แชร์

Chapter 28.  ถ้าวันหนึ่งข้าเป็นอะไร

ผู้เขียน: เพลงมีนา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-17 22:30:15

แม้พบกันในลักษณะนี้หลายครั้ง แต่จางซงหยวนยังอดตื่นตะลึงกับหญิงสาวตรงหน้าไม่ได้สักครั้งครา

“ฮูหยินของท่านเป็นอย่างไรบ้าง ”หลันหลันเอ่ยทักทายด้วยรอยยิ้มแล้วทรุดตัวลงนั่งที่เบาะนุ่ม ยื่นมือเรียวงามไปหยิบกาน้ำชา

 รินน้ำชาให้บุรุษหนุ่มและของตนเอง ทุกการเคลื่อนไหวของนางช่างเย้ายวนตรึงสายตาของผู้คนได้ยิ่งนัก

“นางสบายดี และฝากความระลึกถึงเจ้าด้วย”

“ข้าหวังใจว่าท่านจะดูแลนางอย่างดียิ่ง” หญิงสาวแย้มยิ้ม แต่ราวกับรอยยิ้มนั้นไม่ได้มีให้บุรุษเบื้องหน้า เป็นรอยยิ้มหวานเศร้าเมื่อความทรงจำต่างๆ พรั่งพรูเข้ามา พร้อมกับน้ำเสียงอ่อนโยนที่พูดคุยกับนางมาตลอดสามปี

หากวันหนึ่งวันใด ข้าเป็นอะไรไป เจ้า...เจ้าช่วยสานต่อสิ่งที่ข้าปรารถนาให้ลุล่วงด้วยนะ... หลันหลัน

จางซงหยวนพลันรู้สึกลำคอแห้งผาก แม้พบกันลักษณะนี้บ่อยครั้ง แต่ความสามารถในการแปลงโฉมและเปลี่ยนบุคลิกของนางทำให้เขาอดตะลึงงันไม่ได้สักคราเดียว มือใหญ่ยกถ้วยน้ำชาขึ้นดื่ม ยามนี้เสียงดนตรีและเสียงหัวเราะต่อกระซิกของบรรดาหญิงคณิกาในหอชมบุหลันดังลอดผ่านบานประตูเข้ามาในห้องส่วนตัวของนางรำอันดับหนึ่งของหอชมบุหลัน

            “ยามนี้เจ้าอยู่กับเซียวเหรินหรือ?” เขาถามเพื่อทำลายความเงียบระหว่างคนสองเสีย และได้คำตอบเป็นการพยักหน้าน้อยๆ แล้วเอ่ยอย่างไม่ใคร่ใส่ใจนัก

            “พบกันโดยบังเอิญ ท่านเซียวช่วยชีวิตข้าไว้ แต่เขาไม่รู้ว่าข้าเป็นใครและเข้าใจว่าข้าเป็นหญิงรับใช้ติดตามกงเสวี่ยหลิง”

            ครั้งนี้เป็นจางซงหยวนที่พยักหน้ารับรู้ เขาติดต่อกับอูหลันโหยวที่ถูกส่งตัวมาเป็นเครื่องบรรณาการในฐานะของกงเสวี่ยหลิง ส่วนกงเสวี่ยหลิงตัวจริงนั้นแต่งงานเป็นภรรยาของเขาแล้ว เขารักกงเสวี่ยหลิงมาตั้งแต่นางยังเด็กและกงอี้เทาเองก็ยอมรับเขา แม้ดูว่ากงเสวี่ยหลิงและเขาจะเห็นแก่ตัวที่ทำการสลับตัวเครื่องบรรณาการเช่นนี้ แต่อูหลันโหยวกลับแย้มยิ้มแล้วกล่าวว่านางถูกฝึกฝนมาเพื่อสิ่งนี้ มาเป็นสายสืบเพื่อส่งข่าวให้แคว้นเฉียนเหลียง เขารู้ว่ากงอี้เทามีแผนการใดอยู่แล้วแต่ไม่คิดว่าจะใช้อูหลันโหยวเป็นสายสืบข่าวความเคลื่อนไหวในวังหลวงเช่นนี้ 

ที่ผ่านมา ชีวิตนางไม่ได้สะดวกสบายนัก ถูกกลั่นแกล้งสารพัด เขาคิดเสมอว่าหากเป็นกงเสวี่ยหลิงมาที่นี่ด้วยตนเอง นางอาจตรอมใจหรือคิดสั้นฆ่าตัวตายไปนานแล้ว แต่สำหรับอูหลันโหยว นางกลับยืนหยัดแม้โดดเดี่ยว หลายครั้งที่ลอบออกไปนอกวัง นางจะแสร้งว่าเป็นหญิงรับใช้กงเสวี่ยหลิงชื่อหลันโหยว ด้วยความที่กงเสวี่ยหลิงไม่เป็นที่สนใจ อยู่ตำหนักเก่าซอมซ่อนางจึงหลบออกมาได้อย่างง่ายดายหลายครั้ง 

ชายหนุ่มที่สวมเสื้อผ้าเรียบง่ายแต่ประณีตแม้จะทำตัวไม่โดดเด่นแต่ท่าทางองอาจของเขาย่อมไม่อาจปกปิดได้มิดชิด มีเพียงรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่ปรุงแต่งมาเพื่อหลอกผู้อื่นว่าเป็นเพียงวาณิชคนหนึ่งเท่านั้น

“คนในวังไม่มีใครสงสัยว่าเจ้าหายตัวไปเลยหรือ?”

มุมปากหญิงสาวยกยิ้มก่อนวางถ้วยชาลง “ข้าคาดเดาว่าพวกเขาคงไม่กล้าส่งเสียงดังนัก เพราะเกรงจะกระทบถึงความสัมพันธ์ของแคว้น ยามนี้ฮ่องเต้อ่อนแอถึงขีดสุด ดวงเมืองก็อยู่ในจุดอับแล้ว เกรงว่าใกล้เวลาที่กงอี้เทาจะต้องลงมือแล้ว”

“อย่างนั้น...”

“ท่านเซียวจะร่วมมือกับเรา”

            เสียงถอนใจหนักหน่วงดังขึ้นอย่างไม่ปิดบังความกังวลใจ “เจ้าคิดว่าเซียวเหรินจะยอม...”

