ลินากลับมาที่ห้องเช่าพร้อมกับขนม นมและบะหมี่ที่เธอซื้อมาเมื่อครู่นี้ และไขกุญแจเข้าไปในห้อง
"ทำไมวันนี้อากาศมันร้อนจังนะ" หญิงสาวเดินเหงื่อท่วมตัวเข้าไปในห้องนอนแล้วเปิดแอร์ทิ้งเอาไว้ เพื่อที่ว่าเวลาอาบน้ำเสร็จจะได้กระโดดขึ้นเตียงเลย หญิงสาวร่างบางในชุดนักศึกษากระโปรงทรงเอรัดติ้ว เปิดห่อบะหมี่แกะใส่ชามแล้วจัดการต้มน้ำร้อนและทิ้งซองบะหมี่ลงในถังขยะ แต่เธอก็เหลือบไปเห็นบางสิ่งอยู่ในนั้น "เครื่องดื่มชูกำลัง" หญิงสาวเห็นขวดพวกนั้นอยู่ในถังขยะในห้องครัว หรือว่าเธอจะเข้าห้องผิด แต่ของใช้ภายในห้องก็ของเธอทั้งนั้น หรือว่าจะเป็นขโมย หญิงสาวเริ่มใจคอไม่ดีเพราะช่วงหลังมานี้มีอะไรเกิดขึ้นแปลกๆ กับเธอเยอะมาก เธอจึงเลยเดินสำรวจรอบห้องอีกครั้งเพื่อความแน่ใจว่าจะไม่มีขโมยเข้ามาแอบแฝงจริงๆ ไม่มีอะไรที่ผิดปกตินอกจากเครื่องดื่มชูกำลังที่อยู่ในถังขยะเท่านั้น อาจจะเป็นแสนดีที่เข้ามาเมื่อครั้งก่อนแล้วกินของพวกนี้ก็ได้ เธอเองอาจไม่ทันได้เห็น แต่มันไม่ควรจะเยอะแบบนี้ไหม ไม่หรอกแสนดีมาบ่อยเลยกินเยอะก็แค่นั้น ความคิดในหัวของหญิงสาวกำลังต่อสู้กันไปมาจนเกิดความกลัวขึ้นมานิดๆ แต่ก็ต้องยอมแพ้เพราะขโมยที่ไหนจะเข้ามาในห้องของเธอไม่มีอะไรให้ขโมยสักหน่อย หลังจากที่ลินากินบะหมี่เสร็จจึงเดินเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำที่อยู่แยกห้องนอนมาอีกที เพราะห้องเช่าที่เธออยู่ถูกจัดแบ่งเป็นโซนให้เธอได้สะดวกสบายอยู่บ้างถึงพื้นที่จะเล็กแต่การใช้สอยถือว่าคุ้ม กรุ๊งกริ๊งๆๆๆ เสียงกังสดาลที่แขวนอยู่ตรงประตูหน้าห้องดังขึ้นอีกแล้ว มันเป็นกังสดาลที่เธอเพิ่งซื้อมาใหม่ตั้งแต่กลับมาจากบ้านที่ต่างจังหวัด เพราะเธอก็เริ่มชอบเสียงของมันซะแล้ว ถึงศีรษะของหญิงสาวจะสูงไม่ถึง แต่เวลาเดินผ่านประตูเธอก็ชอบเอามือไปตีกังสดาลให้เกิดเสียงใสๆ นั้นอยู่เสมอ หญิงสาวรีบอาบน้ำอย่างรวดเร็วแล้วออกมาใส่เสื้อผ้าด้วยใจ ตุ๋มๆ ต่อมๆ กังวลไปต่างๆ นานากลัวว่าจะเป็นขโมยที่บุกเข้ามาจริงๆ ถ้าเป็นอย่างนั้นเธอจะทำอย่างไรดี ลินาเดินผ่านห้องนั่งเล่นไปก็เหลือบไปเห็นแก้วกาแฟสองแก้วที่วางอยู่บนชั้นวางหนังสือ มันแทบจะทำให้หัวใจของเธอจะกระเด็นออกมาให้ได้ ปาวกะคือคนแรกที่เธอสงสัย หรือว่าเขาจะอยู่ที่นี่งั้นหรือ หญิงสาวค่อยๆ เดินไปเปิดไฟในห้องนอน เมื่อเธอเดินเข้าไปภายในห้องนอนของตัวเองแอร์ที่เปิดมันเย็นฉ่ำจนเธอต้องกอดตัวเองเพราะความหนาวเย็นสะท้าน "นี่ฉันเปิดแอร์จนหนาวขนาดนี้เลยเหรอ" หญิงสาวหยิบรีโมทขึ้นมาดูตัวเลขที่ขึ้นหน้าจอใสๆ แล้วเหลือบมองไปยังเตียงนอนของตัวเอง มีแมวสีขาวนอนอยู่ เธอรู้สึกคุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดี แมวตัวนี้อาจจะเป็นแมวของปาวกะ แต่เธอก็แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นแมวที่นอนอยู่บนเตียงกลับเดินไปที่หน้ากระจกและทาโลชั่นตามซอกคอและแขนขา ก่อนจะดึงยางรัดผมออกปล่อยผมให้สยายไปตามแผ่นหลังบางที่ใส่ชุดนอนแขนยาวสีขาวกางเกงขาสั้นและแอบมองแมวตัวนั้นผ่านกระจก มันยังคงนอนนิ่งไม่ขยับเปลี่ยนท่าแต่อย่างใด แถมยังหายใจจนท้องกระเพื่อมเป็นจังหวะอีกด้วย ลินากลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ แล้วค่อยๆ เดินตรงไปยังเตียงนอนที่มีแมวนอนอยู่ "ไม่หรอก พี่ไม่อุ้มหนูแล้วแหละแล้วก็ไม่จูบด้วย