Share

บทที่ 10

ในสวนหลังบ้านมีทั้งคอกหมู มีเล้าไก่ มีเล้าเป็ด แต่ตอนนี้ทั้งหมดว่างเปล่า

เซียงเหล่าซานรู้แค่การเลี้ยงหมูเท่านั้น เขาเลี้ยงไก่และเป็ดทีไรมักจะตายเพราะกินมากเกินไป หรือไม่ก็ถูกสัตว์อื่นคาบไป——สรุปแล้ว ไม่มีตัวไหนที่โตจนถึงวัยวางไข่ได้เลย

เซียงหนงหนงมองดูอย่างเศร้าใจ

ตอนนี้ครอบครัวของเธอชำระหนี้ได้แล้ว

แต่หากอยากปรับปรุงคุณภาพชีวิตในปัจจุบัน จะพึ่งพาแค่การเลี้ยงสัตว์และขายข้าวกล่องนั้นไม่พอ!

เธอยังอยากเปิดร้านอาหารจานด่วน!

เพียงรอที่บ้านมีเงินเหลือ เธอก็ซื้อหมูสองตัวให้เซียงเหล่าซานเลี้ยงไปก่อน แบบนี้ในอนาคตแม้จะเปิดร้านอาหารก็จะได้มีแหล่งจัดหาวัตถุดิบ

แสงแดดในตอนนี้ทำให้เธอรู้สึกเหนื่อยล้าเล็กน้อย

ธอจึงนั่งลงบนเก้าอี้เอนข้าง ๆ เพื่อคิดทบทวนสถานการณ์

เสียงของเซียงเหล่าซานดังขึ้นข้างหูอย่างกะทันหัน

"อย่าตักมากขนาดนั้นสิ! เมื่อวานเป็นวันที่ห้าของเดือนตุลาคมมีเทศกาลงานวัดที่เมืองชิงซานเลยขายได้มากขนาดนั้นวันนี้ต้องไปขายที่ท่าเรือเตรียมแค่สองร้อยชุดก็พอ ไม่งั้นขายไม่หมด หรือกลับมาช้า จะไม่ทำให้หนงหนงข้าเสียกำลังใจเอาหรอกหรือ?"

"ช่วงสองวันนี้หนงหนงเหนื่อยมาก ตอนเจ้าออกไปเจ้าต้องช่วยนางให้มากขึ้น ให้นางได้พักผ่อนมากขึ้น——"เซียงเหล่าซานรู้สึกสงสารเซียงหนงหนง

"ข้ารู้"เป็นคำตอบของอาเจิ้ง.

เซียงหนงหนงฟังแล้วรู้สึกอบอุ่นในใจ

แต่พอนึกถึงที่เซียงเหล่าซานพูดถึงวันที่ห้าตุลาคมเมื่อครู่——เธอก็รีบลุกขึ้นนั่งตัวตรงทันที

เมื่อวานเป็นวันที่ห้าของเดือนตุลาคม วันนี้ก็เป็นวันที่หกของเดือนตุลาคม จวนเจิ้นกั๋วกง เป็นวันเกิดครบรอบหกสิบปีของเจิ้นกั๋วกง!

วันนี้มีบันทึกไว้ในหนังสือ

"วันที่หกของเดือนตุลาคมเป็นวันเกิดของเจิ้นกั๋วกง เซียงเฉียนแต่งกายอย่างหรูหราไปเข้าร่วมงาน ได้รับเสียงปรบมือจากทุกคน และบังเอิญเจอองค์ชายหกที่ไปหาพี่ใหญ่เซียงเฉิงหยวนเข้า เขาถูกความงามของเธอดึงดูดจนอยู่ต่อที่จวน จากนั้นในงานเลี้ยงวันเกิด เซียงเฉียนก็ได้รับคำชมจากองค์ชายที่หกด้วยคำชมเชยที่ไม่ธรรมดา"