            คิ้วงามเลิกขึ้นเล็กน้อยตามด้วยรอยยิ้ม นางเอื้อมมือไปหยิบหน้ากากครึ่งใบหน้าที่สลักเสลาลวดลายอย่างวิจิตรบรรจงขึ้นมา  

            “ข้าเชื่อว่าคนผู้นั้นไม่อาจนิ่งดูดายมองดูหายนะครั้งนี้เป็นแน่” นางเอ่ยเหมือนรำพึงกับตนเองแล้วจึงสวมหน้ากากกับใบหน้าตนเอง 

จางซงหยวนขยับตัวไปช่วยผูกเชือกเส้นเล็กๆ ที่ด้านหลังให้นางด้วยความคุ้นชิน แม้นางจะไม่ออกปากขอร้องก็ตาม เขารู้จักหญิงสาวผู้นี้มาตั้งแต่เยาว์วัย เขากับกงอี้เทาซึ่งเป็นถึงรัชทายาทของแคว้นแม้ต้องแสร้งทำเป็นคนไร้ประโยชน์เพื่อให้ผู้อื่นตายใจ แต่เบื้องหลังต้องฝึกฝนวร-ยุทธ์อย่างหนักและยังศึกษาตำราการรบต่างๆ อีกมากมาย เพียงเพื่อกอบกู้แคว้นของตนกลับมาเป็นเอกราช ไม่ต้องถูกฮ่องเต้ทรราชกดขี่เช่นนี้

แต่นาง... อูหลันโหยว สตรีบอบบางที่อยู่เบื้องหน้าเขานางนี้ นางเป็นคนในสกุลอูที่ได้รับการยกย่องจากคนในแคว้น เพียงแต่นางเป็นเม็ดหมากที่ถูกเลือกไว้แล้วว่าจะต้องมาเป็นเครื่องบรรณาการแทนกงเสวี่ยหลิงที่ไร้เดียงสาซึ่งยามนี้เป็นภรรยาของเขาแล้ว  

“ข้าพบคนของเจ้าแล้ว” หญิงสาวขยับศีรษะไปมาเพื่อดูหน้ากากว่าจะไม่หลุดออกมาเปิดเผยใบหน้าในเวลานี้ “เจ้าฝึกพวกเขามาอย่างดียิ่ง”

“พวกเขาพร้อมพลีชีพเพื่อแคว้นเฉียนเหลียง” จางซงหยวนกล่าวอย่างหนักแน่น มีเพียงการล้มฮ่องเต้ทรราชผู้นี้เท่านั้นที่จะทำให้ราษฎรใต้หล้ามีความสุขอีกครั้ง “แต่เจ้าเป็นเช่นนี้จะกลับเข้าวังหลวงได้อีกหรือ?”

หญิงสาววาดปลายนิ้วลงบนโต๊ะ จางซงหยวนก้มมอง คิ้วกระบี่เลิกขึ้นอย่างประหลาดใจแต่หญิงสาวกลับยิ้ม

“เจ้ารู้ว่าตราราชลัญจกรหยกอยู่ที่ใดรึ”

“ชู่ว์” นางส่งเสียงเตือนแล้วแสร้งหัวเราะขึ้นมา “กงอี้เทารู้ว่าต้องทำเช่นไร”

“ข้าเข้าใจแล้ว”

หลันหลันลุกขึ้นยืนมุมปากยกเป็นรอยยิ้ม “ภายในเจ็ดวัน ข้าจะได้กลับเข้าวังหลวงอีกครั้ง เจ้าบอกให้กงอี้เทาเตรียมตัวให้พร้อม”

เมื่อได้ยินน้ำเสียงมั่นใจของนาง เขาจึงได้แต่ผงกศีรษะรับ ลุกขึ้นยืนมองตามร่างของหญิงสาวที่เดินไปเปิดประตู เสียงดนตรีและเสียงหัวเราะของผู้คนด้านนอกดังขึ้น หญิงรับใช้ที่เฝ้าประตูอยู่ยื่นถาดที่มีดอกโบตั๋นสีแดงสดให้ มือเรียวหยิบดอกไม้สีสวยขึ้นมาเสียบประดับศีรษะ นางไม่ได้หันกลับไปมองชายหนุ่มที่ยังรออยู่ด้านในห้อง รอให้นางเดินไปสุดสายตาแล้วจึงได้แต่ถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะเร้นกายออกไปอย่างไร้ร่องรอย

หญิงรับใช้พาสตรีสวมหน้ากากเดินไปยังโถงกลางของหอชมบุหลันแล้วค้อมกายอย่างนอบน้อมราวกับนางเป็นเทพธิดาจากสรวงสวรรค์ การมาของหญิงสาวแปลกหน้าดึงดูดสายตาทุกผู้คน ต่างตะลึงงันจนเกิดความเงียบ มีเพียงเสียงเพลงจากนักดนตรีที่รับรู้การมาของหญิงสาว จึงเริ่มบรรเลงบทเพลงใหม่ที่บรรเลงเพื่อเจ้าของเรือนร่างยั่วเย้า

ปลายเท้าวาดไปในอากาศ ก่อนกระโดดลอยตัวราวเหาะเหินไปคว้าเชือกที่โรยลงมาอย่างพอเหมาะ ร่างของนางเหวี่ยงหมุนราวนกน้อยเริงร่า ชายเสื้อโปร่งบางพลิ้วไหวเกิดกลิ่นหอมรัญจวนใจทำให้ผู้คนเคลิบเคลิ้ม เสียงเพลงเร่าร้อนเร่งจังหวะเร็วขึ้น เรือนร่างบอบบางอยู่กลางเวทีสะบัดเอวคอดกิ่ว เสียงกระพรวนจากข้อเท้ารับทุกจังหวะการเคลื่อนไหว ผู้คนที่จ้องมองพลันเห็นภาพนางดุจเทพธิดาล่องลอยในอากาศ มวลดอกไม้ผลิบานสะพรั่ง เสียงครางฮือฮาดังขึ้นเมื่อทุกคนเห็นหงส์งามตัวหนึ่งบินโฉบร่างหญิงงามที่ร่ายรำอยู่เบื้องหน้า ราวกับนางและหงส์ตัวนั้นสื่อสารกันเข้าใจ

“เทพธิดา”

“เทพธิดา”

