หลังจากที่ลินากลับถึงห้องก็อาบน้ำนั่งดูทีวีได้สักพัก ก็ได้ยินเสียงโหวกเหวกโวยวายอยู่หน้าห้อง"ไฟไหม้ๆๆ ไปเร็วพวกเราไปช่วยกันดับไฟเร็ว" ลินารีบเปิดประตูออกไปดูอย่างรวดเร็ว"พี่ๆ ไฟไหม้ที่ไหนคะ" เธอตะโกนถามพี่ผู้ชายที่วิ่งผ่านมา"นู้นๆ อยู่ตึกข้างหน้านู้น" นั่นมันตึกห้องพี่อาร์มนี่ ลินารีบเข้าไปหยิบเสื้อคลุมแขนยาวมาคลุมทับชุดนอนและรีบวิ่งไปยังตึกเป้าหมายทันที"พี่อาร์ม" หญิงสาวร้องตะโกนลั่นเมื่อเห็นหน่วยกู้ภัยหิ้วปีกอาร์มออกมา"แค่กๆๆ ปล่อยผมนะผมจะเข้าไปเอาของ" ชายหนุ่มร้องดิ้นรนจะเข้าไปข้างในให้ได้ อย่างน้อยก็ทำให้หญิงสาวได้รู้ว่าเขาคงไม่ได้เป็นอะไรมากก็แหกปากลั่นขนาดนั้น"ลืมถอดปลั๊กอะไรอีกวะเนี่ย" ชายหนุ่มเจ้าของห้องที่ถูกไฟไหม้พูดอย่างหัวเสีย ในขณะที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงดับไฟจนหมดแล้ว"นั่นสิพี่ครั้งหน้าก็ดูให้มันดีๆ หน่อย ตรวจให้เรียบร้อย อันตรายมาก ดีนะที่พี่ไม่เป็นอะไรแล้วก็โชคดีมากที่ไม่ลามไปห้องอื่นด้วย"""แล้วจะทำไงล่ะที่นี้ ไม่มีที่จะซุกหัวนอนละ ซวยฉิบหายเลยว่ะ" พี่อาร์มยิ่งเดินไปเดินมาอย่างกังวลใจ"เอางี้ดิพี่ ไปนอนห้องเรย์ก่อน ลินาให้พี่อาร์มไปพักด้วยกันกับเราก่อนนะ" เรย์รีบ
ณ ดินแดนแห่งหนึ่งอันแสนไกลที่ไม่มีมนุษย์คนไหนสามารถเข้าไปได้อากาศที่เย็นสบายในยามดึก ลมพัดพาเอากลิ่นหอมอ่อนๆ จากเกสรดอกไม้หอมตลบอบอวลไปทั่วอาณาเขตนั้น เหล่าผีเสื้อหลากสีบินตอมดอมดมเกสรดอกไม้กันอย่างร่าเริง ราวกับโลกใบนี้เป็นของพวกมัน ต้นไม้ใบหญ้าเขียวชอุ่มขจี ภูเขารายล้อมและถูกปกคลุมไปด้วยต้นไม้ใหญ่ และมีหิมะเกาะอยู่ตามยอดไม้ ยอดใบหญ้า ความจริงเมืองนี้น่าจะหนาวเย็นยะเยือกมากกว่าถ้าหากว่าเมืองนี้อยู่ในโลกมนุษย์ เมืองที่สว่างไสวตลอดเวลาด้วยแสงจันทราทั้งกลางวันกลางคืนราวกับมีดวงอาทิตย์อีกดวง แต่หาได้เป็นอย่างนั้นไม่ เมืองนี้ไม่มีดวงอาทิตย์…ที่ใต้ร่มไม้ใหญ่นั่น มีต้นหญ้าถูกปกคลุมไปด้วยเกล็ดน้ำแข็งกำลังจะละลายสลายเป็นหยดน้ำลงบนพื้นดิน ต้นไม้ใหญ่ที่ชายผู้ทรงสง่าผ่าเผยยืนอยู่ใต้ต้นไม้นั้นกำลังจะเหี่ยวเฉาทำให้ชายผู้มาใหม่ร้องทักขึ้นในทันที"เฮ้...ปาวกะ" เสียงเรียกของชายหนุ่มที่เขาคุ้นเคยเป็นอย่างดีส่งเสียงมาจากทางด้านหลัง ใบหน้าที่เปื้อนยิ้มของเขาทำท่าปากจู๋เชิงล้อเลียนแบบนั้นทำเอาปาวกะหัวเสียอยู่ไม่น้อยเมื่อได้เห็นท่าทางของเพื่อนสนิทหยอกล้อเขา"เฮ้ยๆ ใจเย็นๆ ข้าล้อเจ้าเล่นเท่านั้น ดูสิต้น
