ค่ำคืนที่สุดแสนเร่าร้อนสาวจอมเชยที่ถูกคู่หมั้นนอกใจ และ…ในคืนนั้น เธอได้พบกับ ลี่คุน ประธานหนุ่มลูกครึ่งไทย-จีน รูปหล่อ ค่ำคืนแห่งความเข้าใจผิด และ เป็นค่ำคืนแห่งการเริ่มต้นของความรัก เธอ …. ซึ่งไม่รู้ว่า ชายหนุ่มแปลกหน้าที่เธอเผลอมีอะไรด้วย…คือใคร ส่วน…เขา…ที่หลงรักเธอ ก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสาวสวยในคืนนั้น ที่แท้แล้วคือยายแว่นฝ่ายบัญชีในบริษัทของเขาเอง ใครจะไปคาดคิดว่าประธานบ้าอำนาจ จะเป็นผู้ชายที่สุดแสนโรแมนติคกับเรื่องอย่าว่า ใครจะไปคาดคิดว่าผู้หญิงเฉิ่มเฉยอย่างเธอ จะแต่งตัวแล้วสวยขนาดนี้
Lihat lebih banyakป่วนรัก 1 - ประธานคนใหม่
เสียงเคาะแป้นพิมพ์ของคอมพิวเตอร์ยังคงดังอย่างต่อเนื่อง ในค่ำคืนที่เงียบสงบของออฟฟิศชั้น 21 ของตึกสูงใจกลางเมืองหรู
มารีอา หญิงสาววัยยี่สิบสี่ปี ซึ่งทำหน้าที่เป็นพนักงานฝ่ายบัญชีบริหารของบริษัท ยังคงทำรายงานสรุปงบประมาณประจำปีจนแทบลืมเวลา จากที่ตั้งใจจะปิดคอมพิวเตอร์กลับบ้านตอนทุ่มครึ่ง แต่ทว่าเมื่อเผลอทำงานจนเพลิน สุดท้ายก็ลากทำงานยาวไปจนเกือบจะสี่ทุ่ม เธอยกแขนขึ้นมาบิดขี้เกียจเล็กน้อย ก่อนจะยอมล่าถอยยอมแพ้กับงานมหาศาลตรงหน้า
“เฮ้อ ไม่ไหว พักก่อนดีกว่า”
มารีอาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดู เพราะดันปิดเสียงเอาไว้เลยไม่รู้ว่าแฟนของเธอ ‘อนิรุต’ ทั้งโทร.ทั้งไลน์มาหาเธอนับสิบสาย เมื่อเห็นว่าเป็นสายและข้อความจากแฟนของเธอปรากฎมาที่หน้าจอ หญิงสาวถึงกับหน้าเสียพลางถอนหายใจออกมาทันที
“ตาย ลืมไปเลยว่าวันนี้เป็นวันครบรอบที่คบกัน”
จะว่าลืมที่เดียวก็ไม่ถูก เพราะเป็นเธอเองต่างหากที่ไม่ได้ให้ความสำคัญ และครั้งนี้ก็เช่นกัน ไม่รู้ว่าเป็นครั้งที่เท่าไรที่เธอทุ่มเทให้กับงานทำงานจนกระทั่งลืมวันสำคัญของเขา
เธอรู้ดีว่า หลายต่อหลายครั้งที่อนิรุตพยายามนัดให้ไปหาที่คอนโดมิเนียม เพราะเขาอยากจะทำอะไรต่ออะไรอย่างที่เรียกว่าคนเป็นแฟนเขาทำกัน
แต่มารีอากลับพยายามหาทางเลี่ยงเขาทุกครั้ง
เธอเองก็บอกไม่ถูกว่าทำไม รู้ทั้งรู้ว่าเรื่องแบบนั้นเป็นเรื่องปกติของคนเป็นแฟนกัน
แต่… เธอยังคงรู้สึกเหมือนไม่พร้อมตลอดเวลา
หรือบางทีเธออาจจะหัวโบราณไปหน่อย เพราะคิดว่าความบริสุทธิ์ ควรจะมอบให้ชายคนรักในคืนที่ได้แต่งงานกันเป็นคืนแรก
มารีอาก้มลงเปิดอ่านข้อความจากแฟนหนุ่มทีละข้อความอย่างตั้งใจ ซึ่งข้อความที่ล้วนเต็มไปด้วยคำตัดพ้อจากอนิรุต
‘มารีอา คุณลืมหรือเปล่าครับว่าวันนี้วันอะไร? วันนี้เราสองคนครบรอบหนึ่งปีที่คบกันแล้วนะครับ’
‘คืนนี้ มาหาผมได้ไหมครับ คนดี’
‘ผมจะรอคุณไม่ไหวแล้ว…’
เธออ่านข้อความอย่างลำบากใจและเต็มไปด้วยความลังเล
อีกใจก็คิดว่าตัวเองควรยอม ๆ เขาไปสักที โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคืนวันพิเศษอะไรแบบนี้
แต่อีกใจกลับละล้าละลัง ทว่าสุดท้ายแล้ว มารีอาก็ตัดสินใจพิมพ์ข้อความกลับไปว่า
‘ขอโทษนะคะ มาร์ ยังทำงานไม่เสร็จเลยค่ะ’
...
