"บะๆ ใบหน้าของคุณ ทำไมมันซีดเซียวขนาดนี้แถมยังมีเส้นเลือดปูดขึ้นตามใบหน้าของคุณอีก" ลินาพูดไม่เป็นภาษาพร้อมกับดันตัวเองถอยออกมาและลุกขึ้นยืนถอยกรูดจนไปชนผนังห้องนอน
"อย่ากลัวข้าเลยลินา" เขาพูดในขณะที่ยังหลับตาเส้นเลือดที่ปูดขึ้นมาบนใบหน้าของเขาจึงค่อยๆ หายไป "คุณไม่สบายเหรอคะ สีหน้าดูไม่ดีเลย" หญิงสาวเดินขยับเข้ามายืนใกล้เขาเพื่อจะได้มองชายหนุ่มตรงหน้าให้ชัดขึ้น "อือ" เขาตอบสั้นๆ ในลำคอ "หนูจะออกไปเอายามาให้คุณ" ลินาเอ่ยด้วยท่าทางกังวล "ไม่ต้อง มันไม่หายหรอก เจ้านอนซะเถอะลินา" "แล้วคุณเป็นใคร ผีเหรอ เทพ หรือว่าปีศาจล่ะ" "เจ้าอย่ากวนใจข้านักเลย ข้าต้องการพักผ่อน" "คุณก็ตอบหนูมาก่อนสิคะ ว่าคุณเป็นใครกันแน่เพราะถ้าคุณเป็นผีหนูจะได้เอาหมอผีมาไล่คุณ" "เจ้ากล้าเหรอ" ชายหนุ่มที่นอนบนเตียงตะเบ็งเสียงดังลั่นจนหญิงสาวสะดุ้งเพราะเสียงที่น่าเกรงขามนั้นมันกังวานจนน่ากลัว "งั้นหนูไปนอนหน้าทีวีดีกว่า คุณนอนในนี้เถอะ" หญิงสาวจะเดินออกไปแต่ก็ถูกผู้ชายที่นอนอยู่ลุกขึ้นมาดึงแขนของเธอให้ล้มตัวลงนอนไปพร้อมกับเขา "คุณกำลังทำให้หนูกลัว ปล่อยหนูเถอะ" ร่างใหญ่ได้ฟังดังนั้นจึงค่อยๆ ลืมตาขึ้นมามองหญิงสาวอย่างพินิจ นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนแกมเขียวคู่นี้ พยายามเล่นซุกซนกับแววตาของลินาพร้อมกับรอยยิ้มที่เจ้าเล่ห์ของเขา เหมือนกำลังล้อเลียนเธออยู่ อือ ใช่สิ เขาหล่อเป็นบ้าเลย เขากำลังทำให้เธอใจสั่นและหญิงสาวก็ไม่อยากจะคิดว่ากำลังจะตกหลุมรักผีที่นอนอยู่ตรงหน้านี้ด้วยหรือเปล่า เขาเล่นหูเล่นตาเก่งเหมือนล้อเลียนเธอไม่หยุดราวกับผู้ใหญ่แกล้งเด็กน้อย "อคิราห์ คุณหายป่วยแล้วเหรอถึงได้ทำหน้าล้อเลียนหนูแบบนี้" หญิงสาวทำตาโตใส่เมื่อเห็นเขาอมยิ้ม "ข้าดีขึ้นแล้ว อาการเจ็บป่วยของข้ามันเป็นๆ หายๆ" "ขอบคุณนะที่ช่วยพ่อของหนู" "อืม…ข้ารู้แล้ว" ลินาเพ่งมองผู้ชายที่อยู่ตรงหน้า ใบหน้าที่ขาวเนียนหมดจด พร้อมคิ้วที่สวยได้รูปนั้นมันไม่ได้ถูกยกขึ้นเหมือนตอนที่เขาทำหน้าทะเล้น จมูกที่โด่งสวยเป็นหยดน้ำนั้นเข้ากับใบหน้าได้เป็นอย่างดี ริมฝีปากสีชมพูปิดสนิท ทำให้ร่างบางเผลอเอามือไปลูบแก้มและริมฝีปากของเขาอย่างแผ่วเบา "นี่เจ้า" หญิงสาวตกใจจนแทบจะหงายหลังตกเตียง แต่เขาก็คว้าแขนของเธอได้ทัน ทำให้หญิงสาวล้มลงไปในอ้อมแขนของเขา ริมฝีปากของเธอแตะกับริมฝีปากที่ร้อนผ่าวของเขาทันที อุ๊บ! หญิงสาวสตั๊นไปสามวินาที นี่เราจูบกับผีอย่างงั้นเหรอ "ข้ารู้สึกดีขึ้น เจ้าจูบข้าอีกได้ไหม" สายตาวิงวอนคู่นั้นกำลังเล่นตลกกับหญิงสาวหรืออย่างไร "บ้า หนูจะจูบคุณได้ยังไง คุณเป็นผีนะ" "เจ้าจูบข้ามาแล้วตั้งหลายครั้ง เจ้าลืมแล้วเหรอ" เขายิ้มทำหน้าทะเล้น "ไม่ หนูไม่เคยจูบคุณเลย หนูจะจูบกับผีได้ยังไงกัน คุณมั่วแล้ว" ร่างบางพูดทำตาโตใส่เขาที่กำลังนอนอยู่ "ข้าไม่ใช่ผี" เขาตอบอย่างเหนื่อยๆ "แล้วคุณเป็นอะไร เทพ หรือยมทูต" "ตอนนี้ไม่ใช่ทั้งสองอย่าง" "แล้วคุณจะพิสูจน์ได้ยังไงว่าไม่ใช่ผี" ลินาต่อล้อต่อเถียงกับเขาไม่ยอมแพ้ "เพราะข้าช่วยพ่อของเจ้า ข้าเลยไปไหนไม่ไหวแบบนี้ ถึงแม้ข้าจะกินเครื่องดื่มชูกำลังพวกนั้นที่มนุษย์บอกว่าดีนักหนามันก็ไม่ช่วยอะไรเลย" "เพราะคุณช่วยพ่อของหนูเหรอคะ" "ทุกอย่างมันย่อมมีข้อแลกเปลี่ยนเสมอ ข้าถึงบอกให้เจ้าเลิกขอพรพร่ำเพรื่อได้แล้ว" "ทุกครั้งที่หนูขอพร คุณก็ช่วยหนูทุกครั้งเหรอคะ" "ไม่หรอก ข้าก็มีสมอง ไม่ใช่จะให้พรแก่เจ้าทุกข้อซะที่ไหน" เขาหัวเราะหึๆ ในลำคอเชิงตลกขบขัน "งั้นหนูขอพรอีกข้อได้ไหมคะ" หญิงสาวพูดทำหน้าตื่นเต้นพลางนึกถึงพรที่จะขอ "พรอะไรของเจ้าอีก ทำไมเจ้าถึงน่ารำคาญนัก" "ก็ได้ๆ หนูไม่ขอพรคุณแล้วก็ได้" ลินาพูดอย่างนั้นจึงเดินออกมาจากห้องนอนของตัวเอง "มีเพื่อนเป็นคนก็มีแล้ว เป็นแมวก็มีแล้ว คงเหลือแต่ผีนี่สินะที่ยังไม่มี" หญิงสาวเดินบ่นลอยๆ และดูเหมือนว่าเขาจะเงียบไปแล้วหญิงสาวเลยเดินกลับเข้าไปในห้องนอนของเธออีกครั้ง ไหนบอกว่าเมื่อกี้รู้สึกดีไงล่ะทำไมใบหน้าถึงซีดเซียวอีกแล้ว เธอเห็นเขานอนแน่นิ่งขดตัวอยู่บนเตียง พร้อมเห็นไอร้อนออกมาจากตัวของเขาอย่างเห็นได้ชัด "อคิราห์ อคิราห์" ลินาเรียกพร้อมเขย่าตัวของเขาพร้อมกับมีเส้นเลือดปูดขึ้นมาตามร่างกายของเขาจนน่ากลัว "เจ้าต้องจูบข้า ลินา" เขาพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา "ไม่มีทาง หนูจะไม่มีวันจูบคุณหรอก" หญิงสาวลุกยืนเท้าสะเอวอย่างเอาเรื่อง "แต่ข้าช่วยพ่อของเจ้านะ ลืมแล้วเหรอ" ชายหนุ่มนอนขดตัวอย่างทุรนทุรายจนดูน่าสงสาร "เอาวะจูบก็จูบ ผีบ้า ผีลามก มาบอกให้คนจูบได้ไง ฮือๆ" ลินาจับหน้าของปาวกะที่นอนตะแคงอยู่ ให้นอนหงายพร้อมหลับตาปี๋ ก่อนจะประกบริมฝีปากอวบอิ่มของตัวเองไปที่ริมฝีปากขาวซีดนั้น และเธอก็รีบถอนออกโดยเร็ว เขายังคงนอนไม่รู้เรื่อง ทำให้หญิงสาวใจคอไม่ดีขึ้นมาทันที "ปาวกะ ลุกขึ้นมาสิ หนูจูบคุณไปแล้วนะ ฟื้นมาสิแล้วใครจะให้พรกับหนูล่ะ" หญิงสาวจับใบหน้าของเขาและบรรจงจูบเขาลงอีกครั้ง หัวใจเต้นตึกตักๆ ใบหน้าของเขาเริ่มอุ่นขึ้นจนร้อนทำให้หญิงสาวผงะออกจากเขามา "ปาวกะ คุณดีขึ้นหรือยังถ้าคุณให้หนูจูบอีก หนูคงโดนคุณเผาตายแน่ๆ" "ข้าอคิราห์…อย่าเรียกข้าว่าปาวกะ ข้ากำลังหลบธาราอยู่" เขาเน้นเสียง "ก็ได้ๆ แต่นั่นมันจูบแรกของหนูนะ" "เจ้าจูบข้าหลายครั้งแล้ว ลินา" เขาดันตัวเองให้ลุกขึ้นจากเตียง พร้อมกับสำรวจแขนของตัวเองที่มันเคยมีเส้นเลือดปูดนูนขึ้นมาจนน่าเกลียด แต่ตอนนี้มันเริ่มค่อยๆ หายไปแล้ว "ตอนไหนคะ ทำไมจูบแรกต้องเป็นแบบนี้ด้วยนะ มันน่าจะเป็นของอินคามากกว่า" ลินานึกถึงใบหน้าหล่อๆ ของอินคาขึ้นมาทันที แล้วสลับมองกับใบหน้าของปาวกะที่แสนจะทะเล้นนั้น รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ สงสัยจะเป็นผีที่เจ้าชู้สุดๆ ในบรรดาสามโลกแล้วมั้งผู้ชายคนนี้ "ข้าไม่ใช่ผีและไม่ได้เจ้าชู้" เขายืนเท้าสะเอวพูด "แหน่ะ ยังได้ยินอีก… อินคาลินาขอโทษนะ ที่เก็บจูบแรกไว้ไม่ได้ มาโดนผีลามกมาเอาไป ลินาขอโทษนะอินคา" หญิงสาวไปยืนกอดภาพของอินคา ที่แปะอยู่ตรงผนังห้อง พรึบ! "กรี๊ด…" ไฟลุกไหม้ภาพเหล่านั้นไม่มีเหลือ แถมยังเกือบไหม้เส้นผมของเธออีก "ถ้าเจ้าอยากโดนข้าเผาอีกคนก็บอกนะแค่ดีดนิ้วทีเดียว ข้าจะเผาไม่ให้เจ้าเหลือกระดูกเลยล่ะ" เขาทำท่าดีดนิ้วใส่หญิงสาว "ใจร้าย หนูอุตส่าห์ช่วยคุณนะ" "ใครช่วยใครกันแน่ ถ้าเจ้าไม่จูบข้าป่านนี้เจ้าตายไปตั้งนานแล้ว" เขาชี้หน้าของลินาพร้อมนัยน์ตาแดงลุกเป็นลูกไฟจนเธอถอยหลังไปชนผนังห้อง และมันก็กลับเป็นสีน้ำตาลแกมเขียวอีกครั้ง "คะ" "ทุกครั้งที่เจ้าขอพรอายุขัยของเจ้าจะสั้นลง ข้าถึงบอกให้เจ้าเลิกขอพรพร่ำเพรื่อได้แล้ว" "คะ" หญิงสาวยังคงอ้าปากค้างกับคำพูดของเขา "ค่ะ" หญิงสาวพยักหน้าคอตกเพราะรู้สึกผิดขึ้นมานิดๆ เธอติดนิสัยขอพรเรื่อยๆ เปื่อยๆ ไปซะแล้ว แล้วแสนดีล่ะมีใครเคยให้พรแบบนี้กับเธอบ้างหรือเปล่านะ พรุ่งนี้จะลองถามแสนดีดูละกันเช้าวันใหม่ลินาตื่นมาอีกทีก็สายตะวันโด่ง เธอรีบวิ่งเข้าห้องน้ำเพื่ออาบน้ำและจัดการกิจวัตรประจำวันก่อนไปมหาวิทยาลัยอย่างเร่งรีบ เมื่อคืนเธอนอนไม่ค่อยสบายสักเท่าไหร่เพราะว่าเตียงของเธอถูกปาวกะยึดไปน่ะสิ เธอเลยต้องมานอนตรงโซฟานี้แทนเมื่อจัดการตัวเองเสร็จเรียบร้อยเธอก็รีบวิ่งออกจากห้องเช่าไปขึ้นวินมอเตอร์ไซค์ตรงหน้าปากซอยทันที"สาธุ ขอให้หนูไปทันสอบด้วยเถิด เพี้ยง" ลินายกมือไหว้ขึ้นท่วมหัว จนเธอนึกถึงคำพูดของปาวกะ"ไม่ค่ะ ไม่ต้องช่วยหนู หนูพูดเล่นค่ะ หนูไม่ได้อยากอายุสั้นขนาดนั้น" ถ้าเธอไปไม่ทันสอบนะ น่าดูเลย เพราะเมื่อคืนมัวแต่สนใจเรื่องของปาวกะนี่สิ เลยทำให้ลืมตั้งนาฬิกาปลุกเอาไว้"พี่อาร์มขับเร็วๆ หน่อยได้ไหม หนูสายแล้ว" ลินาตีไหล่พี่วินมอเตอร์ไซค์ดังป้าบ"จะรีบไปตายที่ไหนวะ แค่นี้พี่ก็บิดจนสุดแล้วเนี่ย" อาร์มวินมอเตอร์ไซค์ที่หล่อที่สุดในย่านนี้เปิดหมวกกันน็อกพูดกับร่างบางในทันที"หนูไปสอบน่ะสิ ขับเร็วๆ อีก ชักช้าจริงๆ" หญิงสาวนั่งลนลาน เพราะมันเลยเวลาเข้าห้องสอบมาเกือบสิบนาทีแล้ว"ใจเย็นๆ ไอ้ลินา อยากรถแหกโค้งตายหรือไง พี่เพิ่งจะยี่สิบเจ็ดเองนะเว้ย""ยี่สิบเจ็ดแล้วไง ตายไม่ได้หรือไงพ
ครืดๆๆ โทรศัพท์ในกระเป๋าเป้ของลินาสั่น"แสนดี" หญิงสาวเอ่ยรับโทรศัพท์เมื่อรู้ว่าคนที่อยู่ปลายสายคือเพื่อนสนิท'ลินา ทำไรอยู่''กำลังจะกลับเข้าห้อง แกมีอะไร''เอ่อ พี่อาร์มอยู่ที่คิววินไหม''ไม่รู้สิ ยังไม่เข้าไปในซอยเลย ทำไมเหรอ…' ลินาแกล้งแซวแสนดีเล่นๆ เพราะรู้ว่ายัยเพื่อนคนนี้ของเธอคลั่งรักพี่อาร์มสายโหดจะตาย'ถ้าพี่อาร์มอยู่ ฉันจะเข้าไปหาแกเดี๋ยวนี้เลย ซื้อของอร่อยๆ ไปด้วย' นั่นยัยเพื่อนคนนี้เอาของกินมาล่อเธออีกแล้ว"งั้นแกซื้อของอร่อยๆ มาเลยพี่อาร์มเตะบอลอยู่ที่สนามมาเร็วๆ เลยนะ" ลินายืนมองกลุ่มผู้ชายที่เตะบอลกันอยู่ในสนามอย่างสนุกสนานและหนึ่งในนั้นก็คืออาร์มที่เพื่อนสนิทอย่างแสนดีหมายปองไว้อยู่'จัดไปเลยแก ฉันจะรีบไปเดี๋ยวนี้แหละ' พี่อาร์มชายหนุ่มรูปหล่อน่าจะยังคงไม่รู้ว่าแสนดีหน้าหมวยสุดสวยน่ะโคตรจะชอบพี่เขาเลย ถึงขนาดวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมา แสนดีฝากลินาให้เอาดอกกุหลาบไปให้พี่อาร์มช่อเบ้อเริ่มเลยแถมยังไม่ให้บอกว่าเป็นแสนดีฝากมาให้ด้วย คงจะรู้สึกอายถ้าเขาไม่รักตอบ แต่ดูๆ ไปแล้ว อาร์มก็ไม่ได้มีท่าทีรังเกียจแสนดีเลยสักนิด กลับพูดจาไพเราะเสนาะหูซึ่งต่างกับเธอมากที่เขามักจะพูดดุดันใส่ต
ก๊อกๆๆ เสียงเคาะประตูหน้าห้องทำให้ลินาสะดุ้งอีกครั้ง"ถ้าเจ้าไปเปิดประตูนั่น ข้าจะเผาคนที่มาเคาะทันที" ปาวกะนั่งไขว่ห้างอยู่ตรงเก้าอี้ด้วยท่าทางสง่างามราวกับเทพบุตรมาจุติ"ลินาๆ อยู่ไหมวะ" เสียงของอาร์มที่ตะโกนเรียกเธออยู่หน้าห้องทำให้หญิงสาวต้องขานรับในทันที"อยู่ค่ะ พี่อาร์มมีอะไรหรือเปล่าคะ" ลินาตะโกนออกไป"พี่ซื้อข้าวมาฝาก เห็นซื้อแต่บะหมี่กิน จะประหยัดไปถึงไหนวะ" หญิงสาวจึงหันไปมองหน้าของปาวกะที่เชิดขึ้น แต่ยังจ้องมองเธออย่างเขม็งราวกับจะฆ่าเธอให้ตายด้วยสายตาคู่นั้นซะให้ได้"ทำไมจะเปิดประตูไม่ได้ล่ะคะ ก็พี่อาร์มคนรู้จักหนูเอง" เธอยืนพูดกับปาวกะที่ใส่ชุดสีดำทั้งชุด แต่พอเขาได้ฟังที่เธอพูดก็ทำให้มีไฟลุกโชนขึ้นจากดวงตาของเขาทันที"พี่อาร์ม…ไม่เป็นไรค่ะ หนูกินแล้วขอบคุณมากนะคะ" หญิงสาวตะโกนออกไปอีกเพื่อหวังให้คนที่อยู่หน้าประตูเดินกลับที่พักของตนเองไป"เฮ้ย อะไรวะ ซื้อมาฝากนะเนี่ย" พี่อาร์มนี่ก็พูดเพราะสุดๆ เลย ร่างบางจึงหันไปมองหน้าของปาวกะอีกครั้ง แต่เขากลับนั่งกระดิกเท้าแล้วผิวปากอย่างสบายใจด้วยท่าทางยียวนกวนประสาทแบบที่เธอไม่เคยคิดเลยว่าเทพจะทำเธอหัวร้อนได้ถึงเพียงนี้"พี่อาร์มเอ
