ป่วนรัก 7 - แค่…คล้ายๆ
ภายในห้องประชุมใหญ่ ทุกแผนกต่างเตรียมความพร้อมอย่างดีในการประชุมครั้งนี้ แม้จะรู้สึกเกร็งกันอยู่บ้างเวลาประชุมกับท่านประธานจอมเนี้ยบอย่างลี่คุน เพราะแน่นอนว่าหากมีแผนกไหนหาข้อมูลและเตรียมพร้อมไม่ดี ต้องโดนลี่คุนไล่ต้อนคำถามจนไปไม่เป็นเป็นแถว ๆ สุดท้ายก็โดนลี่คุนดุ แถมโดนให้สรุปงานมาใหม่อีกรอบจนกว่าเขาจะพอใจ
ยิ่งโดยเฉพาะ หากเป็นงานที่สัมพันธ์กับตัวเลขแล้ว ไม่ว่าจะเป็นยอดขาย สถิติ หรือบัญชี จะผิดไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว
สำหรับลี่คุนแล้ว
ทุกอย่างความผิดพลาดต้องเป็นศูนย์ !
การประชุมหฤโหดเริ่มขึ้นตั้งแต่บ่ายโมง ยันตอนนี้สี่โมงยังไม่เสร็จสิ้น หลายแผนกเริ่มปาดเหงื่อ ผิดกับแอร์ที่เย็นจัดของภายในห้อง แต่ยังไม่เท่าภายในใจของแต่ละคนที่ร้อนกว่า
ลี่คุนแทบไม่สังเกตเห็นเลยว่า ภายในห้องกว้างของห้องประชุมที่มีบรรดาผู้จัดการและผู้ช่วยของแต่ละแผนกมากันครบ มีมารีอานั่งตัวลีบอยู่ด้านหลังผู้จัดการของเธอ เธอคอยทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยเตรียมความพร้อมในการพรีเซนต์ครั้งนี้ จะว่าไปงานนี้มารีอาก็แทบจะทำเองเตรียมเองเกือบเสียทั้งหมด ส่วนผู้จัดการก็มีหน้าที่แบบที่ชาวบ้านทั่วไปเรียก ‘เอาหน้า’ เธอถึงได้ต้องให้มารีอาเข้ามาทำหน้าที่ผู้ช่วย เพราะถ้าเกิดมีอะไรฉุกเฉินที่เธอตอบไม่ได้ เธอจะได้ให้มารีอาช่วยตอบแทน
และก็… เป็นอย่างที่คิดไม่มีผิด
เมื่อลี่คุนฟังการพรีเซนต์งานของผู้จัดการฝ่ายบัญชีบริหารจนจบ เขาไล่ต้อนคำถามรัวใส่จนผู้จัดการอึกอักไปไม่เป็น เธอตอบคำถามตะกุกตะกักด้วยความตื่นเต้น ทั้ง ๆ ที่ท่องเตรียมพร้อมมาอย่างดี แต่… พอถึงเวลาเข้าจริง ๆ เจอลี่คุนถามคำถามรายละเอียดแบบเจาะลึก ก็ได้แต่อึ้ง ทว่า… โชคดีที่มีมารีอาอยู่ข้างหลังคอยกระซิบตอบคำถามมาให้
แต่… ถึงอย่างนั้นก็ไม่พ้นสายตาของลี่คุน ที่มองเห็นการกระซิบกระซาบกันอยู่ข้างหลังอยู่ดี
“ผมว่า คุณไม่ต้องตอบคำถามผมแล้วก็ได้นะ” ลี่คุนเอ่ยเสียงเรียบ ทำเอาบรรยากาศในห้องประชุมเงียบกริบ เพราะรู้ว่าลี่คุนพูดแบบนี้คือเขาไม่พอใจมากแน่ ๆ
“คือ ท่านประธานคะ ดิฉันอธิบายที่มาของตัวเลขนี้ได้นะคะ” ผู้จัดการยังไม่ละความพยายามในการตอบคำถาม
“ผมให้คุณหยุดพูดก็คือหยุดพูด ทำไมต้องพูดซ้ำ”
“คือ ท่านคะ”
“ผมจะให้คนข้างหลังคุณ ที่คอยบอกสคริปต์ให้คุณพูดแทน”
ผู้จัดการอ้าปากค้างก่อนหันไปมองมารีอา ที่ยิ้มแหยอยู่ด้านหลัง
~เกลียดจริง ๆ คนบ้าอำนาจแบบนี้~ มารีอาคิด แต่ภายในใจของเธอเดือดปุด นึกแอบโมโหในความเรื่องมากของเขา ทั้ง ๆ ที่เธอก็เตรียมงานมาค่อนข้างดี ผู้จัดการของเธอก็ตอบได้ค่อนข้างดี แต่อีประธานบ้านี่ก็ถามโน่น-ถามนี่ ถามมากอยู่ได้
มารีอายิ้มกัดฟันโชว์ฟันขาว แม้ภายในใจจะลุกเป็นไฟแต่ก็ทำได้แค่ส่งรอยยิ้ม
“ว่าไงที่ผมถาม คุณ… คนนั้นน่ะ ชื่ออะไรนะ”
“มา มารีอาค่ะ” มารีอาตอบเสียงเบาไม่กล้าเงยหน้า แต่ลี่คุนถึงกับสะดุดกึก ที่เสียงของผู้หญิงคนนี้ทำไมช่างคล้ายหญิงสาวคนเมื่อคืน หรือว่า…!!
“คุณ !”
มารีอาเงยหน้าขึ้น ก่อนยกมือกระชับแว่น
“คะ ??”
~คล้ายแต่ไม่ใช่~ ลี่คุนคิด
ยิ่งมารีอาในสภาพเชยสุดขั้วแว่นหนาเตอะแบบนี้ ใครจะดูออกว่าเป็นผู้หญิงสวย Sexy คนเมื่อคืน
เป็นไปไม่ได้ !
