Share

Chapter 33.ไม่เชื่อว่าข้าเป็นนก

last update Last Updated: 2024-12-24 21:16:32

เพียงปลายนิ้วสัมผัสท่อนแขนเรียวเล็กเย็นเฉียบราวแผ่นน้ำแข็ง เขาก็ขมวดคิ้ว มืออ่อนแรงยื่นมาคล้องคอของเขาไว้รั้งให้ใบหน้าใกล้ชิดอีกฝ่าย ดวงตาคมจ้องมองหญิงสาวในวงแขนทว่านางกลับหลุบตาลง ริมฝีซีดเซียวเผยอขึ้นเล็กน้อย แต่นั้นก็มากพอที่จะทำให้เขาโน้มหน้าลงประกบริมฝีปากกับนางอย่างรวดเร็ว  ลมหายใจอุ่นแทรกเข้ามาในโพรงปาก ปลุกร่างกายให้อุ่นร้อนขึ้นมาอีกครั้งพร้อมจังหวะหัวใจที่เต้นเป็นปกติ  นางผละจากริมฝีปากของเขา

            “ท่านเซียว” นางเรียกเขาเสียงแผ่วเบา ฝืนยิ้มให้เขา และเมื่อตั้งสติได้ก็ขยับตัวออกจากวงแขนที่โอบกอดอยู่

“ขอบคุณท่านเซียว”

            “ข้าหวังว่าเจ้าจะรู้ว่าตนเองทำสิ่งใดอยู่”  เขาเอ่ยเตือนสตินาง เขารู้ว่านางมิได้เดือดร้อนเรื่องเงินทองจนต้องไปที่หอนางโลมหรือมาที่ร้านขายสมุนไพร แต่เขาไม่ต้องการให้นางกลายเป็นเพียงแค่เครื่องมือของผู้ใดหรือต้องเสียสละตัวเองเพื่อปณิธานอันยิ่งใหญ่ที่อาจไม่มีวันเป็นจริง

            “สมุนไพรของท่านอยู่ด้านนอกแล้ว”  นางเอ่ยบอกแล้วก้มหน้าลงเล็กน้อย เพียงครู่เดียวนางก็เงยหน้าขึ้นแล้วยิ้มกว้าง “ท่านเซียวเคยได้ยินหรือไม่ มีนางรำงดงามมากมาแสดงการร่ายรำที่หอชมบุหลัน ว่ากันว่านางมีเวทมนตร์ด้วยนะเจ้าค่ะ”

            “ข้าไม่เชื่อเรื่องมนตร์หรือภูตผี”  เขาจับข้อมือนางตรวจชีพจรเพื่อความแน่ใจ แต่รสหวานที่ติดปลายลิ้นอยู่นั้นทำให้เขาต้องพยายามข่มสติตนเอง

            “เช่นนั้นท่านเซียวก็ไม่เชื่อว่าข้าเป็นนก”

            “แน่นอน”

            “แต่ท่านเซียวก็ยอมให้ข้ากินลมหายใจของท่าน”  นางเม้มปากอมยิ้ม ก่อนผิวปากออกมา เป็นเสียงสั้นยาวสลับกัน ครู่เดียวนกกระจิบ หลายตัวก็บินวนเวียนอยู่รอบกายนาง  เซียวเหรินยังคงไม่ยอมรับ เขาหมุนตัวเดินจากไปอย่างไม่หันกลับมามองนางอีก

            เมื่อในลานตากสมุนไพรไม่มีผู้ใดแล้ว กงอี้เทาจึงก้าวเท้าออกมายืนใกล้กับหญิงสาว มองนางด้วยสายตาสงสารและเห็นใจ

            “เจ้าชอบเขาถึงเพียงนี้”   แน่นอนว่าเขายอมเห็นที่นางแสร้งตกบันได้เพื่อได้จุมพิตชายหนุ่ม แม้เป็นเวลาอันแสนสั้นแต่ก็นับได้ว่าตราตรึงสายตาคนที่ลอบมองอยู่

            “จะเป็นไรไป” นางกระตุกยิ้มขึ้นมากลบเกลือนความเศร้าที่ท่วมท้นในอก “ข้าคือหญิงสกุลอู เรื่องล่อลวงบุรุษนี้เป็นเรื่องธรรมดาสามัญสำหรับข้า”

            ถ้อยคำตรงไปตรงมาที่กงอี้เทาได้ยินมานับครั้งไม่ถ้วนนี้ ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกคุ้นชินและยอมรับได้เลย สำหรับแคว้นเฉียนเหลียงแล้ว คนสกุลอูได้รับการเคารพนับถือ แต่สำหรับแคว้นอื่นคนกสุลอูคือพวกมากเล่ห์เพทุบาย เป็นแม่มดหมอผีที่สมควรถูกสังหารให้สิ้นซาก

            หลันหลันหลับตาลงครู่หนึ่ง ความทรงจำของอูหลันโหยวไหลบากราวสายน้ำ นางจึงจดจำการร่ายรำหรือตัวยาสำหรับใช้ทำยาหลอนประสาทได้ รวมทั้งแผนการเพื่อให้แคว้นเฉียนเหลียงเป็นอิสระไม่เป็นเมืองขึ้นของแคว้นใด

            แท้จริงเจ้าของร่างนี้คือ ‘อูหลันโหยว’ ที่สับเปลี่ยนฐานะกับ ‘กงเสวี่ยหลิง’

            “ข้ามาที่นี่เพื่อมาแจ้งกับท่านหมอให้เตรียมส่วนผสมที่ใช้ในยาหลอนประสาท ข้ามั่นใจว่าอีกไม่กี่วัน ฮ่องเต้มักมากในกามผู้นั้นต้องเรียกข้าเข้าวังอย่างแน่นอน  ท่านกับจางซงหยวนเตรียมตัวให้ดีเถิด”

            กงอี้เทาถอนหายใจหนักหน่วงก่อนจะรับคำอย่างหนักแน่น

            “หากเรื่องนี้ยุติด้วยดี ข้าจะ...”

