Share

บทที่ 4

วันรุ่งขึ้น เซียงหนงหนงก็ขายหมูตุ๋นผักกาดดองและหมูทอดเปรี้ยวหวานหมดเกลี้ยง วันนี้เธอทำทั้งหมดสองร้อยชุด ได้เงินรวมหนึ่งพันเหรียญ

แต่ถึงแม้จะคืนเงินไปแล้ว ก็ยังมีเงินค่ารักษาของแม่เซียงที่ยังค้างอยู่ และมือของพ่อเซียงก็ได้รับบาดเจ็บถึงกระดูก ซึ่งต้องใช้เงินในการรักษา

และคุณภาพชีวิตที่บ้านก็ยากลำบากเกินจะบรรยาย

ดังนั้น พูดได้เลยว่า เซียงหนงหนงยังต้องพยายามมากขึ้นอีก

หลังจากกลับถึงบ้านและทานอาหารเย็นเสร็จแล้ว เซียงหนงหนงก็วางแผนที่จะไปเสี่ยงโชคที่ชายหาดใกล้เคียงสักหน่อย อาจจะได้จับปลา กุ้ง หรือปูที่ไม่ต้องเสียเงิน ซึ่งก็ถือเป็นการปรับปรุงอาหารบ้าง นอกจากนี้ถ้าโชคดีได้ปลามาก็จะมีวัตถุดิบสำหรับทำอาหารในวันพรุ่งนี้

ในฐานะที่เป็นครอบครัวที่อาศัยอยู่ริมทะเล แทบทุกบ้านจะมีเรือไม้เล็ก ๆ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ทำประมงเป็นอาชีพ แต่ในวันธรรมดาก็สามารถจับสัตว์ทะเลมาทำอาหารได้

เซียงหนงหนงเจอเรือลำเล็กของเซียงเหล่าซานที่มีเครื่องมือครบครัน

เธอแกว่งไม้พายเรือไม้เล็กตั้งใจจะไปตกปลาน่านน้ำใกล้ชายฝั่ง

ตกปลาครั้งแรก เซียงหนงหนงรู้สึกถึงการเคลื่อนไหว และมันไม่ใช่การเคลื่อนไหวธรรมดาๆ

ดูท่าว่าจะได้ตัวใหญ่

เซียงหนงหนงรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที รีบดึงเบ็ดขึ้นมา

ทว่าเมื่อเธอใช้ความพยายามอย่างมากในการดึงขึ้นมา กลับพบว่าเธอไม่ได้จับได้ปลาใหญ่ แต่เป็นคนคนหนึ่ง

ใช่ คนที่กำลังบาดเจ็บสาหัสใกล้ตาย

นี่ ——

เสื้อผ้าบนตัวของชายคนนี้เปื่อยรุ่ย เผยให้เห็นบาดแผลที่เน่าเปื่อยและซีดขาว ใบหน้าซีดเซียว ริมฝีปากเปลี่ยนเป็นสีม่วง ไม่รู้ว่าเขาลอยอยู่ในทะเลมานานแค่ไหนแล้ว

การจะช่วยชีวิตคนต้องรีบ เซียงหนงหนงรีบพายเรือกลับไปอย่างเร่งด่วน และรีบพาคนไปที่ร้านขายยาทันที

หมอที่ร้านขายยารีบทำแผลให้ชายหนุ่ม และให้ยาช่วยชีวิตบางตัวไป ใช้เวลาไปมากกว่าหนึ่งชั่วโมง

สุดท้ายแล้ว เมื่อเซียงหนงหนงกลับมาจากร้านขายยา เงินที่ครอบครัวของพวกเขาเป็นหนี้ร้านยาก็เพิ่มจากแปดร้อยเหรียญเป็นหนึ่งตำลึง

เห็นเซียงหนงหนงแบกผู้ชายตัวใหญ่กลับมา พ่อเซียงแม่เซียงต่างก็ตกใจ

"หนงหนง——"แม่เซียงมองไปที่หนงหนงอย่างไม่เชื่อสายตา

เซียงหนงหนงขัดจังหวะเธอได้ทันเวลา:"ออกทะเลไปจับปลาแต่จับได้นี่ ยังมีชีวิตอยู่ จะปล่อยให้ตายไม่ได้หรอก พ่อ ท่านช่วยล้างตัวเขา เปลี่ยนเสื้อผ้าให้เขาที ข้าจะทำอะไรให้เขากินหน่อย"

เห็นเซียงหนงหนงอธิบายเรื่องราวทั้งหมดได้อย่างชัดเจนในไม่กี่คำ ใบหน้าของแม่เซียงก็แสดงความตกใจเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็กลืนน้ำลายและไม่พูดอะไร

เธอรู้สึกเสมอว่าตั้งแต่ที่หนงหนงถูกคนหน้าบากแทงหมูตายต่อหน้าแล้วตกใจจนสลบไป ก็เหมือนกับว่าเธอกลายเป็นคนละคนเลย