ที่ห้องเช่าของลินา"ลินา มัวทำอะไรอยู่ เดี๋ยวไปทำงานสายหรอก" เรย์เรียกพี่สาวที่อยู่ในห้องให้รีบออกมา"รู้แล้วๆ กำลังออกไปไง" ลินารีบหยิบรองเท้าส้นสูงใส่อย่างทุลักทุเล ก็เพราะไอ่น้องชายตัวแสบมันอาสาจะไปส่งที่บริษัทที่อินคาทำงาน ใช่แล้วเธอได้ทำงานที่บริษัทนั้นแล้ว บริษัทที่มีดาราแล้วอินคาก็คือหนึ่งในดาราที่กำลังจะโด่งดังนั้นเอง"จะรอดไหมวะไอ่ลินา พี่ว่าถ้าให้เรย์ขี่ไปส่ง มีหวังแหกโค้งตรงปากซอยนี่แหละไม่ได้ไปไหนไกลหรอก" พี่อาร์มพูดพร้อมส่ายหัวในขณะที่เรย์พยายามสตาร์ทมอ'ไซค์ด้วยเท้าไปหลายรอบแต่มันก็ยังไม่ติดสักที ทั้งที่ปุ่มสตาร์ทด้วยมือก็มี"แรงตกหรือไงวะเรย์" พี่อาร์มพูดพร้อมกับเดินมากดปุ่มสตาร์ทมือให้"โฮ้ พี่มีแบบสตาร์ทมือก็ไม่บอก" ลินากับอาร์มมองหน้ากัน จริงๆ เรย์แทบไม่เคยได้ขี่มอ'ไซค์เลยด้วยซ้ำ ที่บ้านก็มีรถยนต์แค่คันเดียว แถมจะไปไหน ก็ต้องนั่งรถประจำทางไป ไม่แปลกหรอกที่น้องมันไม่ค่อยรู้เรื่องพวกนี้"เดี๋ยวพี่ไปส่งเอง นายรออยู่นี่แหละ" พี่อาร์มจับแฮนด์รถพร้อมทั้งดันเรย์ให้ถอยออกไป"จะดีเหรอพี่ เกรงใจจังนี่อุตส่าห์ให้ผมยืมรถแล้วยังไปส่งอีก ถ้าใครได้เป็นแฟนพี่นะ โชคดีสุดๆ เลย" เรย์พูด
"ปาวกะ" หญิงสาวเรียกเขาเบาๆชายหนุ่มก้มมองใบหน้าของหญิงสาวในขณะที่ยังอุ้มเธอเดินขึ้นมาจากน้ำ"มีคนจมน้ำอยู่ คุณต้องลงไปช่วยเขา" เธอพยายามดิ้นให้หลุดจากอ้อมแขนที่แข็งแรงนั่น"เจ้าดูไม่ออกจริงๆ เหรอ ว่าเป็นมนุษย์เช่นเดียวกับเจ้าหรือภูตผีที่อยู่ในน้ำนั่นอยู่แล้ว" เธอค่อยๆ ชะโงกหน้ามองไปยังจุดที่เห็นว่ามีคนจมน้ำโดยมองผ่านไหล่กว้างของชายหนุ่มลงไปในขณะที่เขากำลังอุ้มเธอขึ้นฝั่ง ภาพที่อยู่ตรงหน้าทำให้หญิงสาวต้องโอบต้นคอของเขาจนแน่น มันน่าสะพรึงกลัวจนขนลุก ที่จู่ๆ ร่างสาวผมยาวเน่าเฟะนั้นก็เกิดไฟลุกท่วมตัวเสียงหวีดร้องดังลั่นไปทั่วสวนสาธารณะ"หนูกลัว" หญิงสาวบอกเขาเสียงสั่น"เจ้าก็เกือบได้เป็นตัวแทนตัวตายแล้วเหมือนกัน""ไม่ หนูยังไม่อยากตายค่ะ" เทพผู้สง่างามค่อยๆ วางหญิงสาวลงโดยที่สภาพของทั้งคู่เปียกโชกเธอเกือบตายแล้วจริงๆ ถ้าไม่ได้เขามาช่วยป่านนี้เธอคงจมน้ำตายไปแล้ว"ขอบคุณนะคะที่มาช่วยหนู ถึงหนูว่ายน้ำไม่เป็นแต่คุณก็ทำให้หนูลอยในน้ำได้นานขนาดนั้น" หญิงสาวยืนเอามือกอดตัวเองเพราะความหนาวจนตัวเธอสั่นไหว"ข้าไม่ได้ทำให้เจ้าลอยน้ำได้เลยลินา" เขาตอบเสียงเรียบพร้อมด้วยใบหน้าที่มีความสงสัย"จริงเหร
