แนะนำเรื่อง ปาวกะ เทพแห่งไฟผู้มีอิทธิฤทธิ์ที่สามารถให้พรกับมนุษย์ เป็นเทพที่ต้องการครอบครองธาตุน้ำและเป็นเทพผู้ไม่เคยรักใครจนมาเจอมนุษย์ผู้หญิงที่พร่ำแต่ขอพรกับเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า ระหว่างที่เขาประทานพรให้แก่ลินานั้น คัมภีร์ที่เขาขโมยมาเกิดหายไปแล้วที่แย่ไปกว่านั้นเขากลับทำให้มนุษย์ต้องตาย และเขาต้องตามหามนุษย์คนนั้นให้เจอ เพราะถ้าเขาไม่สามารถช่วยมนุษย์ที่ตายคนนั้นได้ แน่นอนล่ะเขาจะต้องหายดับสูญไปตลอดกาล ปาวกะ เทพแห่งไฟผู้ประทานแก่มนุษย์ อายุ250ปี ผู้ที่มีรูปร่างหน้าตางดงาม แต่เวลาโกรธจะมีนัยน์ตาแดงก่ำ มีร่างกายที่ร้อนราวกับไฟหากเขาไม่อนุญาตให้สัมผัสก็ไม่มีผู้ใดสามารถทนต่อความร้อนที่ออกมาจากตัวของเขาได้ เป็นเทพที่ไม่ตกหลุมรักใครง่ายๆ ลินา หญิงสาววัยยี่สิบสองที่พร่ำแต่ขอพรกับปาวกะโดยไม่เกรงกลัวเขาเลยสักนิด และเธอไม่รู้ว่าการขอพรกับเทพนั้นต้องมีข้อแลกเปลี่ยนเสมอ และการข้อพรนั้นกลับนำพาเธอไปสู่อันตรายมากมาย เพราะเขาร้อนอย่างกับไฟที่แผดเผาเธอให้เจ็บเจียนตายแต่เธอก็ยินยอม...
ดูเพิ่มเติม“มาเอาเสื้อที่ส่งซักครับ” ชายหนุ่มพูดด้วยเสียงดังฟังชัด จนผู้ชายที่อยู่ในร้านนั่งหมุนเก้าอี้หันมา“มาแล้วเหรอ กำลังรออยู่พอดีเลย” น้ำเสียงที่ไพเราะแต่เย็นเข้ามาถึงในหัวใจและใบหน้าที่คุ้นเหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน“น้องใช่เพื่อนเรย์ หรือเปล่าคะ จำพี่ได้ไหมคะที่น้องไปหาเรย์ที่บ้านวันนั้น” ลินายืนพูดกับผู้ชายที่ดูใจเย็นยิ้มแย้มเก่งไม่เหมือนกับผู้ชายที่อยู่ข้างๆ นี่“จำได้สิ น่ารักขนาดนี้ใครจะจำไม่ได้” เขายิ้มที่มุมปากหนึ่งครั้ง“ใครอ่ะ ลินาเพื่อนเรย์เหรอ ดูเหมือนว่าจะอายุมากกว่านะ” พี่อาร์มยืนพูดกอดอกหน้าตายียวนตามสไตส์ของเขา“ใช่ ผมอายุมากกว่าเรย์” แล้วเขาก็เดินไปหยิบชุดที่ใส่ไม้แขวนใส่ถุงคลุมอย่างดียื่นมาให้“อุ๊ย” ลินาร้องเมื่อมือของเขาจับมือของเธอในขณะที่ส่งถุงเสื้อมาให้ เขายังคงจับไม่ปล่อย จนอาร์มที่เห็นเหตุการณ์อยู่กระชากถุงออกมา หญิงสาวสะดุ้งเฮือก เพราะเมื่อกี้ใจของเธอเหมือนมันหวิวๆ ยังไงไม่รู้บอกไม่ถูกเหมือนกัน“กลับได้แล้วลินา” ชายหนุ่มหน้าเหวี่ยงลากหญิงสาวออกมาอย่างหัวร้อน“เพื่อนเรย์ จริงเหรอลินา” พี่อาร์มถาม“อือ วันนั้นเขาไปหาเรย์ที่บ้านน่ะ”“เรย์คบเพื่อนแปลกๆ แบบนี้เหรอ” เข
