ก๊อกๆๆ เสียงเคาะประตูหน้าห้องทำให้ลินาสะดุ้งอีกครั้ง
"ถ้าเจ้าไปเปิดประตูนั่น ข้าจะเผาคนที่มาเคาะทันที" ปาวกะนั่งไขว่ห้างอยู่ตรงเก้าอี้ด้วยท่าทางสง่างามราวกับเทพบุตรมาจุติ "ลินาๆ อยู่ไหมวะ" เสียงของอาร์มที่ตะโกนเรียกเธออยู่หน้าห้องทำให้หญิงสาวต้องขานรับในทันที "อยู่ค่ะ พี่อาร์มมีอะไรหรือเปล่าคะ" ลินาตะโกนออกไป "พี่ซื้อข้าวมาฝาก เห็นซื้อแต่บะหมี่กิน จะประหยัดไปถึงไหนวะ" หญิงสาวจึงหันไปมองหน้าของปาวกะที่เชิดขึ้น แต่ยังจ้องมองเธออย่างเขม็งราวกับจะฆ่าเธอให้ตายด้วยสายตาคู่นั้นซะให้ได้ "ทำไมจะเปิดประตูไม่ได้ล่ะคะ ก็พี่อาร์มคนรู้จักหนูเอง" เธอยืนพูดกับปาวกะที่ใส่ชุดสีดำทั้งชุด แต่พอเขาได้ฟังที่เธอพูดก็ทำให้มีไฟลุกโชนขึ้นจากดวงตาของเขาทันที "พี่อาร์ม…ไม่เป็นไรค่ะ หนูกินแล้วขอบคุณมากนะคะ" หญิงสาวตะโกนออกไปอีกเพื่อหวังให้คนที่อยู่หน้าประตูเดินกลับที่พักของตนเองไป "เฮ้ย อะไรวะ ซื้อมาฝากนะเนี่ย" พี่อาร์มนี่ก็พูดเพราะสุดๆ เลย ร่างบางจึงหันไปมองหน้าของปาวกะอีกครั้ง แต่เขากลับนั่งกระดิกเท้าแล้วผิวปากอย่างสบายใจด้วยท่าทางยียวนกวนประสาทแบบที่เธอไม่เคยคิดเลยว่าเทพจะทำเธอหัวร้อนได้ถึงเพียงนี้ "พี่อาร์มเอาแขวนไว้ตรงลูกบิดได้เลยค่ะ เดี๋ยวหนูออกไปเอาค่ะ" "เฮ้ยทำไรอยู่ มีอะไรหรือเปล่าถึงออกมาไม่ได้" อิตาบ้าบอกให้กลับไปก็กลับไปสิคงอยากถูกเผาตายสินะ แล้วก็ตะโกนเสียงดังทำอย่างกับพวกมาทวงหนี้อย่างนั้นแหละ แล้วจู่ๆ ปาวกะก็ลุกขึ้นแล้วเดินตรงมาที่ประตู "หนูอาบน้ำอยู่พี่ กลับไปเลยค่ะ" เมื่อลินาไล่ให้ชายหนุ่มวินมอเตอร์ไซค์ไปก็รีบคว้าแขนของชายหนุ่มที่อยู่ในห้องทันที เพราะกลัวว่าเขาจะเผาคนที่ตะโกนโหวกเหวกอยู่ข้างนอกให้ไหม้ตายเสียก่อน "ทำไมตัวของคุณถึงไม่ร้อนเหมือนครั้งที่แล้วคะ" หญิงสาวมองมือของตัวเอง แล้วไปจับที่แขนของปาวกะอีกครั้ง ทำให้ร่างใหญ่ตรงหน้าขมวดคิ้วอย่างสงสัย "อ๋อ เพราะคุณคลายความร้อนสินะคะ อากาศในห้องมันถึงร้อนไปหมด เพราะเป็นแบบนี้ตัวคุณก็เลยไม่ร้อนแล้ว" หญิงสาวเดินไปมาพร้อมทั้งเอานิ้วชี้จิ้มที่ขมับของตัวเองอย่างครุ่นคิด "คลายความร้อนงั้นเหรอ เจ้าหาว่าข้าคลายความร้อนคำศัพท์ของเจ้าใช้ระวังหน่อย" เขายืนกอดอกพูด "เพราะคุณเป็นสารไม่ใช่เหรอ สามารถหายตัวได้ หนูยังงงว่าคุณคืออะไรกันแน่ ผีก็ไม่ใช่ คนก็ไม่ใช่" "ข้าไม่ใช่ผี ข้าเป็นเทพเจ้าดูไม่ออกเหรอ ข้าหล่อขนาดนี้" เขาเสยผมขึ้นและทำหน้าเก๊กหล่อ ให้ตายเถอะคิ้วนั่นถูกยกสูงขึ้นกวนชะมัด "คุณทำหน้าอย่างกับพวกตัวโกงในละคร หล่อตรงไหน" หญิงสาวพูดปดเพื่อให้เขามั่นใจในตัวเองให้น้อยลงหน่อย แล้วจึงเปิดประตูออกไปเอาข้าวที่อาร์มวินมอเตอร์ไซค์เอามาแขวนไว้หน้าห้องในทันที "ข้าซื้อมาฝากเจ้าแล้ว วางอยู่ตรงนั้น" ปาวกะชี้ไปที่โต๊ะข้างโทรทัศน์ในห้อง "ไม่ หนูจะกินข้าวของพี่อาร์ม" หญิงสาวหยิบถุงข้าวที่แขวนไว้อยู่เข้ามาข้างในห้อง "เจ้าต้องกินข้าวของข้า ลินา" ปาวกะตะเบ็งเสียงดังลั่น เทพอะไรขี้วีนอารมณ์ร้ายอย่างกับช้างตกมัน "ถ้าคุณใช้ก้อนหิน หรือใบไม้เสกข้าวหนูก็แย่สิ" หญิงสาวยืนกอดข้าวกล่องของอาร์มไว้จนแน่นทำอย่างกับว่าชายหนุ่มตรงหน้าจะพรากข้าวกล่องของเธอไปอย่างนั้น "เจ้านี่บ้าจริงๆ ข้ามีเงินซื้อข้าวกินทำไมจะต้องเสกของพวกนั้นให้กินด้วยมันเปลืองแรงข้าที่ต้องทำแบบนั้น" เขาโยนถุงข้าวมาให้หญิงสาว ทำให้เธอต้องรีบรับโดยอัตโนมัติทันที "หนูจะกินทั้งสองกล่องนี่แหละ" พรึบ! "กรี๊ดด" ไฟลุกไหม้ข้าวกล่องของอาร์มไม่เหลือซาก เธอเงยหน้ามองคนที่บอกว่าตัวเองเป็นเทพด้วยความโมโห "ข้าไม่อยากให้เจ้ากินของมัน มีอะไรไหม" "หนูก็ไม่อยากให้คุณอยู่ในห้องของหนูเหมือนกัน" ลินาดันตัวเขาออกไปทางประตูอย่างยากลำบากเพราะเขาแทบจะไม่ขยับเขยื้อนอะไรเลยด้วยซ้ำตัวหนักชะมัด "แต่ข้าจะอยู่ที่นี่ เจ้าจะทำไม" เขาเบี่ยงตัวเองไปอีกทาง ทำให้หญิงสาวที่ดันตัวของเขาไว้เซถลาล้มลงไปกองกับพื้นแต่เขากลับเปิดประตูเข้าไปในห้องนอนของเธออย่างไม่ไยดี "งั้นคุณอยู่ไปนะคะ หนูจะไปนอนห้องพี่อาร์ม…ค่ะ" ลินาพูดกระแทกเสียงใส่เขา ไม่รู้ไปเกลียดอะไรพ่อหนุ่มวินคนนั้นนักหนาแค่ข้าวกล่องยังต้องเผาทิ้ง เขาอุตส่าห์มีน้ำใจซื้อมาให้ไม่รู้เป็นเทพประสาอะไรไม่มีความเมตตาแบบนี้ต้องเรียกว่าเทพใจดำ "เจ้าคงไม่อยากโดนข้าเผาจริงๆ ใช่ไหมลินา" เขาแว็บหายตัวมายืนพูดอยู่ข้างหน้าของหญิงสาว เธอเงยหน้ามองชายหนุ่มเพราะความสูงของเขาที่สูงมากกว่าเธอยี่สิบกว่าเซนติเมตร โดยที่หญิงสาวสูงเพียง หนึ่งร้อยหกสิบสองเซนติเมตรเท่านั้น "ได้ ค่ะ เผาเลยค่ะหนูน่ะไม่กลัวคุณหรอกนะ" ร่างบางยืนเขย่งพร้อมกับยื่นหน้าไปใกล้ๆ เขา เธอทั้งผลักหน้าอกของเขาให้ถอยหลังอย่างหาเรื่อง เขาจับข้อมือสองข้างของเธอเอาไว้ แล้วบีบจนหญิงสาวรู้สึกเจ็บนิดๆ "อยากจูบกับข้าอีกไหม" เขาทำหน้าเจ้าเล่ห์แถมยังยิ้มกวนๆ อีก แววตาสีน้ำตาลอ่อนแกมเขียวที่จ้องมองมาจนทำให้ใจของหญิงสาวสั่นไหว ลักยิ้มที่แก้มข้างซ้ายของเขา เธอเพิ่งสังเกตเห็นมันดูน่ารักกว่าของอินคาซะอีก ฟันขาวที่เรียงสวย และริมฝีปากสีชมพูนั่น สมกับที่เขาเป็นเทพจริงๆ พ่อเทพบุตร "คุณไม่ควรพูดแบบนี้ มันไม่ดี โดยเฉพาะผู้ชายที่พูดกับผู้หญิงด้วยแล้วไม่ควรอย่างยิ่งมันหยาบคายมาก" "อือ…ข้าชอบที่เจ้าจูบข้าแบบครั้งนั้น ข้าเลยพูดออกมา" คำพูดของเขาทำให้ลินาหน้าแดงจึงรีบก้มหน้าหลบตาของเขาทันที "ข้าเลยอยากให้เจ้าจูบข้าแค่คนเดียว เจ้าไม่มีสิทธิ์ไปจูบคนอื่น หรือแม้แต่ร่างกายของเจ้า เจ้าก็ไม่มีสิทธิ์ไปให้คนอื่นด้วยเหมือนกัน" เป็นเทพบ้าอะไรหมกมุ่นแต่เรื่องจูบเรื่องเพศ หญิงสาวสลัดมือของเขาออกแล้วเดินกลับไปที่ห้องนอน ไม่ต้องกงต้องกินแล้วข้าวลินาเอ๊ย นี่เขาพยายามขอเธอมีเซ็กซ์หรอกเหรอ เทพบ้า "ไม่ต้องตามหนูมาไปให้ไกลๆ หนูเลย" หญิงสาวยืนกำหมัดใส่คนร่างใหญ่ "นี่ข้าพูดอะไรผิดไป" เขาทำหน้างง "ถ้าคุณเข้ามาในห้องนอนของหนู เราเห็นดีกันแน่ๆ หนูพูดจริงๆ นะ" ลินาปิดประตูใส่หน้าของปาวกะดังปัง คืนนี้ไม่ต้องอาบน้ำหรอก เกิดเขามาแอบดูเธออาบน้ำจะทำยังไงล่ะ เป็นเทพโรคจิตหรือเปล่าไม่รู้ บรึ๊ย แค่คิดก็ขนลุกแล้ว "ข้าแค่บอกสิ่งที่ข้าต้องการ ข้าพูดอะไรผิดเหมือนกับที่เจ้าขอพรบอกสิ่งที่ต้องการกับข้ามันต้องมีข้อแลกเปลี่ยนไม่ใช่เหรอ หรือข้าพูดผิดไป"ลินาทิ้งตัวลงนอนบนเตียงนุ่มผ้าปูสีชมพูที่เธอเพิ่งเปลี่ยนผ้าปูใหม่ กำลังนอนขบคิดว่าจะทำอย่างไรดีกับชายที่อ้างว่าตัวเองเป็นเทพดี เธอควรจะกำจัดเขาไปให้สิ้นดีไหม เมื่อคิดได้เช่นนั้นเธอก็ดีดตัวเองขึ้นมาจากที่นอนเพราะมีความคิดดีๆ ที่จะจัดการเขาแล้ว"ขอพรเท่านั้น พลังของเขาก็จะหมดไป ฮึๆ" เสร็จเธอแน่หญิงสาวหัวเราะในลำคอเมื่อนึกถึงแผนการชั่วร้ายของตัวเอง"หนูขอให้สอบผ่านได้เอ ทุกวิชาด้วยเถิด สาธุ" ร่างบางยกมือไหว้ขึ้นท่วมหัว"เจ้าคงไม่อยากตายจริงๆ ใช่ไหม" จู่ๆ ร่างใหญ่ที่เธอนึกถึงก็มาเท้าแขนคร่อมบนตัวของเธอ จนหญิงสาวล้มนอนราบกับเตียงอีกครั้ง"นี่...