มิรู้ว่าผู้ใดเอ่ยออกมาก่อน แต่กระนั้นต่างก็ขานรับกันเป็นเสียงเดียว

นกน้อยหลันหลันได้แต่มองคนเหล่านั้นด้วยความพึงพอใจ ยามนี้นางเข้าใจแล้วว่าสิ่งที่ดึงจิตวิญญาณให้คงอยู่ในร่างนี้เพราะเหตุใด นายของนางคืออูหลันโหยว ทายาทสกุลอูแห่งแคว้นเฉียนเหลียงที่สวมรอยเป็นกงเสวี่ยหลิงมาเป็นเครื่องบรรณาการทำภารกิจเพื่อโค่นล้มฮ่องเต้ทรราช

ชีวิตใหม่นี้มีเวลาเพียงแค่สี่สิบเก้าวัน แม้นางอยากใช้ชีวิตให้คุ้มค่ากับที่ได้มาอยู่ในร่างมนุษย์ ทว่าความปรารถนาของอูหลันโหยวยิ่งใหญ่กว่ามาก นางไม่อาจเห็นแก่ตัวละเลยความตั้งใจของอูหลันโหยวได้

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 29. เพื่อให้มีชีวิตถึงวันที่สี่สิบเก้า  

    ภาพของเซียวเหรินปรากฏในสมองน้อยๆ ของนาง สามวันนางต้องกลืนกินลมหายใจของเซียวเหรินเพื่อมีชีวิตให้ถึงสี่สิบเก้าวัน นางห่างชายผู้นั้นได้เพียงสามวัน เห็นทีว่านางต้องลากเขาเข้ามาเกี่ยวพันกับเรื่องเหล่านี้เร็วกว่าที่คาดไว้เขาจะโกรธหรือเกลียดนางก็ไม่เป็นไร ขอเพียงแค่...เพียงแค่นางทำให้อูหลันโหยวสมปรารถนาก็พอหัวใจของนกน้อยเจ็บแปลบขึ้นมาทันทีนางต้องการเพียงแค่นั้นจริงหรือ? เพียงเสียงผลักบานประตูแผ่วเบาก็ทำให้มือใหญ่ที่กำลังปลดสายคาดเอวอยู่นั้นชะงักไปเล็กน้อย กรุ่นไอสีขาวขมุกขมัวลอยอยู่เหนืออ่างอาบน้ำ เซียวเหรินไม่ชอบให้ใครมาปรนนิบัติ แต่ไหนแต่ไรเขาจัดการดูแลตัวเองได้ เพียงแค่เมื่อมาอยู่ที่หมู่ตึกนกยูงทอง เจ้าของเรือนก็ส่งเด็กรับใช้มาคอยปรนนิบัติ เขาเอ่ยปากขับไล่ไปหลายครา เวลานี้จึงไม่น่าจะมีใครกล้าเข้ามารบกวนเวลาอาบน้ำของเขาอีก แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีใครกล้า ร่างเล็กๆ ยื่นหน้าเข้ามาจากหลังฉากกั้น เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยังไม่ได้เปลือยกายนางจึงกล้าก้าวเข้ามายืนทั้งตัวพร้อมส่งรอยยิ้มกว้าง “เจ้าเข้ามาทำอะไร” เซียวเหรินเห็นท่าทางกระโดกกระเดกของนางก็ได้แต

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-17
  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 30. เจ้าก่อเรื่องใด

    “เจ้าก่อเรื่องใดอีกล่ะ” “เจ้ามีตาทิพย์รึ” หลันหลันทำตาโตกวาดตามองชายหนุ่มเบื้องหน้า แต่อีกฝ่ายกลับหัวเราะแล้วยื่นห่อขนมส่งให้นาง เพียงได้กลิ่นหอมหวานนางก็ลืมสิ้นทุกสิ่ง รีบยื่นมือไปคว้าไว้แต่อู๋ซิงว่านกลับชูมือขึ้นเหนือศีรษะทำให้นางคว้าห่อขนมไมได้ นางไม่ยอมแพ้กระโดดยื่นไปสุดมือแต่ยังไม่ได้ อู๋ซิงว่านหมุนตัวหลบหลีกว่องไวแต่หญิงสาวที่ไร้วรยุทธกลับพลิกกายไล่ตามติดได้อย่างเหลือเชื่อ สายตาของนางจับจ้องเพียงห่อขนมในมือซ้ายของอู๋ซิงว่าน ทำให้ไม่ทันระวังก้อนหินที่อยู่บนพื้น ปลายเท้าเตะเข้าไปอย่างเต็มที เสียงร้องเจ็บดังขึ้นทันทีพร้อมกับทรุดลงนั่งเอามือกุมเท้าตัวเอง “เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง เจ็บมากไหม” อู๋ซิงว่านรีบทรุดตัวลงนั่ง ยื่นหน้าไปหมายจะดูว่านางบาดเจ็บที่ใด แต่หญิงสาวกลับเงยหน้าขึ้นมาพร้อมรอยยิ้มแล้วยื่นมือคว้าห่อขนมในมือของเขาไปอย่างรวดเร็ว “ได้แล้ว!” หลันหลันร้องขึ้นด้วยดีใจ รีบเปิดห่อผ้าออกหยิบขนมเปี๊ยะเข้าปากคำโต ราวกลับกลัวว่าจะถูกแย่งไป “ไม่ต้องรีบร้อน นี่ข้าเอามาให้เจ้าอยู่แล้ว” อู๋ซิงว่านหัวเราะในความเจ้าเล่ห์ของนาง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-17
  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 31.อย่าพูดเสียงดังไป

