขาโน้นหน้าลงจุมพิตดวงตาของนางที่ยังมีหยาดน้ำตาวาวใส “ใช้หัวใจฟังเสียงหัวใจสิ”‘ใช้หัวใจฟังเสียงหัวใจสิ’เป็นอีกครั้งที่นางได้ยินประโยคนี้ ดวงตาของนางเหม่อลอยไปชั่วขณะ และในจังหวะเดียวกัน เซียวเหรินตัดสินใจทำในสิ่งที่ตนเองต้องการ ช้อนร่างนุ่มนิ่มไว้แนบอกพานางกลับมาที่ห้องนอนของตนเอง การกักขังนกตัวหนึ่งไว้นั้น อาจไม่ใช่กรงขังที่แน่นหนาแต่เป็นความรู้สึกปรารถนาที่มีต่อนางจูเต๋ออี้เห็นผู้เป็นนายกลับมาพร้อมกับอุ้มหญิงสาวที่ซุกอยู่ในอกจนแทบมองไม่เห็นใบ

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 49.คิดถึง

    “งานเหล่านี้แท้จริงเป็นของเจ้า ยามนี้ลุงแค่ช่วยจัดการให้ไปก่อน” เขาพูดอย่างใจเย็น บ้านเมืองต้องพลิกฟื้นเป็นการใหญ่ กว่าจะเข้ารูปเข้ารอยคงใช้เวลาอีกสามถึงสี่เป็นอย่างน้อย เขาก้มมองเห็นเด็กน้อยทำหน้านิ่วก็หัวเราะเบาๆ “เจ้าต้องหมั่นเรียนรู้ เข้าใจหรือไม่” “หลานทราบแล้ว เสด็จลุง” “ดี” เขาพูดแล้วขยับปลายนิ้วเรียกจูเต๋ออี้ องครักษ์ข้างกายที่ทำหน้าที่รับใช้มายาวนานถอยออกไป ครู่หนึ่งจึงเดินกลับเข้ามาพร้อมขนม เด็กน้อยทำตาโตแล้วยื่นมือไปรับขนมจากเซียวเหริน “ข้าให้ในครัวปรุงให้เจ้าเป็นพิเศษ ในนี้มีส่วนผสมของสมุนไพรบำรุงร่างกาย เจ้าจะได้แข็งแรงเติบใหญ่เร็วไว” “ขอบพระทัยเสด็จลุง” “ไปเถอะ” “อื้ม!” เด็กน้อยปีนลงจากตัก ขันทีผู้หนึ่งเข้ามารับ เขามองเด็กน้อยที่ชะตาชีวิตลิขิตให้นั่งบัลลังก์มังกร ได้แต่หวังว่าตัวเองจะขัดเกลาเด็กคนนี้ให้เป็นฮ่องเต้ที่ดี คงมีเพียงการทำเช่นนี้ที่ลดทอนความรู้สึกผิดที่เคยให้คำสัตย์สาบานไว้ แม้ว่าชื่อของเขาจะเคยเป็นรัชทายาทก็ตาม เซียวเหรินก้มหน้าอ่านฏีกา หยิบพู่กันขึ

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 48. เหตุใดถึงเจ็บถึงเพียงนี้

