ไม่! ทุกคนทำไมถึงทิ้งเธอไว้คนเดียว เธอทำไมอ่อนแออย่างนี้ ถ้าเธอย้อนกลับไปได้ ถ้าเธอสามารถช่วยทุกคนได้เรื่องร้ายๆ ก็คงไม่เกิดขึ้นกับครอบครัวของเธอ' ครอบครัวที่น่ารักของเธอ เป็นเพราะพวกแก ที่ใช้คำว่าญาติมาทำให้ครอบครัวของเธอ ต้องเป็นแบบนี้!! ขณะที่ซูเมิ่งพูดกับตัวเอง ก็มีไฟจากหน้ารถที่ดัดแปลง พุ่งชนเข้ามาอย่างจัง ทำให้ซูเมิ่งเสียชีวิตทันที! “ซูเมิ่งๆ ตื่นได้แล้วลูกไม่ไปทำงานเหรอ” ซูเมิ่งตื่นขึ้นมาด้วยความมึนงง ทำงานอะไรเมื่อกี้เราเพิ่งถูกรถชนนี่ ซูเมิ่งมองหน้าแม่ ที่คิดถึงสุดหัวใจด้วยดวงตาที่แดง หรือเราย้อนเวลากลับมาแล้วจริง? ๆ “เป็นอะไรลูกทำไมตาแดง” “ไม่เป็นอะไรคะแม่พอดีฝันร้ายนิดหน่อย” “ฝันร้ายเขาว่าจะกลายเป็นดี แม่ว่าลูกตื่นไปอาบน้ำ และรีบลงไปกินข้าวได้แล้ว เดี๋ยวจะไปทำงานสายเอา” “ได้ค่ะแม่ หนูจะตามลงไป แม่ลงไปก่อนเลย” ถ้าเธอได้โอกาส ย้อนเวลากลับมาเพื่อที่จะแก้ไขทุกอย่างจริงๆ เธอจะใช้ชีวิตนี้ให้ดี เธอจะช่วยคนอื่นและครอบครัวให้รอดพ้นจากวิกฤติที่จะเกิดขึ้นให้ได้ ส่วนคนที่เคยพรากครอบครัวของเธอไปในชาติก่อน เธอคงจะไม่ปล่อยให้มีชีวิตอยู่นานนักหรอก หนี้แค้นนี้เธอต้องชำระอย่างแน่นอน..... ซูเมิ่งกลับมานั่งที่เตียง เธอนั่งคิดกับตัวเองว่าเรื่องที่เธอรู้สึก เรื่องที่เธอเห็นเป็นความจริง หรือว่าฝันไปกันแน่ ขณะที่นั่งคิดอยู่ ซูเมิ่งมองไปเห็นรอยสักเล็กๆ เป็นรูปพระจันทร์ตรงนิ้วนางข้างซ้าย
Voir plus“นายท่าน พวกเราได้ไปตรวจดูบริเวณโดยรอบแล้ว ไม่มีร่องรอยของคนอื่นเลยขอรับ” “เฝ้าระวังต่อไป อย่าเพิ่งวางใจพวกเราเดินทางกันสะดวกเกินไป” เขาสั่งงานกับลูกน้องที่เขาไว้ใจพาเดินทางมาด้วยสามสิบคน เป็นคนที่เขาคิดว่าไว้ใจได้ที่สุดแล้ว“โอ้ย! ปวดท้อง ข้าปวดท้องเหลือเกิน!” ซีห่าวได้ยินเสียงร้องของภรรยา ก็รีบเข้ามาดู“น้องจะคลอดแล้วหรือ เราหยุดพักรถม้ากันตรงนี้ก่อน พวกเจ้าไปเตรียมก่อไฟและต้มน้ำ แม่นมภรรยาข้าเป็นอย่างไรบ้าง” “เด็กกลับหัวพอดีเลยคะนายท่าน ดูท่าจะคลอดง่าย” เขาได้ฟังที่แม่นมรายงานก็รู้สึกสบายใจมากขึ้น และเตรียมสิ่งของที่หมอตำแยได้บอกให้เตรียมไว้ เขาได้ยินเสียงเด็กร้องออกมาจากในรถม้า“เป็นเด็กผู้ชายเจ้าคะ ร่างกายแข็งแรง นายหญิงปลอดภัยดีเจ้าคะ” หลีซีห่าวได้ฟังรายงานจากแม่นม