ลินาทิ้งตัวลงนอนบนเตียงนุ่มผ้าปูสีชมพูที่เธอเพิ่งเปลี่ยนผ้าปูใหม่ กำลังนอนขบคิดว่าจะทำอย่างไรดีกับชายที่อ้างว่าตัวเองเป็นเทพดี เธอควรจะกำจัดเขาไปให้สิ้นดีไหม เมื่อคิดได้เช่นนั้นเธอก็ดีดตัวเองขึ้นมาจากที่นอนเพราะมีความคิดดีๆ ที่จะจัดการเขาแล้ว"ขอพรเท่านั้น พลังของเขาก็จะหมดไป ฮึๆ" เสร็จเธอแน่หญิงสาวหัวเราะในลำคอเมื่อนึกถึงแผนการชั่วร้ายของตัวเอง"หนูขอให้สอบผ่านได้เอ ทุกวิชาด้วยเถิด สาธุ" ร่างบางยกมือไหว้ขึ้นท่วมหัว"เจ้าคงไม่อยากตายจริงๆ ใช่ไหม" จู่ๆ ร่างใหญ่ที่เธอนึกถึงก็มาเท้าแขนคร่อมบนตัวของเธอ จนหญิงสาวล้มนอนราบกับเตียงอีกครั้ง"นี่...คุณลงไปเลยนะฉันอึดอัด" ลินาดันหน้าอกกว้างของปาวกะให้ออกห่างจากตัวของเธอ"เจ้าแทนตัวเองว่าฉัน งั้นเหรอ" เขาถามเธอด้วยสีหน้าประหลาดใจเพราะเขามักจะได้ยินเธอแทนตัวเองว่าหนู ซึ่งมันบ่งบอกว่าเธอมีความเคารพในตัวของเขาเกี่ยวกับอายุ"ก็จะพูด ฉันๆ น่ะมีอะไรไหม" หญิงสาวพูดรัวพร้อมกับทำหน้ายียวนกวนประสาทเขาบ้าง เพราะเขาน่ะล้ำเส้นเธอเกินไปแล้ว เข้าออกห้องของเธอตามอำเภอใจ แถมยังขึ้นมาคร่อมเธอแบบนี้อีก ถ้าแบบนี้ไม่เรียกว่าเกินไปจะเรียกว่าอะไร"ข้าน่ะอายุเกือบสามร้
เรย์ลงจากรถพร้อมกระเป๋าสีดำใบใหญ่ และยืนยิ้มแฉ่งโบกมือให้พี่สาวหย่อยๆ น้องชายตัวแสบของเธอกำลังจะมาพักอยู่ด้วยช่วงปิดเทอมนี้"ลินาๆๆ มาช่วยถือของหน่อย" น้องชายที่สูงร้อยแปดสิบชูกระเป๋าใบเล็กขึ้นมาอีกใบ"จะย้ายบ้านหรือไงขนไรมาเยอะแยะ" ลินาบ่นแล้วรับกระเป๋าใบนั้นมาถือไว้"ก็คนสมบัติเยอะนี่" เรย์ตบกระเป๋าดังตุบตับ ประหนึ่งกำลังจะบอกว่าในนี้มีของสำคัญอยู่"แล้วกินข้าวมาหรือยังล่ะ" เธอหันไปถามน้องชายที่กำลังเดินตามหลังมา"ยังเลยลินา" เขาเอามือลูบท้องเบาๆ เพราะนี่มันก็บ่ายโมงแล้ว คงเมื่อยที่นั่งรถโดยสารมา แล้วก็ต่อแท็กซี่มาลงตรงปากซอยทางเข้าห้องพักของเธอ"เราไปกินข้าวร้านนู้นดีกว่า อร่อยเหาะอ่ะ" พี่สาวชี้ไปร้านอาหารตามสั่งที่นั่งกินประจำ ทำให้น้องชายหัวเราะออกมาเพราะคำพูดที่ติดตลกของเธอ"ลินาน่ะ อะไรก็อร่อยไปหมดแหละ" เขาอมยิ้มชอบใจเมื่อเห็นพี่สาวของตัวเองจริงจังกับการกินขนาดนี้"ไปเลย ยังมาหัวเราะอีกถ้าอร่อยเกิดติดใจพี่ไม่พามากินแล้วนะ" ลินาดันหลังเรย์ให้รีบเดินไปยังร้านขายอาหารตามสั่งที่ชื่อว่า ป้ารวยโภชนา ก็ไม่รู้ว่าป้าแกได้กำไรหรือเปล่าเพราะใส่แต่หมูแต่เนื้อให้ลูกค้าเยอะมากๆ หรือป้าแกขายข
"ไม่เห็นมีอะไรเลย แกนี่พูดไปเรื่อยเปื่อยนะเรย์" หญิงสาวเดินไปหยุดยืนตรงโซฟาแล้วมองหาเสื้อแจ็คเก็ตที่เรย์พูดถึง"ก็เมื่อกี้ยังอยู่นี่เลย หายไปไหนแล้ว" เรย์ยืนเกาหัวเกรกๆ ก็เมื่อกี้เขาเห็นมันวางอยู่จริงๆ นี่"ตาฝาด พูดจามั่ว ไปเร็วอาบน้ำจะได้พักผ่อนพี่จะเข้าห้องละ" หญิงสาวพูดพร้อมกับหยิบข้าวกล่องถือเข้าไปในห้องนอนด้วย"อุ๊ย...!!" ลินาอุทานด้วยความตกใจเมื่อเห็นเสื้อแจ็คเก็ตสีดำถูกวางอยู่บนเตียงพร้อมกับผู้ชายนั่งห้อยขาอยู่บนเตียงนัยน์ตาแดงก่ำ"เฮ้อ...คุณทำหนูตกใจหมด" เธอผ่อนหายลมหายใจออกจากปากอย่างโล่งอก จากดวงตาสีแดงของเขาก็กลับกลายเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลอ่อนแกมเขียวในทันที"ทานข้าวไหมคะ" หญิงสาวยื่นข้าวกล่องให้เขา"ข้าไม่กินของเหลือเดนแบบนั้น" เสียงทุ้มใหญ่พูดขึ้น"ไม่นะคะ หนูยังไม่ได้ทานข้าวในกล่องนี้เลย" เธอส่ายหัวปฏิเสธในทันที"แต่แม่ค้าก็ตักชิมแล้ว ข้าไม่กิน" ชายหนุ่มร่างสูงเดินกอดอกพูดและเดินไปที่หน้าต่างกระจกเปิดผ้าม่านดูนู้นนี่คนอะไรวางมาดสุดๆ แหม วันนี้เซ็ทผมมาซะหล่อเชียวถ้าเจ้าเรย์เห็นว่ามีผู้ชายอยู่ในห้องจริงๆ เหมือนที่น้องชายของเธอคิดไว้นะเธอตายแน่ๆ"ไม่กินก็ไม่กินค่ะ เพราะไม่ได