...
เงียบไม่มีการตอบกลับจากฝ่ายตรงข้าม
ทำให้มารีอารับรู้ได้ทันทีว่า แฟนของเธอต้องรู้สึกพอใจหรืองอนเธอเป็นแน่ หญิงสาวได้แต่ถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย ก่อนจะตัดสินใจเก็บข้าวของและปิดคอมพิวเตอร์
ทว่า… ไม่ทันที่หญิงสาวจะก้าวออกมาตรงทางเดินหน้าลิฟต์
เธอกลับหยุดชะงักเมื่อเห็นว่ามีแสงไฟบริเวณหน้าห้องอีกฟากฝั่งของอาคารซึ่งเป็นตรงหน้าห้องประธานบริษัทยังคงเปิดไฟสว่างอยู่
มีอาขยับแว่นตาที่สวมอยู่ก่อนจะพยายามชะเง้อไปมองดู เพราะคิดว่ามีคนลืมปิดไฟเอาไว้ หรือไม่ก็บางทีอาจจะยังมีใครทำงานอยู่ดึก ๆ เหมือนอย่างเธอ
ที่สุดเธอก็ตัดสินใจเดินไปดูเพื่อความแน่ใจ
...
ในความเงียบมีเพียงเสียงรองเท้าส้นสูงตกกระทบพื้น ขาเรียวเดินไปเรื่อย ๆ จนสุดทาง ก่อนจะได้ยินเสียงกึกกักตรงมุมมืดของห้องรับแขกมุมชงกาแฟข้าง ๆ
-หรือว่าผี-
...
มารีอาเกิดความกลัวจนทำหน้าแหยในทันที สองมือเริ่มกระชับกระเป๋าแน่นขึ้น และถึงภายในใจจะเต็มไปด้วยความกลัว แต่ก็ยังแพ้ความสงสัยที่ตัวเองมี เธอรวบรวมความกล้าเดินเข้าไปตามเสียงแม้จะเต็มไปด้วยความกลัวอยู่ลึก ๆ
และเริ่มเดินเข้าใกล้ขึ้น ...ใกล้ขึ้น
แต่ทว่า...เมื่อไปเธอเดินถึง กลับเจอแต่ความว่างเปล่า ไม่มีอะไรอย่างที่เธอคิดในตอนแรก!
มารีอาส่ายหัวให้กับความฟุ้งซ่านของตัวเอง ก่อนจะเดินถอยหลังกลับออกมา
พลั่กกกก !
“ว้าย!`”
หญิงสาวสะดุ้งสุดตัว เพราะทันทีที่เธอหันหลังกลับ ใบหน้าของเธอก็ชนกับอกแกร่งของใครบางคนที่อยู่ด้านหลัง
“โอย” เสียงโอดครวญก่อนเอาลูบหน้าผากตัวเองเบา ๆ
“มาทำอะไรตรงนี้ ทำไมยังไม่เลิกงาน” เสียงทุ้มเรียบเอ่ยทักเธอขึ้นมาก่อน และนั่นทำให้มารีอาถอนหายใจอย่างโล่งอก เมื่อพบว่าชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าคือประธานคนใหม่ของเธอเอง
“อ่อท่านประธานลี่นะเอง ขอโทษค่ะพอดีฉันคิดว่ามีใครลืมปิดไฟหน้าห้องท่าน เลยจะมาเดินดูค่ะ” เธอชี้โบ้ชี้เบ้ไปที่ไฟที่เปิดสว่างอยู่ด้วยใบหน้าเหรอหรา
“บริษัทเรามีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมาดูความเรียบร้อย ไม่ใช่หน้าที่พนักงานฝ่ายบัญชี” น้ำเสียงเรียบจากคนตรงหน้าคล้ายตำหนิ ซึ่งเธอก็ไม่รู้ว่าจะตำหนิทำไม ในเมื่อเธอกำลังหวังดีด้วยการประหยัดค่าไฟให้บริษัทเท่านั้น
“อ่า อะคะ งั้นขอโทษอีกครั้งค่ะ” มารีอายิ้มแห้งกับคำพูดของอีกฝ่าย จนนึกอยากเขกกะโหลกตัวเองที่ทำเหมือนหาเรื่องใส่ตัวเองแท้ ๆ
“ว่าแต่ท่านยังไม่กลับเหรอคะ”
เป็นคำถามโง่ ๆ ที่กลบเกลื่อนความประหม่าของตัวเอง แต่เมื่อคนตรงหน้าเงียบนิ่ง เธอเลยเงยหน้ามองเขา