    “ข้า...” หลันหลันอ้ำอึ้ง ไม่เคยคิดว่าตัวเองต้องไปจากที่นี่ ไม่ใช่หรอก นางมิได้อาลัยสถานที่แห่งนี้ มีเพียงความรู้สึกที่ต้องจากไกลเซียว เหรินต่างหากที่ทำให้นางปวดใจมือเรียวเล็กยกขึ้นอกที่หน้าอกซ้าย บริเวณที่ถูกเซียวเหรินซัดฝ่ามือเข้าใส่ ความเจ็บปวดระลอกหนึ่งราวเข็มแหลมเล็กนับร้อยนับพันทิ่มแทงหัวใจเจ็บ?เหตุใดถึงเจ็บถึงเพียงนี้“หลันหลัน” อู๋หมินลี่เห็นใบหน้าหลันหลันซีดเซียวไร้สีเลือดก็ตื่นตระหนก “เจ้าเจ็บรึ ให้ข้าตามหมอดีหรือไม่”หลันหลันส่ายหน้าไปมา ครู่หนึ่งนางสูดลมหายใจลึกสะกดความเจ็บปวดทั้งหมดแล้วฝืนยิ้มให้อู๋หมินลี่ พลันเสียงของท่านป้าต๋าฝูดังแว่วเข้ามาในหัวน้อยๆ ของนาง‘มีเวลาเพียงสี่สิบเก้าวัน’จากบันทึกของเซียวเหริน นางเหลือเวลาอีกแค่สามวันแต่ถ้านางลองให้กงอี้เทาถอนมนตร์สะกดจิต บางทีนางอาจมีชีวิตได้ยาวนานกว่านี้ แต่ชีวิตของอูหลันโหยว ไม่อาจอยู่ที่แคว้นเฉียน เหลียงได้“หลันหลัน” อู๋หมิ่นลี่บีบมือเย็นเฉียบของหลันหลัน “ข้าพาเจ้ากลับที่พักดีกว่า” “ให้ข้าประคองนางเองเจ้าค่ะ” ไป๋ชิวเข้ามาช่วยประคองหลันหลันเพื่อเดินกลับที่พัก อู๋ซิงว่านผ่านมาพอดีเห็นไป๋ชิวประคองหลันหลันอยู

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 47.ให้นางตัดสินใจเอง

    นางมุดอยู่ใต้ผ้าห่มแต่หูได้ยินเสียงพวกเขาตกลงต่อรองกัน สุดท้ายกงอี้เทาได้แต่ถอนหายใจหนักหน่วงแล้วก้าวออกไป นางคิดว่าในห้องไม่มีใครแล้วจึงโผล่หน้าออกมาจากผ้าห่ม แต่กลับพบสายตาคู่หนึ่งจ้องมองอยู่ก่อนแล้ว “ระหว่างนี้เจ้าพักอยู่ที่นี่ไปก่อน ข้าจะเป็นฝ่ายหาเวลามาพบเจ้าเอง” เขาพูดด้วยน้ำเสียงสงบนิ่งเช่นที่เคยเป็น “เข้าใจหรือไม่” นางพยักหน้าขึ้นลงเร็วๆ แทนคำตอบ เซียวเหรินไม่เอ่ยอะไรอีก หมุนตัวแล้วเดินออกไปเงียบๆ จนนางมั่นใจว่าครั้งนี้ไม่มีผู้อื่นแล้วจริงๆ จึงยอมลุกขึ้นจากที่นอนอีกครั้ง ‘ให้นางตัดสินใจเอง’ นางคิดมากจนตาลายเดือดร้อนบ่าวรับใช้ที่เฝ้าดูอาการเข้าใจผิดคิดว่าอาการของนางทรุดลง อู๋ซิงว่านรีบเข้ามาดูอาการของนาง พอรู้ว่านางหิวโหยจนหน้ามืดก็แหงนหน้าหัวเราะไม่เกรงใจคนป่วยอย่างนาง สั่งการให้บ่าวไพรยกสำรับอาหารมาให้ หลังจากถูกบิดาเรียกไปอบรม เขารู้ว่าควรทำใจเรื่องหลันหลัน อาจเพราะนางเป็นคนให้กำลังใจจนเขาสามารถใช้แขนขวาได้อีกครั้ง แต่พอรู้ว่านางอาการทรุดลงก็รีบมาดูทันที ใครจะรู้ว่านางแค่หิว ไม่สิ นางหิวมากจนจะเป็นลม ระ