            “ท่านไม่ต้องทำสิ่งใดเพื่อข้าหรือสัญญาใดๆ ทั้งสิ้น”  หญิงสาวส่ายหน้าไปมา ไม่เหลือแววเด็กสาวไร้เดียงสาอีกแล้ว นางสบตากับเขาแล้วเผยรอยยิ้ม

“ข้าคือหญิงสกุลอู ย่อมรู้ว่าเกิดมาเพื่อสิ่งใด หากชีวิตเดียวของข้าทำให้ผู้อื่นนับพันนับหมื่นได้พ้นทุกข์จากฮ่องเต้ทรราช ข้าล้วนยินดี”

            กงอี้เทาได้แต่สูดลมหายใจลึก ปณิธานของนางยิ่งใหญ่นัก หากเป็นบุรุษนางก็สมกับเป็นนักรบ เพียงแต่นางเป็นสตรีที่สลับตัวกับกงเสวี่นหลิงมาในฐานะสายลับและเครื่องบรรณาการ  เขาเห็นท่าทางเหม่อลอยของนางจึงไม่คิดจะพูดคุยกับนางอีก เขารู้ว่านางรั้งอยู่ที่นี่เพียงเพื่อรอให้เซียวเหรินพาอู๋หมิ่นลี่ออกจากโรงหมอแห่งนี้ไปก่อน  บุรุษหนุ่มคิดถึงคำเล่าลือถึงการถูกเคี่ยวกรำอย่างหนักหน่วงของคนสกุลอู และศาสตร์ลับที่สืบทอดกันมานานนั้นคือการสะกดจิต  เขาไม่รู้ว่านางฝึกฝนถึงขั้นใด แต่เคยได้ยินว่าการสะกดจิตขั้นสูงสุดคือการสะกดจิตตนเอง

            หรือนางจะสะกดจิตตนเองให้เป็นนกหงส์หยกตัวนั้น

            ดวงตาคมเบิกตากว้างจ้องมองใบหน้างดงามที่เผยรอยยิ้มที่เขาไม่อาจคาดเดาได้ว่ารอยยิ้มนั้นมีความหมายว่าอย่างไร  ริมฝีปากขยับปากส่งเสียงแผ่วเบา

            “ท่านไม่เชื่อหรือว่าข้าคือนกหงส์หยกตัวนั้น”

....

ระหว่างนกกับลิงเจ้าเลือกจะเป็นตัวอะไร

            เสียงเด็กหนุ่มวัยสิบสี่เอ่ยขึ้นแม้มองสองข้างจะกำลังยุ่งกับการขุดโสมคน  ผ่านไปครึ่งเค่อไม่มีเสียงตอบกลับใดๆ นอกจากเสียงสายลมพัดผ่าน ใบไม้ขยับไหว บริเวณภูเขาแห่งนี้มีสมุนไพรชั้นดีหายากอยู่มาก แต่เพราะทางขึ้นเขาค่อนข้างชันและลำบากซ้ำยังห่างไกลมาก น้อยคนจึงจะมาถึง แต่กระนั้นยังมีเด็กหนุ่มผู้สะพายตะกร้าสานขึ้นหลังเดินดุ่มๆ ขึ้นเขาอย่างใจเย็น และแน่นอนว่าเขารู้ว่าที่นี่มีผู้อื่นอยู่ด้วย

            นานหลายอึดใจ ร่างเล็กในชุดกระโปรงผ้าฝ้ายเรียบง่ายโผล่ออกมาจากต้นไม่ใหญ่ นางไม่ได้เกล้าผมเป็นทรงกลมเหมือนซาลาเปาสองลูกบนศีรษะ แต่ผมยาวนั้นถูกถักเปียอย่างเรียบร้อย  นางมีดวงตางดงามสุกใส แม้รูปร่างเล็กแต่แผ่นหลังที่เหยียดตรงและท่าทางมุ่งมั่นไร้ความหวาดกลัวทำให้นางไม่เหมือนเด็กหญิงวัยสิบขวบเลยสักนิด

เด็กหนุ่มไม่ได้หยุดมือแต่รับรู้ว่าร่างนั้นขยับเข้ามาใกล้ นางค่อยๆ นั่งยองๆ ตรงข้ามกับเขาที่กำลังเอาโสมคนขึ้นจากดินอย่างระวังไม่ให้มี

ส่วนใดหัก

            “เหมือนเจ้าจะไม่สูงขึ้นเลยนะ”

            “เจ้าจำได้รึว่าข้าสูงแค่ไหน”

            เด็กหนุ่มเลิกคิ้วเล็กน้อย ไม่ถือสากับคำพูดที่ไร้มารยาทของนาง นางคงไม่เห็นว่าเขาอายุมากกว่า แต่หลายปีมานี่ เด็กน้อยคนนี้ก็เป็นเช่นนี้ 

            “โสมอยู่ในดินข้ายังรู้ว่ามันอายุเท่าไหร่  เจ้าตัวกระจิดริดเพียงแค่นี้ มีอะไรแตกต่างจากที่พบกันครั้งก่อน”

            ใบหน้าเด็กหญิงยังคงราบเรียบแต่ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันจนเรียบตึงเป็นเส้นตรง พยายามอย่างสุดกลั้นไม่แสดงความรู้สึกใดออกมา นั้นเพราะนางถูกเคี่ยวกรำฝึกฝนตั้งแต่จำความได้ หากไม่ได้รับอนุญาต นางก็ไม่อาจแสดงความรู้สึกใดออกมาได้ ไม่ว่าจะเจ็บปวด ทุกข์ใจ หิวโหย หรือดีใจ

            เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นประคองโสมล้ำค่าใส่ตระกร้าอย่างระวัง เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้นจึงหันไปสบตากับดวงตากลมโตคู่นั้น        เด็กหญิงรู้ดีว่า จุดอ่อนของนางคือดวงตาคู่นี้ นางไม่เคยซุกซ่อนสิ่งใดในดวงตาของนางได้เลย ท่านอาจารย์อ่อนอกอ่อนใจกับนางเสมอ นางไม่แสดงอาการเจ็บปวดยามต้องทัณฑ์ทรมาน แต่ดวงตากลับบอกได้หมดสิ้นว่าสึกเช่นใด

            เช่นเวลานี้ นางตื่นเต้นดีใจที่ได้พบ ‘เขา’ อีกครั้ง

            เด็กหนุ่มลุกขึ้นยืน นางก็ลุกขึ้นยืนตามเขา เมื่ออยู่ใกล้ ยิ่งเห็นได้ชัดว่านางตัวเล็กกว่าเขามากจริงๆ เด็กหนุ่มผอมบางแต่กำยำเปี่ยมด้วยพลัง เขาสะพายตะกร้าขึ้นหลังก้าวเดินออกมาคล้ายไม่สนใจเด็กหญิงคนนั้น แต่รับรู้ว่านางเดินตามเข้ามาใกล้ๆ

            “ทำไมเจ้ารู้ว่าข้าซ่อนตัวอยู่”  นางเอ่ยถามแผ่นหลังของเขา อย่างไรก็เป็นเพียงเด็กหญิงวัยสิบขวบ ยากจะเก็บความสงสัยใคร่รู้ได้ 

            เขาส่งเสียงหัวเราะในลำคอ “ครั้งก่อนเจ้าปีนต้นไม้แล้วเกือบพลาดตกลงมา หากเจ้ายังสติดีอยู่คงไม่ทำซ้ำเช่นเดิมกระมัง”

            “ก็ข้าไม่ได้รับอนุญาตให้ฝึกเพลงยุทธ์นี่”  นางประท้วง “แล้วข้ามาก่อนเจ้า!”