คุณลงไปเลยนะฉันอึดอัด" ลินาดันหน้าอกกว้างของปาวกะให้ออกห่างจากตัวของเธอ"เจ้าแทนตัวเองว่าฉัน งั้นเหรอ" เขาถามเธอด้วยสีหน้าประหลาดใจเพราะเขามักจะได้ยินเธอแทนตัวเองว่าหนู ซึ่งมันบ่งบอกว่าเธอมีความเคารพในตัวของเขาเกี่ยวกับอายุ"ก็จะพูด ฉันๆ น่ะมีอะไรไหม" หญิงสาวพูดรัวพร้อมกับทำหน้ายียวนกวนประสาทเขาบ้าง เพราะเขาน่ะล้ำเส้นเธอเกินไปแล้ว เข้าออกห้องของเธอตามอำเภอใจ แถมยังขึ้นมาคร่อมเธอแบบนี้อีก ถ้าแบบนี้ไม่เรียกว่าเกินไปจะเรียกว่าอะไร"ข้าน่ะอายุเกือบสามร้
เรย์ลงจากรถพร้อมกระเป๋าสีดำใบใหญ่ และยืนยิ้มแฉ่งโบกมือให้พี่สาวหย่อยๆ น้องชายตัวแสบของเธอกำลังจะมาพักอยู่ด้วยช่วงปิดเทอมนี้"ลินาๆๆ มาช่วยถือของหน่อย" น้องชายที่สูงร้อยแปดสิบชูกระเป๋าใบเล็กขึ้นมาอีกใบ"จะย้ายบ้านหรือไงขนไรมาเยอะแยะ" ลินาบ่นแล้วรับกระเป๋าใบนั้นมาถือไว้"ก็คนสมบัติเยอะนี่" เรย์ตบกระเป๋าดังตุบตับ ประหนึ่งกำลังจะบอกว่าในนี้มีของสำคัญอยู่"แล้วกินข้าวมาหรือยังล่ะ" เธอหันไปถามน้องชายที่กำลังเดินตามหลังมา"ยังเลยลินา" เขาเอามือลูบท้องเบาๆ เพราะนี่มันก็บ่ายโมงแล้ว คงเมื่อยที่นั่งรถโดยสารมา แล้วก็ต่อแท็กซี่มาลงตรงปากซอยทางเข้าห้องพักของเธอ"เราไปกินข้าวร้านนู้นดีกว่า อร่อยเหาะอ่ะ" พี่สาวชี้ไปร้านอาหารตามสั่งที่นั่งกินประจำ ทำให้น้องชายหัวเราะออกมาเพราะคำพูดที่ติดตลกของเธอ"ลินาน่ะ อะไรก็อร่อยไปหมดแหละ" เขาอมยิ้มชอบใจเมื่อเห็นพี่สาวของตัวเองจริงจังกับการกินขนาดนี้"ไปเลย ยังมาหัวเราะอีกถ้าอร่อยเกิดติดใจพี่ไม่พามากินแล้วนะ" ลินาดันหลังเรย์ให้รีบเดินไปยังร้านขายอาหารตามสั่งที่ชื่อว่า ป้ารวยโภชนา ก็ไม่รู้ว่าป้าแกได้กำไรหรือเปล่าเพราะใส่แต่หมูแต่เนื้อให้ลูกค้าเยอะมากๆ หรือป้าแกขายข
"ไม่เห็นมีอะไรเลย แกนี่พูดไปเรื่อยเปื่อยนะเรย์" หญิงสาวเดินไปหยุดยืนตรงโซฟาแล้วมองหาเสื้อแจ็คเก็ตที่เรย์พูดถึง"ก็เมื่อกี้ยังอยู่นี่เลย หายไปไหนแล้ว" เรย์ยืนเกาหัวเกรกๆ ก็เมื่อกี้เขาเห็นมันวางอยู่จริงๆ นี่"ตาฝาด พูดจามั่ว ไปเร็วอาบน้ำจะได้พักผ่อนพี่จะเข้าห้องละ" หญิงสาวพูดพร้อมกับหยิบข้าวกล่องถือเข้าไปในห้องนอนด้วย"อุ๊ย...!!" ลินาอุทานด้วยความตกใจเมื่อเห็นเสื้อแจ็คเก็ตสีดำถูกวางอยู่บนเตียงพร้อมกับผู้ชายนั่งห้อยขาอยู่บนเตียงนัยน์ตาแดงก่ำ"เฮ้อ...คุณทำหนูตกใจหมด" เธอผ่อนหายลมหายใจออกจากปากอย่างโล่งอก จากดวงตาสีแดงของเขาก็กลับกลายเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลอ่อนแกมเขียวในทันที"ทานข้าวไหมคะ" หญิงสาวยื่นข้าวกล่องให้เขา"ข้าไม่กินของเหลือเดนแบบนั้น" เสียงทุ้มใหญ่พูดขึ้น"ไม่นะคะ หนูยังไม่ได้ทานข้าวในกล่องนี้เลย" เธอส่ายหัวปฏิเสธในทันที"แต่แม่ค้าก็ตักชิมแล้ว ข้าไม่กิน" ชายหนุ่มร่างสูงเดินกอดอกพูดและเดินไปที่หน้าต่างกระจกเปิดผ้าม่านดูนู้นนี่คนอะไรวางมาดสุดๆ แหม วันนี้เซ็ทผมมาซะหล่อเชียวถ้าเจ้าเรย์เห็นว่ามีผู้ชายอยู่ในห้องจริงๆ เหมือนที่น้องชายของเธอคิดไว้นะเธอตายแน่ๆ"ไม่กินก็ไม่กินค่ะ เพราะไม่ได