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 46.ผลของการกระทำ

    “คุณหนู” ไป๋ชิวร้อนรน แต่หมอที่เก่งที่สุดกำลังดูแลสตรีอื่นจนทำให้คุณหนูของนางเป็นเช่นนี้ “ข้าไม่เป็นอะไร” นางพยายามสูดลมหายใจลึก แม้รู้อยู่แก่ใจว่าเซียวเหรินมองนางด้วยสายตาเช่นไร แต่นางก็ยังหวัง หวังว่าจะมีสักวันที่เขาจะรับรู้ความรู้สึกของนาง เปิดใจให้นางบ้าง “ไป๋ชิว พาคุณหนูใหญ่ไปพักผ่อนก่อน” อู๋ซั่วไต้เอ่ยขึ้นแล้วมองบุตรสาวด้วยความเห็นใจต่อให้ไม่มีสตรีผู้นั้นเข้ามา หรือแม้กระทั่งเขาจะใช้คนของหมู่ตึกนกยูงทองช่วยชีวิตคนสกุลเซียวเอาไว้ เขาย่อมรู้ดีว่าเรื่องเหล่านี้จะเอามาเป็นบุญคุณเพื่อให้เซียวเหรินแต่งงานกับอู๋หมิ่นลี่ได้ แต่ด้วยฐานะที่แท้จริงของเซียวเหริน อู๋ซั่วไต้รู้ดีว่า บุตรสาวของเขาไม่สามารถเคียงข้างชายผู้นั้นได้ ไม่สิ จะเรียกเซียวเหรินเช่นแต่ก่อนได้อย่างไร ในเมื่อตอนนี้เป็นถึง... “ท่านพ่อ” อู๋หมิ่นลี่กลั้นน้ำตาที่เอ่อคลอ “ท่านรู้อยู่แล้วว่าท่านเซียวเป็นใคร จึงพยายามเตือนลูกใช่ไหมเจ้าคะ” “ลี่เอ๋อร์ เจ้าหักห้ามใจตัวเองเสียเถิด ยังมีบุรุษดีๆ อีกมากมาย พ่อจะคัดเลือกคนที่ดีและเหมาะสมกับเจ้าเอง” “แต่ว่า.

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 45.เสียงเรียกที่แฝงอำนาจ

    “ลูกข้าเป็นอะไร” ไทเฮาถามด้วยสีหน้าตื่นตระหนก “รักษาเขาสิ!” เซียวเหรินถึงกับนิ่งงันด้วยอับจนถ้อยคำ แต่ฮ่องเต้หงฉานหัวเราะเสียงปร่าแล้วโบกมือไปมา “มันใหญ่มากใช่ไหมละ” เขาหัวเราะขืนๆ “อะไรกัน” ไทเฮาหันมาถามอย่างงุนงง แต่เซียวเหรินไม่กล้าพูดออกมา “มันคือฝี” ฮ่องเต้ที่กำลังจะกลายเป็นเพียงอดีตฮ่องเต้พูดขึ้นแล้วกดไปที่ท้องของตัวเอง “กระจายไปทั่วท้องแล้ว” “ไม่จริง... เหตุใดเป็นเช่นนี้” “เป็นมาเนิ่นนานแล้ว หมอหลวงรักษาไม่ได้ ลูกจึง...ไม่ใส่ใจกับมันอีก” ไทเฮาหันมาเขย่าแขนของเซียวเหริน “เจ้าได้ชื่อว่าเป็นหมอเทวดา ต้องรักษาได้!” “ถ้าได้รับการรักษาก่อนหน้านี้คงจะ...” “ช่างมันเถอะ” ฮ่องเต้หงฉานโบกมือไปมาจ้องมองใบหน้าของเซียวเหริน “เรารู้ ถึงได้ปล่อยให้มันเป็นเช่นนี้” “เจ้า! ทำไมโง่เช่นนี้” “เสด็จแม่” ฮ่องเต้พูดอย่างอ่อนแรง “ท่านเองก็รู้ว่า เสด็จพ่อยกบัลลังก์นี้ให้ใครตั้งแต่แรก” “หุบปากเสีย!” “เสด็จแม่...แท้จริงแล้วบัลลังก์นี้เป็น

DMCA.com Protection Status