สามวันต่อมา ที่ร้านสะดวกซื้อ"ข้ามีเรื่องอยากให้เจ้าช่วย" ลินายืนสะดุ้งตกใจเมื่อเขามากระซิบที่ข้างใบหูของหญิงสาวในขณะที่เธอกำลังเปิดตู้แช่หยิบไอศกรีมออกมา"ตกใจหมด ทำไมต้องเดินมาเงียบๆ ด้วยคะ" ร่างเล็กขมวดคิ้วใส่เขา"เจ้าจะให้ข้า…เดินพังร้านเข้ามาหรือ…ลินา" คนบ้าพูดจายียวน นิสัยเหมือนมนุษย์เข้าไปทุกวัน"ข้าได้ยินที่เจ้าพูด" เขายื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ หญิงสาว"วันนี้คุณดูหล่อดีนะ อ่ะนี่ หนูเลี้ยง" เธอพูดชมเขาพร้อมทั้งหยิบไอศกรีมใส่ไปในมือให้เขาหนึ่งแท่ง ทันทีที่ไอศกรีมอยู่ในมือของเขา"ละลายเลอะมือหมดเลย คุณนี่ไม่ระวังเลย" เธอรีบหยิบกระดาษทิชชู เช็ดไปที่มือหนาของเขาที่เปื้อนไอศกรีมรสช็อกโกแลตนั้นออกทันที"มือก็ไม่ได้ร้อนนี่คะ" หญิงสาวเงยหน้ามองเขาและสบตากับเขาที่กำลังจ้องมาที่ริมฝีปากของตัวเธอเองจนทำให้หญิงสาวรู้สึกประหม่า"ถ้าเจ้าต้องการ ข้าจะทำให้มันร้อนตอนนี้เลยก็ได้""โอ๊ย หนูไม่ได้บอกว่าต้องการสักหน่อย" ลินารีบสะบัดมือออกทันทีเมื่อรู้สึกว่ามือของเขาเริ่มร้อนขึ้นมาบ้างแล้ว"ข้าไม่ได้ตั้งใจ ทำไมข้าควบคุมอะไรไม่ได้เลย เจ้าต้องช่วยข้านะลินา" สายตาวิงวอนของเขานั้นกำลังขอร้องเธอให้เห็นใจ ซึ่
ณ ดินแดนที่ไม่เคยมืดมิดในยามกลางคืน“ปาวกะ เจ้าทำกับนางเกินไปไหม” ชายหนุ่มร่างสูงพูดขึ้น พลางมองไปที่ร่างของหญิงสาวที่มีแต่แผลพุพองไปทั่วร่าง ไม่เหลือหลงความงามไว้อยู่เลย“ข้าเตือนนางแล้ว ว่าอย่าเข้ามาใกล้ข้า” ปาวกะพูดก่อนจะเดินไปที่ร่างนอนแน่นิ่งนั่น และค่อยๆ กรีดข้อมือของตัวเองเพื่อให้เลือดของเขาหยดลงแก้วน้ำที่เขาถือไว้ แล้วประคองร่างที่เคยงดงามนั่นให้ลุกขึ้นนั่งลง ชายหนุ่มค่อยๆ เอียงแก้วที่มีน้ำสีฟ้าอยู่ครึ่งแก้วเข้าปากหญิงสาวไปทีละนิดๆ จนหมด“แล้วทำไมมนุษย์ผู้หญิงคนนั้นถึงโดนตัวของเจ้าได้ โดยที่ไม่เป็นอะไรเลย ทั้งๆ ที่นางเป็นแค่มนุษย์ธรรมดาเท่านั้น” ชายหนุ่มรูปงามเพื่อนสนิทของปาวกะพูดขึ้น เมื่อเจ้าของเลือดสีฟ้าได้ฟังดังนั้นถึงกับชะงักมือแล้วหันไปมองไคในทันทีแต่เขายังไม่ทันจะตอบ หญิงสาวที่นอนอยู่ก็ลืมตาขึ้นมาแล้วจับมือของปาวกะเอาไว้“ปาวกะ ท่านใจร้ายกับข้าเหลือเกิน” หญิงสาวที่นอนแน่นิ่งอยู่ค่อยๆ เปิดปากพูดขึ้นแถมแผลที่พุพองตามตัวก็ค่อยๆ จางหายไปในทันที แต่ถ้าเป็นมนุษย์ธรรมดาๆ ถ้าโดนขนาดนี้แล้ว คงได้ไปยมโลกแล้ว“เจ้านอนพักเถอะ ไว้ข้าจะมาใหม่” ปาวกะค่อยๆ ประคองให้ไอรานอนลงกับเตียงตาม
ลินามาลองคิดดูว่าหลายวันมานี้เธอจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลย ตั้งแต่เกิดเรื่องครั้งนั้นที่เธอจมน้ำที่สระสาธารณะนั่น หรืออาจจะเป็นตั้งแต่ที่เธอได้พบกับเขา ปาวกะ“เฮ้อ ช่วงนี้เป็นอะไรนะ จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลยนะลินา” เธอเดินบ่นอุบอิบแล้วทิ้งตัวนั่งลงตรงโซฟาและค่อยๆ หลับตาลงก๊อกๆ ก๊อกๆเสียงเคาะประตูอยู่หน้าห้องของหญิงสาว“เรย์ ไปเปิดประตูสิ เพื่อนมาแล้วมั้ง” ลินาตะโกนเรียกน้องชายที่อยู่ในห้องเล็กๆ แต่กลับไม่มีเสียงตอบกลับมา“เรย์ ไปเปิดประตูหน่อย” หญิงสาวตะโกนอีกครั้ง แต่ก็เงียบสงสัยจะหลับแล้วอะไรกันยังไม่ดึกสักหน่อย เธอดูเวลาที่โทรศัพท์ มันเพิ่งจะสามทุ่ม นี่เธอเผลอนั่งหลับไปตอนไหนกันหญิงสาวจึงลุกไปเปิดประตูเอง“สวัสดีครับ ผมเป็นเพื่อนของเรย์” ผู้ชายร่างสูง ผิวขาว ดูเป็นคนนิ่งๆ พูดกับลินาอยู่หน้าห้อง“อ๋อ เดี๋ยวเรียกเรย์ให้นะ เข้ามาก่อนสิสงสัยเรย์จะหลับอยู่” ลินาเดินงงๆ ไปหาน้องที่ห้อง พลางคิดว่าผู้ชายที่เป็นเพื่อนของเรย์ทำไมถึงมาคบกับน้องชายของเธอได้นะ เขาดูเป็นผู้ใหญ่มาก สุขุม ซึ่งต่างกับน้องชายของเธอที
“คุณเป็นยังไงบ้าง ได้ยินหนูไหมคุณไปทำอะไรมาทำไมถึงเป็นแบบนี้ล่ะ” ลินาเขย่าชายหนุ่มที่นอนอยู่บนตักของตัวเอง“อ๊ากก เฮือกก” เสียงร้องของเขาที่ร้องด้วยความเจ็บปวดทำให้เธอต้องรีบบีบมือของเขาจนแน่น“หนาว ข้าหนาว” เขาบอกเสียงสั่นสะท้าน ก็แน่ล่ะเขาตัวเปียกโชกขนาดนี้แถมข้างนอกฝนยังตกตลอดอีก เธอค่อยๆ ถอดเสื้อที่เปียกของเขาออกแล้วดึงผ้าห่มที่อยู่ปลายเตียงมาคลุมตัวของเขาไว้แทน“ปาวกะ คุณเป็นยังไงบ้างหนูจะช่วยคุณได้ยังไงคะ” เมื่อกี้หญิงสาวเผลอเรียกเขาว่าปาวกะ ใช่ก่อนหน้านั้นเขาบอกว่าเขาคือปาวกะ แล้วอคิราห์ล่ะหรือว่าเขาจะมีฝาแฝด“ขอพรกับข้าสิ ลินา” หญิงสาวเบิกตากว้าง นี่เป็นครั้งแรกที่เขาบอกให้เธอขอพรเพราะที่ผ่านมาเขามักจะบ่นเรื่องที่เธอขอพรพร่ำเพรื่อกับเขาเสมอ“ได้ งั้นหนูขอให้คุณหายจากอาการบาดเจ็บนี้ด้วยเถิด”“ลินา ฟังข้านะเจ้าไม่สามารถขอพรจากข้า เพื่อช่วยตัวข้าได้ลองนึกดีๆ ว่าเจ้าต้องการสิ่งใด”“ทำไมคุณต้องมาให้หนูขอพรในเวลาแบบนี้ด้วยล่ะ สิ่งที่หนูต้องการมากที่สุดตอนนี้ คืออยากให้คุณหาย” หญิงสาวน้ำตาหยดแมะไปที่แก้มของเขาด้วยความสง
“ลินาคุยกับใครอ่ะ เปิดประตูเลยนะเรย์ได้ยินเสียงผู้ชาย ถ้าไม่เปิดเรย์จะฟ้องแม่จริงๆ ด้วย” เป็นน้องชายของเธอนั่นเองที่มาเคาะประตู“ขัดจังหวะข้าจริงๆ อยากให้ข้าเผาคนมาเคาะไหม” เขาถามหญิงสาวพร้อมกับเสียงจิปาก“ไม่ได้ค่ะ นั่นมันน้องของหนูนะเขาเพิ่งออกจากโรงพยาบาลน่าสงสารจะตาย”“เรย์ พี่ดูหนังในโทรศัพท์น่ะ มีผู้ชายที่ไหนล่ะ” ลินารีบเปิดประตูออกมา“แล้วไป เรย์คิดว่าแอบพาผู้ชายมาจะฟ้องแม่จริงๆ ด้วย” หญิงสาวรู้ว่าน้องชายของเธอพูดไปแบบนั้นเอง เพราะเธอรู้ดีว่าเขาเป็นห่วงเธอมากแค่ไหนถ้าจะคบกับใครสักคน แบบพี่อาร์มเธอก็เพิ่งมารู้ทีหลังว่าเขาเป็นลูกคนรวยแล้วเขาก็กลับไปอยู่กับพ่อของเขาแล้วซึ่งก็เป็นเจ้าของบริษัทที่เธอเคยทำอยู่เพราะตอนนี้เธอลาออกจากบริษัทแล้ว