เขามองมารีอาเพียงแวบเดียว ก่อนก้มหน้ามองไปที่เอกสาร แม้ภายในใจจะยอมรับว่าผู้หญิงคนนี้มีส่วนคล้ายก็จริง แต่ไม่กล้าสนใจมากเพราะรู้ว่าทุกสายตามองมาที่เขาอยู่
~คล้ายเหรอ ? ไม่สิ ! จะคล้ายได้ยังไง ผู้หญิงคนนี้ดูหน้าจืด ๆ ใส่แว่นก็หนาเตอะ แถมยังสวมเสื้อผ้าตัวโคร่ง การแต่งตัวก็เรียกได้ว่า… เฮ้อ… อดคิดถึงสาวน้อยนกหงส์หยกที่ร้อนแรงเมื่อคืนไม่ได้เลย~
“งั้นดิฉันจะอธิบายถึงที่มาของตัวเลขฝ่ายบริหารเกี่ยวกับงบประมาณบริษัทในส่วนที่เราประเมินแล้วพบว่าตัวเลขปี 2564 กับปี 2565 มีงบที่ควรเพิ่มขึ้นดังนี้ค่ะ…”
มารีอาร่ายยาวอย่างฉะฉาน นานเกือบสิบนาที
ผิดกับลี่คุนที่นั่งนิ่ง เพราะตอนนี้ใจเขามัวแต่ลอยไปไกล… คิดถึงเธอคนนั้น
ในขณะที่มารีอาอธิบายจบไปแล้ว ลี่คุนยังเอาแต่มองเอกสารตรงหน้า เธอได้แต่ขมวดคิ้วเมื่อเห็นเขาไม่ถามอะไรเธอเพิ่ม
“ท่านคะ ท่านมีความเห็นอย่างไรคะ”
“…”
“ท่านคะ ไม่ทราบว่าท่าน”
“…”
เสียงเริ่มอื้ออึง เพราะทุกคนคิดไปเองว่าลี่คุนไม่พอใจแน่ ๆ ถึงได้เงียบไปแบบนี้ แต่เปล่าเลย ที่เขานิ่งอยู่ในตอนนี้ เพราะเขาแทบไม่ได้ฟังที่มารีอาพูดเลยสักนิด
ความเงียบในสถานการณ์ที่น่าอึดอัด หลายคนพากันมองหน้ากันเลิ่กลั่ก ทำสีหน้ากันไม่ถูก เพราะถ้าขืนลี่คุนยังไม่พอใจรายงานอยู่แบบนี้ แล้วการประชุมจะได้เสร็จสิ้นกันกี่โมง
ลี่คุนนิ่งไปพักใหญ่ จนรู้สึกตัวได้ว่ามีสายตาทุกคู่จับจ้องมองมาที่เขา
“ฮะแฮ่ม” เขารู้สึกเก้อแต่ก็วางฟอร์ม
“งั้นวันนี้พอแค่นี้ก่อน พรุ่งนี้ฝ่ายที่เหลือที่ยังไม่ได้พรีเซนต์มาประชุมกันต่อ อ้อ แล้วทุกฝ่ายควรเตรียมความพร้อมให้มากกว่านี้กันด้วยนะ อย่าเอาตัวเลขมามั่ว ๆ ใส่ตัวเลขอะไรกันมาส่ง ๆ อะไรที่คิดว่าอธิบายที่ไปที่มาไม่ชัดเจนมารายงานผมใหม่” เขาลุกขึ้นยืนก่อนเอามือล้วงกระเป๋าเดินออกไป มีเลขานุการที่คอยเก็บ Notebook และเอกสารของท่านเดินตาม
“ไม่ได้ฟังเลยต่างหาก จะมาว่าฝ่ายเราเอาตัวเลขมามั่ว ๆ ได้ยังไง” มารีอาบ่นพึมพำเบา ๆ ได้แต่มองตามลี่คุนที่เดินออกไปอย่างโมโห เขาเป็นคนให้เธอพูดอธิบายเองแท้ ๆ แต่สุดท้ายก็ไม่เห็นจะฟังที่เธอพูดเลย
เมื่อเสร็จสิ้นประชุมแบบงง ๆ ทุกคนพากันถอนหายใจอย่างโล่งอกที่เสร็จสิ้นไปอีกวัน ก่อนที่แผนกที่ยังเหลือจะทำหน้าเครียดกันต่อ ที่ต้องมารายงานในที่ประชุมพรุ่งนี้อีกรอบ
“เฮ้อโล่ง” ผู้จัดการเดินเหนื่อยนำหน้ามารีอาออกไป “ขอบใจนะยัยมาร์ ทีหลังจดมาให้ละเอียดกว่านี้หน่อย ฉันจะได้ไม่หน้าแตกแบบวันนี้ เข้าใจไหม”
“หา… อ้อ ค่ะ ค่ะ” มารีอาตอบแบบงง ๆ เธอทำมาละเอียดดีแล้วนะ แต่ไม่คิดว่าประธานบ้าอำนาจนั่นจะถามละเอียดมากกว่าที่เธอทำไว้
ตอนเลิกงาน มารีอาถึงกับเดินไปบ่นโอดโอยกับแอนนี่เพื่อนรัก ระหว่างที่รอกลับบ้านพร้อมเพื่อน
“ประชุมเสร็จไวจังวันนี้ เป็นไงบ้างแก ตื่นเต้นดีไหมแก” แอนนี่ถามเพื่อนด้วยความเป็นห่วงพร้อมเก็บข้าวของเพื่อเตรียมกลับบ้าน
“โอ๊ยยย… เสร็จกับผีน่ะสิ พรุ่งนี้มีประชุมต่ออีกจ้า หูยยย… วันนี้นะแก น่าอึดอัดมากกกก คนอะไรไม่รู้ นั่นไม่ดี นี่ไม่ได้ ความคิดของตัวเองต้องถูกต้องเป็นที่หนึ่ง ขนาดฉันเตรียมมาเป๊ะ ๆ เตรียมตรงนี้ ถามตรงนั้น เตรียมตรงนั้น ถามตรงนี้ โอ๊ยยย… อยากจะกรี๊ด แล้วมีอีกนะแก เห็นฉันกระซิบบอกคำตอบผู้จัดการ มีเรียกฉันไปพูดแทนด้วยจ้า แล้วเป็นไงรู้เปล่า พอฉันลุกขึ้นพูด ไม่ฟัง ! มันน่าโมโหไหม… มีอีกนะ…”
“ยัยมาร์”
“อย่าเพิ่งขัด ฉันยังพูดไม่จบ” มารีอารีบยกมือขึ้นมาห้าม
“ยัยมาร์”
“แกฟังฉันก่อน นี่มีอีกนะ นายประธานขี้เก๊กนั่น พอรู้ตัวว่าเหม่อไม่ได้ฟังที่ฉันพูด รีบจบการประชุมแก้เขินเลยวุ้ย”
“ยัยมาร์ หยุดพูดก่อน ข้างหลังแก” แอนนี่กัดฟันพูดเสียงเบาพลางขยิบตาให้มารีอาหันไปข้างหลัง
มารีอาหยุดชะงักอ้าปากค้าง