หลังจากที่เซียงเหล่าซานไปขายข้าวกล่องกับเซียงหนงหนงในวันนี้ เขาเองก็รู้สึกว่าลูกสาวของเขาเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เหมือนกับว่าเธอมีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น เขาในตอนนี้กลับเชื่อฟังเธอโดยไม่รู้ตัว รีบไปตักน้ำร้อนมาเต็มถัง

เซียงหนงหนงหยิบเนื้อหมูติดมันมาสับละเอียด แล้วต้มเป็นโจ๊กหมูชามใหญ่ ใส่เนื้อไม่มากนัก และตัดผักใบเขียวใส่ลงไปด้วย ต้มจนสุกแล้วโรยต้นหอมเพื่อเพิ่มความหอมปิดท้าย

ฟู่จิ่งเจิ้งตื่นขึ้นมาท่ามกลางกลิ่นหอมอบอวล

เขาค่อยๆลืมตาขึ้นมาก็เห็นใบหน้างดงามน่ารัก

เป็นเด็กสาวที่มีผิวค่อนข้างคล้ำเล็กน้อย คิ้วโค้งเป็นคู่ ดวงตาสองข้างเย็นชาแต่แฝงด้วยความมั่นคงและความสงบที่ไม่สามารถบรรยายได้

ทว่าเพียงไม่กี่วินาที ความสนใจของเขาก็ตกไปอยู่ในชามใหญ่ที่หญิงสาวถือไว้ในมือ

เป็นชามโจ๊กเนื้อร้อนๆ ที่ผสมผสานกับกะหล่ำปลีสด หอมซอย และเนื้อชิ้นเล็กๆ ดูน่ากินมาก

เขาเลียริมฝีปากที่แห้งแตกอย่างอดไม่ไหวในทันที

"ดื่มน้ำก่อน ดื่มช้าๆ ห้ามดื่มอึกใหญ่ แล้วค่อยๆกินโจ๊ก"เซียงหนงหนงยื่นชามไม้ให้เขาก่อน ข้างในมีน้ำอุ่นอยู่

ฟู่จิ่งเจิ้งดื่มน้ำทีละนิดจนเหลือครึ่งชามตามที่เธอบอก

เมื่อเห็นเขาดื่มน้ำไปเกือบครึ่งชามแล้ว เซียงหนงหนงจึงยื่นโจ๊กเนื้อให้เขา

"ยังร้อนอยู่ เจ้าค่อยๆ กินนะ"เซียงหนงหนงเอ่ยเตือน

ฟู่จิ่งเจิ้งไม่รู้เลยว่าตัวเองหมดสติไปนานแค่ไหน และนานแค่ไหนที่ไม่ได้กินอาหาร เขาไม่ทันจะตอบเซียงหนงหนง ก็หยิบช้อนขึ้นมากินโจ๊กทันที

โจ๊กนี้เคี่ยวจนข้นและนุ่ม กลิ่นหอมของเนื้อบดและผักใบเขียวผสมกัน เป็นโจ๊กที่อร่อยที่สุดที่ฟู่จิ่งเจิ้งเคยกินมาในชีวิตนี้

เซียงหนงหนงมองไปที่ใบหน้าของเขาด้วยสายตาที่ไม่สนใจนัก ปฏิเสธไม่ได้เลยว่านิยายออนไลน์ที่น่าเบื่อหน่ายเรื่องนี้ แม้เธอจะเข้ามาเป็นตัวละครรอง แต่ชายหนุ่มที่เธอได้ก็ยังหล่อเหลาเอาการอยู่ดี

ชายหนุ่มคนนี้มีคิ้วดาบและดวงตาเป็นประกาย ดวงตาสองลึกซึ้ง จมูกโด่ง ริมฝีปากบาง ใบหน้านี้ราวถูกแกะสลักอย่างสมบูรณ์แบบ ไร้ที่ติ

"หล่อมาก แต่ไม่รู้ว่าความจำเสื่อมหรือเปล่า ถ้าความจำเสื่อม ก็หลอกให้เขาอยู่เป็นลูกเขยที่บ้านได้นี่ ไม่ต้องออกไปหาคนรัก"เซียงหนงหนงเกิดความคิดนี้ขึ้นมา

ในตอนนี้ ฟู่จิ่งเจิ้งกินโจ๊กหมดชามแล้ว เขามองไปที่เซียงหนงหนงและพูดด้วยเสียงแหบพร่า "ขอบคุณ"

ทว่าทันทีที่เขาพูดจบ ในหัวของเขาก็ได้ยินเสียงกระซิบกระซาบพูดในใจของเซียงหนงหนง

สายตาของฟู่จิ่งเจิ้งฉายแววไม่อยากเชื่อ

ที่เขาเพิ่งได้ยินไปเมื่อครู่คืออะไร?

