"อย่าเลยเปล่าประโยชน์ เพราะเขาไม่ให้เธอไป" เสียงผีผู้ชายพูดขึ้นในลิฟต์ ลินาได้ยินหมดทุกอย่างแต่ก็ต้องแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน แล้วอีกอย่างเธอเองก็คิดว่าผีพวกนั้นต้องรู้ว่าเธอได้ยินหมดเพราะเอาแต่พูดใส่หูของเธอไม่หยุดไม่หย่อน
"ฉันอยากเป็นคนรักของปาวกะ" เสียงผีสาวพูดขึ้น "ก็ลองดูถ้าเธอไม่กลัวเขาเผาตายซะก่อน ไม่มีใครอยู่ใกล้เขาได้ถ้าเขาไม่อนุญาต" เสียงผีผู้ชายตะเบ็งขึ้น ‘นั่นสิถ้าเขาไม่อนุญาตเธอก็ไม่มีสิทธิ์โดนตัวของเขาสินะ’ ลินาเดินลูบแขนของตัวเองเมื่อนึกถึงความเจ็บปวดที่ชายลึกลับผู้นั้นมอบให้ ร่างกายของเขาร้อนราวกับไฟ ทำไมชายผู้นั้นถึงทนกับความร้อนได้ขนาดนั้น หญิงสาวตัดสินใจเดินออกมาจากลิฟต์และกลับมายังห้องเดิมอีกครั้ง ชายที่เคยนั่งอยู่ตรงโซฟาตัวนี้หายไปแล้ว แต่เธอก็ต้องแปลกใจที่เห็นแมวตัวสีขาวปลอดขาวสะอาดอย่างกับสำลี นอนหลับท้องกระเพื่อมจากการหายใจเข้าออก ลินามองดูอยู่สักพักขนมันคงจะนุ่มมากๆ ดูจมูกสีชมพูนั้นสิ อุ้งเท้าสีชมพูแดงๆ จนหญิงสาวอดไม่ได้ที่จะเอาใบหน้าเข้าไปใกล้แมวที่นอนหลับปุ๋ยอยู่นั้น หรือว่าจะเป็นแมวของปาวกะที่เลี้ยงเอาไว้ หญิงสาวจึงค่อยๆ เอามือลูบขนของมันเบาๆ อย่างเอ็นดู "ขนนุ่มมากแถมตัวอุ่นด้วย ไงจ๊ะ พ่อรูปหล่อทำไมมานอนตรงนี้หนูไม่กลัวปาวกะเผาเหรอดูสิหลับปุ๋ยเชียว" ลินาอุ้มแมวตัวผู้สีขาวขึ้นมากอดและหอมขนของมัน ความนุ่มทำให้หญิงสาวเผลอหลับตาเอาแก้มถูตัวของมันอย่างลืมตัว "จมูกสีชมพูน่ารักจัง ขอจุ๊บทีนะ" ทันทีที่ลินาจุ๊บไปที่จมูกของมัน จู่ๆ ไฟภายในห้องก็เกิดดับและนี่มันไม่ใช่ครั้งแรกที่หญิงสาวจุ๊บแมวแล้วไฟดับ แต่มันเคยเกิดขึ้นกับตัวเธอเองอยู่บ่อยๆ "เจ้าทำอะไร" เขาเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับไฟที่ติดโดยอัตโนมัติ เจ๋งสุดๆ แถมเขายังถือของมาพะรุงพะรังมีทั้งข้าวกล่อง ขนมและน้ำดื่มที่ซื้อมาจากร้านสะดวกซื้อใกล้ๆ นี้แน่ๆ "หนูหาแมวค่ะเมื่อกี้ยังอยู่ในอ้อมกอดหนูอยู่เลย" ลินายกแขนสองข้างแล้วพลิกมือไปมาสำรวจว่าแมวหายไปจากเธอตอนไหนกัน "อ่ะ เจ้ากินนี่ซะ" ชายหนุ่มรูปงามวางถุงข้าวไปบนโต๊ะ "แล้วคุณไม่กินเหรอ" ลินาส่งข้าวที่ชายหนุ่มซื้อมาเพียงแค่หนึ่งกล่องให้เขาคืน "ข้าไม่กิน แล้วอยู่เงียบๆ พรุ่งนี้เช้าข้าจะพาเจ้ากลับไปส่งที่บ้าน" เขาพูดแล้วติดกระดุมเสื้อสูทสีดำก่อนจะเดินออกไปทางกระจกหน้าต่าง "คะ คุณระวังด้วย…"ลินาตะโกนตามหลังเขาไปอย่างลืมตัว ว่าเขาไม่ใช่คนแบบเธอแต่เขาเป็นผี อย่างน้อยเขาก็น่าจะเดินออกไปทางประตูไม่ใช่เหรอ เขาควรจะนอนพักเอาแรงเหมือนที่เขาบอกสิทำไมต้องส่งเธอกลับบ้านพรุ่งนี้ด้วย เพราะเธออยากกลับตอนนี้เมื่อหญิงสาวคิดแล้วก็รู้สึกหงุดหงิดในใจทันที "นังเด็กโง่ ปาวกะน่ะต้องถูกลงโทษแน่ๆ บางทีเขาอาจจะไม่ได้กลับมาอีกแล้ว เธอต้องตายอยู่ในนี้แน่ๆ" เสียงผีสาวเข้ามาอีกครั้ง "ฉันไม่กลัวพวกคุณหรอกนะถึงจะมาแต่เสียงก็เถอะ" หญิงสาวร่างบางหลับหูหลับตาพูด ตุบ! แล้วโทรศัพท์ของเธอหล่นลงบนโต๊ะ ข้างๆ กับโซฟาตัวสีเทาที่เธอนั่งอยู่ "เมื่อกี้มันถูกไฟเผาไปแล้วนี่" ลินารีบกดปุ่มเปิดเครื่องทันทีมันยังใช้การได้อยู่ แถมแบตยังเต็มอีกแต่เมื่อกี้เธอเห็นว่ามันโดนไฟเผ่าไปแล้วทำไมมันยังใช้ได้ปกติล่ะ "ปาวกะ คุณเป็นใครกันแน่" ที่บ้านพ่อแม่ของลินา "ลินา ฟื้นแล้ว" หญิงสาวได้ยินเสียงของแม่ที่ตะโกนดังลั่นบ้าน พร้อมกับเสียงวิ่งโครมครามจากบ้านไม้ชั้นล่างที่กำลังวิ่งขึ้นมาชั้นสอง "ฟื้นแล้วเหรอลูก/ ลินาฟื้นแล้วเหรอ" เสียงของพ่อกับเรย์น้องชายของเธอวิ่งพรวดพราดเข้ามา และเสียงกังสดาลที่แขวนตรงประตูห้องก็ดังขึ้น อาจจะเป็นเพราะน้องชายของเธอวิ่งชนล่ะมั้ง และมันทำให้หญิงสาวได้รู้ว่าเธอกลับมาที่บ้านเกิดของตัวเองแล้ว ลินาค่อยๆ ลุกขึ้นจากเตียงโดยมีแม่ของเธอประคองอยู่บวกกับพ่อและเรย์ที่คอยลุ้นกันอยู่รอบๆ เตียงนอนอย่างเอาใจช่วย "ใครพาหนูมาส่งที่นี่คะ" หญิงสาวท่าทางอิดโรยพูดขึ้น "มีผู้ชายพาหนูมา เขาบอกว่า…เขาทำให้หนูเจ็บตัว แถมเขาบอกจะให้แม่เอาเรื่องเขาด้วยนะ" หญิงวัยกลางคนพูดแล้วก้มหน้า "ทำไมคะ" หญิงสาวถามเมื่อเห็นแม่ของเธอก้มหน้าและเงียบไป "ใครจะกล้าไปเอาเรื่องล่ะลินา แค่สบตากับเขา เรย์ยังขนลุกเลย" น้องชายตัวแสบของเธอพูดขึ้นแล้วทำท่าลูบแขนตัวเองขึ้นลงเบาๆ "ผู้ชายที่มาส่งหนูเขาหน้าตาหล่อเหลามากนะ แต่แต่งตัวอย่างกับพวกมาเฟียดูน่ากลัวไม่น่าไว้ใจ แล้วเขามาจีบลูกหรือเปล่า" พ่อของหญิงสาวพูดสมทบขึ้น "เปล่านี่ค่ะพ่อ เขาไม่ได้มาจีบหนูหรอกค่ะ" หญิงสาวส่ายหัวแล้วดันตัวเองลุกขึ้นจากเตียงนอน "หนูขอลงไปเดินเล่นข้างล่างก่อนนะคะ" ลินาก้าวขาลงจากบันไดบ้านไม้ เดินตรงมายังห้องโถงที่มีโทรทัศน์และห้องนั่งเล่น ก่อนจะเปิดประตูเดินออกไปตรงสวนหย่อมหน้าบ้านที่มีดอกคุณนายตื่นสายขึ้นเต็มไปหมดทั่วบริเวณนั้น ปาวกะพาหญิงสาวกลับมาส่งที่บ้านของพ่อกับแม่ของเธอที่ต่างจังหวัดแล้วสินะ บ้านหลังนี้ที่เธออยู่มาตั้งแต่เกิดถึงแม้มันจะดูเก่าไปบ้างแต่ก็คงไว้สวยงามตามแบบบ้านสมัยก่อน "ปาวกะกำลังถูกลงโทษ" ลินาได้ยินเสียงพูดของผีผู้หญิงคนนั้นอีกแล้ว "เขาต้องชดใช้ เธอรู้ไหม เขามาอยู่บนโลกมนุษย์นี้แล้ว" เสียงผีผู้หญิงยังคงพูดอยู่กับหูของเธอไม่หยุด "ฉันไม่รู้ แต่เลิกพูดถึงเขาทีเถอะ" หญิงสาวตะโกนเพราะความรำคาญในชื่อของคนตัวใหญ่แถมใบหน้าหล่อๆ ของชายที่ชื่อปาวกะก็ลอยไปลอยมาเต็มสวนหย่อมไปหมด เมื่อเดินไปได้สักพักจู่ๆ ลินาก็รู้สึกเจ็บและระบมภายในร่างกายจนต้องนั่งลงฟุบกับสนามหญ้าหน้าบ้าน "ทำไมฉันถึงเจ็บอีกล่ะเพราะเขาแน่ๆ ฉันถึงต้องมาเจ็บตัวอีก ปาวกะ…" ลินาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อยหมดเรี่ยวแรง "ลินาๆ เป็นอะไรทำไมมาฟุบนั่งลงตรงนี้" เสียงเรย์น้องชายของลินาที่อายุห่างกันสี่ปี ปีนี้เรย์อายุสิบแปดกำลังจะเข้ามหาวิทยาลัยพอดี ในขณะที่ลินาเองก็กำลังจะเรียนจบปริญญาตรีแต่เรย์ไม่เคยเรียกลินาว่าพี่สักครั้ง เธอเลยคิดว่าความน่าเคารพในตัวของเธอคงไม่มีแล้วสินะ "ไม่เป็นไรหรอก แค่เพลียๆ น่ะ" เรย์พยายามพยุงลินาให้ลุกขึ้น "ก็น่าเพลียอยู่หรอกหลับไปตั้งสามวันสามคืน ทำอย่างกับจะซ้อมตายงั้นแหละ" "นี่ ไอ้น้องบ้ารอพี่หายก่อนเถอะ" หญิงสาวเขกไปที่หัวของเรย์จนเขาร้องเสียงหลง แต่เขาก็ทำอะไรพี่สาวไม่ได้ ได้แต่เดินเกาหัวแกรกๆ เข้าบ้านไป "อะ…อ้าวนี่ ไม่พยุงพี่แล้วเหรอ" "เดินเองสิ ตีขนาดนี้เรย์ไม่สนใจลินาหรอก" เรย์ตะโกนกลับมา แล้วรีบเดินเข้าบ้านไปในทันที ‘สงสัยน้องมันจะโกรธจริงๆ ก็เล่นเขกไปแรงซะขนาดนั้น แบบนี้สินะที่เขาเรียกว่าพอเรามีคนที่มีค่าอยู่ เรากลับไม่เคยเห็นค่าพอเราจะจากเขาไปจริงๆ กลับต้องเสียใจเพราะเรายังทำดีกับเขาไม่มากพอ และเธอเองก็ไม่อยากให้มันเป็นแบบนั้นอีกแล้วล่ะ…'ร้านสะดวกซื้อในหมู่บ้าน"กินกาแฟดีกว่า" ลินายืนเลือกระหว่างนมกับกาแฟที่เรียงกันอยู่ในตู้เย็นขนาดใหญ่แต่เธอยังไม่ทันได้หยิบอะไรก็ต้องตกใจ เพราะว่าเธอเห็นคนหน้าเหมือนกับปาวกะมากกำลังมาเดินเลือกซื้อนมใส่รถเข็นไปประมาณเกือบสิบขวดใหญ่ได้หญิงสาวต้องรีบหลบเข้าไปอีกฝั่งตรงชั้นวางขนมขบเคี้ยว ในขณะที่ผู้ชายร่างสูงที่เธอหลบอยู่นั้นกำลังเดินเข็นรถเข็นมา'เขาต้องชดใช้ เธอรู้ไหม เขามาอยู่บนโลกมนุษย์นี้แล้ว' จู่ๆ ลินาก็นึกคำพูดของผีผู้หญิงคนนั้นขึ้นมา งั้นก็แสดงว่าพลังของเขาอาจจะหมดไปด้วยถึงได้มาเดินซื้อนมกินแบบนี้ แต่เธอก็หลบหน้าได้ไม่เท่าไหร่เขาก็เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าของหญิงสาว"ปาวกะ" ลินาอุทานเรียกชื่อของเขาอยู่ในลำคอ"เจ้า!" นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนแกมเขียวเพ่งมองมายังลินา ทำให้เธอเกิดรู้สึกประหม่าทันที หญิงสาวยืนสบตากับเขาและนี่ครั้งแรกที่รู้สึกว่าเธอสบตากับเขานานกว่าทุกครั้ง ดวงตาของเขามันไม่ได้เป็นสีแดงเหมือนครั้งก่อนๆ และที่สำคัญดวงตาของเขา…สวยจังปาวกะเปลี่ยนทรงผมใหม่หรือบางทีมันอาจจะเป็นทรงเดิมที่ไม่ได้ถูกเซทขึ้น เหมือนครั้งที่แล้วที่เจอกัน ผมหน้าม้าที่ถูกปล่อยลงมาปกคิ้วมันสะท้อนกับไฟบนเพดานข
"ข้าขอนอนพักสักหน่อยเจ้าอยากไปทำอะไรก็ไปทำเถอะ" เขานอนหงายแล้วหลับตาลงอย่างช้าๆ เธอไม่แน่ใจว่าคนที่นอนบนเตียงอยู่ตรงหน้านี้เป็นเทพหรือเป็นผีกันแน่ แล้วแมวตัวนั้นหายไปไหนแล้วล่ะ"โอ๊ย…คิดแล้วปวดหัว นี่ถ้าฉันออกมาแล้วยังเจอคุณนอนอยู่บนเตียงอีกเราได้เห็นดีกันแน่ ฉันไม่กลัวหรอกนะ ว่าคุณจะเป็นผีหรือเป็นใครเพราะว่าตอนนี้คุณกำลังบุกรุกห้องนอนของฉันอยู่" หญิงสาวยืนตะเบ็งเสียงพูดกับเขาโดยแทนตัวเองว่าฉัน ทั้งที่ก่อนหน้าตอนเจอกันครั้งแรกยังแทนตัวเองว่าหนู แน่ล่ะเพราะเธออยู่ในบ้านของเธอแล้วไม่มีอะไรต้องกลัวอีกต่อไปพรึบ! จู่ๆ ไฟก็ลุกไหม้เตียงนอนของหญิงสาว เธอขยี้ตาซ้ำๆ เพื่อดูให้แน่ใจ เขายังคงนอนอยู่ในกองเพลิงนั้นอย่างไม่รู้สึกสะทกสะท้านแต่อย่างใด มันจะมากไปแล้วนะ! นี่ถึงขนาดเผาเตียงกันเลยเหรอ เธอรีบวิ่งเข้าไปในห้องน้ำแล้วเปิดน้ำใส่ถังใบเล็กมากะว่าจะเอามาดับไฟ แต่ทันทีที่เธอวิ่งถือถังน้ำออกมากลับไม่มีไฟไหม้เลยสักนิดหรือแม้แต่ควันไฟก็ไม่มี ทั้งที่เมื่อกี้เธอเห็นเขานอนอยู่ในกองเพลิงนี่นา แต่ดูสิเขายังคงนอนหลับสนิทอยู่บนเตียงไม่รู้ร้อนรู้หนาวอะไรเลย"ผีหลอกฉันเหรอ หลอกกันแบบนี้เลย" เธอเริ่มสับสนหรื
ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ"แสนดีๆ ทางนี้" ลินายืนโบกมืออยู่ใต้ร่มไม้ตรงทางเข้าคณะ"ลินา แกอ่านหนังสือมาไหม" แสนดีกึ่งวิ่งกึ่งเดินมาทางหญิงสาวที่ยืนรอเธออยู่พักหนึ่งแล้ว"อ่านมาอยู่เหมือนกัน รีบไปกันเถอะเดี๋ยวไม่ทัน" ลินาดึงแขนเพื่อนให้เดินตามเธอมา แสนดีเป็นเพื่อนที่สนิทกับลินามากที่สุดเพราะทั้งสองเรียนคณะเดียวกันและรู้จักกันตอนปีหนึ่งตอนรับน้องหลังจากที่ทั้งสองสอบเสร็จช่วงเย็นก็นัดไปกินชาบูร้านประจำกับแสนดี เพราะถ้าสองคนได้ทำงานแล้วอาจจะไม่ค่อยเจอกันอีกก็ได้ นี่เลยเป็นโอกาสดีที่ทั้งสองเพื่อนสนิทจะได้ไปสังสรรค์ด้วยกันที่ร้านชาบู"แก ว่าเราจะสอบผ่านไหม" แสนดียังคงกังวลเกี่ยวกับผลสอบของตัวเอง"ผ่านอยู่แล้ว เชื่อฉันสิ" ลินาคีบเนื้อติดมันที่สุกแล้วใส่ไปในจานของแสนดี ผมยาวที่ดัดลอนหน่อยๆ เงยหน้ามามองเพื่อนสนิท"แกเองก็ต้องกินเยอะๆ ด้วยนะลินา ช่วงนี้แกดูผอมไปมากเลย" แสนดีพูดพลางทำท่ายกหน้าอกตัวเองขึ้นล้อเลียนลินา"ฉันซ่อนรูปย่ะถึงน้ำหนักจะลด แต่ก็สะบึ้มเหมือนเดิม" ลินาก็ไม่ยอมยืดหน้าอกใส่หน้าของแสนดีโดยไม่ทันได้สังเกตว่ามีผู้ชายโต๊ะข้างๆ มองพวกเธอสองคนอยู่"อินคา" ลินาพูดเบาๆ พร้อม