พี่ไม่ชอบไฟดับแบบนั้นอีกแล้ว" เธอค่อยๆ แทรกตัวลงนอนไปในผ้าห่ม อุณหภูมิในห้องเย็นฉ่ำจนเธอรู้สึกแสบจมูก ร่างเล็กจึงพลิกตัวนอนตะแคงข้างหันหน้าไปทางแมวสีขาวที่นอนนิ่งอยู่ มันคงเชื่องมากจริงๆ เพราะไม่มีทีท่าว่าจะตื่นเลยสักนิด "คงเป็นแมวของปาวกะสินะ เจ้าของไปไหนแล้วล่ะทำไมถึงเอามาทิ้งไว้ที่นี่ พี่ได้ยินว่าปาวกะถูกลงโทษ แต่ยังไงก็ขอบคุณเขานะที่ช่วยพ่อของพี่เอาไว้" ลินาพูดไปพร้อมกับเอามือลูบไปที่คางของมันอย่างเบามือ พึ่บ! ไฟดับ "สาบานว่าเมื่อกี้ไม่ได้จูบ" ลินาพูดพร้อมกับรีบลุกจากเตียงนอนอย่างลนๆ แต่ทันใดนั้นก็มีมือหนาใหญ่มารั้งเอวของเธอเอาไว้ ไม่ให้เธอลุกไปจากอ้อมแขนที่แข็งแรงนั้นได้ “ปล่อยนะ คุณเป็นใครโจรเหรอ ช่วยด้วย ช่วยด้วยค่ะ” ลินาดิ้นคลุกอยู่ในอ้อมแขนที่เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครที่เข้ามาถึงในห้องของเธอขนาดนี้ “ข้าเอง อคิราห์” เสียงแหบพร่าพูดอย่างอ่อนแรงแต่เขาก็ยังไม่คลายอ้อมแขนนั้นออกจากหญิงสาว “ปาวกะเหรอ” หญิงสาวพูด “อย่าเรียกข้าว่าปาวกะ เดี๋ยวมีใครมาได้ยิน เรียกข้าอคิราห์” “จะปาวกะหรืออคิราห์ยังไงก็คนเดียวกันอยู่แล้ว ทำไมต้องให้หนูเรียกอคิราห์ให้สับสนด้วย” “จงเรียกข้าว่า อคิราห์” หญิงสาวไม่ตอบได้แต่ฟังนิ่งเงียบในห้องที่มันมืดแต่ยังโชคดีที่พอจะมีไฟจากทางหน้าต่างสาดส่องเข้ามาสลัวๆ ทำให้มองเห็นคนที่อยู่ตรงหน้าอยู่บ้าง ทั้งที่อุณหภูมิห้องเย็นขนาดนี้ แต่ทำไมตัวของเขาถึงอุ่นได้ถึงเพียงนี้ กลิ่นหอมอ่อนๆ จากตัวของเขาลอยเข้ามาแตะจมูกของหญิงสาวจนเธอเผลอหลับตาพริ้มเคลิบเคลิ้มไปกับความรู้สึกที่ผ่อนคลายอย่างไม่ถูก "หนูไม่ชอบความมืดแบบนี้ คุณช่วยทำให้ไฟติดได้ไหม" หญิงสาวดันตัวเองออกจากอ้อมกอดของเขาและเงยหน้าขึ้นไปมองชายหนุ่มที่มีกลิ่นหอมตลอดเวลา พร้อมกับลมหายใจที่ร้อนผ่าวของเขาที่มากระทบกับหน้าผากของหญิงสาวพอดี และแล้วไฟภายในห้องก็ติดทำให้เห็นใบหน้าของชายที่นอนอยู่ชัดขึ้นมาอีก “ใบหน้าของคุณ” ลินาเอามือปิดปากเบิกตาโพลงด้วยความตกใจเพราะเธอแทบจะไม่เคยเห็นเขาในสภาพแบบนี้เลย"บะๆ ใบหน้าของคุณ ทำไมมันซีดเซียวขนาดนี้แถมยังมีเส้นเลือดปูดขึ้นตามใบหน้าของคุณอีก" ลินาพูดไม่เป็นภาษาพร้อมกับดันตัวเองถอยออกมาและลุกขึ้นยืนถอยกรูดจนไปชนผนังห้องนอน"อย่ากลัวข้าเลยลินา" เขาพูดในขณะที่ยังหลับตาเส้นเลือดที่ปูดขึ้นมาบนใบหน้าของเขาจึงค่อยๆ หายไป"คุณไม่สบายเหรอคะ สีหน้าดูไม่ดีเลย" หญิงสาวเดินขยับเข้ามายืนใกล้เขาเพื่อจะได้มองชายหนุ่มตรงหน้าให้ชัดขึ้น"อือ" เขาตอบสั้นๆ ในลำคอ"หนูจะออกไปเอายามาให้คุณ" ลินาเอ่ยด้วยท่าทางกังวล"ไม่ต้อง มันไม่หายหรอก เจ้านอนซะเถอะลินา""แล้วคุณเป็นใคร ผีเหรอ เทพ หรือว่าปีศาจล่ะ""เจ้าอย่ากวนใจข้านักเลย ข้าต้องการพักผ่อน""คุณก็ตอบหนูมาก่อนสิคะ ว่าคุณเป็นใครกันแน่เพราะถ้าคุณเป็นผีหนูจะได้เอาหมอผีมาไล่คุณ""เจ้ากล้าเหรอ" ชายหนุ่มที่นอนบนเตียงตะเบ็งเสียงดังลั่นจนหญิงสาวสะดุ้งเพราะเสียงที่น่าเกรงขามนั้นมันกังวานจนน่ากลัว"งั้นหนูไปนอนหน้าทีวีดีกว่า คุณนอนในนี้เถอะ" หญิงสาวจะเดินออกไปแต่ก็ถูกผู้ชายที่นอนอยู่ลุกขึ้นมาดึงแขนของเธอให้ล้มตัวลงนอนไปพร้อมกับเขา"คุณกำลังทำให้หนูกลัว ปล่อยหนูเถอะ" ร่างใหญ่ได้ฟังดังนั้นจึงค่อยๆ ลืมตาขึ้นมามองหญิงสาวอย่างพิ
