รุ่งเช้าเดินทางมาถึงอย่างรวดเร็ว อลิสาตื่นตั้งแต่หกโมงเช้า เธอคิดว่าตัวเองตื่นเช้าแล้วแต่พอเดินออกมาที่ด้านนอกกลับพบยายที่กำลังนั่งดูข่าวเช้าอยู่พร้อมกับแก้วนมอุ่นๆ
อลิสาเดินไปหายายพร้อมกับนั่งลงข้างๆ เก้าอี้แล้วโอบกอดยายเอาไว้ “ตื่นแล้วเหรอ ตื่นสายนะเราน่ะ ตื่นสายแบบนี้จะทำงานที่นี่ได้ยังไงกัน ส้มแป้นจะต้องไล่หนูออกแน่ๆ” “ยายหนูลิสาเอง ไม่ใช่คนงานใหม่สักหน่อย” “อ้าวนี่หลานเองเหรอ ไปนอนต่ออีกหน่อยเถอะลูก ตื่นเร็วไปก็ไม่มีงานอะไรให้ทำหรอก เดี๋ยวยายให้ส้มแป้นทำโจ๊กที่ชอบให้เอาไหม เอ้านี่รีโมทเอาไปดูการ์ตูนสิ..” อลิสารับรีโมทมาจากยายพร้อมกับยกยิ้มเศร้าๆ “ไม่เป็นไรค่ะ ยายดูเถอะ เดี๋ยวหนูลงไปดูพี่แป้นข้างล่างก่อนนะคะ” “งั้นก็ตามใจ เอานี่ไปสิ” ยายยัดแบงค์ยี่สิบใส่มือของเธอมา “เอาไปซื้อขนมนะ...” รอยยิ้มค่อยๆ จางหายไปจากใบหน้าของอลิสา เธอขบเม้มริมฝีปากด้วยสายตาแห่งความรู้สึกผิด “อื้อ ขอบคุณนะคะยาย” เธอกำเงินในมือเอาไว้แน่นก่อนจะเดินลงไปด้านล่างก็เห็นพี่แป้นกำลังทำงานอยู่ในห้องกระจก “มีอะไรให้หนูช่วยไหมคะ” ส้มแป้นส่งยิ้มให้กับอลิสา “เยอะเลยค่ะเพราะงานทุกอย่างต่อไปนี้คุณหนูจะต้องทำเองทั้งหมด” ส้มแป้นลุกขึ้นก่อนจะพาอลิสามานั่งบนเก้าอี้ที่เธอนั่งทำงานอยู่เมื่อครู่ “ไร่ของเรา..ไม่มีกำไรมาสองปีแล้วค่ะ” ใบหน้าของอลิสานั้นรู้สึกชาไปหมดเลย เธอเงยหน้ามองพี่แป้นด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความตกใจ เมื่อสองปีที่แล้วเธอยังโทรมาขอเงินยายไปลงทุนทำธุรกิจอยู่เลย หมายความว่าทั้งยายและพี่แป้นให้เงินก้อนนั้นมาทั้งๆ ที่ไร่ของเราขาดทุนอยู่งั้นเหรอ? “ลิสาไม่รู้มาก่อนเลยว่าไร่ของเราอยู่ในสภาพแบบไหน?” ส้มแป้นส่งยิ้มให้กับคุณหนูของเธอก่อนที่เธอจะตบไหล่ของอลิสาเบาๆ “ไม่ใช่ความผิดคุณหนูหรอกค่ะ อาจจะเป็นเพราะว่าไร่ของเราไม่ได้ทำการพัฒนามานานแล้ว ไม่เหมือนกับอีกสองไร่ข้างๆ ที่พวกเขาเริ่มปลูกองุ่นสายพันธ์ุต่างๆ เพิ่มมากขึ้น” “หนูได้รับจดหมายของยายเมื่อไม่กี่วันก่อน จดหมายนั่นพี่แป้นเป็นคนส่งให้ใช่ไหมคะ” พี่ส้มแป้นพยักหน้า “เพราะการขาดทุนสองปีทำให้ไร่เราในตอนนี้กำลังเป็นหนี้อยู่ค่ะ พี่ไปพบเจอจดหมายนั้นในห้องของคุณยายโดยบังเอิญ สารภาพตามตรงว่าพี่ไม่รู้จะทำยังไงให้งานในไร่มันเดินต่อไปได้หากว่าเราไม่มีเงินทุนมาซื้อปุ๋ยหรือว่าจ้างคนงาน เราจะไม่สามารถเก็บองุ่นที่กำลังออกช่อได้ทัน” แสดงว่าตอนนี้ เธอจะต้องหาเงินทุนเพื่อมาจ้างคนงานและซื้อปุ๋ย อีกทั้งยังต้องจ่ายดอกธนาคารและจ่ายเงินต้นคืนทุกเดือนอีกด้วย ตอนแรกเธอคิดว่าชีวิตของตัวเองจะเลิกถังแตก ตอนที่กลับมาที่ไร่ แต่นี่มันยิ่งกว่าถังแตกอีกไม่ใช่เรอะ เรียกได้ว่านี่คือวิกฤตเลยก็ว่าได้.. “อ่า..ตอนนี้เรามีปุ๋ยและยาที่จะใส่อีกกี่เดือนกันคะ” “อีกสิบวันจะครบกำหนดใส่ปุ๋ยแล้วและปุ๋ยของเราใส่ได้อีกเพียงครั้งเดียวเท่านั้น..” อลิสายกมือขึ้นมากุมขมับเบาๆ องุ่นใช่ว่าพอออกลูกแล้วจะสามารถเก็บเกี่ยวได้เลย แต่ต้องทั้งบำรุงต้นใบ และยังต้องระมัดระวังเรื่องแมลงอีก อีกสามเดือนถึงจะเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ แต่ตอนนี้จะต้องหาเงินมาซื้อปุ๋ยก่อน “เรา..