"ลินาทำอะไรน่ะ" เรย์ถามพี่สาวในขณะที่เดินถือถุงสีขาวมาวางบนโซฟาที่เธอนั่งอยู่"หางานน่ะว่ามีที่ไหนรับสมัครบ้าง จะได้ยื่นใบสมัครไว้""ว้าว นี่พี่สาวของเรย์กำลังจะทำงานเหรอเนี่ย""ก็ใช่น่ะสิ แล้วแกซื้ออะไรมาเหรอเยอะเลย""หนังสือน่ะ อ่านใส่สมองสักหน่อย เดี๋ยวสมองจะมีขี้เลื่อยเหมือนของลินา""อร๊าย ไอ้น้องบ้าแกเข้าห้องไปเลยนะ ฉันเกลียดแกมาก" หญิงสาวทุบไหล่น้องชายไปหลายที"โอ๊ยๆ จะฟ้องแม่ว่าลินาตีเรย์จนต้องเข้าโรงพยาบาล ฮัลโลๆ แม่ครับช่วยเรย์ด้วย ลินาจะฆ่าเรย์แล้ว" เรย์พูดพร้อมกับกดโทรศัพท์แกล้งพี่สาวที่กำลังบีบคอของเขา"อารมณ์เสียเลยเนี่ย รู้งี้เอาขี้เถ้ายัดปากตัวเองตายตั้งแต่เด็กแล้ว ถ้ารู้ว่าต้องโตมาแล้วเจอน้องปากเสียอย่างนี้น่ะ" หญิงสาวบ่นอย่างหัวเสียเพราะน้องชายมักจะแกล้งให้เธอหงุดหงิดเสมอๆลินาพับโน้ตบุคแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู วันนี้เธอมีนัดกับแสนดีจะไปดูหนังด้วยกันเย็นนี้ เพราะอีกหน่อยคงไม่ได้เจอกันบ่อยเหมือนตอนเรียนแล้ว แสนดีจึงอยากไปดูหนังและให้ชวนพี่อาร์มไปดูด้วยกันให้ชวนพี่อาร์มเนี่ยนะยากกว่าเข็นครกขึ้นภูเขาอีกมั้ง แต่มีหรือที่ลินาจะทำไม่ได้มันต้องมีแผนเพื่อแสนดีจะได้สารภาพรักก
หลังจากที่ลินากลับถึงห้องก็อาบน้ำนั่งดูทีวีได้สักพัก ก็ได้ยินเสียงโหวกเหวกโวยวายอยู่หน้าห้อง"ไฟไหม้ๆๆ ไปเร็วพวกเราไปช่วยกันดับไฟเร็ว" ลินารีบเปิดประตูออกไปดูอย่างรวดเร็ว"พี่ๆ ไฟไหม้ที่ไหนคะ" เธอตะโกนถามพี่ผู้ชายที่วิ่งผ่านมา"นู้นๆ อยู่ตึกข้างหน้านู้น" นั่นมันตึกห้องพี่อาร์มนี่ ลินารีบเข้าไปหยิบเสื้อคลุมแขนยาวมาคลุมทับชุดนอนและรีบวิ่งไปยังตึกเป้าหมายทันที"พี่อาร์ม" หญิงสาวร้องตะโกนลั่นเมื่อเห็นหน่วยกู้ภัยหิ้วปีกอาร์มออกมา"แค่กๆๆ ปล่อยผมนะผมจะเข้าไปเอาของ" ชายหนุ่มร้องดิ้นรนจะเข้าไปข้างในให้ได้ อย่างน้อยก็ทำให้หญิงสาวได้รู้ว่าเขาคงไม่ได้เป็นอะไรมากก็แหกปากลั่นขนาดนั้น"ลืมถอดปลั๊กอะไรอีกวะเนี่ย" ชายหนุ่มเจ้าของห้องที่ถูกไฟไหม้พูดอย่างหัวเสีย ในขณะที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงดับไฟจนหมดแล้ว"นั่นสิพี่ครั้งหน้าก็ดูให้มันดีๆ หน่อย ตรวจให้เรียบร้อย อันตรายมาก ดีนะที่พี่ไม่เป็นอะไรแล้วก็โชคดีมากที่ไม่ลามไปห้องอื่นด้วย"""แล้วจะทำไงล่ะที่นี้ ไม่มีที่จะซุกหัวนอนละ ซวยฉิบหายเลยว่ะ" พี่อาร์มยิ่งเดินไปเดินมาอย่างกังวลใจ"เอางี้ดิพี่ ไปนอนห้องเรย์ก่อน ลินาให้พี่อาร์มไปพักด้วยกันกับเราก่อนนะ" เรย์รีบ
“ลินาคุยกับใครอ่ะ เปิดประตูเลยนะเรย์ได้ยินเสียงผู้ชาย ถ้าไม่เปิดเรย์จะฟ้องแม่จริงๆ ด้วย” เป็นน้องชายของเธอนั่นเองที่มาเคาะประตู“ขัดจังหวะข้าจริงๆ อยากให้ข้าเผาคนมาเคาะไหม” เขาถามหญิงสาวพร้อมกับเสียงจิปาก“ไม่ได้ค่ะ นั่นมันน้องของหนูนะเขาเพิ่งออกจากโรงพยาบาลน่าสงสารจะตาย”“เรย์ พี่ดูหนังในโทรศัพท์น่ะ มีผู้ชายที่ไหนล่ะ” ลินารีบเปิดประตูออกมา“แล้วไป เรย์คิดว่าแอบพาผู้ชายมาจะฟ้องแม่จริงๆ ด้วย” หญิงสาวรู้ว่าน้องชายของเธอพูดไปแบบนั้นเอง เพราะเธอรู้ดีว่าเขาเป็นห่วงเธอมากแค่ไหนถ้าจะคบกับใครสักคน แบบพี่อาร์มเธอก็เพิ่งมารู้ทีหลังว่าเขาเป็นลูกคนรวยแล้วเขาก็กลับไปอยู่กับพ่อของเขาแล้วซึ่งก็เป็นเจ้าของบริษัทที่เธอเคยทำอยู่เพราะตอนนี้เธอลาออกจากบริษัทแล้ว แม้อาร์มจะชวนไปทำงานด้วยแค่ไหนเธอเองก็ปฏิเสธเขาอยู่ดีและก็เพราะเธออีกน่ะแหละเรย์ถึงได้จมน้ำ เพราะเขาคิดว่าผู้หญิงที่จมน้ำอยู่ในสระตรงสวนสาธารณะเป็นเธอ จึงกระโดดลงไปช่วยแต่เขาไม่รู้ว่าบ่อนั้นมันลึกแถมยังลึกเป็นขั้นบันไดอีก โชคดีที่พี่อาร์มมาช่วยได้ทันไม่งั้นน้องชายของเธอคงไม่มายืนอยู่ตรงนี้เป็นแน่ แม้เรย์จะบอกว่าอาร์มสามารถไล่ผีไปได้ เธอก็ไม่อยาก
