แชร์

Chapter 43.เจ้าตายไปแล้ว

ผู้เขียน: เพลงมีนา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-28 11:18:49

            “จำไว้ ระหว่างออกจากที่นี้อย่าพูดคุยกับผู้ใดและห้ามส่งเสียงจนกว่าจะถึงนอกกำแพงรั้ว จากนั้นจะมีคนมารับพี่เต๋ออี้เอง”

            นางส่งจูเต๋ออี้ให้ทหารอีกคนรับช่วงต่อ ได้แต่ยืนส่งจนสุดสายตา คนที่ต้องช่วยก็จัดการแล้ว จากนี้ไปได้แต่หวังว่า คนที่ส่งไปเจรจากับเซียวเหรินจะสามารถเกลี้ยกล่อมให้ชายผู้นั้นร่วมมือได้ แต่ถ้าไม่เป็นไปตามที่คิด คงไม่มีทางเลือกอื่น สิ่งที่นางจำเป็นต้องทำแม้จะฝืนใจก็ต้องทำให้สำเร็จให้จงได้

            งานสมโภชฉลองวันประสูติของไทเฮาจัดอย่างยิ่งใหญ่แม้จะเกิดขึ้นท่ามกลางกระแสความกดดันจากทุกฝ่าย  ความเคลื่อนไหวของชาวบ้านที่ไม่พอใจเหล่าเชื้อพระวงศ์ที่กดขี่ราษฎร การเก็บภาษีที่ขูดรีดจนชาวบ้านลุกฮือขึ้นต่อต้านแต่ไม่อาจต่อสู้กลับอำนาจทางการได้ หลายคนถูกจับเข้าคุก หลายคนหลบหนีเข้าร่วมกับเผ่าอื่นๆ กลายเป็นกองโจรขนาดเล็กที่พร้อมปกป้องตนเอง

            เหล่าขุนนางแบ่งเป็นหลายฝักหลายฝ่าย บางกลุ่มเห็นใจราษฎรแต่ไม่อาจตั้งตัวขึ้นปกป้องได้เกรงจะกลายเป็นการก่อการกบฏ  งานสมโภชในวันนี้จัดยิ่งใหญ่ใช้เงินไปหลายล้านตำลึงเพียงทั้งที่เงินในท้องพระคลังร่อยหรอเต็มที

            แม้รู้เรื่องทุกอย่างเป็นอย่างดี แต่ใบหน้าของไทเฮายังเปี่ยมด้วยรอยยิ้ม มองดูเหล่าขุนนางมาถวายพระพรและยังบรรดาเชื้อพระวงศ์ที่อยู่กับพร้อมหน้า ฮ่องเต้ยังมีมีท่าทีเมามายยกจอกดื่มสุรากับบรรดาขุนนางอย่างสนุกสนานไม่มีทีท่าอนาทรร้อนใจแต่อย่างใด ในเมื่อเขาเป็นเพียงฮ่องเต้หุ่นเชิด ผู้ที่ปกครองแผ่นดินที่แท้คือไทเฮา  เขาจะมีชีวิตอยู่อย่างไรก็ไร้ตัวตน มิสู้กอบโกยความสุขให้ตนเองดีกว่า

            ไทเฮาได้แต่มองฮองเต้ด้วยความไม่พอใจ แต่ก็ไม่อาจทำอะไรได้  แต่เพราะมีองค์ชายน้อยนั่งอยู่ใกล้ๆ ทำให้นางได้แต่ยิ้มซ่อนความไม่พอใจในอกไว้มิดชิด ฮ่องเต้เดินโซเซโดยมีนางสนมช่วยประคองมายืนเบื้องหน้าไทเฮา ชูจอกสุราขึ้นแล้วกล่าวน้ำเสียงอ้อแอ้

            “ลูกเตรียมการแสดงดีๆ เพื่อท่านโดยเฉพาะ หวังว่าจะถูกใจเสด็จแม่” 

            “อย่างนั้นรึ”

            แม้ใบหน้าจะระบายรอยยิ้มแต่เมื่อเห็นคณะปาหี่ปรากฏตัว แววตาของไทเฮาพลันเกิดโทสะขึ้นมาจางๆ แต่กระนั้นยังคงเก็บซ่อนไว้ด้วยรอยยิ้ม  นางไม่ชอบและไม่มีวันชอบ! ที่ผ่านมาเพราะฮ่องเต้โปรดปรานความคึกคักครื้นเครง นางจึงแสร้งทำเป็นไม่ใส่ใจ  เปิดฉากการแสดงด้วยจังหวะดนตรีสนุกสนาน เหล่าบรรดาเชื้อพระวงศ์และขุนนางต่างพลอยสนุกสนานส่งเสียงหัวเราะชอบใจ

            ไทเฮาทรงกำมือแน่น ภาพวันวานหวนย้อนมาอีกครั้ง  สามสิบปีผ่านมา นางยังจำได้อย่างดีไม่ลืมเลือน ในเวลานั้นนางนั่งตำแหน่งฮองเฮาที่ต้องอดทนมองดูฮ่องเต้รับนางสนมเข้ามามากมาย แม้นางจะเป็นใหญ่ในวังหลัง แต่ไม่ใช่คนในใจของฮ่องเต้   สตรีแต่ละนางล้วนชิงดีชิงเด่นเพื่อเป็นที่โปรดปราน ขอเพียงได้ถวายตัวสักครั้งก็นับว่าเป็นหวังและโอกาสที่ดี      นางผู้หญิงคนนั้นก็เหมือนกัน มีฝีมือดีดพิณเล็กน้อย อาศัยความหน้าด้านมานั่งดีดพิณต่อหน้าฮ่องเต้  ไม่นานจากนั้นนางก็ได้เลื่อนตำแหน่งมีฐานะเป็นกุ้ยเฟยและยังให้กำเนิดโอรสแข่งวาสนากับนาง  เป็นผู้หญิงชั้นต่ำและยังกล้าให้กำเนิดโอรสวันเวลาไล่เลี่ยกับนางอีก เจ้าเด็กดวงแข็งนั้นก็รอดมาได้หลายครั้ง หากไม่เพราะว่า นางรับปากจะไว้ชีวิตทายาทสกุลเซียวแล้วละก็ เซียวเหรินคงไม่มีชีวิตเป็นหนามตำมือนาง

            ร่างอรชรโหนเชือกสีสวยโรยตัวมาอย่างงดงามเรียกเสียงฮือฮา องค์ชายหงก่วงตื่นตาตื่นใจจนเผลอตบมือด้วยความสนุกสนาน  หญิงงามภายใต้หน้ากากประดับขนนกกรีดกรายตามจังหวะเสียงดนตรี  ทุกการเคลื่อนไหวสะกดทุกคู่สายตาให้จับจ้องที่นาง ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง ทุกที่ที่นางเคลื่อนผ่านเกิดกลิ่นหอมประหลาดชวนเคลิบเคลิ้ม เงาร่างของหญิงสาวที่ทอดเงาอยู่ด้านหลังกลับกลายเป็นรูปร่างนก นกหลายสิบตัวบินร่อนไปโดยรอบ  พลันเงานกหลายสิบตัวนั้นบินขึ้นสู่ท้องฟ้าแล้วพุ่งลงมาเป็นเพียงเงาเดียวคือพญาหงส์!