มีเงินเหลืออยู่เท่าไหร่คะที่เอามาหมุนเวียนภายในไร่” พี่ส้มแป้นกางสมุดบัญชีให้อลิสาดูและยอดเงินในนั้นเหลืออยู่หนึ่งแสนบาท.. เธอหลับตาลงอย่างใช้ความคิด หนึ่งแสนค่าคนงานยังไม่พอเลย แล้วจะเอาเงินที่ไหนมาซื้อปุ๋ยกันฟะ “พี่ช่วยเอารายจ่ายต่อเดือนให้หนูดูหน่อยได้ไหมคะ ว่าในหนึ่งเดือนจะต้องจ่ายค่าอะไรบ้าง แล้วก็รายชื่อจำนวนคนงานทั้งหมดของเรา” “ได้ค่ะคุณหนู ตอนเย็นวันนี้พี่จัดงานเลี้ยงเล็กๆ ให้คุณหนูด้วยนะคะ เป็นงานเลี้ยงต้อนรับเพื่อให้คนงานของเรารู้จักคุณหนู” อยู่ในสภาพถังแตกแบบนี้ยังสามารถจัดงานเลี้ยงได้อีกเรอะ “ไม่เสียเงินค่ะงานนี้ พอดีคนงานของเราไปช่วยไร่พูนสุขมาทางนั้นก็เลยล้มวัวให้ตัวหนึ่ง” ล้มวัวเลยเรอะ “วัวตัวนั้นยังมีชีวิตไหมคะ ถ้าเราเลี้ยงเอาไว้..” “อ่า..ตอนนี้กระดูกของมันอยู่ในหม้อต้มซุปแล้วค่ะ ส่วนเนื้อก็กำลังนำไปหมักเพื่อรอย่างเย็นนี้” อลิสาพยักหน้าเบาๆ ไร่พูนสุขอย่างงั้นเหรอ? “จริงสิพี่แป้น แบบนี้เราก็ชวนคนที่ไร่พูนสุขและไร่เจริญรุ่งมาด้วยได้ไหมคะ หนูเองก็อยากจะทำความคุ้นเคยเอาไว้เผื่อเวลาที่ไปหาไหทองที่นั่นจะได้ไม่ต้องเป็นคนแปลกหน้ากัน” พี่ส้มแป้นดีดนิ้วดังเปราะ “ได้เลยค่ะคุณหนู เดี๋ยวพี่จะส่งคนไปชวนเจ้าของไร่ทั้งสองและคนงานมาที่นี่เอง” อลิสาพ่นลมหายใจเบาๆ “หวังว่าเจ้าของไร่จะเป็นคุณลุงที่ใจดีกับหนูนะคะ” พี่ส้มแป้นขมวดคิ้วในทันทีก่อนจะหัวเราะออกมาเสียงดัง “คุณลุงอะไรกันคะคุณหนู เจ้าของไร่พูนสุขเป็นหลานชายเพียงคนเดียวของปู่สุข รายนั้นหล่อยิ่งกว่าพระเอกหนังอีก ส่วนเจ้าของไร่เจริญรุ่งพึ่งได้รับมรดกจากคุณตามาหมาดๆ อันนี้พี่ยังไม่เคยเห็นหน้าแต่คนงานสาวๆ ของเราทุกคนต่างลงความเห็นว่าเขาหล่อเหมือนดาราเกาหลี คนหนึ่งคมเข้มอีกคนหล่อแบบเกาหลี เพราะอย่างนั้นสู้เค้านะคะคุณหนูจะคนไหนก็ได้ คว้ามาให้ได้สักคน” อสิลาส่งยิ้มแห้งๆ ให้กับพี่ส้มแป้น “ในเมื่อเจ้าของไร่อื่นเขาทั้งหล่อทั้งรวยแบบนั้นเขาจะมาสนใจหนูเหรอพี่ แค่ผูกมิตรกันเอาไว้ก็พอแล้ว” บางทีส้มแป้นก็อยากจะถามคุณหนูเหมือนกันนะว่าคุณหนูของเธอเคยส่องกระจกบ้างรึเปล่า? สวยขนาดนั้นไม่เคยมีใครบอกเลยรึไง “แป้นไปบอกคนงานเรื่องงานเลี้ยงต้อนรับก่อนดีกว่า หากว่าคุณหนูอยากจะเดินออกไปตรวจงานในไร่ก็อย่าลืมสวมหมวกด้วยนะคะ แดดที่นี่ร้อนมากเลย ตอนเย็นเจอกันที่ท้ายไร่นะคะ” อลิสาปรายตามองไร่องุ่นผ่านทางหน้าต่างกระจก เธอเดินไปหยิบหมวกสานมาสวมเอาไว้บนศีรษะก่อนจะเดินออกจากห้องทำงานเพื่อเข้าไปในไร่ กลิ่นดินอ่อนๆ ที่ถูกไถคราดจนพลิกหน้าดินขึ้นมาเจอแสงแดดให้กลิ่นที่หอมสดชื่นอย่างน่าประหลาดเลย ตอนนี้เป็นเวลาเช้าที่แดดยังไม่แรงเท่าไหร่นัก คนงานส่วนมากยังไม่มาทำงานอลิสาจึงเดินไปเรื่อยๆ จนถึงท้ายไร่ เธอเจอสะพานไม้ที่กั้นขวางคลองเล็กๆ เอาไว้ รอยยิ้มปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของอลิสาอีกครั้ง ครั้งหนึ่งในตอนเด็กเธอเคยมาเล่นน้ำในคลองนี้เป็นประจำเลยมาเล่นกับพี่ชายคนหนึ่งที่อยู่ในหมู่บ้าน ไม่รู้ว่าเขาชื่ออะไรและตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง แต่เธอจำได้ว่าเขามีรอยยิ้มที่สวยมากจนเธอละสายตาไปจากรอยยิ้มนั้นไม่ได้เลย“อย่าเดินข้ามไปนะครับ สะพานมันเก่าแล้ว”อลิสาหันไปตามเสียงก็พบกับเจ้าของใบหน้าที่ทำเอาเธออึ้งไปเลย นี่คนงานไร่ของเราหล่อขนาดนี้เลยงั้นเรอะ“อะ..เอ่อ ขอบคุณค่ะ”เขาส่งยิ้มให้เธอเมื่อเขามองเห็นใบหน้าที่เงอะงะของเธอ ทว่ารอยยิ้มนั้นมันคุ้นตาอย่างน่าประหลาด เหมือนกับรอยยิ้มแสนหวานในความทรงจำพี่ชายที่แก้ผ้าเล่นน้ำด้วยกันสมัยก่อน“พี่จองชัยรึเปล่าคะ อ่า..