"ลินาทำอะไรน่ะ" เรย์ถามพี่สาวในขณะที่เดินถือถุงสีขาวมาวางบนโซฟาที่เธอนั่งอยู่"หางานน่ะว่ามีที่ไหนรับสมัครบ้าง จะได้ยื่นใบสมัครไว้""ว้าว นี่พี่สาวของเรย์กำลังจะทำงานเหรอเนี่ย""ก็ใช่น่ะสิ แล้วแกซื้ออะไรมาเหรอเยอะเลย""หนังสือน่ะ อ่านใส่สมองสักหน่อย เดี๋ยวสมองจะมีขี้เลื่อยเหมือนของลินา""อร๊าย ไอ้น้องบ้าแกเข้าห้องไปเลยนะ ฉันเกลียดแกมาก" หญิงสาวทุบไหล่น้องชายไปหลายที"โอ๊ยๆ จะฟ้องแม่ว่าลินาตีเรย์จนต้องเข้าโรงพยาบาล ฮัลโลๆ แม่ครับช่วยเรย์ด้วย ลินาจะฆ่าเรย์แล้ว" เรย์พูดพร้อมกับกดโทรศัพท์แกล้งพี่สาวที่กำลังบีบคอของเขา"อารมณ์เสียเลยเนี่ย รู้งี้เอาขี้เถ้ายัดปากตัวเองตายตั้งแต่เด็กแล้ว ถ้ารู้ว่าต้องโตมาแล้วเจอน้องปากเสียอย่างนี้น่ะ" หญิงสาวบ่นอย่างหัวเสียเพราะน้องชายมักจะแกล้งให้เธอหงุดหงิดเสมอๆลินาพับโน้ตบุคแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู วันนี้เธอมีนัดกับแสนดีจะไปดูหนังด้วยกันเย็นนี้ เพราะอีกหน่อยคงไม่ได้เจอกันบ่อยเหมือนตอนเรียนแล้ว แสนดีจึงอยากไปดูหนังและให้ชวนพี่อาร์มไปดูด้วยกันให้ชวนพี่อาร์มเนี่ยนะยากกว่าเข็นครกขึ้นภูเขาอีกมั้ง แต่มีหรือที่ลินาจะทำไม่ได้มันต้องมีแผนเพื่อแสนดีจะได้สารภาพรักก
หลังจากที่ลินากลับถึงห้องก็อาบน้ำนั่งดูทีวีได้สักพัก ก็ได้ยินเสียงโหวกเหวกโวยวายอยู่หน้าห้อง"ไฟไหม้ๆๆ ไปเร็วพวกเราไปช่วยกันดับไฟเร็ว" ลินารีบเปิดประตูออกไปดูอย่างรวดเร็ว"พี่ๆ ไฟไหม้ที่ไหนคะ" เธอตะโกนถามพี่ผู้ชายที่วิ่งผ่านมา"นู้นๆ อยู่ตึกข้างหน้านู้น" นั่นมันตึกห้องพี่อาร์มนี่ ลินารีบเข้าไปหยิบเสื้อคลุมแขนยาวมาคลุมทับชุดนอนและรีบวิ่งไปยังตึกเป้าหมายทันที"พี่อาร์ม" หญิงสาวร้องตะโกนลั่นเมื่อเห็นหน่วยกู้ภัยหิ้วปีกอาร์มออกมา"แค่กๆๆ ปล่อยผมนะผมจะเข้าไปเอาของ" ชายหนุ่มร้องดิ้นรนจะเข้าไปข้างในให้ได้ อย่างน้อยก็ทำให้หญิงสาวได้รู้ว่าเขาคงไม่ได้เป็นอะไรมากก็แหกปากลั่นขนาดนั้น"ลืมถอดปลั๊กอะไรอีกวะเนี่ย" ชายหนุ่มเจ้าของห้องที่ถูกไฟไหม้พูดอย่างหัวเสีย ในขณะที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงดับไฟจนหมดแล้ว"นั่นสิพี่ครั้งหน้าก็ดูให้มันดีๆ หน่อย ตรวจให้เรียบร้อย อันตรายมาก ดีนะที่พี่ไม่เป็นอะไรแล้วก็โชคดีมากที่ไม่ลามไปห้องอื่นด้วย"""แล้วจะทำไงล่ะที่นี้ ไม่มีที่จะซุกหัวนอนละ ซวยฉิบหายเลยว่ะ" พี่อาร์มยิ่งเดินไปเดินมาอย่างกังวลใจ"เอางี้ดิพี่ ไปนอนห้องเรย์ก่อน ลินาให้พี่อาร์มไปพักด้วยกันกับเราก่อนนะ" เรย์รีบ
ณ ดินแดนแห่งหนึ่งอันแสนไกลที่ไม่มีมนุษย์คนไหนสามารถเข้าไปได้อากาศที่เย็นสบายในยามดึก ลมพัดพาเอากลิ่นหอมอ่อนๆ จากเกสรดอกไม้หอมตลบอบอวลไปทั่วอาณาเขตนั้น เหล่าผีเสื้อหลากสีบินตอมดอมดมเกสรดอกไม้กันอย่างร่าเริง ราวกับโลกใบนี้เป็นของพวกมัน ต้นไม้ใบหญ้าเขียวชอุ่มขจี ภูเขารายล้อมและถูกปกคลุมไปด้วยต้นไม้ใหญ่ และมีหิมะเกาะอยู่ตามยอดไม้ ยอดใบหญ้า ความจริงเมืองนี้น่าจะหนาวเย็นยะเยือกมากกว่าถ้าหากว่าเมืองนี้อยู่ในโลกมนุษย์ เมืองที่สว่างไสวตลอดเวลาด้วยแสงจันทราทั้งกลางวันกลางคืนราวกับมีดวงอาทิตย์อีกดวง แต่หาได้เป็นอย่างนั้นไม่ เมืองนี้ไม่มีดวงอาทิตย์…ที่ใต้ร่มไม้ใหญ่นั่น มีต้นหญ้าถูกปกคลุมไปด้วยเกล็ดน้ำแข็งกำลังจะละลายสลายเป็นหยดน้ำลงบนพื้นดิน ต้นไม้ใหญ่ที่ชายผู้ทรงสง่าผ่าเผยยืนอยู่ใต้ต้นไม้นั้นกำลังจะเหี่ยวเฉาทำให้ชายผู้มาใหม่ร้องทักขึ้นในทันที"เฮ้...ปาวกะ" เสียงเรียกของชายหนุ่มที่เขาคุ้นเคยเป็นอย่างดีส่งเสียงมาจากทางด้านหลัง ใบหน้าที่เปื้อนยิ้มของเขาทำท่าปากจู๋เชิงล้อเลียนแบบนั้นทำเอาปาวกะหัวเสียอยู่ไม่น้อยเมื่อได้เห็นท่าทางของเพื่อนสนิทหยอกล้อเขา"เฮ้ยๆ ใจเย็นๆ ข้าล้อเจ้าเล่นเท่านั้น ดูสิต้น