            และหงส์ตัวนั้นกำลังพุ่งไปทางไทเฮา

            ไทเฮาถึงกับผงะด้วยความตกใจ ทันใดนั้น เงาหงส์ตนนั้นสลายไป เหลือเพียงหญิงสาวที่ยืนอยู่เบื้องหน้า พระนางตั้งสติได้ ชี้นิ้วไปยังนางรำผู้นั้นตวาดด้วยน้ำเสียงโมโห

            “บังอาจ! จับมันแล้วเปิดหน้าให้ข้าเห็นเดี๋ยวนี้!”

            เหล่าองครักษ์กรูเข้าไปหมายจับตัวหญิงสาว แต่นางกลับยกมือขึ้นทำให้คนเหล่านั้นชะงัก มือเรียวงามเลื่อนมาปลดหน้ากากแล้วโยนทิ้งไปบนพื้น  เมื่อใบหน้าของนางเป็นที่ปรากฏ เสียงของฮองเฮาก็อุทานขึ้นอย่างตกใจ

            “ไม่จริง เจ้า...เจ้าตายแล้วนี่!” ฮองเฮาถึงกับใบหน้าไร้สีเลือด

            “เจ้า!”  ไทเฮาหันมาถามฮองเฮาที่บัดนี้กลายเป็นใบ้ไปแล้ว

            “เชลยที่ถูกย่ำยี เครื่องบรรณาการอันไร้เกียรติอย่างไรละเพคะ” 

 หลันหลันเอ่ยด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม

            “กงเสวี่ยหลิง!”  ไทเฮาหลุดเสียงตะคอกออกมา ทำให้องค์ชายหงก่วงถึงกับตกใจ แต่ไทเฮาทรงตวัดสายตาจ้องมองฮองเฮาแล้วกัดฟันพูดด้วยความโมโห  “เหตุใดนางยังอยู่!”

            “หม่อมฉันไม่ทราบเพคะ”  ฮองเฮาส่ายหน้ารัวๆ นางได้รับคำสั่งจากไทเฮาให้หาหนทางกำจัดกงเสวี่ยหลิง เมื่อรู้ข่าวว่านางตกผาน้ำตกไปแล้ว ก็สั่งคนปลอมตัวเป็นกงเสวี่ยหลิงกักตัวอยู่ในตำหนักหลังอันห่างไกล ไม่คิดว่าสตรีที่คิดว่าตายไปแล้วจะมาปรากฏตรงหน้าซ้ำยังแย้มยิ้มให้ผิดกับทุกครั้งที่นางมักจะก้มหน้าหลบสายตา ไหล่คู้ตัวสั่นเสมอ

            ทหารองครักษ์เข้ามาล้อมร่างหญิงสาว นางเพียงยกมือกรีดนิ้วไปเบื้องหน้า มืออีกข้างตวัดผ้าปิดครึ่งใบหน้าของตนอย่างรวดเร็ว  กลิ่นหอมจากกายนางทำเอาบุรุษร่างใหญ่ทรุดลงไปกองกับพื้น เหล่านักแสดงปาหี่และกายกรรมตลอดจนนักดนตรีลุกพรึ่บขึ้นพร้อมอาวุธในมือ

            “พวกเจ้า! บังอาจ!”  ไทเฮาถึงกับลุกขึ้นจากที่นั่ง “กล้าถืออาวุธเข้ามาในพระราชวังของข้ารึ!”

            “พระราชวังของเจ้า?”  บุรุษผู้หนึ่งก้าวมายืนด้านหน้า แม้มีผ้าสีดำปิดครึ่งหน้าอยู่แต่องอาจงามสง่านั้นแผ่รัศมีกลิ่นไอของผู้สูงศักดิ์  “อีกประเดี๋ยวก็มิใช่แล้ว”

            “พวกเจ้าเป็นใครกันแน่ กล้าก่อกบฏอย่างนั้นเรอะ!” ไทเฮาตวาดลั่น แต่ทหารของตนกลับไม่มีผู้ใดเข้ามาใกล้คนกลุ่มนี้ ทั้งทหารและขุนนางที่นั่งชมความบันเทิงเมื่อครู่ร่างกายไร้เรี่ยวแรง บางคนลุกขึ้นได้เพียงครู่เดียวก็ล้มลงหมดสติ  ตัวนางเองก็รู้สึกสิ้นไร้เรี่ยวแรงเช่นกัน

            ทหารนายหนึ่งซึ่งไม่รู้ว่าด้านในเกิดอะไรขึ้น วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาคุกเข่าเบื้องหน้า รีบรายงานทันที

            “ทูลฝ่าบาท บัดนี้เกิดไฟไหม้ในเมืองหลวงพ่ะย่ะค่ะ”

            ฮ่องเต้ยังมึนงงเพราะฤทธิ์สุราอยู่เอ่ยถาม  “ไฟไหม้? ไฟไหม้ที่ใด”

            “สี่ทิศของเมืองหลวงพ่ะย่ะค่ะ”

            “สี่ทิศของเมืองหลวง?”  ฮ่องเต้ลุกขึ้นจากบัลลังก์แต่กลับไร้เรี่ยวแรงทรุดลงไปนั่งตามเดิม พลันสติกลับคืนจึงชี้นิ้วไปยังกลุ่มนักแสดงที่บัดนี้ถืออาวุธพร้อมเข้าฟาดฟัน

            “เป็นพวกเจ้า!”