เช้าวันใหม่ลินาตื่นมาอีกทีก็สายตะวันโด่ง เธอรีบวิ่งเข้าห้องน้ำเพื่ออาบน้ำและจัดการกิจวัตรประจำวันก่อนไปมหาวิทยาลัยอย่างเร่งรีบ เมื่อคืนเธอนอนไม่ค่อยสบายสักเท่าไหร่เพราะว่าเตียงของเธอถูกปาวกะยึดไปน่ะสิ เธอเลยต้องมานอนตรงโซฟานี้แทนเมื่อจัดการตัวเองเสร็จเรียบร้อยเธอก็รีบวิ่งออกจากห้องเช่าไปขึ้นวินมอเตอร์ไซค์ตรงหน้าปากซอยทันที"สาธุ ขอให้หนูไปทันสอบด้วยเถิด เพี้ยง" ลินายกมือไหว้ขึ้นท่วมหัว จนเธอนึกถึงคำพูดของปาวกะ"ไม่ค่ะ ไม่ต้องช่วยหนู หนูพูดเล่นค่ะ หนูไม่ได้อยากอายุสั้นขนาดนั้น" ถ้าเธอไปไม่ทันสอบนะ น่าดูเลย เพราะเมื่อคืนมัวแต่สนใจเรื่องของปาวกะนี่สิ เลยทำให้ลืมตั้งนาฬิกาปลุกเอาไว้"พี่อาร์มขับเร็วๆ หน่อยได้ไหม หนูสายแล้ว" ลินาตีไหล่พี่วินมอเตอร์ไซค์ดังป้าบ"จะรีบไปตายที่ไหนวะ แค่นี้พี่ก็บิดจนสุดแล้วเนี่ย" อาร์มวินมอเตอร์ไซค์ที่หล่อที่สุดในย่านนี้เปิดหมวกกันน็อกพูดกับร่างบางในทันที"หนูไปสอบน่ะสิ ขับเร็วๆ อีก ชักช้าจริงๆ" หญิงสาวนั่งลนลาน เพราะมันเลยเวลาเข้าห้องสอบมาเกือบสิบนาทีแล้ว"ใจเย็นๆ ไอ้ลินา อยากรถแหกโค้งตายหรือไง พี่เพิ่งจะยี่สิบเจ็ดเองนะเว้ย""ยี่สิบเจ็ดแล้วไง ตายไม่ได้หรือไงพ
ครืดๆๆ โทรศัพท์ในกระเป๋าเป้ของลินาสั่น"แสนดี" หญิงสาวเอ่ยรับโทรศัพท์เมื่อรู้ว่าคนที่อยู่ปลายสายคือเพื่อนสนิท'ลินา ทำไรอยู่''กำลังจะกลับเข้าห้อง แกมีอะไร''เอ่อ พี่อาร์มอยู่ที่คิววินไหม''ไม่รู้สิ ยังไม่เข้าไปในซอยเลย ทำไมเหรอ…' ลินาแกล้งแซวแสนดีเล่นๆ เพราะรู้ว่ายัยเพื่อนคนนี้ของเธอคลั่งรักพี่อาร์มสายโหดจะตาย'ถ้าพี่อาร์มอยู่ ฉันจะเข้าไปหาแกเดี๋ยวนี้เลย ซื้อของอร่อยๆ ไปด้วย' นั่นยัยเพื่อนคนนี้เอาของกินมาล่อเธออีกแล้ว"งั้นแกซื้อของอร่อยๆ มาเลยพี่อาร์มเตะบอลอยู่ที่สนามมาเร็วๆ เลยนะ" ลินายืนมองกลุ่มผู้ชายที่เตะบอลกันอยู่ในสนามอย่างสนุกสนานและหนึ่งในนั้นก็คืออาร์มที่เพื่อนสนิทอย่างแสนดีหมายปองไว้อยู่'จัดไปเลยแก ฉันจะรีบไปเดี๋ยวนี้แหละ' พี่อาร์มชายหนุ่มรูปหล่อน่าจะยังคงไม่รู้ว่าแสนดีหน้าหมวยสุดสวยน่ะโคตรจะชอบพี่เขาเลย ถึงขนาดวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมา แสนดีฝากลินาให้เอาดอกกุหลาบไปให้พี่อาร์มช่อเบ้อเริ่มเลยแถมยังไม่ให้บอกว่าเป็นแสนดีฝากมาให้ด้วย คงจะรู้สึกอายถ้าเขาไม่รักตอบ แต่ดูๆ ไปแล้ว อาร์มก็ไม่ได้มีท่าทีรังเกียจแสนดีเลยสักนิด กลับพูดจาไพเราะเสนาะหูซึ่งต่างกับเธอมากที่เขามักจะพูดดุดันใส่ต
ก๊อกๆๆ เสียงเคาะประตูหน้าห้องทำให้ลินาสะดุ้งอีกครั้ง"ถ้าเจ้าไปเปิดประตูนั่น ข้าจะเผาคนที่มาเคาะทันที" ปาวกะนั่งไขว่ห้างอยู่ตรงเก้าอี้ด้วยท่าทางสง่างามราวกับเทพบุตรมาจุติ"ลินาๆ อยู่ไหมวะ" เสียงของอาร์มที่ตะโกนเรียกเธออยู่หน้าห้องทำให้หญิงสาวต้องขานรับในทันที"อยู่ค่ะ พี่อาร์มมีอะไรหรือเปล่าคะ" ลินาตะโกนออกไป"พี่ซื้อข้าวมาฝาก เห็นซื้อแต่บะหมี่กิน จะประหยัดไปถึงไหนวะ" หญิงสาวจึงหันไปมองหน้าของปาวกะที่เชิดขึ้น แต่ยังจ้องมองเธออย่างเขม็งราวกับจะฆ่าเธอให้ตายด้วยสายตาคู่นั้นซะให้ได้"ทำไมจะเปิดประตูไม่ได้ล่ะคะ ก็พี่อาร์มคนรู้จักหนูเอง" เธอยืนพูดกับปาวกะที่ใส่ชุดสีดำทั้งชุด แต่พอเขาได้ฟังที่เธอพูดก็ทำให้มีไฟลุกโชนขึ้นจากดวงตาของเขาทันที"พี่อาร์ม…ไม่เป็นไรค่ะ หนูกินแล้วขอบคุณมากนะคะ" หญิงสาวตะโกนออกไปอีกเพื่อหวังให้คนที่อยู่หน้าประตูเดินกลับที่พักของตนเองไป"เฮ้ย อะไรวะ ซื้อมาฝากนะเนี่ย" พี่อาร์มนี่ก็พูดเพราะสุดๆ เลย ร่างบางจึงหันไปมองหน้าของปาวกะอีกครั้ง แต่เขากลับนั่งกระดิกเท้าแล้วผิวปากอย่างสบายใจด้วยท่าทางยียวนกวนประสาทแบบที่เธอไม่เคยคิดเลยว่าเทพจะทำเธอหัวร้อนได้ถึงเพียงนี้"พี่อาร์มเอ