ถ้าไม่ใช่ขอโทษด้วย..”“ครับ..อย่าบอกนะว่าเราคือลิสา ยัยเด็กตัวแสบที่ชอบกระโดดลงไปเล่นน้ำคลอง..?”มุมปากของเธอกดลึกเป็นรอยยิ้มขึ้นมา ในใจรู้สึกได้เลยว่าเธอกำลังโล่งอก อย่างน้อยการกลับมาที่นี่ก็ได้พบเจอคนที่เคยรู้จักบ้างแล้ว“ค่ะ หนูพึ่งจะกลับมาอยู่ที่นี่ได้ไม่นาน ดีใจนะคะที่ได้เจอพี่จองอีก”จองชัยหัวเราะเบาๆ ใบหน้าของเขามันสวยหวาน..ใช่แล้วมันเป็นความสวยในแบบที่หากว่าเขาผมยาวสามารถเรียกได้ว่าเขาคือผู้หญิงได้เลย เธอไม่คิดมาก่อนเลยว่าเด็กที่เคยแก้ผ้าเล่นน้ำด้วยกันในวันนี้ โตขึ้นมาเขาจะหล่อมาขนาดนี้..“พี่ดีใจนะที่เจอเรา ว่าแต่คุณยายสบายดีไหม”อลิสาพยักหน้า“สบายดีค่ะ”เพราะว่าคนที่ไม่สบายดูเหมือนจะมีแค่เธอเท่านั้นเองจองชัยหรี่ตามองหน้าของอลิสา
อลิสารวบผมเอาไว้ด้านหลังเพื่อมัดเป็นหางม้า เธอแต่งหน้าอ่อนๆ แบบที่ไม่ให้คนอื่นจับโปะได้ว่าแต่งหน้า ส่วนเสื้อ สวมเดรสไม่น่าจะดีเพราะว่านี่คืองานเลี้ยงต้อนรับที่จัดขึ้นมาในไร่..ต้องแต่งตัวให้ไม่มากไป ไม่น้อยไป..ไม่มากไป ไม่น้อยไปแล้วมันจะต้องแต่งแบบไหนกัน?สุดท้ายอลิสาสวมเสื้อครอปสีดำเอาไว้ด้านใน แล้วสวมทับด้วยเสื้อเชิ้ตตัวใหญ่สีขาว ส่วนกางเกง..แน่นอนว่าจะต้องเป็นกางเกงยืนขายาวเท่านั้นเพราะที่นี่ยุงเยอะมากหลังจากหมุนหน้ากระจกครบร้อยรอบแล้ว อลิสาก็เดินออกมาจากห้องเพื่อไปหอมแก้มยายแรงๆ สองสามที“หนูลิสาเองค่ะยาย เดี๋ยววันนี้พี่นกจะเป็นคนพายายเข้านอนนะคะ”“งั้นเหรอ ส้มแป้นไปไหนล่ะ”“พี่แป้นไปจัดงานเลี้ยงต้อนรับหนูค่ะ..”อลิสาจับมือของยายเอาไว้แน่น เธอยกยิ้มขึ้นมาพร้อมกับช้อนสายตามองหน้ายาย“หนูจะปกป้องไร่อุดมรักของยายเอาไว้เอง ต่อจากนี้ยายก็ช่วยกินเยอะๆ ดูแลสุภาพให้แข็งแรงเพื่ออยู่กับหนูไปนานๆ นะคะ”ยายหัวเราะ ทว่าสายตาของยายไม่ได้มองหน้าของเธอเลย ยายกำลังมองโทรทัศน์เครื่องเก่าที่อยู่เบื้องหน้า ไม่เป็นไร ถึงยายจะไม่รับรู้ก็ไม่เป็นไรหรอก เธอจะทำให้ดีที่สุดเพื่อปกป้องไร่นี่เอาไว้หลังจากร่
อลิสารวบผมเอาไว้ด้านหลังเพื่อมัดเป็นหางม้า เธอแต่งหน้าอ่อนๆ แบบที่ไม่ให้คนอื่นจับโปะได้ว่าแต่งหน้า ส่วนเสื้อ สวมเดรสไม่น่าจะดีเพราะว่านี่คืองานเลี้ยงต้อนรับที่จัดขึ้นมาในไร่..ต้องแต่งตัวให้ไม่มากไป ไม่น้อยไป..ไม่มากไป ไม่น้อยไปแล้วมันจะต้องแต่งแบบไหนกัน?สุดท้ายอลิสาสวมเสื้อครอปสีดำเอาไว้ด้านใน แล้วสวมทับด้วยเสื้อเชิ้ตตัวใหญ่สีขาว ส่วนกางเกง..แน่นอนว่าจะต้องเป็นกางเกงยืนขายาวเท่านั้นเพราะที่นี่ยุงเยอะมากหลังจากหมุนหน้ากระจกครบร้อยรอบแล้ว อลิสาก็เดินออกมาจากห้องเพื่อไปหอมแก้มยายแรงๆ สองสามที“หนูลิสาเองค่ะยาย เดี๋ยววันนี้พี่นกจะเป็นคนพายายเข้านอนนะคะ”“งั้นเหรอ ส้มแป้นไปไหนล่ะ”“พี่แป้นไปจัดงานเลี้ยงต้อนรับหนูค่ะ..”อลิสาจับมือของยายเอาไว้แน่น เธอยกยิ้มขึ้นมาพร้อมกับช้อนสายตามองหน้ายาย“หนูจะปกป้องไร่อุดมรักของยายเอาไว้เอง ต่อจากนี้ยายก็ช่วยกินเยอะๆ ดูแลสุภาพให้แข็งแรงเพื่ออยู่กับหนูไปนานๆ นะคะ”ยายหัวเราะ ทว่าสายตาของยายไม่ได้มองหน้าของเธอเลย ยายกำลังมองโทรทัศน์เครื่องเก่าที่อยู่เบื้องหน้า ไม่เป็นไร ถึงยายจะไม่รับรู้ก็ไม่เป็นไรหรอก เธอจะทำให้ดีที่สุดเพื่อปกป้องไร่นี่เอาไว้หลังจากร่