แม้อาร์มจะชวนไปทำงานด้วยแค่ไหนเธอเองก็ปฏิเสธเขาอยู่ดีและก็เพราะเธออีกน่ะแหละเรย์ถึงได้จมน้ำ เพราะเขาคิดว่าผู้หญิงที่จมน้ำอยู่ในสระตรงสวนสาธารณะเป็นเธอ จึงกระโดดลงไปช่วยแต่เขาไม่รู้ว่าบ่อนั้นมันลึกแถมยังลึกเป็นขั้นบันไดอีก โชคดีที่พี่อาร์มมาช่วยได้ทันไม่งั้นน้องชายของเธอคงไม่มายืนอยู่ตรงนี้เป็นแน่ แม้เรย์จะบอกว่าอาร์มสามารถไล่ผีไปได้ เธอก็ไม่อยาก
เมื่อลินาเดินออกมาจากห้องผู้ป่วยก็เดินสวนกับอาร์มพอดี ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าขมวดคิ้วเข้าหากัน ก่อนจะพุ่งเข้ากอดเธอในทันทีจนหญิงสาวไม่ทันตั้งตัวเลยเซถลาไปด้านหลังเพราะขนาดตัวของชายหนุ่มที่ใหญ่กว่าเธอมาก“ลินา ไปไหนมาพี่แทบจะบ้าตายแล้วรู้บ้างไหม พี่จะตายอยู่แล้ว” ชายหนุ่มสวมกอดเธอจนแน่นพร้อมกับร้องไห้ ใช่แล้วเขาร้องไห้“พี่อาร์ม” เธอเรียกเขาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน“ไม่เป็นอะไรใช่ไหม ขอบคุณนะขอบคุณที่กลับมา” เขาใช้สองมือจับลูบผมของเธอขึ้นลงแล้วจูบไปที่หน้าผากของหญิงสาวอย่างลืมตัวและสวมกอดร่างเล็กอีกครั้งจนเธอแทบหายใจไม่ออก“พี่อาร์ม หนูกลับมาแล้วแต่พี่จูบหนูทำไมคะ” หญิงสาวผลักเขาออกในทันที“พี่ขอโทษ พี่ดีใจไปหน่อย” ชายหนุ่มเกาท้ายทอยอย่างเขินอายเมื่อกี้เขาเล่นใหญ่เกินไปหรือเปล่านะ“ลินา เป็นแฟนกับพี่ไหม เรามาคบกันเถอะนะ” ชายหนุ่มที่เดินนำเธอไปนิดหน่อยหยุดดักเธอไว้และสารภาพความในใจทั้งหมดที่มี เพราะเขาจะไม่ปล่อยโอกาสนี้หลุดมือไปอีกแล้ว“คะ” หญิงสาวยังงงๆ“พี่รักลินานะ เป็นแฟนกับพี่ได้ไหมให้โอกาสผู้ชายคนนี้ได้ดูแลเธอได้ไหม” ชายหนุ่มที่ยืนรอฟังคำตอบจากหญิงสาวก้าวเข้ามาใกล้หญิงสาวจนห่างกันแค่คืบ
แผ่นกระดาษลอยลงมาจากท้องฟ้าและกลายเป็นผืนผ้าที่ไม่มีตัวอักษรตกมาอยู่ในมือของเจ้าของในทันทีที่เขาแบมือรับ“เทพเจ้าเล่ห์ ทำให้มนตร์ข้าเสื่อมจนได้สินะ” เขาขย้ำผืนผ้านั้นและปาลงไปกับพื้น“จะให้ข้าทำอย่างไรต่อดีคะท่านธารา” นางรับใช้ของธารายืนก้มหน้าพร้อมฟังคำสั่งของเจ้านายอย่างจงรักภักดี“ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น เจ้าคอยดูเถอะผลที่ตามมาจะทำให้เจ้าปาวกะถึงกับกระอักเลือดตายเลยทีเดียว ฮึๆ”ที่โรงพยาบาล“อาการของพ่อไม่ดีเลยเรย์ ฮือๆ” เสียงร่ำไห้ของแม่ที่นั่งเอามือปิดหน้าร้องไห้เมื่อลูกชายของเธอมาถึง“พ่อต้องไม่เป็นอะไรครับแม่ หมอต้องช่วยพ่อได้แน่ๆ” เรย์นั่งสวมกอดแม่ของตนเองที่ร้องไห้ดูเหมือนใจจะขาดเสียให้ได้เขาเองก็ไม่ต่างกันแถมพี่สาวของเขายังมาหายตัวไปอย่างปริศนาอีก“แล้วลินาล่ะลูก กลับมาหรือยัง” คนเป็นแม่ถามลูกชายเมื่อเห็นว่าไม่ได้มาพร้อมกัน“เออ…ลินาติดงานไปต่างจังหวัดกำลังจะมาครับ” เรย์ตอบไปอย่างนั้นเพราะไม่อยากให้แม่ของเขาต้องคอยเป็นห่วงลินาไปด้วย แล้วถ้าพี่สาวกลับมาไม่ทันเขาจะตอบแม่ว่าอย่างไรดีจนผ่านไปสองชั่วโมงที่สองแม่ลูกกลับต้องมาพบกับข่าวร้าย พ่อเสียชีวิตแล้วด้วยอาการหัวใจวาย เหมือนดั่
