Share

Chapter 42.ตามแผน

last update Last Updated: 2024-12-28 11:18:06

            “เจ้าชอบใครกันแน่”  กงเสวี่ยหลิงนึกถึงเรื่องที่จางซงหยวนเล่าให้นางฟัง  จางซงหยวน กงอี้เทา และเซียวเหรินเป็นศิษย์ร่วมอาจารย์  อาจารย์หญิงของอูหลันโหยวเป็นสหายกับอาจารย์ของเซียวเหริน  แม้ไม่ได้สนิทสนมมากนัก แต่จางซงหยวนซึ่งทำหน้าที่สืบข่าวย่อมสังเกตเห็นรอยวูบไหวในแววตาของอูหลันโหยวยามพูดถึงเซียวเหริน

            “ยังไม่เลิกพูดเรื่องนี้อีก”  อูหลันโหยวส่ายหน้าไปมา

            “ก็ข้าอยากเห็นเจ้ามีความสุข” กงเสวี่ยหลิงกล่าวจากใจจริง เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจนี้ พวกเขาต่างให้สัญญาว่าจะดูแลอูหลันโหยวอย่างดี ชดเชยที่นางต้องลำบากมามาก

            อูหลันโหยวเห็นสีหน้ากังวลของกงเสวี่ยหลิงแล้ว นางก็เผลอหัวเราะออกมา

            “ข้านึกออกแล้วว่าข้าอยากทำอะไร”

            “เจ้านึกออกแล้ว!”

            “ข้าอยู่เลี้ยงลูกของเจ้ากับจางซงหยวนดีที่สุด!” 

            “เจ้า!”

            กงเสวี่ยหลิงเขินอายจนแก้มนวลแดงปรั่ง ยกมือขึ้นทุบแขนของสหายแก้เขิน อูหลันโหยวได้แต่หัวเราะกลบเกลือนความปวดร้าวในอก นางไม่อาจคิดหวังถึงชีวิตวันข้างหน้าได้เลย

            เพราะความผิดหวังมันเจ็บปวด นางยอมให้ตัวเองเจ็บปวดทั้งที่รู้ว่าไม่สมหวังไม่ได้เด็ดขาด!

            ภาพความทรงจำกลายถาโถมมาเป็นระลอกๆ ทุกครั้งที่หลันหลันหลับใหล เรื่องราวของอูหลันโหยว จะหลั่งไหลราวกับสายฝนที่สาดซัดเข้ามาทุกทิศทุกทาง นางกลายเป็นนกน้อยที่ตัวเปียกปอนสั่นเทาโหยหาที่พึ่งพิง   นางนับวันเวลาที่เหลืออยู่ สี่สิบวันผ่านมาแล้ว นางมีชีวิตอยู่เพื่อทำความปรารถนาของ ‘อูหลันโหยว’ให้สำเร็จ  เพื่อตอบแทนพระคุณที่อูหลันโหยวเลี้ยงดูนางผู้เป็นนกมาอย่างดี  หากไม่มีมือคู่นั้น นางจะเป็นอย่างไร

            นางไม่รู้ว่า ความรู้สึกที่นางมีต่อเซียวเหรินนั้น เป็นความรู้สึกของนางเองหรือว่าเป็นความรู้สึกของอูหลันโหยว หรือเป็นนี่สิ่งเดียวที่นางรู้สึกตรงกัน  เพราะไม่อาจตัดใจจากคนที่รัก จึงเหนี่ยวรั้งดวงจิตของนางที่เป็นเพียงนกน้อยไว้ ไม่ใช่แค่ทำเพื่อบ้านเมือง แต่เพราะต้องการช่วยให้คนที่รักได้หลุดพ้นจากคนชั่วช้า

            มือเรียวยกขึ้นแตะริมฝีปากอย่างไม่รู้ตัว สัมผัสที่เกิดขึ้นแตกต่างจากทุกครั้ง ลมหายใจอุ่นร้อนของเขาไหลเวียนในกายนาง ตั้งแต่นางตื่นฟื้นขึ้นมาในร่างของอูหลันโหยว ร่างกายของนางค่อนข้างเย็น แม้ได้ กลืนกินลมหายใจของเขาก็ทำให้ร่างได้พอมีเรียวแรงเคลื่อนไหวได้  ผิดกับครั้งนี้ ร่ายกายนางอุ่นร้อนขึ้นมา และไม่มีทีท่าว่าจะกลับไปเยียบเย็นลงอีก   ชีพจรนางก็เต้นแรงและคงที่ 

เกิดอะไรกับร่างกายนี้

            หญิงสาวกะพริบตา  ปรับสายตาอยู่ครู่หนึ่งก่อนยันกายขึ้นนั่งบนเตียงในห้องนอนที่ถูกจัดไว้ให้  ท้องฟ้ายังไม่สว่างมากนัก นางรีบผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้า ข้อดีของการนำคณะปาหี่เข้าวังหลวงคือนางมีเสื้อผ้ามากมายสำหรับผลัดเปลี่ยน  ความทรงจำของอูหลันโหยวนำทางให้นาง นางรู้ว่าต้องทำสิ่งใด เคลื่อนไหวอย่างไรจึงจะไม่ถูกจับได้ ไม่เพียงแค่นั้น นางยังมี ‘ภาพจำ’ จากการที่นางเคยเป็นนกหงส์หยกมาก่อน  ยามนางอยู่บนที่สูงย่อมมองเห็นทุกสิ่งได้ชัดเจน  แค่ได้เห็นว่าความเป็นอยู่ของเซียวเหรินไมได้เลวร้ายนัก นางก็เบาใจ  หลันหลันเผลอยิ้มออกมาขณะวาดปลายเท้าออกไปด้านนอก ฝีเท้าของนางเบาจนไม่มีผู้ใดล่วงรู้การเคลื่อนไหวของนาง           

            จูเต๋ออี้ถูกคุมขังในคุกที่หนาวเหน็บ ดวงตาข้างหนึ่งบวมปูดจนแทบปิด ตามร่างกายบาดเจ็บหลายแห่งแต่ไม่สาหัสนัก ทว่าร่างกายไร้เรี่ยวแรงได้แต่เอนหลังผิงกำแพงหิน คนพวกนั้นคงเห็นว่าเขาสิ้นสภาพแล้วจึงไม่ได้ล่ามโซ่ตรวนไว้  เขาได้แต่โทษตนเองที่คุ้มกันท่านเซียวไม่ได้  เขาหลับตาลงอย่างอ่อนล้า