ใบหน้าหล่อเหลายังคงไม่แสดงความรู้สึกใด ๆ นอกจากสายตาที่ทำให้เธอพอจะมองออกมาว่าต้องการให้เธอหลบทางเดินให้ หญิงสาวจึงรีบขยับถอยไปทันที
“ผมไม่จำเป็นต้องรายงานคุณ” เขาปรายตามองเธอแวบหนึ่งอย่างไม่สนใจก่อนจะเดินออกไปทันที
หญิงสาวได้แต่มองตามแผ่นหลังและแอบคว่ำปากให้กับความหยิ่งและเย็นชาของท่านประธานคนใหม่ ผู้ที่ขึ้นชื่อว่าเนี๊ยบและเย็นชาสุด ๆ
เขาคือ ‘ลี่คุน’ เป็นลูกครึ่งไทย-จีน อายุยี่สิบเจ็ดปี เป็นบุตรคนรองของตระกูลลี่ พ่อของเขาชื่อ ลี่เฉิน เป็นนักธุรกิจชื่อดังจากเมืองจีน และมีภรรยาเป็นคนไทยชื่อ มิลิน
เดิมทีบริษัทนี้เป็นของคุณตา ซึ่งปัจจุบันนี้ท่านแก่ชรามากแล้ว ท่านจึงวางมือและอยากให้ลูกหลานมาบริหารเพื่อสืบทอดธุรกิจต่อ พ่อของเขาจึงได้ส่งให้ลูกชายคนรองเดินทางจากเมืองจีนเพื่อมาบริหารธุรกิจงานแทน
ลี่คุน เป็นนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงที่มากด้วยความสามารถ พูดได้หลายภาษา โดยเฉพาะภาษาจีนและภาษาไทย นอกจากด้านความสามารถในการทำงาน เรื่องหน้าตาและความหล่อเหลาแทบไม่ได้ต่างจากดาราดังในซีรีส์จีนทั่วไป
ด้าน มารีอา อนันตะพิรัชต์ สาวบัญชีวัย 24 ปี ส่วนสูง 165เซนติเมตร ใบหน้าหวานวงรีรูปไข่ ปากกระจับเล็กรับกับจมูกทรงหยดน้ำ แต่เธอมักจะสวมแว่นตาหนาเตอะ ไม่ชอบแต่งตัว ติดจะออกเชย ๆ เหมือนคุณป้า วัน ๆ นั่งทำงานอยู่แต่กับตัวเลขและหน้าจอคอมพิวเตอร์ ไม่ชอบพบปะผู้คน และโลกส่วนตัวสูง
มารีอามักจะปล่อยตัวธรรมดา ทรงผมมัดรวบตึงเรียบง่าย สวมเสื้อผ้าตัวโคร่ง ปิดบังรูปร่างและผิวพรรณรวมถึงใบหน้าอันงดงามของเธออย่างไม่ได้ตั้งใจ
แม้เธอจะมีคู่หมั้นอยู่แล้ว คือ อนิรุต แต่เขาเองก็ใช่ว่าจะรักในตัวมารีอาอะไรมากมาย หากแต่ที่เขาทนคบในความจืดชืดของเธอได้เป็นเพราะว่าพ่อแม่ของทั้งคู่เป็นเพื่อนกัน ทำให้ทั้งมารีอาและอนิรุตได้รู้จักกันตั้งแต่เด็ก แต่หลังจากที่พ่อแม่ของมารีอาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตกะทันหัน และทิ้งสมบัติเก่ามหาศาลไว้ให้ลูกสาวคนเดียวอย่างมารีอา
ครอบครัวของอนิรุตเลยรีบทำการจัดแจงหมั้นหมายมารีอาเอาไว้ ส่วนเหตุผลที่มากกว่าความสัมพันธ์ของเพื่อนที่บังหน้า ก็คือเพราะพวกเขาหวังจะได้ครอบครองสมบัติของบ้านมารีอาก็เท่านั้น
ยิ่งกับด้วยมารีอาเป็นคนง่าย ๆ อะไรก็ได้ ดูคล้ายเป็นคนหัวอ่อน และหลอกง่าย เหมือนจะควบคุมได้ไม่ยาก ทำให้อนิรุตยินยอมที่จะทำตามแผนการของผู้ใหญ่ในทันที
เพราะถึงมารีอาจะดูเฉิ่มเชย แต่ข้อดีของการคบผู้หญิงหัวอ่อนแบบนี้ มันก็ยังดีกว่าการที่เขาต้องไปคบกับผู้หญิงฉลาด ๆ ที่คอยรู้ทันไปเสียหมด
...