    เดิมทีเซียวเหรินไม่ชอบให้ผู้อื่นติดตาม แต่เพราะครั้งนี้คนที่ร้องขอคือลูกสาวของอู๋ซั่วไต้ที่เขานับถือเสมือนเป็นสหายต่างวัย เขาจึงไม่ได้ปฏิเสธคำขอของนาง หลายปีมานี่ใช่ว่าเขาจะไม่รู้ว่าสายตาที่อู๋หมิ่นลี่มองเขาเป็นเช่นไร แต่สำหรับเขาแล้ว นางเหมือนน้องสาวตัวน้อยที่เมื่อใดที่หันไปสบตา นางจะส่งรอยยิ้มให้เสมอ ไม่ว่าเขาจะมีสีหน้าใดก็ตาม ขณะที่เขาชะลอฝีเท้าเพื่อให้หญิงสาวทั้งสองเดินตามได้ทัน นอกจากสินค้าหลากหลายและอาหารเลิศรสแล้ว เสียงนักเล่านิทานข้างถนนยังเรียกผู้คนเข้าไปห้อมล้อมได้อีกด้วย “พวกท่านว่าอย่างไร! เสนาบดีฉ้อฉลล้มตายที่ละคน พวกเจ้าคิดว่าอย่างไรกันเล่า นั้นเพราะสวรรค์ลงทัณฑ์แล้ว” “อย่าพูดเสียงดังไป เรื่องพวกนี้ใช่เรื่องที่จะเอามาล้อเล่นรึ!” “แผ่นดินฟอนเฟะถึงเพียงนี้ เจ้าดูซิ ขอทานมีมากล้นเมืองแล้ว” “พวกเจ้าเคยได้ยินหรือไม่ แท้จริงแล้วพระเชษฐาขององค์ฮองเต้ยังมีพระชนม์ชีพอยู่” “เอ๋? องค์ชายเหรินนะหรือ? มิใช่สิ้นพระชนม์ไปตั้งแต่หกหรือเจ็ดปีก่อนรึ?” “ใช่ๆ ได้ยินว่าป่วยตายหรืออย่างไรนี่แหละ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-24
  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 32.ทำงาน

    ดวงตาคมหรี่ลงอย่างใช้ความคิด เขาไม่เชื่อเรื่องภูติผี ที่ผ่านมาจะเดินทางร่อนเร่ไปทั่วยุทธภพมีเรื่องแปลกประหลาดอยู่มากมาย ทว่าเรื่องราวเหล่านั้นมีเหตุผลอันรองรับให้เชื่อถือได้ แต่กับนางที่บอกว่าตัวเองเป็นนกหงส์หยกมาอยู่ในร่างของกงเสวี่ยหลิง ออกจะเหลือเชื่อเกินไปสักหน่อยกระมั้ง ทว่าลักษณะท่าทางของนางคล้ายว่าเพิ่งเคยกระทำเป็นครั้งแรก เขายังจำครั้งที่นางพยายามจับตะเกียบกินข้าว จับพู่กันเขียนอักษร หรือแม้กระทั่งให้เขาป้อนขนมให้ นางเชื่ออย่างสุดจิตสุดใจว่าตนเองเป็นนกหงส์หยก เรื่องเช่นนี้มันมีจริงหรือ? วิญญาณนกมาสิงในร่างมนุษย์ หากเป็นเช่นนั้นจริง กงเสวี่ยหลิงอาจตายไปแล้ว ลมหายใจของชายหนุ่มสะดุดไปเล็กน้อย หลังจากเขาพบหลันหลันแล้ว เคยย้อนกลับไปดูที่ธารน้ำแต่ไม่พบผู้ใดอีก เขาเองมีความทรงจำเกี่ยวกับกงเสวี่ยหลิงน้อยเหลือเกิน กล่าวตามจริงคือเขาไม่เคยพบหน้านางมาก่อน เพียงแค่รู้ว่านางคือน้องสาวของกงอี้เทาและถูกส่งมาเป็นเครื่องบรรณาการเท่านั้น ได้ยินว่าการเป็นอยู่ในวังของนางนั้นไม่ดีนัก ยังดีที่จางซงหยวนปลอมตัวเป็นพ่อค้าค่อยส่งเสบียงของใช้ไปให้ แต่กระนั้นเขาย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-24
  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 33.ไม่เชื่อว่าข้าเป็นนก

    เพียงปลายนิ้วสัมผัสท่อนแขนเรียวเล็กเย็นเฉียบราวแผ่นน้ำแข็ง เขาก็ขมวดคิ้ว มืออ่อนแรงยื่นมาคล้องคอของเขาไว้รั้งให้ใบหน้าใกล้ชิดอีกฝ่าย ดวงตาคมจ้องมองหญิงสาวในวงแขนทว่านางกลับหลุบตาลง ริมฝีซีดเซียวเผยอขึ้นเล็กน้อย แต่นั้นก็มากพอที่จะทำให้เขาโน้มหน้าลงประกบริมฝีปากกับนางอย่างรวดเร็ว ลมหายใจอุ่นแทรกเข้ามาในโพรงปาก ปลุกร่างกายให้อุ่นร้อนขึ้นมาอีกครั้งพร้อมจังหวะหัวใจที่เต้นเป็นปกติ นางผละจากริมฝีปากของเขา “ท่านเซียว” นางเรียกเขาเสียงแผ่วเบา ฝืนยิ้มให้เขา และเมื่อตั้งสติได้ก็ขยับตัวออกจากวงแขนที่โอบกอดอยู่“ขอบคุณท่านเซียว” “ข้าหวังว่าเจ้าจะรู้ว่าตนเองทำสิ่งใดอยู่” เขาเอ่ยเตือนสตินาง เขารู้ว่านางมิได้เดือดร้อนเรื่องเงินทองจนต้องไปที่หอนางโลมหรือมาที่ร้านขายสมุนไพร แต่เขาไม่ต้องการให้นางกลายเป็นเพียงแค่เครื่องมือของผู้ใดหรือต้องเสียสละตัวเองเพื่อปณิธานอันยิ่งใหญ่ที่อาจไม่มีวันเป็นจริง “สมุนไพรของท่านอยู่ด้านนอกแล้ว” นางเอ่ยบอกแล้วก้มหน้าลงเล็กน้อย เพียงครู่เดียวนางก็เงยหน้าขึ้นแล้วยิ้มกว้าง “ท่านเซียวเคยได้ยินหรือไม่ มีนางรำงดงามมากมาแสดงการร่ายรำที่หอช

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-24
  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 34.มือที่มีไว้ช่วยผู้คน