เพราะมัวแต่ระบายความอัดอั้นพูดร่ายยาว ไม่ทันเอะใจว่าแอนนี่เพื่อนรัก พยายามเรียกชื่อเธอทำไมนักหนาสองสามรอบ
แต่… ตอนนี้เพิ่งเข้าใจสีหน้าเพื่อนที่ทำหน้าเจื่อนมองหน้าเธออยูู่ในตอนนี้
ข้ – า – ง – ห – ลั - ง ของเธอคง…
มารีอาค่อย ๆ หันหลังกลับช้า ๆ ก่อนรีบโค้งศีรษะก้มหน้าลงทันที เห็นแค่ปลายรองเท้าหนังสีดำมันเงาวับของคนตรงหน้าก็รู้แล้วว่า
น่าจะเป็นประธานขี้เก๊กนั่น !! ที่เธอเพิ่งนินทาเขาอยู่แหมบ ๆ
“ที่ผมให้เลิกประชุมไว เพราะดูว่าพวกคุณคงจะเครียดและก็เหนื่อย ไม่ใช่เพราะไม่ได้ฟังคุณพูด เพราะฉะนั้นเลิกเอาความคิดไร้สาระของคุณไปพูดแบบไม่คิดแบบนี้อีก”
เสียงเรียบเชิงตำหนิหยุดพูดตรงหน้ามารีอาเพียงครู่ ก่อนจะเดินจากไป ทิ้งให้มารีอาแทบจะเข่าทรุด
“เมื่อกี้ฉันเรียกชื่อแกตั้งหลายครั้ง” แอนนี่ตบบ่าเพื่อนเบา ๆ
“แกอะ ทำไมไม่เรียกฉันให้เร็วกว่านี้ แง... ฉันจะโดนหักเงินเดือนไหมเนี่ยแก นินทาประธานบริษัทระยะเผาขน” มารีอาทำหน้าเหมือนจะร้องไห้
“คงไม่มั้ง”
“งื้อ ทำไมช่วงนี้ฉันมีแต่เรื่องซวย ๆ เนี่ย” มารีอาหันไปกอดขอกำลังใจจากแอนนี่ ที่ได้แต่กอดตอบพลางตบหลังเบา ๆ เพื่อปลอบใจ
ป่วนรัก 8 - ประธานขี้เก็กลี่คุนเดินสีหน้าเคร่งขรึมลงจากลิฟต์มายังลานจอดของผู้บริหาร เขาขึ้นมานั่งในรถที่มีคนขับรถเปิดประตูรอรับไว้เตรียมพร้อม ก่อนจะนึกฮึดฮัดโมโหอยู่ในใจฮึ่ม !! ประธานขี้เก๊กงั้นหรอ !! ผู้หญิงคนนั้นช่างกล้าบังอาจมานินทาเขาแบบนี้ !!ไม่ทันที่ความสบอารมณ์จากที่โดนพนักงานกล่าวถึงในทางไม่ดีจะหายไป เสียงโทรศัพท์จาก วศิน เพื่อนรักโทร.เข้ามา ทำให้ลี่คุนกดรับสายอย่างอารมณ์ไม่ดีนัก“มีอะไร !”เสียงเคร่งขรึมจากปลายสาย ทำให้วศินชะงักไปชั่วครู่ด้วยความแปลกใจ“เป็นไงอารมณ์ไม่ดีเหรอไอเคน เสียงเข้มใส่กูเชียว”“เคนไหนของมึง กู ชื่อ คุน”“เออ ๆ กูรู้ แต่กูเรียกมึงว่าเคนมาจะห้าหกปีแล้วไม่ชินไงวะ”“เออ ไม่ชิน ไม่ใช่ชื่อที่พ่อแม่กูตั้งให้ ยังไงกูก็ไม่ชิน”“เรื่องมากฉิบ เฮ้อ เออช่างมัน เข้าเรื่องดีกว่า” เสียงวศินอารมณ์ดีขึ้นอย่างคนอยากรู้อยากเห็น “เออนี่ ไอเคน ไหนเล่าสิ เมื่อคืนมันเป็นไงมาไงวะ เห็นว่าคนของกูที่เอาเสื้อผ้าไปให้มึงกับผู้หญิงคนนั้น บอกกูว่าไปยืนรอมึงตั้งแต่ตีสามกว่ายันเช้า กว่ามึงจะเห็นข้อความจากไลน์กูแล้วเปิดประตูออกไปเอาชุด”ลี่คุนพอเจอคำถามตรง ๆ แบบนี้จากวศิน ทำให้เขาคล
ป่วนรัก 9 - ถอนหมั้นมารีอาตื่นมาทำงานแบบสะโหลสะเหล ไหนจะคิดมากเรื่องที่ตัวเองเสียตัวให้กับชายแปลกหน้า ไหนจะคิดมากเรื่องที่ต้องหาแหวนหมั้นเพื่อไปคืนอนิรุตเพื่อถอนหมั้นแต่เมื่อมาถึงที่ทำงาน เธอกลับต้องมาประสาทเสียอีก เพราะพอมาถึงที่ทำงาน ดันมาเจออนิรุตมาดักรอพบเธอที่หน้าตึก จนเธอต้องลากเขาขึ้นลิฟต์ไปคุยที่ลานจอดรถด้านหลังของอาคารที่ไม่ค่อยมีผู้คนบริเวณหน้าลิฟต์ชั้นเก้ามารีอายังคงกอดอกแน่น สายตามองคู่หมั้นหนุ่มด้วยแววตาเฉยชา“ทำไมมาร์ไม่รับสายพี่เลย เป็นอะไรหรือเปล่า” อนิรุตพยายามเอื้อมมือมาแตะมารีอา แต่เธอก็รีบเบี่ยงตัวหลบไม่ให้เขาจับตัวของเธอได้เขารู้สึกผิดสังเกตที่มารีอาไม่รับสายเขา ทั้ง ๆ ที่เขาพยายามโทร.หาเธอตั้งหลายหน ไหนจะเช้าของวันนั้นที่เขาออกมาพร้อมลูกพีช แต่เห็นบางอย่างที่ผิดปกติ เมื่อชุดสีแดงของลูกพีชไปตกอยู่หน้าห้องนอน อนิรุตจำได้ว่าตอนถอด เขาถอดชุดของลูกพีชตั้งแต่หน้าประตู แต่ทำไมตอนเช้าถึงมากองอยู่ที่หน้าห้องนอนของเขาได้ และเขาสงสัยว่าบางทีอาจจะเป็นมารีอาที่เข้ามาแต่ก็ยังไม่แน่ใจ“มาร์ไม่ได้เป็นอะไร เพียงแต่มาร์กำลังคิดว่ามาร์อยากจะถอนหมั้น” มารีอาบอกความคิดของเธอทันท
