แชร์

Chapter 39.มาถึงแล้ว

ผู้เขียน: เพลงมีนา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-26 21:40:35

            “เจ้าก็เหลือเกิน” ไทเฮาส่ายหน้าไปมา “ให้ดูข้าเป็นตัวอย่างแต่กลับทำตัวอ่อนแอ ปล่อยให้ฮ่องเต้หลงระเริงกับสตรีชั้นต่ำเหล่านั้นได้อย่างไร”

            ฮองเฮาอยากโต้เถียงแต่ไม่กล้า นางก็เป็นเพียงสตรีที่ถูกคัดเลือกมาเพื่อนั่งตำแหน่งนี้ โชคดีแค่ไหนแล้วที่นางให้กำเนิดโอรสได้สำเร็จ หาไม่แล้ว นางอาจไม่มีที่ยืนในวังหลังแห่งนี้

            “หญิงบรรณาการผู้นั้นก็หายตัวไป แค่ให้ส่งนางออกไปเจ้ายังทำพลาด”

            ฮองเฮาก้มหน้ากัดริมฝีปากแน่นจนรู้สึกถึงรสเค็มคาวในปาก ถึงนางจะเป็นฮองเฮาแต่ใช่ว่าจะไม่ริษยาผู้อื่น  เห็นสามีตนเองระรื่นกับสตรีอื่นจะให้ทำหน้าชื่นอยู่ได้อย่างไร

            “เอาล่ะ เจ้าก็ดูให้ดี อะไรที่ข้าสอนก็จำใส่ใจไว้ ไม่อย่างนั้นฐานะของเจ้าในตอนนี้อาจเป็นของผู้อื่น”

            “เพคะ”

            ไทเฮาส่งเด็กน้อยให้ฮองเฮาดูแลต่อแล้วไล่ผู้อื่นออกไป นางต้องการพักผ่อน ทว่าในสมองกลับคิดถึงเรื่องของเซียวเหริน คนผู้นี้ต้องรีบหาทางกำจัดทิ้ง นางปรานีไว้ชีวิตมาเนิ่นนานเกินไป จะให้ผู้ใดมาสั่นคลอนบัลลังก์ของนางไม่ได้!

ทุกสิ่งเป็นของนาง สิ่งที่นางสูญเสียไปต้องไม่เสียเปล่า

......

            เรือนพักของเซียวเหรินหลบเร้นอยู่ด้านหลังของตำหนักไทเฮา แม้ไม่เห็นทหารยามคอยคุมแต่เขารับรู้ได้ว่ามีเหล่าทหารเงาคอยจับตามองเขาอยู่  เมื่อขันทีน้อยเข้ามาพร้อมเสื้อผ้าสำหรับผลัดเปลี่ยนและอาหารหนึ่งสำรับ เขาจึงแสร้งชวนคุย

            “เรือนหลังนี้อยู่ไกลนัก แต่ยังได้ยินเสียงเพลงรื่นเริง เป็นเช่นนี้ทุกวันรึ”

            ขันทีที่อายุเพียงสิบหกเงยหน้ามองเซียวเหรินเล็กน้อย ขบคิดเล็กน้อยว่าตนเองไม่ได้ทำอะไรเกินเลยจากที่กงกงสั่งไว้จึงตอบไป

            “ฮ่องเต้ทรงชื่นชอบงานรื่นเริง เชิญคณะปาหี่จากนอกวังมาแสดงได้สองวันแล้ว มีนางรำงดงามมากมาจากหอชมบุหลัน ตอนนี้ทั่วทั้งวังจึงมีแต่เสียงบรรเลงดนตรี”

            “อ่อ” เขาพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ

แต่ไหนแต่ไรนิสัยของหงฉานก็เป็นเช่นนี้ ตั้งแต่ยังเป็นเพียงรัชทายาท เหล่าเครื่องบรรณาการที่ส่งมาจากแต่ละแคว้น มักถูกหงฉานเล่นสนุกเจียนตายหลายครั้งหลายครา ทำให้ผู้อื่นกล้าทำตาม  เช่นเดียวกับที่กงเสวี่ยหลิงประสบมา นางกลายเป็นเพียงของเล่นที่ถูกบีบให้ต้องกระโดดผาน้ำตก ไม่มีใครสนใจว่าเครื่องบรรณาการชิ้นนั้นจะเป็นหรือตาย  หากจวนตัวเข้าจริงก็คงอ้างได้ว่านางตายด้วยโรคปัจจุบัน

ขันทีออกไปแล้วเขาจึงเดินไปที่หน้าต่าง เอนกายพิงกรอบหน้าต่าง หลับตาฟังเสียงเพลงที่ดังแว่วมาไกลๆ นั้น

            นางมาถึงแล้วหรือ?

            เขาอดคิดถึงหญิงสาวไม่ได้ เพราะนิสัยประหลาดของนางกระมังที่ทำให้เขาคิดถึงนางอยู่เสมอ คิดว่าแต่ละวันนางจะโผล่มาขโมยจุมพิตเขาด้วยวิธีใด  มีสตรีที่พึ่งพอใจอยากใกล้ชิดเขาไม่น้อย แต่มีนางนกน้อยนี่แหละที่จู่โจมเขาไม่ทันตั้งตัว  คิดถึงปากน้อยๆ ที่เผยอขึ้นให้เขาป้อนขนมให้

ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ที่เขาคิดถึงนาง

            เซียวเหรินได้แต่ถอดถอนใจ บอกตัวเองว่าอย่าเคลื่อนไหวทำสิ่งใดเด็ดขาด คนสกุลเซียวที่เหลืออยู่นั้นคือสิ่งที่เขาต้องรับผิดชอบ 

            “ท่านตา ท่านยาย พวกท่านจะเป็นอย่างไรบ้าง หลานอกตัญญูนักไม่อาจดูแลพวกท่านได้เลย” 

            เซียวเหรินได้รำพึงกับตนเอง ขณะหมุนตัวกลับเข้ามา นกน้อยตัวหนึ่งบินโฉบเข้ามาใกล้ มันบินวนเวียนรอบกายของเขาอยู่สองสามรอบแล้วบินออกนอกหน้าต่างไป  ดวงตาของเซียวเหรินพลันวูบไหว แล้วโคลงศีรษะไปมา เขาคงอยู่กับหลันหลัน-เจ้านกหงส์หยกตัวนั้นมากเกินไป จนคิดว่านางสามารถสื่อสารนกตัวอื่นได้จริงๆ 