            “ภูเขาลูกนี้เป็นของเจ้ารึ”

            “ย่อมไม่ใช่” นางส่ายหน้าไปมาทั้งที่รู้ว่าเขาไมได้หันมามอง “แต่เป็นที่เดียวที่มีดอกโบตั๋นผลิบานมากมายเช่นนี้”

           

Related chapters

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 34.มือที่มีไว้ช่วยผู้คน

    เด็กหนุ่มพยักหน้ายอมรับ ที่นางพูดออกมาล้วนเป็นเรื่องจริง ที่แห่งนี้งดงามนัก มันอาจเป็นการค้นพบที่ยิ่งใหญ่สำหรับเขาที่ได้เจอสถานที่งดงามแสนพิเศษนี้ แต่ใครจะคิดว่าสถานที่ที่เขาคิดว่าเป็นคนแรกที่ค้นพบจะเจอเด็กหญิงประหลาดที่ฝึกปีนป่ายต้นไม้อยู่ “เจ้าเลือกเป็นหมอแล้วใช่ไหม” นางสาวเท้าเร็วๆ เพื่อให้ก้าวตามร่างสูงนั้นทัน “ข้าไม่ชอบรักษาผู้ใด” เขาตอบและไม่ได้หันมามองนางเลยสักนิด “แต่เจ้าศึกษาเรื่องสมุนไพร” “เพราะข้าชอบการปรุงยา” “ก็ไม่เห็นต่างกันเลยนี่” “แล้วเหตุใดเจ้าต้องใส่ใจด้วย” เขากลอกตามองท้องฟ้า ปกติเขาไม่ใช่คนช่างพูด แต่เจอกับเด็กหญิงผู้นี้ทีไหร่เขากลายเป็นคนพูดมากเกินความจำเป็นทุกที “เพราะหากข้าบาดเจ็บหรือต้องพิษ เจ้าจะได้รักษาข้าได้อย่างไรเล่า” คราวนี้เขาชะงักเท้าแล้วหันกลับมามองนาง ดวงตาคมกริบหรี่ตามองพลางพินิจพิเคราะห์ว่าเหตุใดนางจึงคาดหวังว่าเขาจะเป็นหมอเพื่อนาง หรือเขาเผลอไปให้ความหวังนางเข้าให้ หรือนางแอบหลงใหลในตัวเขา นางจึงมองเขาด้วยดวงตาเปี่ยมความมั่นใจ ริมฝึปากอิ

    Last Updated : 2024-12-24
  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 35.ช่างเป็นนกหงส์หยกที่กะล่อนเสียจริง

    เซียวเหรินพึมพำกับตนเองมากกว่าจะพูดกับจูเต๋ออี้ แม้เขาสงสัยในตัวหลันหลัน และกงอี้เทากับจางซงหยวนไม่พูดความจริงกับเขาเรื่อง หลันหลัน แต่เขาพอจะคาดเดาได้ไม่ยาก แม้ไม่รู้วิธีการแต่จุดหมายนั้นนั้นเขาย่อมรู้ดีแก่ใจ และไม่หายตัวไปทำอะไร ทุกครั้งที่นางกลับมา นางจะมายืนจ้องหน้าเขา เขย่งปลายเท้ายื่นหน้าประทับริมฝีปากเขาสูดเอาลมหายใจเข้าไป นับวันนางยิ่งชำนาญยิ่ง ไม่รอให้ครบสามวันแต่มาเก็บกินเอาวันละเล็กละน้อย บางครั้งก็แอบเลียริมฝีปากของเขาแล้วผลุบหนีไปราวกับเขาจะจับตัวมาตีก้นช่างเป็นนกหงส์หยกที่กะล่อนเสียจริงจูเต๋ออี้ไม่ล่วงรู้ความคิดของผู้เป็นนาย เห็นเพียงสีหน้าเย็นชาตามปกติ เมื่อมื้อเช้าเสร็จสิ้น เซียวเหรินตระเตรียมยาสำหรับอู๋ซิงว่านเสร็จแล้วจึงให้จูเต๋ออี้ไปตามหลันหลันมายกยาออกไป หลันหลันประคองถาดใส่ถ้วยยาด้วยความตั้งใจยิ่ง และไม่รู้ว่าจูเต๋ออี้หายตัวไปที่ใดแล้ว อู๋ซิงว่านกำลังฝึกฝนการใช้กระบี่ด้วยมือซ้าย หลายวันมานี่ฝีมือของเขาพัฒนาไปมาก ขนาดอู๋ซั่วไต้ผู้เป็นบิดายังเอ่ยชม อู่หมิ่นลี่เดินเข้ามาพร้อมกับไป๋ชิว ใบหน้าของคุณหนูใหญ่แห่งหมู่ตึกนกยูงทองปรากฏรอยยิ้มตื้นตันใจยิ่งนัก

    Last Updated : 2024-12-24
  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 36.ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก

    อู๋ซิงว่านได้แต่มองร่างเล็กๆ ที่วิ่งตามเซียวเหรินไปสุดสายตา เขารู้สึกับนางอย่างไรนั้น เขาย่อมรู้ดี แต่นางนั้นเล่า จะยอมอยู่เคียงข้างเขาหรือติดตามแผ่นหลังของเซียวเหรินเช่นนั้น หลันหลันก้าวเร็วๆ จนเกือบจะเป็นวิ่ง จนกระทั้งจู่ๆ เซียวเหรินก็หยุดเดิน นางเกือบหยุดไม่ทันปะทะกับแผ่นหลังของเขาเกือบหงายหลังล้มลง แต่เซียวเหรินไวพอจะคว้ามือเรียวเล็กฉุดไว้ได้ทันก่อนที่นางจะก้นกระแทกพื้น มือเรียวเล็กอยู่ในอุ้งมือของเขา ภาพมือของเขาอยู่ในอุ้งมือของเด็กหญิงวัยสิบขวบ ปรากฏขึ้นมาในสมองซ้อนทับกับมือของเขาที่จับมือนางไว้ “ขอบคุณท่านเซียว” หลันหลันยิ้มทะเล้น เมื่อทรงตัวได้แล้วจะดึงมือตนเองกลับแต่มือใหญ่ของเซียวเหรินกลับบีบแรงขึ้นจนรอยยิ้มของนางเจือนไป “ข้าเคยได้ยินว่าที่คนสกุลอูในแคว้นเฉียนเหลียงมีความสามารถพิเศษ นอกจากมนต์ดำคุณไสย์แล้วยังมีวิชาสะกดจิต” “วิชาสะกดจิต?” นางทำตาโตแสร้งทำเป็นไม่รู้สึกเจ็บปวดกับแรงบีบที่เพิ่มมากขึ้น “คืออะไรรึเจ้าคะ” เซียวเหรินหรี่ตามองดวงตาสุกใสของนาง ครู่ต่อมาจึงคลายมือออกแล้วหันหลังเดินมุ่

    Last Updated : 2024-12-24
  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 37. ไม่ถูกต้อง

    “ไม่ถูกต้อง!” นางรีบแย้ง “ไม่เป็นในสิ่งที่ตนเลือกเสียหน่อย ข้าไม่ได้อยากเป็นคนสกุลอูเลย แล้วก็ไม่ได้อยากสังหารผู้ใดด้วย” นางเบ้ปากพึมพำเบาๆ ไม่คิดว่าเขาจะได้ยิน แต่อีกฝ่ายไม่มีสีหน้าตื่นตระหนก ซ้ำยังยื่นมือมาโยกศีรษะนางอย่างหยอกล้อ “เมื่อถึงวันหนึ่ง เจ้าจะรู้คำตอบเอง” เขายังคงยิ้มให้ “หวังว่าเมื่อถึงเวลานั้น เจ้าจะเห็นแก่มิตรภาพของเราละเว้นชีวิตข้าบ้าง” “เหตุใดข้าต้องฆ่าเจ้าด้วย” นางเอียงคอมองอย่างสงสัย “ไม่รู้สิ” เขายิ้มขบขันกับแววตาไร้เดียงสาของนาง เด็กหนุ่มยันกายลุกขึ้นยืนยื่นมือไปให้นางจับเพื่อพยุงตัวลุกขึ้นแต่นางกลับส่ายหน้าไปมา“ข้าจะลงเขาแล้ว ไปด้วยกันเถิด”นางมองมือที่ยื่นมาตรงหน้า สองมือของนางยังกอดเข่าตัวเองแน่น นางเป็นเด็กหญิงอายุสิบขวบที่ถูกฝึกฝนไม่ให้รับความช่วยเหลือจากผู้ใด ‘หัวใจตีด้วยเหล็กกล้า เจ้าไม่ควรรู้สึกต่อสิ่งใด’ นั่นเป็นประโยคที่อาจารย์หญิงสั่งสอนนางอยู่เสมอ “ภูเขานี้ไม่มีสัตว์ร้าย เจ้าจะนั่งอยู่ก็ไม่เป็นไรกระมัง” เขาเข้าใจไปว่านางยังทิฐิอยู่จึงไม่อยากกลับลงไปตอนนี้“หรือไม่ก็...เจ้าน่ากลัวกว่าส

    Last Updated : 2024-12-26
  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 38.ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ที่เขาคิดถึงนาง

    “เจ้านี่มันเหมือนแม่ไม่มีผิด” ไทเฮาทรงหัวเราะออกมาเบาๆ แล้วยอมหยุดมือ แผลเพียงเล็กน้อยไม่อาจทำให้ความหล่อเหลานี้ลดลงแม้แต่น้อย หรือแม้แต่หักแขนหักขา คนผู้นี้ก็ยังดูเป็นคนเหนือคน สายตาของนางมองคนไม่ผิดจริงๆ แต่นางไม่อาจกำจัดคนผู้นี้ไปได้ อำนาจการต่อรองของนางขึ้นอยู่กับชีวิตของชายผู้นี้ แววตาของเซียวเหรินกระตุกวูบหนึ่งแต่ถูกกลบเกลื่อนอย่างรวดเร็ว เขาสงบใจจึงเอ่ยขึ้น“อาการประชวรของไทเฮาดีขึ้นแล้วหรือพ่ะย่ะค่ะ” “ข้าปวดหัวทุกวัน” ไทเฮาตอบพลางคลี่ยิ้มออกมาราวกับมองไม่เห็นแววตาวูบไหวเมื่อครู่ “ได้ยินว่าอยู่ข้างนอกผู้คนกล่าวขานว่าเจ้าคือหมอเทวดาไร้ใจ” “เป็นเพียงคำพูดที่ผู้อื่นกล่าวกันไปเองทั้งสิ้น” มุมปากยกเป็นรอยยิ้มบางเบา “ทรงให้คนคุมตัวกระหม่อมมาเพื่อเรื่องนี้หรือพ่ะย่ะค่ะ” “หมอหลวงที่เรียกมา ช่วยข้าไม่ได้เลย” นางคลี่ยิ้ม แต่ดวงตาจ้องมองอย่างหยั่งเชิง “เจ้าจะช่วยข้าได้หรือไม่” “อาการประชวรขององค์ไทเฮาเป็นต่อเนื่องเรื้อรังมานาน และเกรงว่ากระหม่อมไร้ความสามารถไม่อาจรักษาอาการของพระองค์ได้พ่ะย่ะค่ะ” “เ

    Last Updated : 2024-12-26
  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 39.มาถึงแล้ว