นึกย้อนถึงวัยเด็กที่แสนลำบาก มารดาของเขาเป็นเพียงหญิงรับใช้แม้บิดาเป็นขุนนางใหญ่แต่เพราะมารดามีชาติกำเนิดต่ำต้อยจึงถูกฮูหยินกลั่นแกล้งรังแก  มารดาให้กำเนิดบุตรชายแต่ก็ไม่ได้นำพาชีวิตที่สุขสบายมาให้ เขาเติบโตอย่างลำบากจนกระทั้งวันที่มารดาป่วยหนัก เขาวิงวอนต่อบิดาให้เชิญหมอมารักษาแต่กลับไร้ความช่วยเหลือใด  ในวัยที่เขาอายุเพียงสิบสาม  วิ่งฝ่าลมพายุไปทุบประตูโรงหมอเพื่อขอซื้อยามารักษามารดา ทั้งที่ตัวเขาเองเหลือปิ่นทองของมารดาเพียงชิ้นเดียว จะเป็นความบังเอิญหรือโชคชะตาลิขิตเขาได้พบเซียวเหรินที่โรงหมอแห่งนั้น

            ‘ข้าไม่ใช่หมอแต่จะไปดูอาการของมารดาเจ้าได้’

            เขาลอบพาเซียวเหรินมาพบมารดา เซียวเหรินตรวจอาการและลงมือเคี่ยวยาด้วยตนเอง แต่กระนั้นมารดาของเขาที่สะสมโรคร้ายมานาน รักษาอยู่เจ็ดวันก็จากไปอย่างสงบ แม้เขาจะเสียใจแต่อย่างน้อยมารดาจากไปอย่างไม่ทรมาน  เมื่อไม่มีมารดาแล้วเขาจึงออกจากบ้านหลังนั้นอย่างไร้เยื่อใย ติดตามเซียวเหรินฝึกฝนตนเองในฐานะองครักษ์

            จูเต๋ออี้ได้แต่หงุดหงิดโมโหตนเอง หากเขาแข็งแกร่งกว่านี้ สู้กับคนเกือบสามสิบสิบคนนั้นได้  ท่านเซียวคงไม่ถูกจับกุมตัวเช่นนี้  แม้ร่างกายจะบาดเจ็บแต่ประสาทการรับรู้ยังคงดีเยี่ยม เขาเบิกตาที่เกือบจะปิดให้กว้างมากขึ้น เพ่งมองเงาดำที่เคลื่อนไหวอยู่ตรงประตู เขากดหัวคิ้วลงอย่างเคร่งเครียดพยายามปลุกสติให้ตื่นตัวรับสถานการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น แต่ต้องประหลาดใจจนต้องหยีตามองคนเบื้องหน้าอีกครั้ง

            ร่างบอบบางในอาภรณ์งดงามเดินเข้ามาใกล้ หญิงสาวส่งรอยยิ้มกว้างให้อย่างคุ้นเคยแล้วหันไปพูดกับทหารยามที่เฝ้าประตูคุก นางเพียงชี้นี้ไปที่กุญแจ ทหารยามท่าทางเหม่อลอยก็ไขกุญแจเปิดประตูคุกให้นางก้าวเข้าด้านในได้  จูเต๋ออี้แทบไม่เชื่อสายตาจนกระทั่งหญิงสาวเดินเข้ามาใกล้แล้วทรุดตัวนั่งย่องๆ ยื่นหน้าจ้องมองเขาพร้อมรอยยิ้ม

            “พี่เต๋ออี้”

            “หลันหลัน!”

            “อื้ม!” นางพยักหน้าขึ้นลง “ข้าเอง”

            “เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร!”

            “ข้าก็เดินเข้ามาอย่างไรเล่า”  นางหัวเราะคิกคัก แต่สายตาพิจารณาบาดแผลตามร่างกายของอีกฝ่าย แล้วล้วงมือไปหยิบห่อผ้าเช็ดหน้าออกมาจากอกเสื้อ  จูเต๋ออี้ประหลาดใจกับการมาของนางยิ่ง แม้กระทั่งท่าทีไร้ความหวาดกลัวของนาง นางเปิดห่อผ้าเช็ดหน้าออกมา หยิบผมไม้เชื่อมชิ้นหนึ่งจ่อที่ปากของเขา

            “พี่เต๋ออี้ อ้าปาก”

            “นี่เจ้า!”  นี่มันเวลาอะไรกัน นางมาป้อนขนมให้เขากินเช่นนี้!

            “นี่เป็นของวิเศษ พี่เต๋ออี้กินก่อน เราจะได้ออกไปจากที่นี่กัน”

            เพราะนางบอกว่าจะไปจากที่นี่ เขาจึงจำใจเชื่อฟังนาง อ้าปากเป็นนกน้อยให้นางป้อนผลไม้เชื่อม  เมื่อกัดเข้าไปจึงรู้ว่าไม่ใช่ผลไม้เชื่อม รสขมฝาดในปากทำให้เขาอยากคายออกแต่มือเล็กของหญิงสาวกลับยื่นมาปิดปากของเขาไว้

            “กลืน”

            หลันหลันโล่งอกที่เห็นจูเต๋ออี้กลืนยาของตนลงคอแล้ว ครู่ต่อมา

จึงเห็นสีหน้าของเขาดีขึ้น  นางรู้ว่าจูเต๋ออี้จะถามอะไรต่อ แต่นางรีบเข้าไป

ประคองแล้วพาเดินออกมานอกคุก โดยที่ทหารยามยังคงมีท่าทีเหม่อลอย

และปิดประตูคุกให้ทั้งสองคนอีกด้วย

            “ข้าออกไปส่งพี่เต๋ออี้ไม่ได้ แต่จะมีคนพาท่านออกไป”  นางพูดขึ้นแล้วส่งต่อให้ทหารผู้หนึ่งที่มีท่าทีเหม่อลอยเหมือนคนที่เปิดประตูให้นางประคองร่างจูเต๋ออี้  นางรู้ว่าจูเต๋ออี้จะถามอะไรจึงรีบชิงพูดขึ้นมาก่อน