            เขาได้แต่หวังว่านางจะปลอดภัยดี            

            ปลายนิ้วเรียวงามยื่นออกไป นกน้อยตัวหนึ่งถลาร่อนลมมาเกาะที่ปลายนิ้วงาม  นางลูบหัวนกน้อยอย่างเอ็นดู แล้วนกน้อยก็ผละจากไป

            “หลันโหยว”  จางซงหยวนส่งเสียงกระซิบเรียกหญิงสาวที่สวมชุดนางรำเย้ายวน ใบหน้ายังมีหน้ากากงดงามปกปิดอีกชั้น

            หลันหลันเพียงปรายตามองคนเรียก “ท่านเซียวถูกจับกุมตัวมาที่นี่แล้ว”

            “เจ้ารู้ได้อย่างไร”  เขากำลังจะมาบอกนาง แต่นางกลับรู้ก่อนเขา

            หลันหลันหัวเราะเบาๆ ชี้นิ้วไปยังนกน้อยที่บินออกห่างไปแล้ว จางซงหยวนเบิกตากว้าง เขารู้ว่านางคือคนสกุลอู มีวิชาแปลกประหลาดมากมายนัก แต่ไม่คิดว่านางจะคุยกับนกได้จริงๆ  นางไม่ได้แก้ไขความเข้าใจผิดของจางซงหยวนซึ่งเวลานี้ปลอมตัวเป็นคนในคณะปาหี่เข้ามาแสดงต่อหน้าองค์ฮ่องเต้

            “เซียวเหรินปลอดภัยดี แต่จูเต๋ออี้นั้นข้าไม่รู้”  แม้จูเต๋ออี้เป็นเพียงองครักษ์แต่ก็ดีกับนางมาก และเชื่อว่าเซียวเหรินไม่ทอดทิ้งคนสนิทของตนเป็นแน่

            “เรื่องนั้นเจ้าอย่าได้กังวล ข้าจะให้คนของเราค้นหาเอง”  ด้วยแผนผังของวังหลวงที่หลันโหยววาดไว้ให้ ทำให้รู้เส้นทางตำหนักต่างๆ  ตลอดระยะเวลาสี่ปีที่หลันโหยนมาอยู่ที่ในฐานะของกงเสวี่ยหลิง นางยอมให้ผู้อื่นดูแคลนซ้ำยังโดนกลั่นแกล้งสารพัด เพื่อรวบรวมข้อมูลข่าวสารและสำรวจเส้นทางต่างๆ ในวังหลวง  ส่วนตัวเขาเองอาศัยฐานะพ่อค้าลอบวาดแผนผังเมืองและการกระจายกำลังของทหารที่ดูแลเมืองหลวง

            สี่ปีที่แสนยาวนานมันกำลังจะสิ้นสุดแล้ว

            ไม่สิ ไม่ใช่สี่ปี แต่มากมายกว่านั้นเกินกว่าจะนับได้ หลายสิบปีที่สองแคว้นทำศึกกันมา กับวันเวลาที่ต้องเป็นเพียงแคว้นเชลยถูกกดขี่ ผู้คนอดยากล้มตายราวใบไม้ร่วง  นางหวังให้ทุกอย่างลุล่วงไปตามแผนการที่วางไว้ เพื่อให้ แคว้นเฉียนเหลียงหลุดพ้นจากแคว้นโฮ่วฉิน เพื่อให้ราษฎรได้กินอิ่มนอนหลับ นางไม่ยอมให้สิ่งใดมาขวางอีกแล้ว

            คนในคณะปาหี่ส่งสัญญาณให้หลันหลัน หญิงสาวพยักหน้ารับแล้วยื่นมือไปแตะไหล่จางซงหยวนเบาๆ แต่กระนั้นชายหนุ่มกลับรู้สึกได้ถึงความหนักแน่น มั่นคง  นางเป็นเช่นนี้เสมอ แต่ไหนแต่ไรนางเยือกเย็นกับสิ่งรอบข้าง  น้อยครั้งที่เขาจะเห็นนางยิ้มแย้มหัวเราะอย่างเป็นธรรมชาติ  ร่างเพรียวบางกรีดกรายออกไปด้านนอก การร่ายรำผสานเสียงดนตรีที่เร่าร้อนของชนเผ่าสะกดทุกคู่สายตาให้จับจ้องที่เจ้าของเรือนร่างนั้น ไม่มีท่าทีหวาดหวั่นต่อสายตาผู้ใด นางยังคงร่ายรำดุจนกน้อยอย่างไม่หวาดกลัว ขอเพียงคำเดียวที่ฮ่องเต้พึ่งพอใจให้คณะการแสดงชุดนี้ได้เข้าถวายงานในวันสมโภช

            จางซงหยวนลอบมองอย่างนิ่งงัน นึกถึงกงอี้เทาที่รวบรวมกำลังทหารอยู่ด้านนอก ด้วยมุ่งหวังให้เกิดการนองเลือดน้อยที่สุดจึงใช้วิธีเจรจาต่อรองให้เข้าร่วมกับการก่อกบฏในครั้งนี้ ถูกแล้ว หากไม่ก่อกฏบคงไม่มีวันได้ปลดแอกตนเองออกจากเงื้อมมือฮ่องเต้ทรราช  แม่ทัพหนุ่มมองหญิงสาวอีกครั้ง นางจับเชือกเส้นหนึ่งที่ห้อยลงมาจากด้านบนแล้ววิ่งเป็นวงกลมจนร่างร่อนเหนือพื้นคล้ายโบยบิน

เขาคิดถึงคำบอกเล่าถึงเรื่องราวของคนสกุลอู ด้วยสัตย์สาบานจงรักภักดีต่อแผ่นดินแคว้นเฉียนเหลียง  ลูกหลานสกุลอูไม่มีผู้ใดได้รับอนุญาตให้ฝึกเพลงยุทธ์ หากแต่ศาสตร์ที่สกุลอูถนัดนั้นผู้อื่นมองเป็นเพียงกลของคณะปาหี่หรือมนตร์ดำอันน่ารังเกียจ  มีแต่คนสกุลอูเท่านั้นที่รู้ว่าภายใต้ถ้อยคำดูแคลนนั้นคือศาสตร์ที่ใช้ในการปกป้องแผ่นดิน เขาเชื่อสนิทใจว่าการที่นางบอกตนเองเป็น ‘นกหงส์หยก’ นั้นเป็นส่วนหนึ่งของแผนการทั้งหมด  นางเป็นสตรีผู้หนึ่งที่มีปณิธานแรงกล้า เขาเป็นบุรุษอกสามศอกจะพ่ายแพ้ให้แก่ความตั้งใจของนางได้อย่างไร