ลินาทิ้งตัวลงนอนบนเตียงนุ่มผ้าปูสีชมพูที่เธอเพิ่งเปลี่ยนผ้าปูใหม่ กำลังนอนขบคิดว่าจะทำอย่างไรดีกับชายที่อ้างว่าตัวเองเป็นเทพดี เธอควรจะกำจัดเขาไปให้สิ้นดีไหม เมื่อคิดได้เช่นนั้นเธอก็ดีดตัวเองขึ้นมาจากที่นอนเพราะมีความคิดดีๆ ที่จะจัดการเขาแล้ว"ขอพรเท่านั้น พลังของเขาก็จะหมดไป ฮึๆ" เสร็จเธอแน่หญิงสาวหัวเราะในลำคอเมื่อนึกถึงแผนการชั่วร้ายของตัวเอง"หนูขอให้สอบผ่านได้เอ ทุกวิชาด้วยเถิด สาธุ" ร่างบางยกมือไหว้ขึ้นท่วมหัว"เจ้าคงไม่อยากตายจริงๆ ใช่ไหม" จู่ๆ ร่างใหญ่ที่เธอนึกถึงก็มาเท้าแขนคร่อมบนตัวของเธอ จนหญิงสาวล้มนอนราบกับเตียงอีกครั้ง"นี่...คุณลงไปเลยนะฉันอึดอัด" ลินาดันหน้าอกกว้างของปาวกะให้ออกห่างจากตัวของเธอ"เจ้าแทนตัวเองว่าฉัน งั้นเหรอ" เขาถามเธอด้วยสีหน้าประหลาดใจเพราะเขามักจะได้ยินเธอแทนตัวเองว่าหนู ซึ่งมันบ่งบอกว่าเธอมีความเคารพในตัวของเขาเกี่ยวกับอายุ"ก็จะพูด ฉันๆ น่ะมีอะไรไหม" หญิงสาวพูดรัวพร้อมกับทำหน้ายียวนกวนประสาทเขาบ้าง เพราะเขาน่ะล้ำเส้นเธอเกินไปแล้ว เข้าออกห้องของเธอตามอำเภอใจ แถมยังขึ้นมาคร่อมเธอแบบนี้อีก ถ้าแบบนี้ไม่เรียกว่าเกินไปจะเรียกว่าอะไร"ข้าน่ะอายุเกือบสามร้
เรย์ลงจากรถพร้อมกระเป๋าสีดำใบใหญ่ และยืนยิ้มแฉ่งโบกมือให้พี่สาวหย่อยๆ น้องชายตัวแสบของเธอกำลังจะมาพักอยู่ด้วยช่วงปิดเทอมนี้"ลินาๆๆ มาช่วยถือของหน่อย" น้องชายที่สูงร้อยแปดสิบชูกระเป๋าใบเล็กขึ้นมาอีกใบ"จะย้ายบ้านหรือไงขนไรมาเยอะแยะ" ลินาบ่นแล้วรับกระเป๋าใบนั้นมาถือไว้"ก็คนสมบัติเยอะนี่" เรย์ตบกระเป๋าดังตุบตับ ประหนึ่งกำลังจะบอกว่าในนี้มีของสำคัญอยู่"แล้วกินข้าวมาหรือยังล่ะ" เธอหันไปถามน้องชายที่กำลังเดินตามหลังมา"ยังเลยลินา" เขาเอามือลูบท้องเบาๆ เพราะนี่มันก็บ่ายโมงแล้ว คงเมื่อยที่นั่งรถโดยสารมา แล้วก็ต่อแท็กซี่มาลงตรงปากซอยทางเข้าห้องพักของเธอ"เราไปกินข้าวร้านนู้นดีกว่า อร่อยเหาะอ่ะ" พี่สาวชี้ไปร้านอาหารตามสั่งที่นั่งกินประจำ ทำให้น้องชายหัวเราะออกมาเพราะคำพูดที่ติดตลกของเธอ"ลินาน่ะ อะไรก็อร่อยไปหมดแหละ" เขาอมยิ้มชอบใจเมื่อเห็นพี่สาวของตัวเองจริงจังกับการกินขนาดนี้"ไปเลย ยังมาหัวเราะอีกถ้าอร่อยเกิดติดใจพี่ไม่พามากินแล้วนะ" ลินาดันหลังเรย์ให้รีบเดินไปยังร้านขายอาหารตามสั่งที่ชื่อว่า ป้ารวยโภชนา ก็ไม่รู้ว่าป้าแกได้กำไรหรือเปล่าเพราะใส่แต่หมูแต่เนื้อให้ลูกค้าเยอะมากๆ หรือป้าแกขายข
"ไม่เห็นมีอะไรเลย แกนี่พูดไปเรื่อยเปื่อยนะเรย์" หญิงสาวเดินไปหยุดยืนตรงโซฟาแล้วมองหาเสื้อแจ็คเก็ตที่เรย์พูดถึง"ก็เมื่อกี้ยังอยู่นี่เลย หายไปไหนแล้ว" เรย์ยืนเกาหัวเกรกๆ ก็เมื่อกี้เขาเห็นมันวางอยู่จริงๆ นี่"ตาฝาด พูดจามั่ว ไปเร็วอาบน้ำจะได้พักผ่อนพี่จะเข้าห้องละ" หญิงสาวพูดพร้อมกับหยิบข้าวกล่องถือเข้าไปในห้องนอนด้วย"อุ๊ย...!!" ลินาอุทานด้วยความตกใจเมื่อเห็นเสื้อแจ็คเก็ตสีดำถูกวางอยู่บนเตียงพร้อมกับผู้ชายนั่งห้อยขาอยู่บนเตียงนัยน์ตาแดงก่ำ"เฮ้อ...