ชายหนุ่มร่างสูงอุ้มหญิงสาวมายังเตียงนอนของเขาแล้วค่อยๆ วางนางลงอย่างช้าๆ อย่างทะนุถนอมฝ่ามือหนาค่อยๆ เขี่ยแก้มของนางอย่างหวงแหนเพียงแค่คิดว่าคนที่อยู่ตรงนี้ไม่ใช่เขาแต่เป็นคนอื่นเขาก็รู้สึกอึดอัดและอยากจะเผาทุกคนให้มอดไหม้ที่บังอาจเข้ามาใกล้มนุษย์ตัวเล็กๆ แบบนี้“ข้าคงตกหลุมรักเจ้าจริงๆ ลินา” เขาค่อยๆ ถอดเสื้อของตัวเองออกและก้มลงประทับริมฝีปากไปที่เรียวปากสวยของหญิงสาวที่นอนหลับใหลไม่ได้สติ“อือ” หญิงสาวที่ถูกเขาจูบพูดอู้อี้ในลำคอเมื่อชายหนุ่มสอดแทรกลิ้นเข้าไปในโพรงปากหวานของหญิงสาว“ข้าทำผิดอย่างมหันต์ลินา ข้าถึงถูกลงโทษอย่างนี้” เขาพูดพร้อมกับค่อยๆ ดันตัวเองขึ้นมาจากริมฝีปากอวบอิ่มของหญิงสาวและนี่เป็นครั้งแรกที่เขาก้าวล้ำเธอมากขนาดนี้“คุณ” ลินาค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาอย่างสะลึมสะลือ“ข้ากำลังมีกิเลสกับเจ้า ข้ามีความรู้สึกแปลกๆ อยู่ภายในตัวของข้า” ปาวกะพูดพร้อมกับก้มลงไปจูบหญิงสาวอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ลินาที่นอนอยู่กลับโอบกอดต้นคอที่แข็งแรงของเขาเอาไว้ราวกับว่ากลัวเขาจะหนีหายไป“เจ้ากำลังเล่นกับไฟอยู่…รู้ไหม” เสียงทุ้มต่ำแหบพร่าพูดกระซิบที่ข้างหูของหญิงสาวที่กำลังโอบรั้งต้นคอแข็งแรงให้ก้มหน
เช้าวันใหม่ที่บริษัทที่ลินาทำงานอยู่ชายหนุ่มร่างสูงหุ่นนายแบบที่กำลังถูกช่างแต่งหน้ารุมล้อมอยู่เพราะว่าเขามีถ่ายแบบหลายชุดกับการออกนิตยสารเล่มใหม่เพื่อขอบคุณแฟนคลับพร้อมแจกลายเซ็นในงานมีตติ้งของอินคาหญิงสาวร่างเล็กที่กำลังยุ่งกับการทำงานอยู่หันไปมองอินคาด้วยแววตาที่ชื่นชมเขา ไม่คิดว่าเขาจะมาไกลขนาดนี้แต่แปลกที่หัวใจของลินาไม่ได้เต้นแรงเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ในทางกลับกันเธอกลับรู้สึกหัวใจพองโตเมื่อนึกถึงอ้อมกอดที่อบอุ่นของปาวกะและรสจูบที่เทพอย่างเขามอบให้แม้ว่ามันจะไม่ได้เกิดจากความรักก็ไม่เป็นไร ก็เขาเป็นเทพเย็นชานี่เนอะ เพียงแค่คิดแบบนี้ก็ทำให้หญิงสาวเผลอยิ้มออกมา แต่รู้ไหมว่าการกระทำของเธออยู่ในสายตาของธาราตลอด ใช่แล้วเขาตามเธอไปทุกหนทุกแห่งเพื่อกดดันปาวกะให้ดึงคัมภีร์ออกมาจากตัวของเธอเองยังไงล่ะ“เทพที่มีกิเลสกับมนุษย์สุดท้ายก็ต้องจบชีวิตตนเองและสูญสลายไปเป็นเถ้าธุลีตลอดกาลสินะ งั้นข้าจะช่วยให้เจ้ารีบหายไปแล้วกันเจ้าเทพแห่งไฟ” เมื่อคิดดังนั้นธารากับร่ายมนตร์ไปที่หญิงสาวที่กำลังยุ่งกับงานตรงหน้า จู่ๆ เธอก็เกิดล้มลงหมดสติไปในทันที แล้วตัวที่เย็นเฉียบราวกับน้ำแข็งของหญิงสาวกลับถูกอุ้มข