            “ออกจากที่นี้ไป จะมีคนรอรับท่านอยู่ด้านนอก ระหว่างนี้อย่าได้พูดคุยหรือส่งเสียงใดทั้งสิ้นเรื่องท่านเซียวไม่ต้องกังวลยามนี้ท่านเซียวปลอดภัยดี ขอให้พี่เต๋ออี้วางใจได้” แม้ใบหน้าจะแย้มยิ้มแต่น้ำเสียงกลับมีความเคร่งเครียดไม่น้อย

“ที่ผ่านมาพี่เต๋ออี้ดูแลข้าอย่างดียิ่ง ข้าหลันหลันขอจำใส่ใจไว้”

            “เจ้า”

Related chapters

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 43.เจ้าตายไปแล้ว

    “จำไว้ ระหว่างออกจากที่นี้อย่าพูดคุยกับผู้ใดและห้ามส่งเสียงจนกว่าจะถึงนอกกำแพงรั้ว จากนั้นจะมีคนมารับพี่เต๋ออี้เอง” นางส่งจูเต๋ออี้ให้ทหารอีกคนรับช่วงต่อ ได้แต่ยืนส่งจนสุดสายตา คนที่ต้องช่วยก็จัดการแล้ว จากนี้ไปได้แต่หวังว่า คนที่ส่งไปเจรจากับเซียวเหรินจะสามารถเกลี้ยกล่อมให้ชายผู้นั้นร่วมมือได้ แต่ถ้าไม่เป็นไปตามที่คิด คงไม่มีทางเลือกอื่น สิ่งที่นางจำเป็นต้องทำแม้จะฝืนใจก็ต้องทำให้สำเร็จให้จงได้ งานสมโภชฉลองวันประสูติของไทเฮาจัดอย่างยิ่งใหญ่แม้จะเกิดขึ้นท่ามกลางกระแสความกดดันจากทุกฝ่าย ความเคลื่อนไหวของชาวบ้านที่ไม่พอใจเหล่าเชื้อพระวงศ์ที่กดขี่ราษฎร การเก็บภาษีที่ขูดรีดจนชาวบ้านลุกฮือขึ้นต่อต้านแต่ไม่อาจต่อสู้กลับอำนาจทางการได้ หลายคนถูกจับเข้าคุก หลายคนหลบหนีเข้าร่วมกับเผ่าอื่นๆ กลายเป็นกองโจรขนาดเล็กที่พร้อมปกป้องตนเอง เหล่าขุนนางแบ่งเป็นหลายฝักหลายฝ่าย บางกลุ่มเห็นใจราษฎรแต่ไม่อาจตั้งตัวขึ้นปกป้องได้เกรงจะกลายเป็นการก่อการกบฏ งานสมโภชในวันนี้จัดยิ่งใหญ่ใช้เงินไปหลายล้านตำลึงเพียงทั้งที่เงินในท้องพระคลังร่อยหรอเต็มที แม้ร

    Last Updated : 2024-12-28
  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 44.รับผลกรรม

    “พวกเจ้า! คนสกุลเซียวรึ! พวกเจ้าสบคบกับคนนอกกล้าล้มบัลลังก์ของข้า!” “เดิมทีมันก็ไม่ใช่ของพวกเจ้าอยู่แล้ว” นายผู้เฒ่าสกุลเซียวที่ถูกช่วยชีวิตมาปรากฏเบื้องหน้า ไทเฮาถึงกับผงะไปทันที “ตาเฒ่าเซียว! เจ้ายังอยู่อีกเรอะ!” “เพื่อให้เห็นจุดจบของคนชั่วอย่างเจ้า ข้าจะตายก่อนได้อย่างไร” ผู้เฒ่าเซียวหัวเราะด้วยความเคียดแค้น สกุลเซียวจงรักภักดีมาตลอด แม้มีบุตรสาวก็ส่งเข้าวังหลวงมิได้หาผลประโยชน์ใด เพียงแค่ต้องการแสดงความภักดี แต่กลับกลายเป็นว่า นางเป็นที่โปรดปรานจนทำให้ตระกูลเซียวถูกลั่นแกล้งเนรเทศออกจากเมืองหลวง สามร้อยแปดสิบสองกว่าชีวิตระเห็จระเหเร่รอนอย่างอนาถ เหลือรอดอยู่เพียงครึ่งเดียว หากไม่ใช่เพราะกงอี้เทายื่นมือช่วยเหลือ และหมู่ตึกนกยูงทองให้ที่หลบซ่อนแล้ว พวกเขาคงจะไม่มีวันได้เห็นวันนี้ “คุมตัวทั้งหมดไปตำหนักทางทิศตะวันตก” “พวกเจ้า!!” ไทเฮาได้แต่โมโหเดือดดาลจนหน้ามืด ผู้เฒ่าเซียวหันมาประกาศกับเหล่าทหารและขุนนางที่เหลืออยู่ “ข้าไม่ต้องการนองเหลือแต่ต้องการให้ประชาชนได้กินดีมีสุข เ

    Last Updated : 2024-12-28
  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 45.เสียงเรียกที่แฝงอำนาจ

    “ลูกข้าเป็นอะไร” ไทเฮาถามด้วยสีหน้าตื่นตระหนก “รักษาเขาสิ!” เซียวเหรินถึงกับนิ่งงันด้วยอับจนถ้อยคำ แต่ฮ่องเต้หงฉานหัวเราะเสียงปร่าแล้วโบกมือไปมา “มันใหญ่มากใช่ไหมละ” เขาหัวเราะขืนๆ “อะไรกัน” ไทเฮาหันมาถามอย่างงุนงง แต่เซียวเหรินไม่กล้าพูดออกมา “มันคือฝี” ฮ่องเต้ที่กำลังจะกลายเป็นเพียงอดีตฮ่องเต้พูดขึ้นแล้วกดไปที่ท้องของตัวเอง “กระจายไปทั่วท้องแล้ว” “ไม่จริง... เหตุใดเป็นเช่นนี้” “เป็นมาเนิ่นนานแล้ว หมอหลวงรักษาไม่ได้ ลูกจึง...ไม่ใส่ใจกับมันอีก” ไทเฮาหันมาเขย่าแขนของเซียวเหริน “เจ้าได้ชื่อว่าเป็นหมอเทวดา ต้องรักษาได้!” “ถ้าได้รับการรักษาก่อนหน้านี้คงจะ...” “ช่างมันเถอะ” ฮ่องเต้หงฉานโบกมือไปมาจ้องมองใบหน้าของเซียวเหริน “เรารู้ ถึงได้ปล่อยให้มันเป็นเช่นนี้” “เจ้า! ทำไมโง่เช่นนี้” “เสด็จแม่” ฮ่องเต้พูดอย่างอ่อนแรง “ท่านเองก็รู้ว่า เสด็จพ่อยกบัลลังก์นี้ให้ใครตั้งแต่แรก” “หุบปากเสีย!” “เสด็จแม่...แท้จริงแล้วบัลลังก์นี้เป็น