ที่ห้องเช่าของลินา"ลินา มัวทำอะไรอยู่ เดี๋ยวไปทำงานสายหรอก" เรย์เรียกพี่สาวที่อยู่ในห้องให้รีบออกมา"รู้แล้วๆ กำลังออกไปไง" ลินารีบหยิบรองเท้าส้นสูงใส่อย่างทุลักทุเล ก็เพราะไอ่น้องชายตัวแสบมันอาสาจะไปส่งที่บริษัทที่อินคาทำงาน ใช่แล้วเธอได้ทำงานที่บริษัทนั้นแล้ว บริษัทที่มีดาราแล้วอินคาก็คือหนึ่งในดาราที่กำลังจะโด่งดังนั้นเอง"จะรอดไหมวะไอ่ลินา พี่ว่าถ้าให้เรย์ขี่ไปส่ง มีหวังแหกโค้งตรงปากซอยนี่แหละไม่ได้ไปไหนไกลหรอก" พี่อาร์มพูดพร้อมส่ายหัวในขณะที่เรย์พยายามสตาร์ทมอ'ไซค์ด้วยเท้าไปหลายรอบแต่มันก็ยังไม่ติดสักที ทั้งที่ปุ่มสตาร์ทด้วยมือก็มี"แรงตกหรือไงวะเรย์" พี่อาร์มพูดพร้อมกับเดินมากดปุ่มสตาร์ทมือให้"โฮ้ พี่มีแบบสตาร์ทมือก็ไม่บอก" ลินากับอาร์มมองหน้ากัน จริงๆ เรย์แทบไม่เคยได้ขี่มอ'ไซค์เลยด้วยซ้ำ ที่บ้านก็มีรถยนต์แค่คันเดียว แถมจะไปไหน ก็ต้องนั่งรถประจำทางไป ไม่แปลกหรอกที่น้องมันไม่ค่อยรู้เรื่องพวกนี้"เดี๋ยวพี่ไปส่งเอง นายรออยู่นี่แหละ" พี่อาร์มจับแฮนด์รถพร้อมทั้งดันเรย์ให้ถอยออกไป"จะดีเหรอพี่ เกรงใจจังนี่อุตส่าห์ให้ผมยืมรถแล้วยังไปส่งอีก ถ้าใครได้เป็นแฟนพี่นะ โชคดีสุดๆ เลย" เรย์พูด
"ปาวกะ" หญิงสาวเรียกเขาเบาๆชายหนุ่มก้มมองใบหน้าของหญิงสาวในขณะที่ยังอุ้มเธอเดินขึ้นมาจากน้ำ"มีคนจมน้ำอยู่ คุณต้องลงไปช่วยเขา" เธอพยายามดิ้นให้หลุดจากอ้อมแขนที่แข็งแรงนั่น"เจ้าดูไม่ออกจริงๆ เหรอ ว่าเป็นมนุษย์เช่นเดียวกับเจ้าหรือภูตผีที่อยู่ในน้ำนั่นอยู่แล้ว" เธอค่อยๆ ชะโงกหน้ามองไปยังจุดที่เห็นว่ามีคนจมน้ำโดยมองผ่านไหล่กว้างของชายหนุ่มลงไปในขณะที่เขากำลังอุ้มเธอขึ้นฝั่ง ภาพที่อยู่ตรงหน้าทำให้หญิงสาวต้องโอบต้นคอของเขาจนแน่น มันน่าสะพรึงกลัวจนขนลุก ที่จู่ๆ ร่างสาวผมยาวเน่าเฟะนั้นก็เกิดไฟลุกท่วมตัวเสียงหวีดร้องดังลั่นไปทั่วสวนสาธารณะ"หนูกลัว" หญิงสาวบอกเขาเสียงสั่น"เจ้าก็เกือบได้เป็นตัวแทนตัวตายแล้วเหมือนกัน""ไม่ หนูยังไม่อยากตายค่ะ" เทพผู้สง่างามค่อยๆ วางหญิงสาวลงโดยที่สภาพของทั้งคู่เปียกโชกเธอเกือบตายแล้วจริงๆ ถ้าไม่ได้เขามาช่วยป่านนี้เธอคงจมน้ำตายไปแล้ว"ขอบคุณนะคะที่มาช่วยหนู ถึงหนูว่ายน้ำไม่เป็นแต่คุณก็ทำให้หนูลอยในน้ำได้นานขนาดนั้น" หญิงสาวยืนเอามือกอดตัวเองเพราะความหนาวจนตัวเธอสั่นไหว"ข้าไม่ได้ทำให้เจ้าลอยน้ำได้เลยลินา" เขาตอบเสียงเรียบพร้อมด้วยใบหน้าที่มีความสงสัย"จริงเหร
“มาเอาเสื้อที่ส่งซักครับ” ชายหนุ่มพูดด้วยเสียงดังฟังชัด จนผู้ชายที่อยู่ในร้านนั่งหมุนเก้าอี้หันมา“มาแล้วเหรอ กำลังรออยู่พอดีเลย” น้ำเสียงที่ไพเราะแต่เย็นเข้ามาถึงในหัวใจและใบหน้าที่คุ้นเหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน“น้องใช่เพื่อนเรย์ หรือเปล่าคะ จำพี่ได้ไหมคะที่น้องไปหาเรย์ที่บ้านวันนั้น” ลินายืนพูดกับผู้ชายที่ดูใจเย็นยิ้มแย้มเก่งไม่เหมือนกับผู้ชายที่อยู่ข้างๆ นี่“จำได้สิ น่ารักขนาดนี้ใครจะจำไม่ได้” เขายิ้มที่มุมปากหนึ่งครั้ง“ใครอ่ะ ลินาเพื่อนเรย์เหรอ ดูเหมือนว่าจะอายุมากกว่านะ” พี่อาร์มยืนพูดกอดอกหน้าตายียวนตามสไตส์ของเขา“ใช่ ผมอายุมากกว่าเรย์” แล้วเขาก็เดินไปหยิบชุดที่ใส่ไม้แขวนใส่ถุงคลุมอย่างดียื่นมาให้“อุ๊ย” ลินาร้องเมื่อมือของเขาจับมือของเธอในขณะที่ส่งถุงเสื้อมาให้ เขายังคงจับไม่ปล่อย จนอาร์มที่เห็นเหตุการณ์อยู่กระชากถุงออกมา หญิงสาวสะดุ้งเฮือก เพราะเมื่อกี้ใจของเธอเหมือนมันหวิวๆ ยังไงไม่รู้บอกไม่ถูกเหมือนกัน“กลับได้แล้วลินา” ชายหนุ่มหน้าเหวี่ยงลากหญิงสาวออกมาอย่างหัวร้อน“เพื่อนเรย์ จริงเหรอลินา” พี่อาร์มถาม“อือ วันนั้นเขาไปหาเรย์ที่บ้านน่ะ”“เรย์คบเพื่อนแปลกๆ แบบนี้เหรอ” เข
“ลินาๆ ตื่นสิ มานอนทำอะไรตรงประตูเนี่ย” เสียงของเรย์ปลุกให้หญิงสาวลุกขึ้น“หือ” เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นมามองน้องชายด้วยท่าทางงุนงง“เรย์ตกใจหมด คิดว่าลินาลื่นล้มหัวฟาดพื้นพอดูน้ำลายที่ไหลยืดแล้วก็เลยคิดว่าน่าจะนอนหลับมากกว่า” เขาหัวเราะคิกคักให้พี่สาวของตัวเอง หญิงสาวที่อยู่ในอาการงงอยู่ค่อยๆ คิดเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้“ปาวกะ” หญิงสาวหลุดพูดชื่อของชายที่เธอช่วยเขาไว้เมื่อคืน“อะไรปาวกะ ใครเหรอ” เรย์ถามพร้อมกับขมวดคิ้ว“เปล่าๆ ไม่มีอะไรแกไปเถอะ ฉันไม่เป็นอะไรแล้ว” ร่างเล็กค่อยๆ ลุกขึ้น“แล้ววันนี้ไม่ไปทำงานเหรอ” เรย์พูดขึ้นทำให้เธอนึกขึ้นได้ เพราะดูเหมือนว่าเธอยังอยู่ในอาการมึนงงอยู่“กี่โมงแล้วเนี่ย สายแล้วทำไมเพิ่งมาเรียกฉันห้ะ” เธอรีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว“เดี๋ยวเรย์ไปส่งนะลินา”“ไม่ต้องเลย เดี๋ยวให้พี่อาร์มไปส่ง”“พี่อาร์มกลับมาที่ไหนกันล่ะ” หญิงสาวได้ฟังจึงเลิกคิ้วขึ้นพร้อมพยักหน้ารับรู้ จริงสิ เขากลับบ้านไปแล้วเธอลืมสนิทเลยที่ทำงานของลินา“หวัดดี ลินา” อินคาร้องทักในขณะที่หญิงสาวกำลังเตรียมจัดฉากถ่ายแบบของเขาอยู่“หวัดดี อินคา” เธอหันไปยิ้มหวานสดใสให้เขาและไม่รู้ว่าเขา
“คุณเป็นยังไงบ้าง ได้ยินหนูไหมคุณไปทำอะไรมาทำไมถึงเป็นแบบนี้ล่ะ” ลินาเขย่าชายหนุ่มที่นอนอยู่บนตักของตัวเอง“อ๊ากก เฮือกก” เสียงร้องของเขาที่ร้องด้วยความเจ็บปวดทำให้เธอต้องรีบบีบมือของเขาจนแน่น“หนาว ข้าหนาว” เขาบอกเสียงสั่นสะท้าน ก็แน่ล่ะเขาตัวเปียกโชกขนาดนี้แถมข้างนอกฝนยังตกตลอดอีก เธอค่อยๆ ถอดเสื้อที่เปียกของเขาออกแล้วดึงผ้าห่มที่อยู่ปลายเตียงมาคลุมตัวของเขาไว้แทน“ปาวกะ คุณเป็นยังไงบ้างหนูจะช่วยคุณได้ยังไงคะ” เมื่อกี้หญิงสาวเผลอเรียกเขาว่าปาวกะ ใช่ก่อนหน้านั้นเขาบอกว่าเขาคือปาวกะ แล้วอคิราห์ล่ะหรือว่าเขาจะมีฝาแฝด“ขอพรกับข้าสิ ลินา” หญิงสาวเบิกตากว้าง นี่เป็นครั้งแรกที่เขาบอกให้เธอขอพรเพราะที่ผ่านมาเขามักจะบ่นเรื่องที่เธอขอพรพร่ำเพรื่อกับเขาเสมอ“ได้ งั้นหนูขอให้คุณหายจากอาการบาดเจ็บนี้ด้วยเถิด”“ลินา ฟังข้านะเจ้าไม่สามารถขอพรจากข้า เพื่อช่วยตัวข้าได้ลองนึกดีๆ ว่าเจ้าต้องการสิ่งใด”“ทำไมคุณต้องมาให้หนูขอพรในเวลาแบบนี้ด้วยล่ะ สิ่งที่หนูต้องการมากที่สุดตอนนี้ คืออยากให้คุณหาย” หญิงสาวน้ำตาหยดแมะไปที่แก้มของเขาด้วยความสง
ลินามาลองคิดดูว่าหลายวันมานี้เธอจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลย ตั้งแต่เกิดเรื่องครั้งนั้นที่เธอจมน้ำที่สระสาธารณะนั่น หรืออาจจะเป็นตั้งแต่ที่เธอได้พบกับเขา ปาวกะ“เฮ้อ ช่วงนี้เป็นอะไรนะ จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลยนะลินา” เธอเดินบ่นอุบอิบแล้วทิ้งตัวนั่งลงตรงโซฟาและค่อยๆ หลับตาลงก๊อกๆ ก๊อกๆเสียงเคาะประตูอยู่หน้าห้องของหญิงสาว“เรย์ ไปเปิดประตูสิ เพื่อนมาแล้วมั้ง” ลินาตะโกนเรียกน้องชายที่อยู่ในห้องเล็กๆ แต่กลับไม่มีเสียงตอบกลับมา“เรย์ ไปเปิดประตูหน่อย” หญิงสาวตะโกนอีกครั้ง แต่ก็เงียบสงสัยจะหลับแล้วอะไรกันยังไม่ดึกสักหน่อย เธอดูเวลาที่โทรศัพท์ มันเพิ่งจะสามทุ่ม นี่เธอเผลอนั่งหลับไปตอนไหนกันหญิงสาวจึงลุกไปเปิดประตูเอง“สวัสดีครับ ผมเป็นเพื่อนของเรย์” ผู้ชายร่างสูง ผิวขาว ดูเป็นคนนิ่งๆ พูดกับลินาอยู่หน้าห้อง“อ๋อ เดี๋ยวเรียกเรย์ให้นะ เข้ามาก่อนสิสงสัยเรย์จะหลับอยู่” ลินาเดินงงๆ ไปหาน้องที่ห้อง พลางคิดว่าผู้ชายที่เป็นเพื่อนของเรย์ทำไมถึงมาคบกับน้องชายของเธอได้นะ เขาดูเป็นผู้ใหญ่มาก สุขุม ซึ่งต่างกับน้องชายของเธอที
ณ ดินแดนที่ไม่เคยมืดมิดในยามกลางคืน“ปาวกะ เจ้าทำกับนางเกินไปไหม” ชายหนุ่มร่างสูงพูดขึ้น พลางมองไปที่ร่างของหญิงสาวที่มีแต่แผลพุพองไปทั่วร่าง ไม่เหลือหลงความงามไว้อยู่เลย“ข้าเตือนนางแล้ว ว่าอย่าเข้ามาใกล้ข้า” ปาวกะพูดก่อนจะเดินไปที่ร่างนอนแน่นิ่งนั่น และค่อยๆ กรีดข้อมือของตัวเองเพื่อให้เลือดของเขาหยดลงแก้วน้ำที่เขาถือไว้ แล้วประคองร่างที่เคยงดงามนั่นให้ลุกขึ้นนั่งลง ชายหนุ่มค่อยๆ เอียงแก้วที่มีน้ำสีฟ้าอยู่ครึ่งแก้วเข้าปากหญิงสาวไปทีละนิดๆ จนหมด“แล้วทำไมมนุษย์ผู้หญิงคนนั้นถึงโดนตัวของเจ้าได้ โดยที่ไม่เป็นอะไรเลย ทั้งๆ ที่นางเป็นแค่มนุษย์ธรรมดาเท่านั้น” ชายหนุ่มรูปงามเพื่อนสนิทของปาวกะพูดขึ้น เมื่อเจ้าของเลือดสีฟ้าได้ฟังดังนั้นถึงกับชะงักมือแล้วหันไปมองไคในทันทีแต่เขายังไม่ทันจะตอบ หญิงสาวที่นอนอยู่ก็ลืมตาขึ้นมาแล้วจับมือของปาวกะเอาไว้“ปาวกะ ท่านใจร้ายกับข้าเหลือเกิน” หญิงสาวที่นอนแน่นิ่งอยู่ค่อยๆ เปิดปากพูดขึ้นแถมแผลที่พุพองตามตัวก็ค่อยๆ จางหายไปในทันที แต่ถ้าเป็นมนุษย์ธรรมดาๆ ถ้าโดนขนาดนี้แล้ว คงได้ไปยมโลกแล้ว“เจ้านอนพักเถอะ ไว้ข้าจะมาใหม่” ปาวกะค่อยๆ ประคองให้ไอรานอนลงกับเตียงตาม
สามวันต่อมา ที่ร้านสะดวกซื้อ"ข้ามีเรื่องอยากให้เจ้าช่วย" ลินายืนสะดุ้งตกใจเมื่อเขามากระซิบที่ข้างใบหูของหญิงสาวในขณะที่เธอกำลังเปิดตู้แช่หยิบไอศกรีมออกมา"ตกใจหมด ทำไมต้องเดินมาเงียบๆ ด้วยคะ" ร่างเล็กขมวดคิ้วใส่เขา"เจ้าจะให้ข้า…เดินพังร้านเข้ามาหรือ…ลินา" คนบ้าพูดจายียวน นิสัยเหมือนมนุษย์เข้าไปทุกวัน"ข้าได้ยินที่เจ้าพูด" เขายื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ หญิงสาว"วันนี้คุณดูหล่อดีนะ อ่ะนี่ หนูเลี้ยง" เธอพูดชมเขาพร้อมทั้งหยิบไอศกรีมใส่ไปในมือให้เขาหนึ่งแท่ง ทันทีที่ไอศกรีมอยู่ในมือของเขา"ละลายเลอะมือหมดเลย คุณนี่ไม่ระวังเลย" เธอรีบหยิบกระดาษทิชชู เช็ดไปที่มือหนาของเขาที่เปื้อนไอศกรีมรสช็อกโกแลตนั้นออกทันที"มือก็ไม่ได้ร้อนนี่คะ" หญิงสาวเงยหน้ามองเขาและสบตากับเขาที่กำลังจ้องมาที่ริมฝีปากของตัวเธอเองจนทำให้หญิงสาวรู้สึกประหม่า"ถ้าเจ้าต้องการ ข้าจะทำให้มันร้อนตอนนี้เลยก็ได้""โอ๊ย หนูไม่ได้บอกว่าต้องการสักหน่อย" ลินารีบสะบัดมือออกทันทีเมื่อรู้สึกว่ามือของเขาเริ่มร้อนขึ้นมาบ้างแล้ว"ข้าไม่ได้ตั้งใจ ทำไมข้าควบคุมอะไรไม่ได้เลย เจ้าต้องช่วยข้านะลินา" สายตาวิงวอนของเขานั้นกำลังขอร้องเธอให้เห็นใจ ซึ่
