Share

Chapter 32.ทำงาน

last update Last Updated: 2024-12-24 21:15:58

ดวงตาคมหรี่ลงอย่างใช้ความคิด เขาไม่เชื่อเรื่องภูติผี ที่ผ่านมาจะเดินทางร่อนเร่ไปทั่วยุทธภพมีเรื่องแปลกประหลาดอยู่มากมาย ทว่าเรื่องราวเหล่านั้นมีเหตุผลอันรองรับให้เชื่อถือได้  แต่กับนางที่บอกว่าตัวเองเป็นนกหงส์หยกมาอยู่ในร่างของกงเสวี่ยหลิง ออกจะเหลือเชื่อเกินไปสักหน่อยกระมั้ง  ทว่าลักษณะท่าทางของนางคล้ายว่าเพิ่งเคยกระทำเป็นครั้งแรก  เขายังจำครั้งที่นางพยายามจับตะเกียบกินข้าว จับพู่กันเขียนอักษร หรือแม้กระทั่งให้เขาป้อนขนมให้ นางเชื่ออย่างสุดจิตสุดใจว่าตนเองเป็นนกหงส์หยก

            เรื่องเช่นนี้มันมีจริงหรือ? วิญญาณนกมาสิงในร่างมนุษย์

            หากเป็นเช่นนั้นจริง กงเสวี่ยหลิงอาจตายไปแล้ว

            ลมหายใจของชายหนุ่มสะดุดไปเล็กน้อย หลังจากเขาพบหลันหลันแล้ว เคยย้อนกลับไปดูที่ธารน้ำแต่ไม่พบผู้ใดอีก  เขาเองมีความทรงจำเกี่ยวกับกงเสวี่ยหลิงน้อยเหลือเกิน  กล่าวตามจริงคือเขาไม่เคยพบหน้านางมาก่อน เพียงแค่รู้ว่านางคือน้องสาวของกงอี้เทาและถูกส่งมาเป็นเครื่องบรรณาการเท่านั้น  ได้ยินว่าการเป็นอยู่ในวังของนางนั้นไม่ดีนัก ยังดีที่จางซงหยวนปลอมตัวเป็นพ่อค้าค่อยส่งเสบียงของใช้ไปให้ แต่กระนั้นเขาย่อมรู้ว่าชีวิตของนางต้องลำบากมากเพียงใด เพราะเขาเคยผ่านเรื่องราวเหล่านั้นมาก่อน แม้จะผ่านมานานแต่ความเจ็บปวดที่เคยได้รับนั้นยังแทรกอยู่ในอกให้ปวดปร่าทุกคราที่หวนคิดถึง

            หากในวังเปี่ยมสุขจริง คงมีเพียงคนเดียวกระมังที่สามารถยิ้มหรือหัวเราะได้อย่างจริงใจ

            พลันเสียงหัวเราะหวานใสของหญิงสาวเข้ามากระทบโสตประสาทของเขา เซียวเหรินกลอกตาไปตามทิศทางของเสียงที่ได้ยิน  เขาประหลาดใจที่เห็นหญิงสาวคนนั้น ยืนอยู่หน้าร้านขายสมุนไพรที่เขากำลังจะเดินเข้าไป

            “ท่านเซียว!” 

            เสียงเรียกของหลันหลัน ทำให้ทุกคนที่ได้ยินหันไปมองหญิงสาวร่างเล็กในชุดเสื้อผ้าฝ้ายเรียบง่าย นางเกรงว่าเซียวเหรินมองไม่เห็นจึงกระโดดโบกมือไปมา ท่าทางไม่เรียบร้อยของนางทำเอาไป๋ชิวบ่นอุบอิบ

ไม่อยากเดินเข้าไปใกล้เลยสักนิด

            “คุณหนูใหญ่ พี่ไป๋ชิว พี่เต๋ออี้ก็มาด้วย”  หลันหลันทักทายแล้วผายมือเชื้อเชิญให้เข้าไปด้านใน ประหนึ่งตนเองคุ้นเคยกับร้านนี้เป็นอย่างดี

            “เหตุใดเจ้ามาอยู่ที่นี่” ไป๋ชิวอดเอ่ยปากถามไมได้

            “มาทำงานเจ้าค่ะ”

            “ทำงาน? ทำงานอันใด” ใครกล้าจ้างหญิงสาวสติไม่ดีอย่างนางด้วยหรือ? ไป๋ชิวได้แต่เก็บประโยคหลังไว้ในท้อง อย่างไรหลันหลันก็มาพร้อมกับท่านเซียวเหริน แม้จะไม่ใช่คนของเซียวเหรินแต่นายท่านใหญ่ก็ให้ถือเสมือนว่านางเป็นแขกของหมู่ตึกนกยูงทอง

            “ข้าเป็นคนมีความจำดีเยี่ยม ท่านหมอเจียงจึงให้ข้าทำงานที่นี่ได้”  หลันหลันยืดอกพูดด้วยความภูมิใจ แต่เมื่อนางหันไปสบตากับจูเต๋ออี้ที่จ้องหน้านางเขม็งอย่างจับผิด นางกลับหัวเราะออกมา

            “เหตุใดพี่เต๋ออี้จ้องหน้าข้าเช่นนี้เล่า”

            “เจ้ามิได้อยู่ที่...”  

            “พี่เต๋ออี้คิดว่าข้าอยู่ที่ใด”  นางทำตาเป็นประกายวิบวับยั่วล้อเขา ปกติจูเต๋ออี้เป็นคนไม่ค่อยพูดกับผู้ใด อยากจะไต่ถามนางให้แน่ชัดแต่เห็นว่ามีคนอยู่มากเกินไปและเซียวเหรินเองก็คล้ายไม่สนใจหลันหลันนัก จึงได้แต่ปิดปากเงียบ

            “คุณหนูใหญ่ต้องการสิ่งใดเจ้าคะ”  หลันหลันหันไปถามอู๋หมิ่นลี่

            “ข้า...เอ่อ...”