วะ..ว่าไงนะ เจ้าของไร่พูนสุข? เธอมาที่นี่ได้ไม่นานแต่ได้เจอกับเจ้าของไร่ทั้งสองแล้วเหรอเนี่ย..อลิสาทอดสายตามองออกไปนอกหน้าต่าง เธอมองเห็นต้นองุ่นขนาดใหญ่ที่อยู่ใจกลางไร่แห่งนี้นั่นมันต้นองุ่นร้อยปีที่อาจจะมีไหทองของยาย!! หัวใจของเธอเต้นแรงไม่เป็นจังหวะเลยให้ตายเถอะ“รีบเปลี่ยนชุดสิ จะไปส่ง”เขาส่งเสื้อและกระโปรงมาให้เธอ อลิสาขมวดคิ้วเล็กน้อยเพราะว่าเขา..มีเสื้อผ้าผู้หญิงได้ยังไง“ของหลาน พี่สาวออสการ์ไง”“แล้วหนูใส่ได้เหรอคะ หลานพี่จะไม่ว่าหนูใช่ไหม?”“ใส่ๆ ไปเหอะ หากว่าช้ากว่านี้ก็ไม่ต้องใส่อะไรแล้ว แก้ผ้าอยู่ที่นี่แทน”“ใส่ค่ะใส่ ใส่เดี๋ยวนี้เลยค่ะ”เธอรีบคว้าเสื้อผ้าบนมือของเขาก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปในห้องน้ำเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า และแน่นอน เสื้อผ้าของเด็กมอปลายกับคนอายุเกือบจะสามสิบ..มันคนละแนวกันเลย กระโปรงสั้นนี่คืออะไรกันเนี่ย? แถมเสื้อยังเป็นเสื้อผูกคอแบบโป๊มาก“ไม่ไหวค่ะ หนูขอยืมเสื้อพี่ได้ไหมคะ เสื้ออันนี้มัน..เกินไปหน่อย”เตลองซ์อมยิ้ม เขาจงใจให้เธอขอยืมเสื้อของเขาอยู่แล้ว เพราะว่าเขารู้ดีว่าเสื้อที่ให้เธอไป เธอจะไม่ยอมใส่มันอย่างแน่นอน“ได้สิ อย่าลืมเอามาคืนด้วยนะ”“ค่ะจะเอาม
กรี๊ดดดดดดด!!!!ใจจริงเธอเองก็อยากจะกรีดร้องออกมาแบบนั้น แต่ในตอนนี้อลิสาทำได้เพียงแค่กรีดร้องออกมาในใจเท่านั้นเธอรู้สึกว่าหน้าตัวเองมันร้อนจนต้องยกมืออีกข้างมาโบกพัด หลังจากนั้นอลิสาก็ดึงแขนตัวเองกลับมาเพื่อหลบหนีจากการเกาะกุมของพี่จองชัย“หวาน..จังเลยนะ”ควันร้อนๆ แทบจะพวยพุ่งขึ้นมาบนศีรษะ อลิสาได้แต่ส่งยิ้มแห้งๆให้เขาก่อนที่เธอจะรีบกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปหาพี่ส้มแป้น“เล่นแรงเกินไปแล้ว..”จองชัยมองหน้าของเตลองซ์ เมื่อได้ยินคำกล่าวค่อนแคะของเพื่อน“งั้นเหรอ หากคิดว่านี่คือการเล่นแรง แล้วการที่ทำตัวสนิทสนมกับลิสาแบบนั้นคืออะไร”เตลองซ์ยักไหล่“ไม่ได้ทำตัวสนิทสนม แต่สนิทจริงๆ ต่างหาก สนิทแบบที่แนบสนิทไปทุกส่วนของร่างกายเลย..ครั้งนี้กูไม่ยอมให้หรอกนะเพราะว่ากูรู้จักลิสาก่อน”รู้จักก่อนงั้นเหรอ? เขารู้จักกับอลิสามาตั้งนานแล้วตั้งแต่ที่เรายังเป็นเด็ก“มั่นใจไปหน่อยนะเต ครั้งนี้เราก็ไม่ยอมแกเหมือนกัน มาสู้กันแบบแฟร์ๆ ดิ”เตลองซ์แค่นหัวเราะ“กูไม่สนวิธีหรอก มึงก็รู้ว่าคนแบบกูสนใจแค่ผลลัพท์”น้ำเสียงของเตลองซ์มันเยือกเย็นในแบบที่จองชัยเองก็ไม่คิดเหมือนกันว่าเราจะมาแข่งขันเรื่องการเอาชนะใจผู้หญิ
ในเมื่อจัดการเรียบเรียงความคิดตัวเองได้แล้ว สิ่งที่จะต้องทำก็คือการไปที่ไร่พูนสุขเธอไม่ได้อยากเจอพี่เตลองซ์ แต่ที่ต้องไปที่นั่นเพราะว่าพื้นที่ ที่อลิสาจะตัดใจขายมันอยู่ติดกับไร่พูนสุขพอดีในระหว่างที่อลิสากำลังจะเดินออกมาจากออฟฟิต ฟ้าด้านนอกก็เริ่มสว่างแล้ว“คุณลิสา จะไปไหนแต่เช้าคะ”อลิสาส่งยิ้มให้พี่นก แม่บ้านของที่นี่“หนูว่าจะไปที่ไร่พูนสุขค่ะ มีงานที่จะต้องไปคุยที่นั่นพอดี”“ดะ..เดี๋ยวก่อนค่ะคุณหนู วันนี้เป็นวันพระ ที่ไร่พูนสุขในช่วงเช้าไม่น่าจะมีคนอยู่ เพราะทุกคนน่าจะไปที่วัดกันหมด คุณลิสาเองก็แวะไปที่วัดพร้อมกับคุณยายก่อนสิคะ แล้วค่อยไปคุยงาน”อลิสาเหลือบมองปฏิทินก็พบว่าวันนี้เป็นวันพระ เธอเดินเข้าไปหาพี่นกเพื่อช่วยแม่บ้านถือกับข้าวมาใส่รถเอาไว้“ปกติแล้วคนที่นี่จะไปวัดในทุกวันพระเลยใช่ไหมคะ”พี่นกพยักหน้าเบาๆ“ใช่แล้วค่ะ ในวันพระ ไม่ว่าจะเป็นคนงานในไร่หรือว่าเจ้าของสวนต่างก็จะต้องเดินทางไปที่วัดก่อน แล้วถึงจะแยกย้ายกันไปทำงาน”เธอไม่ได้อยู่ที่นี่มานานนับสิบปีเลยสินะ ถึงได้หลงลืมความเป็นอยู่ของคนในหมู่บ้านไปจนเกือบหมดสิ้นยายเดินลงบันไดมาพร้อมกับรอยยิ้ม หากดูภายนอกคุณยายอุดมขอ
