Share

Chapter 30. เจ้าก่อเรื่องใด

last update Last Updated: 2024-12-17 22:31:09

“เจ้าก่อเรื่องใดอีกล่ะ” 

            “เจ้ามีตาทิพย์รึ”    

หลันหลันทำตาโตกวาดตามองชายหนุ่มเบื้องหน้า แต่อีกฝ่ายกลับหัวเราะแล้วยื่นห่อขนมส่งให้นาง  เพียงได้กลิ่นหอมหวานนางก็ลืมสิ้นทุกสิ่ง รีบยื่นมือไปคว้าไว้แต่อู๋ซิงว่านกลับชูมือขึ้นเหนือศีรษะทำให้นางคว้าห่อขนมไมได้  นางไม่ยอมแพ้กระโดดยื่นไปสุดมือแต่ยังไม่ได้ อู๋ซิงว่านหมุนตัวหลบหลีกว่องไวแต่หญิงสาวที่ไร้วรยุทธกลับพลิกกายไล่ตามติดได้อย่างเหลือเชื่อ สายตาของนางจับจ้องเพียงห่อขนมในมือซ้ายของอู๋ซิงว่าน ทำให้ไม่ทันระวังก้อนหินที่อยู่บนพื้น ปลายเท้าเตะเข้าไปอย่างเต็มที เสียงร้องเจ็บดังขึ้นทันทีพร้อมกับทรุดลงนั่งเอามือกุมเท้าตัวเอง

            “เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง เจ็บมากไหม”  อู๋ซิงว่านรีบทรุดตัวลงนั่ง ยื่นหน้าไปหมายจะดูว่านางบาดเจ็บที่ใด แต่หญิงสาวกลับเงยหน้าขึ้นมาพร้อมรอยยิ้มแล้วยื่นมือคว้าห่อขนมในมือของเขาไปอย่างรวดเร็ว

            “ได้แล้ว!”  หลันหลันร้องขึ้นด้วยดีใจ รีบเปิดห่อผ้าออกหยิบขนมเปี๊ยะเข้าปากคำโต ราวกลับกลัวว่าจะถูกแย่งไป

            “ไม่ต้องรีบร้อน นี่ข้าเอามาให้เจ้าอยู่แล้ว”  อู๋ซิงว่านหัวเราะใน

ความเจ้าเล่ห์ของนาง 

            “ก็เมื่อครู่เจ้าไม่ยื่นให้ข้าดีๆ นี่”  นางกัดเพียงสองคำก็หมดชิ้น “นี่ไม่ใช่ฝีมือคุณหนูใหญ่นี่นา”

            “อืม” อู่ซิงว่านพยักหน้ารับ  เห็นนางนั่งกับพื้นหญ้าอย่างไม่สนใจว่าจะเปื้อนเปรอะ เขาจึงนั่งข้างนาง มองดูแก้มสีชมพูกลายเป็นก้อนกลมๆ ช่างน่ารักน่ามองเสียจริง

“เจ้ารู้ได้อย่างไร”

            “ขนมฝีมือคุณหนูใหญ่นุ่มละมุนลิ้นแต่ไม่หวานจัด” นางตอบทั้งที่กำลังเคี้ยวขนมเปี้ยะชิ้นที่สอง “ขนมเปี๊ยะไส้ผลไม้นี่ก็อร่อยแต่รสมือต่างกัน”

            “ฝีมือแม่ครัวน่ะ”  อู๋ซิงวานหยิบผ้าเช็ดหน้า เช็ดมุมปากให้นาง “ค่อยๆ กินประเดี๋ยวติดคอ”

            “ข้าหิวมากเลย”  นางพูดพลางเคี้ยวขนมในปาก เมื่อกลืนขนมลงคอแล้วก็ยิ้มให้อีกฝ่ายที่ช่วยเช็ดมุมปากให้นาง

            “หิวรึ? ไม่ได้กินข้าวเที่ยงหรืออย่างไร”

            “กินแล้ว”  นางพยักหน้า “แต่กินไม่อิ่ม”

            “เหตุใดกินไม่อิ่มเล่า แม่ครัวส่งอาหารมาไม่พอรึ”

            นางส่ายหน้าแทนคำตอบ “เพราะพี่เต๋ออี้บอกให้ข้าคัดลอกตัวอักษรพวกนั้นให้เสร็จก่อนจะให้ข้ากินข้าวเพิ่มได้อีก แต่ข้าพยายามแล้วจริงๆ”

            แววตาของนางช่างทำให้คนใจอ่อนนัก อู๋ซิงวานเกือบผลัดหลงไปในดวงตาคู่งามของนางหากไม่เพราะนึกถึงสภาพจูเต๋ออี้ที่เปื้อนเปรอะน้ำหมึกออกมา  เขาคงเข้าข้างนางเต็มที่

            “แล้วเหตุใด จูเต๋ออี้ถึงอยู่ในสภาพนั้น” ถามพลางกลั้นหัวเราะ เคยมีใครกันที่ทำให้บุรุษใบหน้าน้ำแข็งอย่างจูเต๋ออี้เป็นเช่นนั้นได้

            จะว่าไป คนที่อยู่รอบกายนางมักมีรอยยิ้มอยู่เสมอ แม้แต่เซียว-

เหรินที่เห็นนิ่งขรึมตลอดเวลา ยังมีรอยยิ้มน้อยๆ ยามอยู่กับนาง

            “ข้าก็แค่เอาพู่กันจุ่มหมึกแล้ววาดแขนออกไปอย่างนี้” นางพูดแล้วทำท่าทางประกอบโดยการกำมือคล้ายจับพู่กันอยู่แล้ววาดแขนออกไป 

อู๋ซิงว่านถึงกลับกลั้นหัวเราะไม่อยู่ เขาแหงนหน้าหัวเราะออกมาเสียงดัง ขนาดผู้ฝึกยุทธ์อย่างจูเต๋ออี้ยังถูกแม่นางนกหงส์หยกเล่นงานได้ นับว่านางไม่ธรรมดาแล้ว

            “เจ้าคงจุ่มหมึกมากเกินไป”

             “ข้าพยายามแล้วจริงๆนะ” นางพยักหน้ารับ “พี่เต๋ออี้บอกว่าข้าเป็นตัวกินหมึกกินกระดาษ เสียดายที่นายท่านไว้ใจให้คัดลอกตัวบันทึกเหล่านั้น”

            อู๋ซิงว่านเห็นสีหน้านางแล้วก็อดยื่นมือซ้ายไปลูบศีรษะนางเบาๆ ไม่ได้ “ถ้ามือขวาข้าใช้การได้ ข้าจะสอนเจ้าคัดอักษร”

            “จริงนะ” ดวงตากลมโตเบิกกว้างตามด้วยรอยยิ้มกว้างชวนมอง ทำให้อีกฝ่ายได้แต่มองเหม่อราวกับจมในความงามเบื้องหน้า “แต่ความจริง เจ้าหัดเขียนมือซ้ายก็ได้นี่ อุ๊บ!”

            อู๋ซิงวานเห็นนางรีบปิดปากก็ประหลาดใจ  เข้าใจไปว่านางกินขนมจนติดคอจึงลูบแผ่นหลังของนางเบาๆ   

“ดีขึ้นหรือไม่”

            “ข้าไม่ได้เป็นอะไร” นางส่ายหน้าไปมา “ข้าแค่เผลอทำตัวสนิทสนมกับเจ้านะสิ’”

            อู๋ซิงว่านเลิกคิ้ว เขาเองไม่ทันสังเกตเช่นกัน “ไม่เป็นไรนิ ข้ากับเจ้าเราคงอายุไล่ๆ กัน นับเป็นสหายต่อกันได้”

            “ข้าเป็นสหายกับเจ้าได้รึ”  นางเป็นนกหงส์หยกตัวน้อยที่รู้ดีว่าฐานะตนเองยามนี้ต่ำต้อยเพียงใด

            “ได้สิ”

            “จริงรึ?” นางย้ำอีกครั้ง

            “เจ้ายังเรียกจูเต๋ออี้ว่าพี่เลยนี่ แล้วไยเจ้ากับข้าจะเป็นสหายกันมิได้เล่า”

            “ก็ตอนนั้นพี่เต๋ออี้บอกว่าข้าเป็นน้องสาวของเขา ข้าก็เลยกล้าเรียกเขาว่าพี่ชาย”  นางให้เหตุผล

            “เอาเป็นว่าข้านับเจ้าเป็นสหาย เจ้าก็ต้องเป็นสหายกับข้า”  เขาเสนอทางออกให้นาง

หญิงสาวกลอกตาไปมาทำท่าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนพยักหน้ารับ นางกินขนมจนหมดแล้วจึงลุกขึ้นยืน ปัดเศษขนมในมือแล้วยื่นมือไปด้านหน้า  ชายหนุ่มมองมือเรียวเล็กอยู่อึดใจก่อนยื่นมือไปจับมือนางแล้วยันกายลุกขึ้นยืนข้างนาง  นางปล่อยมือจากมือข้างซ้ายของชายหนุ่มแล้วชี้ไปที่กิ่งไม้เหนือศีรษะ   

“คราวหน้าเราไปนั่งเล่นบนกันนะ”

            “เจ้าหมายถึงกิ่งไม้นั้นนะหรือ” มองไปก็สูงไม่ใช่น้อย เขามีวรยุทธ์ แม้ใช้แขนได้ข้างเดียวก็ไม่ใช่ปัญหาในการใช้วิชาตัวเบาขึ้นไปบนนั้น

            “ข้าบินไม่ได้แล้ว แต่ก็ยังอยากขึ้นไปที่สูงๆ รับลมเย็นๆ เหลือเกิน”  นางทำท่าสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ แล้วมองสีหน้าของชายหนุ่มก่อนจะเบ้ปากใส่เขา  

“เจ้าไม่เชื่อละสิว่าข้าเป็นนกหงส์หยก”

            อู๋ซิงว่านอยากบอกว่าไม่เชื่อ แต่กลัวนางเสียใจจึงไม่ได้ตอบนางออกไป นางกลับยักไหล่ไม่สนใจท่าทีของเขาแล้วหมุนตัวเดินกลับเข้าไปที่ห้องที่ตนวิ่งหนีจูเต๋ออี้ออกมา

“ข้าต้องไปเก็บห้องแล้ว”

            “ถ้าเจ้าหิวหรือต้องการสิ่งใดก็บอกข้าได้”  เขารีบพูดขึ้น “หากต้องการใช้เงินก็บอกข้าได้ อย่าไปหางานทำข้างนอกเลย”

            นางเบิกตาโตแล้วแย้มยิ้มออกมา จำได้ว่าเขาคงได้ยินว่านางไปทำงานที่หอชมบุหลัน แต่เพราะนางไปเพราะต้องทำภารกิจลับในฐานะของอูหลันโหยว  เพียงไม่กี่วัน ผู้คนต่างกล่าวขานถึงนางรำปริศนาของหอชมบุหลัน 

            หญิงสาวกวาดตามองชายหนุ่มแล้วพยักหน้าขึ้นลง

“ขอบใจเจ้ามาก”

            “เราเป็นสหายกัน อย่าได้เกรงใจ”

            นางหัวเราะเสียงใส “อือ  เราเป็นสหายกันนี่นะ”

            อู๋ซิงว่านมองร่างเล็กที่เดินกลับเข้าไปด้านในแล้ว ประกายใจของเขาแปรเปลี่ยน ในใจคิดค้านกับถ้อยคำของนางจนตัวเองต้องตกใจ

            ใครกันจะอยากเป็นเพื่อนกับนาง

            เขาต้องการครอบครองนางต่างหาก!

            สองข้างทางของเมืองหลวง ผู้คนมากมายทั้งต่างถิ่นต่างภาษา สินค้าแปลกหูแปลกตามีมากมายเรียงรายสองข้างทาง ทุกสิ่งล้วนเรียกสายตาให้ผู้คนหันไปสนใจ เว้นเพียงแต่บุรุษหนุ่มผู้แต่งกายอย่างเรียบง่ายในมือถือพัดท่าทางคล้ายไม่ใส่กับสิ่งใด แต่ผ่อนฝีเท้าลงกว่าปกติเล็กน้อย เพราะเกรงว่าหญิงสาวที่เดินอยู่ห่างเขาเพียงไม่กี่ก้าว จะเดินตามเขาไม่ทัน

            อู๋หมิ่นลี่และไป๋ชิวเดินรักษาระยะห่างจากเซียวเหรินนัก เป็นธรรมดาธรรมชาติของสตรีทั่วไปเมื่อพบเห็นของสวยงามแปลกตามักหยุดมองอยู่เสมือ อู๋หมิ่นลี่แม้บิดาจะมิได้ห้ามออกจากบ้านแต่นางมักใช้เวลาอยู่ในเรือน จัดการงานบ้านงานเรือนต่างๆ ในหนึ่งเดือนจึงออกนอกเรือนเพียงแค่ไม่กี่ครั้งครา เพียงแต่ครั้งนี้ไป๋ชิวได้ยินว่าเซียวเหรินจะออกมาเลือกซื้อสมุนไพรทำตัวยาสำหรับอู๋ซิงว่านด้วยตนเอง ไป๋ชิวจึงชักชวนให้อู๋หมิ่นลี่ติดตามเซียวเหรินออกมาด้วยโดยแสร้งบอกว่ามาเลือกซื้อสมุนไพรเพื่อใช้เป็นส่วนผสมสำหรับปรุงอาหารบำรุงสุขภาพ  เรื่องเช่นนี้อู๋หมิ่นลี่ไม่มีทางเอ่ยปากเอง มีเพียงไป๋ชิวที่เอ่ยกับเซียวเหริน 

Related chapters

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 31.อย่าพูดเสียงดังไป

    เดิมทีเซียวเหรินไม่ชอบให้ผู้อื่นติดตาม แต่เพราะครั้งนี้คนที่ร้องขอคือลูกสาวของอู๋ซั่วไต้ที่เขานับถือเสมือนเป็นสหายต่างวัย เขาจึงไม่ได้ปฏิเสธคำขอของนาง หลายปีมานี่ใช่ว่าเขาจะไม่รู้ว่าสายตาที่อู๋หมิ่นลี่มองเขาเป็นเช่นไร แต่สำหรับเขาแล้ว นางเหมือนน้องสาวตัวน้อยที่เมื่อใดที่หันไปสบตา นางจะส่งรอยยิ้มให้เสมอ ไม่ว่าเขาจะมีสีหน้าใดก็ตาม ขณะที่เขาชะลอฝีเท้าเพื่อให้หญิงสาวทั้งสองเดินตามได้ทัน นอกจากสินค้าหลากหลายและอาหารเลิศรสแล้ว เสียงนักเล่านิทานข้างถนนยังเรียกผู้คนเข้าไปห้อมล้อมได้อีกด้วย “พวกท่านว่าอย่างไร! เสนาบดีฉ้อฉลล้มตายที่ละคน พวกเจ้าคิดว่าอย่างไรกันเล่า นั้นเพราะสวรรค์ลงทัณฑ์แล้ว” “อย่าพูดเสียงดังไป เรื่องพวกนี้ใช่เรื่องที่จะเอามาล้อเล่นรึ!” “แผ่นดินฟอนเฟะถึงเพียงนี้ เจ้าดูซิ ขอทานมีมากล้นเมืองแล้ว” “พวกเจ้าเคยได้ยินหรือไม่ แท้จริงแล้วพระเชษฐาขององค์ฮองเต้ยังมีพระชนม์ชีพอยู่” “เอ๋? องค์ชายเหรินนะหรือ? มิใช่สิ้นพระชนม์ไปตั้งแต่หกหรือเจ็ดปีก่อนรึ?” “ใช่ๆ ได้ยินว่าป่วยตายหรืออย่างไรนี่แหละ

    Last Updated : 2024-12-24
  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 32.ทำงาน

    ดวงตาคมหรี่ลงอย่างใช้ความคิด เขาไม่เชื่อเรื่องภูติผี ที่ผ่านมาจะเดินทางร่อนเร่ไปทั่วยุทธภพมีเรื่องแปลกประหลาดอยู่มากมาย ทว่าเรื่องราวเหล่านั้นมีเหตุผลอันรองรับให้เชื่อถือได้ แต่กับนางที่บอกว่าตัวเองเป็นนกหงส์หยกมาอยู่ในร่างของกงเสวี่ยหลิง ออกจะเหลือเชื่อเกินไปสักหน่อยกระมั้ง ทว่าลักษณะท่าทางของนางคล้ายว่าเพิ่งเคยกระทำเป็นครั้งแรก เขายังจำครั้งที่นางพยายามจับตะเกียบกินข้าว จับพู่กันเขียนอักษร หรือแม้กระทั่งให้เขาป้อนขนมให้ นางเชื่ออย่างสุดจิตสุดใจว่าตนเองเป็นนกหงส์หยก เรื่องเช่นนี้มันมีจริงหรือ? วิญญาณนกมาสิงในร่างมนุษย์ หากเป็นเช่นนั้นจริง กงเสวี่ยหลิงอาจตายไปแล้ว ลมหายใจของชายหนุ่มสะดุดไปเล็กน้อย หลังจากเขาพบหลันหลันแล้ว เคยย้อนกลับไปดูที่ธารน้ำแต่ไม่พบผู้ใดอีก เขาเองมีความทรงจำเกี่ยวกับกงเสวี่ยหลิงน้อยเหลือเกิน กล่าวตามจริงคือเขาไม่เคยพบหน้านางมาก่อน เพียงแค่รู้ว่านางคือน้องสาวของกงอี้เทาและถูกส่งมาเป็นเครื่องบรรณาการเท่านั้น ได้ยินว่าการเป็นอยู่ในวังของนางนั้นไม่ดีนัก ยังดีที่จางซงหยวนปลอมตัวเป็นพ่อค้าค่อยส่งเสบียงของใช้ไปให้ แต่กระนั้นเขาย

    Last Updated : 2024-12-24
  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 33.ไม่เชื่อว่าข้าเป็นนก

    เพียงปลายนิ้วสัมผัสท่อนแขนเรียวเล็กเย็นเฉียบราวแผ่นน้ำแข็ง เขาก็ขมวดคิ้ว มืออ่อนแรงยื่นมาคล้องคอของเขาไว้รั้งให้ใบหน้าใกล้ชิดอีกฝ่าย ดวงตาคมจ้องมองหญิงสาวในวงแขนทว่านางกลับหลุบตาลง ริมฝีซีดเซียวเผยอขึ้นเล็กน้อย แต่นั้นก็มากพอที่จะทำให้เขาโน้มหน้าลงประกบริมฝีปากกับนางอย่างรวดเร็ว ลมหายใจอุ่นแทรกเข้ามาในโพรงปาก ปลุกร่างกายให้อุ่นร้อนขึ้นมาอีกครั้งพร้อมจังหวะหัวใจที่เต้นเป็นปกติ นางผละจากริมฝีปากของเขา “ท่านเซียว” นางเรียกเขาเสียงแผ่วเบา ฝืนยิ้มให้เขา และเมื่อตั้งสติได้ก็ขยับตัวออกจากวงแขนที่โอบกอดอยู่“ขอบคุณท่านเซียว” “ข้าหวังว่าเจ้าจะรู้ว่าตนเองทำสิ่งใดอยู่” เขาเอ่ยเตือนสตินาง เขารู้ว่านางมิได้เดือดร้อนเรื่องเงินทองจนต้องไปที่หอนางโลมหรือมาที่ร้านขายสมุนไพร แต่เขาไม่ต้องการให้นางกลายเป็นเพียงแค่เครื่องมือของผู้ใดหรือต้องเสียสละตัวเองเพื่อปณิธานอันยิ่งใหญ่ที่อาจไม่มีวันเป็นจริง “สมุนไพรของท่านอยู่ด้านนอกแล้ว” นางเอ่ยบอกแล้วก้มหน้าลงเล็กน้อย เพียงครู่เดียวนางก็เงยหน้าขึ้นแล้วยิ้มกว้าง “ท่านเซียวเคยได้ยินหรือไม่ มีนางรำงดงามมากมาแสดงการร่ายรำที่หอช

    Last Updated : 2024-12-24
  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 34.มือที่มีไว้ช่วยผู้คน

    เด็กหนุ่มพยักหน้ายอมรับ ที่นางพูดออกมาล้วนเป็นเรื่องจริง ที่แห่งนี้งดงามนัก มันอาจเป็นการค้นพบที่ยิ่งใหญ่สำหรับเขาที่ได้เจอสถานที่งดงามแสนพิเศษนี้ แต่ใครจะคิดว่าสถานที่ที่เขาคิดว่าเป็นคนแรกที่ค้นพบจะเจอเด็กหญิงประหลาดที่ฝึกปีนป่ายต้นไม้อยู่ “เจ้าเลือกเป็นหมอแล้วใช่ไหม” นางสาวเท้าเร็วๆ เพื่อให้ก้าวตามร่างสูงนั้นทัน “ข้าไม่ชอบรักษาผู้ใด” เขาตอบและไม่ได้หันมามองนางเลยสักนิด “แต่เจ้าศึกษาเรื่องสมุนไพร” “เพราะข้าชอบการปรุงยา” “ก็ไม่เห็นต่างกันเลยนี่” “แล้วเหตุใดเจ้าต้องใส่ใจด้วย” เขากลอกตามองท้องฟ้า ปกติเขาไม่ใช่คนช่างพูด แต่เจอกับเด็กหญิงผู้นี้ทีไหร่เขากลายเป็นคนพูดมากเกินความจำเป็นทุกที “เพราะหากข้าบาดเจ็บหรือต้องพิษ เจ้าจะได้รักษาข้าได้อย่างไรเล่า” คราวนี้เขาชะงักเท้าแล้วหันกลับมามองนาง ดวงตาคมกริบหรี่ตามองพลางพินิจพิเคราะห์ว่าเหตุใดนางจึงคาดหวังว่าเขาจะเป็นหมอเพื่อนาง หรือเขาเผลอไปให้ความหวังนางเข้าให้ หรือนางแอบหลงใหลในตัวเขา นางจึงมองเขาด้วยดวงตาเปี่ยมความมั่นใจ ริมฝึปากอิ

    Last Updated : 2024-12-24
  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 35.ช่างเป็นนกหงส์หยกที่กะล่อนเสียจริง

    เซียวเหรินพึมพำกับตนเองมากกว่าจะพูดกับจูเต๋ออี้ แม้เขาสงสัยในตัวหลันหลัน และกงอี้เทากับจางซงหยวนไม่พูดความจริงกับเขาเรื่อง หลันหลัน แต่เขาพอจะคาดเดาได้ไม่ยาก แม้ไม่รู้วิธีการแต่จุดหมายนั้นนั้นเขาย่อมรู้ดีแก่ใจ และไม่หายตัวไปทำอะไร ทุกครั้งที่นางกลับมา นางจะมายืนจ้องหน้าเขา เขย่งปลายเท้ายื่นหน้าประทับริมฝีปากเขาสูดเอาลมหายใจเข้าไป นับวันนางยิ่งชำนาญยิ่ง ไม่รอให้ครบสามวันแต่มาเก็บกินเอาวันละเล็กละน้อย บางครั้งก็แอบเลียริมฝีปากของเขาแล้วผลุบหนีไปราวกับเขาจะจับตัวมาตีก้นช่างเป็นนกหงส์หยกที่กะล่อนเสียจริงจูเต๋ออี้ไม่ล่วงรู้ความคิดของผู้เป็นนาย เห็นเพียงสีหน้าเย็นชาตามปกติ เมื่อมื้อเช้าเสร็จสิ้น เซียวเหรินตระเตรียมยาสำหรับอู๋ซิงว่านเสร็จแล้วจึงให้จูเต๋ออี้ไปตามหลันหลันมายกยาออกไป หลันหลันประคองถาดใส่ถ้วยยาด้วยความตั้งใจยิ่ง และไม่รู้ว่าจูเต๋ออี้หายตัวไปที่ใดแล้ว อู๋ซิงว่านกำลังฝึกฝนการใช้กระบี่ด้วยมือซ้าย หลายวันมานี่ฝีมือของเขาพัฒนาไปมาก ขนาดอู๋ซั่วไต้ผู้เป็นบิดายังเอ่ยชม อู่หมิ่นลี่เดินเข้ามาพร้อมกับไป๋ชิว ใบหน้าของคุณหนูใหญ่แห่งหมู่ตึกนกยูงทองปรากฏรอยยิ้มตื้นตันใจยิ่งนัก

    Last Updated : 2024-12-24
  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 36.ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก

    อู๋ซิงว่านได้แต่มองร่างเล็กๆ ที่วิ่งตามเซียวเหรินไปสุดสายตา เขารู้สึกับนางอย่างไรนั้น เขาย่อมรู้ดี แต่นางนั้นเล่า จะยอมอยู่เคียงข้างเขาหรือติดตามแผ่นหลังของเซียวเหรินเช่นนั้น หลันหลันก้าวเร็วๆ จนเกือบจะเป็นวิ่ง จนกระทั้งจู่ๆ เซียวเหรินก็หยุดเดิน นางเกือบหยุดไม่ทันปะทะกับแผ่นหลังของเขาเกือบหงายหลังล้มลง แต่เซียวเหรินไวพอจะคว้ามือเรียวเล็กฉุดไว้ได้ทันก่อนที่นางจะก้นกระแทกพื้น มือเรียวเล็กอยู่ในอุ้งมือของเขา ภาพมือของเขาอยู่ในอุ้งมือของเด็กหญิงวัยสิบขวบ ปรากฏขึ้นมาในสมองซ้อนทับกับมือของเขาที่จับมือนางไว้ “ขอบคุณท่านเซียว” หลันหลันยิ้มทะเล้น เมื่อทรงตัวได้แล้วจะดึงมือตนเองกลับแต่มือใหญ่ของเซียวเหรินกลับบีบแรงขึ้นจนรอยยิ้มของนางเจือนไป “ข้าเคยได้ยินว่าที่คนสกุลอูในแคว้นเฉียนเหลียงมีความสามารถพิเศษ นอกจากมนต์ดำคุณไสย์แล้วยังมีวิชาสะกดจิต” “วิชาสะกดจิต?” นางทำตาโตแสร้งทำเป็นไม่รู้สึกเจ็บปวดกับแรงบีบที่เพิ่มมากขึ้น “คืออะไรรึเจ้าคะ” เซียวเหรินหรี่ตามองดวงตาสุกใสของนาง ครู่ต่อมาจึงคลายมือออกแล้วหันหลังเดินมุ่

    Last Updated : 2024-12-24
  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 37. ไม่ถูกต้อง

    “ไม่ถูกต้อง!” นางรีบแย้ง “ไม่เป็นในสิ่งที่ตนเลือกเสียหน่อย ข้าไม่ได้อยากเป็นคนสกุลอูเลย แล้วก็ไม่ได้อยากสังหารผู้ใดด้วย” นางเบ้ปากพึมพำเบาๆ ไม่คิดว่าเขาจะได้ยิน แต่อีกฝ่ายไม่มีสีหน้าตื่นตระหนก ซ้ำยังยื่นมือมาโยกศีรษะนางอย่างหยอกล้อ “เมื่อถึงวันหนึ่ง เจ้าจะรู้คำตอบเอง” เขายังคงยิ้มให้ “หวังว่าเมื่อถึงเวลานั้น เจ้าจะเห็นแก่มิตรภาพของเราละเว้นชีวิตข้าบ้าง” “เหตุใดข้าต้องฆ่าเจ้าด้วย” นางเอียงคอมองอย่างสงสัย “ไม่รู้สิ” เขายิ้มขบขันกับแววตาไร้เดียงสาของนาง เด็กหนุ่มยันกายลุกขึ้นยืนยื่นมือไปให้นางจับเพื่อพยุงตัวลุกขึ้นแต่นางกลับส่ายหน้าไปมา“ข้าจะลงเขาแล้ว ไปด้วยกันเถิด”นางมองมือที่ยื่นมาตรงหน้า สองมือของนางยังกอดเข่าตัวเองแน่น นางเป็นเด็กหญิงอายุสิบขวบที่ถูกฝึกฝนไม่ให้รับความช่วยเหลือจากผู้ใด ‘หัวใจตีด้วยเหล็กกล้า เจ้าไม่ควรรู้สึกต่อสิ่งใด’ นั่นเป็นประโยคที่อาจารย์หญิงสั่งสอนนางอยู่เสมอ “ภูเขานี้ไม่มีสัตว์ร้าย เจ้าจะนั่งอยู่ก็ไม่เป็นไรกระมัง” เขาเข้าใจไปว่านางยังทิฐิอยู่จึงไม่อยากกลับลงไปตอนนี้“หรือไม่ก็...เจ้าน่ากลัวกว่าส

    Last Updated : 2024-12-26
  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 38.ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ที่เขาคิดถึงนาง

    “เจ้านี่มันเหมือนแม่ไม่มีผิด” ไทเฮาทรงหัวเราะออกมาเบาๆ แล้วยอมหยุดมือ แผลเพียงเล็กน้อยไม่อาจทำให้ความหล่อเหลานี้ลดลงแม้แต่น้อย หรือแม้แต่หักแขนหักขา คนผู้นี้ก็ยังดูเป็นคนเหนือคน สายตาของนางมองคนไม่ผิดจริงๆ แต่นางไม่อาจกำจัดคนผู้นี้ไปได้ อำนาจการต่อรองของนางขึ้นอยู่กับชีวิตของชายผู้นี้ แววตาของเซียวเหรินกระตุกวูบหนึ่งแต่ถูกกลบเกลื่อนอย่างรวดเร็ว เขาสงบใจจึงเอ่ยขึ้น“อาการประชวรของไทเฮาดีขึ้นแล้วหรือพ่ะย่ะค่ะ” “ข้าปวดหัวทุกวัน” ไทเฮาตอบพลางคลี่ยิ้มออกมาราวกับมองไม่เห็นแววตาวูบไหวเมื่อครู่ “ได้ยินว่าอยู่ข้างนอกผู้คนกล่าวขานว่าเจ้าคือหมอเทวดาไร้ใจ” “เป็นเพียงคำพูดที่ผู้อื่นกล่าวกันไปเองทั้งสิ้น” มุมปากยกเป็นรอยยิ้มบางเบา “ทรงให้คนคุมตัวกระหม่อมมาเพื่อเรื่องนี้หรือพ่ะย่ะค่ะ” “หมอหลวงที่เรียกมา ช่วยข้าไม่ได้เลย” นางคลี่ยิ้ม แต่ดวงตาจ้องมองอย่างหยั่งเชิง “เจ้าจะช่วยข้าได้หรือไม่” “อาการประชวรขององค์ไทเฮาเป็นต่อเนื่องเรื้อรังมานาน และเกรงว่ากระหม่อมไร้ความสามารถไม่อาจรักษาอาการของพระองค์ได้พ่ะย่ะค่ะ” “เ