"องค์ชายหกไม่ลังเลที่จะชื่นชมเธอเลย หลังจากงานเลี้ยง เซียงเฉียนจึงตั้งใจใช้ความรู้สึกขอบคุณและชื่นชมไปขวางองค์ชายหกไว้ที่หน้าประตูบ้าน และเมื่อรู้ว่าเขาต้องการหาทางทำเงิน เธอก็เสนอเรื่องการกักตุนอาหาร"

"และในเดือนมีนาคมปีหน้าจะเริ่มเกิดภัยพิบัติตั๊กแตนซึ่งจะดำเนินยาวไปจนถึงเดือนกันยายน ในเวลานั้นข้าวในทุ่งจะไม่มีเมล็ดเหลืออยู่เลย และราคาข้าวที่สะสมไว้ก่อนหน้านี้จะพุ่งสูงขึ้น องค์ชายหกเลยใช้โอกาสนี้ทำเงินได้มากมาย มีทุนอยู่แล้วเลยประสบความสำเร็จในที่สุด"

เซียงหนงหนงในใจบ่นพึมพำอยู่ครู่หนึ่ง แล้วค่อยๆ ลุกขึ้นจากเก้าอี้โยก เดินไปพูดว่า: "แต่เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่เซียงเฉียนเท่านั้นที่ทำได้ ท้ายที่สุดเธอก็เป็นนางเอกในหนังสือ ทะเยอทะยานสูง ถ้าเป็นฉัน ฉันจะไม่ให้คำแนะนำอะไรกับองค์ชายหก ฉันจะหาวิธีสะสมอาหารเอง รอจนเกิดภัยพิบัติตั๊กแตนแล้วขายอาหารพวกนั้นในราคาตลาด ไม่เพียงแต่จะทำเงินได้มาก แต่ยังสร้างชื่อเสียงดีๆอีกด้วย ทำให้จวนเจิ้นกั๋วกงได้รับความเคารพจากประชาชนจนมีชื่อเสียงโด่งดัง!"

เซียงหนงหนงที่ในใจอย่างแรงกล้า ไม่คิดเลยว่านี่จะถูกเซียงเฉิงหยวนที่อยู่ห่างไกลในจวนเจิ้นกั๋วกงที่เมืองหลวงได้ยินเข้า

เซียงเฉิงหยวนฟังจนงง!

เสียงนี้คือเสียงที่เขาเคยได้ยินในศาลบรรพชน! แต่ทำไมนางถึงรู้มากขนาดนี้? และทำไมนางถึงได้คิดถึงจวนเจิ้นกั๋วกงขนาดนี้? แล้วทำไมเขาถึงได้ยินเสียงนี้?

เซียงเฉิงหยวนยืนอยู่ที่เดิม ราวพื้นที่ในสมองไม่พอใช้

เซียงเฉียนเดินเข้าไปข้างหน้าอย่างสงสัยถามว่า: "พี่ใหญ่ ท่านคิดเสร็จหรือยัง?"

"โอ้——"เซียงเฉิงหยวนกระพริบตาไปมาก่อนจะมองไปที่เธอด้วยรอยยิ้ม"เฉียนเฉียน ข้าว่าเรื่องนี้ไม่ต้องรีบ รอวันข้างหน้าเถอะ ถ้าพวกเจ้ามีวาสนา ก็จะได้พบกันเองใช่ไหมล่ะ? ตอนนั้นข้าจะได้แนะนำให้พวกเจ้าได้รู้จักกันอย่างดีเลย"

เซียงเฉิงหยวนรีบจากไปอย่างรวดเร็ว

เสียงที่ได้ยินเมื่อครู่ไม่ว่าจะเป็นความจริงหรือไม่ก็ตาม แน่นอนว่านางไม่มีเจตนาจะทำร้ายจวนเจิ้นกั๋วกง!

หากเป็นเช่นนั้นทำไมเขาถึงไม่เอาโอกาสดีๆนี้หาประโยชนืผลกำไรให้ตัวเองซะล่ะ?​ ทำชื่อเสียงจวนเจิ้นกั๋วกงให้โด่งดังไม่ดีหรือไง?