    เด็กหนุ่มพยักหน้ายอมรับ ที่นางพูดออกมาล้วนเป็นเรื่องจริง ที่แห่งนี้งดงามนัก มันอาจเป็นการค้นพบที่ยิ่งใหญ่สำหรับเขาที่ได้เจอสถานที่งดงามแสนพิเศษนี้ แต่ใครจะคิดว่าสถานที่ที่เขาคิดว่าเป็นคนแรกที่ค้นพบจะเจอเด็กหญิงประหลาดที่ฝึกปีนป่ายต้นไม้อยู่ “เจ้าเลือกเป็นหมอแล้วใช่ไหม” นางสาวเท้าเร็วๆ เพื่อให้ก้าวตามร่างสูงนั้นทัน “ข้าไม่ชอบรักษาผู้ใด” เขาตอบและไม่ได้หันมามองนางเลยสักนิด “แต่เจ้าศึกษาเรื่องสมุนไพร” “เพราะข้าชอบการปรุงยา” “ก็ไม่เห็นต่างกันเลยนี่” “แล้วเหตุใดเจ้าต้องใส่ใจด้วย” เขากลอกตามองท้องฟ้า ปกติเขาไม่ใช่คนช่างพูด แต่เจอกับเด็กหญิงผู้นี้ทีไหร่เขากลายเป็นคนพูดมากเกินความจำเป็นทุกที “เพราะหากข้าบาดเจ็บหรือต้องพิษ เจ้าจะได้รักษาข้าได้อย่างไรเล่า” คราวนี้เขาชะงักเท้าแล้วหันกลับมามองนาง ดวงตาคมกริบหรี่ตามองพลางพินิจพิเคราะห์ว่าเหตุใดนางจึงคาดหวังว่าเขาจะเป็นหมอเพื่อนาง หรือเขาเผลอไปให้ความหวังนางเข้าให้ หรือนางแอบหลงใหลในตัวเขา นางจึงมองเขาด้วยดวงตาเปี่ยมความมั่นใจ ริมฝึปากอิ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-24
  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 35.ช่างเป็นนกหงส์หยกที่กะล่อนเสียจริง

    เซียวเหรินพึมพำกับตนเองมากกว่าจะพูดกับจูเต๋ออี้ แม้เขาสงสัยในตัวหลันหลัน และกงอี้เทากับจางซงหยวนไม่พูดความจริงกับเขาเรื่อง หลันหลัน แต่เขาพอจะคาดเดาได้ไม่ยาก แม้ไม่รู้วิธีการแต่จุดหมายนั้นนั้นเขาย่อมรู้ดีแก่ใจ และไม่หายตัวไปทำอะไร ทุกครั้งที่นางกลับมา นางจะมายืนจ้องหน้าเขา เขย่งปลายเท้ายื่นหน้าประทับริมฝีปากเขาสูดเอาลมหายใจเข้าไป นับวันนางยิ่งชำนาญยิ่ง ไม่รอให้ครบสามวันแต่มาเก็บกินเอาวันละเล็กละน้อย บางครั้งก็แอบเลียริมฝีปากของเขาแล้วผลุบหนีไปราวกับเขาจะจับตัวมาตีก้นช่างเป็นนกหงส์หยกที่กะล่อนเสียจริงจูเต๋ออี้ไม่ล่วงรู้ความคิดของผู้เป็นนาย เห็นเพียงสีหน้าเย็นชาตามปกติ เมื่อมื้อเช้าเสร็จสิ้น เซียวเหรินตระเตรียมยาสำหรับอู๋ซิงว่านเสร็จแล้วจึงให้จูเต๋ออี้ไปตามหลันหลันมายกยาออกไป หลันหลันประคองถาดใส่ถ้วยยาด้วยความตั้งใจยิ่ง และไม่รู้ว่าจูเต๋ออี้หายตัวไปที่ใดแล้ว อู๋ซิงว่านกำลังฝึกฝนการใช้กระบี่ด้วยมือซ้าย หลายวันมานี่ฝีมือของเขาพัฒนาไปมาก ขนาดอู๋ซั่วไต้ผู้เป็นบิดายังเอ่ยชม อู่หมิ่นลี่เดินเข้ามาพร้อมกับไป๋ชิว ใบหน้าของคุณหนูใหญ่แห่งหมู่ตึกนกยูงทองปรากฏรอยยิ้มตื้นตันใจยิ่งนัก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-24
  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 36.ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก

    อู๋ซิงว่านได้แต่มองร่างเล็กๆ ที่วิ่งตามเซียวเหรินไปสุดสายตา เขารู้สึกับนางอย่างไรนั้น เขาย่อมรู้ดี แต่นางนั้นเล่า จะยอมอยู่เคียงข้างเขาหรือติดตามแผ่นหลังของเซียวเหรินเช่นนั้น หลันหลันก้าวเร็วๆ จนเกือบจะเป็นวิ่ง จนกระทั้งจู่ๆ เซียวเหรินก็หยุดเดิน นางเกือบหยุดไม่ทันปะทะกับแผ่นหลังของเขาเกือบหงายหลังล้มลง แต่เซียวเหรินไวพอจะคว้ามือเรียวเล็กฉุดไว้ได้ทันก่อนที่นางจะก้นกระแทกพื้น มือเรียวเล็กอยู่ในอุ้งมือของเขา ภาพมือของเขาอยู่ในอุ้งมือของเด็กหญิงวัยสิบขวบ ปรากฏขึ้นมาในสมองซ้อนทับกับมือของเขาที่จับมือนางไว้ “ขอบคุณท่านเซียว” หลันหลันยิ้มทะเล้น เมื่อทรงตัวได้แล้วจะดึงมือตนเองกลับแต่มือใหญ่ของเซียวเหรินกลับบีบแรงขึ้นจนรอยยิ้มของนางเจือนไป “ข้าเคยได้ยินว่าที่คนสกุลอูในแคว้นเฉียนเหลียงมีความสามารถพิเศษ นอกจากมนต์ดำคุณไสย์แล้วยังมีวิชาสะกดจิต” “วิชาสะกดจิต?” นางทำตาโตแสร้งทำเป็นไม่รู้สึกเจ็บปวดกับแรงบีบที่เพิ่มมากขึ้น “คืออะไรรึเจ้าคะ” เซียวเหรินหรี่ตามองดวงตาสุกใสของนาง ครู่ต่อมาจึงคลายมือออกแล้วหันหลังเดินมุ่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-24