ลินากลับมาที่ห้องเช่าพร้อมกับขนม นมและบะหมี่ที่เธอซื้อมาเมื่อครู่นี้ และไขกุญแจเข้าไปในห้อง"ทำไมวันนี้อากาศมันร้อนจังนะ" หญิงสาวเดินเหงื่อท่วมตัวเข้าไปในห้องนอนแล้วเปิดแอร์ทิ้งเอาไว้ เพื่อที่ว่าเวลาอาบน้ำเสร็จจะได้กระโดดขึ้นเตียงเลยหญิงสาวร่างบางในชุดนักศึกษากระโปรงทรงเอรัดติ้ว เปิดห่อบะหมี่แกะใส่ชามแล้วจัดการต้มน้ำร้อนและทิ้งซองบะหมี่ลงในถังขยะ แต่เธอก็เหลือบไปเห็นบางสิ่งอยู่ในนั้น"เครื่องดื่มชูกำลัง" หญิงสาวเห็นขวดพวกนั้นอยู่ในถังขยะในห้องครัว หรือว่าเธอจะเข้าห้องผิดแต่ของใช้ภายในห้องก็ของเธอทั้งนั้น หรือว่าจะเป็นขโมย หญิงสาวเริ่มใจคอไม่ดีเพราะช่วงหลังมานี้มีอะไรเกิดขึ้นแปลกๆ กับเธอเยอะมาก เธอจึงเลยเดินสำรวจรอบห้องอีกครั้งเพื่อความแน่ใจว่าจะไม่มีขโมยเข้ามาแอบแฝงจริงๆ ไม่มีอะไรที่ผิดปกตินอกจากเครื่องดื่มชูกำลังที่อยู่ในถังขยะเท่านั้น อาจจะเป็นแสนดีที่เข้ามาเมื่อครั้งก่อนแล้วกินของพวกนี้ก็ได้ เธอเองอาจไม่ทันได้เห็น แต่มันไม่ควรจะเยอะแบบนี้ไหม ไม่หรอกแสนดีมาบ่อยเลยกินเยอะก็แค่นั้น ความคิดในหัวของหญิงสาวกำลังต่อสู้กันไปมาจนเกิดความกลัวขึ้นมานิดๆ แต่ก็ต้องยอมแพ้เพราะขโมยที่ไหนจะเข้า
"บะๆ ใบหน้าของคุณ ทำไมมันซีดเซียวขนาดนี้แถมยังมีเส้นเลือดปูดขึ้นตามใบหน้าของคุณอีก" ลินาพูดไม่เป็นภาษาพร้อมกับดันตัวเองถอยออกมาและลุกขึ้นยืนถอยกรูดจนไปชนผนังห้องนอน"อย่ากลัวข้าเลยลินา" เขาพูดในขณะที่ยังหลับตาเส้นเลือดที่ปูดขึ้นมาบนใบหน้าของเขาจึงค่อยๆ หายไป"คุณไม่สบายเหรอคะ สีหน้าดูไม่ดีเลย" หญิงสาวเดินขยับเข้ามายืนใกล้เขาเพื่อจะได้มองชายหนุ่มตรงหน้าให้ชัดขึ้น"อือ" เขาตอบสั้นๆ ในลำคอ"หนูจะออกไปเอายามาให้คุณ" ลินาเอ่ยด้วยท่าทางกังวล"ไม่ต้อง มันไม่หายหรอก เจ้านอนซะเถอะลินา""แล้วคุณเป็นใคร ผีเหรอ เทพ หรือว่าปีศาจล่ะ""เจ้าอย่ากวนใจข้านักเลย ข้าต้องการพักผ่อน""คุณก็ตอบหนูมาก่อนสิคะ ว่าคุณเป็นใครกันแน่เพราะถ้าคุณเป็นผีหนูจะได้เอาหมอผีมาไล่คุณ""เจ้ากล้าเหรอ" ชายหนุ่มที่นอนบนเตียงตะเบ็งเสียงดังลั่นจนหญิงสาวสะดุ้งเพราะเสียงที่น่าเกรงขามนั้นมันกังวานจนน่ากลัว"งั้นหนูไปนอนหน้าทีวีดีกว่า คุณนอนในนี้เถอะ" หญิงสาวจะเดินออกไปแต่ก็ถูกผู้ชายที่นอนอยู่ลุกขึ้นมาดึงแขนของเธอให้ล้มตัวลงนอนไปพร้อมกับเขา"คุณกำลังทำให้หนูกลัว ปล่อยหนูเถอะ" ร่างใหญ่ได้ฟังดังนั้นจึงค่อยๆ ลืมตาขึ้นมามองหญิงสาวอย่างพิ
เช้าวันใหม่ลินาตื่นมาอีกทีก็สายตะวันโด่ง เธอรีบวิ่งเข้าห้องน้ำเพื่ออาบน้ำและจัดการกิจวัตรประจำวันก่อนไปมหาวิทยาลัยอย่างเร่งรีบ เมื่อคืนเธอนอนไม่ค่อยสบายสักเท่าไหร่เพราะว่าเตียงของเธอถูกปาวกะยึดไปน่ะสิ เธอเลยต้องมานอนตรงโซฟานี้แทนเมื่อจัดการตัวเองเสร็จเรียบร้อยเธอก็รีบวิ่งออกจากห้องเช่าไปขึ้นวินมอเตอร์ไซค์ตรงหน้าปากซอยทันที"สาธุ ขอให้หนูไปทันสอบด้วยเถิด เพี้ยง" ลินายกมือไหว้ขึ้นท่วมหัว จนเธอนึกถึงคำพูดของปาวกะ"ไม่ค่ะ ไม่ต้องช่วยหนู หนูพูดเล่นค่ะ หนูไม่ได้อยากอายุสั้นขนาดนั้น" ถ้าเธอไปไม่ทันสอบนะ น่าดูเลย เพราะเมื่อคืนมัวแต่สนใจเรื่องของปาวกะนี่สิ เลยทำให้ลืมตั้งนาฬิกาปลุกเอาไว้"พี่อาร์มขับเร็วๆ หน่อยได้ไหม หนูสายแล้ว" ลินาตีไหล่พี่วินมอเตอร์ไซค์ดังป้าบ"จะรีบไปตายที่ไหนวะ แค่นี้พี่ก็บิดจนสุดแล้วเนี่ย" อาร์มวินมอเตอร์ไซค์ที่หล่อที่สุดในย่านนี้เปิดหมวกกันน็อกพูดกับร่างบางในทันที"หนูไปสอบน่ะสิ ขับเร็วๆ อีก ชักช้าจริงๆ" หญิงสาวนั่งลนลาน เพราะมันเลยเวลาเข้าห้องสอบมาเกือบสิบนาทีแล้ว"ใจเย็นๆ ไอ้ลินา อยากรถแหกโค้งตายหรือไง พี่เพิ่งจะยี่สิบเจ็ดเองนะเว้ย""ยี่สิบเจ็ดแล้วไง ตายไม่ได้หรือไงพ