เซียงเฉิงหยวนไปหาพ่อบ้านทันที

"ไปหาร้านขายข้าวสารขายแป้งที่ใหญ่กว่านี้แล้วซื้อกลับมาให้เยอะๆ แล้วเก็บไว้ในตรงที่ว่างๆใกล้บ้านข้า"

คำสั่งนี้มาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย พ่อบ้านจึงงงไปชั่วขณะ

"หา?"เขาอ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจ"คุณชายใหญ่ก่อนหน้านี้ไม่ได้บอกว่าจะจัดงานวันเกิดของนายท่านให้ยิ่งใหญ่หรอกหรือ?"แล้วทำไมจู่ๆถึงจะตุนอาหารล่ะ?

เซียงเฉิงหยวนมองด้วยสายตาแหลมคม: "นั่นมันเมื่อก่อน!ตอนนี้ข้าสั่งให้เจ้าไปทำก็ไปทำสิ!รีบเลย ไปเดี๋ยวนี้!"

"ใช่แล้ว อย่าให้แขกผู้มีเกียรติที่มารู้เรื่องนี้!"

ความหมายก็คือให้เขาไปจ่ายเงินมัดจำก่อนเพื่อจองข้าวไว้ แล้วค่อยขนมาที่จวนเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมใช่ไหม?

ท่าทางของพ่อบ้านนั้นสับสนมาก

แต่เขาเป็นเพียงพ่อบ้านเท่านั้น เจ้านายสั่ง เขาก็ไม่มีเหตุผลที่จะไม่เชื่อฟัง!

พ่อบ้านรีบออกไปหาซื้อข้าวสาร

ในตอนนี้ เซียงหนงหนงกำลังมองดูดวงอาทิตย์ที่อยู่เหนือศีรษะของเธอและถอนหายใจเบา ๆ : " น่าเสียดายที่สุดท้ายองค์ชายหก พวกเขาประสบความสำเร็จได้อย่างยิ่งใหญ่ ถ้าหากเป็นองค์รัชทายาท ——"

เซียงหนงหนงหยุดเดิน ยกมือขึ้นบังหน้าผาก แล้วบ่นในใจว่า: "ในหนังสือบรรยายเขาไว้อย่างไรนะ? โอ้——องค์รัชทายาทแห่งประเทศหนานฉีที่ฉลาดและกล้าหาญ รักประชาชนเหมือนลูก และยังสุภาพอ่อนโยน สง่างามและมีเกียรติ แต่ช่างน่าเสียดาย เขาอายุสั้น ตายไปตั้งแต่ยังหนุ่ม"

"เฮ้อ——โลกนี้ช่างไม่แน่นอน คนดีๆอายุไม่ยืนเลย!"

เซียงหนงหนงยังคงเดินต่อไปที่ลานหน้าบ้าน

ตรงทางเล็กๆ จากลานหน้าบ้านไปยังลานหลังบ้านนั้นมีฟู่จิ่งเจิ้งกำลังยืนติดกับผนังตัวแข็งทื่ออยู่ตรงนั่น

เขามาเรียกเซียงหนงหนงให้เตรียมตัวออกเดินทางไปท่าเรือเพื่อขายข้าวกล่อง แต่ไม่คิดว่าเพิ่งเดินมาถึงก็ได้ยินเสียงในใจของเธออีกครั้ง

เขาตกตะลึงยืนอยู่กับที่ในทันที

ถ้าเขาเดาไม่ผิด ที่เธอพูดถึงองค์รัชทายาทแห่งประเทศหนานฉีน่าจะเป็นเขา——และเขาก็เกือบตายจริงๆ ถ้าไม่ใช่เพราะเธอบังเอิญไปจับปลา ซ้ำยังบังเอิญไปที่น่านทะเลนั้น เขาไม่ได้รับการช่วยเหลือ!

และองค์ชายหกที่เธอพูดถึง น่าจะเป็นองค์ชายหก น้องชายของเขา?

ท้ายที่สุดน้องหกจะกลายเป็นรัชทายาทและได้ครองโลกงั้นหรือ?

มือของฟู่จิ่งเจิ้งกำแน่นขึ้นทันที

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status