บทล่าสุด

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 53.จบ

    ชีวิตสี่ปีของหลันหลันเป็นเช่นนี้เรื่อยมา หลัววั่งรู้สึกว่ามีคนเข้ามา จึงเงยหน้าขึ้น เมื่อเห็นว่าผู้มาใหม่เป็นใครเขาก็ส่งยิ้มกว้างแล้วเดินออกไปอย่างเงียบๆ “ท่านรีบกลับเถิด ที่นี่ข้าจัดการเองได้” “ไยรีบไล่ข้าไปเล่า หรือเจ้านัดผู้ใดไว้” หญิงสาวได้ยินน้ำเสียงที่คุ้นเคยจึงเงยหน้าขึ้น บุรุษร่างสูงโปร่งสวมอาภรณ์สีเขียวใบไผ่ใบหน้าอ่อนล้าแต่ยังมีรอยยิ้มอ่อนโยน“ท่านมาแล้ว”เซียวเหรินส่งยิ้มให้นาง แม้เหนื่อยล้าจากการเร่งรีบเดินทางมา ทว่าเพียงได้เห็นรอยยิ้มนาง ความเหน็ดเหนื่อยเหล่านั้นพลันมลายหายไปสิ้น“เหตุใดกลับเร็วนักเล่า” หลันหลันอดเป็นห่วงไม่ได้ “ตามจริงต้องอีกสิบวันท่านจะกลับไม่ใช่หรือ? เดินทางไปตรวจดูการซ่อมแซมเขื่อนเป็นอย่างไรบ้าง ”“เจ้าไม่อยากเห็นหน้าสามีหรือไร”เขาทำเสียงไม่พอใจแต่เดินไปนั่งใกล้ๆ แล้วจับชีพจรให้นาง และไม่พูดเรื่องงานกับนาง จะว่าไป ก็ไม่มีมีเรื่องใดในชีวิตของเขาที่หลุดรอดสายตาของนาง เช่นเดียวกับที่เขารู้ว่าในแต่ละวันนางทำอะไร นางมีคนคอยส่งข่าว ส่งเขาให้จูเต๋ออี้วางองครักษ์ลับไว้โดบรอบ “พิษในตัวข้ายังต้องใช้เ

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 52.ไม่มีอะไรให้ลังเลและกังวลอีกแล้ว

    “คิดสิ” นางหัวเราะเบาๆ เสียงหัวเราะของนางทำให้กงอี้เทาปล่อยนางจากวงแขน เขาคิดว่านางจะเปลี่ยนใจจึงยอมคลายมือจากข้อมือนาง ทำให้นางส่งยาเม็ดนั้นส่งเข้าปากแล้วกลืนลงคอทันทีท่ามกลางดวงตาที่เบิกกว้างของกงอี้เทา “เจ้า!” “ข้าไม่เสียใจ” นางยิ้มแล้วยกมือลูบใบหน้าของกงอี้เทา “บอกจางซงหยวนให้ดูแลกงเสวี่ยหลิงให้ดี” “หลันโหยว!” “ข้าอยากขอร้องเจ้าครั้งสุดท้าย” นางพูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาลง “ได้ข้ารับปากเจ้า ข้ารับปากเจ้าทุกเรื่อง” กงอี้เทาประคองร่างที่อ่อนยวบลงในวงแขน มือของเขาสั่นเทาอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ใบหน้าของหญิงสาวมีรอยยิ้ม แต่ดวงตาของนางปิดลง ชีพจรเต้นช้าลง ร่างกายเริ่มเย็นเยียบขึ้นมาที่ละน้อย นางวางมือไว้บนหน้าอก บริเวณหัวใจของตนเองที่เต้นแผ่วเบาลงไปทุกที ทุกที ทุกที ไม่มีอะไรให้นางลังเลและกังวลอีกแล้ว..จูเต๋ออี้เดินเข้ามาอย่างเงียบเฉียบ ภาพที่เห็นจนเริ่มชินตาคือเจ้าของร่างสูงสง่านั่งเหยียดแผ่นหลังตั้งตรง แววตามุ่งมั่นและมือตวัดพู่กันแก้ไขปัญหาน้อยใหญ่ที่ฮ่องเต้พระองค์ก่อนทิ้งปัญหาไว้มากมายเหลือคณานับ

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 51. เจ้านกตะกละ

    “เจ้านกตะกละ!” เขาดุนางพลางแหวนหน้าคำรามเสียงพร่า ถูกนางรุกเร้าจนแท่งหยกไถลลื่นเข้าไปจนสุด นางหวีดร้องเบาๆ โผเข้ากอดเขา ปลายเล็บจิกที่แผ่นหลังไม่เคยรู้เลยว่าบุรุษผู้นี้จะมีซ่อนสิ่งใหญ่โตไว้ถึงเพียงนี้ ความเสียวซ่านแผ่นกระจายไปทั่วร่าง จนถึงปลายนิ้วเท้าที่เกร็งแทบเป็นตะคริว นางครวญเสียงกระเส่า ยามเมื่อเขาขยับสะโพกถอนแก่นกายออกช้าๆ แล้วกดกลับเข้ามาใหม่ นางได้แต่หวีดร้องส่งเสียงครางแทบขาดใจ เหงื่อร้อนหลั่งออกมาจนหยดบนกายของนาง ความเจ็บแปลบที่เกิดขึ้นในคราวแรกหายไปสิ้น ทุกการเติมเต็มของเขาทำให้ร่างกายที่เคยเยียบเย็นร้อนระอุ เหงื่อร้อนผุดขึ้นทุกรูขุมขน ร่างกายนางทวีความร้อนและเปียกชื้น รวมทั้งที่ใจกลางของดอกไม้สาวที่รองรับการเคลื่อนไหวของผีเสื้อหนุ่มช่างแนบแน่น ลึกล้ำและซ่านเสียว“ข้า...” นางไม่รู้ว่าตนเองจะพูดอะไร เขาป้อนความสุขสมที่นางไม่เคยรู้จัก ทำให้นางอิ่มเอมครั้งแล้วครั้งเล่า และหิวโหยต้องการไม่สิ้นสุด ไม่ว่าท่วงท่าใดที่เขานำพา ล้วนทำให้นางปรารถนาในตัวเขามากขึ้น มากขึ้น“เซียวเหริน!”ดวงตาของเซียวเหรินราวลูกไฟ ไฟปรารถนาเผาไหม้หัวใจทำให้เคลื่อนไหวร่างกายเร็วขึ้น ถาโถมและโหมกระหน