ป่วนรัก 10 - จุด จุด จุด“แกน่ะนะ จูบกับท่านประธาน”แอนนี่ร้องเสียงหลง ก่อนจะมองซ้ายมองขวาแล้วทำเสียงเบาลง เมื่อเห็นสายตาดุของมารีอาเนื่องจากเวลานี้เป็นตอนเที่ยง มารีอาจึงชวนแอนนี่เพื่อนรักออกมาหาอะไรกิน พร้อมทั้งเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าให้เพื่อนฟัง“ชู่ เบา ๆ สิแก ฉันบอกแล้วไงว่ามันเป็นอุบัติเหตุ” มารีอาปรามเพื่อนให้ทำเสียงเบาลง“แล้วเป็นไง รู้สึกดีปะ” แอนนี่ทำตาเล็กตาน้อยยิ้มแซว“ดีกับผีสิ แค่ปากกระแทกกัน ปากไม่เจ่อก็ดีเท่าไรแล้ว” มารีอาคว่ำปากนึกถึงเหตุการณ์เมื่อเช้า ยังรู้สึกอึดอัดไม่หาย“เฮ้ยยแก แต่ที่แกจูบอะ นั่นประธานลี่เชียวนะ แต่จะว่าไป ประธานลี่อะหล่อมากนะแก อายุก็ยังน้อย ทั้งหล่อ ทั้งรวย ทั้งเก่ง ใครได้ไปคงสบายไปทั้งชาติ แกนี่โคตรโชคดี ได้จุ๊บกับท่านด้วย” แอนนี่ยิ้มกริ่ม ทำท่าทางฝันหวาน“ตรงไหน โชคดีตรงไหน ก็บอกแล้วว่าแค่ปากกระแทกกัน คนขี้เก๊กแบบนี้ ถ้าใครได้ไปคงจะอึดอัดไปทั้งชาติละสิไม่ว่า แกก็ดูเขาทำงานสิ เป๊ะเว่อร์ขนาดนั้น ทั้งทรงผมงี้ ทั้งการแต่งตัวงี้ เนี้ยบซะจน ไม่รู้ว่าเป็นเกย์หรือเปล่า” มารีอาส่ายหน้า“เออ ๆ ช่างมันเหอะ ถ้าเกย์หล่อขนาดนี้ฉันก็เอา จะทำให้ลืมผู
ป่วนรัก 11 - ตามหาที่โต๊ะทำงานของมารีอา หลังจากที่เธอแยกกับแอนนี่ที่เพิ่งกลับเข้าทำงานในตอนบ่าย มารีอาหยิบถุงยาขึ้นมาบนโต๊ะ ก่อนจะเอามือล้วงเข้าไปเพื่อหยิบกล่องยาออกมา แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่กล้าหยิบ เมื่อเห็นพนักงานคนอื่นที่ยังเดินไปมาผ่านโต๊ะทำงานของเธอ สุดท้ายเธอได้แต่รอจนปลอดคนเตรียมจะหยิบยาออกมาออก ผู้จัดการก็ดันเรียกเธอเสียก่อน จนมารีอาต้องรีบเก็บถุงยาเข้าไปในลิ้นชักโต๊ะทำงาน ก่อนเข้าไปพบผู้จัดการของเธอ“ค่ะ ผู้จัดการ เรียกมาร์หรือคะ”“เธอลืมอะไรหรือเปล่า ว่าวันนี้บ่ายสองเรามีประชุมกันต่อ”“ประชุมต่อ ! อ๋อ ๆ ใช่ค่ะ” มารีอาลืมเสียสนิท เพราะเรื่องวุ่น ๆ ที่ประเดประดังเข้ามา ทำให้เธอลืมไปเสียสนิท ในตอนเช้าเธอก็เข้างานสาย เพราะมัวเจอตาอนิรุตคู่หมั้น แถมยังติดอยู่ในลิฟต์กับท่านประธาน พอมาถึงโต๊ะก็มัวแต่เคลียร์งานที่ค้างอยู่ จนลืมไปเลยว่ามีประชุมต่ออีกรอบแต่สติสตังตอนนี้ของมารีอาแทบจะเป็นศูนย์ เรื่องราวหลายอย่างเหมือนมันรุมกระหน่ำเธอทีเดียวภายในระยะไม่กี่วัน ต้องมาเจอคู่หมั้นนอกใจ แถมตัวเองก็เมาจนนอนกับใครมาไม่รู้ อาการอ่อนเพลียยังไม่ค่อยหายดี แต่ก็ต้องรีบมาทำงานมาเจอประชุมหฤโหดทำให้เ
ป่วนรัก 12 - เป็นผม“ไม่ทราบว่ารถทะเบียน 888 สีดำคันนี้ของคุณผู้หญิงไหมครับ”พนักงานชายคนหนึ่งทำทีท่าเดินมาหาสองสาวด้วยสีหน้าร้อนใจ จนแอนนี่กับมารีอาหันมามองหน้ากันด้วยความสงสัย“ชะ ใช่ค่ะ ทำไมเหรอ”“พอดีมีคนถอยรถไปเฉี่ยวรถคุณผู้หญิงน่ะครับ”“หาาา จอดมิดชิดขนาดนั้น ชนได้ไง อ๋อ… เอ่อ… ได้ค่ะได้ เดี๋ยวออกไปดูเลย พวกเรากำลังจะกลับกันพอดี” แอนนี่ตกใจรีบคว้ากระเป๋าก่อนจะนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้จ่ายเงิน“งั้นแกออกไปดูรถแกก่อนเลย ฉันเคลียร์บิลตรงนี้เอง เดี๋ยวฉันว่าจะไปเข้าน้ำก่อนกลับด้วย เสร็จแล้วเดี๋ยวตามแกออกไป” มารีอาพยักพเยิดบอกเพื่อนให้รีบไป ส่วนตัวเองจะอยู่เคลียร์ค่าใช้จ่ายตรงนี้“ไม่เอาอะ ไปด้วยกันดีกว่า เผื่อแก…”“เออน่า ฉันไม่ใช่เด็ก ๆ เดี๋ยวตามออกไป” มารีอายิ้มพลางโบกมือไล่แอนนี่จึงยอมเดินตามพนักงานออกไป แม้จะแอบห่วงเพื่อนอยู่ก็ตามทีจนต้องหันหลังกลับมามองบ่อย ๆแปลกที่พอมาถึง รถของเธอกลับจอดอยู่ปกติจนแทบไม่เป็นอะไรเลย“อ้าวน้องคะ ไหนบอกว่ามีรถถอยมาชนรถพี่”“อา ขอโทษครับ สงสัยผมจะจำผิดคน” พนักงานรีบโค้งคำนับขอโทษก่อนจะขอตัวไปทันที ทิ้งแอนนี่ให้ยืนงง“จำผิด ? มีงี้ด้วย บ้าหรือเปล่า” แ