            แม้ร่างกายเคลื่อนไหวร่ายรำอยู่ แต่สายตาของหลันหลันจับจ้องที่บุรุษบนบัลลังก์มังกร มือของพระองค์ยกจอกสุรามิได้หยุด สายตาของเขาถูกนางตอกตรึงไว้ จนกระทั่งร่างในอาภรณ์ปักลายมังกรลุกขึ้นยืนเดินซวนเซมาหานางที่ยังร่ายรำอยู่กลางเวที  มือข้างหนึ่งคว้าเอวนางไว้และมืออีกข้างยื่นมากระชากหน้ากากของนางออก ทว่าเพียงการสะบัดหน้าครั้งเดียว หน้ากากอันใหม่ก็ปรากฎแทนอันเดิมที่หลุดติดมือองค์ฮ่องเต้แล้ว

            “บังอาจ!”  เสียงขุนนางที่ชมการแสดงตะโกนขึ้น แน่นอนว่าหากสิ่งใดเป็นประสงของฮ่องเต้ย่อมต้องได้มา แต่นางไม่ยอมให้เห็นใบหน้าจึงเล่นกลเปลี่ยนหน้ากากให้ผู้อื่นชม  ฮ่องเต้ถึงกับเบิกดวงตากว้าง ยอมปล่อยหน้าแล้วเอ่ยชื่นชม

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 40.เริ่มดำเนินการตามแผน

    “เยี่ยม! ขนาดเรายืนอยู่ใกล้เจ้ายังไม่อาจจับผิดได้” “ขอบพระทัยเพคะ” นางก้มหน้าแต่ลอบมองดวงตาของขององค์ฮ่องเต้ ภายใต้หน้ากากงดงามเผยรอยยิ้มพึงพอใจ “หม่อนฉันหวังใจว่าจะสร้างความเกษมสำราญแด่ฝ่าบาทเพคะ” “เราชอบมาก เด็กๆ ตบรางวัล” ขันทีขานรับคำสั่งของฮ่องเต้ ขุนนางทั้งหลายต่างแย้มยิ้มแต่บางคนเก็บซ่อนความไม่พอใจที่เห็นฮ่องเต้เอาแต่หาความสำราญไม่สนใจงานบ้านงานเมือง ฎีกาที่ถวายขึ้นไปถูกไทเฮาริบเอาไว้หมด “ขอบพระทัยเพคะแต่หม่อมฉันมีรางวัลที่ต้องการในใจแล้ว” หญิงสาวเอ่ยขึ้นด้วยท่าทีอ่อนน้อม “ลองว่ามาสิ” “อีกสองวันจะถึงงานสมโภช หม่อมฉันหวังใจจะได้ทำการแสดงต่อหน้าไทเฮาสักครั้งในชีวิตเพคะ” “เรื่องแค่นี้เองรึ” ฮ่องเต้ทรงแหงนหน้าหัวเราะ “ได้! เราอยากให้ไทเฮาชมการแสดงของเจ้าอยู่พอดี เช่นนั้นเจ้าอยู่ที่นี่จนถึงวันงานสมโภชก็แล้วกัน” “ขอบพระทัยเพคะ” เพื่อมิให้ฮ่องเต้โอบกายนางได้ หญิงสาวรีบคุกเข่าแสดงความขอบคุณด้วยความซาบซึ้ง เสียงหัวเราะดังเหนือศีรษะ นางก้มหน้านิ่งรอจนฮ่องเต้เปลี่ยนใจ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-26
  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 41.เชี่ยวชาญการสะกดจิต

    “ได้ยินว่าแคว้นเฉียนเหลียงมีคนสกุลอูสนับสนุนอยู่เบื้องหลังบัลลังก์มังกร เจ้าเป็นคนของกงเสวี่ยหลิงคงพอได้ยินมาบ้าง” “อืม” นางพยักหน้าขึ้นลง “สกุลอูเชี่ยวชาญการสะกดจิต” “ท่านเซียวคิดเช่นนั้นหรือ?” แววตานางมีประกายรื่นเริงยินดี “ผู้อื่นมองว่าสกุลอูเป็นพวกหลอกลวง เล่นปาหี่หรือไม่ก็มีมนตร์ดำ” เซียวเหรินส่ายหน้าไปมา นางกินขนมจนเกลี้ยงจาน เขารินน้ำชาส่งให้นางดื่ม กลายเป็นเขาที่ต้องคอยปรนนิบัตินางหรือนี่? ‘เสร็จเรื่องวุ่นวายที่นี่แล้ว เจ้าจะทำอย่างไร’ เขาไม่ได้เอ่ยปากถามนาง เขารู้ว่าการที่นางมาที่เพื่ออะไร กงอี้เทาเคลื่อนไหวแล้ว ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะมีชีวิตเหลือรอดออกไปหรือไม่ หลันหลันวางถ้วยชาลงพลางมองชายหนุ่มตรงหน้าราวกับประทับภาพของเขาไว้ในหัวใจ ไม่ว่านางจะเป็นอูหลันโหยวหรือนกหงส์หยกหลันหลัน สำหรับนางแล้วเซียวเหรินคือคนสำคัญที่สุด อาจเป็นเพียงสิ่งเดียวที่เหนี่ยวรั้งดวงจิตของอูหลันโหยว และหลันหลันเข้าไว้ด้วยกัน “ข้ามาดูว่าท่านเป็นอย่างไร เรื่องอื่นท่านเตรียมตัวให้พร้อมเถิด”

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-28
  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 42.ตามแผน