"ปาวกะ" หญิงสาวเรียกเขาเบาๆชายหนุ่มก้มมองใบหน้าของหญิงสาวในขณะที่ยังอุ้มเธอเดินขึ้นมาจากน้ำ"มีคนจมน้ำอยู่ คุณต้องลงไปช่วยเขา" เธอพยายามดิ้นให้หลุดจากอ้อมแขนที่แข็งแรงนั่น"เจ้าดูไม่ออกจริงๆ เหรอ ว่าเป็นมนุษย์เช่นเดียวกับเจ้าหรือภูตผีที่อยู่ในน้ำนั่นอยู่แล้ว" เธอค่อยๆ ชะโงกหน้ามองไปยังจุดที่เห็นว่ามีคนจมน้ำโดยมองผ่านไหล่กว้างของชายหนุ่มลงไปในขณะที่เขากำลังอุ้มเธอขึ้นฝั่ง ภาพที่อยู่ตรงหน้าทำให้หญิงสาวต้องโอบต้นคอของเขาจนแน่น มันน่าสะพรึงกลัวจนขนลุก ที่จู่ๆ ร่างสาวผมยาวเน่าเฟะนั้นก็เกิดไฟลุกท่วมตัวเสียงหวีดร้องดังลั่นไปทั่วสวนสาธารณะ"หนูกลัว" หญิงสาวบอกเขาเสียงสั่น"เจ้าก็เกือบได้เป็นตัวแทนตัวตายแล้วเหมือนกัน""ไม่ หนูยังไม่อยากตายค่ะ" เทพผู้สง่างามค่อยๆ วางหญิงสาวลงโดยที่สภาพของทั้งคู่เปียกโชกเธอเกือบตายแล้วจริงๆ ถ้าไม่ได้เขามาช่วยป่านนี้เธอคงจมน้ำตายไปแล้ว"ขอบคุณนะคะที่มาช่วยหนู ถึงหนูว่ายน้ำไม่เป็นแต่คุณก็ทำให้หนูลอยในน้ำได้นานขนาดนั้น" หญิงสาวยืนเอามือกอดตัวเองเพราะความหนาวจนตัวเธอสั่นไหว"ข้าไม่ได้ทำให้เจ้าลอยน้ำได้เลยลินา" เขาตอบเสียงเรียบพร้อมด้วยใบหน้าที่มีความสงสัย"จริงเหร
ที่ห้องเช่าของลินา"ลินา มัวทำอะไรอยู่ เดี๋ยวไปทำงานสายหรอก" เรย์เรียกพี่สาวที่อยู่ในห้องให้รีบออกมา"รู้แล้วๆ กำลังออกไปไง" ลินารีบหยิบรองเท้าส้นสูงใส่อย่างทุลักทุเล ก็เพราะไอ่น้องชายตัวแสบมันอาสาจะไปส่งที่บริษัทที่อินคาทำงาน ใช่แล้วเธอได้ทำงานที่บริษัทนั้นแล้ว บริษัทที่มีดาราแล้วอินคาก็คือหนึ่งในดาราที่กำลังจะโด่งดังนั้นเอง"จะรอดไหมวะไอ่ลินา พี่ว่าถ้าให้เรย์ขี่ไปส่ง มีหวังแหกโค้งตรงปากซอยนี่แหละไม่ได้ไปไหนไกลหรอก" พี่อาร์มพูดพร้อมส่ายหัวในขณะที่เรย์พยายามสตาร์ทมอ'ไซค์ด้วยเท้าไปหลายรอบแต่มันก็ยังไม่ติดสักที ทั้งที่ปุ่มสตาร์ทด้วยมือก็มี"แรงตกหรือไงวะเรย์" พี่อาร์มพูดพร้อมกับเดินมากดปุ่มสตาร์ทมือให้"โฮ้ พี่มีแบบสตาร์ทมือก็ไม่บอก" ลินากับอาร์มมองหน้ากัน จริงๆ เรย์แทบไม่เคยได้ขี่มอ'ไซค์เลยด้วยซ้ำ ที่บ้านก็มีรถยนต์แค่คันเดียว แถมจะไปไหน ก็ต้องนั่งรถประจำทางไป ไม่แปลกหรอกที่น้องมันไม่ค่อยรู้เรื่องพวกนี้"เดี๋ยวพี่ไปส่งเอง นายรออยู่นี่แหละ" พี่อาร์มจับแฮนด์รถพร้อมทั้งดันเรย์ให้ถอยออกไป"จะดีเหรอพี่ เกรงใจจังนี่อุตส่าห์ให้ผมยืมรถแล้วยังไปส่งอีก ถ้าใครได้เป็นแฟนพี่นะ โชคดีสุดๆ เลย" เรย์พูด
ณ ดินแดนแห่งหนึ่งอันแสนไกลที่ไม่มีมนุษย์คนไหนสามารถเข้าไปได้อากาศที่เย็นสบายในยามดึก ลมพัดพาเอากลิ่นหอมอ่อนๆ จากเกสรดอกไม้หอมตลบอบอวลไปทั่วอาณาเขตนั้น เหล่าผีเสื้อหลากสีบินตอมดอมดมเกสรดอกไม้กันอย่างร่าเริง ราวกับโลกใบนี้เป็นของพวกมัน ต้นไม้ใบหญ้าเขียวชอุ่มขจี ภูเขารายล้อมและถูกปกคลุมไปด้วยต้นไม้ใหญ่ และมีหิมะเกาะอยู่ตามยอดไม้ ยอดใบหญ้า ความจริงเมืองนี้น่าจะหนาวเย็นยะเยือกมากกว่าถ้าหากว่าเมืองนี้อยู่ในโลกมนุษย์ เมืองที่สว่างไสวตลอดเวลาด้วยแสงจันทราทั้งกลางวันกลางคืนราวกับมีดวงอาทิตย์อีกดวง แต่หาได้เป็นอย่างนั้นไม่ เมืองนี้ไม่มีดวงอาทิตย์…ที่ใต้ร่มไม้ใหญ่นั่น มีต้นหญ้าถูกปกคลุมไปด้วยเกล็ดน้ำแข็งกำลังจะละลายสลายเป็นหยดน้ำลงบนพื้นดิน ต้นไม้ใหญ่ที่ชายผู้ทรงสง่าผ่าเผยยืนอยู่ใต้ต้นไม้นั้นกำลังจะเหี่ยวเฉาทำให้ชายผู้มาใหม่ร้องทักขึ้นในทันที"เฮ้...ปาวกะ" เสียงเรียกของชายหนุ่มที่เขาคุ้นเคยเป็นอย่างดีส่งเสียงมาจากทางด้านหลัง ใบหน้าที่เปื้อนยิ้มของเขาทำท่าปากจู๋เชิงล้อเลียนแบบนั้นทำเอาปาวกะหัวเสียอยู่ไม่น้อยเมื่อได้เห็นท่าทางของเพื่อนสนิทหยอกล้อเขา"เฮ้ยๆ ใจเย็นๆ ข้าล้อเจ้าเล่นเท่านั้น ดูสิต้น