            “หากพวกเจ้าเป็นฮ่องเต้ที่ดี เรื่องเช่นนี้คงไม่เกิดขึ้น” กงอี้เทาชักกระบี่ออกมาจ่อที่ปลายจมูกของฮ่องเต้ แต่อีกฝ่ายกลับแหงนหน้าหัวเราะ

            “ใช้วิธีสกปรกเช่นนี้เจ้ายังนับเป็นผู้กล้าได้อีกเรอะ” ฮ่องเต้หัวเราะราวคนเสียสติ แม้เรี่ยวแรงจะเหลือน้อยเต็มที่ แต่ยังสามารถชักกระบี่ของตนออกมาเช่นกัน  “เจ้าเป็นใคร”

            “ข้าคือกงอี้เทาจากแคว้นเฉียนเหลียง”

            “กงอี้เทา...องค์ชายอมโรคผู้นั้นนะรึ”  ฮ่องเต้ส่ายหน้าไปมาอย่างไม่อยากเชื่อ “พวกเจ้าหลอกลวงข้า ให้กงเสวี่ยหลิงมาเป็นเชลยแทนเจ้าสินะ!”

            “หลอกลวงแล้วอย่างไร สกปรกแล้วอย่างไร” กงอี้เทาแสยะยิ้ม “พวกเจ้าเองก็ใช่ว่าจะสะอาดเสียทีไหน มือสองข้างล้วนเปื้อนเปรอะโลหิต พวกเจ้าไม่ได้ยินเสียงสาปแช่งหรืออย่างไร”

            “พวกเจ้า! มัวทำอะไรอยู่! จับพวกกบฏสิ!”

            ทหารกลุ่มหนึ่งกรูกันเข้ามา ทว่ากลับเป็นฝ่ายยืนข้างกงอี้เทา ทำให้ทั้งฮ่องเต้และไทเฮาเบิกตากว้าง

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 44.รับผลกรรม

    “พวกเจ้า! คนสกุลเซียวรึ! พวกเจ้าสบคบกับคนนอกกล้าล้มบัลลังก์ของข้า!” “เดิมทีมันก็ไม่ใช่ของพวกเจ้าอยู่แล้ว” นายผู้เฒ่าสกุลเซียวที่ถูกช่วยชีวิตมาปรากฏเบื้องหน้า ไทเฮาถึงกับผงะไปทันที “ตาเฒ่าเซียว! เจ้ายังอยู่อีกเรอะ!” “เพื่อให้เห็นจุดจบของคนชั่วอย่างเจ้า ข้าจะตายก่อนได้อย่างไร” ผู้เฒ่าเซียวหัวเราะด้วยความเคียดแค้น สกุลเซียวจงรักภักดีมาตลอด แม้มีบุตรสาวก็ส่งเข้าวังหลวงมิได้หาผลประโยชน์ใด เพียงแค่ต้องการแสดงความภักดี แต่กลับกลายเป็นว่า นางเป็นที่โปรดปรานจนทำให้ตระกูลเซียวถูกลั่นแกล้งเนรเทศออกจากเมืองหลวง สามร้อยแปดสิบสองกว่าชีวิตระเห็จระเหเร่รอนอย่างอนาถ เหลือรอดอยู่เพียงครึ่งเดียว หากไม่ใช่เพราะกงอี้เทายื่นมือช่วยเหลือ และหมู่ตึกนกยูงทองให้ที่หลบซ่อนแล้ว พวกเขาคงจะไม่มีวันได้เห็นวันนี้ “คุมตัวทั้งหมดไปตำหนักทางทิศตะวันตก” “พวกเจ้า!!” ไทเฮาได้แต่โมโหเดือดดาลจนหน้ามืด ผู้เฒ่าเซียวหันมาประกาศกับเหล่าทหารและขุนนางที่เหลืออยู่ “ข้าไม่ต้องการนองเหลือแต่ต้องการให้ประชาชนได้กินดีมีสุข เ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-28
  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 45.เสียงเรียกที่แฝงอำนาจ

    “ลูกข้าเป็นอะไร” ไทเฮาถามด้วยสีหน้าตื่นตระหนก “รักษาเขาสิ!” เซียวเหรินถึงกับนิ่งงันด้วยอับจนถ้อยคำ แต่ฮ่องเต้หงฉานหัวเราะเสียงปร่าแล้วโบกมือไปมา “มันใหญ่มากใช่ไหมละ” เขาหัวเราะขืนๆ “อะไรกัน” ไทเฮาหันมาถามอย่างงุนงง แต่เซียวเหรินไม่กล้าพูดออกมา “มันคือฝี” ฮ่องเต้ที่กำลังจะกลายเป็นเพียงอดีตฮ่องเต้พูดขึ้นแล้วกดไปที่ท้องของตัวเอง “กระจายไปทั่วท้องแล้ว” “ไม่จริง... เหตุใดเป็นเช่นนี้” “เป็นมาเนิ่นนานแล้ว หมอหลวงรักษาไม่ได้ ลูกจึง...ไม่ใส่ใจกับมันอีก” ไทเฮาหันมาเขย่าแขนของเซียวเหริน “เจ้าได้ชื่อว่าเป็นหมอเทวดา ต้องรักษาได้!” “ถ้าได้รับการรักษาก่อนหน้านี้คงจะ...” “ช่างมันเถอะ” ฮ่องเต้หงฉานโบกมือไปมาจ้องมองใบหน้าของเซียวเหริน “เรารู้ ถึงได้ปล่อยให้มันเป็นเช่นนี้” “เจ้า! ทำไมโง่เช่นนี้” “เสด็จแม่” ฮ่องเต้พูดอย่างอ่อนแรง “ท่านเองก็รู้ว่า เสด็จพ่อยกบัลลังก์นี้ให้ใครตั้งแต่แรก” “หุบปากเสีย!” “เสด็จแม่...แท้จริงแล้วบัลลังก์นี้เป็น

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-28
  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 46.ผลของการกระทำ