“ลินาๆ ตื่นสิ มานอนทำอะไรตรงประตูเนี่ย” เสียงของเรย์ปลุกให้หญิงสาวลุกขึ้น“หือ” เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นมามองน้องชายด้วยท่าทางงุนงง“เรย์ตกใจหมด คิดว่าลินาลื่นล้มหัวฟาดพื้นพอดูน้ำลายที่ไหลยืดแล้วก็เลยคิดว่าน่าจะนอนหลับมากกว่า” เขาหัวเราะคิกคักให้พี่สาวของตัวเอง หญิงสาวที่อยู่ในอาการงงอยู่ค่อยๆ คิดเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้“ปาวกะ” หญิงสาวหลุดพูดชื่อของชายที่เธอช่วยเขาไว้เมื่อคืน“อะไรปาวกะ ใครเหรอ” เรย์ถามพร้อมกับขมวดคิ้ว“เปล่าๆ ไม่มีอะไรแกไปเถอะ ฉันไม่เป็นอะไรแล้ว” ร่างเล็กค่อยๆ ลุกขึ้น“แล้ววันนี้ไม่ไปทำงานเหรอ” เรย์พูดขึ้นทำให้เธอนึกขึ้นได้ เพราะดูเหมือนว่าเธอยังอยู่ในอาการมึนงงอยู่“กี่โมงแล้วเนี่ย สายแล้วทำไมเพิ่งมาเรียกฉันห้ะ” เธอรีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว“เดี๋ยวเรย์ไปส่งนะลินา”“ไม่ต้องเลย เดี๋ยวให้พี่อาร์มไปส่ง”“พี่อาร์มกลับมาที่ไหนกันล่ะ” หญิงสาวได้ฟังจึงเลิกคิ้วขึ้นพร้อมพยักหน้ารับรู้ จริงสิ เขากลับบ้านไปแล้วเธอลืมสนิทเลยที่ทำงานของลินา“หวัดดี ลินา” อินคาร้องทักในขณะที่หญิงสาวกำลังเตรียมจัดฉากถ่ายแบบของเขาอยู่“หวัดดี อินคา” เธอหันไปยิ้มหวานสดใสให้เขาและไม่รู้ว่าเขา
“คุณเป็นยังไงบ้าง ได้ยินหนูไหมคุณไปทำอะไรมาทำไมถึงเป็นแบบนี้ล่ะ” ลินาเขย่าชายหนุ่มที่นอนอยู่บนตักของตัวเอง“อ๊ากก เฮือกก” เสียงร้องของเขาที่ร้องด้วยความเจ็บปวดทำให้เธอต้องรีบบีบมือของเขาจนแน่น“หนาว ข้าหนาว” เขาบอกเสียงสั่นสะท้าน ก็แน่ล่ะเขาตัวเปียกโชกขนาดนี้แถมข้างนอกฝนยังตกตลอดอีก เธอค่อยๆ ถอดเสื้อที่เปียกของเขาออกแล้วดึงผ้าห่มที่อยู่ปลายเตียงมาคลุมตัวของเขาไว้แทน“ปาวกะ คุณเป็นยังไงบ้างหนูจะช่วยคุณได้ยังไงคะ” เมื่อกี้หญิงสาวเผลอเรียกเขาว่าปาวกะ ใช่ก่อนหน้านั้นเขาบอกว่าเขาคือปาวกะ แล้วอคิราห์ล่ะหรือว่าเขาจะมีฝาแฝด“ขอพรกับข้าสิ ลินา” หญิงสาวเบิกตากว้าง นี่เป็นครั้งแรกที่เขาบอกให้เธอขอพรเพราะที่ผ่านมาเขามักจะบ่นเรื่องที่เธอขอพรพร่ำเพรื่อกับเขาเสมอ“ได้ งั้นหนูขอให้คุณหายจากอาการบาดเจ็บนี้ด้วยเถิด”“ลินา ฟังข้านะเจ้าไม่สามารถขอพรจากข้า เพื่อช่วยตัวข้าได้ลองนึกดีๆ ว่าเจ้าต้องการสิ่งใด”“ทำไมคุณต้องมาให้หนูขอพรในเวลาแบบนี้ด้วยล่ะ สิ่งที่หนูต้องการมากที่สุดตอนนี้ คืออยากให้คุณหาย” หญิงสาวน้ำตาหยดแมะไปที่แก้มของเขาด้วยความสง
ลินามาลองคิดดูว่าหลายวันมานี้เธอจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลย ตั้งแต่เกิดเรื่องครั้งนั้นที่เธอจมน้ำที่สระสาธารณะนั่น หรืออาจจะเป็นตั้งแต่ที่เธอได้พบกับเขา ปาวกะ“เฮ้อ ช่วงนี้เป็นอะไรนะ จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลยนะลินา” เธอเดินบ่นอุบอิบแล้วทิ้งตัวนั่งลงตรงโซฟาและค่อยๆ หลับตาลงก๊อกๆ ก๊อกๆเสียงเคาะประตูอยู่หน้าห้องของหญิงสาว“เรย์ ไปเปิดประตูสิ เพื่อนมาแล้วมั้ง” ลินาตะโกนเรียกน้องชายที่อยู่ในห้องเล็กๆ แต่กลับไม่มีเสียงตอบกลับมา“เรย์ ไปเปิดประตูหน่อย” หญิงสาวตะโกนอีกครั้ง แต่ก็เงียบสงสัยจะหลับแล้วอะไรกันยังไม่ดึกสักหน่อย เธอดูเวลาที่โทรศัพท์ มันเพิ่งจะสามทุ่ม นี่เธอเผลอนั่งหลับไปตอนไหนกันหญิงสาวจึงลุกไปเปิดประตูเอง“สวัสดีครับ ผมเป็นเพื่อนของเรย์” ผู้ชายร่างสูง ผิวขาว ดูเป็นคนนิ่งๆ พูดกับลินาอยู่หน้าห้อง“อ๋อ เดี๋ยวเรียกเรย์ให้นะ เข้ามาก่อนสิสงสัยเรย์จะหลับอยู่” ลินาเดินงงๆ ไปหาน้องที่ห้อง พลางคิดว่าผู้ชายที่เป็นเพื่อนของเรย์ทำไมถึงมาคบกับน้องชายของเธอได้นะ เขาดูเป็นผู้ใหญ่มาก สุขุม ซึ่งต่างกับน้องชายของเธอที
ณ ดินแดนที่ไม่เคยมืดมิดในยามกลางคืน“ปาวกะ เจ้าทำกับนางเกินไปไหม” ชายหนุ่มร่างสูงพูดขึ้น พลางมองไปที่ร่างของหญิงสาวที่มีแต่แผลพุพองไปทั่วร่าง ไม่เหลือหลงความงามไว้อยู่เลย“ข้าเตือนนางแล้ว ว่าอย่าเข้ามาใกล้ข้า” ปาวกะพูดก่อนจะเดินไปที่ร่างนอนแน่นิ่งนั่น และค่อยๆ กรีดข้อมือของตัวเองเพื่อให้เลือดของเขาหยดลงแก้วน้ำที่เขาถือไว้ แล้วประคองร่างที่เคยงดงามนั่นให้ลุกขึ้นนั่งลง ชายหนุ่มค่อยๆ เอียงแก้วที่มีน้ำสีฟ้าอยู่ครึ่งแก้วเข้าปากหญิงสาวไปทีละนิดๆ จนหมด“แล้วทำไมมนุษย์ผู้หญิงคนนั้นถึงโดนตัวของเจ้าได้ โดยที่ไม่เป็นอะไรเลย ทั้งๆ ที่นางเป็นแค่มนุษย์ธรรมดาเท่านั้น” ชายหนุ่มรูปงามเพื่อนสนิทของปาวกะพูดขึ้น เมื่อเจ้าของเลือดสีฟ้าได้ฟังดังนั้นถึงกับชะงักมือแล้วหันไปมองไคในทันทีแต่เขายังไม่ทันจะตอบ หญิงสาวที่นอนอยู่ก็ลืมตาขึ้นมาแล้วจับมือของปาวกะเอาไว้“ปาวกะ ท่านใจร้ายกับข้าเหลือเกิน” หญิงสาวที่นอนแน่นิ่งอยู่ค่อยๆ เปิดปากพูดขึ้นแถมแผลที่พุพองตามตัวก็ค่อยๆ จางหายไปในทันที แต่ถ้าเป็นมนุษย์ธรรมดาๆ ถ้าโดนขนาดนี้แล้ว คงได้ไปยมโลกแล้ว“เจ้านอนพักเถอะ ไว้ข้าจะมาใหม่” ปาวกะค่อยๆ ประคองให้ไอรานอนลงกับเตียงตาม
สามวันต่อมา ที่ร้านสะดวกซื้อ"ข้ามีเรื่องอยากให้เจ้าช่วย" ลินายืนสะดุ้งตกใจเมื่อเขามากระซิบที่ข้างใบหูของหญิงสาวในขณะที่เธอกำลังเปิดตู้แช่หยิบไอศกรีมออกมา"ตกใจหมด ทำไมต้องเดินมาเงียบๆ ด้วยคะ" ร่างเล็กขมวดคิ้วใส่เขา"เจ้าจะให้ข้า…เดินพังร้านเข้ามาหรือ…ลินา" คนบ้าพูดจายียวน นิสัยเหมือนมนุษย์เข้าไปทุกวัน"ข้าได้ยินที่เจ้าพูด" เขายื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ หญิงสาว"วันนี้คุณดูหล่อดีนะ อ่ะนี่ หนูเลี้ยง" เธอพูดชมเขาพร้อมทั้งหยิบไอศกรีมใส่ไปในมือให้เขาหนึ่งแท่ง ทันทีที่ไอศกรีมอยู่ในมือของเขา"ละลายเลอะมือหมดเลย คุณนี่ไม่ระวังเลย" เธอรีบหยิบกระดาษทิชชู เช็ดไปที่มือหนาของเขาที่เปื้อนไอศกรีมรสช็อกโกแลตนั้นออกทันที"มือก็ไม่ได้ร้อนนี่คะ" หญิงสาวเงยหน้ามองเขาและสบตากับเขาที่กำลังจ้องมาที่ริมฝีปากของตัวเธอเองจนทำให้หญิงสาวรู้สึกประหม่า"ถ้าเจ้าต้องการ ข้าจะทำให้มันร้อนตอนนี้เลยก็ได้""โอ๊ย หนูไม่ได้บอกว่าต้องการสักหน่อย" ลินารีบสะบัดมือออกทันทีเมื่อรู้สึกว่ามือของเขาเริ่มร้อนขึ้นมาบ้างแล้ว"ข้าไม่ได้ตั้งใจ ทำไมข้าควบคุมอะไรไม่ได้เลย เจ้าต้องช่วยข้านะลินา" สายตาวิงวอนของเขานั้นกำลังขอร้องเธอให้เห็นใจ ซึ่
"ปาวกะ" หญิงสาวเรียกเขาเบาๆชายหนุ่มก้มมองใบหน้าของหญิงสาวในขณะที่ยังอุ้มเธอเดินขึ้นมาจากน้ำ"มีคนจมน้ำอยู่ คุณต้องลงไปช่วยเขา" เธอพยายามดิ้นให้หลุดจากอ้อมแขนที่แข็งแรงนั่น"เจ้าดูไม่ออกจริงๆ เหรอ ว่าเป็นมนุษย์เช่นเดียวกับเจ้าหรือภูตผีที่อยู่ในน้ำนั่นอยู่แล้ว" เธอค่อยๆ ชะโงกหน้ามองไปยังจุดที่เห็นว่ามีคนจมน้ำโดยมองผ่านไหล่กว้างของชายหนุ่มลงไปในขณะที่เขากำลังอุ้มเธอขึ้นฝั่ง