เมื่อลินาเดินออกมาจากห้องผู้ป่วยก็เดินสวนกับอาร์มพอดี ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าขมวดคิ้วเข้าหากัน ก่อนจะพุ่งเข้ากอดเธอในทันทีจนหญิงสาวไม่ทันตั้งตัวเลยเซถลาไปด้านหลังเพราะขนาดตัวของชายหนุ่มที่ใหญ่กว่าเธอมาก“ลินา ไปไหนมาพี่แทบจะบ้าตายแล้วรู้บ้างไหม พี่จะตายอยู่แล้ว” ชายหนุ่มสวมกอดเธอจนแน่นพร้อมกับร้องไห้ ใช่แล้วเขาร้องไห้“พี่อาร์ม” เธอเรียกเขาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน“ไม่เป็นอะไรใช่ไหม ขอบคุณนะขอบคุณที่กลับมา” เขาใช้สองมือจับลูบผมของเธอขึ้นลงแล้วจูบไปที่หน้าผากของหญิงสาวอย่างลืมตัวและสวมกอดร่างเล็กอีกครั้งจนเธอแทบหายใจไม่ออก“พี่อาร์ม หนูกลับมาแล้วแต่พี่จูบหนูทำไมคะ” หญิงสาวผลักเขาออกในทันที“พี่ขอโทษ พี่ดีใจไปหน่อย” ชายหนุ่มเกาท้ายทอยอย่างเขินอายเมื่อกี้เขาเล่นใหญ่เกินไปหรือเปล่านะ“ลินา เป็นแฟนกับพี่ไหม เรามาคบกันเถอะนะ” ชายหนุ่มที่เดินนำเธอไปนิดหน่อยหยุดดักเธอไว้และสารภาพความในใจทั้งหมดที่มี เพราะเขาจะไม่ปล่อยโอกาสนี้หลุดมือไปอีกแล้ว“คะ” หญิงสาวยังงงๆ“พี่รักลินานะ เป็นแฟนกับพี่ได้ไหมให้โอกาสผู้ชายคนนี้ได้ดูแลเธอได้ไหม” ชายหนุ่มที่ยืนรอฟังคำตอบจากหญิงสาวก้าวเข้ามาใกล้หญิงสาวจนห่างกันแค่คืบ
แผ่นกระดาษลอยลงมาจากท้องฟ้าและกลายเป็นผืนผ้าที่ไม่มีตัวอักษรตกมาอยู่ในมือของเจ้าของในทันทีที่เขาแบมือรับ“เทพเจ้าเล่ห์ ทำให้มนตร์ข้าเสื่อมจนได้สินะ” เขาขย้ำผืนผ้านั้นและปาลงไปกับพื้น“จะให้ข้าทำอย่างไรต่อดีคะท่านธารา” นางรับใช้ของธารายืนก้มหน้าพร้อมฟังคำสั่งของเจ้านายอย่างจงรักภักดี“ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น เจ้าคอยดูเถอะผลที่ตามมาจะทำให้เจ้าปาวกะถึงกับกระอักเลือดตายเลยทีเดียว ฮึๆ”ที่โรงพยาบาล“อาการของพ่อไม่ดีเลยเรย์ ฮือๆ” เสียงร่ำไห้ของแม่ที่นั่งเอามือปิดหน้าร้องไห้เมื่อลูกชายของเธอมาถึง“พ่อต้องไม่เป็นอะไรครับแม่ หมอต้องช่วยพ่อได้แน่ๆ” เรย์นั่งสวมกอดแม่ของตนเองที่ร้องไห้ดูเหมือนใจจะขาดเสียให้ได้เขาเองก็ไม่ต่างกันแถมพี่สาวของเขายังมาหายตัวไปอย่างปริศนาอีก“แล้วลินาล่ะลูก กลับมาหรือยัง” คนเป็นแม่ถามลูกชายเมื่อเห็นว่าไม่ได้มาพร้อมกัน“เออ…ลินาติดงานไปต่างจังหวัดกำลังจะมาครับ” เรย์ตอบไปอย่างนั้นเพราะไม่อยากให้แม่ของเขาต้องคอยเป็นห่วงลินาไปด้วย แล้วถ้าพี่สาวกลับมาไม่ทันเขาจะตอบแม่ว่าอย่างไรดีจนผ่านไปสองชั่วโมงที่สองแม่ลูกกลับต้องมาพบกับข่าวร้าย พ่อเสียชีวิตแล้วด้วยอาการหัวใจวาย เหมือนดั่