            “จัดสิบสามเทพสมุนไพรมาหนึ่งชุด”  เซียวเหรินเอ่ยขึ้นมาก่อน เขามองใบหน้าที่ระบายรอยยิ้มของหลันหลันที่จ้องมองอย่างรอฟังถ้อยคำของเขา

“เก๋ากี้, โต่วต๋ง,เต็กย้ง, ตังถังแห่เช่า, คนจี๋หลิน หรือ โสมคน, ใบแปะก๊วย, เจียวกู่หลาน, ติ่มเฮียง,อิมเอียคัก, โท่วซีจี้,โหงวปี้จี้ หรือ อู่เว่ยจื่อ ,ม้าน้ำ, กั๊บไก่ จำได้หรือไม่”

            หลันหลันพยักหน้าพูดทวนคำของเขา “เก๋ากี้, โต่วต๋ง,เต็กย้ง, ตังถังแห่เช่า, คนจี๋หลิน หรือ โสมคน, ใบแปะก๊วย, เจียวกู่หลาน, ติ่มเฮียง,อิมเอียคัก, โท่วซีจี้,โหงวปี้จี้ หรือ อู่เว่ยจื่อ ,ม้าน้ำ, กั๊บไก่”

นางยิ้มครู่หนึ่งก่อนเม้มริมฝีปากครุ่นคิด “กั๊บไก่คืออะไรเจ้าค่ะ”

            เซียวเหรินไม่ตอบแต่พยักหน้าเป็นเชิงไล่ให้นางไปแจ้งกับคนจัดสมุนไพร หลันหลันจึงหมุนตัวเดินออกไป  อู๋หมิ่นลี่ที่เคยระแวงหลันหลันกับความสัมพันธ์อันครุมเครือนี้ ได้แต่แอบถอนหายใจโล่งอกแล้วแสร้งดูสมุนไพรในร้าน เซียวเหรินเดินถามหาท่านหมอเจียง เด็กในร้านเชื้อเชิญให้เขาเข้าไปด้านใน ทันทีที่ประตูห้องปิดลง ชายในชุดดำที่ยืนหลบในเงามืดก็โผล่หน้าออกมา

            “เหตุใดผู้อื่นเรียกเจ้าว่าหมอเทวดาไร้ใจ ทั้งที่เจ้าไม่อาจอดรนทนเห็นคนบาดเจ็บหรือล้มป่วยเบื้องหน้าได้”

            “ผู้อื่นจะเรียกเช่นไร ข้าหาได้สนใจไม่”   เซียวเหรินเอ่ยน้ำเสียงราบเรียบแล้วยื่นมือไปรบถ้วยน้ำชาจากชายชุดดำที่เมื่อครู่ปราบม้าพยศได้อย่างง่ายดาย “เป็นฝีมือเจ้ารึ กงอี้เทา”

            “ข้าไม่จำเป็นต้องเปิดตัวเอิกเกริกเช่นนั้น”  ชายชุดดำไหวไหล่ “ม้าตัวนั้นถูกเล่นสนุกจนมีสภาพอเนจอนาถ มันดิ้นร้นให้พ้นความทุกข์ทรมานจึงเตลิดออกมาเช่นนี้ คนเราก็เช่นกัน ถูกบีบเค้นมากเข้าสภาพไม่ต่างจากม้าตัวนั้นหรอก”

            “ข้าเคยพูดหลายครั้งแล้วว่าไม่ยุ่งกับเรื่องพวกนี้”

            “ข้ารู้”  ชายชุดดำหัวเราะในลำคอ “แต่เจ้าคิดว่าจะหลีกหนีชะตากรรมได้หรือ?”

            ปลายนิ้วมือกำเข้าหากันแน่นข่มการยั่วโทสะของอีกฝ่าย แต่ใบหน้ายังคงเรียบเฉย

            “เมื่อถึงเวลานั้น ข้าหวังว่าเจ้าจะยังคงเป็นซือจือที่ข้ารู้จัก”  ชายชุดดำวางถ้วยชาของตนลง แล้ววางมือบนไหล่ของเซียวเหริน “สมุนไพรที่เจ้าต้องการคงจัดเสร็จเรียบร้อยแล้ว”

            เซียวเหรินเพียงแค่ถอนหายใจเบาๆ หมุนตัวเดินออกมาแต่หยุดที่ประตู เขาหันกลับมาอีกครั้งแล้วเอ่ยถาม “เพื่อให้สัมฤทธิ์ผล เจ้ายอมเสียสละแม้กระทั้งน้องสาวตนเองหรือ?”

            เสียงถอนหายใจหนักหน่วงดังขึ้นก่อนเอ่ยตอบ

“ทุกคนล้วนมีชะตากรรมของตนเอง ไม่ว่าเจ้าหรือข้าและนาง” กงอี้เทามองสหายด้วยแววตามุ่งมั่น “เจ้าก็รู้ว่าแผ่นดินแคว้นโฮ่วฉินเป็นของผู้ใด แท้จริงแล้วมันควรเป็นของ...”

“หุบปาก!”  เซียวเหรินตวาดก่อนที่กงอี้เทาจะพูดจบด้วยซ้ำ แต่อีกฝ่ายกลับหัวเราะหยันออกมา

“เจ้าอาจให้เหตุผลว่าตนเองยึดมั่นคำสัญญา แต่เจ้าดูสิว่าตอนนี้แผ่นดินเป็นเช่นไร! ผู้คนอดยากล้มตายไม่ต่างจากผักหญ้าไร้ค่า เจ้ายังจะนิ่งเฉยได้อีกเรอะ!”

เซียวเหรินได้แต่กัดฟันแน่นข่มโทสะ เผลอกำมือแน่นอย่างไม่รู้ตัว

“เอาเถอะ เจ้าแค่ไม่ขวางทางข้าเป็นพอ” กงอี้เทาแสร้งหัวเราะออกมา

“เจ้าจะรับตัวคนของกงเสวี่ยหลิงไปด้วยหรือไม่”  ชายหนุ่มเอ่ยถามเมื่อนึกถึงหญิงสาวท่าทางพิลึกผู้นั้น นางมาอยู่ที่นี่แล้ว ย่อมมีความเป็นไปได้ว่านางต้องเป็นหนึ่งในเม็ดหมากของกงอี้เทา  แม้แต่สตรีไร้เดียงสาผู้หญิง ก็ต้องกลายเป็นเครื่องมือในการโค่นล้มอำนาจ

“ต้องขอบใจที่เจ้าดูแลหลันหลันอย่างดียิ่ง”  กงอี้เทาผงกศีรษะให้

“แต่ข้าหากงเสวี่ยหลิงไม่พบ”