เสียงที่ในหัวของเขาเพิ่งได้ยินหรือว่าจะเป็นเสียงในใจของเด็กสาวที่อยู่ตรงหน้าคนนี้?

"ข้า ข้าคือใคร? ตอนนี้ข้าอยู่ที่ไหน?"สมองฟู่จิ่งเจิ้งหยุดชะงักไปชั่วครู่ เขามองไปที่เซียงหนงหนงอย่างสงสัย

เซียงหนงหนงได้ยินคำพูดของฟู่จิ่งเจิ้งแล้ว สมองก็หยุดชะงักไปชั่วขณะเช่นกัน จากนั้นเธอก็แทบจะกลั้นหัวเราะไม่อยู่

"บ้าน่า พระเจ้า หรือว่าหลังจากที่ข้าทะลุเข้ามาในหนังสือแล้วจะยังคิดอะไรก็ได้อย่างนั้นอีก นี่เขาความจำเสื่อมไปแล้วจริงหรือ? นี่คืส่งมาให้ฟรีๆเลยนะเนี้ย ถ้าเป็นอย่างนั้น ก็อย่าหาว่าข้าไม่เกรงใจแล้วกัน"

ฟู่จิ่งเจิ้งที่ได้ยินคำพูดในใจนี้ทั้งหมดก็อดคิดไม่ได้: ".." เขาอยากเห็นนักว่าหญิงสาวคนนี้จะไม่เกรงใจอย่างไรกัน?

ยังไงตอนนี้ข้างนอกนั้นก็มีคนตามล่าตัวเขาเต็มไปหมด งั้นให้เขาหลบอยู่ที่นี่ ซ่อนตัวรอจังหวะดีกว่า

"เจ้าจำอะไรไม่ได้เลยจริงๆ หรือ? "เซียง หนงหนงมองไปที่ฟู่จิ่งเจิ้งอีกครั้งด้วยความสงสัยก่อนจะถามย้ำ อดคิดต่างๆในใจไม่ได้ "เร็วสิ รอคิดพล็อตอยู่นะ จะสร้างตัวตนอะไรให้เขาดี หรือจะบอกว่าเขาเป็นคนที่เลี้ยงมาเพื่อให้เป็นสามีดี ยังไงเขาก็หน้าตาดีอยู่ เดี๋ยวก่อน ต้องไปเตี๊ยมกับพ่อแม่ก่อนแล้วหมอที่ร้านขายยาด้วยคนนั้นก็อย่าลืม ——"

ฟู่จิ่งเจิ้งได้ยินเสียงในใจของเธอ ก็รู้สึกอยากหัวเราะขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล แต่สีหน้าเขากลับแสดงออกถึงสายตาที่ใสซื่อและโง่เขลา ส่ายหัวแล้วพูดด้วยความจริงใจว่า: "จำไม่ได้จริงๆ"

เห็นเขาจริงจังขนาดนี้ เซียงหนงหนงก็รีบเข้าไปใกล้ขึ้นอีกหน่อย

ทั้งสองคนอยู่ใกล้กันมาก จนสามารถได้ยินเสียงหายใจของกันและกัน ลมหายใจประสานกัน ฟู่จิ่งเจิ้งไม่เคยอยู่ใกล้หญิงสาวคนไหนขนาดนี้มาก่อน ใบหน้าของเขาแดงขึ้นเล็กน้อย แม้แต่หลังหูก็ยังมีสีแดงระเรื่อ

"เจ้าเป็นคนงานในบ้านข้าชื่อว่าอาเจิ้ง"ในช่วงเวลาที่ฟู่จิ่งเจิ้งหายใจแทบไม่ออกแล้ว เซียงหนงหนงก็ลุกขึ้นยืนทันทีแล้วพูดด้วยสีหน้านิ่งๆ หัวใจก็ไม่เต้นแรง

ฟู่จิ่งเจิ้ง: ".."ไหนบอกว่าจะให้เป็นคนที่เลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็กเพื่อมาเป็นสามีไง?

"ช่วยชีวิตเขาไว้ แถมยังติดหนี้ร้านขายยาอีกหลายสิบเหรียญก่อน หลอกให้เขามาเป็นแรงงานให้สักระยะหนึ่งก่อนแล้วกัน รอหาเงินมาใช้หนี้ให้หมดก่อนค่อยว่ากัน"เซียงหนงหนงคิดในใจ แล้วยิ้มเบาๆมองไปที่ฟู่จิ่งเจิ้งแล้วพูดว่า"รีบพักผ่อนให้ดีเถอะ พรุ่งนี้ยังต้องทำงานอีก ไม่งั้นข้าจะไม่ให้เจ้าได้กินจนอิ่มนะ"

พูดจบ เธอก็ถือชามข้าวลงไป

ฟู่จิ่งเจิ้งที่ถูกทิ้งไว้: ".." เขาดูหลอกง่ายขนาดนั้นเลยหรือ?

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status