    “เจ้าชอบใครกันแน่” กงเสวี่ยหลิงนึกถึงเรื่องที่จางซงหยวนเล่าให้นางฟัง จางซงหยวน กงอี้เทา และเซียวเหรินเป็นศิษย์ร่วมอาจารย์ อาจารย์หญิงของอูหลันโหยวเป็นสหายกับอาจารย์ของเซียวเหริน แม้ไม่ได้สนิทสนมมากนัก แต่จางซงหยวนซึ่งทำหน้าที่สืบข่าวย่อมสังเกตเห็นรอยวูบไหวในแววตาของอูหลันโหยวยามพูดถึงเซียวเหริน “ยังไม่เลิกพูดเรื่องนี้อีก” อูหลันโหยวส่ายหน้าไปมา “ก็ข้าอยากเห็นเจ้ามีความสุข” กงเสวี่ยหลิงกล่าวจากใจจริง เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจนี้ พวกเขาต่างให้สัญญาว่าจะดูแลอูหลันโหยวอย่างดี ชดเชยที่นางต้องลำบากมามาก อูหลันโหยวเห็นสีหน้ากังวลของกงเสวี่ยหลิงแล้ว นางก็เผลอหัวเราะออกมา “ข้านึกออกแล้วว่าข้าอยากทำอะไร” “เจ้านึกออกแล้ว!” “ข้าอยู่เลี้ยงลูกของเจ้ากับจางซงหยวนดีที่สุด!” “เจ้า!” กงเสวี่ยหลิงเขินอายจนแก้มนวลแดงปรั่ง ยกมือขึ้นทุบแขนของสหายแก้เขิน อูหลันโหยวได้แต่หัวเราะกลบเกลือนความปวดร้าวในอก นางไม่อาจคิดหวังถึงชีวิตวันข้างหน้าได้เลย เพราะความผิดหวังมันเจ็บปวด นางยอมให้ตัวเองเจ็บ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-28
  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 43.เจ้าตายไปแล้ว

    “จำไว้ ระหว่างออกจากที่นี้อย่าพูดคุยกับผู้ใดและห้ามส่งเสียงจนกว่าจะถึงนอกกำแพงรั้ว จากนั้นจะมีคนมารับพี่เต๋ออี้เอง” นางส่งจูเต๋ออี้ให้ทหารอีกคนรับช่วงต่อ ได้แต่ยืนส่งจนสุดสายตา คนที่ต้องช่วยก็จัดการแล้ว จากนี้ไปได้แต่หวังว่า คนที่ส่งไปเจรจากับเซียวเหรินจะสามารถเกลี้ยกล่อมให้ชายผู้นั้นร่วมมือได้ แต่ถ้าไม่เป็นไปตามที่คิด คงไม่มีทางเลือกอื่น สิ่งที่นางจำเป็นต้องทำแม้จะฝืนใจก็ต้องทำให้สำเร็จให้จงได้ งานสมโภชฉลองวันประสูติของไทเฮาจัดอย่างยิ่งใหญ่แม้จะเกิดขึ้นท่ามกลางกระแสความกดดันจากทุกฝ่าย ความเคลื่อนไหวของชาวบ้านที่ไม่พอใจเหล่าเชื้อพระวงศ์ที่กดขี่ราษฎร การเก็บภาษีที่ขูดรีดจนชาวบ้านลุกฮือขึ้นต่อต้านแต่ไม่อาจต่อสู้กลับอำนาจทางการได้ หลายคนถูกจับเข้าคุก หลายคนหลบหนีเข้าร่วมกับเผ่าอื่นๆ กลายเป็นกองโจรขนาดเล็กที่พร้อมปกป้องตนเอง เหล่าขุนนางแบ่งเป็นหลายฝักหลายฝ่าย บางกลุ่มเห็นใจราษฎรแต่ไม่อาจตั้งตัวขึ้นปกป้องได้เกรงจะกลายเป็นการก่อการกบฏ งานสมโภชในวันนี้จัดยิ่งใหญ่ใช้เงินไปหลายล้านตำลึงเพียงทั้งที่เงินในท้องพระคลังร่อยหรอเต็มที แม้ร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-28
  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 44.รับผลกรรม

    “พวกเจ้า! คนสกุลเซียวรึ! พวกเจ้าสบคบกับคนนอกกล้าล้มบัลลังก์ของข้า!” “เดิมทีมันก็ไม่ใช่ของพวกเจ้าอยู่แล้ว” นายผู้เฒ่าสกุลเซียวที่ถูกช่วยชีวิตมาปรากฏเบื้องหน้า ไทเฮาถึงกับผงะไปทันที “ตาเฒ่าเซียว! เจ้ายังอยู่อีกเรอะ!” “เพื่อให้เห็นจุดจบของคนชั่วอย่างเจ้า ข้าจะตายก่อนได้อย่างไร” ผู้เฒ่าเซียวหัวเราะด้วยความเคียดแค้น สกุลเซียวจงรักภักดีมาตลอด แม้มีบุตรสาวก็ส่งเข้าวังหลวงมิได้หาผลประโยชน์ใด เพียงแค่ต้องการแสดงความภักดี แต่กลับกลายเป็นว่า นางเป็นที่โปรดปรานจนทำให้ตระกูลเซียวถูกลั่นแกล้งเนรเทศออกจากเมืองหลวง สามร้อยแปดสิบสองกว่าชีวิตระเห็จระเหเร่รอนอย่างอนาถ เหลือรอดอยู่เพียงครึ่งเดียว หากไม่ใช่เพราะกงอี้เทายื่นมือช่วยเหลือ และหมู่ตึกนกยูงทองให้ที่หลบซ่อนแล้ว พวกเขาคงจะไม่มีวันได้เห็นวันนี้ “คุมตัวทั้งหมดไปตำหนักทางทิศตะวันตก” “พวกเจ้า!!” ไทเฮาได้แต่โมโหเดือดดาลจนหน้ามืด ผู้เฒ่าเซียวหันมาประกาศกับเหล่าทหารและขุนนางที่เหลืออยู่ “ข้าไม่ต้องการนองเหลือแต่ต้องการให้ประชาชนได้กินดีมีสุข เ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-28
  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 45.เสียงเรียกที่แฝงอำนาจ

    “ลูกข้าเป็นอะไร” ไทเฮาถามด้วยสีหน้าตื่นตระหนก “รักษาเขาสิ!” เซียวเหรินถึงกับนิ่งงันด้วยอับจนถ้อยคำ แต่ฮ่องเต้หงฉานหัวเราะเสียงปร่าแล้วโบกมือไปมา “มันใหญ่มากใช่ไหมละ” เขาหัวเราะขืนๆ “อะไรกัน” ไทเฮาหันมาถามอย่างงุนงง แต่เซียวเหรินไม่กล้าพูดออกมา “มันคือฝี” ฮ่องเต้ที่กำลังจะกลายเป็นเพียงอดีตฮ่องเต้พูดขึ้นแล้วกดไปที่ท้องของตัวเอง “กระจายไปทั่วท้องแล้ว” “ไม่จริง... เหตุใดเป็นเช่นนี้” “เป็นมาเนิ่นนานแล้ว หมอหลวงรักษาไม่ได้ ลูกจึง...ไม่ใส่ใจกับมันอีก” ไทเฮาหันมาเขย่าแขนของเซียวเหริน “เจ้าได้ชื่อว่าเป็นหมอเทวดา ต้องรักษาได้!” “ถ้าได้รับการรักษาก่อนหน้านี้คงจะ...” “ช่างมันเถอะ” ฮ่องเต้หงฉานโบกมือไปมาจ้องมองใบหน้าของเซียวเหริน “เรารู้ ถึงได้ปล่อยให้มันเป็นเช่นนี้” “เจ้า! ทำไมโง่เช่นนี้” “เสด็จแม่” ฮ่องเต้พูดอย่างอ่อนแรง “ท่านเองก็รู้ว่า เสด็จพ่อยกบัลลังก์นี้ให้ใครตั้งแต่แรก” “หุบปากเสีย!” “เสด็จแม่...แท้จริงแล้วบัลลังก์นี้เป็น

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-28
  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 46.ผลของการกระทำ

    “คุณหนู” ไป๋ชิวร้อนรน แต่หมอที่เก่งที่สุดกำลังดูแลสตรีอื่นจนทำให้คุณหนูของนางเป็นเช่นนี้ “ข้าไม่เป็นอะไร” นางพยายามสูดลมหายใจลึก แม้รู้อยู่แก่ใจว่าเซียวเหรินมองนางด้วยสายตาเช่นไร แต่นางก็ยังหวัง หวังว่าจะมีสักวันที่เขาจะรับรู้ความรู้สึกของนาง เปิดใจให้นางบ้าง “ไป๋ชิว พาคุณหนูใหญ่ไปพักผ่อนก่อน” อู๋ซั่วไต้เอ่ยขึ้นแล้วมองบุตรสาวด้วยความเห็นใจต่อให้ไม่มีสตรีผู้นั้นเข้ามา หรือแม้กระทั่งเขาจะใช้คนของหมู่ตึกนกยูงทองช่วยชีวิตคนสกุลเซียวเอาไว้ เขาย่อมรู้ดีว่าเรื่องเหล่านี้จะเอามาเป็นบุญคุณเพื่อให้เซียวเหรินแต่งงานกับอู๋หมิ่นลี่ได้ แต่ด้วยฐานะที่แท้จริงของเซียวเหริน อู๋ซั่วไต้รู้ดีว่า บุตรสาวของเขาไม่สามารถเคียงข้างชายผู้นั้นได้ ไม่สิ จะเรียกเซียวเหรินเช่นแต่ก่อนได้อย่างไร ในเมื่อตอนนี้เป็นถึง... “ท่านพ่อ” อู๋หมิ่นลี่กลั้นน้ำตาที่เอ่อคลอ “ท่านรู้อยู่แล้วว่าท่านเซียวเป็นใคร จึงพยายามเตือนลูกใช่ไหมเจ้าคะ” “ลี่เอ๋อร์ เจ้าหักห้ามใจตัวเองเสียเถิด ยังมีบุรุษดีๆ อีกมากมาย พ่อจะคัดเลือกคนที่ดีและเหมาะสมกับเจ้าเอง” “แต่ว่า.

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-31
  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 47.ให้นางตัดสินใจเอง

    นางมุดอยู่ใต้ผ้าห่มแต่หูได้ยินเสียงพวกเขาตกลงต่อรองกัน สุดท้ายกงอี้เทาได้แต่ถอนหายใจหนักหน่วงแล้วก้าวออกไป นางคิดว่าในห้องไม่มีใครแล้วจึงโผล่หน้าออกมาจากผ้าห่ม แต่กลับพบสายตาคู่หนึ่งจ้องมองอยู่ก่อนแล้ว “ระหว่างนี้เจ้าพักอยู่ที่นี่ไปก่อน ข้าจะเป็นฝ่ายหาเวลามาพบเจ้าเอง” เขาพูดด้วยน้ำเสียงสงบนิ่งเช่นที่เคยเป็น “เข้าใจหรือไม่” นางพยักหน้าขึ้นลงเร็วๆ แทนคำตอบ เซียวเหรินไม่เอ่ยอะไรอีก หมุนตัวแล้วเดินออกไปเงียบๆ จนนางมั่นใจว่าครั้งนี้ไม่มีผู้อื่นแล้วจริงๆ จึงยอมลุกขึ้นจากที่นอนอีกครั้ง ‘ให้นางตัดสินใจเอง’ นางคิดมากจนตาลายเดือดร้อนบ่าวรับใช้ที่เฝ้าดูอาการเข้าใจผิดคิดว่าอาการของนางทรุดลง อู๋ซิงว่านรีบเข้ามาดูอาการของนาง พอรู้ว่านางหิวโหยจนหน้ามืดก็แหงนหน้าหัวเราะไม่เกรงใจคนป่วยอย่างนาง สั่งการให้บ่าวไพรยกสำรับอาหารมาให้ หลังจากถูกบิดาเรียกไปอบรม เขารู้ว่าควรทำใจเรื่องหลันหลัน อาจเพราะนางเป็นคนให้กำลังใจจนเขาสามารถใช้แขนขวาได้อีกครั้ง แต่พอรู้ว่านางอาการทรุดลงก็รีบมาดูทันที ใครจะรู้ว่านางแค่หิว ไม่สิ นางหิวมากจนจะเป็นลม ระ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-31