    Last Updated : 2024-12-28
  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 46.ผลของการกระทำ

    “คุณหนู” ไป๋ชิวร้อนรน แต่หมอที่เก่งที่สุดกำลังดูแลสตรีอื่นจนทำให้คุณหนูของนางเป็นเช่นนี้ “ข้าไม่เป็นอะไร” นางพยายามสูดลมหายใจลึก แม้รู้อยู่แก่ใจว่าเซียวเหรินมองนางด้วยสายตาเช่นไร แต่นางก็ยังหวัง หวังว่าจะมีสักวันที่เขาจะรับรู้ความรู้สึกของนาง เปิดใจให้นางบ้าง “ไป๋ชิว พาคุณหนูใหญ่ไปพักผ่อนก่อน” อู๋ซั่วไต้เอ่ยขึ้นแล้วมองบุตรสาวด้วยความเห็นใจต่อให้ไม่มีสตรีผู้นั้นเข้ามา หรือแม้กระทั่งเขาจะใช้คนของหมู่ตึกนกยูงทองช่วยชีวิตคนสกุลเซียวเอาไว้ เขาย่อมรู้ดีว่าเรื่องเหล่านี้จะเอามาเป็นบุญคุณเพื่อให้เซียวเหรินแต่งงานกับอู๋หมิ่นลี่ได้ แต่ด้วยฐานะที่แท้จริงของเซียวเหริน อู๋ซั่วไต้รู้ดีว่า บุตรสาวของเขาไม่สามารถเคียงข้างชายผู้นั้นได้ ไม่สิ จะเรียกเซียวเหรินเช่นแต่ก่อนได้อย่างไร ในเมื่อตอนนี้เป็นถึง... “ท่านพ่อ” อู๋หมิ่นลี่กลั้นน้ำตาที่เอ่อคลอ “ท่านรู้อยู่แล้วว่าท่านเซียวเป็นใคร จึงพยายามเตือนลูกใช่ไหมเจ้าคะ” “ลี่เอ๋อร์ เจ้าหักห้ามใจตัวเองเสียเถิด ยังมีบุรุษดีๆ อีกมากมาย พ่อจะคัดเลือกคนที่ดีและเหมาะสมกับเจ้าเอง” “แต่ว่า.

    Last Updated : 2024-12-31
  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 47.ให้นางตัดสินใจเอง

    นางมุดอยู่ใต้ผ้าห่มแต่หูได้ยินเสียงพวกเขาตกลงต่อรองกัน สุดท้ายกงอี้เทาได้แต่ถอนหายใจหนักหน่วงแล้วก้าวออกไป นางคิดว่าในห้องไม่มีใครแล้วจึงโผล่หน้าออกมาจากผ้าห่ม แต่กลับพบสายตาคู่หนึ่งจ้องมองอยู่ก่อนแล้ว “ระหว่างนี้เจ้าพักอยู่ที่นี่ไปก่อน ข้าจะเป็นฝ่ายหาเวลามาพบเจ้าเอง” เขาพูดด้วยน้ำเสียงสงบนิ่งเช่นที่เคยเป็น “เข้าใจหรือไม่” นางพยักหน้าขึ้นลงเร็วๆ แทนคำตอบ เซียวเหรินไม่เอ่ยอะไรอีก หมุนตัวแล้วเดินออกไปเงียบๆ จนนางมั่นใจว่าครั้งนี้ไม่มีผู้อื่นแล้วจริงๆ จึงยอมลุกขึ้นจากที่นอนอีกครั้ง ‘ให้นางตัดสินใจเอง’ นางคิดมากจนตาลายเดือดร้อนบ่าวรับใช้ที่เฝ้าดูอาการเข้าใจผิดคิดว่าอาการของนางทรุดลง อู๋ซิงว่านรีบเข้ามาดูอาการของนาง พอรู้ว่านางหิวโหยจนหน้ามืดก็แหงนหน้าหัวเราะไม่เกรงใจคนป่วยอย่างนาง สั่งการให้บ่าวไพรยกสำรับอาหารมาให้ หลังจากถูกบิดาเรียกไปอบรม เขารู้ว่าควรทำใจเรื่องหลันหลัน อาจเพราะนางเป็นคนให้กำลังใจจนเขาสามารถใช้แขนขวาได้อีกครั้ง แต่พอรู้ว่านางอาการทรุดลงก็รีบมาดูทันที ใครจะรู้ว่านางแค่หิว ไม่สิ นางหิวมากจนจะเป็นลม ระ

    Last Updated : 2024-12-31
  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 48. เหตุใดถึงเจ็บถึงเพียงนี้