ป่วนรัก 13 - อีกครั้งมารีอารีบยกผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวอีกครั้ง ภายในใจเต้นระทึก เมื่อนึกว่า… ตอนที่เธอยังไม่ได้สติเขาจะ…“คะ คุณ คุณทำอะไรฉัน”ลี่คุนยกชามข้าวต้มเดินมาจากในครัวก่อนวางไว้ที่หัวเตียง“ผมไม่ได้ทำอะไร” เขาตอบหน้าตาย“แล้วทำไมฉันถึงได้ เอ่อ…” มารีอาก้มลงมองที่เสื้อผ้าตัวเองแทนคำถาม“ก็คุณเป็นลม เพื่อนผมที่เป็นหมอบอกว่าเสื้อผ้าที่คุณสวมอยู่น่าจะอึดอัด ผมก็เลย…”“คุณก็เลย… อา”“ทำไมล่ะ เราเคยนอนด้วยกันมาแล้วนี่ อีกอย่างตัวคุณทั้งตัว ผมก็สัมผัสมาหมดแล้วด้วย ทุกส่วน”เฮือกกกก มารีอาเหมือนจะเป็นลมอีกรอบทำไมต้องย้ำด้วย ทุกส่วน !“กินข้าวต้มก่อนสิ มาผมป้อน” ลี่คุนเดินมานั่งข้าง ๆ พร้อมยกชามข้าวต้มมาใกล้ เตรียมจะป้อน“มะ ไม่เป็นไร ไม่หิว”ครืดดดดด เสียงท้องร้องของมารีอาดังอีกครั้ง ราวกับแกล้ง จนทำให้ลี่คุนอดหัวเราะไม่ได้ เพราะเธอดูน่ารักและไร้เดียงสากว่าที่เขาคิดไว้ ยิ่งเวลาที่เขาเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้เธอเมื่อกี้หน้าใส ๆ ของเธอ น่ารักกว่าตอนแต่งหน้าเป็นไหน ๆ“ไม่เอาน่าอย่าดื้อ มาผมป้อน อ้าปากเร็ว อ้ามม” เขาตักข้าวต้มขึ้นมาพร้อมกับทำท่าเป่า แถมยังยกมาจ่อที่ปากเธอ จนมารีอาขัดไม่ได้ ยอ
ป่วนรัก 14 - และ…อีกครั้ง Nc+ลี่คุนมองหญิงสาวที่ใบหน้าแดงระเรื่ออยู่ตรงหน้า ลมหายใจของเธอหอบรัวจนหน้าอกสวยกระเพื่อมตามเขารู้สึกพอใจเมื่อเห็นร่างบางของหญิงสาวสะท้านกับการกระตุ้นเบื้องต้น ก่อนจะโถมเข้าไปเชยปลายคางเธอให้เงยรับสัมผัสร้อนจากจูบเขาอีกครั้งหัวใจของมารีอาไหวสั่น เขาช่างไม่ปล่อยให้เธอได้มีโอกาสต่อต้านการกระทำอันรุ่มร้อนไปได้เลย“อื้อออ”บางสิ่งที่คับแน่นจนลี่คุนไม่สามารถทนไหว เขาถอดชั้นในออก มารีอายิ่งแทบจะกรี๊ดกับสิ่งที่เห็นตรงหน้า ไม่น่าเชื่อว่ามันจะเคยเข้าไปในร่างเธอเมื่อคืนนั้นสองขาหดกลับตามสัญชาตญาณ นี่เธอเป็นบ้าอะไรทำไมถึงยอมให้เขาล่วงเกินได้ง่าย ๆ แบบนี้ แค่เพียงเขาใช้แววตาคมกริบคู่นี้จ้องมอง มันก็ทำให้สติของเธอเผลอเคลิ้มไปอย่างนั้นหรือ“มะ ไม่เอาแล้ว” มารีอาถอยร่นเพราะความกลัว วันนี้เธอไม่ได้เมามายเหมือนวันนั้น จะมีก็แต่ความมึนงงจากการเวียนหัวเมื่อค่ำ ทำให้เหมือนจะควบคุมสติตัวเองไม่ค่อยได้“ทำไมครับ หืมมมม” ลี่คุนชะงักแต่สองมือยังรั้งขาของมารีอาไม่ให้เขยิบหนี“ฉะ... ฉันกลัวเจ็บ” ไม่รู้เพราะสติสตังเหลือน้อยหรืออย่างไร ทำให้เธอตอบออกไปแบบนั้นมุมปากของคนฟังอดไม่ได้ที
ป่วนรัก 15 - แหวนล่ะ“เมื่อคืนแกไปกับใครมาฮะ ถึงมาทำงานเอาซะตอนเที่ยงแบบนี้ รู้ไหมอีตาวศินเจ้าของโรงแรม T บอกฉันว่าแกไปกับเพื่อนเขา แล้วเพื่อนเขาเป็นใคร ? แล้วทำไมแกถึงไม่รับโทรศัพท์ฉันทั้งคืน ? แกรู้ไหมว่าฉันเป็นห่วงแกมากจนจะไปแจ้งตำรวจอยู่แล้ว ! ดีว่าอีตาวศินยืนกรานว่าเพื่อนของเขาเป็นคนดีมาก แล้วถ้าเกิดอะไรไม่ดีกับแก เขาจะเอาชื่อเสียงของเขากับชื่อเสียงโรงแรมมาประกันความปลอดภัยให้ โอ๊ยยย เหนื่อย พูดมาก ขอพักหายใจแป๊บ”แอนนี่ลากแขนมารีอาเข้าไปมุมลับตาบริเวณหน้าลิฟต์ของบริษัท ด้วยความที่เธอพูดรัวยิงคำถาม ทำให้ตัวเองหอบหายใจเหนื่อย จนต้องยกมือขึ้นมาพัดใบหน้าเพื่อดับสติอารมณ์ที่กำลังขึ้นอยู่ให้ลดลง“แกก็ถามฉันช้า ๆ สิ” มารีอาทำตาปริบ ๆ แบบคนสำนึกผิด มองแอนนี่เพื่อนรักที่เปลี่ยนมากอดอกเอียงคอมองตัวต้นเรื่องอย่างเธอ“มา ตอบมาทั้งหมดที่ฉันถามไปเมื่อกี้ ทีละข้อ เมื่อคืนแกไปกับใคร” แอนนี่จ้องตามารีอาเขม็ง“ไป... เอ่อ… ไปกับคนนั้นแหละ ที่เรากำลังตามหา” มารีอาตอบเสียงอ่อย“ใคร ? เขาเป็นใคร แล้วทำไมแกเพิ่งมาทำงานเอาป่านนี้ แล้วทำไมไม่รับโทรศัพท์ฉัน” แอนนี่ยังอดเป็นห่วงไม่ได้“เมื่อคืน คือ พอดีฉั