ถ้อยคำของเซียวเหรินทำให้กงอี้เทาชะงักงันไปครู่หนึ่ง น้อยคนนักที่จะรู้ตัวตนที่แท้จริงของ ‘อูหลันโหยว’ หากบอกว่า ‘กงเสวี่ยหลิง’ สบายดีและหลบซ่อนตัวในฐานะ ‘ฮูหยินของจางซงหยวน’ ซ้ำเวลานี้ยังตั้งครรภ์อ่อนๆ อีก เซียวเหรินที่มักคิดว่าตนเองเฉลียวฉลาดที่สุดจะรู้สึกเช่นไร

“เรื่องนั้น... เจ้าอย่าได้กังวล ข้าได้ให้คนจัดการเรื่องนี้แล้ว”

            เซียวเหรินผงกศีรษะให้แล้วผลักบานประตูออกมา เขากวาดตามองเห็นร่างเล็กหมุนตัวไปมายุ่งอยู่กับกระจาดตากสมุนไพร  นางกำลังปีนบันไดขึ้นไปคล้ายจะกลับสมุนไพรเหล่านั้น ทว่าเท้านั้นเหยียบขั้นบันไดพลาด เพียงพริบตาที่ร่างของนางหงายหลังร่วงลงมานั้น เขาปราดเข้าไปประคองไว้ได้ทันเวลา

Related chapters

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 33.ไม่เชื่อว่าข้าเป็นนก

    เพียงปลายนิ้วสัมผัสท่อนแขนเรียวเล็กเย็นเฉียบราวแผ่นน้ำแข็ง เขาก็ขมวดคิ้ว มืออ่อนแรงยื่นมาคล้องคอของเขาไว้รั้งให้ใบหน้าใกล้ชิดอีกฝ่าย ดวงตาคมจ้องมองหญิงสาวในวงแขนทว่านางกลับหลุบตาลง ริมฝีซีดเซียวเผยอขึ้นเล็กน้อย แต่นั้นก็มากพอที่จะทำให้เขาโน้มหน้าลงประกบริมฝีปากกับนางอย่างรวดเร็ว ลมหายใจอุ่นแทรกเข้ามาในโพรงปาก ปลุกร่างกายให้อุ่นร้อนขึ้นมาอีกครั้งพร้อมจังหวะหัวใจที่เต้นเป็นปกติ นางผละจากริมฝีปากของเขา “ท่านเซียว” นางเรียกเขาเสียงแผ่วเบา ฝืนยิ้มให้เขา และเมื่อตั้งสติได้ก็ขยับตัวออกจากวงแขนที่โอบกอดอยู่“ขอบคุณท่านเซียว” “ข้าหวังว่าเจ้าจะรู้ว่าตนเองทำสิ่งใดอยู่” เขาเอ่ยเตือนสตินาง เขารู้ว่านางมิได้เดือดร้อนเรื่องเงินทองจนต้องไปที่หอนางโลมหรือมาที่ร้านขายสมุนไพร แต่เขาไม่ต้องการให้นางกลายเป็นเพียงแค่เครื่องมือของผู้ใดหรือต้องเสียสละตัวเองเพื่อปณิธานอันยิ่งใหญ่ที่อาจไม่มีวันเป็นจริง “สมุนไพรของท่านอยู่ด้านนอกแล้ว” นางเอ่ยบอกแล้วก้มหน้าลงเล็กน้อย เพียงครู่เดียวนางก็เงยหน้าขึ้นแล้วยิ้มกว้าง “ท่านเซียวเคยได้ยินหรือไม่ มีนางรำงดงามมากมาแสดงการร่ายรำที่หอช

    Last Updated : 2024-12-24
  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 34.มือที่มีไว้ช่วยผู้คน

    เด็กหนุ่มพยักหน้ายอมรับ ที่นางพูดออกมาล้วนเป็นเรื่องจริง ที่แห่งนี้งดงามนัก มันอาจเป็นการค้นพบที่ยิ่งใหญ่สำหรับเขาที่ได้เจอสถานที่งดงามแสนพิเศษนี้ แต่ใครจะคิดว่าสถานที่ที่เขาคิดว่าเป็นคนแรกที่ค้นพบจะเจอเด็กหญิงประหลาดที่ฝึกปีนป่ายต้นไม้อยู่ “เจ้าเลือกเป็นหมอแล้วใช่ไหม” นางสาวเท้าเร็วๆ เพื่อให้ก้าวตามร่างสูงนั้นทัน “ข้าไม่ชอบรักษาผู้ใด” เขาตอบและไม่ได้หันมามองนางเลยสักนิด “แต่เจ้าศึกษาเรื่องสมุนไพร” “เพราะข้าชอบการปรุงยา” “ก็ไม่เห็นต่างกันเลยนี่” “แล้วเหตุใดเจ้าต้องใส่ใจด้วย” เขากลอกตามองท้องฟ้า ปกติเขาไม่ใช่คนช่างพูด แต่เจอกับเด็กหญิงผู้นี้ทีไหร่เขากลายเป็นคนพูดมากเกินความจำเป็นทุกที “เพราะหากข้าบาดเจ็บหรือต้องพิษ เจ้าจะได้รักษาข้าได้อย่างไรเล่า” คราวนี้เขาชะงักเท้าแล้วหันกลับมามองนาง ดวงตาคมกริบหรี่ตามองพลางพินิจพิเคราะห์ว่าเหตุใดนางจึงคาดหวังว่าเขาจะเป็นหมอเพื่อนาง หรือเขาเผลอไปให้ความหวังนางเข้าให้ หรือนางแอบหลงใหลในตัวเขา นางจึงมองเขาด้วยดวงตาเปี่ยมความมั่นใจ ริมฝึปากอิ

    Last Updated : 2024-12-24
  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 35.ช่างเป็นนกหงส์หยกที่กะล่อนเสียจริง