    “ข้า...” หลันหลันอ้ำอึ้ง ไม่เคยคิดว่าตัวเองต้องไปจากที่นี่ ไม่ใช่หรอก นางมิได้อาลัยสถานที่แห่งนี้ มีเพียงความรู้สึกที่ต้องจากไกลเซียว เหรินต่างหากที่ทำให้นางปวดใจมือเรียวเล็กยกขึ้นอกที่หน้าอกซ้าย บริเวณที่ถูกเซียวเหรินซัดฝ่ามือเข้าใส่ ความเจ็บปวดระลอกหนึ่งราวเข็มแหลมเล็กนับร้อยนับพันทิ่มแทงหัวใจเจ็บ?เหตุใดถึงเจ็บถึงเพียงนี้“หลันหลัน” อู๋หมินลี่เห็นใบหน้าหลันหลันซีดเซียวไร้สีเลือดก็ตื่นตระหนก “เจ้าเจ็บรึ ให้ข้าตามหมอดีหรือไม่”หลันหลันส่ายหน้าไปมา ครู่หนึ่งนางสูดลมหายใจลึกสะกดความเจ็บปวดทั้งหมดแล้วฝืนยิ้มให้อู๋หมินลี่ พลันเสียงของท่านป้าต๋าฝูดังแว่วเข้ามาในหัวน้อยๆ ของนาง‘มีเวลาเพียงสี่สิบเก้าวัน’จากบันทึกของเซียวเหริน นางเหลือเวลาอีกแค่สามวันแต่ถ้านางลองให้กงอี้เทาถอนมนตร์สะกดจิต บางทีนางอาจมีชีวิตได้ยาวนานกว่านี้ แต่ชีวิตของอูหลันโหยว ไม่อาจอยู่ที่แคว้นเฉียน เหลียงได้“หลันหลัน” อู๋หมิ่นลี่บีบมือเย็นเฉียบของหลันหลัน “ข้าพาเจ้ากลับที่พักดีกว่า” “ให้ข้าประคองนางเองเจ้าค่ะ” ไป๋ชิวเข้ามาช่วยประคองหลันหลันเพื่อเดินกลับที่พัก อู๋ซิงว่านผ่านมาพอดีเห็นไป๋ชิวประคองหลันหลันอยู

    Last Updated : 2024-12-31
  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 49.คิดถึง

    “งานเหล่านี้แท้จริงเป็นของเจ้า ยามนี้ลุงแค่ช่วยจัดการให้ไปก่อน” เขาพูดอย่างใจเย็น บ้านเมืองต้องพลิกฟื้นเป็นการใหญ่ กว่าจะเข้ารูปเข้ารอยคงใช้เวลาอีกสามถึงสี่เป็นอย่างน้อย เขาก้มมองเห็นเด็กน้อยทำหน้านิ่วก็หัวเราะเบาๆ “เจ้าต้องหมั่นเรียนรู้ เข้าใจหรือไม่” “หลานทราบแล้ว เสด็จลุง” “ดี” เขาพูดแล้วขยับปลายนิ้วเรียกจูเต๋ออี้ องครักษ์ข้างกายที่ทำหน้าที่รับใช้มายาวนานถอยออกไป ครู่หนึ่งจึงเดินกลับเข้ามาพร้อมขนม เด็กน้อยทำตาโตแล้วยื่นมือไปรับขนมจากเซียวเหริน “ข้าให้ในครัวปรุงให้เจ้าเป็นพิเศษ ในนี้มีส่วนผสมของสมุนไพรบำรุงร่างกาย เจ้าจะได้แข็งแรงเติบใหญ่เร็วไว” “ขอบพระทัยเสด็จลุง” “ไปเถอะ” “อื้ม!” เด็กน้อยปีนลงจากตัก ขันทีผู้หนึ่งเข้ามารับ เขามองเด็กน้อยที่ชะตาชีวิตลิขิตให้นั่งบัลลังก์มังกร ได้แต่หวังว่าตัวเองจะขัดเกลาเด็กคนนี้ให้เป็นฮ่องเต้ที่ดี คงมีเพียงการทำเช่นนี้ที่ลดทอนความรู้สึกผิดที่เคยให้คำสัตย์สาบานไว้ แม้ว่าชื่อของเขาจะเคยเป็นรัชทายาทก็ตาม เซียวเหรินก้มหน้าอ่านฏีกา หยิบพู่กันขึ

    Last Updated : 2024-12-31
  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 50.ใช้หัวใจฟังเสียวหัวใจสิ

    “เจ้าอยู่ที่นี่ให้ข้าถอนพิษให้เจ้าเถิด” “ข้าจะอยู่ที่นี่ในฐานะอะไรได้” นางส่ายหน้าไปมาบนอกเสื้อของเขา นางจงใจทำร้ายองค์ชายหงก่วงต่อหน้าผู้อื่นหากนางยืนข้างกายเขา คนภายใต้การปกครองย่อมมองเขาไม่ดีเป็นแน่ ขณะที่สมองและหัวใจตีกันยุ่งเหยิง ปลายคางของนางถูกช้อนขึ้น ตามด้วยริมฝีปากหยักสวยทาบทับ นางคิดจะถอยหลังหลบหนีแต่เรียวลิ้นร้อนไล่ต้อนจนนางไม่อาจตั้งสติคิดสิ่งใดได้ ถูกจุมพิตของเขาทำให้สับสนจนเกือบขาดอากาศหายใจเขาจึงยอมละริมฝีปากจากนาง “ใจร้าย!” นางทุบแผ่นอกแกร่งของเขา “ข้าต้องการเวลาคิด”“เรื่องแบบนี้ต้องคิดอะไรนานนัก” เขาโน้นหน้าลงจุมพิตดวงตาของนางที่ยังมีหยาดน้ำตาวาวใส “ใช้หัวใจฟังเสียงหัวใจสิ”‘ใช้หัวใจฟังเสียงหัวใจสิ’เป็นอีกครั้งที่นางได้ยินประโยคนี้ ดวงตาของนางเหม่อลอยไปชั่วขณะ และในจังหวะเดียวกัน เซียวเหรินตัดสินใจทำในสิ่งที่ตนเองต้องการ ช้อนร่างนุ่มนิ่มไว้แนบอกพานางกลับมาที่ห้องนอนของตนเอง การกักขังนกตัวหนึ่งไว้นั้น อาจไม่ใช่กรงขังที่แน่นหนาแต่เป็นความรู้สึกปรารถนาที่มีต่อนางจูเต๋ออี้เห็นผู้เป็นนายกลับมาพร้อมกับอุ้มหญิงสาวที่ซุกอยู่ในอกจนแทบมองไม่เห็นใบ