นี่ถ้าตอนนี้ลี่คุนสามารถอุ้มมารีอาเข้าห้องได้เขาคงทำไปแล้ว เพราะตอนนี้มารีอาแทบจะเดินตัวปลิวไปที่ห้องทำงานของเขา ส่วนลี่คุนเป็นคนหอบแฟ้มงานของเธอถือมาให้เองเสียทั้งหมดเขาจัดที่ทำงานให้มารีอานั่งที่โซฟาอย่างเอาใจ ก่อนจะเขยิบตัวไปนั่งใกล้ ๆ“ที่ทำงานคุณอยู่ตรงโน้นค่ะลี่คุน” มารีอาชี้ไปที่โต๊ะทำงานของเขา“ครับผมรู้ แต่หัวใจผมอยู่ตรงนี้นี่” ไม่พูดเปล่าเขากลับเขยิบตัวมาชิดขึ้นจนมารีอาเขยิบถอยไปจนสุดโซฟา“ละ ลี่คุน ไปทำงานต่อเดี๋ยวไม่เสร็จ”“งั้นขอแค่จูบได้ไหม จะได้มีแรง”“ไม่ได้ค่ะ มาร์ไม่เชื่อว่าแค่จูบแล้วคุณจะหยุด ไป – ทำ – งาน - ค่ะ” มารีอาเสียงแข็งจนลี่คุนหน้าจ๋อย“ก็ได้ครับ” น้ำเสียงตัดพ้อราวกับคนกำลังงอนอยู่ ในที่สุดเขาก็ยอมผละออกจากเธอ เดินซึมกลับไปที่โต๊ะทำงาน แถมยังทำท่าทางซึมกะทือเหมือนกับคนหมดแรง ทำเอามารีอาลอบมองแล้วแอบขำนึกถึงเมื่อก่อน แทบจะไม่เชื่อตัวเองเลยว่าเธอเคยกลัวเขามากจนไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้า แถมเวลาเขาเดินผ่านเธอยังไม่เคยแม้แต่จะปรายตามอง ใช่คนเดียวกันไหมนี่ กับผู้ชายมาดขรึมดูขี้เก๊กราวกับราชสีห์คนนั้น แต่ตอนนี้เขากลับ… เปลี่ยนเป็นคนละคนอย่างกับแมว^^~แต่งื้ออ ผู้ชา
ติ๊งง เสียงจาก Line ดังขึ้นมารีอารีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูพบว่าเป็นข้อความจากลี่คุน เธอถึงกับยิ้มเขินออกมา ไม่ถึงชั่วโมงเขาก็ไลน์มาหาเธอเสียแล้วลี่คุน > ตั้งใจทำงานนะครับคนดีมารีอา > ค่ะ รู้แล้ว คุณเองก็เหมือนกันลี่คุน > งั้นตอนเที่ยงไปกินข้าวด้วยกันนะครับมารีอา > ไม่ได้ค่ะ มาร์นัดกับแอนนี่เอาไว้แล้ว คุณพาน้องสาวคุณไปกินข้าวเถอะ เดี๋ยวเธอจะน้อยใจคุณอีกลี่คุน > ไม่ได้กินคุณ กินอะไรก็ไม่อร่อย เอ๊ย กินกับคุณ ผมพิมพ์ตกไปหน่อยมารีอา > 555 อดทนน้า อีกสามวันนะคะ❤️ลี่คุน > ผมว่าผมลงแดงก่อนแน่ ๆ T Tมารีอา > เว่อร์ ^^ ทำงานได้แล้วค่ะ ตั้งใจทำงานด้วยลี่คุน > งั้นบอกรักผมก่อนสิไม่งั้นผมไม่มีแรงทำงานมารีอา > …ลี่คุน > เร็ว ๆ สิ ห้ามเงียบ ไม่งั้นผมจะเดินไปฟังคุณพูดที่โต๊ะทำงานคุณตอนนี้เลยมารีอา > ค่าาาาา รักค่ะ ตั้งใจทำงานนะคะ ❤️ลี่คุน > ครับที่รักของผมมารีอาวางโทรศัพท์ลง อดยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่คนเดียวไม่ได้~~~~~ในช่วงบ่ายหลังจากที่ทุกคนกลับมาจากพักกลางวัน จู่ ๆ เลขานุการก็หอบงานแฟ้มใหญ่เอามาให้มารีอาถึงที่โต๊ะทำงานของเธอ“อะไรคะ”“งานของท่านประธานค่ะ ท่านสั่งเอามาให้คุณแก้ พอดีมันมีต
“สงสารยัยมาร์เนอะ โดนท่านเรียกไปคุยเกือบชั่วโมงยังไม่ออกมาอีก สงสัยโดนท่านดุหนักแน่ ๆ”“นั่นสิ เมื่อวานยัยมาร์ก็ไม่สบายอยู่ ไม่ใช่โดนท่านด่าจนเป็นลมเป็นแล้งไปแล้วล่ะ”เพื่อนร่วมงานต่างพากันจับกลุ่มพูดถึงมารีอาด้วยความเป็นห่วง จนกระทั่งเธอเดินออกมา ดวงตาที่บอบช้ำ รวมถึงจมูกที่แดงก่ำดูก็รู้ว่าเธอเพิ่งผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก ดูท่าแล้วเธอคงโดนท่านดุมาหนักมากเหม่ยหลินที่นั่งอยู่หน้าห้องกับเลขานุการ เมื่อเห็นสีหน้ามารีอายังอดยิ้มเยาะไม่ได้ เธอรีบเดินตรงไปหามารีอาที่กำลังเดินออกมาพอดี“น่าสงสารจัง นี่คงโดนพี่คุนดุมาสินะคะ แย่เลยเนอะ ตาบวมปูดเลยอะ”มารีอาหยุดชะงัก เธอพ่นลมหายใจออกจากปาก ก่อนหันขวับไปมองเจ้าของเสียง“ค่ะ แย่ แย่มาก” มารีอาตอบเรียบ ๆ แต่ภายในใจกำลังเดือดปุ ๆ~ ไม่รู้เมื่อไหร่ ยัยหน้าหวานนี่ถึงจะเลิกวุ่นวายกับเธอเสียทีนะ นี่ถ้าไม่ติดว่าเป็นน้องสาวคนสำคัญของลี่คุนแล้วละก็~“ก็นะ ทำไงได้ เพราะพี่ลี่คุนอะ เขาไม่ชอบคนโกหก คุณมาร์ก็ต้องทำใจหน่อยนะ ที่ต่อไปคงโกหกเขาไม่ได้อีกแล้ว ตัดใจเถอะนะคะ… สักพักเดี๋ยวก็ชิน” เหม่ยหลินยิ้มหวานแต่คำพูดดูสวนทางกับใบหน้า“ที่เมื่อกี้มาร์บอกว่าแย่ มา