    “เจ้าก็เหลือเกิน” ไทเฮาส่ายหน้าไปมา “ให้ดูข้าเป็นตัวอย่างแต่กลับทำตัวอ่อนแอ ปล่อยให้ฮ่องเต้หลงระเริงกับสตรีชั้นต่ำเหล่านั้นได้อย่างไร” ฮองเฮาอยากโต้เถียงแต่ไม่กล้า นางก็เป็นเพียงสตรีที่ถูกคัดเลือกมาเพื่อนั่งตำแหน่งนี้ โชคดีแค่ไหนแล้วที่นางให้กำเนิดโอรสได้สำเร็จ หาไม่แล้ว นางอาจไม่มีที่ยืนในวังหลังแห่งนี้ “หญิงบรรณาการผู้นั้นก็หายตัวไป แค่ให้ส่งนางออกไปเจ้ายังทำพลาด” ฮองเฮาก้มหน้ากัดริมฝีปากแน่นจนรู้สึกถึงรสเค็มคาวในปาก ถึงนางจะเป็นฮองเฮาแต่ใช่ว่าจะไม่ริษยาผู้อื่น เห็นสามีตนเองระรื่นกับสตรีอื่นจะให้ทำหน้าชื่นอยู่ได้อย่างไร “เอาล่ะ เจ้าก็ดูให้ดี อะไรที่ข้าสอนก็จำใส่ใจไว้ ไม่อย่างนั้นฐานะของเจ้าในตอนนี้อาจเป็นของผู้อื่น” “เพคะ” ไทเฮาส่งเด็กน้อยให้ฮองเฮาดูแลต่อแล้วไล่ผู้อื่นออกไป นางต้องการพักผ่อน ทว่าในสมองกลับคิดถึงเรื่องของเซียวเหริน คนผู้นี้ต้องรีบหาทางกำจัดทิ้ง นางปรานีไว้ชีวิตมาเนิ่นนานเกินไป จะให้ผู้ใดมาสั่นคลอนบัลลังก์ของนางไม่ได้!ทุกสิ่งเป็นของนาง สิ่งที่นางสูญเสียไปต้องไม่เสียเปล่า......

    Last Updated : 2024-12-26
  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 40.เริ่มดำเนินการตามแผน

    “เยี่ยม! ขนาดเรายืนอยู่ใกล้เจ้ายังไม่อาจจับผิดได้” “ขอบพระทัยเพคะ” นางก้มหน้าแต่ลอบมองดวงตาของขององค์ฮ่องเต้ ภายใต้หน้ากากงดงามเผยรอยยิ้มพึงพอใจ “หม่อนฉันหวังใจว่าจะสร้างความเกษมสำราญแด่ฝ่าบาทเพคะ” “เราชอบมาก เด็กๆ ตบรางวัล” ขันทีขานรับคำสั่งของฮ่องเต้ ขุนนางทั้งหลายต่างแย้มยิ้มแต่บางคนเก็บซ่อนความไม่พอใจที่เห็นฮ่องเต้เอาแต่หาความสำราญไม่สนใจงานบ้านงานเมือง ฎีกาที่ถวายขึ้นไปถูกไทเฮาริบเอาไว้หมด “ขอบพระทัยเพคะแต่หม่อมฉันมีรางวัลที่ต้องการในใจแล้ว” หญิงสาวเอ่ยขึ้นด้วยท่าทีอ่อนน้อม “ลองว่ามาสิ” “อีกสองวันจะถึงงานสมโภช หม่อมฉันหวังใจจะได้ทำการแสดงต่อหน้าไทเฮาสักครั้งในชีวิตเพคะ” “เรื่องแค่นี้เองรึ” ฮ่องเต้ทรงแหงนหน้าหัวเราะ “ได้! เราอยากให้ไทเฮาชมการแสดงของเจ้าอยู่พอดี เช่นนั้นเจ้าอยู่ที่นี่จนถึงวันงานสมโภชก็แล้วกัน” “ขอบพระทัยเพคะ” เพื่อมิให้ฮ่องเต้โอบกายนางได้ หญิงสาวรีบคุกเข่าแสดงความขอบคุณด้วยความซาบซึ้ง เสียงหัวเราะดังเหนือศีรษะ นางก้มหน้านิ่งรอจนฮ่องเต้เปลี่ยนใจ

    Last Updated : 2024-12-26
  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 41.เชี่ยวชาญการสะกดจิต

    “ได้ยินว่าแคว้นเฉียนเหลียงมีคนสกุลอูสนับสนุนอยู่เบื้องหลังบัลลังก์มังกร เจ้าเป็นคนของกงเสวี่ยหลิงคงพอได้ยินมาบ้าง” “อืม” นางพยักหน้าขึ้นลง “สกุลอูเชี่ยวชาญการสะกดจิต” “ท่านเซียวคิดเช่นนั้นหรือ?” แววตานางมีประกายรื่นเริงยินดี “ผู้อื่นมองว่าสกุลอูเป็นพวกหลอกลวง เล่นปาหี่หรือไม่ก็มีมนตร์ดำ” เซียวเหรินส่ายหน้าไปมา นางกินขนมจนเกลี้ยงจาน เขารินน้ำชาส่งให้นางดื่ม กลายเป็นเขาที่ต้องคอยปรนนิบัตินางหรือนี่? ‘เสร็จเรื่องวุ่นวายที่นี่แล้ว เจ้าจะทำอย่างไร’ เขาไม่ได้เอ่ยปากถามนาง เขารู้ว่าการที่นางมาที่เพื่ออะไร กงอี้เทาเคลื่อนไหวแล้ว ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะมีชีวิตเหลือรอดออกไปหรือไม่ หลันหลันวางถ้วยชาลงพลางมองชายหนุ่มตรงหน้าราวกับประทับภาพของเขาไว้ในหัวใจ ไม่ว่านางจะเป็นอูหลันโหยวหรือนกหงส์หยกหลันหลัน สำหรับนางแล้วเซียวเหรินคือคนสำคัญที่สุด อาจเป็นเพียงสิ่งเดียวที่เหนี่ยวรั้งดวงจิตของอูหลันโหยว และหลันหลันเข้าไว้ด้วยกัน “ข้ามาดูว่าท่านเป็นอย่างไร เรื่องอื่นท่านเตรียมตัวให้พร้อมเถิด”