    Last Updated : 2024-12-31

Latest chapter

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 53.จบ

    ชีวิตสี่ปีของหลันหลันเป็นเช่นนี้เรื่อยมา หลัววั่งรู้สึกว่ามีคนเข้ามา จึงเงยหน้าขึ้น เมื่อเห็นว่าผู้มาใหม่เป็นใครเขาก็ส่งยิ้มกว้างแล้วเดินออกไปอย่างเงียบๆ “ท่านรีบกลับเถิด ที่นี่ข้าจัดการเองได้” “ไยรีบไล่ข้าไปเล่า หรือเจ้านัดผู้ใดไว้” หญิงสาวได้ยินน้ำเสียงที่คุ้นเคยจึงเงยหน้าขึ้น บุรุษร่างสูงโปร่งสวมอาภรณ์สีเขียวใบไผ่ใบหน้าอ่อนล้าแต่ยังมีรอยยิ้มอ่อนโยน“ท่านมาแล้ว”เซียวเหรินส่งยิ้มให้นาง แม้เหนื่อยล้าจากการเร่งรีบเดินทางมา ทว่าเพียงได้เห็นรอยยิ้มนาง ความเหน็ดเหนื่อยเหล่านั้นพลันมลายหายไปสิ้น“เหตุใดกลับเร็วนักเล่า” หลันหลันอดเป็นห่วงไม่ได้ “ตามจริงต้องอีกสิบวันท่านจะกลับไม่ใช่หรือ? เดินทางไปตรวจดูการซ่อมแซมเขื่อนเป็นอย่างไรบ้าง ”“เจ้าไม่อยากเห็นหน้าสามีหรือไร”เขาทำเสียงไม่พอใจแต่เดินไปนั่งใกล้ๆ แล้วจับชีพจรให้นาง และไม่พูดเรื่องงานกับนาง จะว่าไป ก็ไม่มีมีเรื่องใดในชีวิตของเขาที่หลุดรอดสายตาของนาง เช่นเดียวกับที่เขารู้ว่าในแต่ละวันนางทำอะไร นางมีคนคอยส่งข่าว ส่งเขาให้จูเต๋ออี้วางองครักษ์ลับไว้โดบรอบ “พิษในตัวข้ายังต้องใช้เ

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 52.ไม่มีอะไรให้ลังเลและกังวลอีกแล้ว

    “คิดสิ” นางหัวเราะเบาๆ เสียงหัวเราะของนางทำให้กงอี้เทาปล่อยนางจากวงแขน เขาคิดว่านางจะเปลี่ยนใจจึงยอมคลายมือจากข้อมือนาง ทำให้นางส่งยาเม็ดนั้นส่งเข้าปากแล้วกลืนลงคอทันทีท่ามกลางดวงตาที่เบิกกว้างของกงอี้เทา “เจ้า!” “ข้าไม่เสียใจ” นางยิ้มแล้วยกมือลูบใบหน้าของกงอี้เทา “บอกจางซงหยวนให้ดูแลกงเสวี่ยหลิงให้ดี” “หลันโหยว!” “ข้าอยากขอร้องเจ้าครั้งสุดท้าย” นางพูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาลง “ได้ข้ารับปากเจ้า ข้ารับปากเจ้าทุกเรื่อง” กงอี้เทาประคองร่างที่อ่อนยวบลงในวงแขน มือของเขาสั่นเทาอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ใบหน้าของหญิงสาวมีรอยยิ้ม แต่ดวงตาของนางปิดลง ชีพจรเต้นช้าลง ร่างกายเริ่มเย็นเยียบขึ้นมาที่ละน้อย นางวางมือไว้บนหน้าอก บริเวณหัวใจของตนเองที่เต้นแผ่วเบาลงไปทุกที ทุกที ทุกที ไม่มีอะไรให้นางลังเลและกังวลอีกแล้ว..จูเต๋ออี้เดินเข้ามาอย่างเงียบเฉียบ ภาพที่เห็นจนเริ่มชินตาคือเจ้าของร่างสูงสง่านั่งเหยียดแผ่นหลังตั้งตรง แววตามุ่งมั่นและมือตวัดพู่กันแก้ไขปัญหาน้อยใหญ่ที่ฮ่องเต้พระองค์ก่อนทิ้งปัญหาไว้มากมายเหลือคณานับ

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 51. เจ้านกตะกละ

    “เจ้านกตะกละ!” เขาดุนางพลางแหวนหน้าคำรามเสียงพร่า ถูกนางรุกเร้าจนแท่งหยกไถลลื่นเข้าไปจนสุด นางหวีดร้องเบาๆ โผเข้ากอดเขา ปลายเล็บจิกที่แผ่นหลังไม่เคยรู้เลยว่าบุรุษผู้นี้จะมีซ่อนสิ่งใหญ่โตไว้ถึงเพียงนี้ ความเสียวซ่านแผ่นกระจายไปทั่วร่าง จนถึงปลายนิ้วเท้าที่เกร็งแทบเป็นตะคริว นางครวญเสียงกระเส่า ยามเมื่อเขาขยับสะโพกถอนแก่นกายออกช้าๆ แล้วกดกลับเข้ามาใหม่ นางได้แต่หวีดร้องส่งเสียงครางแทบขาดใจ เหงื่อร้อนหลั่งออกมาจนหยดบนกายของนาง ความเจ็บแปลบที่เกิดขึ้นในคราวแรกหายไปสิ้น ทุกการเติมเต็มของเขาทำให้ร่างกายที่เคยเยียบเย็นร้อนระอุ เหงื่อร้อนผุดขึ้นทุกรูขุมขน ร่างกายนางทวีความร้อนและเปียกชื้น รวมทั้งที่ใจกลางของดอกไม้สาวที่รองรับการเคลื่อนไหวของผีเสื้อหนุ่มช่างแนบแน่น ลึกล้ำและซ่านเสียว“ข้า...” นางไม่รู้ว่าตนเองจะพูดอะไร เขาป้อนความสุขสมที่นางไม่เคยรู้จัก ทำให้นางอิ่มเอมครั้งแล้วครั้งเล่า และหิวโหยต้องการไม่สิ้นสุด ไม่ว่าท่วงท่าใดที่เขานำพา ล้วนทำให้นางปรารถนาในตัวเขามากขึ้น มากขึ้น“เซียวเหริน!”ดวงตาของเซียวเหรินราวลูกไฟ ไฟปรารถนาเผาไหม้หัวใจทำให้เคลื่อนไหวร่างกายเร็วขึ้น ถาโถมและโหมกระหน