“ไม่เอานะคนดี ไม่ร้องนะครับ ผมไม่แกล้งคุณแล้วผมขอโทษ” เขากอดพลางเอามือลูบผมคนตัวเล็กที่เอาแต่ร้องไห้ไม่ยอมหยุด“ฮึก ฮึก ละ แล้ว คุณไม่โกรธฉันเหรอคะ” มารีอาเงยหน้าขึ้นไปมองเขา หลังจากร้องไห้อย่างหนักหน่วงจนตัวเองเริ่มสงบแต่ยังคงมีเสียงสะอึกสะอื้นอยู่“โกรธเรื่อง ?”“ก็ ก็เรื่องที่ฉันปลอมตัวมาหลอกคุณ”“หึหึหึ เด็กโง่ หลอกยังไง หืมม หลอกแล้วให้ตัวเองมาเสียเปรียบผมเนี่ยนะ ผมสิมีแต่ได้กับได้ ได้ทั้งตัวได้ทั้งใจ แบบนี้ไม่เรียกว่าคุณหลอกผมนะ… แบบนี้เขาเรียกว่า… มีใจ คุณ… มีใจให้กับผม”“ใช่ซะที่ไหน… ฮึก ฮึก เกลียดที่สุด”“เกลียดเหรอ แต่ผมว่าแบบนี้คุณรักผมมากกว่านะ”“ไม่ใช่สักหน่อย ตะ แต่… คุณไม่โกรธจริง ๆ เหรอคะ” มารีอาจ้องมองเขาดวงตากลมโตคู่ใสที่ยังมีน้ำตาเปื้อนอยู่เต็มใบหน้าแต่สำหรับสายตาลี่คุนแล้ว ต่อให้มอมแมมแบบไหนก็ ~น่ารัก~“ก็โกรธ…”“เห็นมะ โกรธจริง ๆ ด้วย” มารีอาเหมือนน้ำตาจะเอ่อมาอีกรอบ“ผมโกรธ… โกรธตัวเองที่ไม่รู้ว่าภรรยาตัวเองอยู่ใกล้ ๆ แค่นี้ โกรธตัวเองที่รู้ช้าไปหน่อยเพราะไม่ทันได้สังเกตว่าเป็นคุณ แล้วก็เอ่อ… อาจจะโกรธคุณนิดหน่อยที่ไม่ยอมบอกผมตั้งแต่แรก ปล่อยให้ผมคิดถึงเวลาที่คุ
เฮือกกกกกกกกกมารีอาสะดุ้ง ในขณะที่กำลังยกโทรศัพท์ออกมาเพื่อปิดเครื่อง“คุณรู้ใช่ไหม การรับโทรศัพท์ขึ้นมาในระหว่างการประชุมเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ” เขาหมุนเก้าอี้หันมามองทางเธอด้วยสายตาตำหนิ“คือ ขอโทษค่ะ ฉันแค่จะหยิบมันมาปิดเครื่องไม่ได้จะรับสาย” มารีอาตอบเสียงอ่อย“เมื่อครู่คุณก็ไม่ได้ปิดเสียง จนดังรบกวนเพื่อนร่วมงาน แล้วตอนนี้คุณก็หยิบมันขึ้นมาดูในเวลาประชุม”“ขะ ขอโทษค่ะ”“จบการประชุมแล้ว ตามไปพบที่ห้องด้วย !”ทุกสายตามองที่มารีอาเป็นตาเดียว เพราะไม่เคยเห็นท่านประธานเรียกใครไปตักเตือนขนาดนี้ งานนี้ดูท่ามารีอาคงไม่พ้นโดยท่านประธานตำหนิหนักแน่ ๆ เหม่ยหลินได้แต่ยิ้มสะใจที่มารีอาโดนดุ ในขณะที่คนอื่น ๆ กลับรู้สึกเห็นใจที่งานเข้ามารีอาตั้งแต่เช้ามารีอาได้แต่ก้มหน้านิ่ง แทบจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่ไหว~ก็เพราะเขาไม่ใช่เหรอ ทำไมต้องเรียกเธอไปดุด้วย~ที่ห้องประธานบริษัทมารีอาที่ตามลี่คุนเข้ามา หลังจากการประชุมเสร็จสิ้น ในตอนนี้เธอได้แต่ยืนก้มหน้านิ่งอยู่ที่หน้าโต๊ะทำงานของเขา~หรือเธอควรบอกความจริงกับเขาตอนนี้ดี ไม่สิ นี่มันเวลางาน เรื่องส่วนตัวควรเอาไว้ทีหลัง ยังไงเสียเขาก็จำเธอไม่ได้อยู่ดี~“ว่าไ
“เร็วหน่อยมารีอา สายแล้ว เมื่อกี้ฉันก็มัวติดสายลูกค้าจนลืมดูเวลา เธอก็นะ ไม่เตือนฉันบ้างเลย”~อ้าว กลายเป็นความผิดของเธอไปอีก ตัวเองติดสายเพลินไม่ดูเวลาแต่กลับมาโทษเธอเสียอย่างนั้น~ มารีอาได้แต่นึกบ่นอยู่ในใจ แต่ที่ทำได้คือ“ขอโทษค่ะ มาร์ก็ไม่ทันดูเวลาเหมือนกัน”ทั้งสองพากันรีบกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปที่ห้องประชุม และแน่นอนเวลาเข้าประชุมสายแบบนี้ ทันทีที่เลื่อนประตูเปิดเข้าไป สายตาคนทั้งห้องหันมาจ้องมองเธอกับผู้จัดการทั้งคู่เป็นตาเดียวกันยิ่งลี่คุนไม่ต้องพูดถึง เขานั่งทำสีหน้าเคร่งขรึมอยู่หัวโต๊ะ มืออีกข้างของเขาจับอยู่ที่คาง ส่วนอีกข้างกำลังเอานิ้วเคาะโต๊ะอย่างเบา ๆเขาเงยหน้าขึ้นมาจ้องมองด้วยสายตาคมกริบ… พลันสายตาทั้งคู่ก็สบตากันโดยบังเอิญแต่ทว่า สายตาของลี่คุนที่มองเธอ กลับมองด้วยแววตาว่างเปล่าราวกับคนไม่รู้จักกัน มารีอาสบตาอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะรีบก้มหน้าลงไม่กล้าแม้สบตาเขาต่อ เธอเม้มปากบางแน่น ความน้อยใจก่อตัวขึ้นมาภายในใจอีกรอบ~ทำอย่างไรดี จะร้องไห้อีกแล้ว เขาจำเธอไม่ได้จริง ๆ ด้วย~“พวกคุณสองคนมาช้าไปห้านาที” เขาเอ่ยเสียงเรียบปนดุ“ขอโทษค่ะท่าน พอดีฉันติดลูกค้า ให้ผู้ช่วยคอยเตือนแต่เ