    “คุณหนู” ไป๋ชิวร้อนรน แต่หมอที่เก่งที่สุดกำลังดูแลสตรีอื่นจนทำให้คุณหนูของนางเป็นเช่นนี้ “ข้าไม่เป็นอะไร” นางพยายามสูดลมหายใจลึก แม้รู้อยู่แก่ใจว่าเซียวเหรินมองนางด้วยสายตาเช่นไร แต่นางก็ยังหวัง หวังว่าจะมีสักวันที่เขาจะรับรู้ความรู้สึกของนาง เปิดใจให้นางบ้าง “ไป๋ชิว พาคุณหนูใหญ่ไปพักผ่อนก่อน” อู๋ซั่วไต้เอ่ยขึ้นแล้วมองบุตรสาวด้วยความเห็นใจต่อให้ไม่มีสตรีผู้นั้นเข้ามา หรือแม้กระทั่งเขาจะใช้คนของหมู่ตึกนกยูงทองช่วยชีวิตคนสกุลเซียวเอาไว้ เขาย่อมรู้ดีว่าเรื่องเหล่านี้จะเอามาเป็นบุญคุณเพื่อให้เซียวเหรินแต่งงานกับอู๋หมิ่นลี่ได้ แต่ด้วยฐานะที่แท้จริงของเซียวเหริน อู๋ซั่วไต้รู้ดีว่า บุตรสาวของเขาไม่สามารถเคียงข้างชายผู้นั้นได้ ไม่สิ จะเรียกเซียวเหรินเช่นแต่ก่อนได้อย่างไร ในเมื่อตอนนี้เป็นถึง... “ท่านพ่อ” อู๋หมิ่นลี่กลั้นน้ำตาที่เอ่อคลอ “ท่านรู้อยู่แล้วว่าท่านเซียวเป็นใคร จึงพยายามเตือนลูกใช่ไหมเจ้าคะ” “ลี่เอ๋อร์ เจ้าหักห้ามใจตัวเองเสียเถิด ยังมีบุรุษดีๆ อีกมากมาย พ่อจะคัดเลือกคนที่ดีและเหมาะสมกับเจ้าเอง” “แต่ว่า.

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-31
  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 47.ให้นางตัดสินใจเอง

    นางมุดอยู่ใต้ผ้าห่มแต่หูได้ยินเสียงพวกเขาตกลงต่อรองกัน สุดท้ายกงอี้เทาได้แต่ถอนหายใจหนักหน่วงแล้วก้าวออกไป นางคิดว่าในห้องไม่มีใครแล้วจึงโผล่หน้าออกมาจากผ้าห่ม แต่กลับพบสายตาคู่หนึ่งจ้องมองอยู่ก่อนแล้ว “ระหว่างนี้เจ้าพักอยู่ที่นี่ไปก่อน ข้าจะเป็นฝ่ายหาเวลามาพบเจ้าเอง” เขาพูดด้วยน้ำเสียงสงบนิ่งเช่นที่เคยเป็น “เข้าใจหรือไม่” นางพยักหน้าขึ้นลงเร็วๆ แทนคำตอบ เซียวเหรินไม่เอ่ยอะไรอีก หมุนตัวแล้วเดินออกไปเงียบๆ จนนางมั่นใจว่าครั้งนี้ไม่มีผู้อื่นแล้วจริงๆ จึงยอมลุกขึ้นจากที่นอนอีกครั้ง ‘ให้นางตัดสินใจเอง’ นางคิดมากจนตาลายเดือดร้อนบ่าวรับใช้ที่เฝ้าดูอาการเข้าใจผิดคิดว่าอาการของนางทรุดลง อู๋ซิงว่านรีบเข้ามาดูอาการของนาง พอรู้ว่านางหิวโหยจนหน้ามืดก็แหงนหน้าหัวเราะไม่เกรงใจคนป่วยอย่างนาง สั่งการให้บ่าวไพรยกสำรับอาหารมาให้ หลังจากถูกบิดาเรียกไปอบรม เขารู้ว่าควรทำใจเรื่องหลันหลัน อาจเพราะนางเป็นคนให้กำลังใจจนเขาสามารถใช้แขนขวาได้อีกครั้ง แต่พอรู้ว่านางอาการทรุดลงก็รีบมาดูทันที ใครจะรู้ว่านางแค่หิว ไม่สิ นางหิวมากจนจะเป็นลม ระ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-31
  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 48. เหตุใดถึงเจ็บถึงเพียงนี้

    “ข้า...” หลันหลันอ้ำอึ้ง ไม่เคยคิดว่าตัวเองต้องไปจากที่นี่ ไม่ใช่หรอก นางมิได้อาลัยสถานที่แห่งนี้ มีเพียงความรู้สึกที่ต้องจากไกลเซียว เหรินต่างหากที่ทำให้นางปวดใจมือเรียวเล็กยกขึ้นอกที่หน้าอกซ้าย บริเวณที่ถูกเซียวเหรินซัดฝ่ามือเข้าใส่ ความเจ็บปวดระลอกหนึ่งราวเข็มแหลมเล็กนับร้อยนับพันทิ่มแทงหัวใจเจ็บ?เหตุใดถึงเจ็บถึงเพียงนี้“หลันหลัน” อู๋หมินลี่เห็นใบหน้าหลันหลันซีดเซียวไร้สีเลือดก็ตื่นตระหนก “เจ้าเจ็บรึ ให้ข้าตามหมอดีหรือไม่”หลันหลันส่ายหน้าไปมา ครู่หนึ่งนางสูดลมหายใจลึกสะกดความเจ็บปวดทั้งหมดแล้วฝืนยิ้มให้อู๋หมินลี่ พลันเสียงของท่านป้าต๋าฝูดังแว่วเข้ามาในหัวน้อยๆ ของนาง‘มีเวลาเพียงสี่สิบเก้าวัน’จากบันทึกของเซียวเหริน นางเหลือเวลาอีกแค่สามวันแต่ถ้านางลองให้กงอี้เทาถอนมนตร์สะกดจิต บางทีนางอาจมีชีวิตได้ยาวนานกว่านี้ แต่ชีวิตของอูหลันโหยว ไม่อาจอยู่ที่แคว้นเฉียน เหลียงได้“หลันหลัน” อู๋หมิ่นลี่บีบมือเย็นเฉียบของหลันหลัน “ข้าพาเจ้ากลับที่พักดีกว่า” “ให้ข้าประคองนางเองเจ้าค่ะ” ไป๋ชิวเข้ามาช่วยประคองหลันหลันเพื่อเดินกลับที่พัก อู๋ซิงว่านผ่านมาพอดีเห็นไป๋ชิวประคองหลันหลันอยู

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-31
  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 49.คิดถึง