หลังจากลี่คุนเดินกลับเข้าไปในห้องทำงานของตัวเอง มารีอาได้แต่แอบเบะปากตามหลัง แม้ลึก ๆ เธอจะยอมรับในฝีมือที่เขาสามารถพลิกฟื้นธุรกิจของคุณตาที่โดนพิษเศรษฐกิจเล่นงานจนเกือบไม่รอดให้สามารถกลับมายิ่งใหญ่ได้แบบเดิมในเวลาแค่ครึ่งปี
แต่… ถึงแบบนั้น ในสายตาของมารีอา ลี่คุนก็ยังคงเป็นผู้ชายที่ยังมีข้อติ ผิดกับรูปร่างหน้าตาที่สุดแสนเพอร์เฟกต์ของเขา นั่นก็คือ นิสัยที่สุดแสนจะเย็นชา เคร่งขรึมและเอาจริงเอาจังกับงานจนเกินไป
มารีอาหันหลังกลับ เพื่อเดินออกจากสำนักงานของเธอเพื่อออกไปที่ลิฟต์ แต่ก็ยังไม่วายเหลียวหันกลับไปมองที่ห้องทำงานของประธานคนใหม่
ผู้ชายคนนี้เหรอ...เฮอะ ติดลบค่ะ
ทุกคนรัวถามเธอชนิดพูดเออตอบเอง แอนนี่ได้เพียงแต่พูดอ้าปากค้างเพราะพูดอะไรไม่ทัน ก่อนทุกคนจะเห็นท่านประธานลี่หานเดินมาที่แผนก ทำให้ทุกคนต้องหยุดคุยกันแล้วรีบก้มหน้าคำนับท่าน แต่เขากลับมาหยุดยืนตรงที่แอนนี่ยืนอยู่“เก็บของเสร็จหมดหรือยัง”“เสร็จแล้วค่ะ ของแอนนี่มีไม่เยอะ”“นี่กาแฟของโปรดเรา พี่ให้คนลงไปสั่งมาให้” เขาพูดพลางส่งแก้วน้ำในมือมาให้ นี่แค่ได้ยินเธอคุยกับมารีอาว่าอยากกินเฉย ๆ ก็รีบหามาให้ เล่นเอาใจกันเสียขนาดนี้ ไม่หลงก็แย่แล้ว“แล้วไม่รอแอนนี่ลงไปสั่งเองล่ะคะ ถือมาให้ถึงที่นี่ทำไม”“ก็เห็นเมื่อกี้บอกว่าอยากกินไม่ใช่เหรอ พี่กลัวน้ำแข็งมันละลายเลยรีบเดินเอามาให้”“ไม่เห็นพี่หานต้องทำถึงขนาดนี้เลยนี่คะ” แอนนี่ยิ้มเขิน“ไหนของมีอะไรบ้าง มีอะไรให้พี่ช่วยถือไหม”“ไม่เป็นไรค่ะ แค่นี้เอง”“อืม งั้นเดี๋ยวพี่ให้ผู้ช่วยยกของเราเอาไปไว้ที่รถดีกว่า”“ได้ค่ะ ขอบคุณนะคะ”เธอส่งยิ้มให้เขาในขณะที่เขาก็ยิ้มอ่อนโยนกลับมาที่เธอ ภาพที่ทุกคนมองเห็นประหนึ่งว่ามีไฟสปอตไลต์ฉายส่องลงมาที่คนทั้งคู่แล้วพวกเธอและเขาเหล่านั้นเป็นตัวประกอบ~อย่าบอกนะว่า~ ทุกคนเริ่มส่งสายตามองหน้ากันไปมาเลิ่กลั่ก“ขอบคุณทุก
ผู้จัดการจินพูดรัวมาก รัวจนทุกคนเงียบสนิท เพราะพูดแทรกไม่ทัน ในขณะที่ผู้จัดการจินก็ไม่ได้สนใจยกมือขึ้นมาเช็ดน้ำตาป้อย ๆ ตอนมารีอาอยู่กลับไม่เคยทำดีต่อเธอ พอไม่มีเธอขึ้นมา ก็นะ… เลยรู้ซึ้งถึงคุณค่าสิ้นเสียงของผู้จัดการจิน ตามด้วยเสียงเริ่มฮือฮาเพราะเริ่มคล้อยตามเพราะรู้สึกสงสารมารีอาขึ้นมาแต่ทว่า จู่ ๆ ผู้หญิงสวยคนนั้นกลับผละแขนจากลี่คุน แล้วเดินเข้ามาสวมกอดผู้จัดการจิน