ภาพที่อยู่ตรงหน้าทำให้หญิงสาวต้องโอบต้นคอของเขาจนแน่น มันน่าสะพรึงกลัวจนขนลุก ที่จู่ๆ ร่างสาวผมยาวเน่าเฟะนั้นก็เกิดไฟลุกท่วมตัวเสียงหวีดร้องดังลั่นไปทั่วสวนสาธารณะ"หนูกลัว" หญิงสาวบอกเขาเสียงสั่น"เจ้าก็เกือบได้เป็นตัวแทนตัวตายแล้วเหมือนกัน""ไม่ หนูยังไม่อยากตายค่ะ" เทพผู้สง่างามค่อยๆ วางหญิงสาวลงโดยที่สภาพของทั้งคู่เปียกโชกเธอเกือบตายแล้วจริงๆ ถ้าไม่ได้เขามาช่วยป่านนี้เธอคงจมน้ำตายไปแล้ว"ขอบคุณนะคะที่มาช่วยหนู ถึงหนูว่ายน้ำไม่เป็นแต่คุณก็ทำให้หนูลอยในน้ำได้นานขนาดนั้น" หญิงสาวยืนเอามือกอดตัวเองเพราะความหนาวจนตัวเธอสั่นไหว"ข้าไม่ได้ทำให้เจ้าลอยน้ำได้เลยลินา" เขาตอบเสียงเรียบพร้อมด้วยใบหน้าที่มีความสงสัย"จริงเหร
ที่ห้องเช่าของลินา"ลินา มัวทำอะไรอยู่ เดี๋ยวไปทำงานสายหรอก" เรย์เรียกพี่สาวที่อยู่ในห้องให้รีบออกมา"รู้แล้วๆ กำลังออกไปไง" ลินารีบหยิบรองเท้าส้นสูงใส่อย่างทุลักทุเล ก็เพราะไอ่น้องชายตัวแสบมันอาสาจะไปส่งที่บริษัทที่อินคาทำงาน ใช่แล้วเธอได้ทำงานที่บริษัทนั้นแล้ว บริษัทที่มีดาราแล้วอินคาก็คือหนึ่งในดาราที่กำลังจะโด่งดังนั้นเอง"จะรอดไหมวะไอ่ลินา พี่ว่าถ้าให้เรย์ขี่ไปส่ง มีหวังแหกโค้งตรงปากซอยนี่แหละไม่ได้ไปไหนไกลหรอก" พี่อาร์มพูดพร้อมส่ายหัวในขณะที่เรย์พยายามสตาร์ทมอ'ไซค์ด้วยเท้าไปหลายรอบแต่มันก็ยังไม่ติดสักที ทั้งที่ปุ่มสตาร์ทด้วยมือก็มี"แรงตกหรือไงวะเรย์" พี่อาร์มพูดพร้อมกับเดินมากดปุ่มสตาร์ทมือให้"โฮ้ พี่มีแบบสตาร์ทมือก็ไม่บอก" ลินากับอาร์มมองหน้ากัน จริงๆ เรย์แทบไม่เคยได้ขี่มอ'ไซค์เลยด้วยซ้ำ ที่บ้านก็มีรถยนต์แค่คันเดียว แถมจะไปไหน ก็ต้องนั่งรถประจำทางไป ไม่แปลกหรอกที่น้องมันไม่ค่อยรู้เรื่องพวกนี้"เดี๋ยวพี่ไปส่งเอง นายรออยู่นี่แหละ" พี่อาร์มจับแฮนด์รถพร้อมทั้งดันเรย์ให้ถอยออกไป"จะดีเหรอพี่ เกรงใจจังนี่อุตส่าห์ให้ผมยืมรถแล้วยังไปส่งอีก ถ้าใครได้เป็นแฟนพี่นะ โชคดีสุดๆ เลย" เรย์พูด