    “งานเหล่านี้แท้จริงเป็นของเจ้า ยามนี้ลุงแค่ช่วยจัดการให้ไปก่อน” เขาพูดอย่างใจเย็น บ้านเมืองต้องพลิกฟื้นเป็นการใหญ่ กว่าจะเข้ารูปเข้ารอยคงใช้เวลาอีกสามถึงสี่เป็นอย่างน้อย เขาก้มมองเห็นเด็กน้อยทำหน้านิ่วก็หัวเราะเบาๆ “เจ้าต้องหมั่นเรียนรู้ เข้าใจหรือไม่” “หลานทราบแล้ว เสด็จลุง” “ดี” เขาพูดแล้วขยับปลายนิ้วเรียกจูเต๋ออี้ องครักษ์ข้างกายที่ทำหน้าที่รับใช้มายาวนานถอยออกไป ครู่หนึ่งจึงเดินกลับเข้ามาพร้อมขนม เด็กน้อยทำตาโตแล้วยื่นมือไปรับขนมจากเซียวเหริน “ข้าให้ในครัวปรุงให้เจ้าเป็นพิเศษ ในนี้มีส่วนผสมของสมุนไพรบำรุงร่างกาย เจ้าจะได้แข็งแรงเติบใหญ่เร็วไว” “ขอบพระทัยเสด็จลุง” “ไปเถอะ” “อื้ม!” เด็กน้อยปีนลงจากตัก ขันทีผู้หนึ่งเข้ามารับ เขามองเด็กน้อยที่ชะตาชีวิตลิขิตให้นั่งบัลลังก์มังกร ได้แต่หวังว่าตัวเองจะขัดเกลาเด็กคนนี้ให้เป็นฮ่องเต้ที่ดี คงมีเพียงการทำเช่นนี้ที่ลดทอนความรู้สึกผิดที่เคยให้คำสัตย์สาบานไว้ แม้ว่าชื่อของเขาจะเคยเป็นรัชทายาทก็ตาม เซียวเหรินก้มหน้าอ่านฏีกา หยิบพู่กันขึ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-31
  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 50.ใช้หัวใจฟังเสียวหัวใจสิ

    “เจ้าอยู่ที่นี่ให้ข้าถอนพิษให้เจ้าเถิด” “ข้าจะอยู่ที่นี่ในฐานะอะไรได้” นางส่ายหน้าไปมาบนอกเสื้อของเขา นางจงใจทำร้ายองค์ชายหงก่วงต่อหน้าผู้อื่นหากนางยืนข้างกายเขา คนภายใต้การปกครองย่อมมองเขาไม่ดีเป็นแน่ ขณะที่สมองและหัวใจตีกันยุ่งเหยิง ปลายคางของนางถูกช้อนขึ้น ตามด้วยริมฝีปากหยักสวยทาบทับ นางคิดจะถอยหลังหลบหนีแต่เรียวลิ้นร้อนไล่ต้อนจนนางไม่อาจตั้งสติคิดสิ่งใดได้ ถูกจุมพิตของเขาทำให้สับสนจนเกือบขาดอากาศหายใจเขาจึงยอมละริมฝีปากจากนาง “ใจร้าย!” นางทุบแผ่นอกแกร่งของเขา “ข้าต้องการเวลาคิด”“เรื่องแบบนี้ต้องคิดอะไรนานนัก” เขาโน้นหน้าลงจุมพิตดวงตาของนางที่ยังมีหยาดน้ำตาวาวใส “ใช้หัวใจฟังเสียงหัวใจสิ”‘ใช้หัวใจฟังเสียงหัวใจสิ’เป็นอีกครั้งที่นางได้ยินประโยคนี้ ดวงตาของนางเหม่อลอยไปชั่วขณะ และในจังหวะเดียวกัน เซียวเหรินตัดสินใจทำในสิ่งที่ตนเองต้องการ ช้อนร่างนุ่มนิ่มไว้แนบอกพานางกลับมาที่ห้องนอนของตนเอง การกักขังนกตัวหนึ่งไว้นั้น อาจไม่ใช่กรงขังที่แน่นหนาแต่เป็นความรู้สึกปรารถนาที่มีต่อนางจูเต๋ออี้เห็นผู้เป็นนายกลับมาพร้อมกับอุ้มหญิงสาวที่ซุกอยู่ในอกจนแทบมองไม่เห็นใบ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-31
  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 51. เจ้านกตะกละ

    “เจ้านกตะกละ!” เขาดุนางพลางแหวนหน้าคำรามเสียงพร่า ถูกนางรุกเร้าจนแท่งหยกไถลลื่นเข้าไปจนสุด นางหวีดร้องเบาๆ โผเข้ากอดเขา ปลายเล็บจิกที่แผ่นหลังไม่เคยรู้เลยว่าบุรุษผู้นี้จะมีซ่อนสิ่งใหญ่โตไว้ถึงเพียงนี้ ความเสียวซ่านแผ่นกระจายไปทั่วร่าง จนถึงปลายนิ้วเท้าที่เกร็งแทบเป็นตะคริว นางครวญเสียงกระเส่า ยามเมื่อเขาขยับสะโพกถอนแก่นกายออกช้าๆ แล้วกดกลับเข้ามาใหม่ นางได้แต่หวีดร้องส่งเสียงครางแทบขาดใจ เหงื่อร้อนหลั่งออกมาจนหยดบนกายของนาง ความเจ็บแปลบที่เกิดขึ้นในคราวแรกหายไปสิ้น ทุกการเติมเต็มของเขาทำให้ร่างกายที่เคยเยียบเย็นร้อนระอุ เหงื่อร้อนผุดขึ้นทุกรูขุมขน ร่างกายนางทวีความร้อนและเปียกชื้น รวมทั้งที่ใจกลางของดอกไม้สาวที่รองรับการเคลื่อนไหวของผีเสื้อหนุ่มช่างแนบแน่น ลึกล้ำและซ่านเสียว“ข้า...” นางไม่รู้ว่าตนเองจะพูดอะไร เขาป้อนความสุขสมที่นางไม่เคยรู้จัก ทำให้นางอิ่มเอมครั้งแล้วครั้งเล่า และหิวโหยต้องการไม่สิ้นสุด ไม่ว่าท่วงท่าใดที่เขานำพา ล้วนทำให้นางปรารถนาในตัวเขามากขึ้น มากขึ้น“เซียวเหริน!”ดวงตาของเซียวเหรินราวลูกไฟ ไฟปรารถนาเผาไหม้หัวใจทำให้เคลื่อนไหวร่างกายเร็วขึ้น ถาโถมและโหมกระหน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-01