ท่ามกลางความตะลึงของทุกคน“มาร์ก็คิดถึงผู้จัดการจินนะคะ”~เอ๊ะ ! เสียงคุ้น ๆ~ผู้จัดการรีบเช็ดน้ำตา ในขณะที่มารีอาขยับตัวออกจากอ้อมกอด ผู้จัดการจินเริ่มเพ่งมองใบหน้าของมารีอาอย่างชัด ๆ“มาร์ มารีอา นี่ นี่ คือมารีอาจริง ๆ เหรอ”“ว่าไงครับ จะลาออกอีกไหม ?” ลี่คุนถามย้ำอีกรอบด้วยใบหน้ายิ้ม ๆ“คะ คือ คือว่า… โอยจะเป็นลม” ...ในขณะที่ฝ่ายการตลาด ไม่รู้ว่าที่ข้างล่างเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น เพราะพนักงานบางส่วนโดยเฉพาะที่ตำแหน่งต่ำลงมาก็ไม่ได้ลงไปต้อนรับทั้งหมดเนื่องจากต้องจำกัดพื้นที่“เฮ้อ คิดถึงยัยแอนจังเมื่อไหร่จะกลับมาน้า” เจ้อาร์ตบ่นพึมพำในขณะที่คนน้ำแข็งในแก้วกาแฟคาปูชิโน่เย็นที่ถืออยู่ในมือไปมา ยิ่งเป็นเครื่องดื่มกาแฟ
แต่อย่างน้อย วันนี้ก็ไม่มีแล้ว …มารีอาสาวพนักงานบัญชีที่ใส่แว่นหนา ๆ หน้าจืด ๆ คนที่ขี้เกียจแต่งหน้าแล้วใช้คำว่างานเยอะเอาแต่เฝ้าอยู่หน้าคอม คนเฉิ่ม ๆ ที่สวมเสื้อตัวโคร่ง ๆ ชอบทาแค่แป้งฝุ่นกับลิปมันมาทำงาน ตอนนี้เธออยู่กับเจ้าแม่สายแซ่บอย่างแอนนี่ เลยถูกจัดการแปลงโฉมเพื่อนเบา ๆ ด้วยการแต่งหน้าอ่อน ๆ รับกับใส่คอนแทกต์เลนส์สีน้ำตาลเข้ม ผมที่เคยมัดเรียบจนตึงเป๊ะ ถูกปล่อยมันออกมาให้เห็นความเงางามจนเหมือนเธอเป็นเคลือบมาอย่างไรอย่างนั้น ยิ่งผมดำเงาของเธอในตอนนี้ตัดกับสีผิวขาว ๆ ของมารีอา ดูผ่าน ๆ แบบไม่สังเกตดี ๆ ราวกับคนละคนกับสาวแว่นคนนั้นอย่างลิบลับแต่กลับกัน สาวแสบอย่างแอนนี่ที่ชอบใส่กระโปรงสั้นแค่คืบ หรือถ้ามีตรงไหนพอจะโชว์ได้เธอจะต้องใส่วับแวม ๆ อยู่เสมอ กลับโดนว่าที่เจ้าบ่าวหวงจนเธอต้องเปลี่ยนมาแต่งตัวมิดชิดขึ้น อย่างชุดรัดรูปเซ็กซี่ ๆ โดนเขาสั่งเองให้เอาไปเก็บหมด แต่ถ้าเธออยากจะใส่ก็ได้นะ แค่แลกกับคำขู่พร้อมการกระทำจากลี่หานที่ว่า...ถ้าแต่งตัวเซ็กซี่ออกจากบ้านเมื่อไหร่… จะโดนเขาจับถอด ! ช่วยไม่ได้ พอเห็นเมียตัวเองแต่งตัวเซ็กซี่แล้วมันเกิดอารมณ์ เลยต้องขอจัดการเธอก่อนเบา ๆ เล่นเอาแ