ณ ดินแดนแห่งหนึ่งอันแสนไกลที่ไม่มีมนุษย์คนไหนสามารถเข้าไปได้อากาศที่เย็นสบายในยามดึก ลมพัดพาเอากลิ่นหอมอ่อนๆ จากเกสรดอกไม้หอมตลบอบอวลไปทั่วอาณาเขตนั้น เหล่าผีเสื้อหลากสีบินตอมดอมดมเกสรดอกไม้กันอย่างร่าเริง ราวกับโลกใบนี้เป็นของพวกมัน ต้นไม้ใบหญ้าเขียวชอุ่มขจี ภูเขารายล้อมและถูกปกคลุมไปด้วยต้นไม้ใหญ่ และมีหิมะเกาะอยู่ตามยอดไม้ ยอดใบหญ้า ความจริงเมืองนี้น่าจะหนาวเย็นยะเยือกมากกว่าถ้าหากว่าเมืองนี้อยู่ในโลกมนุษย์ เมืองที่สว่างไสวตลอดเวลาด้วยแสงจันทราทั้งกลางวันกลางคืนราวกับมีดวงอาทิตย์อีกดวง แต่หาได้เป็นอย่างนั้นไม่ เมืองนี้ไม่มีดวงอาทิตย์…ที่ใต้ร่มไม้ใหญ่นั่น มีต้นหญ้าถูกปกคลุมไปด้วยเกล็ดน้ำแข็งกำลังจะละลายสลายเป็นหยดน้ำลงบนพื้นดิน ต้นไม้ใหญ่ที่ชายผู้ทรงสง่าผ่าเผยยืนอยู่ใต้ต้นไม้นั้นกำลังจะเหี่ยวเฉาทำให้ชายผู้มาใหม่ร้องทักขึ้นในทันที"เฮ้...ปาวกะ" เสียงเรียกของชายหนุ่มที่เขาคุ้นเคยเป็นอย่างดีส่งเสียงมาจากทางด้านหลัง ใบหน้าที่เปื้อนยิ้มของเขาทำท่าปากจู๋เชิงล้อเลียนแบบนั้นทำเอาปาวกะหัวเสียอยู่ไม่น้อยเมื่อได้เห็นท่าทางของเพื่อนสนิทหยอกล้อเขา"เฮ้ยๆ ใจเย็นๆ ข้าล้อเจ้าเล่นเท่านั้น ดูสิต้น
จากท้องฟ้าที่เคยเป็นสีฟ้าครามสดใส ก็กลับกลายเป็นสีดำมืดสนิทราวกับกลางคืนที่ไร้แสงของดวงดาวและจันทรา แม้แต่ถนนหนทางยังคงมืดมิดพายุก่อตัวขึ้น มันหมุนราวกับเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่สามารถกลืนกินตึกขนาดสี่สิบชั้นเข้าไปให้หายไปกับตา ผู้คนต่างยกมือไหว้ร้องขอชีวิตจากพระผู้เป็นเจ้า ทั้งสายฝนและพายุต่างพัดโหมกระหน่ำจนรถยนต์ที่กำลังแล่นอยู่ปลิวไปกับแรงหมุนของลมอย่างไร้ทิศทาง ไม่รู้ว่าความเร็วของลมมฤตยูนี้มันแรงแค่ไหนที่สามารถพัดและดูดกลืนกินตึกเข้าไปภายในวงโคจรของมันหญิงสาววัยยี่สิบสองหน้าตาสะสวยร้องไห้สั่นระริกบนรถประจำทางที่ดับเครื่องยนต์สนิท เพราะระบบภายในรถขัดข้องไปหมดทำให้ไม่สามารถเปิดประตูรถออกไปได้ ทุกคนในรถต่างร้องไห้กันระงม เวลานี้เธอคิดถึงพ่อกับแม่และน้องชายของตัวเองที่อยู่ต่างจังหวัดมากเหลือเกิน ถ้ารู้ว่าจะต้องมาตายแบบนี้คงจะทำดีกับพวกเขาให้มากๆ“หรือนี่อาจจะเป็นวันสุดท้ายที่ฉันจะได้อยู่บนโลกใบนี้” หญิงสาวดวงตาคมโตเบิกโพลงจ้องมองไปยังพายุหมุน ที่กำลังเคลื่อนตัวเข้ามาทางรถบัสประจำทางที่เธอนั่งอยู่ ผู้คนที่ติดอยู่ในรถต่างมองหาไม้หรือของแข็งเพื่อที่จะทุบกระจกหน้าต่างให้แตกออกไปแต่ทันใด...
ความคิดเห็น