พี่ส้มแป้นยกมือขึ้นเพื่อเรียกอลิสาไปนั่งตรงนั้น อลิสายื่นเหม่ออยู่พักหนึ่งเพราะว่าตรงที่พี่ส้มแป้นและยายนั่งมันอยู่ด้านหน้าสุด แถมยังมีทั้งพี่เตลองซ์และพี่จองชัยนั่งอยู่ตรงนั้นอีกด้วยหรือว่าเธอจะนั่งข้างหลัง หลบๆ มุมตรงนี้ดี ในขณะที่อลิสากำลังใช้ความคิด ไฉไลก็จับมือเธอเดินฝ่าฝูงชนที่นั่งอยู่ในไปหาพี่ส้มแป้นในทันทีสายตาของไฉไลเป็นประกายเพราะว่าเด็กน้อยเห็นออสก้าร์นั่งอยู่ข้างๆ คุณเตลองซ์ดวงตาของเตลองซ์นั่นพลันอ่อนลงเล็กน้อยเมื่อเขามองเห็นเฝือกที่แขนเธอ ในใจรู้สึกผิดที่เมื่อวานเขาออกแรงบีบแขนเธอจนเลือดออกเพราะต้องการเรียกร้องความสนใจจากเธอเขาฉุดแขนของอลิสาให้นั่งลงข้างๆ เขา แล้วขยับตัวเองมานั่งขวางระหว่างลิสาและจองชัย“เจ็บขนาดใส่เฝือกเลยงั้นเหรอ?”ต้องพูดดีๆ นะลิสา วันนี้เธอมีเรื่องที่จะต้องไปคุยงานกับเขาอีกด้วย เพราะอย่างนั้นอย่าโกรธและอย่าใช้อารมณ์กับพี่เตเด็ดขาด“พอดีเมื่อคืนนอนๆ อยู่แล้วหนูปวดแขนค่ะ มันเจ็บจนนอนไม่หลับก็เลยให้พี่แป้นพาไปส่งโรงพยาบาล..”“โถ หนูลิสา ในเมื่อแขนเจ็บขนาดนี้ก็ทำอะไรไม่สะดวกสินะ แบบนั้นก็ให้พี่เตเค้าไปดูแลหนูเถอะ หรือไม่ก็ขนงานมาทำที่ไร่พูนสุขดีไหม?”
รถยนต์เคลื่อนตัวมาจอดยังท้ายไร่พูนสุข ที่นี่ไม่ใช่บ้านที่เขาพาเธอไปเมื่อวันก่อน แต่กลับเป็นบ้านหลังเล็กๆ ที่ทำจากไม้สนแบบเดียวกันกับบ้านหลังใหญ่ของเขาเมื่อมองจากตรงที่เธอยืนจะสามารถมองเห็นไร่อุดมรักของเธอได้ เพียงแค่เดินข้ามสะพานไม้เก่าๆ นั้นมาก็จะสามารถมาที่นี่ได้อย่างง่ายดาย“เข้ามาสิ..”ที่ด้านหน้าบ้านหลังน้อยปลูกดอกไม้เอาไว้หลายชนิด และดอกไม้เหล่านั้นกำลังส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ ..มันทำให้เธอรู้สึกสบายใจมากยิ่งขึ้นอลิสาเดินตามเขาเข้าไปด้านใน เธอเห็นโต๊ะทำงานที่มีกองเอกสารมากมายวางอยู่บนนั้น ถัดจากโต๊ะทำงานคือโซฟาตัวยาว และตรงมุมห้องคือเตียงนอนเท้าของเธอพลันชะงักพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมามองหน้าเขาด้วยสายตาไม่ไว้ใจสักเท่าไหร่และเมื่อเตลองซ์มองเห็นสายตาหวาดระแวงของอลิสาเขาก็หัวเราะออกมาเบาๆเตลองซ์เดินเข้ามาหาเธอพร้อมกับจูงมือของเธอไปนั่งบนโซฟา เขาไม่ลืมปิดประตูบ้านลงพร้อมลงกลอนอย่างแน่นหนา..สิ่งแรกที่เขามองเห็นใบหน้าของอลิสาตอนที่อยู่ที่วัดคือความสวยของเธอก็จริง ทว่าเมื่อมองเข้าไปในดวงตาเขามองเห็นความเหนื่อยล้าและความทุกข์ใจเท่าที่เขาพอจะเดาได้ เรื่องราวที่ทำให้เธอต้องใช้ความคิดมากเช่นนี
“พูดก็พูดเถอะ เรื่องของแกมันเหมือนกับในละครหลังข่าวเลยวะลิสา”สกายพูดพร้อมกับหมุนตัวของลิสาเบาๆ เพราะตรวจดูความเรียบร้อย วันนี้เพื่อนของเธอสวยมากกว่าทุกวันเลยอลิสาอยู่ในชุดเจ้าสาวสีขาวบริสุทธิ์ที่กระโปรงยาวฟูฟ่อง ที่บนเรือนผมสวมมงกุฎดอกไม้เอาไว้ ส่วนที่มือก็ถือช่อดอกไม้เล็กๆ ไว้ด้วย“นั่นสินะ บางทีเราก็คิดนะว่าเหมือนเราเกิดมาเพื่อแต่งงานกับพี่เตเลย..”โรงแรมของเธอสร้างเสร็จก่อนปีใหม่สองเดือน แต่ถึงอย่างนั้นเมื่อเพจของโรงแรมเปิดตัวก็มียอดจองเข้าพักยาวจนถึงปีหน้าเลย อาจจะเพราะผู้คนโหยหาธรรมชาติ อีกทั้งพี่ไคโรยังมีความสามารถในการสร้างโรงแรมของเราออกมาได้เหมือนกับอยู่ที่อิตาลีจริงๆ เลยเรื่องนั้นต้องยกความดีความชอบให้เขา และเรื่องฤกษ์แต่งงานก็เป็นพี่ไคโรเหมือนเดิมที่หาวันที่ดีที่สุดแบบที่เร็วที่สุดตามความต้องการของพี่เตลองซ์ได้“พรหมลิขิตสุดๆ ไปเลย”สกายพูดพร้อมกับจับมือของอลิสาเอาไว้“ขอให้แกมีความสุขมากๆ นะ”ส่วนอีกด้านเป็นพี่อาร์มที่เข้าไปแสดงความยินดีกับเตลองซ์“ให้ตายเหอะ นี่อย่าบอกนะว่าได้แต่งงานกันเพราะกู เหลือเชื่อจริงๆ เลย”เตลองซ์หัวเราะ เขาตบไหล่ของอาร์มเบาๆ“แต่งงานกันเพราะกู