ข่าวลือเรื่องบริษัทใหญ่ระดับเอเชียอย่าง Lee Group ว่าสองพี่น้องตระกูลลี่จะมีการจัดแต่งงานเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้ติดก็แค่… ทางสองพี่น้องตระกูลลี่ ต้องเดินทางกลับมาสู่ขอคนรักของพวกเขาที่เมืองไทยอย่างเป็นทางการก่อน จึงค่อยประกาศกำหนดวันแต่งงานให้ทราบโดยทั่วกันสำหรับเมืองไทย พนักงานหลาย ๆ คนทราบว่าประธานหนุ่มหล่ออย่างลี่คุนเป็นที่แน่ชัดอยู่แล้วว่าเจ้าสาวคือมารีอา พนักงานสาวบัญชีจอมเฉิ่ม กระนั้นหลายคนก็ยังคงจดจำภาพมารีอาสาวแว่นคนนั้นอยู่ดี หรือต่อให้บางคนที่เคยเห็นตอนเวลาทั้งคู่ออกเดตหรือตอนไปฝากท้อง ก็ยังไม่อยากจะเชื่อว่าผู้หญิงสวย ๆ คนคนนั้นคือมารีอาและแน่นอนข่าวลือก็คือข่าวลือ มักจะโดนแต่งแต้มจนเกินความเป็นจริงเสมอ โดยเฉพาะสาวออฟฟิศอย่างเรา ๆ เพราะต่อให้เรื่องมีความจริงแค่หนึ่งเดียว แต่พวกเราก็มีความพิเศษสามารถพูดต่อ ๆ กันจนคนสุดท้ายที่ได้ยิน สรุปเป็นตัวเลขที่ร้อยได้… พวกเราเก่ง ^ ^และก็ตามข่าวที่ลือกันสุดฮิตในตอนนี้ คือเรื่องที่ประธานลี่คบซ้อน ! และที่ประธานลี่เลือกมารีอาแต่งงานด้วยเพราะว่าเธอพลาดท้องแค่นั้นเอง ส่วนผู้หญิงสวย ๆ อีกคน ที่หลายคนเคยเห็นก็เป็นแค่คู่ขาผู้จัดการจินเองก็ไม่ต่
เพียงครู่ก็มีเสียงดนตรีบรรเลงมาจากด้านหลังของเรือยอชต์“อะ เสียงอะไรน่ะ” มารีอาหันขวับไปตามต้นเสียง เพราะอยู่ ๆ ก็มีเสียงไวโอลินบรรเลงดังขึ้นมา แถมอยู่ ๆ ก็มีกลุ่มคนแต่งกายด้วยชุดสูทเต็มยศ แต่กลับพากันยกกระถางดอกไม้เป็นพุ่ม ๆ มาวางตกแต่งบริเวณรอบ ๆ ด้านหน้าของเรือที่พวกเธอนั่งอยู่ จนสองสาวลุกขึ้นยืนแบบงง ๆ“อะไรอะแก” แอนนี่หันไปมองหน้ามารีอาด้วยความแปลกใจ ก่อนที่สองสาวจะหันรีหันขวางไปตามเสียงเพลงด้วยสีหน้าประหลาดใจ ไม่ช้า นักสีไวไอลินก็เดินบรรเลงออกมา พร้อมกับลี่หานและลี่คุนที่เปลี่ยนเป็นชุดสูทเรียบร้อย พาเดินออกมาพร้อมกับช่อดอกไม้ช่อใหญ่แอนนี่กับมารีอาถึงกับนิ่งอึ้งไปพักใหญ่ ก่อนที่แอนนี่จะคลี่ยิ้มออกมา เธอมองสบตากับลี่หานที่ส่งยิ้มมาให้เธอด้วยสายตาแวววาวส่วนมารีอาไม่ต้องพูดถึง แค่เห็นลี่คุนที่เดินออกมาพร้อมช่อดอกไม้ช่อใหญ่ เธอถึงกับยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเอง ดวงตาคู่ใสมีน้ำตาซึมเอ่อออกมาด้วยความตื้นตันสองหนุ่มยื่นช่อดอกไม้ให้พวกเธอรับไว้ ก่อนจะนั่งคุกเข่าตรงหน้า พร้อมยื่นกล่องแหวนเพชรให้กับสองสาว“แต่งงานกันนะครับ” สองพี่น้องตระกูลลี่เอ่ยขึ้นแทบจะพร้อม ๆ กัน แม้อะไร ๆ สำหรับพวกเขาแล