    เซียวเหรินพึมพำกับตนเองมากกว่าจะพูดกับจูเต๋ออี้ แม้เขาสงสัยในตัวหลันหลัน และกงอี้เทากับจางซงหยวนไม่พูดความจริงกับเขาเรื่อง หลันหลัน แต่เขาพอจะคาดเดาได้ไม่ยาก แม้ไม่รู้วิธีการแต่จุดหมายนั้นนั้นเขาย่อมรู้ดีแก่ใจ และไม่หายตัวไปทำอะไร ทุกครั้งที่นางกลับมา นางจะมายืนจ้องหน้าเขา เขย่งปลายเท้ายื่นหน้าประทับริมฝีปากเขาสูดเอาลมหายใจเข้าไป นับวันนางยิ่งชำนาญยิ่ง ไม่รอให้ครบสามวันแต่มาเก็บกินเอาวันละเล็กละน้อย บางครั้งก็แอบเลียริมฝีปากของเขาแล้วผลุบหนีไปราวกับเขาจะจับตัวมาตีก้นช่างเป็นนกหงส์หยกที่กะล่อนเสียจริงจูเต๋ออี้ไม่ล่วงรู้ความคิดของผู้เป็นนาย เห็นเพียงสีหน้าเย็นชาตามปกติ เมื่อมื้อเช้าเสร็จสิ้น เซียวเหรินตระเตรียมยาสำหรับอู๋ซิงว่านเสร็จแล้วจึงให้จูเต๋ออี้ไปตามหลันหลันมายกยาออกไป หลันหลันประคองถาดใส่ถ้วยยาด้วยความตั้งใจยิ่ง และไม่รู้ว่าจูเต๋ออี้หายตัวไปที่ใดแล้ว อู๋ซิงว่านกำลังฝึกฝนการใช้กระบี่ด้วยมือซ้าย หลายวันมานี่ฝีมือของเขาพัฒนาไปมาก ขนาดอู๋ซั่วไต้ผู้เป็นบิดายังเอ่ยชม อู่หมิ่นลี่เดินเข้ามาพร้อมกับไป๋ชิว ใบหน้าของคุณหนูใหญ่แห่งหมู่ตึกนกยูงทองปรากฏรอยยิ้มตื้นตันใจยิ่งนัก

    Last Updated : 2024-12-24
  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 36.ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก

    อู๋ซิงว่านได้แต่มองร่างเล็กๆ ที่วิ่งตามเซียวเหรินไปสุดสายตา เขารู้สึกับนางอย่างไรนั้น เขาย่อมรู้ดี แต่นางนั้นเล่า จะยอมอยู่เคียงข้างเขาหรือติดตามแผ่นหลังของเซียวเหรินเช่นนั้น หลันหลันก้าวเร็วๆ จนเกือบจะเป็นวิ่ง จนกระทั้งจู่ๆ เซียวเหรินก็หยุดเดิน นางเกือบหยุดไม่ทันปะทะกับแผ่นหลังของเขาเกือบหงายหลังล้มลง แต่เซียวเหรินไวพอจะคว้ามือเรียวเล็กฉุดไว้ได้ทันก่อนที่นางจะก้นกระแทกพื้น มือเรียวเล็กอยู่ในอุ้งมือของเขา ภาพมือของเขาอยู่ในอุ้งมือของเด็กหญิงวัยสิบขวบ ปรากฏขึ้นมาในสมองซ้อนทับกับมือของเขาที่จับมือนางไว้ “ขอบคุณท่านเซียว” หลันหลันยิ้มทะเล้น เมื่อทรงตัวได้แล้วจะดึงมือตนเองกลับแต่มือใหญ่ของเซียวเหรินกลับบีบแรงขึ้นจนรอยยิ้มของนางเจือนไป “ข้าเคยได้ยินว่าที่คนสกุลอูในแคว้นเฉียนเหลียงมีความสามารถพิเศษ นอกจากมนต์ดำคุณไสย์แล้วยังมีวิชาสะกดจิต” “วิชาสะกดจิต?” นางทำตาโตแสร้งทำเป็นไม่รู้สึกเจ็บปวดกับแรงบีบที่เพิ่มมากขึ้น “คืออะไรรึเจ้าคะ” เซียวเหรินหรี่ตามองดวงตาสุกใสของนาง ครู่ต่อมาจึงคลายมือออกแล้วหันหลังเดินมุ่

    Last Updated : 2024-12-24
  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 37. ไม่ถูกต้อง

    “ไม่ถูกต้อง!” นางรีบแย้ง “ไม่เป็นในสิ่งที่ตนเลือกเสียหน่อย ข้าไม่ได้อยากเป็นคนสกุลอูเลย แล้วก็ไม่ได้อยากสังหารผู้ใดด้วย” นางเบ้ปากพึมพำเบาๆ ไม่คิดว่าเขาจะได้ยิน แต่อีกฝ่ายไม่มีสีหน้าตื่นตระหนก ซ้ำยังยื่นมือมาโยกศีรษะนางอย่างหยอกล้อ “เมื่อถึงวันหนึ่ง เจ้าจะรู้คำตอบเอง” เขายังคงยิ้มให้ “หวังว่าเมื่อถึงเวลานั้น เจ้าจะเห็นแก่มิตรภาพของเราละเว้นชีวิตข้าบ้าง” “เหตุใดข้าต้องฆ่าเจ้าด้วย” นางเอียงคอมองอย่างสงสัย “ไม่รู้สิ” เขายิ้มขบขันกับแววตาไร้เดียงสาของนาง เด็กหนุ่มยันกายลุกขึ้นยืนยื่นมือไปให้นางจับเพื่อพยุงตัวลุกขึ้นแต่นางกลับส่ายหน้าไปมา“ข้าจะลงเขาแล้ว ไปด้วยกันเถิด”นางมองมือที่ยื่นมาตรงหน้า สองมือของนางยังกอดเข่าตัวเองแน่น นางเป็นเด็กหญิงอายุสิบขวบที่ถูกฝึกฝนไม่ให้รับความช่วยเหลือจากผู้ใด ‘หัวใจตีด้วยเหล็กกล้า เจ้าไม่ควรรู้สึกต่อสิ่งใด’ นั่นเป็นประโยคที่อาจารย์หญิงสั่งสอนนางอยู่เสมอ “ภูเขานี้ไม่มีสัตว์ร้าย เจ้าจะนั่งอยู่ก็ไม่เป็นไรกระมัง” เขาเข้าใจไปว่านางยังทิฐิอยู่จึงไม่อยากกลับลงไปตอนนี้“หรือไม่ก็...เจ้าน่ากลัวกว่าส

    Last Updated : 2024-12-26
  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 38.ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ที่เขาคิดถึงนาง