ร่างกายของเรากอดก่ายกันอย่างแนบชิดกระทั่งไม่มีช่องว่างของอากาศแทรกผ่าน ฝ่ามือของเขาบีบเคล้นความนุ่มนิ่มทั้งสองข้างที่ชวนให้หลงใหลจนมันปริออกมาตามง่ามนิ้ว ปลายยอดสั่นระริกถูกเคล้นคลึงจากฝ่ามือของเขา สลับกับการใช้ปลายนิ้วบี้ลงไป.. “อา..” ช่องทางด้านล่างร้อนผ่าวเต้นตุบๆ ดูเหมือนจะยั่วเย้าปลายนิ้วที่กำลังสอดลึกเข้าไปด้านใน ชั่วพริบตาเมื่อถูกปลุกเร้าทั้งด้านบนด้านล่างพร้อมๆ กัน ร่างกายของเธอก็สั่นกระตุกเบาๆ พร้อมกับเสียงร้องครางที่ดังสนั่น “ชอบให้ใช้นิ้วขนาดนั้นเลยเหรอ หรือว่า..คิดถึงพี่จนทนไม่ไหว” เขาหมุนตัวเพื่อให้เธอหันหน้ามามองเขา เตลองซ์รูดรั้งแก่นกายขึ้นลงเบาๆ ก่อนจะกดสะโพกของอลิสาลงไป.. “อะ..อึ่ก” เขาไม่ยินยอมให้เธอได้พักแม้เพียงเสี้ยวนาที ฝ่ามือหนาใหญ่กำลังลูบไล้ไปตามสีข้าง ส่วนใบหน้าของเขาก็ฝังลงไปบนเนินเนื้อนุ่มนิ่มก่อนจะออกแรงดูดดึงมันเบาๆ ความตื่นตัวร้อนผ่าวเบียดแทรกเข้ามาช้าๆ แล้วฝังลึกเข้ามาในกายเรื่อยๆ จนสุดท้าย ร่างกายกำลังถูกเติมเต็มอีกครั้งหลังจากที่เธอพึ่งจะเสร็จสมไป ความรู้สึกต่างๆ ยิ่งไวต่อสัมผัสมากกว่าครั้งไหนๆ อลิสาบดเบียดสะโพกลงไปยังแท่งร้อนเผาก่อ
อลิสามองแผ่นหลังของพี่จองชัยและคุณเบลินดาที่เดินเคียงข้างกันด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มหวังว่าคำพูดของเธอมันจะสามารถสะเทือนกำแพงในใจของพี่จองชัยได้ไม่มากก็น้อยทะเลาะกันแทบเป็นแทบตายเพราะต่างฝ่ายต่างไม่มีใครยอมใคร ทั้งๆ ที่ทั้งคู่ต่างก็เป็นคนผิด ถ้ายอมหันหน้ามาคุยกันตั้งนานก็คงไม่ต้องทะเลาะกันยาวนานมากขนาดนี้“กลับบ้านกันเถอะครับ พี่ง่วงแล้ว”“ที่นี่บ้านลิสาค่ะ จะกลับไปไหนได้อีก”เตลองซ์หน้ามุ่ย“งั้นขึ้นห้องกันเถอะครับ..เมียจ๋า ไม่ว่าจะยังไงคืนนี้พี่ไม่ยอมนอนคนเดียวแน่นอน พี่นอนคนเดียวมาหลายคืนแล้วนะ เมื่อวานลิสาก็อ้างว่าติดงาน เดี๋ยวนี้ติดงานมากกว่าพี่อีกเหรอครับ”จะว่าไป..เธอไม่ได้ไปอยู่กับเขานานแล้วเหมือนกัน“ก็ได้ค่ะ รอก่อนนะคะ เดี๋ยวลิสาช่วยไฉไลเก็บจานก่อน”“ได้เลยครับ เพื่อเมียนานแค่ไหนก็รอ”อลิสาหันหน้ามาหาเตลองซ์ ก่อนที่เธอจะเดินเข้ามาหาเขาแล้วหอมแก้มเขาเบาๆ“ไปนั่งรอตรงนั้นเลยค่ะ”เธอชี้ไปที่เก้าอี้เพื่อให้เขาไปนั่งรอดีกว่ามายืนรอแบบนี้ เตลองซ์ยกมือขึ้นมาถูแก้มเบาๆ ตรงที่ลิสาพึ่งจะจุมพิตไปเมื่อครู่ ใบหน้าของเขาในตอนนี้คงกำลังยิ้มอยู่สินะ เขารู้สึกร้อนไปทั่วทั้งหน้าเลยอลิสาไม่ได้
จองชัยจับมือของเบลินดาเอาไว้“วันนี้พอเท่านี้เถอะครับ เรากลับกันเถอะ”เมื่อจองชัยพูดจบเขาก็จูงมือของเบลินดาออกไปจากที่นี่“ทั้งๆ ที่ตัวเองเป็นตัวต้นเรื่องแท้ๆ มาทำท่าเหมือนรู้สึกผิดงั้นเหรอไอ้จอง ทุเรศฉิบหายเลยว่ะ”จองชัยหันหลังกลับมามองหน้าของเตลองซ์“เออ กูมันทุเรศ แล้วยังไงล่ะ? หากว่ามึงมั่นใจในความรักของมึงทำไมจะต้องกลัว..”