    Last Updated : 2024-12-26

Latest chapter

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 53.จบ

    ชีวิตสี่ปีของหลันหลันเป็นเช่นนี้เรื่อยมา หลัววั่งรู้สึกว่ามีคนเข้ามา จึงเงยหน้าขึ้น เมื่อเห็นว่าผู้มาใหม่เป็นใครเขาก็ส่งยิ้มกว้างแล้วเดินออกไปอย่างเงียบๆ “ท่านรีบกลับเถิด ที่นี่ข้าจัดการเองได้” “ไยรีบไล่ข้าไปเล่า หรือเจ้านัดผู้ใดไว้” หญิงสาวได้ยินน้ำเสียงที่คุ้นเคยจึงเงยหน้าขึ้น บุรุษร่างสูงโปร่งสวมอาภรณ์สีเขียวใบไผ่ใบหน้าอ่อนล้าแต่ยังมีรอยยิ้มอ่อนโยน“ท่านมาแล้ว”เซียวเหรินส่งยิ้มให้นาง แม้เหนื่อยล้าจากการเร่งรีบเดินทางมา ทว่าเพียงได้เห็นรอยยิ้มนาง ความเหน็ดเหนื่อยเหล่านั้นพลันมลายหายไปสิ้น“เหตุใดกลับเร็วนักเล่า” หลันหลันอดเป็นห่วงไม่ได้ “ตามจริงต้องอีกสิบวันท่านจะกลับไม่ใช่หรือ? เดินทางไปตรวจดูการซ่อมแซมเขื่อนเป็นอย่างไรบ้าง ”“เจ้าไม่อยากเห็นหน้าสามีหรือไร”เขาทำเสียงไม่พอใจแต่เดินไปนั่งใกล้ๆ แล้วจับชีพจรให้นาง และไม่พูดเรื่องงานกับนาง จะว่าไป ก็ไม่มีมีเรื่องใดในชีวิตของเขาที่หลุดรอดสายตาของนาง เช่นเดียวกับที่เขารู้ว่าในแต่ละวันนางทำอะไร นางมีคนคอยส่งข่าว ส่งเขาให้จูเต๋ออี้วางองครักษ์ลับไว้โดบรอบ “พิษในตัวข้ายังต้องใช้เ

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 52.ไม่มีอะไรให้ลังเลและกังวลอีกแล้ว

    “คิดสิ” นางหัวเราะเบาๆ เสียงหัวเราะของนางทำให้กงอี้เทาปล่อยนางจากวงแขน เขาคิดว่านางจะเปลี่ยนใจจึงยอมคลายมือจากข้อมือนาง ทำให้นางส่งยาเม็ดนั้นส่งเข้าปากแล้วกลืนลงคอทันทีท่ามกลางดวงตาที่เบิกกว้างของกงอี้เทา “เจ้า!” “ข้าไม่เสียใจ” นางยิ้มแล้วยกมือลูบใบหน้าของกงอี้เทา “บอกจางซงหยวนให้ดูแลกงเสวี่ยหลิงให้ดี” “หลันโหยว!” “ข้าอยากขอร้องเจ้าครั้งสุดท้าย” นางพูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาลง “ได้ข้ารับปากเจ้า ข้ารับปากเจ้าทุกเรื่อง” กงอี้เทาประคองร่างที่อ่อนยวบลงในวงแขน มือของเขาสั่นเทาอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ใบหน้าของหญิงสาวมีรอยยิ้ม แต่ดวงตาของนางปิดลง ชีพจรเต้นช้าลง ร่างกายเริ่มเย็นเยียบขึ้นมาที่ละน้อย นางวางมือไว้บนหน้าอก บริเวณหัวใจของตนเองที่เต้นแผ่วเบาลงไปทุกที ทุกที ทุกที ไม่มีอะไรให้นางลังเลและกังวลอีกแล้ว..จูเต๋ออี้เดินเข้ามาอย่างเงียบเฉียบ ภาพที่เห็นจนเริ่มชินตาคือเจ้าของร่างสูงสง่านั่งเหยียดแผ่นหลังตั้งตรง แววตามุ่งมั่นและมือตวัดพู่กันแก้ไขปัญหาน้อยใหญ่ที่ฮ่องเต้พระองค์ก่อนทิ้งปัญหาไว้มากมายเหลือคณานับ

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 51. เจ้านกตะกละ

    “เจ้านกตะกละ!” เขาดุนางพลางแหวนหน้าคำรามเสียงพร่า ถูกนางรุกเร้าจนแท่งหยกไถลลื่นเข้าไปจนสุด นางหวีดร้องเบาๆ โผเข้ากอดเขา ปลายเล็บจิกที่แผ่นหลังไม่เคยรู้เลยว่าบุรุษผู้นี้จะมีซ่อนสิ่งใหญ่โตไว้ถึงเพียงนี้ ความเสียวซ่านแผ่นกระจายไปทั่วร่าง จนถึงปลายนิ้วเท้าที่เกร็งแทบเป็นตะคริว นางครวญเสียงกระเส่า ยามเมื่อเขาขยับสะโพกถอนแก่นกายออกช้าๆ แล้วกดกลับเข้ามาใหม่ นางได้แต่หวีดร้องส่งเสียงครางแทบขาดใจ เหงื่อร้อนหลั่งออกมาจนหยดบนกายของนาง ความเจ็บแปลบที่เกิดขึ้นในคราวแรกหายไปสิ้น ทุกการเติมเต็มของเขาทำให้ร่างกายที่เคยเยียบเย็นร้อนระอุ เหงื่อร้อนผุดขึ้นทุกรูขุมขน ร่างกายนางทวีความร้อนและเปียกชื้น รวมทั้งที่ใจกลางของดอกไม้สาวที่รองรับการเคลื่อนไหวของผีเสื้อหนุ่มช่างแนบแน่น ลึกล้ำและซ่านเสียว“ข้า...” นางไม่รู้ว่าตนเองจะพูดอะไร เขาป้อนความสุขสมที่นางไม่เคยรู้จัก ทำให้นางอิ่มเอมครั้งแล้วครั้งเล่า และหิวโหยต้องการไม่สิ้นสุด ไม่ว่าท่วงท่าใดที่เขานำพา ล้วนทำให้นางปรารถนาในตัวเขามากขึ้น มากขึ้น“เซียวเหริน!”ดวงตาของเซียวเหรินราวลูกไฟ ไฟปรารถนาเผาไหม้หัวใจทำให้เคลื่อนไหวร่างกายเร็วขึ้น ถาโถมและโหมกระหน