บทล่าสุด

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 53.จบ

    ชีวิตสี่ปีของหลันหลันเป็นเช่นนี้เรื่อยมา หลัววั่งรู้สึกว่ามีคนเข้ามา จึงเงยหน้าขึ้น เมื่อเห็นว่าผู้มาใหม่เป็นใครเขาก็ส่งยิ้มกว้างแล้วเดินออกไปอย่างเงียบๆ “ท่านรีบกลับเถิด ที่นี่ข้าจัดการเองได้” “ไยรีบไล่ข้าไปเล่า หรือเจ้านัดผู้ใดไว้” หญิงสาวได้ยินน้ำเสียงที่คุ้นเคยจึงเงยหน้าขึ้น บุรุษร่างสูงโปร่งสวมอาภรณ์สีเขียวใบไผ่ใบหน้าอ่อนล้าแต่ยังมีรอยยิ้มอ่อนโยน“ท่านมาแล้ว”เซียวเหรินส่งยิ้มให้นาง แม้เหนื่อยล้าจากการเร่งรีบเดินทางมา ทว่าเพียงได้เห็นรอยยิ้มนาง ความเหน็ดเหนื่อยเหล่านั้นพลันมลายหายไปสิ้น“เหตุใดกลับเร็วนักเล่า” หลันหลันอดเป็นห่วงไม่ได้ “ตามจริงต้องอีกสิบวันท่านจะกลับไม่ใช่หรือ? เดินทางไปตรวจดูการซ่อมแซมเขื่อนเป็นอย่างไรบ้าง ”“เจ้าไม่อยากเห็นหน้าสามีหรือไร”เขาทำเสียงไม่พอใจแต่เดินไปนั่งใกล้ๆ แล้วจับชีพจรให้นาง และไม่พูดเรื่องงานกับนาง จะว่าไป ก็ไม่มีมีเรื่องใดในชีวิตของเขาที่หลุดรอดสายตาของนาง เช่นเดียวกับที่เขารู้ว่าในแต่ละวันนางทำอะไร นางมีคนคอยส่งข่าว ส่งเขาให้จูเต๋ออี้วางองครักษ์ลับไว้โดบรอบ “พิษในตัวข้ายังต้องใช้เ

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 52.ไม่มีอะไรให้ลังเลและกังวลอีกแล้ว

    “คิดสิ” นางหัวเราะเบาๆ เสียงหัวเราะของนางทำให้กงอี้เทาปล่อยนางจากวงแขน เขาคิดว่านางจะเปลี่ยนใจจึงยอมคลายมือจากข้อมือนาง ทำให้นางส่งยาเม็ดนั้นส่งเข้าปากแล้วกลืนลงคอทันทีท่ามกลางดวงตาที่เบิกกว้างของกงอี้เทา “เจ้า!” “ข้าไม่เสียใจ” นางยิ้มแล้วยกมือลูบใบหน้าของกงอี้เทา “บอกจางซงหยวนให้ดูแลกงเสวี่ยหลิงให้ดี” “หลันโหยว!” “ข้าอยากขอร้องเจ้าครั้งสุดท้าย” นางพูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาลง “ได้ข้ารับปากเจ้า ข้ารับปากเจ้าทุกเรื่อง” กงอี้เทาประคองร่างที่อ่อนยวบลงในวงแขน มือของเขาสั่นเทาอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ใบหน้าของหญิงสาวมีรอยยิ้ม แต่ดวงตาของนางปิดลง ชีพจรเต้นช้าลง ร่างกายเริ่มเย็นเยียบขึ้นมาที่ละน้อย นางวางมือไว้บนหน้าอก บริเวณหัวใจของตนเองที่เต้นแผ่วเบาลงไปทุกที ทุกที ทุกที ไม่มีอะไรให้นางลังเลและกังวลอีกแล้ว..จูเต๋ออี้เดินเข้ามาอย่างเงียบเฉียบ ภาพที่เห็นจนเริ่มชินตาคือเจ้าของร่างสูงสง่านั่งเหยียดแผ่นหลังตั้งตรง แววตามุ่งมั่นและมือตวัดพู่กันแก้ไขปัญหาน้อยใหญ่ที่ฮ่องเต้พระองค์ก่อนทิ้งปัญหาไว้มากมายเหลือคณานับ

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 51. เจ้านกตะกละ

    “เจ้านกตะกละ!” เขาดุนางพลางแหวนหน้าคำรามเสียงพร่า ถูกนางรุกเร้าจนแท่งหยกไถลลื่นเข้าไปจนสุด นางหวีดร้องเบาๆ โผเข้ากอดเขา ปลายเล็บจิกที่แผ่นหลังไม่เคยรู้เลยว่าบุรุษผู้นี้จะมีซ่อนสิ่งใหญ่โตไว้ถึงเพียงนี้ ความเสียวซ่านแผ่นกระจายไปทั่วร่าง จนถึงปลายนิ้วเท้าที่เกร็งแทบเป็นตะคริว นางครวญเสียงกระเส่า ยามเมื่อเขาขยับสะโพกถอนแก่นกายออกช้าๆ แล้วกดกลับเข้ามาใหม่ นางได้แต่หวีดร้องส่งเสียงครางแทบขาดใจ เหงื่อร้อนหลั่งออกมาจนหยดบนกายของนาง ความเจ็บแปลบที่เกิดขึ้นในคราวแรกหายไปสิ้น ทุกการเติมเต็มของเขาทำให้ร่างกายที่เคยเยียบเย็นร้อนระอุ เหงื่อร้อนผุดขึ้นทุกรูขุมขน ร่างกายนางทวีความร้อนและเปียกชื้น รวมทั้งที่ใจกลางของดอกไม้สาวที่รองรับการเคลื่อนไหวของผีเสื้อหนุ่มช่างแนบแน่น ลึกล้ำและซ่านเสียว“ข้า...” นางไม่รู้ว่าตนเองจะพูดอะไร เขาป้อนความสุขสมที่นางไม่เคยรู้จัก ทำให้นางอิ่มเอมครั้งแล้วครั้งเล่า และหิวโหยต้องการไม่สิ้นสุด ไม่ว่าท่วงท่าใดที่เขานำพา ล้วนทำให้นางปรารถนาในตัวเขามากขึ้น มากขึ้น“เซียวเหริน!”ดวงตาของเซียวเหรินราวลูกไฟ ไฟปรารถนาเผาไหม้หัวใจทำให้เคลื่อนไหวร่างกายเร็วขึ้น ถาโถมและโหมกระหน