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 50.ใช้หัวใจฟังเสียวหัวใจสิ

    “เจ้าอยู่ที่นี่ให้ข้าถอนพิษให้เจ้าเถิด” “ข้าจะอยู่ที่นี่ในฐานะอะไรได้” นางส่ายหน้าไปมาบนอกเสื้อของเขา นางจงใจทำร้ายองค์ชายหงก่วงต่อหน้าผู้อื่นหากนางยืนข้างกายเขา คนภายใต้การปกครองย่อมมองเขาไม่ดีเป็นแน่ ขณะที่สมองและหัวใจตีกันยุ่งเหยิง ปลายคางของนางถูกช้อนขึ้น ตามด้วยริมฝีปากหยักสวยทาบทับ นางคิดจะถอยหลังหลบหนีแต่เรียวลิ้นร้อนไล่ต้อนจนนางไม่อาจตั้งสติคิดสิ่งใดได้ ถูกจุมพิตของเขาทำให้สับสนจนเกือบขาดอากาศหายใจเขาจึงยอมละริมฝีปากจากนาง “ใจร้าย!” นางทุบแผ่นอกแกร่งของเขา “ข้าต้องการเวลาคิด”“เรื่องแบบนี้ต้องคิดอะไรนานนัก” เขาโน้นหน้าลงจุมพิตดวงตาของนางที่ยังมีหยาดน้ำตาวาวใส “ใช้หัวใจฟังเสียงหัวใจสิ”‘ใช้หัวใจฟังเสียงหัวใจสิ’เป็นอีกครั้งที่นางได้ยินประโยคนี้ ดวงตาของนางเหม่อลอยไปชั่วขณะ และในจังหวะเดียวกัน เซียวเหรินตัดสินใจทำในสิ่งที่ตนเองต้องการ ช้อนร่างนุ่มนิ่มไว้แนบอกพานางกลับมาที่ห้องนอนของตนเอง การกักขังนกตัวหนึ่งไว้นั้น อาจไม่ใช่กรงขังที่แน่นหนาแต่เป็นความรู้สึกปรารถนาที่มีต่อนางจูเต๋ออี้เห็นผู้เป็นนายกลับมาพร้อมกับอุ้มหญิงสาวที่ซุกอยู่ในอกจนแทบมองไม่เห็นใบ

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 49.คิดถึง

    “งานเหล่านี้แท้จริงเป็นของเจ้า ยามนี้ลุงแค่ช่วยจัดการให้ไปก่อน” เขาพูดอย่างใจเย็น บ้านเมืองต้องพลิกฟื้นเป็นการใหญ่ กว่าจะเข้ารูปเข้ารอยคงใช้เวลาอีกสามถึงสี่เป็นอย่างน้อย เขาก้มมองเห็นเด็กน้อยทำหน้านิ่วก็หัวเราะเบาๆ “เจ้าต้องหมั่นเรียนรู้ เข้าใจหรือไม่” “หลานทราบแล้ว เสด็จลุง” “ดี” เขาพูดแล้วขยับปลายนิ้วเรียกจูเต๋ออี้ องครักษ์ข้างกายที่ทำหน้าที่รับใช้มายาวนานถอยออกไป ครู่หนึ่งจึงเดินกลับเข้ามาพร้อมขนม เด็กน้อยทำตาโตแล้วยื่นมือไปรับขนมจากเซียวเหริน “ข้าให้ในครัวปรุงให้เจ้าเป็นพิเศษ ในนี้มีส่วนผสมของสมุนไพรบำรุงร่างกาย เจ้าจะได้แข็งแรงเติบใหญ่เร็วไว” “ขอบพระทัยเสด็จลุง” “ไปเถอะ” “อื้ม!” เด็กน้อยปีนลงจากตัก ขันทีผู้หนึ่งเข้ามารับ เขามองเด็กน้อยที่ชะตาชีวิตลิขิตให้นั่งบัลลังก์มังกร ได้แต่หวังว่าตัวเองจะขัดเกลาเด็กคนนี้ให้เป็นฮ่องเต้ที่ดี คงมีเพียงการทำเช่นนี้ที่ลดทอนความรู้สึกผิดที่เคยให้คำสัตย์สาบานไว้ แม้ว่าชื่อของเขาจะเคยเป็นรัชทายาทก็ตาม เซียวเหรินก้มหน้าอ่านฏีกา หยิบพู่กันขึ

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 48. เหตุใดถึงเจ็บถึงเพียงนี้

    “ข้า...” หลันหลันอ้ำอึ้ง ไม่เคยคิดว่าตัวเองต้องไปจากที่นี่ ไม่ใช่หรอก นางมิได้อาลัยสถานที่แห่งนี้ มีเพียงความรู้สึกที่ต้องจากไกลเซียว เหรินต่างหากที่ทำให้นางปวดใจมือเรียวเล็กยกขึ้นอกที่หน้าอกซ้าย บริเวณที่ถูกเซียวเหรินซัดฝ่ามือเข้าใส่ ความเจ็บปวดระลอกหนึ่งราวเข็มแหลมเล็กนับร้อยนับพันทิ่มแทงหัวใจเจ็บ?เหตุใดถึงเจ็บถึงเพียงนี้“หลันหลัน” อู๋หมินลี่เห็นใบหน้าหลันหลันซีดเซียวไร้สีเลือดก็ตื่นตระหนก “เจ้าเจ็บรึ ให้ข้าตามหมอดีหรือไม่”หลันหลันส่ายหน้าไปมา ครู่หนึ่งนางสูดลมหายใจลึกสะกดความเจ็บปวดทั้งหมดแล้วฝืนยิ้มให้อู๋หมินลี่ พลันเสียงของท่านป้าต๋าฝูดังแว่วเข้ามาในหัวน้อยๆ ของนาง‘มีเวลาเพียงสี่สิบเก้าวัน’จากบันทึกของเซียวเหริน นางเหลือเวลาอีกแค่สามวันแต่ถ้านางลองให้กงอี้เทาถอนมนตร์สะกดจิต บางทีนางอาจมีชีวิตได้ยาวนานกว่านี้ แต่ชีวิตของอูหลันโหยว ไม่อาจอยู่ที่แคว้นเฉียน เหลียงได้“หลันหลัน” อู๋หมิ่นลี่บีบมือเย็นเฉียบของหลันหลัน “ข้าพาเจ้ากลับที่พักดีกว่า” “ให้ข้าประคองนางเองเจ้าค่ะ” ไป๋ชิวเข้ามาช่วยประคองหลันหลันเพื่อเดินกลับที่พัก อู๋ซิงว่านผ่านมาพอดีเห็นไป๋ชิวประคองหลันหลันอยู