ที่บริษัท มารีอามาทำงานในสภาพเหนื่อยอ่อน เพราะหลังจากที่กลับมาจากคอนโดมิเนียมของแอนนี่ เธอก็คิดมากจนนอนไม่หลับเลยทั้งคืนแถมเช้านี้ยังต้องมาเจอลี่คุนที่กำลังเดินมากับคณะผู้ช่วยของเขาผ่านตรงที่เธอกำลังเดินมาอีกมารีอารีบหยุดยืน ได้แต่โค้งคำนับเขาอย่างที่เคยทำทุกครั้ง ไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นไปมอง~แต่… เขาจำเธอไม่ได้จริง ๆ หรือ~เสียงฝีเท้าเขาที่ก้าวตรงมาตามทางเดิน ทำเอามารีอาลุ้นด้วยหัวใจเต้นระทึก เขาจะจำเธอได้บ้างไหมนะ จวบจนกระทั่งเสียงฝีเท้าเดินผ่านไปราวกับไม่เห็นเธอยืนอยู่ตรงนั้นมารีอาได้แต่เงยหน้ามองแผ่นหลังเขาที่เดินจากไปด้วยสายตาปวดร้าว~เห็นไหม เขาจำเธอไม่ได้จริง ๆ ด้วย ไหนบอกว่ารักเธอไง ที่แท้เขาก็เป็นคนที่มองคนแค่เปลือกนอก~~มารีอาเธอควรบอกความจริงกับเขาแล้วตัดใจเสียตั้งแต่ตอนนี้ ไม่อย่างนั้นเธอคงถลำลึกไปมากกว่านี้ แบบที่จะถอนตัวถอนใจจากเขาไม่ได้~ม่านน้ำตาเอ่อขึ้นมาเงียบ ๆ ความน้อยใจแผ่ซ่านเข้ามาจนทำให้เธอรู้สึกจุกในอก ก่อนค่อย ๆ ยกมือเช็ดน้ำตาและเดินกลับไปที่ทำงานทันทีที่มาถึงโต๊ะทำงาน กะว่าวันนี้คงต้องโดนผู้จัดการจินด่าเธอแน่ ๆ เพราะอยู่ ๆ เมื่อวานเธอก็ทิ้งงานโดยไม่ได้
ในระหว่างทางกลับบ้าน ลี่คุนขับรถมาส่งมารีอาที่คอนโดมิเนียมของแอนนี่ตามที่เธอโกหกเขาไว้ แม้ลี่คุนจะพยายามเกลี้ยกล่อมให้คนรักของเขานอนค้างคืนด้วยกันที่นี่ แต่มารีอาก็ยืนกรานท่าเดียวว่าไม่ยอมค้างกับเขาเพราะถ้าขืนตกลงเธอก็คงไม่ได้พักอีกตามเคย แล้วอีกอย่างเธอเองก็รู้สึกเพลีย ๆ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่รู้ว่าช่วงนี้เป็นอะไร ทำไมเธอถึงรู้สึกเหนื่อยง่ายและง่วงนอนบ่อย ๆ แถมอารมณ์ก็ดูแปรปรวนผิดปกติมารีอาเอาแต่นิ่งเงียบตลอดทางไม่ยอมพูดอะไร จนลี่คุนสังเกตเห็น เขายื่นมือมากุมมือมารีอาเอาไว้ ได้แต่เหลือบหันไปมองเธอเป็นระยะเพราะว่าเขาขับรถอยู่“เป็นอะไรครับ หืม ดูเงียบ ๆ ไปเลย เหม่ยหลินทำอะไรให้คุณไม่สบายใจหรือเปล่า”“…”“บอกผมได้ไหม เราสองคนไม่ใช่คนอื่นกันแล้วนะครับ มีอะไรไม่สบายใจคุณต้องบอกผม”“…”“งั้นถ้าคุณยังเงียบแบบนี้ ผมจะไม่พาคุณไปส่งที่บ้านแล้ว ผมเป็นห่วงคุณ ผมไม่รู้ว่าคุณคิดมากเรื่องอะไร เพราะผมไม่อยากปล่อยคุณไว้แบบนี้คนเดียว”“มะ ไม่เอานะคะ ฉันจะกลับบ้าน” มารีอายอมหันไปพูดกับเขา เพราะถ้าขืนยอมค้างกับเขา แน่นอนคนอย่างลี่คุนคงไม่ได้ปล่อยให้เธอพักแน่ ๆ แถมเมื่อวานก็หยุดงานไปแล้วหนึ่งวัน ไ
“เอาละ งั้นถ้าไม่ติดใจอะไรกันก็ดีแล้ว พี่จะได้สบายใจ ตอนแรกพี่กะจะมาดุเราเต็มที่ ดีที่มายด์แฟนพี่ไม่ถือสา” ลี่คุนยกมือไปยีหัวเหม่ยหลิน “แล้วทีหลังอย่าทำอะไรแบบนี้อีก พี่ไม่ชอบ” เขาเพียงแค่ตำหนิเล็ก ๆ ก่อนจะพามารีอาเดินผ่านไป ทิ้งให้เหม่ยหลินยืนตัวชาอยู่ที่เดิม~พี่ลี่คุนคงไม่รู้สินะ ว่ายัยป้าแว่นนั่น คือพี่มายด์แฟนพี่ !!~ เหม่ยหลินนึกในใจพลางหันไปมองตามคนทั้งคู่ที่พากันเดินไปนั่งตรงโซฟา ด้วยสายตาที่เธอบอกไม่มีวันยอมแพ้ !“กินอะไรกันหรือยังคะ เหม่ยหลินทำอาหารที่เป็นของโปรดพี่คุนไว้หลายอย่าง แต่ไม่รู้ทำน้อยไปหรือเปล่า ไม่คิดว่าจะมีแขกพิเศษกะทันหัน เดี๋ยวเหม่ยหลินทำเพิ่มอีกสักอย่างสองอย่างดีกว่า”เหม่ยหลินเดินตามมาก่อนจะยิ้มหวานให้ ก่อนจะเชิญทั้งคู่ไปที่โต๊ะอาหาร แม้จะพยายามเอาใจพี่ชายที่รักสุดฤทธิ์ แต่ทว่ากลับเห็นเขาเอาใจแฟนตัวเองมากกว่าจวบจนทานอาหารมื้อเย็นเสร็จ มารีอาเข้าไปช่วยเหม่ยหลินล้างจานอยู่ในครัวสองคนสงครามประสาทก็เริ่มขึ้นทันที เมื่อปลอดลี่คุน“คุณเหม่ยหลินทำอาหารเก่งนะคะ อร่อยทุกอย่างเลย” มารีอาเริ่มหาหัวข้อมาสนทนาเพื่อไม่ให้รู้สึกว่าอึดอัดจนเกินไป“แต่คุณมายด์เก่งกว่าค่ะ”