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 50.ใช้หัวใจฟังเสียวหัวใจสิ

    “เจ้าอยู่ที่นี่ให้ข้าถอนพิษให้เจ้าเถิด” “ข้าจะอยู่ที่นี่ในฐานะอะไรได้” นางส่ายหน้าไปมาบนอกเสื้อของเขา นางจงใจทำร้ายองค์ชายหงก่วงต่อหน้าผู้อื่นหากนางยืนข้างกายเขา คนภายใต้การปกครองย่อมมองเขาไม่ดีเป็นแน่ ขณะที่สมองและหัวใจตีกันยุ่งเหยิง ปลายคางของนางถูกช้อนขึ้น ตามด้วยริมฝีปากหยักสวยทาบทับ นางคิดจะถอยหลังหลบหนีแต่เรียวลิ้นร้อนไล่ต้อนจนนางไม่อาจตั้งสติคิดสิ่งใดได้ ถูกจุมพิตของเขาทำให้สับสนจนเกือบขาดอากาศหายใจเขาจึงยอมละริมฝีปากจากนาง “ใจร้าย!” นางทุบแผ่นอกแกร่งของเขา “ข้าต้องการเวลาคิด”“เรื่องแบบนี้ต้องคิดอะไรนานนัก” เขาโน้นหน้าลงจุมพิตดวงตาของนางที่ยังมีหยาดน้ำตาวาวใส “ใช้หัวใจฟังเสียงหัวใจสิ”‘ใช้หัวใจฟังเสียงหัวใจสิ’เป็นอีกครั้งที่นางได้ยินประโยคนี้ ดวงตาของนางเหม่อลอยไปชั่วขณะ และในจังหวะเดียวกัน เซียวเหรินตัดสินใจทำในสิ่งที่ตนเองต้องการ ช้อนร่างนุ่มนิ่มไว้แนบอกพานางกลับมาที่ห้องนอนของตนเอง การกักขังนกตัวหนึ่งไว้นั้น อาจไม่ใช่กรงขังที่แน่นหนาแต่เป็นความรู้สึกปรารถนาที่มีต่อนางจูเต๋ออี้เห็นผู้เป็นนายกลับมาพร้อมกับอุ้มหญิงสาวที่ซุกอยู่ในอกจนแทบมองไม่เห็นใบ

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 49.คิดถึง

    “งานเหล่านี้แท้จริงเป็นของเจ้า ยามนี้ลุงแค่ช่วยจัดการให้ไปก่อน” เขาพูดอย่างใจเย็น บ้านเมืองต้องพลิกฟื้นเป็นการใหญ่ กว่าจะเข้ารูปเข้ารอยคงใช้เวลาอีกสามถึงสี่เป็นอย่างน้อย เขาก้มมองเห็นเด็กน้อยทำหน้านิ่วก็หัวเราะเบาๆ “เจ้าต้องหมั่นเรียนรู้ เข้าใจหรือไม่” “หลานทราบแล้ว เสด็จลุง” “ดี” เขาพูดแล้วขยับปลายนิ้วเรียกจูเต๋ออี้ องครักษ์ข้างกายที่ทำหน้าที่รับใช้มายาวนานถอยออกไป ครู่หนึ่งจึงเดินกลับเข้ามาพร้อมขนม เด็กน้อยทำตาโตแล้วยื่นมือไปรับขนมจากเซียวเหริน “ข้าให้ในครัวปรุงให้เจ้าเป็นพิเศษ ในนี้มีส่วนผสมของสมุนไพรบำรุงร่างกาย เจ้าจะได้แข็งแรงเติบใหญ่เร็วไว” “ขอบพระทัยเสด็จลุง” “ไปเถอะ” “อื้ม!” เด็กน้อยปีนลงจากตัก ขันทีผู้หนึ่งเข้ามารับ เขามองเด็กน้อยที่ชะตาชีวิตลิขิตให้นั่งบัลลังก์มังกร ได้แต่หวังว่าตัวเองจะขัดเกลาเด็กคนนี้ให้เป็นฮ่องเต้ที่ดี คงมีเพียงการทำเช่นนี้ที่ลดทอนความรู้สึกผิดที่เคยให้คำสัตย์สาบานไว้ แม้ว่าชื่อของเขาจะเคยเป็นรัชทายาทก็ตาม เซียวเหรินก้มหน้าอ่านฏีกา หยิบพู่กันขึ

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 48. เหตุใดถึงเจ็บถึงเพียงนี้

    “ข้า...” หลันหลันอ้ำอึ้ง ไม่เคยคิดว่าตัวเองต้องไปจากที่นี่ ไม่ใช่หรอก นางมิได้อาลัยสถานที่แห่งนี้ มีเพียงความรู้สึกที่ต้องจากไกลเซียว เหรินต่างหากที่ทำให้นางปวดใจมือเรียวเล็กยกขึ้นอกที่หน้าอกซ้าย บริเวณที่ถูกเซียวเหรินซัดฝ่ามือเข้าใส่ ความเจ็บปวดระลอกหนึ่งราวเข็มแหลมเล็กนับร้อยนับพันทิ่มแทงหัวใจเจ็บ?เหตุใดถึงเจ็บถึงเพียงนี้“หลันหลัน” อู๋หมินลี่เห็นใบหน้าหลันหลันซีดเซียวไร้สีเลือดก็ตื่นตระหนก “เจ้าเจ็บรึ ให้ข้าตามหมอดีหรือไม่”หลันหลันส่ายหน้าไปมา ครู่หนึ่งนางสูดลมหายใจลึกสะกดความเจ็บปวดทั้งหมดแล้วฝืนยิ้มให้อู๋หมินลี่ พลันเสียงของท่านป้าต๋าฝูดังแว่วเข้ามาในหัวน้อยๆ ของนาง‘มีเวลาเพียงสี่สิบเก้าวัน’จากบันทึกของเซียวเหริน นางเหลือเวลาอีกแค่สามวันแต่ถ้านางลองให้กงอี้เทาถอนมนตร์สะกดจิต บางทีนางอาจมีชีวิตได้ยาวนานกว่านี้ แต่ชีวิตของอูหลันโหยว ไม่อาจอยู่ที่แคว้นเฉียน เหลียงได้“หลันหลัน” อู๋หมิ่นลี่บีบมือเย็นเฉียบของหลันหลัน “ข้าพาเจ้ากลับที่พักดีกว่า” “ให้ข้าประคองนางเองเจ้าค่ะ” ไป๋ชิวเข้ามาช่วยประคองหลันหลันเพื่อเดินกลับที่พัก อู๋ซิงว่านผ่านมาพอดีเห็นไป๋ชิวประคองหลันหลันอยู