    “เจ้านี่มันเหมือนแม่ไม่มีผิด” ไทเฮาทรงหัวเราะออกมาเบาๆ แล้วยอมหยุดมือ แผลเพียงเล็กน้อยไม่อาจทำให้ความหล่อเหลานี้ลดลงแม้แต่น้อย หรือแม้แต่หักแขนหักขา คนผู้นี้ก็ยังดูเป็นคนเหนือคน สายตาของนางมองคนไม่ผิดจริงๆ แต่นางไม่อาจกำจัดคนผู้นี้ไปได้ อำนาจการต่อรองของนางขึ้นอยู่กับชีวิตของชายผู้นี้ แววตาของเซียวเหรินกระตุกวูบหนึ่งแต่ถูกกลบเกลื่อนอย่างรวดเร็ว เขาสงบใจจึงเอ่ยขึ้น“อาการประชวรของไทเฮาดีขึ้นแล้วหรือพ่ะย่ะค่ะ” “ข้าปวดหัวทุกวัน” ไทเฮาตอบพลางคลี่ยิ้มออกมาราวกับมองไม่เห็นแววตาวูบไหวเมื่อครู่ “ได้ยินว่าอยู่ข้างนอกผู้คนกล่าวขานว่าเจ้าคือหมอเทวดาไร้ใจ” “เป็นเพียงคำพูดที่ผู้อื่นกล่าวกันไปเองทั้งสิ้น” มุมปากยกเป็นรอยยิ้มบางเบา “ทรงให้คนคุมตัวกระหม่อมมาเพื่อเรื่องนี้หรือพ่ะย่ะค่ะ” “หมอหลวงที่เรียกมา ช่วยข้าไม่ได้เลย” นางคลี่ยิ้ม แต่ดวงตาจ้องมองอย่างหยั่งเชิง “เจ้าจะช่วยข้าได้หรือไม่” “อาการประชวรขององค์ไทเฮาเป็นต่อเนื่องเรื้อรังมานาน และเกรงว่ากระหม่อมไร้ความสามารถไม่อาจรักษาอาการของพระองค์ได้พ่ะย่ะค่ะ” “เ

    Last Updated : 2024-12-26
  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 39.มาถึงแล้ว

    “เจ้าก็เหลือเกิน” ไทเฮาส่ายหน้าไปมา “ให้ดูข้าเป็นตัวอย่างแต่กลับทำตัวอ่อนแอ ปล่อยให้ฮ่องเต้หลงระเริงกับสตรีชั้นต่ำเหล่านั้นได้อย่างไร” ฮองเฮาอยากโต้เถียงแต่ไม่กล้า นางก็เป็นเพียงสตรีที่ถูกคัดเลือกมาเพื่อนั่งตำแหน่งนี้ โชคดีแค่ไหนแล้วที่นางให้กำเนิดโอรสได้สำเร็จ หาไม่แล้ว นางอาจไม่มีที่ยืนในวังหลังแห่งนี้ “หญิงบรรณาการผู้นั้นก็หายตัวไป แค่ให้ส่งนางออกไปเจ้ายังทำพลาด” ฮองเฮาก้มหน้ากัดริมฝีปากแน่นจนรู้สึกถึงรสเค็มคาวในปาก ถึงนางจะเป็นฮองเฮาแต่ใช่ว่าจะไม่ริษยาผู้อื่น เห็นสามีตนเองระรื่นกับสตรีอื่นจะให้ทำหน้าชื่นอยู่ได้อย่างไร “เอาล่ะ เจ้าก็ดูให้ดี อะไรที่ข้าสอนก็จำใส่ใจไว้ ไม่อย่างนั้นฐานะของเจ้าในตอนนี้อาจเป็นของผู้อื่น” “เพคะ” ไทเฮาส่งเด็กน้อยให้ฮองเฮาดูแลต่อแล้วไล่ผู้อื่นออกไป นางต้องการพักผ่อน ทว่าในสมองกลับคิดถึงเรื่องของเซียวเหริน คนผู้นี้ต้องรีบหาทางกำจัดทิ้ง นางปรานีไว้ชีวิตมาเนิ่นนานเกินไป จะให้ผู้ใดมาสั่นคลอนบัลลังก์ของนางไม่ได้!ทุกสิ่งเป็นของนาง สิ่งที่นางสูญเสียไปต้องไม่เสียเปล่า......

    Last Updated : 2024-12-26
  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 40.เริ่มดำเนินการตามแผน

    “เยี่ยม! ขนาดเรายืนอยู่ใกล้เจ้ายังไม่อาจจับผิดได้” “ขอบพระทัยเพคะ” นางก้มหน้าแต่ลอบมองดวงตาของขององค์ฮ่องเต้ ภายใต้หน้ากากงดงามเผยรอยยิ้มพึงพอใจ “หม่อนฉันหวังใจว่าจะสร้างความเกษมสำราญแด่ฝ่าบาทเพคะ” “เราชอบมาก เด็กๆ ตบรางวัล” ขันทีขานรับคำสั่งของฮ่องเต้ ขุนนางทั้งหลายต่างแย้มยิ้มแต่บางคนเก็บซ่อนความไม่พอใจที่เห็นฮ่องเต้เอาแต่หาความสำราญไม่สนใจงานบ้านงานเมือง ฎีกาที่ถวายขึ้นไปถูกไทเฮาริบเอาไว้หมด “ขอบพระทัยเพคะแต่หม่อมฉันมีรางวัลที่ต้องการในใจแล้ว” หญิงสาวเอ่ยขึ้นด้วยท่าทีอ่อนน้อม “ลองว่ามาสิ” “อีกสองวันจะถึงงานสมโภช หม่อมฉันหวังใจจะได้ทำการแสดงต่อหน้าไทเฮาสักครั้งในชีวิตเพคะ” “เรื่องแค่นี้เองรึ” ฮ่องเต้ทรงแหงนหน้าหัวเราะ “ได้! เราอยากให้ไทเฮาชมการแสดงของเจ้าอยู่พอดี เช่นนั้นเจ้าอยู่ที่นี่จนถึงวันงานสมโภชก็แล้วกัน” “ขอบพระทัยเพคะ” เพื่อมิให้ฮ่องเต้โอบกายนางได้ หญิงสาวรีบคุกเข่าแสดงความขอบคุณด้วยความซาบซึ้ง เสียงหัวเราะดังเหนือศีรษะ นางก้มหน้านิ่งรอจนฮ่องเต้เปลี่ยนใจ