เขารู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก เขามองขึ้นไปบนฟ้า เป็นคืนที่พระจันทร์ทรงกลดพอดีกระสุนปืนยิงเข้ามาที่รถม้าของพวกเขา ในช่วงที่พวกเขาลดการระวังตัว“มีคนร้ายทุกคนกันนายหญิงให้ดี” เขารีบสั่งลูกน้องให้เข้าปกป้องลูกและภรรยาที่อยู่ในรถม้าก่อน หน้าของลูกเขาก็ยังไม่ทันได้เห็นเลย“ท่านพี่ เกิดอะไรขึ้นด้านนอก ท่านปลอดภ
เวลาผ่านไปหลายปี จิ้งจอกน้อยตามหาเจ้านายของเขาไปทั่วทุกหนแห่งแต่ก็ไม่พบ อยู่มาวันหนึ่งพวกเขาบังเอิญได้มาที่สระบัวแห่งหนึ่ง และพบกับดอกบัวที่มีพลังงานหนาแน่นเป็นอย่างมาก พวกเขาจึงเก็บดอกบัวสีขาวที่มีสีแดงตรงปลาย ดอกบัวดอกนี้ให้ความคุ้นเคยกับพวกเขาเป็นอย่างมาก เหมือนว่าเจ้าดอกบัวนี้ จะเป็นสิ่งที่พวกเขาตามหาอยู่ พวกเขาอาจจะคิดมากไปเองก็ได้ตอนที่พวกเขากำลังเข้าไปจับที่ดอกบัวดอกนั้น จิ้งจอกน้อยรู้สึกว่าดอกบัวกำลังดีใจที่ได้พบกับพวกเขา และพวกเขาก็สามารถเก็บดอกบัวไปปลูกได้อย่างง่ายดาย จิ้งจอกสองหัวรู้สึกแปลกใจกับความง่ายดายนี้ ถ้าเป็นพืชที่วิเศษ จะต้องใช้แรงกายในการเอาสิ่งนั้นมาได้ยากมาก แต่ดอกบัวดอกนี้ยินยอมที่จะไปอยู่กับพวกเขาเอง พวกเขานำดอกบัวไปปลูกไว้ที่สระน้ำแห่งชีวิต ตั้งแต่ที่ได้นำดอกบัวเข้ามาปลูก พลังงานบริสุทธิ์ภายในมิติยิ่งเพิ่มมากขึ้น และสระน้ำแห่งชีวิตก็บริสุทธิ์มากขึ้นเช่นกันเวลาผ่านไปหลายปี จนถึงปีหนึ่งที่พวกเขากำลังนั่งจำศีลกันอยู่พวกเขาได้ปล่อยจิตรับรู้เอาไว้ อีกไม่กี่วันข้างหน้า พวกเขาจะต้องไปทำงานที่เจ้านายได้สั่งไว้ก่อนที่จะหายตัวไป“เสี่ยวปิง แล้วพวกเราจะต้องไปช่วยเด
มีหญิงสาวคนหนึ่งที่ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย เธออาศัยอยู่ในป่าลึกพร้อมกับเพื่อนคู่ใจ เป็นจิ้งจอกตัวน้อยสองหัว ที่เธอได้ช่วยเหลือไว้ตอนที่แม่ของพวกมันถูกฆ่าตาย เธอตั้งชื่อให้ทั้งสองหัวว่า เสี่ยวเฟิง และเสี่ยวปิง จิ้งจอกน้อยทั้งสองตัว ติดตามเธอคอยช่วยเหลือและเฝ้าดูแลพื้นที่ในมิติแทนเธอ ผู้เป็นเจ้าของในที่แห่งนี้จิ้งจอกน้อยอยู่กับนายของมัน เธอเป็นหญิงสาวที่เงียบขรึม ไม่ชอบพูดคุยกับใคร ชีวิตในแต่ละวันของเธอ ก็จะอยู่ภายในมิติมากกว่าอยู่ด้านนอกมิติ เธอชอบคิดค้นยาหรือหาสิ่งใหม่ๆ เข้ามาปลูกภายในมิติอยู่เสมอ พวกเขาก็ได้เรียนรู้สิ่งที่เจ้านายได้นำเข้ามาปลูกด้วยเช่นกัน“เจ้าจิ้งจอกน้อย อย่าไปเล่นซนกับต้นสมุนไพรของข้าละ สมุนไพรชนิดนี้สำคัญมาก และก็มีราคาที่แพงด้วย” “พวกข้าจะไม่ไปเล่นซนตรงนั้นอย่างแน่นอน ข้าแค่สงสัยกลิ่นของสมุนไพรแปลกๆ พวกนี้” “ดีแล้วเด็กดีตัวน้อย” หญิงสาวอุ้มจิ้งจอกสองหัวขึ้นมากอด และก็เกาไปที่พุงของพวกมันเบาๆจิ้งจอกน้อยทั้งสองตัวมีความสุขกับเจ้านายของพวกมันมาก และพวกมันก็รักเจ้านายคนนี้มากด้วยเช่นกัน ตอนที่พวกเขาได้พบเจอกับเจ้านายคนนี้ พวกเขาก็เกือบจะตายกันไปแล้ว อยู่มาวัน
“เด็กน้อยของแม่ ลูกหน้าเหมือนพี่เฟยหรงเลยนะคะ” เธอเอานิ้วถูไปที่แก้มลูกเบาๆ“ตอนนี้ยังดูไม่ค่อยออกหรอกว่าหน้าเหมือนใคร ต้องรอไปสักสองถึงสามเดือนถึงจะดูออก” ซูซ่านพูดบอกลูกสาวของเธอไป" อ่อ แบบนี้นี่เอง " เธอเล่นกับลูกอีกสักพัก ลูกเธอก็ร้องขึ้นมา เธอต้องส่งลูกให้คุณพยาบาลพาไปป้อนนม เพราะน้ำนมเธอยังไม่มากพอให้เด็กทั้งสองคนได้กินทั้งครอบครัวของเธอและคุณปู่เห็นว่าเธอและลูกปลอดภัยหายห่วงแล้ว ก็พากันกลับบ้าน เหลือแค่เธอกับพี่เฟยหรงแค่สองคนเท่านั้น“เหนื่อยไหมครับคนเก่ง” เฟยหรงเอาผ้าชุบน้ำนำมาเช็ดหน้าและเช็ดตามตัวของภรรยา เพื่อให้เธอได้นอนพักผ่อนอย่างสบายตัว“มีคนดูแลดีแบบนี้น้องหายเหนื่อยไปตั้งนานแล้วค่ะ” เธอนอนให้สามีคอยเช็ดตัวให้ เพราะเธอยังรู้สึกเจ็บแผลที่คลอดอยู่มาก“พี่เช็ดตัวให้น้องจะได้นอนหลับอย่างสบายนะครับ คืนนี้พยาบาลบอกว่าให้น้องนอนพักได้เลย พรุ่งนี้ถึงจะพาลูกมาให้เราฝึกดูแล” “ดีเหมือนกัน น้องคงดูแลไม่ไหวแน่วันนี้น้องขอนอนพักก่อนนะคะ” เธอไม่ได้พูดอะไรมาก แล้วก็นอนหลับไปเพราะยาที่ได้กิน และความเหนื่อยล้าจากร่างกาย เฟยหรงนั่งเฝ้าภรรยาและตัวเขาก็หลับไปพร้อมกันเวลาผ่านไปหล
หลังจากที่เธอได้ไปฝากครรภ์ ตอนนี้ก็ผ่านมาห้าเดือนแล้ว ท้องของเธอใหญ่มาก ใหญ่เกินไปด้วยซ้ำทั้งๆ ที่เธอเพิ่งจะท้องลูกคนแรก หรือเธอจะท้องลูกแฝดหรือเปล่า เพราะเธอท้องใหญ่เกินกว่าจะท้องลูกคนเดียว ช่วงนี้เธอว่างเกินไปจริงๆ ตั้งแต่ที่เธอท้องพี่เฟยหรงก็แทบจะไม่ให้เธอทำอะไรเลยวันๆ เธอมีหน้าที่แค่กินและนอนเท่านั้น เธอบันทึกประจำวันในแต่ละวันว่าทำอะไรบ้างลงในสมุดการตั้งครรภ์ ทุกเดือนเธอต้องแบกท้องกลมโตไปให้หมอตรวจ หมอก็บอกเธอว่าอาจจะได้ลูกแฝด เสียดายที่ไม่มีเครื่องตรวจ เธอก็เลยไม่รู้ว่าลูกเธอเป็นผู้หญิงหรือว่าผู้ชายกันแน่ แต่ไม่ว่าเป็นหญิงหรือชาย เธอก็รักเด็กคนนี้เสมอ“พ่อกลับมาแล้วครับ วันนี้เด็กน้อยดื้อกับแม่หรือเปล่าครับ” พี่เฟยหรงกลับบ้านเร็วทุกวัน เพราะกลัวว่าเธอจะอยู่คนเดียวที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ ทุกครั้งตอนกลับถึงบ้านพี่เฟยหรงก็จะเข้ามาจูบที่ท้องของเธอ และเล่นกับลูกในท้อง เด็กน้อยทั้งสองเหมือนว่าจะรู้ว่าพ่อเขามาเล่นด้วย ก็จะดิ้นทักทายตอบกลับพี่เฟยหรงทุกครั้ง ทำให้เธอเจ็บท้องไปหมด แต่เป็นความเจ็บปวดที่เธอมีความสุขตอนนี้เข้าเดือนที่แปดแล้ว เธอมานอนอยู่ที่บ้านพ่อกับแม่เพราะกลัวว่าเธอจะปวดท้
“ไม่โกรธคะ แต่เป็นห่วงมากกว่ากลัวว่าพี่จะเกิดอันตรายอะไรขึ้นมา พี่ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้วคราวหน้าถ้าพี่เฟยหรงจะกลับบ้านช้า หรือทำอะไรที่เป็นอันตรายจะต้องบอกน้องไว้ก่อนนะคะ อย่าหายไปแบบนี้อีก ถ้าไม่อย่างนั้นน้องจะโกรธพี่เฟยหรงจริงๆ ด้วย” “ได้ครับ ครั้งหน้าพี่จะรายงานภรรยาตัวน้อยของพี่ทุกอย่าง จะไม่ลืมเลย” เธอหยอกล้อเล่นกับสามีอยู่ พี่เฟยหรงก็ทำหน้าพะอืดพะอมเหมือนอยากจะอ้วกขึ้นมา“พี่เฟยหรงเป็นอะไร ไม่สบายตรงไหน” “พี่ไม่ได้เป็นอะไร แค่ช่วงนี้พี่รู้สึกไม่ค่อยสบายตัวและอยากจะอ้วกอยู่บ่อยๆ ” หรือพี่เฟยหรงจะแพ้ท้องแทนเธอกัน เขาว่าถ้าคนไหนรักเมียมากก็จะแพ้ท้องแทนเมีย เธอไม่ได้เข้าข้างตัวเอง แต่พี่เฟยหรงก็รักเธอจริง“พี่อยากกินอะไรเปรี้ยวๆ หรือเปล่า” “ใช่แล้วพี่รู้สึกอยากกินของเปรี้ยวมากเลย” “ถ้าแบบนั้น เดี๋ยวน้องต้มน้ำแกงใส่ผักกาดดองให้พี่ดีไหม ที่บ้านเรายังมีลูกท้ออยู่ เดี๋ยวน้องจะไปเตรียมไว้ให้ พี่นอนพักก่อนก็ได้นะคะ ถ้าน้องทำเสร็จแล้วจะเอามาให้ที่เตียง” เธอลุกเดินไปล้างหน้า และเข้าไปที่ห้องครัวเพื่อไปเตรียมอาหารให้คนแพ้ท้องแทนเมียกิน ดีที่แม่ได้เตรียมผักกาดดองมาให้เธอเมื่อวานนี้