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 47.ให้นางตัดสินใจเอง

    นางมุดอยู่ใต้ผ้าห่มแต่หูได้ยินเสียงพวกเขาตกลงต่อรองกัน สุดท้ายกงอี้เทาได้แต่ถอนหายใจหนักหน่วงแล้วก้าวออกไป นางคิดว่าในห้องไม่มีใครแล้วจึงโผล่หน้าออกมาจากผ้าห่ม แต่กลับพบสายตาคู่หนึ่งจ้องมองอยู่ก่อนแล้ว “ระหว่างนี้เจ้าพักอยู่ที่นี่ไปก่อน ข้าจะเป็นฝ่ายหาเวลามาพบเจ้าเอง” เขาพูดด้วยน้ำเสียงสงบนิ่งเช่นที่เคยเป็น “เข้าใจหรือไม่” นางพยักหน้าขึ้นลงเร็วๆ แทนคำตอบ เซียวเหรินไม่เอ่ยอะไรอีก หมุนตัวแล้วเดินออกไปเงียบๆ จนนางมั่นใจว่าครั้งนี้ไม่มีผู้อื่นแล้วจริงๆ จึงยอมลุกขึ้นจากที่นอนอีกครั้ง ‘ให้นางตัดสินใจเอง’ นางคิดมากจนตาลายเดือดร้อนบ่าวรับใช้ที่เฝ้าดูอาการเข้าใจผิดคิดว่าอาการของนางทรุดลง อู๋ซิงว่านรีบเข้ามาดูอาการของนาง พอรู้ว่านางหิวโหยจนหน้ามืดก็แหงนหน้าหัวเราะไม่เกรงใจคนป่วยอย่างนาง สั่งการให้บ่าวไพรยกสำรับอาหารมาให้ หลังจากถูกบิดาเรียกไปอบรม เขารู้ว่าควรทำใจเรื่องหลันหลัน อาจเพราะนางเป็นคนให้กำลังใจจนเขาสามารถใช้แขนขวาได้อีกครั้ง แต่พอรู้ว่านางอาการทรุดลงก็รีบมาดูทันที ใครจะรู้ว่านางแค่หิว ไม่สิ นางหิวมากจนจะเป็นลม ระ

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 46.ผลของการกระทำ

    “คุณหนู” ไป๋ชิวร้อนรน แต่หมอที่เก่งที่สุดกำลังดูแลสตรีอื่นจนทำให้คุณหนูของนางเป็นเช่นนี้ “ข้าไม่เป็นอะไร” นางพยายามสูดลมหายใจลึก แม้รู้อยู่แก่ใจว่าเซียวเหรินมองนางด้วยสายตาเช่นไร แต่นางก็ยังหวัง หวังว่าจะมีสักวันที่เขาจะรับรู้ความรู้สึกของนาง เปิดใจให้นางบ้าง “ไป๋ชิว พาคุณหนูใหญ่ไปพักผ่อนก่อน” อู๋ซั่วไต้เอ่ยขึ้นแล้วมองบุตรสาวด้วยความเห็นใจต่อให้ไม่มีสตรีผู้นั้นเข้ามา หรือแม้กระทั่งเขาจะใช้คนของหมู่ตึกนกยูงทองช่วยชีวิตคนสกุลเซียวเอาไว้ เขาย่อมรู้ดีว่าเรื่องเหล่านี้จะเอามาเป็นบุญคุณเพื่อให้เซียวเหรินแต่งงานกับอู๋หมิ่นลี่ได้ แต่ด้วยฐานะที่แท้จริงของเซียวเหริน อู๋ซั่วไต้รู้ดีว่า บุตรสาวของเขาไม่สามารถเคียงข้างชายผู้นั้นได้ ไม่สิ จะเรียกเซียวเหรินเช่นแต่ก่อนได้อย่างไร ในเมื่อตอนนี้เป็นถึง... “ท่านพ่อ” อู๋หมิ่นลี่กลั้นน้ำตาที่เอ่อคลอ “ท่านรู้อยู่แล้วว่าท่านเซียวเป็นใคร จึงพยายามเตือนลูกใช่ไหมเจ้าคะ” “ลี่เอ๋อร์ เจ้าหักห้ามใจตัวเองเสียเถิด ยังมีบุรุษดีๆ อีกมากมาย พ่อจะคัดเลือกคนที่ดีและเหมาะสมกับเจ้าเอง” “แต่ว่า.

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 45.เสียงเรียกที่แฝงอำนาจ

    “ลูกข้าเป็นอะไร” ไทเฮาถามด้วยสีหน้าตื่นตระหนก “รักษาเขาสิ!” เซียวเหรินถึงกับนิ่งงันด้วยอับจนถ้อยคำ แต่ฮ่องเต้หงฉานหัวเราะเสียงปร่าแล้วโบกมือไปมา “มันใหญ่มากใช่ไหมละ” เขาหัวเราะขืนๆ “อะไรกัน” ไทเฮาหันมาถามอย่างงุนงง แต่เซียวเหรินไม่กล้าพูดออกมา “มันคือฝี” ฮ่องเต้ที่กำลังจะกลายเป็นเพียงอดีตฮ่องเต้พูดขึ้นแล้วกดไปที่ท้องของตัวเอง “กระจายไปทั่วท้องแล้ว” “ไม่จริง... เหตุใดเป็นเช่นนี้” “เป็นมาเนิ่นนานแล้ว หมอหลวงรักษาไม่ได้ ลูกจึง...ไม่ใส่ใจกับมันอีก” ไทเฮาหันมาเขย่าแขนของเซียวเหริน “เจ้าได้ชื่อว่าเป็นหมอเทวดา ต้องรักษาได้!” “ถ้าได้รับการรักษาก่อนหน้านี้คงจะ...” “ช่างมันเถอะ” ฮ่องเต้หงฉานโบกมือไปมาจ้องมองใบหน้าของเซียวเหริน “เรารู้ ถึงได้ปล่อยให้มันเป็นเช่นนี้” “เจ้า! ทำไมโง่เช่นนี้” “เสด็จแม่” ฮ่องเต้พูดอย่างอ่อนแรง “ท่านเองก็รู้ว่า เสด็จพ่อยกบัลลังก์นี้ให้ใครตั้งแต่แรก” “หุบปากเสีย!” “เสด็จแม่...แท้จริงแล้วบัลลังก์นี้เป็น

DMCA.com Protection Status