“คุณจ้องหนูทำไมคะ” ลินาถามปาวกะเมื่อเขายังคงมองเธอไม่ละสายตา“เพราะเจ้าขี้เหร่ไง ข้าเลยสงสัยว่าทำไมชายผู้นั้นถึงมาวนเวียนแต่กับเจ้า” ปาวกะพูดพร้อมกับเดินเข้ามาใกล้ๆ หญิงสาวที่กำลังเดินไปซื้อข้าวกล่องมาทานเพราะเธอยังไม่อยากกินขนมที่เขาซื้อมาให้“ใครคะ”“นั่นไง” ปาวกะพูดเมื่อเห็นชายหนุ่มที่เขากำลังพูดถึงเดินเข้ามาใกล้ลินา“ลินามาซื้อข้าวเหรอ มากินในร้านด้วยกันไหม” อาร์มเดินเข้ามาทักทายเธอด้วยใบหน้ายิ้มแย้มราวกับดีใจที่ได้พบเธอแบบนี้ แต่ก็ต้องหุบยิ้มเมื่อเขาเห็นปาวกะก้าวขามายืนอยู่ข้างๆ ลินาแบบแขนแนบชิดกัน“ได้ค่ะพี่” เธอตอบรับทันทีเพราะว่าหญิงสาวอยากจะรู้ว่าปาวกะที่ยืนอยู่ข้างๆ เธอนั้นจะมีอาการเป็นอย่างไร“ไหนเจ้าบอกว่าจะกลับไปกินที่ห้องกับข้าไง” เขาโอบไหล่ของหญิงสาวราวกับมนุษย์ที่หึงหวงคนรักของตัวเองอยู่“คุณบอกไม่ชอบกินของพวกนี้นี่คะ” เธอหันไปว่าเขาจนปาวกะถึงกับขมวดคิ้วเป็นปมเมื่อหญิงสาวขัดใจเขาเวลาอยู่ต่อหน้าของมนุษย์ที่เขาไม่ชอบหน้าสักเท่าไหร่“ก็ได้ งั้นเจ้ากินที่นี่เลย” ปาวกะไม่พูดเปล่ากับเดินนำเข้าไปในร้านและลินากับอาร์มก็ตามเข้าไปนั่งด้วย ตลอดเวลาที่ทั้งสองทานอาหารกัน ปาวกะสังเก
“พี่อาร์มลุกเร็วมานอนอะไรตรงนี้คะ เรย์ก็อีกคนหนึ่ง” หลังจากที่ปาวกะพาหญิงสาวมาส่งที่ห้อง เขาก็กลับไปในทันที พอลินาเดินเข้ามาในห้องก็เห็นสองคนนี้นอนกับพื้นแล้ว“อ้าวลินา” พี่อาร์มลุกขึ้นมาด้วยท่าทางงัวเงีย“มานอนอะไรตรงนี้คะ” หญิงสาวพูดพร้อมกับเดินไปปลุกน้องชายของตัวเองที่นอนอยู่บนเตียงของเธอ“สงสัยพี่คุยกับเรย์ดึกน่ะ กี่โมงแล้วเนี่ย”“เจ็ดโมงแล้วค่ะ”“งั้นพี่กลับก่อนดีกว่านะ” อาร์มเดินออกไปอย่างงุนงงพร้อมกับเรย์ที่ตื่นขึ้นมาพอดี เธอจึงหยิบโทรศัพท์ของเธอขึ้นมาดู วันนี้เป็นวันเสาร์สินะ“ลินา กลับมาแล้วเหรอ” เรย์ลุกขึ้นยืนพร้อมกับบิดขี้เกียจ“แกรู้เหรอว่าพี่ไปไหน” ลินามีสีหน้าตกใจหรือว่าเขาจะรู้ความจริงว่าเธอไปที่โลกของปาวกะมา“ก็ลินาไปทำงานต่างจังหวัดไง แกล้งอำกันอีกละ” เมื่อพูดจบเรย์จึงเดินออกไปจากห้องของเธอทำงานต่างจังหวัดเหรอ สรุปเธอโดนไล่ออกหรือไม่โดนล่ะ ไม่รู้ว่าปาวกะจะสร้างเรื่องอะไรไว้ที่นี่อีก เมื่อคิดได้เช่นนั้นเธอจึงเปิดแชตดู สรุปเธอลางานหรอกเหรอเนี่ยค่อยยังชั่วหน่อยอย่างน้อยเธอก็ยังคงไม่โดนไล่ออกตอนนี้ลินาเข้ามาทำงานตามปกติในวันจันทร์ ระหว่างทางที่เธอเดินเข้ามายังห้องทำงานก