ครืดๆๆ โทรศัพท์ในกระเป๋าเป้ของลินาสั่น"แสนดี" หญิงสาวเอ่ยรับโทรศัพท์เมื่อรู้ว่าคนที่อยู่ปลายสายคือเพื่อนสนิท'ลินา ทำไรอยู่''กำลังจะกลับเข้าห้อง แกมีอะไร''เอ่อ พี่อาร์มอยู่ที่คิววินไหม''ไม่รู้สิ ยังไม่เข้าไปในซอยเลย ทำไมเหรอ…' ลินาแกล้งแซวแสนดีเล่นๆ เพราะรู้ว่ายัยเพื่อนคนนี้ของเธอคลั่งรักพี่อาร์มสายโหดจะตาย'ถ้าพี่อาร์มอยู่ ฉันจะเข้าไปหาแกเดี๋ยวนี้เลย ซื้อของอร่อยๆ ไปด้วย' นั่นยัยเพื่อนคนนี้เอาของกินมาล่อเธออีกแล้ว"งั้นแกซื้อของอร่อยๆ มาเลยพี่อาร์มเตะบอลอยู่ที่สนามมาเร็วๆ เลยนะ" ลินายืนมองกลุ่มผู้ชายที่เตะบอลกันอยู่ในสนามอย่างสนุกสนานและหนึ่งในนั้นก็คืออาร์มที่เพื่อนสนิทอย่างแสนดีหมายปองไว้อยู่'จัดไปเลยแก ฉันจะรีบไปเดี๋ยวนี้แหละ' พี่อาร์มชายหนุ่มรูปหล่อน่าจะยังคงไม่รู้ว่าแสนดีหน้าหมวยสุดสวยน่ะโคตรจะชอบพี่เขาเลย ถึงขนาดวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมา แสนดีฝากลินาให้เอาดอกกุหลาบไปให้พี่อาร์มช่อเบ้อเริ่มเลยแถมยังไม่ให้บอกว่าเป็นแสนดีฝากมาให้ด้วย คงจะรู้สึกอายถ้าเขาไม่รักตอบ แต่ดูๆ ไปแล้ว อาร์มก็ไม่ได้มีท่าทีรังเกียจแสนดีเลยสักนิด กลับพูดจาไพเราะเสนาะหูซึ่งต่างกับเธอมากที่เขามักจะพูดดุดันใส่ต
ก๊อกๆๆ เสียงเคาะประตูหน้าห้องทำให้ลินาสะดุ้งอีกครั้ง"ถ้าเจ้าไปเปิดประตูนั่น ข้าจะเผาคนที่มาเคาะทันที" ปาวกะนั่งไขว่ห้างอยู่ตรงเก้าอี้ด้วยท่าทางสง่างามราวกับเทพบุตรมาจุติ"ลินาๆ อยู่ไหมวะ" เสียงของอาร์มที่ตะโกนเรียกเธออยู่หน้าห้องทำให้หญิงสาวต้องขานรับในทันที"อยู่ค่ะ พี่อาร์มมีอะไรหรือเปล่าคะ" ลินาตะโกนออกไป"พี่ซื้อข้าวมาฝาก เห็นซื้อแต่บะหมี่กิน จะประหยัดไปถึงไหนวะ" หญิงสาวจึงหันไปมองหน้าของปาวกะที่เชิดขึ้น แต่ยังจ้องมองเธออย่างเขม็งราวกับจะฆ่าเธอให้ตายด้วยสายตาคู่นั้นซะให้ได้"ทำไมจะเปิดประตูไม่ได้ล่ะคะ ก็พี่อาร์มคนรู้จักหนูเอง" เธอยืนพูดกับปาวกะที่ใส่ชุดสีดำทั้งชุด แต่พอเขาได้ฟังที่เธอพูดก็ทำให้มีไฟลุกโชนขึ้นจากดวงตาของเขาทันที"พี่อาร์ม…ไม่เป็นไรค่ะ หนูกินแล้วขอบคุณมากนะคะ" หญิงสาวตะโกนออกไปอีกเพื่อหวังให้คนที่อยู่หน้าประตูเดินกลับที่พักของตนเองไป"เฮ้ย อะไรวะ ซื้อมาฝากนะเนี่ย" พี่อาร์มนี่ก็พูดเพราะสุดๆ เลย ร่างบางจึงหันไปมองหน้าของปาวกะอีกครั้ง แต่เขากลับนั่งกระดิกเท้าแล้วผิวปากอย่างสบายใจด้วยท่าทางยียวนกวนประสาทแบบที่เธอไม่เคยคิดเลยว่าเทพจะทำเธอหัวร้อนได้ถึงเพียงนี้"พี่อาร์มเอ
“ลินาคุยกับใครอ่ะ เปิดประตูเลยนะเรย์ได้ยินเสียงผู้ชาย ถ้าไม่เปิดเรย์จะฟ้องแม่จริงๆ ด้วย” เป็นน้องชายของเธอนั่นเองที่มาเคาะประตู“ขัดจังหวะข้าจริงๆ อยากให้ข้าเผาคนมาเคาะไหม” เขาถามหญิงสาวพร้อมกับเสียงจิปาก“ไม่ได้ค่ะ นั่นมันน้องของหนูนะเขาเพิ่งออกจากโรงพยาบาลน่าสงสารจะตาย”“เรย์ พี่ดูหนังในโทรศัพท์น่ะ มีผู้ชายที่ไหนล่ะ” ลินารีบเปิดประตูออกมา“แล้วไป เรย์คิดว่าแอบพาผู้ชายมาจะฟ้องแม่จริงๆ ด้วย” หญิงสาวรู้ว่าน้องชายของเธอพูดไปแบบนั้นเอง เพราะเธอรู้ดีว่าเขาเป็นห่วงเธอมากแค่ไหนถ้าจะคบกับใครสักคน แบบพี่อาร์มเธอก็เพิ่งมารู้ทีหลังว่าเขาเป็นลูกคนรวยแล้วเขาก็กลับไปอยู่กับพ่อของเขาแล้วซึ่งก็เป็นเจ้าของบริษัทที่เธอเคยทำอยู่เพราะตอนนี้เธอลาออกจากบริษัทแล้ว แม้อาร์มจะชวนไปทำงานด้วยแค่ไหนเธอเองก็ปฏิเสธเขาอยู่ดีและก็เพราะเธออีกน่ะแหละเรย์ถึงได้จมน้ำ เพราะเขาคิดว่าผู้หญิงที่จมน้ำอยู่ในสระตรงสวนสาธารณะเป็นเธอ จึงกระโดดลงไปช่วยแต่เขาไม่รู้ว่าบ่อนั้นมันลึกแถมยังลึกเป็นขั้นบันไดอีก โชคดีที่พี่อาร์มมาช่วยได้ทันไม่งั้นน้องชายของเธอคงไม่มายืนอยู่ตรงนี้เป็นแน่ แม้เรย์จะบอกว่าอาร์มสามารถไล่ผีไปได้ เธอก็ไม่อยาก