บทล่าสุด

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 53.จบ

    ชีวิตสี่ปีของหลันหลันเป็นเช่นนี้เรื่อยมา หลัววั่งรู้สึกว่ามีคนเข้ามา จึงเงยหน้าขึ้น เมื่อเห็นว่าผู้มาใหม่เป็นใครเขาก็ส่งยิ้มกว้างแล้วเดินออกไปอย่างเงียบๆ “ท่านรีบกลับเถิด ที่นี่ข้าจัดการเองได้” “ไยรีบไล่ข้าไปเล่า หรือเจ้านัดผู้ใดไว้” หญิงสาวได้ยินน้ำเสียงที่คุ้นเคยจึงเงยหน้าขึ้น บุรุษร่างสูงโปร่งสวมอาภรณ์สีเขียวใบไผ่ใบหน้าอ่อนล้าแต่ยังมีรอยยิ้มอ่อนโยน“ท่านมาแล้ว”เซียวเหรินส่งยิ้มให้นาง แม้เหนื่อยล้าจากการเร่งรีบเดินทางมา ทว่าเพียงได้เห็นรอยยิ้มนาง ความเหน็ดเหนื่อยเหล่านั้นพลันมลายหายไปสิ้น“เหตุใดกลับเร็วนักเล่า” หลันหลันอดเป็นห่วงไม่ได้ “ตามจริงต้องอีกสิบวันท่านจะกลับไม่ใช่หรือ? เดินทางไปตรวจดูการซ่อมแซมเขื่อนเป็นอย่างไรบ้าง ”“เจ้าไม่อยากเห็นหน้าสามีหรือไร”เขาทำเสียงไม่พอใจแต่เดินไปนั่งใกล้ๆ แล้วจับชีพจรให้นาง และไม่พูดเรื่องงานกับนาง จะว่าไป ก็ไม่มีมีเรื่องใดในชีวิตของเขาที่หลุดรอดสายตาของนาง เช่นเดียวกับที่เขารู้ว่าในแต่ละวันนางทำอะไร นางมีคนคอยส่งข่าว ส่งเขาให้จูเต๋ออี้วางองครักษ์ลับไว้โดบรอบ “พิษในตัวข้ายังต้องใช้เ

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 52.ไม่มีอะไรให้ลังเลและกังวลอีกแล้ว

    “คิดสิ” นางหัวเราะเบาๆ เสียงหัวเราะของนางทำให้กงอี้เทาปล่อยนางจากวงแขน เขาคิดว่านางจะเปลี่ยนใจจึงยอมคลายมือจากข้อมือนาง ทำให้นางส่งยาเม็ดนั้นส่งเข้าปากแล้วกลืนลงคอทันทีท่ามกลางดวงตาที่เบิกกว้างของกงอี้เทา “เจ้า!” “ข้าไม่เสียใจ” นางยิ้มแล้วยกมือลูบใบหน้าของกงอี้เทา “บอกจางซงหยวนให้ดูแลกงเสวี่ยหลิงให้ดี” “หลันโหยว!” “ข้าอยากขอร้องเจ้าครั้งสุดท้าย” นางพูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาลง “ได้ข้ารับปากเจ้า ข้ารับปากเจ้าทุกเรื่อง” กงอี้เทาประคองร่างที่อ่อนยวบลงในวงแขน มือของเขาสั่นเทาอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ใบหน้าของหญิงสาวมีรอยยิ้ม แต่ดวงตาของนางปิดลง ชีพจรเต้นช้าลง ร่างกายเริ่มเย็นเยียบขึ้นมาที่ละน้อย นางวางมือไว้บนหน้าอก บริเวณหัวใจของตนเองที่เต้นแผ่วเบาลงไปทุกที ทุกที ทุกที ไม่มีอะไรให้นางลังเลและกังวลอีกแล้ว..จูเต๋ออี้เดินเข้ามาอย่างเงียบเฉียบ ภาพที่เห็นจนเริ่มชินตาคือเจ้าของร่างสูงสง่านั่งเหยียดแผ่นหลังตั้งตรง แววตามุ่งมั่นและมือตวัดพู่กันแก้ไขปัญหาน้อยใหญ่ที่ฮ่องเต้พระองค์ก่อนทิ้งปัญหาไว้มากมายเหลือคณานับ

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 51. เจ้านกตะกละ

    “เจ้านกตะกละ!” เขาดุนางพลางแหวนหน้าคำรามเสียงพร่า ถูกนางรุกเร้าจนแท่งหยกไถลลื่นเข้าไปจนสุด นางหวีดร้องเบาๆ โผเข้ากอดเขา ปลายเล็บจิกที่แผ่นหลังไม่เคยรู้เลยว่าบุรุษผู้นี้จะมีซ่อนสิ่งใหญ่โตไว้ถึงเพียงนี้ ความเสียวซ่านแผ่นกระจายไปทั่วร่าง จนถึงปลายนิ้วเท้าที่เกร็งแทบเป็นตะคริว นางครวญเสียงกระเส่า ยามเมื่อเขาขยับสะโพกถอนแก่นกายออกช้าๆ แล้วกดกลับเข้ามาใหม่ นางได้แต่หวีดร้องส่งเสียงครางแทบขาดใจ เหงื่อร้อนหลั่งออกมาจนหยดบนกายของนาง ความเจ็บแปลบที่เกิดขึ้นในคราวแรกหายไปสิ้น ทุกการเติมเต็มของเขาทำให้ร่างกายที่เคยเยียบเย็นร้อนระอุ เหงื่อร้อนผุดขึ้นทุกรูขุมขน ร่างกายนางทวีความร้อนและเปียกชื้น รวมทั้งที่ใจกลางของดอกไม้สาวที่รองรับการเคลื่อนไหวของผีเสื้อหนุ่มช่างแนบแน่น ลึกล้ำและซ่านเสียว“ข้า...” นางไม่รู้ว่าตนเองจะพูดอะไร เขาป้อนความสุขสมที่นางไม่เคยรู้จัก ทำให้นางอิ่มเอมครั้งแล้วครั้งเล่า และหิวโหยต้องการไม่สิ้นสุด ไม่ว่าท่วงท่าใดที่เขานำพา ล้วนทำให้นางปรารถนาในตัวเขามากขึ้น มากขึ้น“เซียวเหริน!”ดวงตาของเซียวเหรินราวลูกไฟ ไฟปรารถนาเผาไหม้หัวใจทำให้เคลื่อนไหวร่างกายเร็วขึ้น ถาโถมและโหมกระหน