“นั่นสิเนอะ ฉันเองก็ไม่อยากจะเชื่อ จากผู้ชายที่ฉันไม่เคยคิดว่าจะเอื้อมถึง กลับมาเป็นคนที่ใกล้ตัวที่สุด แต่ก็นะเรื่องทั้งหมดก็เริ่มมาจากแกนั่นแหละแอนนี่ ถ้าวันนั้นแกไม่จับฉันแปลงโฉมจนไปเจอลี่คุน วันนี้ฉันกับเขาอาจจะแค่เดินสวนทางกันธรรมดา ๆ ในฐานะเจ้านายกับลูกน้องก็ได้”“แหมแก ก็ว่าไป ไม่หรอก… ระหว่างแกกับท่านประธานมันเป็นเรื่องของพรหมลิขิตต่างหากล่ะ ที่ทำให้แกกับประธานลี่ได้รักกัน”“ใช่เหรอ แต่ส่วนนึงก็มาจากแกนะ อืมแต่ก็นะ บางทีโชคชะตาหรือพรหมลิขิตอาจทำให้ฉันกับเขาได้รักกันจริง ๆ ก็ได้ แต่… ของแกไม่ใช่นะแอนนี่ แกกับพี่หานเป็นความตั้งใจล้วน ๆ ไม่ใช่พรหมลิขิต” มารีอายิ้มเมื่อนึกถึงเรื่องที่รู้มาจากลี่คุน“บ้าน่า… ถ้าไม่ใช่พรหมลิขิต แล้วจะเป็นความตั้งใจได้ยังไง”“ก็ตอนแรก ฉันก็นึกว่าเป็นเพราะว่าลี่คุนกับฉันอยากจับคู่ให้แกกับพี่หาน เขาถึงยอมแต่งกับแก ที่ไหนได้ มาตอนหลังถึงรู้ว่าเพราะพี่หานเขาแอบปิ๊งแกจากรูปในไอจีก่อนต่างหากล่ะ ไม่งั้นคนอย่างพี่หานจะยอมตกลงไปเมืองไทยทำไม”“ชิ ทำมาพูดไป” แอนนี่ยิ้มเขิน ถึงลี่หานเองก็เคยบอกว่าแอบชอบเธอจากไอจี “เอาจริงนะยัยมาร์ ฉันเองก็ไม่อยากจะเชื่อสักเท่าไรว
เกือบเที่ยงที่แอนนี่และลี่หานลงมากินข้าวมื้อแรกของวัน เล่นเอาทุกคนที่มานั่งรอรับประทานกลางวันมองหน้ากันไปมาแต่ก็อดอมยิ้มไม่ได้ นาน ๆ ทีจะเห็นคนอย่างลี่หานยอมสนใจอย่างอื่นมากกว่างาน และนาน ๆ ทีจะเห็นคนนิ่งขรึมแบบเขาออกอาการขนาดนี้แต่ถึงกระนั้น มิรินก็ยังอดเป็นห่วงลูกชายคนโตไม่ได้ เพราะไม่เคยเลยสักครั้งที่ลี่หานจะนอนตื่นสาย เขาเป็นคนที่ตื่นเช้าเอามาก ๆ มาแต่ไหนแต่ไร เธอเลยไม่รู้ว่าที่ลี่หานลงมากินข้าวเอาป่านนี้เพราะยังรู้สึกไม่สบายอยู่หรือเปล่า“ลูกยังรู้สึกเจ็บแผลอยู่หรือเปล่า ทำไมวันนี้ถึงลงมาช้านักล่ะลูก” เธอเอ่ยถามเองแต่กลับชะงักเอง เพราะเพิ่งสังเกตว่า ท่าทางในวันนี้ลี่หานกลับดูสบายดีและแข็งแรงกว่าที่คิด ยิ่งเห็นเขากำลังใช้มือข้างเดียวเลื่อนเก้าอี้ให้แอนนี่ ทั้ง ๆ ที่แขนอีกข้างยังใส่เฝือกอ่อนอยู่ แต่ทว่าเขาก็ยังพยายามเอาใจแอนนี่ มิรินถึงกับอึ้งไปนิดนึงก่อนจะคลายยิ้มออกมาแล้วส่ายหัวเบา ๆ“ได้กลับมานอนบ้านเลยนอนสบายไปหน่อยครับ เลยตื่นสาย” ลี่หานตอบด้วยน้ำเสียงสดใส ในวันนี้เขาช่างกระปรี้กระเปร่า ผิดกับเมื่อวานที่ดูเนือย ๆ อย่างคนอ่อนระโหยโรยแรงลิบลับ“แต่ผมว่าพี่ไม่ได้นอนเลยมากกว่า” ล