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 50.ใช้หัวใจฟังเสียวหัวใจสิ

    “เจ้าอยู่ที่นี่ให้ข้าถอนพิษให้เจ้าเถิด” “ข้าจะอยู่ที่นี่ในฐานะอะไรได้” นางส่ายหน้าไปมาบนอกเสื้อของเขา นางจงใจทำร้ายองค์ชายหงก่วงต่อหน้าผู้อื่นหากนางยืนข้างกายเขา คนภายใต้การปกครองย่อมมองเขาไม่ดีเป็นแน่ ขณะที่สมองและหัวใจตีกันยุ่งเหยิง ปลายคางของนางถูกช้อนขึ้น ตามด้วยริมฝีปากหยักสวยทาบทับ นางคิดจะถอยหลังหลบหนีแต่เรียวลิ้นร้อนไล่ต้อนจนนางไม่อาจตั้งสติคิดสิ่งใดได้ ถูกจุมพิตของเขาทำให้สับสนจนเกือบขาดอากาศหายใจเขาจึงยอมละริมฝีปากจากนาง “ใจร้าย!” นางทุบแผ่นอกแกร่งของเขา “ข้าต้องการเวลาคิด”“เรื่องแบบนี้ต้องคิดอะไรนานนัก” เขาโน้นหน้าลงจุมพิตดวงตาของนางที่ยังมีหยาดน้ำตาวาวใส “ใช้หัวใจฟังเสียงหัวใจสิ”‘ใช้หัวใจฟังเสียงหัวใจสิ’เป็นอีกครั้งที่นางได้ยินประโยคนี้ ดวงตาของนางเหม่อลอยไปชั่วขณะ และในจังหวะเดียวกัน เซียวเหรินตัดสินใจทำในสิ่งที่ตนเองต้องการ ช้อนร่างนุ่มนิ่มไว้แนบอกพานางกลับมาที่ห้องนอนของตนเอง การกักขังนกตัวหนึ่งไว้นั้น อาจไม่ใช่กรงขังที่แน่นหนาแต่เป็นความรู้สึกปรารถนาที่มีต่อนางจูเต๋ออี้เห็นผู้เป็นนายกลับมาพร้อมกับอุ้มหญิงสาวที่ซุกอยู่ในอกจนแทบมองไม่เห็นใบ

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 49.คิดถึง

    “งานเหล่านี้แท้จริงเป็นของเจ้า ยามนี้ลุงแค่ช่วยจัดการให้ไปก่อน” เขาพูดอย่างใจเย็น บ้านเมืองต้องพลิกฟื้นเป็นการใหญ่ กว่าจะเข้ารูปเข้ารอยคงใช้เวลาอีกสามถึงสี่เป็นอย่างน้อย เขาก้มมองเห็นเด็กน้อยทำหน้านิ่วก็หัวเราะเบาๆ “เจ้าต้องหมั่นเรียนรู้ เข้าใจหรือไม่” “หลานทราบแล้ว เสด็จลุง” “ดี” เขาพูดแล้วขยับปลายนิ้วเรียกจูเต๋ออี้ องครักษ์ข้างกายที่ทำหน้าที่รับใช้มายาวนานถอยออกไป ครู่หนึ่งจึงเดินกลับเข้ามาพร้อมขนม เด็กน้อยทำตาโตแล้วยื่นมือไปรับขนมจากเซียวเหริน “ข้าให้ในครัวปรุงให้เจ้าเป็นพิเศษ ในนี้มีส่วนผสมของสมุนไพรบำรุงร่างกาย เจ้าจะได้แข็งแรงเติบใหญ่เร็วไว” “ขอบพระทัยเสด็จลุง” “ไปเถอะ” “อื้ม!” เด็กน้อยปีนลงจากตัก ขันทีผู้หนึ่งเข้ามารับ เขามองเด็กน้อยที่ชะตาชีวิตลิขิตให้นั่งบัลลังก์มังกร ได้แต่หวังว่าตัวเองจะขัดเกลาเด็กคนนี้ให้เป็นฮ่องเต้ที่ดี คงมีเพียงการทำเช่นนี้ที่ลดทอนความรู้สึกผิดที่เคยให้คำสัตย์สาบานไว้ แม้ว่าชื่อของเขาจะเคยเป็นรัชทายาทก็ตาม เซียวเหรินก้มหน้าอ่านฏีกา หยิบพู่กันขึ

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 48. เหตุใดถึงเจ็บถึงเพียงนี้

    “ข้า...” หลันหลันอ้ำอึ้ง ไม่เคยคิดว่าตัวเองต้องไปจากที่นี่ ไม่ใช่หรอก นางมิได้อาลัยสถานที่แห่งนี้ มีเพียงความรู้สึกที่ต้องจากไกลเซียว เหรินต่างหากที่ทำให้นางปวดใจมือเรียวเล็กยกขึ้นอกที่หน้าอกซ้าย บริเวณที่ถูกเซียวเหรินซัดฝ่ามือเข้าใส่ ความเจ็บปวดระลอกหนึ่งราวเข็มแหลมเล็กนับร้อยนับพันทิ่มแทงหัวใจเจ็บ?เหตุใดถึงเจ็บถึงเพียงนี้“หลันหลัน” อู๋หมินลี่เห็นใบหน้าหลันหลันซีดเซียวไร้สีเลือดก็ตื่นตระหนก “เจ้าเจ็บรึ ให้ข้าตามหมอดีหรือไม่”หลันหลันส่ายหน้าไปมา ครู่หนึ่งนางสูดลมหายใจลึกสะกดความเจ็บปวดทั้งหมดแล้วฝืนยิ้มให้อู๋หมินลี่ พลันเสียงของท่านป้าต๋าฝูดังแว่วเข้ามาในหัวน้อยๆ ของนาง‘มีเวลาเพียงสี่สิบเก้าวัน’จากบันทึกของเซียวเหริน นางเหลือเวลาอีกแค่สามวันแต่ถ้านางลองให้กงอี้เทาถอนมนตร์สะกดจิต บางทีนางอาจมีชีวิตได้ยาวนานกว่านี้ แต่ชีวิตของอูหลันโหยว ไม่อาจอยู่ที่แคว้นเฉียน เหลียงได้“หลันหลัน” อู๋หมิ่นลี่บีบมือเย็นเฉียบของหลันหลัน “ข้าพาเจ้ากลับที่พักดีกว่า” “ให้ข้าประคองนางเองเจ้าค่ะ” ไป๋ชิวเข้ามาช่วยประคองหลันหลันเพื่อเดินกลับที่พัก อู๋ซิงว่านผ่านมาพอดีเห็นไป๋ชิวประคองหลันหลันอยู