    Last Updated : 2024-12-26

Latest chapter

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 53.จบ

    ชีวิตสี่ปีของหลันหลันเป็นเช่นนี้เรื่อยมา หลัววั่งรู้สึกว่ามีคนเข้ามา จึงเงยหน้าขึ้น เมื่อเห็นว่าผู้มาใหม่เป็นใครเขาก็ส่งยิ้มกว้างแล้วเดินออกไปอย่างเงียบๆ “ท่านรีบกลับเถิด ที่นี่ข้าจัดการเองได้” “ไยรีบไล่ข้าไปเล่า หรือเจ้านัดผู้ใดไว้” หญิงสาวได้ยินน้ำเสียงที่คุ้นเคยจึงเงยหน้าขึ้น บุรุษร่างสูงโปร่งสวมอาภรณ์สีเขียวใบไผ่ใบหน้าอ่อนล้าแต่ยังมีรอยยิ้มอ่อนโยน“ท่านมาแล้ว”เซียวเหรินส่งยิ้มให้นาง แม้เหนื่อยล้าจากการเร่งรีบเดินทางมา ทว่าเพียงได้เห็นรอยยิ้มนาง ความเหน็ดเหนื่อยเหล่านั้นพลันมลายหายไปสิ้น“เหตุใดกลับเร็วนักเล่า” หลันหลันอดเป็นห่วงไม่ได้ “ตามจริงต้องอีกสิบวันท่านจะกลับไม่ใช่หรือ? เดินทางไปตรวจดูการซ่อมแซมเขื่อนเป็นอย่างไรบ้าง ”“เจ้าไม่อยากเห็นหน้าสามีหรือไร”เขาทำเสียงไม่พอใจแต่เดินไปนั่งใกล้ๆ แล้วจับชีพจรให้นาง และไม่พูดเรื่องงานกับนาง จะว่าไป ก็ไม่มีมีเรื่องใดในชีวิตของเขาที่หลุดรอดสายตาของนาง เช่นเดียวกับที่เขารู้ว่าในแต่ละวันนางทำอะไร นางมีคนคอยส่งข่าว ส่งเขาให้จูเต๋ออี้วางองครักษ์ลับไว้โดบรอบ “พิษในตัวข้ายังต้องใช้เ

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 52.ไม่มีอะไรให้ลังเลและกังวลอีกแล้ว

    “คิดสิ” นางหัวเราะเบาๆ เสียงหัวเราะของนางทำให้กงอี้เทาปล่อยนางจากวงแขน เขาคิดว่านางจะเปลี่ยนใจจึงยอมคลายมือจากข้อมือนาง ทำให้นางส่งยาเม็ดนั้นส่งเข้าปากแล้วกลืนลงคอทันทีท่ามกลางดวงตาที่เบิกกว้างของกงอี้เทา “เจ้า!” “ข้าไม่เสียใจ” นางยิ้มแล้วยกมือลูบใบหน้าของกงอี้เทา “บอกจางซงหยวนให้ดูแลกงเสวี่ยหลิงให้ดี” “หลันโหยว!” “ข้าอยากขอร้องเจ้าครั้งสุดท้าย” นางพูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาลง “ได้ข้ารับปากเจ้า ข้ารับปากเจ้าทุกเรื่อง” กงอี้เทาประคองร่างที่อ่อนยวบลงในวงแขน มือของเขาสั่นเทาอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ใบหน้าของหญิงสาวมีรอยยิ้ม แต่ดวงตาของนางปิดลง ชีพจรเต้นช้าลง ร่างกายเริ่มเย็นเยียบขึ้นมาที่ละน้อย นางวางมือไว้บนหน้าอก บริเวณหัวใจของตนเองที่เต้นแผ่วเบาลงไปทุกที ทุกที ทุกที ไม่มีอะไรให้นางลังเลและกังวลอีกแล้ว..จูเต๋ออี้เดินเข้ามาอย่างเงียบเฉียบ ภาพที่เห็นจนเริ่มชินตาคือเจ้าของร่างสูงสง่านั่งเหยียดแผ่นหลังตั้งตรง แววตามุ่งมั่นและมือตวัดพู่กันแก้ไขปัญหาน้อยใหญ่ที่ฮ่องเต้พระองค์ก่อนทิ้งปัญหาไว้มากมายเหลือคณานับ

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 51. เจ้านกตะกละ

    “เจ้านกตะกละ!” เขาดุนางพลางแหวนหน้าคำรามเสียงพร่า ถูกนางรุกเร้าจนแท่งหยกไถลลื่นเข้าไปจนสุด นางหวีดร้องเบาๆ โผเข้ากอดเขา ปลายเล็บจิกที่แผ่นหลังไม่เคยรู้เลยว่าบุรุษผู้นี้จะมีซ่อนสิ่งใหญ่โตไว้ถึงเพียงนี้ ความเสียวซ่านแผ่นกระจายไปทั่วร่าง จนถึงปลายนิ้วเท้าที่เกร็งแทบเป็นตะคริว นางครวญเสียงกระเส่า ยามเมื่อเขาขยับสะโพกถอนแก่นกายออกช้าๆ แล้วกดกลับเข้ามาใหม่ นางได้แต่หวีดร้องส่งเสียงครางแทบขาดใจ เหงื่อร้อนหลั่งออกมาจนหยดบนกายของนาง ความเจ็บแปลบที่เกิดขึ้นในคราวแรกหายไปสิ้น ทุกการเติมเต็มของเขาทำให้ร่างกายที่เคยเยียบเย็นร้อนระอุ เหงื่อร้อนผุดขึ้นทุกรูขุมขน ร่างกายนางทวีความร้อนและเปียกชื้น รวมทั้งที่ใจกลางของดอกไม้สาวที่รองรับการเคลื่อนไหวของผีเสื้อหนุ่มช่างแนบแน่น ลึกล้ำและซ่านเสียว“ข้า...” นางไม่รู้ว่าตนเองจะพูดอะไร เขาป้อนความสุขสมที่นางไม่เคยรู้จัก ทำให้นางอิ่มเอมครั้งแล้วครั้งเล่า และหิวโหยต้องการไม่สิ้นสุด ไม่ว่าท่วงท่าใดที่เขานำพา ล้วนทำให้นางปรารถนาในตัวเขามากขึ้น มากขึ้น“เซียวเหริน!”ดวงตาของเซียวเหรินราวลูกไฟ ไฟปรารถนาเผาไหม้หัวใจทำให้เคลื่อนไหวร่างกายเร็วขึ้น ถาโถมและโหมกระหน