“กลับห้องไปพักเถอะ ข้าจะไปส่ง”“หนูได้ยินมาว่าคุณกำลังถูกลงโทษแล้วคุณทำอะไรผิดคะ ใช่เรื่องที่คุณทำให้คนตายใช่ไหม”“เจ้าจะรู้เรื่องของข้ามากเกินไปแล้วลินา” เขาหันมาขมวดคิ้วใส่“ก็หนูได้ยินพวกผีคุยกันนี่คะ คุณนี่ก็ใจร้ายเหมือนกันนะคะ ถ้าคุณเป็นคนก็คงโดนตำรวจจับติดคุกหัวโตแน่ๆ”“เจ้าพูดมากเกินไปแล้วลินา ไม่เกรงกลัวข้าหรืออย่างไร” เขาชะโงกหน้าเข้ามาใกล้หญิงสาว จนเธอต้องผงะตัวออก” คุณ ไปนอนที่อื่นได้ไหม” เธอถามเมื่อเดินมาถึงประตูห้องนอนของเขา“นี่มันห้องของข้า ถ้าเจ้าไม่อยากนอนที่นี่ เจ้าไปนอนที่อื่นก็ได้นะ”“ได้ค่ะ ห้องไหนคะ” หญิงสาวพูดอย่างมั่นใจ“ห้องถัดจากห้องนี้ไปห้าห้องเจ้าไปนอนที่นั่นได้ แต่ถ้ามีเสียงแปลกๆ หรืออะไรมาให้เจ้าเห็นไม่ต้องตกใจพวกนั้นกำลังต้อนรับแขกที่อวดดีอย่างเจ้าอยู่” ปาวกะพูดพร้อมหัวเราะในลำคอ“คุณ” เธอรีบเดินมาทุบอกของเขาที่ยืนกอดอกมองออกไปนอกหน้าต่าง“โอ๊ย ข้าเจ็บนะ” หน้าอกของเขาที่มีเลือดซึมออกมาจากเสื้อสีดำของเขาจนเปียกมือของเธอ“คุณบาดเจ็บจริงๆ ด้วย” เธอค่อยๆ เอามือแหวกเสื้อเพื่อดูแผลของเขา“เลือดข้า ทำไมยังเป็นแบบนี้” เธองงกับคำพูดของเขา ปกติเลือดก็เป็นสีแดงไม่
“ลินา” เสียงทุ้มใหญ่กังวานนั่นพูดอยู่ทางด้านหลังของเธอ“ปาวกะ ข้าเพียงแค่จะพานางไปหาวาเนสซา” ไอรามีสีหน้าตกใจอย่างเห็นได้ชัดเมื่อชายที่ปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าเป็นปาวกะ“ใช่ค่ะ หนูกำลังจะไปหาพี่วาเนสซา”“แต่เจ้ารู้ ไอรา…ว่าวาเนสซามีร่างกายเป็นเช่นไรเมื่อถึงเวลากลางคืน” ปาวกะตาแดงก่ำด้วยความโกรธ ไอราอ้ำอึ้งได้แต่ยืนก้มหน้า“ข้าขอโทษ”“เจ้าพูดคำนี้มานับครั้งไม่ถ้วน แต่เจ้าไม่ได้รู้สึกผิดอะไรเลยสักนิด เจ้ายังคงทำสิ่งที่ข้าไม่ชอบแต่เจ้ารู้ไหมว่าพวกนี้มันจะกลับไปทำร้ายตัวของเจ้าเอง เมื่อวันที่ข้าไม่สามารถทนเจ้าได้อีกต่อไป”“เพราะมนุษย์ผู้นี้ใช่หรือไม่ ที่ทำให้ท่านเปลี่ยนไป เหตุนี้จึงหมดความสนใจในตัวข้าใช่หรือไม่” ไอราพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือคลางแคลงในใจ บ่งบอกให้รู้เลยว่าเธอเสียใจมากแค่ไหนกับผู้ชายที่ยืนต่อว่าเธอด้วยความโกรธแบบนี้ แต่ไม่มีสักครั้งเลยที่ชายผู้นี้จะทำร้ายหรือเผาเธอเหมือนที่เขาทำกับคนอื่นๆ“เพราะตัวเจ้าเองต่างหากที่เลือกให้ข้าเป็นเช่นนี้ เจ้าช่างโง่เขลายิ่งนักไอราที่ยอมให้ความชั่วร้ายมาครอบงำตัวเจ้าได้” ปาวกะพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง ไอราเอาแต่ยืนร้องไห้ลินารู้เลยว่าเธอต้องเจ็บปวดข