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 50.ใช้หัวใจฟังเสียวหัวใจสิ

    “เจ้าอยู่ที่นี่ให้ข้าถอนพิษให้เจ้าเถิด” “ข้าจะอยู่ที่นี่ในฐานะอะไรได้” นางส่ายหน้าไปมาบนอกเสื้อของเขา นางจงใจทำร้ายองค์ชายหงก่วงต่อหน้าผู้อื่นหากนางยืนข้างกายเขา คนภายใต้การปกครองย่อมมองเขาไม่ดีเป็นแน่ ขณะที่สมองและหัวใจตีกันยุ่งเหยิง ปลายคางของนางถูกช้อนขึ้น ตามด้วยริมฝีปากหยักสวยทาบทับ นางคิดจะถอยหลังหลบหนีแต่เรียวลิ้นร้อนไล่ต้อนจนนางไม่อาจตั้งสติคิดสิ่งใดได้ ถูกจุมพิตของเขาทำให้สับสนจนเกือบขาดอากาศหายใจเขาจึงยอมละริมฝีปากจากนาง “ใจร้าย!” นางทุบแผ่นอกแกร่งของเขา “ข้าต้องการเวลาคิด”“เรื่องแบบนี้ต้องคิดอะไรนานนัก” เขาโน้นหน้าลงจุมพิตดวงตาของนางที่ยังมีหยาดน้ำตาวาวใส “ใช้หัวใจฟังเสียงหัวใจสิ”‘ใช้หัวใจฟังเสียงหัวใจสิ’เป็นอีกครั้งที่นางได้ยินประโยคนี้ ดวงตาของนางเหม่อลอยไปชั่วขณะ และในจังหวะเดียวกัน เซียวเหรินตัดสินใจทำในสิ่งที่ตนเองต้องการ ช้อนร่างนุ่มนิ่มไว้แนบอกพานางกลับมาที่ห้องนอนของตนเอง การกักขังนกตัวหนึ่งไว้นั้น อาจไม่ใช่กรงขังที่แน่นหนาแต่เป็นความรู้สึกปรารถนาที่มีต่อนางจูเต๋ออี้เห็นผู้เป็นนายกลับมาพร้อมกับอุ้มหญิงสาวที่ซุกอยู่ในอกจนแทบมองไม่เห็นใบ

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 49.คิดถึง

    “งานเหล่านี้แท้จริงเป็นของเจ้า ยามนี้ลุงแค่ช่วยจัดการให้ไปก่อน” เขาพูดอย่างใจเย็น บ้านเมืองต้องพลิกฟื้นเป็นการใหญ่ กว่าจะเข้ารูปเข้ารอยคงใช้เวลาอีกสามถึงสี่เป็นอย่างน้อย เขาก้มมองเห็นเด็กน้อยทำหน้านิ่วก็หัวเราะเบาๆ “เจ้าต้องหมั่นเรียนรู้ เข้าใจหรือไม่” “หลานทราบแล้ว เสด็จลุง” “ดี” เขาพูดแล้วขยับปลายนิ้วเรียกจูเต๋ออี้ องครักษ์ข้างกายที่ทำหน้าที่รับใช้มายาวนานถอยออกไป ครู่หนึ่งจึงเดินกลับเข้ามาพร้อมขนม เด็กน้อยทำตาโตแล้วยื่นมือไปรับขนมจากเซียวเหริน “ข้าให้ในครัวปรุงให้เจ้าเป็นพิเศษ ในนี้มีส่วนผสมของสมุนไพรบำรุงร่างกาย เจ้าจะได้แข็งแรงเติบใหญ่เร็วไว” “ขอบพระทัยเสด็จลุง” “ไปเถอะ” “อื้ม!” เด็กน้อยปีนลงจากตัก ขันทีผู้หนึ่งเข้ามารับ เขามองเด็กน้อยที่ชะตาชีวิตลิขิตให้นั่งบัลลังก์มังกร ได้แต่หวังว่าตัวเองจะขัดเกลาเด็กคนนี้ให้เป็นฮ่องเต้ที่ดี คงมีเพียงการทำเช่นนี้ที่ลดทอนความรู้สึกผิดที่เคยให้คำสัตย์สาบานไว้ แม้ว่าชื่อของเขาจะเคยเป็นรัชทายาทก็ตาม เซียวเหรินก้มหน้าอ่านฏีกา หยิบพู่กันขึ

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 48. เหตุใดถึงเจ็บถึงเพียงนี้

    “ข้า...” หลันหลันอ้ำอึ้ง ไม่เคยคิดว่าตัวเองต้องไปจากที่นี่ ไม่ใช่หรอก นางมิได้อาลัยสถานที่แห่งนี้ มีเพียงความรู้สึกที่ต้องจากไกลเซียว เหรินต่างหากที่ทำให้นางปวดใจมือเรียวเล็กยกขึ้นอกที่หน้าอกซ้าย บริเวณที่ถูกเซียวเหรินซัดฝ่ามือเข้าใส่ ความเจ็บปวดระลอกหนึ่งราวเข็มแหลมเล็กนับร้อยนับพันทิ่มแทงหัวใจเจ็บ?เหตุใดถึงเจ็บถึงเพียงนี้“หลันหลัน” อู๋หมินลี่เห็นใบหน้าหลันหลันซีดเซียวไร้สีเลือดก็ตื่นตระหนก “เจ้าเจ็บรึ ให้ข้าตามหมอดีหรือไม่”หลันหลันส่ายหน้าไปมา ครู่หนึ่งนางสูดลมหายใจลึกสะกดความเจ็บปวดทั้งหมดแล้วฝืนยิ้มให้อู๋หมินลี่ พลันเสียงของท่านป้าต๋าฝูดังแว่วเข้ามาในหัวน้อยๆ ของนาง‘มีเวลาเพียงสี่สิบเก้าวัน’จากบันทึกของเซียวเหริน นางเหลือเวลาอีกแค่สามวันแต่ถ้านางลองให้กงอี้เทาถอนมนตร์สะกดจิต บางทีนางอาจมีชีวิตได้ยาวนานกว่านี้ แต่ชีวิตของอูหลันโหยว ไม่อาจอยู่ที่แคว้นเฉียน เหลียงได้“หลันหลัน” อู๋หมิ่นลี่บีบมือเย็นเฉียบของหลันหลัน “ข้าพาเจ้ากลับที่พักดีกว่า” “ให้ข้าประคองนางเองเจ้าค่ะ” ไป๋ชิวเข้ามาช่วยประคองหลันหลันเพื่อเดินกลับที่พัก อู๋ซิงว่านผ่านมาพอดีเห็นไป๋ชิวประคองหลันหลันอยู