คุณทำหนูตกใจหมด" เธอผ่อนหายลมหายใจออกจากปากอย่างโล่งอก จากดวงตาสีแดงของเขาก็กลับกลายเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลอ่อนแกมเขียวในทันที"ทานข้าวไหมคะ" หญิงสาวยื่นข้าวกล่องให้เขา"ข้าไม่กินของเหลือเดนแบบนั้น" เสียงทุ้มใหญ่พูดขึ้น"ไม่นะคะ หนูยังไม่ได้ทานข้าวในกล่องนี้เลย" เธอส่ายหัวปฏิเสธในทันที"แต่แม่ค้าก็ตักชิมแล้ว ข้าไม่กิน" ชายหนุ่มร่างสูงเดินกอดอกพูดและเดินไปที่หน้าต่างกระจกเปิดผ้าม่านดูนู้นนี่คนอะไรวางมาดสุดๆ แหม วันนี้เซ็ทผมมาซะหล่อเชียวถ้าเจ้าเรย์เห็นว่ามีผู้ชายอยู่ในห้องจริงๆ เหมือนที่น้องชายของเธอคิดไว้นะเธอตายแน่ๆ"ไม่กินก็ไม่กินค่ะ เพราะไม่ได
"ลินาทำอะไรน่ะ" เรย์ถามพี่สาวในขณะที่เดินถือถุงสีขาวมาวางบนโซฟาที่เธอนั่งอยู่"หางานน่ะว่ามีที่ไหนรับสมัครบ้าง จะได้ยื่นใบสมัครไว้""ว้าว นี่พี่สาวของเรย์กำลังจะทำงานเหรอเนี่ย""ก็ใช่น่ะสิ แล้วแกซื้ออะไรมาเหรอเยอะเลย""หนังสือน่ะ อ่านใส่สมองสักหน่อย เดี๋ยวสมองจะมีขี้เลื่อยเหมือนของลินา""อร๊าย ไอ้น้องบ้าแกเข้าห้องไปเลยนะ ฉันเกลียดแกมาก" หญิงสาวทุบไหล่น้องชายไปหลายที"โอ๊ยๆ จะฟ้องแม่ว่าลินาตีเรย์จนต้องเข้าโรงพยาบาล ฮัลโลๆ แม่ครับช่วยเรย์ด้วย ลินาจะฆ่าเรย์แล้ว" เรย์พูดพร้อมกับกดโทรศัพท์แกล้งพี่สาวที่กำลังบีบคอของเขา"อารมณ์เสียเลยเนี่ย รู้งี้เอาขี้เถ้ายัดปากตัวเองตายตั้งแต่เด็กแล้ว ถ้ารู้ว่าต้องโตมาแล้วเจอน้องปากเสียอย่างนี้น่ะ" หญิงสาวบ่นอย่างหัวเสียเพราะน้องชายมักจะแกล้งให้เธอหงุดหงิดเสมอๆลินาพับโน้ตบุคแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู วันนี้เธอมีนัดกับแสนดีจะไปดูหนังด้วยกันเย็นนี้ เพราะอีกหน่อยคงไม่ได้เจอกันบ่อยเหมือนตอนเรียนแล้ว แสนดีจึงอยากไปดูหนังและให้ชวนพี่อาร์มไปดูด้วยกันให้ชวนพี่อาร์มเนี่ยนะยากกว่าเข็นครกขึ้นภูเขาอีกมั้ง แต่มีหรือที่ลินาจะทำไม่ได้มันต้องมีแผนเพื่อแสนดีจะได้สารภาพรักก
“ลินาคุยกับใครอ่ะ เปิดประตูเลยนะเรย์ได้ยินเสียงผู้ชาย ถ้าไม่เปิดเรย์จะฟ้องแม่จริงๆ ด้วย” เป็นน้องชายของเธอนั่นเองที่มาเคาะประตู“ขัดจังหวะข้าจริงๆ อยากให้ข้าเผาคนมาเคาะไหม” เขาถามหญิงสาวพร้อมกับเสียงจิปาก“ไม่ได้ค่ะ นั่นมันน้องของหนูนะเขาเพิ่งออกจากโรงพยาบาลน่าสงสารจะตาย”“เรย์ พี่ดูหนังในโทรศัพท์น่ะ มีผู้ชายที่ไหนล่ะ” ลินารีบเปิดประตูออกมา“แล้วไป เรย์คิดว่าแอบพาผู้ชายมาจะฟ้องแม่จริงๆ ด้วย” หญิงสาวรู้ว่าน้องชายของเธอพูดไปแบบนั้นเอง เพราะเธอรู้ดีว่าเขาเป็นห่วงเธอมากแค่ไหนถ้าจะคบกับใครสักคน แบบพี่อาร์มเธอก็เพิ่งมารู้ทีหลังว่าเขาเป็นลูกคนรวยแล้วเขาก็กลับไปอยู่กับพ่อของเขาแล้วซึ่งก็เป็นเจ้าของบริษัทที่เธอเคยทำอยู่เพราะตอนนี้เธอลาออกจากบริษัทแล้ว แม้อาร์มจะชวนไปทำงานด้วยแค่ไหนเธอเองก็ปฏิเสธเขาอยู่ดีและก็เพราะเธออีกน่ะแหละเรย์ถึงได้จมน้ำ เพราะเขาคิดว่าผู้หญิงที่จมน้ำอยู่ในสระตรงสวนสาธารณะเป็นเธอ จึงกระโดดลงไปช่วยแต่เขาไม่รู้ว่าบ่อนั้นมันลึกแถมยังลึกเป็นขั้นบันไดอีก โชคดีที่พี่อาร์มมาช่วยได้ทันไม่งั้นน้องชายของเธอคงไม่มายืนอยู่ตรงนี้เป็นแน่ แม้เรย์จะบอกว่าอาร์มสามารถไล่ผีไปได้ เธอก็ไม่อยาก