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 47.ให้นางตัดสินใจเอง

    นางมุดอยู่ใต้ผ้าห่มแต่หูได้ยินเสียงพวกเขาตกลงต่อรองกัน สุดท้ายกงอี้เทาได้แต่ถอนหายใจหนักหน่วงแล้วก้าวออกไป นางคิดว่าในห้องไม่มีใครแล้วจึงโผล่หน้าออกมาจากผ้าห่ม แต่กลับพบสายตาคู่หนึ่งจ้องมองอยู่ก่อนแล้ว “ระหว่างนี้เจ้าพักอยู่ที่นี่ไปก่อน ข้าจะเป็นฝ่ายหาเวลามาพบเจ้าเอง” เขาพูดด้วยน้ำเสียงสงบนิ่งเช่นที่เคยเป็น “เข้าใจหรือไม่” นางพยักหน้าขึ้นลงเร็วๆ แทนคำตอบ เซียวเหรินไม่เอ่ยอะไรอีก หมุนตัวแล้วเดินออกไปเงียบๆ จนนางมั่นใจว่าครั้งนี้ไม่มีผู้อื่นแล้วจริงๆ จึงยอมลุกขึ้นจากที่นอนอีกครั้ง ‘ให้นางตัดสินใจเอง’ นางคิดมากจนตาลายเดือดร้อนบ่าวรับใช้ที่เฝ้าดูอาการเข้าใจผิดคิดว่าอาการของนางทรุดลง อู๋ซิงว่านรีบเข้ามาดูอาการของนาง พอรู้ว่านางหิวโหยจนหน้ามืดก็แหงนหน้าหัวเราะไม่เกรงใจคนป่วยอย่างนาง สั่งการให้บ่าวไพรยกสำรับอาหารมาให้ หลังจากถูกบิดาเรียกไปอบรม เขารู้ว่าควรทำใจเรื่องหลันหลัน อาจเพราะนางเป็นคนให้กำลังใจจนเขาสามารถใช้แขนขวาได้อีกครั้ง แต่พอรู้ว่านางอาการทรุดลงก็รีบมาดูทันที ใครจะรู้ว่านางแค่หิว ไม่สิ นางหิวมากจนจะเป็นลม ระ

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 46.ผลของการกระทำ

    “คุณหนู” ไป๋ชิวร้อนรน แต่หมอที่เก่งที่สุดกำลังดูแลสตรีอื่นจนทำให้คุณหนูของนางเป็นเช่นนี้ “ข้าไม่เป็นอะไร” นางพยายามสูดลมหายใจลึก แม้รู้อยู่แก่ใจว่าเซียวเหรินมองนางด้วยสายตาเช่นไร แต่นางก็ยังหวัง หวังว่าจะมีสักวันที่เขาจะรับรู้ความรู้สึกของนาง เปิดใจให้นางบ้าง “ไป๋ชิว พาคุณหนูใหญ่ไปพักผ่อนก่อน” อู๋ซั่วไต้เอ่ยขึ้นแล้วมองบุตรสาวด้วยความเห็นใจต่อให้ไม่มีสตรีผู้นั้นเข้ามา หรือแม้กระทั่งเขาจะใช้คนของหมู่ตึกนกยูงทองช่วยชีวิตคนสกุลเซียวเอาไว้ เขาย่อมรู้ดีว่าเรื่องเหล่านี้จะเอามาเป็นบุญคุณเพื่อให้เซียวเหรินแต่งงานกับอู๋หมิ่นลี่ได้ แต่ด้วยฐานะที่แท้จริงของเซียวเหริน อู๋ซั่วไต้รู้ดีว่า บุตรสาวของเขาไม่สามารถเคียงข้างชายผู้นั้นได้ ไม่สิ จะเรียกเซียวเหรินเช่นแต่ก่อนได้อย่างไร ในเมื่อตอนนี้เป็นถึง... “ท่านพ่อ” อู๋หมิ่นลี่กลั้นน้ำตาที่เอ่อคลอ “ท่านรู้อยู่แล้วว่าท่านเซียวเป็นใคร จึงพยายามเตือนลูกใช่ไหมเจ้าคะ” “ลี่เอ๋อร์ เจ้าหักห้ามใจตัวเองเสียเถิด ยังมีบุรุษดีๆ อีกมากมาย พ่อจะคัดเลือกคนที่ดีและเหมาะสมกับเจ้าเอง” “แต่ว่า.

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 45.เสียงเรียกที่แฝงอำนาจ

    “ลูกข้าเป็นอะไร” ไทเฮาถามด้วยสีหน้าตื่นตระหนก “รักษาเขาสิ!” เซียวเหรินถึงกับนิ่งงันด้วยอับจนถ้อยคำ แต่ฮ่องเต้หงฉานหัวเราะเสียงปร่าแล้วโบกมือไปมา “มันใหญ่มากใช่ไหมละ” เขาหัวเราะขืนๆ “อะไรกัน” ไทเฮาหันมาถามอย่างงุนงง แต่เซียวเหรินไม่กล้าพูดออกมา “มันคือฝี” ฮ่องเต้ที่กำลังจะกลายเป็นเพียงอดีตฮ่องเต้พูดขึ้นแล้วกดไปที่ท้องของตัวเอง “กระจายไปทั่วท้องแล้ว” “ไม่จริง... เหตุใดเป็นเช่นนี้” “เป็นมาเนิ่นนานแล้ว หมอหลวงรักษาไม่ได้ ลูกจึง...ไม่ใส่ใจกับมันอีก” ไทเฮาหันมาเขย่าแขนของเซียวเหริน “เจ้าได้ชื่อว่าเป็นหมอเทวดา ต้องรักษาได้!” “ถ้าได้รับการรักษาก่อนหน้านี้คงจะ...” “ช่างมันเถอะ” ฮ่องเต้หงฉานโบกมือไปมาจ้องมองใบหน้าของเซียวเหริน “เรารู้ ถึงได้ปล่อยให้มันเป็นเช่นนี้” “เจ้า! ทำไมโง่เช่นนี้” “เสด็จแม่” ฮ่องเต้พูดอย่างอ่อนแรง “ท่านเองก็รู้ว่า เสด็จพ่อยกบัลลังก์นี้ให้ใครตั้งแต่แรก” “หุบปากเสีย!” “เสด็จแม่...แท้จริงแล้วบัลลังก์นี้เป็น

DMCA.com Protection Status