เมื่อลินาเดินออกมาจากห้องผู้ป่วยก็เดินสวนกับอาร์มพอดี ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าขมวดคิ้วเข้าหากัน ก่อนจะพุ่งเข้ากอดเธอในทันทีจนหญิงสาวไม่ทันตั้งตัวเลยเซถลาไปด้านหลังเพราะขนาดตัวของชายหนุ่มที่ใหญ่กว่าเธอมาก“ลินา ไปไหนมาพี่แทบจะบ้าตายแล้วรู้บ้างไหม พี่จะตายอยู่แล้ว” ชายหนุ่มสวมกอดเธอจนแน่นพร้อมกับร้องไห้ ใช่แล้วเขาร้องไห้“พี่อาร์ม” เธอเรียกเขาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน“ไม่เป็นอะไรใช่ไหม ขอบคุณนะขอบคุณที่กลับมา” เขาใช้สองมือจับลูบผมของเธอขึ้นลงแล้วจูบไปที่หน้าผากของหญิงสาวอย่างลืมตัวและสวมกอดร่างเล็กอีกครั้งจนเธอแทบหายใจไม่ออก“พี่อาร์ม หนูกลับมาแล้วแต่พี่จูบหนูทำไมคะ” หญิงสาวผลักเขาออกในทันที“พี่ขอโทษ พี่ดีใจไปหน่อย” ชายหนุ่มเกาท้ายทอยอย่างเขินอายเมื่อกี้เขาเล่นใหญ่เกินไปหรือเปล่านะ“ลินา เป็นแฟนกับพี่ไหม เรามาคบกันเถอะนะ” ชายหนุ่มที่เดินนำเธอไปนิดหน่อยหยุดดักเธอไว้และสารภาพความในใจทั้งหมดที่มี เพราะเขาจะไม่ปล่อยโอกาสนี้หลุดมือไปอีกแล้ว“คะ” หญิงสาวยังงงๆ“พี่รักลินานะ เป็นแฟนกับพี่ได้ไหมให้โอกาสผู้ชายคนนี้ได้ดูแลเธอได้ไหม” ชายหนุ่มที่ยืนรอฟังคำตอบจากหญิงสาวก้าวเข้ามาใกล้หญิงสาวจนห่างกันแค่คืบ
แผ่นกระดาษลอยลงมาจากท้องฟ้าและกลายเป็นผืนผ้าที่ไม่มีตัวอักษรตกมาอยู่ในมือของเจ้าของในทันทีที่เขาแบมือรับ“เทพเจ้าเล่ห์ ทำให้มนตร์ข้าเสื่อมจนได้สินะ” เขาขย้ำผืนผ้านั้นและปาลงไปกับพื้น“จะให้ข้าทำอย่างไรต่อดีคะท่านธารา” นางรับใช้ของธารายืนก้มหน้าพร้อมฟังคำสั่งของเจ้านายอย่างจงรักภักดี“ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น เจ้าคอยดูเถอะผลที่ตามมาจะทำให้เจ้าปาวกะถึงกับกระอักเลือดตายเลยทีเดียว ฮึๆ”ที่โรงพยาบาล“อาการของพ่อไม่ดีเลยเรย์ ฮือๆ” เสียงร่ำไห้ของแม่ที่นั่งเอามือปิดหน้าร้องไห้เมื่อลูกชายของเธอมาถึง“พ่อต้องไม่เป็นอะไรครับแม่ หมอต้องช่วยพ่อได้แน่ๆ” เรย์นั่งสวมกอดแม่ของตนเองที่ร้องไห้ดูเหมือนใจจะขาดเสียให้ได้เขาเองก็ไม่ต่างกันแถมพี่สาวของเขายังมาหายตัวไปอย่างปริศนาอีก“แล้วลินาล่ะลูก กลับมาหรือยัง” คนเป็นแม่ถามลูกชายเมื่อเห็นว่าไม่ได้มาพร้อมกัน“เออ…ลินาติดงานไปต่างจังหวัดกำลังจะมาครับ” เรย์ตอบไปอย่างนั้นเพราะไม่อยากให้แม่ของเขาต้องคอยเป็นห่วงลินาไปด้วย แล้วถ้าพี่สาวกลับมาไม่ทันเขาจะตอบแม่ว่าอย่างไรดีจนผ่านไปสองชั่วโมงที่สองแม่ลูกกลับต้องมาพบกับข่าวร้าย พ่อเสียชีวิตแล้วด้วยอาการหัวใจวาย เหมือนดั่
ชายหนุ่มร่างสูงอุ้มหญิงสาวมายังเตียงนอนของเขาแล้วค่อยๆ วางนางลงอย่างช้าๆ อย่างทะนุถนอมฝ่ามือหนาค่อยๆ เขี่ยแก้มของนางอย่างหวงแหนเพียงแค่คิดว่าคนที่อยู่ตรงนี้ไม่ใช่เขาแต่เป็นคนอื่นเขาก็รู้สึกอึดอัดและอยากจะเผาทุกคนให้มอดไหม้ที่บังอาจเข้ามาใกล้มนุษย์ตัวเล็กๆ แบบนี้“ข้าคงตกหลุมรักเจ้าจริงๆ ลินา” เขาค่อยๆ ถอดเสื้อของตัวเองออกและก้มลงประทับริมฝีปากไปที่เรียวปากสวยของหญิงสาวที่นอนหลับใหลไม่ได้สติ“อือ” หญิงสาวที่ถูกเขาจูบพูดอู้อี้ในลำคอเมื่อชายหนุ่มสอดแทรกลิ้นเข้าไปในโพรงปากหวานของหญิงสาว“ข้าทำผิดอย่างมหันต์ลินา