เมื่อลินาเดินออกมาจากห้องผู้ป่วยก็เดินสวนกับอาร์มพอดี ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าขมวดคิ้วเข้าหากัน ก่อนจะพุ่งเข้ากอดเธอในทันทีจนหญิงสาวไม่ทันตั้งตัวเลยเซถลาไปด้านหลังเพราะขนาดตัวของชายหนุ่มที่ใหญ่กว่าเธอมาก“ลินา ไปไหนมาพี่แทบจะบ้าตายแล้วรู้บ้างไหม พี่จะตายอยู่แล้ว” ชายหนุ่มสวมกอดเธอจนแน่นพร้อมกับร้องไห้ ใช่แล้วเขาร้องไห้“พี่อาร์ม” เธอเรียกเขาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน“ไม่เป็นอะไรใช่ไหม ขอบคุณนะขอบคุณที่กลับมา” เขาใช้สองมือจับลูบผมของเธอขึ้นลงแล้วจูบไปที่หน้าผากของหญิงสาวอย่างลืมตัวและสวมกอดร่างเล็กอีกครั้งจนเธอแทบหายใจไม่ออก“พี่อาร์ม หนูกลับมาแล้วแต่พี่จูบหนูทำไมคะ” หญิงสาวผลักเขาออกในทันที“พี่ขอโทษ พี่ดีใจไปหน่อย” ชายหนุ่มเกาท้ายทอยอย่างเขินอายเมื่อกี้เขาเล่นใหญ่เกินไปหรือเปล่านะ“ลินา เป็นแฟนกับพี่ไหม เรามาคบกันเถอะนะ” ชายหนุ่มที่เดินนำเธอไปนิดหน่อยหยุดดักเธอไว้และสารภาพความในใจทั้งหมดที่มี เพราะเขาจะไม่ปล่อยโอกาสนี้หลุดมือไปอีกแล้ว“คะ” หญิงสาวยังงงๆ“พี่รักลินานะ เป็นแฟนกับพี่ได้ไหมให้โอกาสผู้ชายคนนี้ได้ดูแลเธอได้ไหม” ชายหนุ่มที่ยืนรอฟังคำตอบจากหญิงสาวก้าวเข้ามาใกล้หญิงสาวจนห่างกันแค่คืบ
แผ่นกระดาษลอยลงมาจากท้องฟ้าและกลายเป็นผืนผ้าที่ไม่มีตัวอักษรตกมาอยู่ในมือของเจ้าของในทันทีที่เขาแบมือรับ“เทพเจ้าเล่ห์ ทำให้มนตร์ข้าเสื่อมจนได้สินะ” เขาขย้ำผืนผ้านั้นและปาลงไปกับพื้น“จะให้ข้าทำอย่างไรต่อดีคะท่านธารา” นางรับใช้ของธารายืนก้มหน้าพร้อมฟังคำสั่งของเจ้านายอย่างจงรักภักดี“ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น เจ้าคอยดูเถอะผลที่ตามมาจะทำให้เจ้าปาวกะถึงกับกระอักเลือดตายเลยทีเดียว ฮึๆ”ที่โรงพยาบาล“อาการของพ่อไม่ดีเลยเรย์ ฮือๆ” เสียงร่ำไห้ของแม่ที่นั่งเอามือปิดหน้าร้องไห้เมื่อลูกชายของเธอมาถึง“พ่อต้องไม่เป็นอะไรครับแม่ หมอต้องช่วยพ่อได้แน่ๆ” เรย์นั่งสวมกอดแม่ของตนเองที่ร้องไห้ดูเหมือนใจจะขาดเสียให้ได้เขาเองก็ไม่ต่างกันแถมพี่สาวของเขายังมาหายตัวไปอย่างปริศนาอีก“แล้วลินาล่ะลูก กลับมาหรือยัง” คนเป็นแม่ถามลูกชายเมื่อเห็นว่าไม่ได้มาพร้อมกัน“เออ…ลินาติดงานไปต่างจังหวัดกำลังจะมาครับ” เรย์ตอบไปอย่างนั้นเพราะไม่อยากให้แม่ของเขาต้องคอยเป็นห่วงลินาไปด้วย แล้วถ้าพี่สาวกลับมาไม่ทันเขาจะตอบแม่ว่าอย่างไรดีจนผ่านไปสองชั่วโมงที่สองแม่ลูกกลับต้องมาพบกับข่าวร้าย พ่อเสียชีวิตแล้วด้วยอาการหัวใจวาย เหมือนดั่
ชายหนุ่มร่างสูงอุ้มหญิงสาวมายังเตียงนอนของเขาแล้วค่อยๆ วางนางลงอย่างช้าๆ อย่างทะนุถนอมฝ่ามือหนาค่อยๆ เขี่ยแก้มของนางอย่างหวงแหนเพียงแค่คิดว่าคนที่อยู่ตรงนี้ไม่ใช่เขาแต่เป็นคนอื่นเขาก็รู้สึกอึดอัดและอยากจะเผาทุกคนให้มอดไหม้ที่บังอาจเข้ามาใกล้มนุษย์ตัวเล็กๆ แบบนี้“ข้าคงตกหลุมรักเจ้าจริงๆ ลินา” เขาค่อยๆ ถอดเสื้อของตัวเองออกและก้มลงประทับริมฝีปากไปที่เรียวปากสวยของหญิงสาวที่นอนหลับใหลไม่ได้สติ“อือ” หญิงสาวที่ถูกเขาจูบพูดอู้อี้ในลำคอเมื่อชายหนุ่มสอดแทรกลิ้นเข้าไปในโพรงปากหวานของหญิงสาว“ข้าทำผิดอย่างมหันต์ลินา ข้าถึงถูกลงโทษอย่างนี้” เขาพูดพร้อมกับค่อยๆ ดันตัวเองขึ้นมาจากริมฝีปากอวบอิ่มของหญิงสาวและนี่เป็นครั้งแรกที่เขาก้าวล้ำเธอมากขนาดนี้“คุณ” ลินาค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาอย่างสะลึมสะลือ“ข้ากำลังมีกิเลสกับเจ้า ข้ามีความรู้สึกแปลกๆ อยู่ภายในตัวของข้า” ปาวกะพูดพร้อมกับก้มลงไปจูบหญิงสาวอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ลินาที่นอนอยู่กลับโอบกอดต้นคอที่แข็งแรงของเขาเอาไว้ราวกับว่ากลัวเขาจะหนีหายไป“เจ้ากำลังเล่นกับไฟอยู่…รู้ไหม” เสียงทุ้มต่ำแหบพร่าพูดกระซิบที่ข้างหูของหญิงสาวที่กำลังโอบรั้งต้นคอแข็งแรงให้ก้มหน