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 47.ให้นางตัดสินใจเอง

    นางมุดอยู่ใต้ผ้าห่มแต่หูได้ยินเสียงพวกเขาตกลงต่อรองกัน สุดท้ายกงอี้เทาได้แต่ถอนหายใจหนักหน่วงแล้วก้าวออกไป นางคิดว่าในห้องไม่มีใครแล้วจึงโผล่หน้าออกมาจากผ้าห่ม แต่กลับพบสายตาคู่หนึ่งจ้องมองอยู่ก่อนแล้ว “ระหว่างนี้เจ้าพักอยู่ที่นี่ไปก่อน ข้าจะเป็นฝ่ายหาเวลามาพบเจ้าเอง” เขาพูดด้วยน้ำเสียงสงบนิ่งเช่นที่เคยเป็น “เข้าใจหรือไม่” นางพยักหน้าขึ้นลงเร็วๆ แทนคำตอบ เซียวเหรินไม่เอ่ยอะไรอีก หมุนตัวแล้วเดินออกไปเงียบๆ จนนางมั่นใจว่าครั้งนี้ไม่มีผู้อื่นแล้วจริงๆ จึงยอมลุกขึ้นจากที่นอนอีกครั้ง ‘ให้นางตัดสินใจเอง’ นางคิดมากจนตาลายเดือดร้อนบ่าวรับใช้ที่เฝ้าดูอาการเข้าใจผิดคิดว่าอาการของนางทรุดลง อู๋ซิงว่านรีบเข้ามาดูอาการของนาง พอรู้ว่านางหิวโหยจนหน้ามืดก็แหงนหน้าหัวเราะไม่เกรงใจคนป่วยอย่างนาง สั่งการให้บ่าวไพรยกสำรับอาหารมาให้ หลังจากถูกบิดาเรียกไปอบรม เขารู้ว่าควรทำใจเรื่องหลันหลัน อาจเพราะนางเป็นคนให้กำลังใจจนเขาสามารถใช้แขนขวาได้อีกครั้ง แต่พอรู้ว่านางอาการทรุดลงก็รีบมาดูทันที ใครจะรู้ว่านางแค่หิว ไม่สิ นางหิวมากจนจะเป็นลม ระ

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 46.ผลของการกระทำ

    “คุณหนู” ไป๋ชิวร้อนรน แต่หมอที่เก่งที่สุดกำลังดูแลสตรีอื่นจนทำให้คุณหนูของนางเป็นเช่นนี้ “ข้าไม่เป็นอะไร” นางพยายามสูดลมหายใจลึก แม้รู้อยู่แก่ใจว่าเซียวเหรินมองนางด้วยสายตาเช่นไร แต่นางก็ยังหวัง หวังว่าจะมีสักวันที่เขาจะรับรู้ความรู้สึกของนาง เปิดใจให้นางบ้าง “ไป๋ชิว พาคุณหนูใหญ่ไปพักผ่อนก่อน” อู๋ซั่วไต้เอ่ยขึ้นแล้วมองบุตรสาวด้วยความเห็นใจต่อให้ไม่มีสตรีผู้นั้นเข้ามา หรือแม้กระทั่งเขาจะใช้คนของหมู่ตึกนกยูงทองช่วยชีวิตคนสกุลเซียวเอาไว้ เขาย่อมรู้ดีว่าเรื่องเหล่านี้จะเอามาเป็นบุญคุณเพื่อให้เซียวเหรินแต่งงานกับอู๋หมิ่นลี่ได้ แต่ด้วยฐานะที่แท้จริงของเซียวเหริน อู๋ซั่วไต้รู้ดีว่า บุตรสาวของเขาไม่สามารถเคียงข้างชายผู้นั้นได้ ไม่สิ จะเรียกเซียวเหรินเช่นแต่ก่อนได้อย่างไร ในเมื่อตอนนี้เป็นถึง... “ท่านพ่อ” อู๋หมิ่นลี่กลั้นน้ำตาที่เอ่อคลอ “ท่านรู้อยู่แล้วว่าท่านเซียวเป็นใคร จึงพยายามเตือนลูกใช่ไหมเจ้าคะ” “ลี่เอ๋อร์ เจ้าหักห้ามใจตัวเองเสียเถิด ยังมีบุรุษดีๆ อีกมากมาย พ่อจะคัดเลือกคนที่ดีและเหมาะสมกับเจ้าเอง” “แต่ว่า.

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 45.เสียงเรียกที่แฝงอำนาจ

    “ลูกข้าเป็นอะไร” ไทเฮาถามด้วยสีหน้าตื่นตระหนก “รักษาเขาสิ!” เซียวเหรินถึงกับนิ่งงันด้วยอับจนถ้อยคำ แต่ฮ่องเต้หงฉานหัวเราะเสียงปร่าแล้วโบกมือไปมา “มันใหญ่มากใช่ไหมละ” เขาหัวเราะขืนๆ “อะไรกัน” ไทเฮาหันมาถามอย่างงุนงง แต่เซียวเหรินไม่กล้าพูดออกมา “มันคือฝี” ฮ่องเต้ที่กำลังจะกลายเป็นเพียงอดีตฮ่องเต้พูดขึ้นแล้วกดไปที่ท้องของตัวเอง “กระจายไปทั่วท้องแล้ว” “ไม่จริง... เหตุใดเป็นเช่นนี้” “เป็นมาเนิ่นนานแล้ว หมอหลวงรักษาไม่ได้ ลูกจึง...ไม่ใส่ใจกับมันอีก” ไทเฮาหันมาเขย่าแขนของเซียวเหริน “เจ้าได้ชื่อว่าเป็นหมอเทวดา ต้องรักษาได้!” “ถ้าได้รับการรักษาก่อนหน้านี้คงจะ...” “ช่างมันเถอะ” ฮ่องเต้หงฉานโบกมือไปมาจ้องมองใบหน้าของเซียวเหริน “เรารู้ ถึงได้ปล่อยให้มันเป็นเช่นนี้” “เจ้า! ทำไมโง่เช่นนี้” “เสด็จแม่” ฮ่องเต้พูดอย่างอ่อนแรง “ท่านเองก็รู้ว่า เสด็จพ่อยกบัลลังก์นี้ให้ใครตั้งแต่แรก” “หุบปากเสีย!” “เสด็จแม่...แท้จริงแล้วบัลลังก์นี้เป็น

DMCA.com Protection Status