ข้าถึงถูกลงโทษอย่างนี้” เขาพูดพร้อมกับค่อยๆ ดันตัวเองขึ้นมาจากริมฝีปากอวบอิ่มของหญิงสาวและนี่เป็นครั้งแรกที่เขาก้าวล้ำเธอมากขนาดนี้“คุณ” ลินาค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาอย่างสะลึมสะลือ“ข้ากำลังมีกิเลสกับเจ้า ข้ามีความรู้สึกแปลกๆ อยู่ภายในตัวของข้า” ปาวกะพูดพร้อมกับก้มลงไปจูบหญิงสาวอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ลินาที่นอนอยู่กลับโอบกอดต้นคอที่แข็งแรงของเขาเอาไว้ราวกับว่ากลัวเขาจะหนีหายไป“เจ้ากำลังเล่นกับไฟอยู่…รู้ไหม” เสียงทุ้มต่ำแหบพร่าพูดกระซิบที่ข้างหูของหญิงสาวที่กำลังโอบรั้งต้นคอแข็งแรงให้ก้มหน
เช้าวันใหม่ที่บริษัทที่ลินาทำงานอยู่ชายหนุ่มร่างสูงหุ่นนายแบบที่กำลังถูกช่างแต่งหน้ารุมล้อมอยู่เพราะว่าเขามีถ่ายแบบหลายชุดกับการออกนิตยสารเล่มใหม่เพื่อขอบคุณแฟนคลับพร้อมแจกลายเซ็นในงานมีตติ้งของอินคาหญิงสาวร่างเล็กที่กำลังยุ่งกับการทำงานอยู่หันไปมองอินคาด้วยแววตาที่ชื่นชมเขา ไม่คิดว่าเขาจะมาไกลขนาดนี้แต่แปลกที่หัวใจของลินาไม่ได้เต้นแรงเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ในทางกลับกันเธอกลับรู้สึกหัวใจพองโตเมื่อนึกถึงอ้อมกอดที่อบอุ่นของปาวกะและรสจูบที่เทพอย่างเขามอบให้แม้ว่ามันจะไม่ได้เกิดจากความรักก็ไม่เป็นไร ก็เขาเป็นเทพเย็นชานี่เนอะ เพียงแค่คิดแบบนี้ก็ทำให้หญิงสาวเผลอยิ้มออกมา แต่รู้ไหมว่าการกระทำของเธออยู่ในสายตาของธาราตลอด ใช่แล้วเขาตามเธอไปทุกหนทุกแห่งเพื่อกดดันปาวกะให้ดึงคัมภีร์ออกมาจากตัวของเธอเองยังไงล่ะ“เทพที่มีกิเลสกับมนุษย์สุดท้ายก็ต้องจบชีวิตตนเองและสูญสลายไปเป็นเถ้าธุลีตลอดกาลสินะ งั้นข้าจะช่วยให้เจ้ารีบหายไปแล้วกันเจ้าเทพแห่งไฟ” เมื่อคิดดังนั้นธารากับร่ายมนตร์ไปที่หญิงสาวที่กำลังยุ่งกับงานตรงหน้า จู่ๆ เธอก็เกิดล้มลงหมดสติไปในทันที แล้วตัวที่เย็นเฉียบราวกับน้ำแข็งของหญิงสาวกลับถูกอุ้มข
“คุณจ้องหนูทำไมคะ” ลินาถามปาวกะเมื่อเขายังคงมองเธอไม่ละสายตา“เพราะเจ้าขี้เหร่ไง ข้าเลยสงสัยว่าทำไมชายผู้นั้นถึงมาวนเวียนแต่กับเจ้า” ปาวกะพูดพร้อมกับเดินเข้ามาใกล้ๆ หญิงสาวที่กำลังเดินไปซื้อข้าวกล่องมาทานเพราะเธอยังไม่อยากกินขนมที่เขาซื้อมาให้“ใครคะ”“นั่นไง” ปาวกะพูดเมื่อเห็นชายหนุ่มที่เขากำลังพูดถึงเดินเข้ามาใกล้ลินา“ลินามาซื้อข้าวเหรอ มากินในร้านด้วยกันไหม” อาร์มเดินเข้ามาทักทายเธอด้วยใบหน้ายิ้มแย้มราวกับดีใจที่ได้พบเธอแบบนี้ แต่ก็ต้องหุบยิ้มเมื่อเขาเห็นปาวกะก้าวขามายืนอยู่ข้างๆ ลินาแบบแขนแนบชิดกัน“ได้ค่ะพี่” เธอตอบรับทันทีเพราะว่าหญิงสาวอยากจะรู้ว่าปาวกะที่ยืนอยู่ข้างๆ เธอนั้นจะมีอาการเป็นอย่างไร“ไหนเจ้าบอกว่าจะกลับไปกินที่ห้องกับข้าไง” เขาโอบไหล่ของหญิงสาวราวกับมนุษย์ที่หึงหวงคนรักของตัวเองอยู่“คุณบอกไม่ชอบกินของพวกนี้นี่คะ” เธอหันไปว่าเขาจนปาวกะถึงกับขมวดคิ้วเป็นปมเมื่อหญิงสาวขัดใจเขาเวลาอยู่ต่อหน้าของมนุษย์ที่เขาไม่ชอบหน้าสักเท่าไหร่“ก็ได้ งั้นเจ้ากินที่นี่เลย” ปาวกะไม่พูดเปล่ากับเดินนำเข้าไปในร้านและลินากับอาร์มก็ตามเข้าไปนั่งด้วย ตลอดเวลาที่ทั้งสองทานอาหารกัน ปาวกะสังเก