เช้าวันใหม่ที่บริษัทที่ลินาทำงานอยู่ชายหนุ่มร่างสูงหุ่นนายแบบที่กำลังถูกช่างแต่งหน้ารุมล้อมอยู่เพราะว่าเขามีถ่ายแบบหลายชุดกับการออกนิตยสารเล่มใหม่เพื่อขอบคุณแฟนคลับพร้อมแจกลายเซ็นในงานมีตติ้งของอินคาหญิงสาวร่างเล็กที่กำลังยุ่งกับการทำงานอยู่หันไปมองอินคาด้วยแววตาที่ชื่นชมเขา ไม่คิดว่าเขาจะมาไกลขนาดนี้แต่แปลกที่หัวใจของลินาไม่ได้เต้นแรงเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ในทางกลับกันเธอกลับรู้สึกหัวใจพองโตเมื่อนึกถึงอ้อมกอดที่อบอุ่นของปาวกะและรสจูบที่เทพอย่างเขามอบให้แม้ว่ามันจะไม่ได้เกิดจากความรักก็ไม่เป็นไร ก็เขาเป็นเทพเย็นชานี่เนอะ เพียงแค่คิดแบบนี้ก็ทำให้หญิงสาวเผลอยิ้มออกมา แต่รู้ไหมว่าการกระทำของเธออยู่ในสายตาของธาราตลอด ใช่แล้วเขาตามเธอไปทุกหนทุกแห่งเพื่อกดดันปาวกะให้ดึงคัมภีร์ออกมาจากตัวของเธอเองยังไงล่ะ“เทพที่มีกิเลสกับมนุษย์สุดท้ายก็ต้องจบชีวิตตนเองและสูญสลายไปเป็นเถ้าธุลีตลอดกาลสินะ งั้นข้าจะช่วยให้เจ้ารีบหายไปแล้วกันเจ้าเทพแห่งไฟ” เมื่อคิดดังนั้นธารากับร่ายมนตร์ไปที่หญิงสาวที่กำลังยุ่งกับงานตรงหน้า จู่ๆ เธอก็เกิดล้มลงหมดสติไปในทันที แล้วตัวที่เย็นเฉียบราวกับน้ำแข็งของหญิงสาวกลับถูกอุ้มข
“คุณจ้องหนูทำไมคะ” ลินาถามปาวกะเมื่อเขายังคงมองเธอไม่ละสายตา“เพราะเจ้าขี้เหร่ไง ข้าเลยสงสัยว่าทำไมชายผู้นั้นถึงมาวนเวียนแต่กับเจ้า” ปาวกะพูดพร้อมกับเดินเข้ามาใกล้ๆ หญิงสาวที่กำลังเดินไปซื้อข้าวกล่องมาทานเพราะเธอยังไม่อยากกินขนมที่เขาซื้อมาให้“ใครคะ”“นั่นไง” ปาวกะพูดเมื่อเห็นชายหนุ่มที่เขากำลังพูดถึงเดินเข้ามาใกล้ลินา“ลินามาซื้อข้าวเหรอ มากินในร้านด้วยกันไหม” อาร์มเดินเข้ามาทักทายเธอด้วยใบหน้ายิ้มแย้มราวกับดีใจที่ได้พบเธอแบบนี้ แต่ก็ต้องหุบยิ้มเมื่อเขาเห็นปาวกะก้าวขามายืนอยู่ข้างๆ ลินาแบบแขนแนบชิดกัน“ได้ค่ะพี่” เธอตอบรับทันทีเพราะว่าหญิงสาวอยากจะรู้ว่าปาวกะที่ยืนอยู่ข้างๆ เธอนั้นจะมีอาการเป็นอย่างไร“ไหนเจ้าบอกว่าจะกลับไปกินที่ห้องกับข้าไง” เขาโอบไหล่ของหญิงสาวราวกับมนุษย์ที่หึงหวงคนรักของตัวเองอยู่“คุณบอกไม่ชอบกินของพวกนี้นี่คะ” เธอหันไปว่าเขาจนปาวกะถึงกับขมวดคิ้วเป็นปมเมื่อหญิงสาวขัดใจเขาเวลาอยู่ต่อหน้าของมนุษย์ที่เขาไม่ชอบหน้าสักเท่าไหร่“ก็ได้ งั้นเจ้ากินที่นี่เลย” ปาวกะไม่พูดเปล่ากับเดินนำเข้าไปในร้านและลินากับอาร์มก็ตามเข้าไปนั่งด้วย ตลอดเวลาที่ทั้งสองทานอาหารกัน ปาวกะสังเก