    Last Updated : 2024-12-28

Latest chapter

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 53.จบ

    ชีวิตสี่ปีของหลันหลันเป็นเช่นนี้เรื่อยมา หลัววั่งรู้สึกว่ามีคนเข้ามา จึงเงยหน้าขึ้น เมื่อเห็นว่าผู้มาใหม่เป็นใครเขาก็ส่งยิ้มกว้างแล้วเดินออกไปอย่างเงียบๆ “ท่านรีบกลับเถิด ที่นี่ข้าจัดการเองได้” “ไยรีบไล่ข้าไปเล่า หรือเจ้านัดผู้ใดไว้” หญิงสาวได้ยินน้ำเสียงที่คุ้นเคยจึงเงยหน้าขึ้น บุรุษร่างสูงโปร่งสวมอาภรณ์สีเขียวใบไผ่ใบหน้าอ่อนล้าแต่ยังมีรอยยิ้มอ่อนโยน“ท่านมาแล้ว”เซียวเหรินส่งยิ้มให้นาง แม้เหนื่อยล้าจากการเร่งรีบเดินทางมา ทว่าเพียงได้เห็นรอยยิ้มนาง ความเหน็ดเหนื่อยเหล่านั้นพลันมลายหายไปสิ้น“เหตุใดกลับเร็วนักเล่า” หลันหลันอดเป็นห่วงไม่ได้ “ตามจริงต้องอีกสิบวันท่านจะกลับไม่ใช่หรือ? เดินทางไปตรวจดูการซ่อมแซมเขื่อนเป็นอย่างไรบ้าง ”“เจ้าไม่อยากเห็นหน้าสามีหรือไร”เขาทำเสียงไม่พอใจแต่เดินไปนั่งใกล้ๆ แล้วจับชีพจรให้นาง และไม่พูดเรื่องงานกับนาง จะว่าไป ก็ไม่มีมีเรื่องใดในชีวิตของเขาที่หลุดรอดสายตาของนาง เช่นเดียวกับที่เขารู้ว่าในแต่ละวันนางทำอะไร นางมีคนคอยส่งข่าว ส่งเขาให้จูเต๋ออี้วางองครักษ์ลับไว้โดบรอบ “พิษในตัวข้ายังต้องใช้เ

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 52.ไม่มีอะไรให้ลังเลและกังวลอีกแล้ว

    “คิดสิ” นางหัวเราะเบาๆ เสียงหัวเราะของนางทำให้กงอี้เทาปล่อยนางจากวงแขน เขาคิดว่านางจะเปลี่ยนใจจึงยอมคลายมือจากข้อมือนาง ทำให้นางส่งยาเม็ดนั้นส่งเข้าปากแล้วกลืนลงคอทันทีท่ามกลางดวงตาที่เบิกกว้างของกงอี้เทา “เจ้า!” “ข้าไม่เสียใจ” นางยิ้มแล้วยกมือลูบใบหน้าของกงอี้เทา “บอกจางซงหยวนให้ดูแลกงเสวี่ยหลิงให้ดี” “หลันโหยว!” “ข้าอยากขอร้องเจ้าครั้งสุดท้าย” นางพูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาลง “ได้ข้ารับปากเจ้า ข้ารับปากเจ้าทุกเรื่อง” กงอี้เทาประคองร่างที่อ่อนยวบลงในวงแขน มือของเขาสั่นเทาอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ใบหน้าของหญิงสาวมีรอยยิ้ม แต่ดวงตาของนางปิดลง ชีพจรเต้นช้าลง ร่างกายเริ่มเย็นเยียบขึ้นมาที่ละน้อย นางวางมือไว้บนหน้าอก บริเวณหัวใจของตนเองที่เต้นแผ่วเบาลงไปทุกที ทุกที ทุกที ไม่มีอะไรให้นางลังเลและกังวลอีกแล้ว..จูเต๋ออี้เดินเข้ามาอย่างเงียบเฉียบ ภาพที่เห็นจนเริ่มชินตาคือเจ้าของร่างสูงสง่านั่งเหยียดแผ่นหลังตั้งตรง แววตามุ่งมั่นและมือตวัดพู่กันแก้ไขปัญหาน้อยใหญ่ที่ฮ่องเต้พระองค์ก่อนทิ้งปัญหาไว้มากมายเหลือคณานับ

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 51. เจ้านกตะกละ

    “เจ้านกตะกละ!” เขาดุนางพลางแหวนหน้าคำรามเสียงพร่า ถูกนางรุกเร้าจนแท่งหยกไถลลื่นเข้าไปจนสุด นางหวีดร้องเบาๆ โผเข้ากอดเขา ปลายเล็บจิกที่แผ่นหลังไม่เคยรู้เลยว่าบุรุษผู้นี้จะมีซ่อนสิ่งใหญ่โตไว้ถึงเพียงนี้ ความเสียวซ่านแผ่นกระจายไปทั่วร่าง จนถึงปลายนิ้วเท้าที่เกร็งแทบเป็นตะคริว นางครวญเสียงกระเส่า ยามเมื่อเขาขยับสะโพกถอนแก่นกายออกช้าๆ แล้วกดกลับเข้ามาใหม่ นางได้แต่หวีดร้องส่งเสียงครางแทบขาดใจ เหงื่อร้อนหลั่งออกมาจนหยดบนกายของนาง ความเจ็บแปลบที่เกิดขึ้นในคราวแรกหายไปสิ้น ทุกการเติมเต็มของเขาทำให้ร่างกายที่เคยเยียบเย็นร้อนระอุ เหงื่อร้อนผุดขึ้นทุกรูขุมขน ร่างกายนางทวีความร้อนและเปียกชื้น รวมทั้งที่ใจกลางของดอกไม้สาวที่รองรับการเคลื่อนไหวของผีเสื้อหนุ่มช่างแนบแน่น ลึกล้ำและซ่านเสียว“ข้า...” นางไม่รู้ว่าตนเองจะพูดอะไร เขาป้อนความสุขสมที่นางไม่เคยรู้จัก ทำให้นางอิ่มเอมครั้งแล้วครั้งเล่า และหิวโหยต้องการไม่สิ้นสุด ไม่ว่าท่วงท่าใดที่เขานำพา ล้วนทำให้นางปรารถนาในตัวเขามากขึ้น มากขึ้น“เซียวเหริน!”ดวงตาของเซียวเหรินราวลูกไฟ ไฟปรารถนาเผาไหม้หัวใจทำให้เคลื่อนไหวร่างกายเร็วขึ้น ถาโถมและโหมกระหน