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 50.ใช้หัวใจฟังเสียวหัวใจสิ

    “เจ้าอยู่ที่นี่ให้ข้าถอนพิษให้เจ้าเถิด” “ข้าจะอยู่ที่นี่ในฐานะอะไรได้” นางส่ายหน้าไปมาบนอกเสื้อของเขา นางจงใจทำร้ายองค์ชายหงก่วงต่อหน้าผู้อื่นหากนางยืนข้างกายเขา คนภายใต้การปกครองย่อมมองเขาไม่ดีเป็นแน่ ขณะที่สมองและหัวใจตีกันยุ่งเหยิง ปลายคางของนางถูกช้อนขึ้น ตามด้วยริมฝีปากหยักสวยทาบทับ นางคิดจะถอยหลังหลบหนีแต่เรียวลิ้นร้อนไล่ต้อนจนนางไม่อาจตั้งสติคิดสิ่งใดได้ ถูกจุมพิตของเขาทำให้สับสนจนเกือบขาดอากาศหายใจเขาจึงยอมละริมฝีปากจากนาง “ใจร้าย!” นางทุบแผ่นอกแกร่งของเขา “ข้าต้องการเวลาคิด”“เรื่องแบบนี้ต้องคิดอะไรนานนัก” เขาโน้นหน้าลงจุมพิตดวงตาของนางที่ยังมีหยาดน้ำตาวาวใส “ใช้หัวใจฟังเสียงหัวใจสิ”‘ใช้หัวใจฟังเสียงหัวใจสิ’เป็นอีกครั้งที่นางได้ยินประโยคนี้ ดวงตาของนางเหม่อลอยไปชั่วขณะ และในจังหวะเดียวกัน เซียวเหรินตัดสินใจทำในสิ่งที่ตนเองต้องการ ช้อนร่างนุ่มนิ่มไว้แนบอกพานางกลับมาที่ห้องนอนของตนเอง การกักขังนกตัวหนึ่งไว้นั้น อาจไม่ใช่กรงขังที่แน่นหนาแต่เป็นความรู้สึกปรารถนาที่มีต่อนางจูเต๋ออี้เห็นผู้เป็นนายกลับมาพร้อมกับอุ้มหญิงสาวที่ซุกอยู่ในอกจนแทบมองไม่เห็นใบ

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 49.คิดถึง

    “งานเหล่านี้แท้จริงเป็นของเจ้า ยามนี้ลุงแค่ช่วยจัดการให้ไปก่อน” เขาพูดอย่างใจเย็น บ้านเมืองต้องพลิกฟื้นเป็นการใหญ่ กว่าจะเข้ารูปเข้ารอยคงใช้เวลาอีกสามถึงสี่เป็นอย่างน้อย เขาก้มมองเห็นเด็กน้อยทำหน้านิ่วก็หัวเราะเบาๆ “เจ้าต้องหมั่นเรียนรู้ เข้าใจหรือไม่” “หลานทราบแล้ว เสด็จลุง” “ดี” เขาพูดแล้วขยับปลายนิ้วเรียกจูเต๋ออี้ องครักษ์ข้างกายที่ทำหน้าที่รับใช้มายาวนานถอยออกไป ครู่หนึ่งจึงเดินกลับเข้ามาพร้อมขนม เด็กน้อยทำตาโตแล้วยื่นมือไปรับขนมจากเซียวเหริน “ข้าให้ในครัวปรุงให้เจ้าเป็นพิเศษ ในนี้มีส่วนผสมของสมุนไพรบำรุงร่างกาย เจ้าจะได้แข็งแรงเติบใหญ่เร็วไว” “ขอบพระทัยเสด็จลุง” “ไปเถอะ” “อื้ม!” เด็กน้อยปีนลงจากตัก ขันทีผู้หนึ่งเข้ามารับ เขามองเด็กน้อยที่ชะตาชีวิตลิขิตให้นั่งบัลลังก์มังกร ได้แต่หวังว่าตัวเองจะขัดเกลาเด็กคนนี้ให้เป็นฮ่องเต้ที่ดี คงมีเพียงการทำเช่นนี้ที่ลดทอนความรู้สึกผิดที่เคยให้คำสัตย์สาบานไว้ แม้ว่าชื่อของเขาจะเคยเป็นรัชทายาทก็ตาม เซียวเหรินก้มหน้าอ่านฏีกา หยิบพู่กันขึ

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 48. เหตุใดถึงเจ็บถึงเพียงนี้

    “ข้า...” หลันหลันอ้ำอึ้ง ไม่เคยคิดว่าตัวเองต้องไปจากที่นี่ ไม่ใช่หรอก นางมิได้อาลัยสถานที่แห่งนี้ มีเพียงความรู้สึกที่ต้องจากไกลเซียว เหรินต่างหากที่ทำให้นางปวดใจมือเรียวเล็กยกขึ้นอกที่หน้าอกซ้าย บริเวณที่ถูกเซียวเหรินซัดฝ่ามือเข้าใส่ ความเจ็บปวดระลอกหนึ่งราวเข็มแหลมเล็กนับร้อยนับพันทิ่มแทงหัวใจเจ็บ?เหตุใดถึงเจ็บถึงเพียงนี้“หลันหลัน” อู๋หมินลี่เห็นใบหน้าหลันหลันซีดเซียวไร้สีเลือดก็ตื่นตระหนก “เจ้าเจ็บรึ ให้ข้าตามหมอดีหรือไม่”หลันหลันส่ายหน้าไปมา ครู่หนึ่งนางสูดลมหายใจลึกสะกดความเจ็บปวดทั้งหมดแล้วฝืนยิ้มให้อู๋หมินลี่ พลันเสียงของท่านป้าต๋าฝูดังแว่วเข้ามาในหัวน้อยๆ ของนาง‘มีเวลาเพียงสี่สิบเก้าวัน’จากบันทึกของเซียวเหริน นางเหลือเวลาอีกแค่สามวันแต่ถ้านางลองให้กงอี้เทาถอนมนตร์สะกดจิต บางทีนางอาจมีชีวิตได้ยาวนานกว่านี้ แต่ชีวิตของอูหลันโหยว ไม่อาจอยู่ที่แคว้นเฉียน เหลียงได้“หลันหลัน” อู๋หมิ่นลี่บีบมือเย็นเฉียบของหลันหลัน “ข้าพาเจ้ากลับที่พักดีกว่า” “ให้ข้าประคองนางเองเจ้าค่ะ” ไป๋ชิวเข้ามาช่วยประคองหลันหลันเพื่อเดินกลับที่พัก อู๋ซิงว่านผ่านมาพอดีเห็นไป๋ชิวประคองหลันหลันอยู