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 47.ให้นางตัดสินใจเอง

    นางมุดอยู่ใต้ผ้าห่มแต่หูได้ยินเสียงพวกเขาตกลงต่อรองกัน สุดท้ายกงอี้เทาได้แต่ถอนหายใจหนักหน่วงแล้วก้าวออกไป นางคิดว่าในห้องไม่มีใครแล้วจึงโผล่หน้าออกมาจากผ้าห่ม แต่กลับพบสายตาคู่หนึ่งจ้องมองอยู่ก่อนแล้ว “ระหว่างนี้เจ้าพักอยู่ที่นี่ไปก่อน ข้าจะเป็นฝ่ายหาเวลามาพบเจ้าเอง” เขาพูดด้วยน้ำเสียงสงบนิ่งเช่นที่เคยเป็น “เข้าใจหรือไม่” นางพยักหน้าขึ้นลงเร็วๆ แทนคำตอบ เซียวเหรินไม่เอ่ยอะไรอีก หมุนตัวแล้วเดินออกไปเงียบๆ จนนางมั่นใจว่าครั้งนี้ไม่มีผู้อื่นแล้วจริงๆ จึงยอมลุกขึ้นจากที่นอนอีกครั้ง ‘ให้นางตัดสินใจเอง’ นางคิดมากจนตาลายเดือดร้อนบ่าวรับใช้ที่เฝ้าดูอาการเข้าใจผิดคิดว่าอาการของนางทรุดลง อู๋ซิงว่านรีบเข้ามาดูอาการของนาง พอรู้ว่านางหิวโหยจนหน้ามืดก็แหงนหน้าหัวเราะไม่เกรงใจคนป่วยอย่างนาง สั่งการให้บ่าวไพรยกสำรับอาหารมาให้ หลังจากถูกบิดาเรียกไปอบรม เขารู้ว่าควรทำใจเรื่องหลันหลัน อาจเพราะนางเป็นคนให้กำลังใจจนเขาสามารถใช้แขนขวาได้อีกครั้ง แต่พอรู้ว่านางอาการทรุดลงก็รีบมาดูทันที ใครจะรู้ว่านางแค่หิว ไม่สิ นางหิวมากจนจะเป็นลม ระ

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 46.ผลของการกระทำ

    “คุณหนู” ไป๋ชิวร้อนรน แต่หมอที่เก่งที่สุดกำลังดูแลสตรีอื่นจนทำให้คุณหนูของนางเป็นเช่นนี้ “ข้าไม่เป็นอะไร” นางพยายามสูดลมหายใจลึก แม้รู้อยู่แก่ใจว่าเซียวเหรินมองนางด้วยสายตาเช่นไร แต่นางก็ยังหวัง หวังว่าจะมีสักวันที่เขาจะรับรู้ความรู้สึกของนาง เปิดใจให้นางบ้าง “ไป๋ชิว พาคุณหนูใหญ่ไปพักผ่อนก่อน” อู๋ซั่วไต้เอ่ยขึ้นแล้วมองบุตรสาวด้วยความเห็นใจต่อให้ไม่มีสตรีผู้นั้นเข้ามา หรือแม้กระทั่งเขาจะใช้คนของหมู่ตึกนกยูงทองช่วยชีวิตคนสกุลเซียวเอาไว้ เขาย่อมรู้ดีว่าเรื่องเหล่านี้จะเอามาเป็นบุญคุณเพื่อให้เซียวเหรินแต่งงานกับอู๋หมิ่นลี่ได้ แต่ด้วยฐานะที่แท้จริงของเซียวเหริน อู๋ซั่วไต้รู้ดีว่า บุตรสาวของเขาไม่สามารถเคียงข้างชายผู้นั้นได้ ไม่สิ จะเรียกเซียวเหรินเช่นแต่ก่อนได้อย่างไร ในเมื่อตอนนี้เป็นถึง... “ท่านพ่อ” อู๋หมิ่นลี่กลั้นน้ำตาที่เอ่อคลอ “ท่านรู้อยู่แล้วว่าท่านเซียวเป็นใคร จึงพยายามเตือนลูกใช่ไหมเจ้าคะ” “ลี่เอ๋อร์ เจ้าหักห้ามใจตัวเองเสียเถิด ยังมีบุรุษดีๆ อีกมากมาย พ่อจะคัดเลือกคนที่ดีและเหมาะสมกับเจ้าเอง” “แต่ว่า.

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 45.เสียงเรียกที่แฝงอำนาจ

    “ลูกข้าเป็นอะไร” ไทเฮาถามด้วยสีหน้าตื่นตระหนก “รักษาเขาสิ!” เซียวเหรินถึงกับนิ่งงันด้วยอับจนถ้อยคำ แต่ฮ่องเต้หงฉานหัวเราะเสียงปร่าแล้วโบกมือไปมา “มันใหญ่มากใช่ไหมละ” เขาหัวเราะขืนๆ “อะไรกัน” ไทเฮาหันมาถามอย่างงุนงง แต่เซียวเหรินไม่กล้าพูดออกมา “มันคือฝี” ฮ่องเต้ที่กำลังจะกลายเป็นเพียงอดีตฮ่องเต้พูดขึ้นแล้วกดไปที่ท้องของตัวเอง “กระจายไปทั่วท้องแล้ว” “ไม่จริง... เหตุใดเป็นเช่นนี้” “เป็นมาเนิ่นนานแล้ว หมอหลวงรักษาไม่ได้ ลูกจึง...ไม่ใส่ใจกับมันอีก” ไทเฮาหันมาเขย่าแขนของเซียวเหริน “เจ้าได้ชื่อว่าเป็นหมอเทวดา ต้องรักษาได้!” “ถ้าได้รับการรักษาก่อนหน้านี้คงจะ...” “ช่างมันเถอะ” ฮ่องเต้หงฉานโบกมือไปมาจ้องมองใบหน้าของเซียวเหริน “เรารู้ ถึงได้ปล่อยให้มันเป็นเช่นนี้” “เจ้า! ทำไมโง่เช่นนี้” “เสด็จแม่” ฮ่องเต้พูดอย่างอ่อนแรง “ท่านเองก็รู้ว่า เสด็จพ่อยกบัลลังก์นี้ให้ใครตั้งแต่แรก” “หุบปากเสีย!” “เสด็จแม่...แท้จริงแล้วบัลลังก์นี้เป็น

DMCA.com Protection Status