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 50.ใช้หัวใจฟังเสียวหัวใจสิ

    “เจ้าอยู่ที่นี่ให้ข้าถอนพิษให้เจ้าเถิด” “ข้าจะอยู่ที่นี่ในฐานะอะไรได้” นางส่ายหน้าไปมาบนอกเสื้อของเขา นางจงใจทำร้ายองค์ชายหงก่วงต่อหน้าผู้อื่นหากนางยืนข้างกายเขา คนภายใต้การปกครองย่อมมองเขาไม่ดีเป็นแน่ ขณะที่สมองและหัวใจตีกันยุ่งเหยิง ปลายคางของนางถูกช้อนขึ้น ตามด้วยริมฝีปากหยักสวยทาบทับ นางคิดจะถอยหลังหลบหนีแต่เรียวลิ้นร้อนไล่ต้อนจนนางไม่อาจตั้งสติคิดสิ่งใดได้ ถูกจุมพิตของเขาทำให้สับสนจนเกือบขาดอากาศหายใจเขาจึงยอมละริมฝีปากจากนาง “ใจร้าย!” นางทุบแผ่นอกแกร่งของเขา “ข้าต้องการเวลาคิด”“เรื่องแบบนี้ต้องคิดอะไรนานนัก” เขาโน้นหน้าลงจุมพิตดวงตาของนางที่ยังมีหยาดน้ำตาวาวใส “ใช้หัวใจฟังเสียงหัวใจสิ”‘ใช้หัวใจฟังเสียงหัวใจสิ’เป็นอีกครั้งที่นางได้ยินประโยคนี้ ดวงตาของนางเหม่อลอยไปชั่วขณะ และในจังหวะเดียวกัน เซียวเหรินตัดสินใจทำในสิ่งที่ตนเองต้องการ ช้อนร่างนุ่มนิ่มไว้แนบอกพานางกลับมาที่ห้องนอนของตนเอง การกักขังนกตัวหนึ่งไว้นั้น อาจไม่ใช่กรงขังที่แน่นหนาแต่เป็นความรู้สึกปรารถนาที่มีต่อนางจูเต๋ออี้เห็นผู้เป็นนายกลับมาพร้อมกับอุ้มหญิงสาวที่ซุกอยู่ในอกจนแทบมองไม่เห็นใบ

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 49.คิดถึง

    “งานเหล่านี้แท้จริงเป็นของเจ้า ยามนี้ลุงแค่ช่วยจัดการให้ไปก่อน” เขาพูดอย่างใจเย็น บ้านเมืองต้องพลิกฟื้นเป็นการใหญ่ กว่าจะเข้ารูปเข้ารอยคงใช้เวลาอีกสามถึงสี่เป็นอย่างน้อย เขาก้มมองเห็นเด็กน้อยทำหน้านิ่วก็หัวเราะเบาๆ “เจ้าต้องหมั่นเรียนรู้ เข้าใจหรือไม่” “หลานทราบแล้ว เสด็จลุง” “ดี” เขาพูดแล้วขยับปลายนิ้วเรียกจูเต๋ออี้ องครักษ์ข้างกายที่ทำหน้าที่รับใช้มายาวนานถอยออกไป ครู่หนึ่งจึงเดินกลับเข้ามาพร้อมขนม เด็กน้อยทำตาโตแล้วยื่นมือไปรับขนมจากเซียวเหริน “ข้าให้ในครัวปรุงให้เจ้าเป็นพิเศษ ในนี้มีส่วนผสมของสมุนไพรบำรุงร่างกาย เจ้าจะได้แข็งแรงเติบใหญ่เร็วไว” “ขอบพระทัยเสด็จลุง” “ไปเถอะ” “อื้ม!” เด็กน้อยปีนลงจากตัก ขันทีผู้หนึ่งเข้ามารับ เขามองเด็กน้อยที่ชะตาชีวิตลิขิตให้นั่งบัลลังก์มังกร ได้แต่หวังว่าตัวเองจะขัดเกลาเด็กคนนี้ให้เป็นฮ่องเต้ที่ดี คงมีเพียงการทำเช่นนี้ที่ลดทอนความรู้สึกผิดที่เคยให้คำสัตย์สาบานไว้ แม้ว่าชื่อของเขาจะเคยเป็นรัชทายาทก็ตาม เซียวเหรินก้มหน้าอ่านฏีกา หยิบพู่กันขึ

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 48. เหตุใดถึงเจ็บถึงเพียงนี้

    “ข้า...” หลันหลันอ้ำอึ้ง ไม่เคยคิดว่าตัวเองต้องไปจากที่นี่ ไม่ใช่หรอก นางมิได้อาลัยสถานที่แห่งนี้ มีเพียงความรู้สึกที่ต้องจากไกลเซียว เหรินต่างหากที่ทำให้นางปวดใจมือเรียวเล็กยกขึ้นอกที่หน้าอกซ้าย บริเวณที่ถูกเซียวเหรินซัดฝ่ามือเข้าใส่ ความเจ็บปวดระลอกหนึ่งราวเข็มแหลมเล็กนับร้อยนับพันทิ่มแทงหัวใจเจ็บ?เหตุใดถึงเจ็บถึงเพียงนี้“หลันหลัน” อู๋หมินลี่เห็นใบหน้าหลันหลันซีดเซียวไร้สีเลือดก็ตื่นตระหนก “เจ้าเจ็บรึ ให้ข้าตามหมอดีหรือไม่”หลันหลันส่ายหน้าไปมา ครู่หนึ่งนางสูดลมหายใจลึกสะกดความเจ็บปวดทั้งหมดแล้วฝืนยิ้มให้อู๋หมินลี่ พลันเสียงของท่านป้าต๋าฝูดังแว่วเข้ามาในหัวน้อยๆ ของนาง‘มีเวลาเพียงสี่สิบเก้าวัน’จากบันทึกของเซียวเหริน นางเหลือเวลาอีกแค่สามวันแต่ถ้านางลองให้กงอี้เทาถอนมนตร์สะกดจิต บางทีนางอาจมีชีวิตได้ยาวนานกว่านี้ แต่ชีวิตของอูหลันโหยว ไม่อาจอยู่ที่แคว้นเฉียน เหลียงได้“หลันหลัน” อู๋หมิ่นลี่บีบมือเย็นเฉียบของหลันหลัน “ข้าพาเจ้ากลับที่พักดีกว่า” “ให้ข้าประคองนางเองเจ้าค่ะ” ไป๋ชิวเข้ามาช่วยประคองหลันหลันเพื่อเดินกลับที่พัก อู๋ซิงว่านผ่านมาพอดีเห็นไป๋ชิวประคองหลันหลันอยู