เตลองซ์ทำท่าจะถลาเข้าไปหาจองชัยแต่อลิสาเอาตัวเข้ามาขวางไว้ เธอมองหน้าเตลองซ์ด้วยสายตาโกรธเคืองเล็กน้อย“ไปขอโทษคุณเบลินดาแบบตั้งใจมากกว่านี้ค่ะ”อลิสาชี้นิ้วไปที่คุณเบลินดาเพื่อให้เตลองซ์ไปขอโทษเธอ ทว่าเตลองซ์กลับขมวดคิ้วมองหน้าของอลิสา“ลิสา..นี่พี่เป็นคนผิดงั้นเหรอ?”“หากถามลิสาก็ผิดทั้งคู่นั้นแหละ เพราะอย่างนั้นพี่เตไปขอโทษของลินดา หลังจากนั้นคุณลินดาก็ขอโทษพี่เตนะคะ ไม่เหนื่อยงั้นเหรอ โกรธแค้นกันมาเป็นสิบๆ ปีแบบนี้ ให้มันพอแค่นี้และหลังจากนี้ไปก็สนใจแค่ความสุขของตัวเองเถอะค่ะ ไม่ต้องไปสนใจเรื่องการแก้แค้นหรือว่าอะไรแล้ว..นับจากนี้ไปใครมีความสุขมากกว่าคนนั้นชนะค่ะ”เตลองซ์เม้มปากเล็กน้อย เขาเดินเข้าไปหาเบลินดาที่กำลังทำท่าจะร้องไห้ออกมา“ผม..ขอโทษครับ หวังว่
เบลินดากำมือแน่นเมื่อเธอมองเห็นคุณปู่สุขมองหน้าของอลิสา สายตาเอ็นดูแบบนั้นในตอนที่เธอเป็นแฟนกับเตลองซ์ เธอไม่เคยได้รับมันเลยสักครั้งเดียว“ผมได้ข่าวมาว่าหุ้นส่วนอีกคนเป็นคนที่อลิสาแอบชอบมาตั้งแต่สมัยมหาลัย..แต่เธอไม่เคยบอกกล่าวความในใจออกไปเลย”เบลินดาส่งเสียงร้องเหอะออกมา“พึ่งรู้ว่านายเองก็มีประโยชน์เหมือนกันนะจองชัย อย่าบอกนะว่าที่นายทุ่มเทช่วยพี่ทำลายเต เพราะว่านายชอบอลิสา?”ความรู้สึกในใจมันขุ่นมัวไปหมดจนไม่สามารถพูดออกมาได้อย่างชัดเจนหรือเต็มปากได้ ว่าตกลงแล้วเขารู้สึกอย่างไรกับอลิสากันแน่รักเธอ หรือว่าต้องการเธอมาเพื่อจะให้คุณตาภูมิใจในตัวเขา“แต่นายจะรู้สึกยังไงมันไม่สำคัญหรอกนะจองชัย เพราะว่าพี่จะทำลายความรักครั้งนี้ของเตลองซ์เอง จะทำทุกทางเพื่อไม่ให้หมอนั่นมีความสุขกับคนรักเหมือนกับที่มันทำกับพี่”อลิสาเดินไปดูปลาก็พบว่ามันถูกเผาจนได้ที่แล้ว เธอใช้กรรไกรตัดหนังออกเบาๆ เพื่อให้ง่ายต่อการทานแล้วใช้ให้คนยกปลาเผาไปให้คุณตาและคุณยายที่อยู่บนบ้าน“น่าทานสุดๆ เลยพี่ลิสา พี่ทำกับข้าวเก่งเหมือนกันนะเนี่ย”ไฉไลพูดพร้อมกับทำจมูกขยับไปมาเพื่อสุดดมกลิ่นปลาเผาที่หอมฟุ้งไปทั่วไร่“ไม่ขนาด
สายลมในยามเย็นพัดผ่านใบหน้าของคุณยายอุดมไป คุณยายหันไปมองหน้าของคนที่คุณยายรักจนสุดหัวใจครั้งหนึ่งเราเคยจะหนีตามกันไป หนีไปจากที่นี่เพื่อให้ได้ใช้ชีวิตในฐานะของคนรักแต่ทว่าที่บ้านของคุณยายไม่มีใครอีกแล้ว หากว่าคุณยายหนีไปคุณแม่ของคุณยายก็จะต้องอยู่คนเดียวเพราะอย่างนั้นคุณยายจำต้องกล้ำกลืนความเจ็บปวดลงคอเพื่อแต่งงานกับคุณตาเสริมส่วนคุณปู่สุขก็ต้องกลับไปแต่งงานกับคนที่ทางครอบครัวบอกว่าดี..ย่ารตีเป็นผู้หญิงที่ดีสำหรับครอบครัวของคุณปู่สุข แต่ไม่ได้ดีสำหรับคุณปู่เลยเมื่อคลอดลูกคนแรกเราก็หย่ากันในทัน หลังจากนั้นคุณปู่ก็เลี้ยงลูกมาโดยลำพังและพอมีเตลองซ์ ปู่ก็อยู่กับเตลองซ์สองคนเพราะเจ้าลูกชายตัวดีไปอยู่กับแม่ของมันส่วนคุณยายอุดม ลูกสาวของยายคลอดอลิสาทิ้งไว้ให้ก่อนที่จะหนีไปกับผู้ชาย หลังจากนั้นอีกสิบปีคุณตาก็เสียชีวิตคุณยายไม่โกรธเคืองลูกสาวเลย เพราะว่าอลิสาคือสิ่งที่มีค่าที่สุดของคุณยาย เด็กน้อยที่มีรอยยิ้มเจิดจ้าราวกับแสงของดวงตะวันเหมือนกับว่าหน้าที่สุดท้ายของคุณปู่สุขและคุณยายอุดมคือการส่งหลานให้ถึงฝั่งฝัน..“ได้สิ หากว่าพี่ต้องการให้ฉันไปอยู่ด้วย ฉันก็จะไปอยู่กับพี่..จะไปสร้างภา
นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ก่อนหน้านี้ เขาไม่เคยจริงจังกับใครมาก่อนเลยสินะ..แต่ปัญหาของพี่เตลองซ์กับคุณเบลินดามันดูเหมือนจะร้ายแรงมากกว่าที่เธอคิดเอาไว้ซะอีกเขาทั้งสองคนไม่ใช่คนรักกันเหมือนที่เธอได้คาดเดาไปก่อนหน้า แต่ว่าเป็นคู่แค้นกันมากกว่า“แต่เมื่อปีที่แล้วพี่ได้ยินมาว่าลินดาไปอยู่ต่างประเทศ แล้วทำไมยัยนั่นถึงกลับมากันนะ แถมมาร่วมหุ้นทำโรงแรมกับลิสาอีก บอกตามตรงว่าพี่เป็นห่วงมากๆ เลย”อลิสาล้มตัวนอนลงไปบนพื้นหญ้า เธอมองท้องฟ้าสีครามที่อยู่ด้านบนก่อนจะค่อยๆ หลับตาลง“มีคำกล่าวจากหนังสือว่า ในการทำอะไรสักอย่างหากทางไหนที่เดินไปแล้วไม่เจออุปสรรคแสดงว่ามาผิดทาง เพราะแบบนั้นลิสาไม่กลัวหรอกค่ะ ไม่กลัวทั้งปัญหาเรื่องการทำโรงแรม และไม่กลัวว่าความสัมพันธ์ของลิสากับพี่เตจะมีปัญหาด้วย..อย่ากลัวไปเลยค่ะ เห็นแบบนี้ลิสามั่นคงมากกว่าที่พี่คิดอีกนะคะ”เตลองซ์ยกมือขึ้นมาเพื่อปังแดดที่กำลังส่องมาที่ใบหน้าของลิสา รอยยิ้มของเธอวันนี้มันช่างสวยงามเหมือนกับดอกทานตะวันที่กำลังผลิบานเขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าการมีคนรัก มันจะดีแบบนี้..“นั่นสินะ ไม่ว่าลิสาจะมีปัญหาอะไรพี่จะปกป้องลิสาเอง”เตลองจุมพิตลงไปบนหน้า
หลังจากที่คุณจอมทัพและคุณเบลินดา กลับไปแล้วก็เหลือแค่พี่ไคโรที่กำลังทำหน้าหมดอาลัยตายอยากอยู่“นี่พี่..ทำให้แกลำบากรึเปล่า ขอโทษด้วยนะครับคุณเต”อลิสาเงยหน้าขึ้นมาเพื่อมองสบตากับคนรักของเธอ เราทั้งสองต่างมีสภาพไม่แตกต่างกันเท่าไหร่นัก เรื่องในอดีตกำลังถาโถมเข้ามาแบบไม่ทันที่ได้ตั้งตัว แต่ทว่ามือของเราสองคนกลับกอบกุมกันเอาไว้ไม่ปล่อยเลยตอนนี้เธออยากจะพูดคุยกับพี่เตลองซ์เป็นการส่วนตัวและลิสาเองก็คิดว่าเขาน่าจะอยากคุยกับเธอมากๆ เหมือนกัน“ไม่ต้องคิดมากเลยค่ะพี่ไคโร ลิสาไม่ใช่เด็กแล้วนะที่จะก้าวผ่านเรื่องในอดีตไปไม่ได้ พี่ไม่ต้องคิดมากนะคะ ได้ฤกษ์งามยามดีเมื่อไหร่ก็ลงเสาเข็มก่อสร้างได้เลย”ไคโรขยี้มือลงไปบนผมของลิสาเบาๆ แต่ทว่าที่ด้านหลังของลิสากลับมีสายตาที่ไม่ค่อยชอบใจสักเท่าไหร่มองมา เขารีบยกมือขึ้นมาจากศีรษะของเธอในทันทีเขาเอ็นดูลิสาและมองว่ายัยเด็กนี่เหมือนน้องสาว แต่จากนี้ท่าทางว่าเขาจะต้องรักษาระยะห่างให้ดีซะแล้ว“ไว้เจอกันวันก่อสร้างนะ ช่วงนี้พี่อาจจะมาที่นี่บ่อยๆ เพราะว่าต้องมาคุมการก่อสร้างทั้งหมด”“เข้าใจแล้วค่ะ ขับรถกลับดีๆ นะพี่”ไคโรพยักหน้าให้ลิสา เขามองหน้าของคุณเตลองซ์ก
เมื่อเราเดินทางมาถึงที่ไร่อุดมรัก อลิสาก็มองเห็นรถยนต์ยุโรปสามคันที่จอดอยู่หน้าไร่ของเธอเตลองซ์จอดรถมอเตอร์ไซค์ของเขาเอาไว้ใต้ต้นไม้ใหญ่ เขาจับมือของอลิสาเอาไว้ พร้อมกับพาเธอเดินไปหาผู้ชายที่กำลังเดินมาหาเราเช่นกัน“สวัสดีค่ะพี่ไคโร นี่พี่เตแฟนหนูเองค่ะ”อลิสาช้อนสายตาพร้อมกับอมยิ้มเล็กน้อยเมื่อเธอแนะนำให้พี่ไคโรรู้จักกับพี่เตลองซ์“อ่า..นี่พามาแนะนำหรือว่าพามาอวด”อลิสาหัวเราะเบาๆ“มาอวด เอ้ย..มาแนะนำค่ะ เพราะว่าในบางทีพี่เตอาจจะมาช่วยงานลิสาด้วย เลยอยากจะพามาแนะนำให้รู้จักกันไว้”ไคโรมองหน้าเตลองซ์ก่อนที่เขาจะส่งยิ้มให้กับแฟนของเด็กที่นับถือกันเป็นน้องสาว“ผมไคโรครับ ยินดีอย่างยิ่งที่เด็กซนๆ แบบลิสามีแฟนกับเขาสักที และผมอยากจะแนะนำหุ้นส่วนคนอื่นให้รู้จัก..นี่พี่จอมทัพครับ”รอยยิ้มของอลิสาค่อยๆ จางหายไปจากใบหน้า เธอหุบยิ้มในทันทีพร้อมกับความรู้สึกมากมายที่ถาโถมเข้ามาราวกับคลื่นที่ซัดสาดไม่หยุดใบหน้าที่เธอเฝ้ามองมาตลอดระยะเวลาเกือบสิบปี ดวงตาของเขาตกใจเล็กน้อยเมื่อมองเห็นเธอ แต่แล้วจากดวงตาที่ตกใจก็กลับกลายเป็นดวงตาที่แสนยินดี“ลิสา..บังเอิญจังเลยนะ”ความรู้สึกหนักอึ้งกระจายตัวออกมา