“ช่วงนี้หนูไม่ได้ไปหาหมอเลยคะ แต่อาการแบบนี้จะเป็นทุกครั้งหลังจากที่หนูฝึกพลังเวทเสร็จนะคะ” “ท้องหรือเปล่าลูก ตอนแม่ท้องแม่ก็อยากกินอะไรเปรี้ยวๆ เหมือนกัน” หรือเธอจะท้องกัน เพราะประจำเดือนของเธอเลยกำหนดมาหลายวันแล้ว“หนูก็ไม่รู้ค่ะ เอาไว้หนูจะลองตรวจดู” “พ่อว่าท้องก็ดี เฟยหรงจะได้สมใจอยากสักที สามีลูกมาบ่นให้พ่อฟังตลอดเลย มาถามหาเคล็ดลับอะไรก็ไม่รู้กับพี่ชายของลูกด้วย” “พี่เฟยหรงทำถึงขนาดนี้เลยเหรอคะ สงสัยจะอยากมีลูกมากจริงๆ ไม่แน่หนูอาจจะท้องก็ได้นะคะ” “ระบบก็อยู่กับลูก ก็ลองซื้อมาตรวจสะตอนนี้เลย แม่จะได้ช่วยดูด้วย” “ก็ได้ค่ะ” เธอเปิดระบบร้านค้าขึ้นมาดู แล้วเลือกไปที่ตรวจการตั้งครรภ์ เธอเลือกเอาที่ตรวจง่ายๆ มาสองอัน เพื่อป้องกันความผิดพลาด เธอกดจ่ายแต้มในมิติไป สองร้อยแต้ม ตอนนี้แต้มในมิติที่เคยมีอยู่ก็ยังใช้ได้เหมือนเดิม แต่ถ้าอยากมีแต้มที่มากขึ้น เธอจะได้แต้มนี้มาจากการขายของในระบบ ก็คือหาของมาขายให้ระบบอีกที เธอถึงจะได้แต้มมาซื้อของในร้านค้า เพราะเธอไม่ได้เปิดร้านค้าออนไลน์อีกต่อไปแล้ว ระบบเลยปรับเปลี่ยนให้เข้ากับสถานการณ์ที่เธอเป็นอยู่“ได้มาแล้วค่ะแม่ หนูจะเอาไปตรว
“นี่เฟยหรงใช่ไหม” หงเปาร้องเรียกชายหนุ่มที่อยู่ตรงทางออกประตูด้านหน้าเขา“ผมเฟยหรงเองครับท่านผู้ช่วย ตอนนี้ผมมีเรื่องอยากจะคุยกับท่านผู้นำ ไม่ทราบว่าตอนนี้ท่านทำอะไรอยู่” “ตอนนี้ท่านผู้นำท่านได้พาทุกคนออกไปด้านนอกแล้ว” “แสดงว่า ที่ใต้ดินแห่งนี้มีทางออกหลายทางเหรอครับ” “ใช่แล้ว นายไม่เคยอยู่ในเมืองใต้ดินแห่งนี้ นายคงไม่รู้ว่ายังมีทางออกเชื่อมไปตามเมืองต่าง ๆ อีก” “ที่ผมจะคุยกับท่านก็เรื่องที่พื้นดินด้านบน สามารถอยู่ได้แล้ว ถ้าตอนนี้ท่านรู้แล้ว ผมขอกลับไปหาครอบครัวของผมก่อนนะครับ พวกเราต้องสร้างบ้านหลังใหม่” “ถ้านายทำเรื่องทางฝั่งของครอบครัวนายเสร็จแล้ว ก็มาพบกับท่านผู้นำอีกครั้งก็แล้วกัน ฉันจะบอกท่านไว้ให้” “ขอบคุณมากครับ” เฟยหรงพูดพร้อมกับความสบายใจ และได้เร่งเดินทางกลับมาหาครอบครัวของเขา“พี่เฟยหรงไปไหนมาคะ” ซูเมิ่งถามสามีของเธอออกไป เธอไม่เห็นเฟยหรงตั้งแต่เช้าแล้ว“พี่ไปแจ้งเรื่องท่านผู้นำมา แต่ไม่เจอท่าน” “อ่อ เรื่องนี้นี่เอง พี่น่าจะถามฉันก่อนนะคะ” เธอพูดพร้อมกับหัวเราะออกมา ที่สามีของเธอใจร้อน ไปหาท่านผู้นำครั้งนี้ พี่เฟยหรงคงจะไปไม่พบกับท่านผู้นำแน่เฟยหรงเขาก็