ครั้นจะไม่ขึ้นคร่อมบนร่างเขาก็คงไม่ได้แล้วสินะ แอนนี่ยกตัวขึ้นคร่อมบนร่างเขา เสื้อผ้าถูกถอดออกจนเหลือแต่ชั้นในลูกไม้สีดำที่ปิดบังหน้าอกที่อวบอิ่มแทบจะไม่มิดลี่หานยกยิ้มอย่างพอใจ เธอช่างเซ็กซี่และช่างดูเย้ายวนมากจริง ๆเธอก้มลงจูบเขาอย่างแผ่วเบา รู้สึกเขินจนรีบผละใบหน้าออกมา“แบบนี้เรียกว่าแค่ปากสัมผัสกันครับ ถ้าจูบต้องแบบนี้” เขารั้งศีรษะเธอให้ก้มลงจูบเขาอีกครั้ง เรียวลิ้นร้อนแทรกสัมผัสกันและกัน อกสวยที่แนบอยู่กับแผงอกของเขามันไม่ควรมีอะไรมาขวางกั้น เขาเอื้อมไปปลดตะขอชุดชั้นในของเธอจนหลุดออกลี่หานดันตัวขึ้นนั่ง ทั้ง ๆ ที่ร่างแอนนี่ยังคร่อมอยู่ เขาก้มใบหน้าฝังลงที่อกนุ่ม ก่อนใช้ปลายลิ้นดุนดันเม้มดูดที่ยอดอกสีชมพูสวยของเธอ“อื้อ” เสียงครางต่อต้านเมื่อถูกโลมเล้า เธอยกอกแอ่นให้เขาเชยชิมได้เต็มที่ สองมือเรียวเล็กขยำลงที่ผมสั้นของลี่หาน~เขากระตุ้นเก่งเกินไปแล้ว~สองมือแอนนี่เลื่อนมาที่ชั้นในชาย เมื่อสัมผัสได้ถึงบางสิ่งที่มันปะทุแน่น เขายกสะโพกขึ้นเล็กน้อยเพื่อให้เธอถอดมันออกได้ง่ายขึ้นเช่นเดียวกับเธอแอนนี่ค่อย ๆ กดสะโพกลงไปช้า ๆ“อ๊ะ” เกมนี้เธอเป็นฝ่ายเริ่มก็จริง แต่กลับรู้สึกหวาดหวั่นก
@ที่ห้องนอนแอนนี่ค่อย ๆ แง้มประตูก่อนชะโงกหน้าเข้าไปภายในห้อง ทว่า… เธอกลับไม่เห็นลี่หานอยู่ที่เตียง ทั้ง ๆ ที่กว่าเธอจะตามขึ้นมาก็เกือบสามสิบนาทีแล้ว~แปลกที่ไม่เห็นเขาอยู่ที่ห้อง~“ลี่หานคะ” แอนนี่เรียกพลางมองไปรอบ ๆ ห้อง ก่อนจะเห็นม่านชายประตูที่ระเบียงพลิ้วไหวอยู่ เธอค่อย ๆ ก้าวเข้ามาที่ริมระเบียง เห็นลี่หานที่ยืนหันหลังมองพระจันทร์อยู่ แอนนี่ถึงกับอมยิ้มออกมาแล้วเดินไปหยุดยืนอยู่ข้าง ๆ“พระจันทร์ที่นี่สวยจังนะคะ” เธอพยายามหาเรื่องชวนเขาคุยแต่ทว่าเขาไม่ตอบ ไม่แม้กระทั่งหันมามองหน้าเธอ แอนนี่อมยิ้ม นึกรู้ได้ทันทีว่าเขางอนเธอเป็นเด็กอีกแล้ว“ไหนบอกซิ งอนแอนนี่เรื่องอะไรน้า” เธอแกล้งเย้าพลางชะโงกหน้าเข้าไปมองคนงอนที่ไม่ยอมสบตาเธอด้วยซ้ำ“เอ จะทำยังไงดีเนี่ยให้หายงอน ก็ไม่รู้ว่างอนเรื่องอะไรเนอะ แอนนี่จะได้ง้อถูก”เงียบ ลี่หานยังนิ่ง นอกจากไม่ตอบรับกับท่าทีของแอนนี่เขาหมุนตัวหนีกลับเข้าไปในห้อง ทำท่าเหมือนไม่สนใจเธอเข้าไปอีก แอนนี่ถึงกับถอนหายใจก่อนจะเดินตามไป“โอเคค่ะ ถือว่าง้อแล้ว ถ้าไม่หายงอนก็ไม่ง้อแล้วนะ”“พี่จะอาบน้ำ” เสียงคนทำท่าปั้นปึ่งเมื่อครู่รีบพูดแทรกเข้ามาทันที เมื่อได้ย
Komen