“พี่อาร์มลุกเร็วมานอนอะไรตรงนี้คะ เรย์ก็อีกคนหนึ่ง” หลังจากที่ปาวกะพาหญิงสาวมาส่งที่ห้อง เขาก็กลับไปในทันที พอลินาเดินเข้ามาในห้องก็เห็นสองคนนี้นอนกับพื้นแล้ว“อ้าวลินา” พี่อาร์มลุกขึ้นมาด้วยท่าทางงัวเงีย“มานอนอะไรตรงนี้คะ” หญิงสาวพูดพร้อมกับเดินไปปลุกน้องชายของตัวเองที่นอนอยู่บนเตียงของเธอ“สงสัยพี่คุยกับเรย์ดึกน่ะ กี่โมงแล้วเนี่ย”“เจ็ดโมงแล้วค่ะ”“งั้นพี่กลับก่อนดีกว่านะ” อาร์มเดินออกไปอย่างงุนงงพร้อมกับเรย์ที่ตื่นขึ้นมาพอดี เธอจึงหยิบโทรศัพท์ของเธอขึ้นมาดู วันนี้เป็นวันเสาร์สินะ“ลินา กลับมาแล้วเหรอ” เรย์ลุกขึ้นยืนพร้อมกับบิดขี้เกียจ“แกรู้เหรอว่าพี่ไปไหน” ลินามีสีหน้าตกใจหรือว่าเขาจะรู้ความจริงว่าเธอไปที่โลกของปาวกะมา“ก็ลินาไปทำงานต่างจังหวัดไง แกล้งอำกันอีกละ” เมื่อพูดจบเรย์จึงเดินออกไปจากห้องของเธอทำงานต่างจังหวัดเหรอ สรุปเธอโดนไล่ออกหรือไม่โดนล่ะ ไม่รู้ว่าปาวกะจะสร้างเรื่องอะไรไว้ที่นี่อีก เมื่อคิดได้เช่นนั้นเธอจึงเปิดแชตดู สรุปเธอลางานหรอกเหรอเนี่ยค่อยยังชั่วหน่อยอย่างน้อยเธอก็ยังคงไม่โดนไล่ออกตอนนี้ลินาเข้ามาทำงานตามปกติในวันจันทร์ ระหว่างทางที่เธอเดินเข้ามายังห้องทำงานก
“กลับห้องไปพักเถอะ ข้าจะไปส่ง”“หนูได้ยินมาว่าคุณกำลังถูกลงโทษแล้วคุณทำอะไรผิดคะ ใช่เรื่องที่คุณทำให้คนตายใช่ไหม”“เจ้าจะรู้เรื่องของข้ามากเกินไปแล้วลินา” เขาหันมาขมวดคิ้วใส่“ก็หนูได้ยินพวกผีคุยกันนี่คะ คุณนี่ก็ใจร้ายเหมือนกันนะคะ ถ้าคุณเป็นคนก็คงโดนตำรวจจับติดคุกหัวโตแน่ๆ”“เจ้าพูดมากเกินไปแล้วลินา ไม่เกรงกลัวข้าหรืออย่างไร” เขาชะโงกหน้าเข้ามาใกล้หญิงสาว จนเธอต้องผงะตัวออก” คุณ ไปนอนที่อื่นได้ไหม” เธอถามเมื่อเดินมาถึงประตูห้องนอนของเขา“นี่มันห้องของข้า ถ้าเจ้าไม่อยากนอนที่นี่ เจ้าไปนอนที่อื่นก็ได้นะ”“ได้ค่ะ ห้องไหนคะ” หญิงสาวพูดอย่างมั่นใจ“ห้องถัดจากห้องนี้ไปห้าห้องเจ้าไปนอนที่นั่นได้ แต่ถ้ามีเสียงแปลกๆ หรืออะไรมาให้เจ้าเห็นไม่ต้องตกใจพวกนั้นกำลังต้อนรับแขกที่อวดดีอย่างเจ้าอยู่” ปาวกะพูดพร้อมหัวเราะในลำคอ“คุณ” เธอรีบเดินมาทุบอกของเขาที่ยืนกอดอกมองออกไปนอกหน้าต่าง“โอ๊ย ข้าเจ็บนะ” หน้าอกของเขาที่มีเลือดซึมออกมาจากเสื้อสีดำของเขาจนเปียกมือของเธอ“คุณบาดเจ็บจริงๆ ด้วย” เธอค่อยๆ เอามือแหวกเสื้อเพื่อดูแผลของเขา“เลือดข้า ทำไมยังเป็นแบบนี้” เธองงกับคำพูดของเขา ปกติเลือดก็เป็นสีแดงไม่
“ลินา” เสียงทุ้มใหญ่กังวานนั่นพูดอยู่ทางด้านหลังของเธอ“ปาวกะ ข้าเพียงแค่จะพานางไปหาวาเนสซา” ไอรามีสีหน้าตกใจอย่างเห็นได้ชัดเมื่อชายที่ปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าเป็นปาวกะ“ใช่ค่ะ หนูกำลังจะไปหาพี่วาเนสซา”“แต่เจ้ารู้ ไอรา…ว่าวาเนสซามีร่างกายเป็นเช่นไรเมื่อถึงเวลากลางคืน” ปาวกะตาแดงก่ำด้วยความโกรธ ไอราอ้ำอึ้งได้แต่ยืนก้มหน้า“ข้าขอโทษ”“เจ้าพูดคำนี้มานับครั้งไม่ถ้วน แต่เจ้าไม่ได้รู้สึกผิดอะไรเลยสักนิด เจ้ายังคงทำสิ่งที่ข้าไม่ชอบแต่เจ้ารู้ไหมว่าพวกนี้มันจะกลับไปทำร้ายตัวของเจ้าเอง เมื่อวันที่ข้าไม่สามารถทนเจ้าได้อีกต่อไป”“เพราะมนุษย์ผู้นี้ใช่หรือไม่ ที่ทำให้ท่านเปลี่ยนไป เหตุนี้จึงหมดความสนใจในตัวข้าใช่หรือไม่” ไอราพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือคลางแคลงในใจ บ่งบอกให้รู้เลยว่าเธอเสียใจมากแค่ไหนกับผู้ชายที่ยืนต่อว่าเธอด้วยความโกรธแบบนี้ แต่ไม่มีสักครั้งเลยที่ชายผู้นี้จะทำร้ายหรือเผาเธอเหมือนที่เขาทำกับคนอื่นๆ“เพราะตัวเจ้าเองต่างหากที่เลือกให้ข้าเป็นเช่นนี้ เจ้าช่างโง่เขลายิ่งนักไอราที่ยอมให้ความชั่วร้ายมาครอบงำตัวเจ้าได้” ปาวกะพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง ไอราเอาแต่ยืนร้องไห้ลินารู้เลยว่าเธอต้องเจ็บปวดข