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 47.ให้นางตัดสินใจเอง

    นางมุดอยู่ใต้ผ้าห่มแต่หูได้ยินเสียงพวกเขาตกลงต่อรองกัน สุดท้ายกงอี้เทาได้แต่ถอนหายใจหนักหน่วงแล้วก้าวออกไป นางคิดว่าในห้องไม่มีใครแล้วจึงโผล่หน้าออกมาจากผ้าห่ม แต่กลับพบสายตาคู่หนึ่งจ้องมองอยู่ก่อนแล้ว “ระหว่างนี้เจ้าพักอยู่ที่นี่ไปก่อน ข้าจะเป็นฝ่ายหาเวลามาพบเจ้าเอง” เขาพูดด้วยน้ำเสียงสงบนิ่งเช่นที่เคยเป็น “เข้าใจหรือไม่” นางพยักหน้าขึ้นลงเร็วๆ แทนคำตอบ เซียวเหรินไม่เอ่ยอะไรอีก หมุนตัวแล้วเดินออกไปเงียบๆ จนนางมั่นใจว่าครั้งนี้ไม่มีผู้อื่นแล้วจริงๆ จึงยอมลุกขึ้นจากที่นอนอีกครั้ง ‘ให้นางตัดสินใจเอง’ นางคิดมากจนตาลายเดือดร้อนบ่าวรับใช้ที่เฝ้าดูอาการเข้าใจผิดคิดว่าอาการของนางทรุดลง อู๋ซิงว่านรีบเข้ามาดูอาการของนาง พอรู้ว่านางหิวโหยจนหน้ามืดก็แหงนหน้าหัวเราะไม่เกรงใจคนป่วยอย่างนาง สั่งการให้บ่าวไพรยกสำรับอาหารมาให้ หลังจากถูกบิดาเรียกไปอบรม เขารู้ว่าควรทำใจเรื่องหลันหลัน อาจเพราะนางเป็นคนให้กำลังใจจนเขาสามารถใช้แขนขวาได้อีกครั้ง แต่พอรู้ว่านางอาการทรุดลงก็รีบมาดูทันที ใครจะรู้ว่านางแค่หิว ไม่สิ นางหิวมากจนจะเป็นลม ระ

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 46.ผลของการกระทำ

    “คุณหนู” ไป๋ชิวร้อนรน แต่หมอที่เก่งที่สุดกำลังดูแลสตรีอื่นจนทำให้คุณหนูของนางเป็นเช่นนี้ “ข้าไม่เป็นอะไร” นางพยายามสูดลมหายใจลึก แม้รู้อยู่แก่ใจว่าเซียวเหรินมองนางด้วยสายตาเช่นไร แต่นางก็ยังหวัง หวังว่าจะมีสักวันที่เขาจะรับรู้ความรู้สึกของนาง เปิดใจให้นางบ้าง “ไป๋ชิว พาคุณหนูใหญ่ไปพักผ่อนก่อน” อู๋ซั่วไต้เอ่ยขึ้นแล้วมองบุตรสาวด้วยความเห็นใจต่อให้ไม่มีสตรีผู้นั้นเข้ามา หรือแม้กระทั่งเขาจะใช้คนของหมู่ตึกนกยูงทองช่วยชีวิตคนสกุลเซียวเอาไว้ เขาย่อมรู้ดีว่าเรื่องเหล่านี้จะเอามาเป็นบุญคุณเพื่อให้เซียวเหรินแต่งงานกับอู๋หมิ่นลี่ได้ แต่ด้วยฐานะที่แท้จริงของเซียวเหริน อู๋ซั่วไต้รู้ดีว่า บุตรสาวของเขาไม่สามารถเคียงข้างชายผู้นั้นได้ ไม่สิ จะเรียกเซียวเหรินเช่นแต่ก่อนได้อย่างไร ในเมื่อตอนนี้เป็นถึง... “ท่านพ่อ” อู๋หมิ่นลี่กลั้นน้ำตาที่เอ่อคลอ “ท่านรู้อยู่แล้วว่าท่านเซียวเป็นใคร จึงพยายามเตือนลูกใช่ไหมเจ้าคะ” “ลี่เอ๋อร์ เจ้าหักห้ามใจตัวเองเสียเถิด ยังมีบุรุษดีๆ อีกมากมาย พ่อจะคัดเลือกคนที่ดีและเหมาะสมกับเจ้าเอง” “แต่ว่า.

  • ดอกโบตั๋นที่เชิงเขาฝั่งตะวันออก   Chapter 45.เสียงเรียกที่แฝงอำนาจ

    “ลูกข้าเป็นอะไร” ไทเฮาถามด้วยสีหน้าตื่นตระหนก “รักษาเขาสิ!” เซียวเหรินถึงกับนิ่งงันด้วยอับจนถ้อยคำ แต่ฮ่องเต้หงฉานหัวเราะเสียงปร่าแล้วโบกมือไปมา “มันใหญ่มากใช่ไหมละ” เขาหัวเราะขืนๆ “อะไรกัน” ไทเฮาหันมาถามอย่างงุนงง แต่เซียวเหรินไม่กล้าพูดออกมา “มันคือฝี” ฮ่องเต้ที่กำลังจะกลายเป็นเพียงอดีตฮ่องเต้พูดขึ้นแล้วกดไปที่ท้องของตัวเอง “กระจายไปทั่วท้องแล้ว” “ไม่จริง... เหตุใดเป็นเช่นนี้” “เป็นมาเนิ่นนานแล้ว หมอหลวงรักษาไม่ได้ ลูกจึง...ไม่ใส่ใจกับมันอีก” ไทเฮาหันมาเขย่าแขนของเซียวเหริน “เจ้าได้ชื่อว่าเป็นหมอเทวดา ต้องรักษาได้!” “ถ้าได้รับการรักษาก่อนหน้านี้คงจะ...” “ช่างมันเถอะ” ฮ่องเต้หงฉานโบกมือไปมาจ้องมองใบหน้าของเซียวเหริน “เรารู้ ถึงได้ปล่อยให้มันเป็นเช่นนี้” “เจ้า! ทำไมโง่เช่นนี้” “เสด็จแม่” ฮ่องเต้พูดอย่างอ่อนแรง “ท่านเองก็รู้ว่า เสด็จพ่อยกบัลลังก์นี้ให้ใครตั้งแต่แรก” “หุบปากเสีย!” “เสด็จแม่...แท้จริงแล้วบัลลังก์นี้เป็น

DMCA.com Protection Status