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 50.ใช้หัวใจฟังเสียวหัวใจสิ

    “เจ้าอยู่ที่นี่ให้ข้าถอนพิษให้เจ้าเถิด” “ข้าจะอยู่ที่นี่ในฐานะอะไรได้” นางส่ายหน้าไปมาบนอกเสื้อของเขา นางจงใจทำร้ายองค์ชายหงก่วงต่อหน้าผู้อื่นหากนางยืนข้างกายเขา คนภายใต้การปกครองย่อมมองเขาไม่ดีเป็นแน่ ขณะที่สมองและหัวใจตีกันยุ่งเหยิง ปลายคางของนางถูกช้อนขึ้น ตามด้วยริมฝีปากหยักสวยทาบทับ นางคิดจะถอยหลังหลบหนีแต่เรียวลิ้นร้อนไล่ต้อนจนนางไม่อาจตั้งสติคิดสิ่งใดได้ ถูกจุมพิตของเขาทำให้สับสนจนเกือบขาดอากาศหายใจเขาจึงยอมละริมฝีปากจากนาง “ใจร้าย!” นางทุบแผ่นอกแกร่งของเขา “ข้าต้องการเวลาคิด”“เรื่องแบบนี้ต้องคิดอะไรนานนัก” เขาโน้นหน้าลงจุมพิตดวงตาของนางที่ยังมีหยาดน้ำตาวาวใส “ใช้หัวใจฟังเสียงหัวใจสิ”‘ใช้หัวใจฟังเสียงหัวใจสิ’เป็นอีกครั้งที่นางได้ยินประโยคนี้ ดวงตาของนางเหม่อลอยไปชั่วขณะ และในจังหวะเดียวกัน เซียวเหรินตัดสินใจทำในสิ่งที่ตนเองต้องการ ช้อนร่างนุ่มนิ่มไว้แนบอกพานางกลับมาที่ห้องนอนของตนเอง การกักขังนกตัวหนึ่งไว้นั้น อาจไม่ใช่กรงขังที่แน่นหนาแต่เป็นความรู้สึกปรารถนาที่มีต่อนางจูเต๋ออี้เห็นผู้เป็นนายกลับมาพร้อมกับอุ้มหญิงสาวที่ซุกอยู่ในอกจนแทบมองไม่เห็นใบ

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 49.คิดถึง

    “งานเหล่านี้แท้จริงเป็นของเจ้า ยามนี้ลุงแค่ช่วยจัดการให้ไปก่อน” เขาพูดอย่างใจเย็น บ้านเมืองต้องพลิกฟื้นเป็นการใหญ่ กว่าจะเข้ารูปเข้ารอยคงใช้เวลาอีกสามถึงสี่เป็นอย่างน้อย เขาก้มมองเห็นเด็กน้อยทำหน้านิ่วก็หัวเราะเบาๆ “เจ้าต้องหมั่นเรียนรู้ เข้าใจหรือไม่” “หลานทราบแล้ว เสด็จลุง” “ดี” เขาพูดแล้วขยับปลายนิ้วเรียกจูเต๋ออี้ องครักษ์ข้างกายที่ทำหน้าที่รับใช้มายาวนานถอยออกไป ครู่หนึ่งจึงเดินกลับเข้ามาพร้อมขนม เด็กน้อยทำตาโตแล้วยื่นมือไปรับขนมจากเซียวเหริน “ข้าให้ในครัวปรุงให้เจ้าเป็นพิเศษ ในนี้มีส่วนผสมของสมุนไพรบำรุงร่างกาย เจ้าจะได้แข็งแรงเติบใหญ่เร็วไว” “ขอบพระทัยเสด็จลุง” “ไปเถอะ” “อื้ม!” เด็กน้อยปีนลงจากตัก ขันทีผู้หนึ่งเข้ามารับ เขามองเด็กน้อยที่ชะตาชีวิตลิขิตให้นั่งบัลลังก์มังกร ได้แต่หวังว่าตัวเองจะขัดเกลาเด็กคนนี้ให้เป็นฮ่องเต้ที่ดี คงมีเพียงการทำเช่นนี้ที่ลดทอนความรู้สึกผิดที่เคยให้คำสัตย์สาบานไว้ แม้ว่าชื่อของเขาจะเคยเป็นรัชทายาทก็ตาม เซียวเหรินก้มหน้าอ่านฏีกา หยิบพู่กันขึ

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 48. เหตุใดถึงเจ็บถึงเพียงนี้

    “ข้า...” หลันหลันอ้ำอึ้ง ไม่เคยคิดว่าตัวเองต้องไปจากที่นี่ ไม่ใช่หรอก นางมิได้อาลัยสถานที่แห่งนี้ มีเพียงความรู้สึกที่ต้องจากไกลเซียว เหรินต่างหากที่ทำให้นางปวดใจมือเรียวเล็กยกขึ้นอกที่หน้าอกซ้าย บริเวณที่ถูกเซียวเหรินซัดฝ่ามือเข้าใส่ ความเจ็บปวดระลอกหนึ่งราวเข็มแหลมเล็กนับร้อยนับพันทิ่มแทงหัวใจเจ็บ?เหตุใดถึงเจ็บถึงเพียงนี้“หลันหลัน” อู๋หมินลี่เห็นใบหน้าหลันหลันซีดเซียวไร้สีเลือดก็ตื่นตระหนก “เจ้าเจ็บรึ ให้ข้าตามหมอดีหรือไม่”หลันหลันส่ายหน้าไปมา ครู่หนึ่งนางสูดลมหายใจลึกสะกดความเจ็บปวดทั้งหมดแล้วฝืนยิ้มให้อู๋หมินลี่ พลันเสียงของท่านป้าต๋าฝูดังแว่วเข้ามาในหัวน้อยๆ ของนาง‘มีเวลาเพียงสี่สิบเก้าวัน’จากบันทึกของเซียวเหริน นางเหลือเวลาอีกแค่สามวันแต่ถ้านางลองให้กงอี้เทาถอนมนตร์สะกดจิต บางทีนางอาจมีชีวิตได้ยาวนานกว่านี้ แต่ชีวิตของอูหลันโหยว ไม่อาจอยู่ที่แคว้นเฉียน เหลียงได้“หลันหลัน” อู๋หมิ่นลี่บีบมือเย็นเฉียบของหลันหลัน “ข้าพาเจ้ากลับที่พักดีกว่า” “ให้ข้าประคองนางเองเจ้าค่ะ” ไป๋ชิวเข้ามาช่วยประคองหลันหลันเพื่อเดินกลับที่พัก อู๋ซิงว่านผ่านมาพอดีเห็นไป๋ชิวประคองหลันหลันอยู