“ เจ้ามีเรื่องอะไรจะคุยกับข้ากัน” เฟยฉีดีใจเป็นอย่างมาก เมื่อสิ่งที่เขาเฝ้ารอมาตลอด เขาได้พบเจอเสียที “ผมน่าจะเคยรู้จักท่านเทพมาก่อนครับ ผมได้ยินชื่อเสียงของท่านมานานมากแล้ว ตั้งแต่ตอนที่ผมได้เป็นเด็ก ท่านเทพใช่คนเดียวกันกับ คนที่เอาเด็กน้อยและบันทึกตระกูลมาวางไว้ที่หน้าบ้านผม เมื่อครั้งนั้นใช่ไหมครับ ““เจ้ารู้ได้ยังไงว่าเป็นพวกข้า” “ผมแค่รู้สึกได้ เป็นกลิ่นที่คุ้นเคยที่ออกมาจากตัวเด็กที่ท่านได้วางไว้เมื่อครั้งนั้น” ใช่แล้ว วันนั้นเป็นเศษเสี้ยวดวงจิตของพวกเขาเอง ที่ได้ทิ้งไว้ส่วนหนึ่งก่อนที่จะจำศีล เพื่อที่จะทำตามคำขอของเจ้านายคนเก่า ให้เอาเด็กน้อยไปวางไว้ที่หน้าบ้านของเขาคนนี้ ตามคำสั่งของเจ้าของมิติคนก่อน“ใช่แล้ว เป็นพวกข้าเองที่นำเด็กไปวางไว้ เจ้าของมิติคนเก่าของข้าได้ช่วยเหลือเด็กคนหนึ่งไว้ พวกข้าก็แค่ส่งคืนญาติของเด็กที่น่าสงสารเท่านั้นเอง” “เจ้าของมิติคนเก่าของท่านก็ฝันเห็นนิมิตเหมือนกันใช่ไหมครับ ผมเคยได้ยินว่าถ้าฝึกเวทผ่านไปจนถึงขั้นสูงสุดจะฝันเห็นนิมิตได้” “สิ่งนั้นก็เป็นเรื่องจริง เจ้าของมิติคนเก่าของข้า แค่บอกว่า โชคชะตาจะนำพาให้พานพบกันอีกครั้ง ทุกสิ่งที่เกิด
‘เรามีรอยสักแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่? หรือว่าจะมีตอนที่เราฟื้นขึ้นมา แปลกจัง’หลังจากที่นั่งคิดทบทวนความทรงจำอยู่สักพัก ซูเมิ่งก็ยกนิ้วนางข้างซ้ายขึ้นมาดู แล้วลองเอามือถูบริเวณที่เป็นรอยสัก ก็ไม่เห็นมีอะไรเกิดขึ้น เราเคยอ่านนิยายหลายๆ เรื่องเขาบอกว่าต้องตั้งจิตไปตรงรอยสัก เราลองทำแบบนั้นแล้วกันซูเมิ่งตั้งจิตเข้าไปตรงรอยสัก แสงบางอย่างก็เกิดขึ้นรอบตัว ตัวซูเมิ่งหายไปจากบริเวณที่เธอนั่งอยู่ และไปอยู่ในอีกสถานที่หนึ่ง ที่มีอากาศบริสุทธิ์ ทุ่งหญ้ากว้างไกล เธอมองออกไปรอบๆ ก็เห็นว่ามีบ้านอยู่หนึ่งหลัง ตั้งอยู่ริมแม่น้ำที่มีปลาแหวกว่ายอย่างอุดมสมบูรณ์ สถานที่แห่งนี้ คือที่ไหน หรือว่าเป็นโลกอีกโลกหนึ่งที่ต่างจากโลกภายนอก ซูเมิ่งเดินดูไปทั่วบริเวณ และได้พบว่าด้านข้างบ้านหลังน้อยหลังนี้ ได้มีต้นผลไม้ที่ลำต้นไม่ใหญ่มากนัก บนต้นไม้นั้นออกผลอยู่หลายลูก พอเธอลองมองดีๆ ก็เห็นว่าเป็นลูกท้อต้นท้อ ต้นนี้มีลูกอยู่บนต้นมีสีแตกต่างกัน ลูกท้อที่ออกมามีกลิ่นหอมเย้ายวน แค่เธอได้กลิ่นก็ทำให้เธอรู้สึกมีแรงขึ้นมา ร่างกายที่เหนื่อยล้าได้ฟื้นฟูกลับขึ้นมาเกือบทั้งหมด แค่ได้กลิ่นก็รู้สึกสบายตัวอย่างบอกไม่ถูก‘แต่ผล...
Commentaires