ชายหนุ่มร่างสูงอุ้มหญิงสาวมายังเตียงนอนของเขาแล้วค่อยๆ วางนางลงอย่างช้าๆ อย่างทะนุถนอมฝ่ามือหนาค่อยๆ เขี่ยแก้มของนางอย่างหวงแหนเพียงแค่คิดว่าคนที่อยู่ตรงนี้ไม่ใช่เขาแต่เป็นคนอื่นเขาก็รู้สึกอึดอัดและอยากจะเผาทุกคนให้มอดไหม้ที่บังอาจเข้ามาใกล้มนุษย์ตัวเล็กๆ แบบนี้“ข้าคงตกหลุมรักเจ้าจริงๆ ลินา” เขาค่อยๆ ถอดเสื้อของตัวเองออกและก้มลงประทับริมฝีปากไปที่เรียวปากสวยของหญิงสาวที่นอนหลับใหลไม่ได้สติ“อือ” หญิงสาวที่ถูกเขาจูบพูดอู้อี้ในลำคอเมื่อชายหนุ่มสอดแทรกลิ้นเข้าไปในโพรงปากหวานของหญิงสาว“ข้าทำผิดอย่างมหันต์ลินา ข้าถึงถูกลงโทษอย่างนี้” เขาพูดพร้อมกับค่อยๆ ดันตัวเองขึ้นมาจากริมฝีปากอวบอิ่มของหญิงสาวและนี่เป็นครั้งแรกที่เขาก้าวล้ำเธอมากขนาดนี้“คุณ” ลินาค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาอย่างสะลึมสะลือ“ข้ากำลังมีกิเลสกับเจ้า ข้ามีความรู้สึกแปลกๆ อยู่ภายในตัวของข้า” ปาวกะพูดพร้อมกับก้มลงไปจูบหญิงสาวอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ลินาที่นอนอยู่กลับโอบกอดต้นคอที่แข็งแรงของเขาเอาไว้ราวกับว่ากลัวเขาจะหนีหายไป“เจ้ากำลังเล่นกับไฟอยู่…รู้ไหม” เสียงทุ้มต่ำแหบพร่าพูดกระซิบที่ข้างหูของหญิงสาวที่กำลังโอบรั้งต้นคอแข็งแรงให้ก้มหน
เช้าวันใหม่ที่บริษัทที่ลินาทำงานอยู่ชายหนุ่มร่างสูงหุ่นนายแบบที่กำลังถูกช่างแต่งหน้ารุมล้อมอยู่เพราะว่าเขามีถ่ายแบบหลายชุดกับการออกนิตยสารเล่มใหม่เพื่อขอบคุณแฟนคลับพร้อมแจกลายเซ็นในงานมีตติ้งของอินคาหญิงสาวร่างเล็กที่กำลังยุ่งกับการทำงานอยู่หันไปมองอินคาด้วยแววตาที่ชื่นชมเขา ไม่คิดว่าเขาจะมาไกลขนาดนี้แต่แปลกที่หัวใจของลินาไม่ได้เต้นแรงเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ในทางกลับกันเธอกลับรู้สึกหัวใจพองโตเมื่อนึกถึงอ้อมกอดที่อบอุ่นของปาวกะและรสจูบที่เทพอย่างเขามอบให้แม้ว่ามันจะไม่ได้เกิดจากความรักก็ไม่เป็นไร ก็เขาเป็นเทพเย็นชานี่เนอะ เพียงแค่คิดแบบนี้ก็ทำให้หญิงสาวเผลอยิ้มออกมา แต่รู้ไหมว่าการกระทำของเธออยู่ในสายตาของธาราตลอด ใช่แล้วเขาตามเธอไปทุกหนทุกแห่งเพื่อกดดันปาวกะให้ดึงคัมภีร์ออกมาจากตัวของเธอเองยังไงล่ะ“เทพที่มีกิเลสกับมนุษย์สุดท้ายก็ต้องจบชีวิตตนเองและสูญสลายไปเป็นเถ้าธุลีตลอดกาลสินะ งั้นข้าจะช่วยให้เจ้ารีบหายไปแล้วกันเจ้าเทพแห่งไฟ” เมื่อคิดดังนั้นธารากับร่ายมนตร์ไปที่หญิงสาวที่กำลังยุ่งกับงานตรงหน้า จู่ๆ เธอก็เกิดล้มลงหมดสติไปในทันที แล้วตัวที่เย็นเฉียบราวกับน้ำแข็งของหญิงสาวกลับถูกอุ้มข
“คุณจ้องหนูทำไมคะ” ลินาถามปาวกะเมื่อเขายังคงมองเธอไม่ละสายตา“เพราะเจ้าขี้เหร่ไง ข้าเลยสงสัยว่าทำไมชายผู้นั้นถึงมาวนเวียนแต่กับเจ้า” ปาวกะพูดพร้อมกับเดินเข้ามาใกล้ๆ หญิงสาวที่กำลังเดินไปซื้อข้าวกล่องมาทานเพราะเธอยังไม่อยากกินขนมที่เขาซื้อมาให้“ใครคะ”“นั่นไง” ปาวกะพูดเมื่อเห็นชายหนุ่มที่เขากำลังพูดถึงเดินเข้ามาใกล้ลินา“ลินามาซื้อข้าวเหรอ มากินในร้านด้วยกันไหม” อาร์มเดินเข้ามาทักทายเธอด้วยใบหน้ายิ้มแย้มราวกับดีใจที่ได้พบเธอแบบนี้ แต่ก็ต้องหุบยิ้มเมื่อเขาเห็นปาวกะก้าวขามายืนอยู่ข้างๆ ลินาแบบแขนแนบชิดกัน“ได้ค่ะพี่” เธอตอบรับทันทีเพราะว่าหญิงสาวอยากจะรู้ว่าปาวกะที่ยืนอยู่ข้างๆ เธอนั้นจะมีอาการเป็นอย่างไร“ไหนเจ้าบอกว่าจะกลับไปกินที่ห้องกับข้าไง” เขาโอบไหล่ของหญิงสาวราวกับมนุษย์ที่หึงหวงคนรักของตัวเองอยู่“คุณบอกไม่ชอบกินของพวกนี้นี่คะ” เธอหันไปว่าเขาจนปาวกะถึงกับขมวดคิ้วเป็นปมเมื่อหญิงสาวขัดใจเขาเวลาอยู่ต่อหน้าของมนุษย์ที่เขาไม่ชอบหน้าสักเท่าไหร่“ก็ได้ งั้นเจ้ากินที่นี่เลย” ปาวกะไม่พูดเปล่ากับเดินนำเข้าไปในร้านและลินากับอาร์มก็ตามเข้าไปนั่งด้วย ตลอดเวลาที่ทั้งสองทานอาหารกัน ปาวกะสังเก