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 47.ให้นางตัดสินใจเอง

    นางมุดอยู่ใต้ผ้าห่มแต่หูได้ยินเสียงพวกเขาตกลงต่อรองกัน สุดท้ายกงอี้เทาได้แต่ถอนหายใจหนักหน่วงแล้วก้าวออกไป นางคิดว่าในห้องไม่มีใครแล้วจึงโผล่หน้าออกมาจากผ้าห่ม แต่กลับพบสายตาคู่หนึ่งจ้องมองอยู่ก่อนแล้ว “ระหว่างนี้เจ้าพักอยู่ที่นี่ไปก่อน ข้าจะเป็นฝ่ายหาเวลามาพบเจ้าเอง” เขาพูดด้วยน้ำเสียงสงบนิ่งเช่นที่เคยเป็น “เข้าใจหรือไม่” นางพยักหน้าขึ้นลงเร็วๆ แทนคำตอบ เซียวเหรินไม่เอ่ยอะไรอีก หมุนตัวแล้วเดินออกไปเงียบๆ จนนางมั่นใจว่าครั้งนี้ไม่มีผู้อื่นแล้วจริงๆ จึงยอมลุกขึ้นจากที่นอนอีกครั้ง ‘ให้นางตัดสินใจเอง’ นางคิดมากจนตาลายเดือดร้อนบ่าวรับใช้ที่เฝ้าดูอาการเข้าใจผิดคิดว่าอาการของนางทรุดลง อู๋ซิงว่านรีบเข้ามาดูอาการของนาง พอรู้ว่านางหิวโหยจนหน้ามืดก็แหงนหน้าหัวเราะไม่เกรงใจคนป่วยอย่างนาง สั่งการให้บ่าวไพรยกสำรับอาหารมาให้ หลังจากถูกบิดาเรียกไปอบรม เขารู้ว่าควรทำใจเรื่องหลันหลัน อาจเพราะนางเป็นคนให้กำลังใจจนเขาสามารถใช้แขนขวาได้อีกครั้ง แต่พอรู้ว่านางอาการทรุดลงก็รีบมาดูทันที ใครจะรู้ว่านางแค่หิว ไม่สิ นางหิวมากจนจะเป็นลม ระ

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 46.ผลของการกระทำ

    “คุณหนู” ไป๋ชิวร้อนรน แต่หมอที่เก่งที่สุดกำลังดูแลสตรีอื่นจนทำให้คุณหนูของนางเป็นเช่นนี้ “ข้าไม่เป็นอะไร” นางพยายามสูดลมหายใจลึก แม้รู้อยู่แก่ใจว่าเซียวเหรินมองนางด้วยสายตาเช่นไร แต่นางก็ยังหวัง หวังว่าจะมีสักวันที่เขาจะรับรู้ความรู้สึกของนาง เปิดใจให้นางบ้าง “ไป๋ชิว พาคุณหนูใหญ่ไปพักผ่อนก่อน” อู๋ซั่วไต้เอ่ยขึ้นแล้วมองบุตรสาวด้วยความเห็นใจต่อให้ไม่มีสตรีผู้นั้นเข้ามา หรือแม้กระทั่งเขาจะใช้คนของหมู่ตึกนกยูงทองช่วยชีวิตคนสกุลเซียวเอาไว้ เขาย่อมรู้ดีว่าเรื่องเหล่านี้จะเอามาเป็นบุญคุณเพื่อให้เซียวเหรินแต่งงานกับอู๋หมิ่นลี่ได้ แต่ด้วยฐานะที่แท้จริงของเซียวเหริน อู๋ซั่วไต้รู้ดีว่า บุตรสาวของเขาไม่สามารถเคียงข้างชายผู้นั้นได้ ไม่สิ จะเรียกเซียวเหรินเช่นแต่ก่อนได้อย่างไร ในเมื่อตอนนี้เป็นถึง... “ท่านพ่อ” อู๋หมิ่นลี่กลั้นน้ำตาที่เอ่อคลอ “ท่านรู้อยู่แล้วว่าท่านเซียวเป็นใคร จึงพยายามเตือนลูกใช่ไหมเจ้าคะ” “ลี่เอ๋อร์ เจ้าหักห้ามใจตัวเองเสียเถิด ยังมีบุรุษดีๆ อีกมากมาย พ่อจะคัดเลือกคนที่ดีและเหมาะสมกับเจ้าเอง” “แต่ว่า.

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 45.เสียงเรียกที่แฝงอำนาจ

    “ลูกข้าเป็นอะไร” ไทเฮาถามด้วยสีหน้าตื่นตระหนก “รักษาเขาสิ!” เซียวเหรินถึงกับนิ่งงันด้วยอับจนถ้อยคำ แต่ฮ่องเต้หงฉานหัวเราะเสียงปร่าแล้วโบกมือไปมา “มันใหญ่มากใช่ไหมละ” เขาหัวเราะขืนๆ “อะไรกัน” ไทเฮาหันมาถามอย่างงุนงง แต่เซียวเหรินไม่กล้าพูดออกมา “มันคือฝี” ฮ่องเต้ที่กำลังจะกลายเป็นเพียงอดีตฮ่องเต้พูดขึ้นแล้วกดไปที่ท้องของตัวเอง “กระจายไปทั่วท้องแล้ว” “ไม่จริง... เหตุใดเป็นเช่นนี้” “เป็นมาเนิ่นนานแล้ว หมอหลวงรักษาไม่ได้ ลูกจึง...ไม่ใส่ใจกับมันอีก” ไทเฮาหันมาเขย่าแขนของเซียวเหริน “เจ้าได้ชื่อว่าเป็นหมอเทวดา ต้องรักษาได้!” “ถ้าได้รับการรักษาก่อนหน้านี้คงจะ...” “ช่างมันเถอะ” ฮ่องเต้หงฉานโบกมือไปมาจ้องมองใบหน้าของเซียวเหริน “เรารู้ ถึงได้ปล่อยให้มันเป็นเช่นนี้” “เจ้า! ทำไมโง่เช่นนี้” “เสด็จแม่” ฮ่องเต้พูดอย่างอ่อนแรง “ท่านเองก็รู้ว่า เสด็จพ่อยกบัลลังก์นี้ให้ใครตั้งแต่แรก” “หุบปากเสีย!” “เสด็จแม่...แท้จริงแล้วบัลลังก์นี้เป็น

DMCA.com Protection Status