“พี่อาร์มลุกเร็วมานอนอะไรตรงนี้คะ เรย์ก็อีกคนหนึ่ง” หลังจากที่ปาวกะพาหญิงสาวมาส่งที่ห้อง เขาก็กลับไปในทันที พอลินาเดินเข้ามาในห้องก็เห็นสองคนนี้นอนกับพื้นแล้ว“อ้าวลินา” พี่อาร์มลุกขึ้นมาด้วยท่าทางงัวเงีย“มานอนอะไรตรงนี้คะ” หญิงสาวพูดพร้อมกับเดินไปปลุกน้องชายของตัวเองที่นอนอยู่บนเตียงของเธอ“สงสัยพี่คุยกับเรย์ดึกน่ะ กี่โมงแล้วเนี่ย”“เจ็ดโมงแล้วค่ะ”“งั้นพี่กลับก่อนดีกว่านะ” อาร์มเดินออกไปอย่างงุนงงพร้อมกับเรย์ที่ตื่นขึ้นมาพอดี เธอจึงหยิบโทรศัพท์ของเธอขึ้นมาดู วันนี้เป็นวันเสาร์สินะ“ลินา กลับมาแล้วเหรอ” เรย์ลุกขึ้นยืนพร้อมกับบิดขี้เกียจ“แกรู้เหรอว่าพี่ไปไหน” ลินามีสีหน้าตกใจหรือว่าเขาจะรู้ความจริงว่าเธอไปที่โลกของปาวกะมา“ก็ลินาไปทำงานต่างจังหวัดไง แกล้งอำกันอีกละ” เมื่อพูดจบเรย์จึงเดินออกไปจากห้องของเธอทำงานต่างจังหวัดเหรอ สรุปเธอโดนไล่ออกหรือไม่โดนล่ะ ไม่รู้ว่าปาวกะจะสร้างเรื่องอะไรไว้ที่นี่อีก เมื่อคิดได้เช่นนั้นเธอจึงเปิดแชตดู สรุปเธอลางานหรอกเหรอเนี่ยค่อยยังชั่วหน่อยอย่างน้อยเธอก็ยังคงไม่โดนไล่ออกตอนนี้ลินาเข้ามาทำงานตามปกติในวันจันทร์ ระหว่างทางที่เธอเดินเข้ามายังห้องทำงานก
“กลับห้องไปพักเถอะ ข้าจะไปส่ง”“หนูได้ยินมาว่าคุณกำลังถูกลงโทษแล้วคุณทำอะไรผิดคะ ใช่เรื่องที่คุณทำให้คนตายใช่ไหม”“เจ้าจะรู้เรื่องของข้ามากเกินไปแล้วลินา” เขาหันมาขมวดคิ้วใส่“ก็หนูได้ยินพวกผีคุยกันนี่คะ คุณนี่ก็ใจร้ายเหมือนกันนะคะ ถ้าคุณเป็นคนก็คงโดนตำรวจจับติดคุกหัวโตแน่ๆ”“เจ้าพูดมากเกินไปแล้วลินา ไม่เกรงกลัวข้าหรืออย่างไร” เขาชะโงกหน้าเข้ามาใกล้หญิงสาว จนเธอต้องผงะตัวออก” คุณ ไปนอนที่อื่นได้ไหม” เธอถามเมื่อเดินมาถึงประตูห้องนอนของเขา“นี่มันห้องของข้า ถ้าเจ้าไม่อยากนอนที่นี่ เจ้าไปนอนที่อื่นก็ได้นะ”“ได้ค่ะ ห้องไหนคะ” หญิงสาวพูดอย่างมั่นใจ“ห้องถัดจากห้องนี้ไปห้าห้องเจ้าไปนอนที่นั่นได้ แต่ถ้ามีเสียงแปลกๆ หรืออะไรมาให้เจ้าเห็นไม่ต้องตกใจพวกนั้นกำลังต้อนรับแขกที่อวดดีอย่างเจ้าอยู่” ปาวกะพูดพร้อมหัวเราะในลำคอ“คุณ” เธอรีบเดินมาทุบอกของเขาที่ยืนกอดอกมองออกไปนอกหน้าต่าง“โอ๊ย ข้าเจ็บนะ” หน้าอกของเขาที่มีเลือดซึมออกมาจากเสื้อสีดำของเขาจนเปียกมือของเธอ“คุณบาดเจ็บจริงๆ ด้วย” เธอค่อยๆ เอามือแหวกเสื้อเพื่อดูแผลของเขา“เลือดข้า ทำไมยังเป็นแบบนี้” เธองงกับคำพูดของเขา ปกติเลือดก็เป็นสีแดงไม่
“ลินา” เสียงทุ้มใหญ่กังวานนั่นพูดอยู่ทางด้านหลังของเธอ“ปาวกะ ข้าเพียงแค่จะพานางไปหาวาเนสซา” ไอรามีสีหน้าตกใจอย่างเห็นได้ชัดเมื่อชายที่ปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าเป็นปาวกะ“ใช่ค่ะ หนูกำลังจะไปหาพี่วาเนสซา”“แต่เจ้ารู้ ไอรา…ว่าวาเนสซามีร่างกายเป็นเช่นไรเมื่อถึงเวลากลางคืน” ปาวกะตาแดงก่ำด้วยความโกรธ ไอราอ้ำอึ้งได้แต่ยืนก้มหน้า“ข้าขอโทษ”“เจ้าพูดคำนี้มานับครั้งไม่ถ้วน แต่เจ้าไม่ได้รู้สึกผิดอะไรเลยสักนิด เจ้ายังคงทำสิ่งที่ข้าไม่ชอบแต่เจ้ารู้ไหมว่าพวกนี้มันจะกลับไปทำร้ายตัวของเจ้าเอง เมื่อวันที่ข้าไม่สามารถทนเจ้าได้อีกต่อไป”“เพราะมนุษย์ผู้นี้ใช่หรือไม่ ที่ทำให้ท่านเปลี่ยนไป เหตุนี้จึงหมดความสนใจในตัวข้าใช่หรือไม่” ไอราพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือคลางแคลงในใจ บ่งบอกให้รู้เลยว่าเธอเสียใจมากแค่ไหนกับผู้ชายที่ยืนต่อว่าเธอด้วยความโกรธแบบนี้ แต่ไม่มีสักครั้งเลยที่ชายผู้นี้จะทำร้ายหรือเผาเธอเหมือนที่เขาทำกับคนอื่นๆ“เพราะตัวเจ้าเองต่างหากที่เลือกให้ข้าเป็นเช่นนี้ เจ้าช่างโง่เขลายิ่งนักไอราที่ยอมให้ความชั่วร้ายมาครอบงำตัวเจ้าได้” ปาวกะพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง ไอราเอาแต่ยืนร้องไห้ลินารู้เลยว่าเธอต้องเจ็บปวดข