“พี่อาร์มลุกเร็วมานอนอะไรตรงนี้คะ เรย์ก็อีกคนหนึ่ง” หลังจากที่ปาวกะพาหญิงสาวมาส่งที่ห้อง เขาก็กลับไปในทันที พอลินาเดินเข้ามาในห้องก็เห็นสองคนนี้นอนกับพื้นแล้ว“อ้าวลินา” พี่อาร์มลุกขึ้นมาด้วยท่าทางงัวเงีย“มานอนอะไรตรงนี้คะ” หญิงสาวพูดพร้อมกับเดินไปปลุกน้องชายของตัวเองที่นอนอยู่บนเตียงของเธอ“สงสัยพี่คุยกับเรย์ดึกน่ะ กี่โมงแล้วเนี่ย”“เจ็ดโมงแล้วค่ะ”“งั้นพี่กลับก่อนดีกว่านะ” อาร์มเดินออกไปอย่างงุนงงพร้อมกับเรย์ที่ตื่นขึ้นมาพอดี เธอจึงหยิบโทรศัพท์ของเธอขึ้นมาดู วันนี้เป็นวันเสาร์สินะ“ลินา กลับมาแล้วเหรอ” เรย์ลุกขึ้นยืนพร้อมกับบิดขี้เกียจ“แกรู้เหรอว่าพี่ไปไหน” ลินามีสีหน้าตกใจหรือว่าเขาจะรู้ความจริงว่าเธอไปที่โลกของปาวกะมา“ก็ลินาไปทำงานต่างจังหวัดไง แกล้งอำกันอีกละ” เมื่อพูดจบเรย์จึงเดินออกไปจากห้องของเธอทำงานต่างจังหวัดเหรอ สรุปเธอโดนไล่ออกหรือไม่โดนล่ะ ไม่รู้ว่าปาวกะจะสร้างเรื่องอะไรไว้ที่นี่อีก เมื่อคิดได้เช่นนั้นเธอจึงเปิดแชตดู สรุปเธอลางานหรอกเหรอเนี่ยค่อยยังชั่วหน่อยอย่างน้อยเธอก็ยังคงไม่โดนไล่ออกตอนนี้ลินาเข้ามาทำงานตามปกติในวันจันทร์ ระหว่างทางที่เธอเดินเข้ามายังห้องทำงานก
“กลับห้องไปพักเถอะ ข้าจะไปส่ง”“หนูได้ยินมาว่าคุณกำลังถูกลงโทษแล้วคุณทำอะไรผิดคะ ใช่เรื่องที่คุณทำให้คนตายใช่ไหม”“เจ้าจะรู้เรื่องของข้ามากเกินไปแล้วลินา” เขาหันมาขมวดคิ้วใส่“ก็หนูได้ยินพวกผีคุยกันนี่คะ คุณนี่ก็ใจร้ายเหมือนกันนะคะ ถ้าคุณเป็นคนก็คงโดนตำรวจจับติดคุกหัวโตแน่ๆ”“เจ้าพูดมากเกินไปแล้วลินา ไม่เกรงกลัวข้าหรืออย่างไร” เขาชะโงกหน้าเข้ามาใกล้หญิงสาว จนเธอต้องผงะตัวออก” คุณ ไปนอนที่อื่นได้ไหม” เธอถามเมื่อเดินมาถึงประตูห้องนอนของเขา“นี่มันห้องของข้า ถ้าเจ้าไม่อยากนอนที่นี่ เจ้าไปนอนที่อื่นก็ได้นะ”“ได้ค่ะ ห้องไหนคะ” หญิงสาวพูดอย่างมั่นใจ“ห้องถัดจากห้องนี้ไปห้าห้องเจ้าไปนอนที่นั่นได้ แต่ถ้ามีเสียงแปลกๆ หรืออะไรมาให้เจ้าเห็นไม่ต้องตกใจพวกนั้นกำลังต้อนรับแขกที่อวดดีอย่างเจ้าอยู่” ปาวกะพูดพร้อมหัวเราะในลำคอ“คุณ” เธอรีบเดินมาทุบอกของเขาที่ยืนกอดอกมองออกไปนอกหน้าต่าง“โอ๊ย ข้าเจ็บนะ” หน้าอกของเขาที่มีเลือดซึมออกมาจากเสื้อสีดำของเขาจนเปียกมือของเธอ“คุณบาดเจ็บจริงๆ ด้วย” เธอค่อยๆ เอามือแหวกเสื้อเพื่อดูแผลของเขา“เลือดข้า ทำไมยังเป็นแบบนี้” เธองงกับคำพูดของเขา ปกติเลือดก็เป็นสีแดงไม่
“ลินา” เสียงทุ้มใหญ่กังวานนั่นพูดอยู่ทางด้านหลังของเธอ“ปาวกะ ข้าเพียงแค่จะพานางไปหาวาเนสซา” ไอรามีสีหน้าตกใจอย่างเห็นได้ชัดเมื่อชายที่ปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าเป็นปาวกะ“ใช่ค่ะ หนูกำลังจะไปหาพี่วาเนสซา”“แต่เจ้ารู้ ไอรา…ว่าวาเนสซามีร่างกายเป็นเช่นไรเมื่อถึงเวลากลางคืน” ปาวกะตาแดงก่ำด้วยความโกรธ ไอราอ้ำอึ้งได้แต่ยืนก้มหน้า“ข้าขอโทษ”“เจ้าพูดคำนี้มานับครั้งไม่ถ้วน แต่เจ้าไม่ได้รู้สึกผิดอะไรเลยสักนิด เจ้ายังคงทำสิ่งที่ข้าไม่ชอบแต่เจ้ารู้ไหมว่าพวกนี้มันจะกลับไปทำร้ายตัวของเจ้าเอง เมื่อวันที่ข้าไม่สามารถทนเจ้าได้อีกต่อไป”“เพราะมนุษย์ผู้นี้ใช่หรือไม่ ที่ทำให้ท่านเปลี่ยนไป เหตุนี้จึงหมดความสนใจในตัวข้าใช่หรือไม่” ไอราพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือคลางแคลงในใจ บ่งบอกให้รู้เลยว่าเธอเสียใจมากแค่ไหนกับผู้ชายที่ยืนต่อว่าเธอด้วยความโกรธแบบนี้ แต่ไม่มีสักครั้งเลยที่ชายผู้นี้จะทำร้ายหรือเผาเธอเหมือนที่เขาทำกับคนอื่นๆ“เพราะตัวเจ้าเองต่างหากที่เลือกให้ข้าเป็นเช่นนี้ เจ้าช่างโง่เขลายิ่งนักไอราที่ยอมให้ความชั่วร้ายมาครอบงำตัวเจ้าได้” ปาวกะพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง ไอราเอาแต่ยืนร้องไห้ลินารู้เลยว่าเธอต้องเจ็บปวดข