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 47.ให้นางตัดสินใจเอง

    นางมุดอยู่ใต้ผ้าห่มแต่หูได้ยินเสียงพวกเขาตกลงต่อรองกัน สุดท้ายกงอี้เทาได้แต่ถอนหายใจหนักหน่วงแล้วก้าวออกไป นางคิดว่าในห้องไม่มีใครแล้วจึงโผล่หน้าออกมาจากผ้าห่ม แต่กลับพบสายตาคู่หนึ่งจ้องมองอยู่ก่อนแล้ว “ระหว่างนี้เจ้าพักอยู่ที่นี่ไปก่อน ข้าจะเป็นฝ่ายหาเวลามาพบเจ้าเอง” เขาพูดด้วยน้ำเสียงสงบนิ่งเช่นที่เคยเป็น “เข้าใจหรือไม่” นางพยักหน้าขึ้นลงเร็วๆ แทนคำตอบ เซียวเหรินไม่เอ่ยอะไรอีก หมุนตัวแล้วเดินออกไปเงียบๆ จนนางมั่นใจว่าครั้งนี้ไม่มีผู้อื่นแล้วจริงๆ จึงยอมลุกขึ้นจากที่นอนอีกครั้ง ‘ให้นางตัดสินใจเอง’ นางคิดมากจนตาลายเดือดร้อนบ่าวรับใช้ที่เฝ้าดูอาการเข้าใจผิดคิดว่าอาการของนางทรุดลง อู๋ซิงว่านรีบเข้ามาดูอาการของนาง พอรู้ว่านางหิวโหยจนหน้ามืดก็แหงนหน้าหัวเราะไม่เกรงใจคนป่วยอย่างนาง สั่งการให้บ่าวไพรยกสำรับอาหารมาให้ หลังจากถูกบิดาเรียกไปอบรม เขารู้ว่าควรทำใจเรื่องหลันหลัน อาจเพราะนางเป็นคนให้กำลังใจจนเขาสามารถใช้แขนขวาได้อีกครั้ง แต่พอรู้ว่านางอาการทรุดลงก็รีบมาดูทันที ใครจะรู้ว่านางแค่หิว ไม่สิ นางหิวมากจนจะเป็นลม ระ

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 46.ผลของการกระทำ

    “คุณหนู” ไป๋ชิวร้อนรน แต่หมอที่เก่งที่สุดกำลังดูแลสตรีอื่นจนทำให้คุณหนูของนางเป็นเช่นนี้ “ข้าไม่เป็นอะไร” นางพยายามสูดลมหายใจลึก แม้รู้อยู่แก่ใจว่าเซียวเหรินมองนางด้วยสายตาเช่นไร แต่นางก็ยังหวัง หวังว่าจะมีสักวันที่เขาจะรับรู้ความรู้สึกของนาง เปิดใจให้นางบ้าง “ไป๋ชิว พาคุณหนูใหญ่ไปพักผ่อนก่อน” อู๋ซั่วไต้เอ่ยขึ้นแล้วมองบุตรสาวด้วยความเห็นใจต่อให้ไม่มีสตรีผู้นั้นเข้ามา หรือแม้กระทั่งเขาจะใช้คนของหมู่ตึกนกยูงทองช่วยชีวิตคนสกุลเซียวเอาไว้ เขาย่อมรู้ดีว่าเรื่องเหล่านี้จะเอามาเป็นบุญคุณเพื่อให้เซียวเหรินแต่งงานกับอู๋หมิ่นลี่ได้ แต่ด้วยฐานะที่แท้จริงของเซียวเหริน อู๋ซั่วไต้รู้ดีว่า บุตรสาวของเขาไม่สามารถเคียงข้างชายผู้นั้นได้ ไม่สิ จะเรียกเซียวเหรินเช่นแต่ก่อนได้อย่างไร ในเมื่อตอนนี้เป็นถึง... “ท่านพ่อ” อู๋หมิ่นลี่กลั้นน้ำตาที่เอ่อคลอ “ท่านรู้อยู่แล้วว่าท่านเซียวเป็นใคร จึงพยายามเตือนลูกใช่ไหมเจ้าคะ” “ลี่เอ๋อร์ เจ้าหักห้ามใจตัวเองเสียเถิด ยังมีบุรุษดีๆ อีกมากมาย พ่อจะคัดเลือกคนที่ดีและเหมาะสมกับเจ้าเอง” “แต่ว่า.

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 45.เสียงเรียกที่แฝงอำนาจ

    “ลูกข้าเป็นอะไร” ไทเฮาถามด้วยสีหน้าตื่นตระหนก “รักษาเขาสิ!” เซียวเหรินถึงกับนิ่งงันด้วยอับจนถ้อยคำ แต่ฮ่องเต้หงฉานหัวเราะเสียงปร่าแล้วโบกมือไปมา “มันใหญ่มากใช่ไหมละ” เขาหัวเราะขืนๆ “อะไรกัน” ไทเฮาหันมาถามอย่างงุนงง แต่เซียวเหรินไม่กล้าพูดออกมา “มันคือฝี” ฮ่องเต้ที่กำลังจะกลายเป็นเพียงอดีตฮ่องเต้พูดขึ้นแล้วกดไปที่ท้องของตัวเอง “กระจายไปทั่วท้องแล้ว” “ไม่จริง... เหตุใดเป็นเช่นนี้” “เป็นมาเนิ่นนานแล้ว หมอหลวงรักษาไม่ได้ ลูกจึง...ไม่ใส่ใจกับมันอีก” ไทเฮาหันมาเขย่าแขนของเซียวเหริน “เจ้าได้ชื่อว่าเป็นหมอเทวดา ต้องรักษาได้!” “ถ้าได้รับการรักษาก่อนหน้านี้คงจะ...” “ช่างมันเถอะ” ฮ่องเต้หงฉานโบกมือไปมาจ้องมองใบหน้าของเซียวเหริน “เรารู้ ถึงได้ปล่อยให้มันเป็นเช่นนี้” “เจ้า! ทำไมโง่เช่นนี้” “เสด็จแม่” ฮ่องเต้พูดอย่างอ่อนแรง “ท่านเองก็รู้ว่า เสด็จพ่อยกบัลลังก์นี้ให้ใครตั้งแต่แรก” “หุบปากเสีย!” “เสด็จแม่...แท้จริงแล้วบัลลังก์นี้เป็น

DMCA.com Protection Status