ป่วนรัก 6 - สาวสวยที่หายไป
ลี่คุนออกมาจากห้องน้ำ ลำตัวยังคงมีหยดน้ำเกาะอยู่ตามแผงอก เขาสวมแค่ชุดคลุมสีขาว ในมือยังคงถือผ้าขนหนูผืนเล็กเดินเช็ดผมออกมา ตั้งใจว่าหลังจากอาบน้ำเสร็จเขาจะมาปลุกเธอให้ตื่น เพราะตัวเขาเองมีประชุมในเช้าของวันนี้
เมื่อเช้าที่เขาตื่นขึ้น เห็นเธอยังคงหลับด้วยท่าทางอ่อนเพลียก็รู้สึกสงสาร เพราะเมื่อคืนเขาเองก็ไม่ได้ระวังและไม่ได้ถนอมร่างกายของเธอเลยสักนิด เหมือนคนที่ได้เจอของถูกใจมาก พอได้แล้วก็ไม่อยากปล่อยวาง
ใบหน้าสวยของเธอซบลงที่อกอุ่นของเขา ลี่คุนยอมรับว่าเป็นอะไรที่รู้สึกดี... ดีมาก เขาบรรจงหอมที่หน้าผากเธออย่างนิ่มนวล ยิ่งเมื่อคืนได้รู้ว่า… เขาเป็นชายคนแรกของเธอ ความรู้สึกที่ได้ครอบครองผู้หญิงที่ถูกใจทำให้เขาไม่อยากจะปล่อยเธอ
การเผลอไผลไปกับอารมณ์โดยไม่ได้ป้องกัน ทำให้เขาเผลอปล่อยในไปหลายต่อหลายครั้ง ยังไงเสียเขาก็ตั้งใจรับผิดชอบเธออยู่แล้ว
เขาไม่ใช่ผู้ชายกะล่อนเสเพลทั่วไปที่ชอบเที่ยวสนุกกับผู้หญิงไปวัน ๆ เสียเมื่อไหร่ เขาเป็นคนที่ชอบคนยาก ยิ่งถ้าหากเจอผู้หญิงเป็นฝ่ายเข้าหา เขายิ่ง Say No เพราะคนอย่างเขาหากชอบใครแล้ว เขาชอบที่จะเป็นฝ่ายเข้าหาเองมากกว่า
ชีวิตที่ผ่านมา ลี่คุนมัวแต่ทุ่มเทให้กับเรื่องเรียนและเรื่องงานเป็นสำคัญ เขาเป็นคนที่ตั้งใจสูง มุ่งมั่น เขาอยากเก่งและอยากประสบความสำเร็จให้เหมือนพ่อกับพี่ชาย เพราะงั้นเขาจึงตั้งใจทำทุกอย่างด้วยความมุมานะอย่างเต็มที่
แต่สำหรับเรื่องผู้หญิง เขายอมรับว่านาน ๆ ทีจะได้เจอผู้หญิงที่ถูกใจแบบนี้ เธอดูมีเสน่ห์ สวยหวานและสดใส ทันทีที่เห็นเธอครั้งแรก เธอช่างเหมือนนางพญาหงส์ที่กำลังเดินเฉิดฉายสะกดสายตาเขา แต่พอแอบลอบมองเธอไปเรื่อย ๆ เธอกลับเป็นเหมือนนกหงส์หยกตัวเล็ก ๆ ที่ดูแล้วช่างน่ารักสดใสและมีเสน่ห์มากกว่า
ที่สำคัญจะว่าไป เธอช่างมีบุคลิกและท่าทางหน้าตาคล้ายกับคุณแม่ของเขา ‘มิริน’ ผู้หญิงที่ดูสวยหวานและอ่อนโยน
~ประโยคที่ว่า ผู้ชายมักจะชอบผู้หญิงที่มีความคล้ายแม่ตัวเอง เห็นจะจริงก็คราวนี้~
ลี่คุนเดินอมยิ้ม คิดถึงความสุขที่ได้ตักตวงจากหญิงสาวเมื่อคืน ก่อนเดินออกมาถึงที่นอนที่มีแต่ความว่างเปล่า…
ไม่เห็นหญิงสาวคนนั้น เธอหายไปไหนเสียแล้ว เขาก้มลงหยิบถุงเสื้อผ้าอีกถุงขึ้นมาดูที่วางตกอยู่ที่พื้น ก่อนมองไปรอบ ๆ พอจะเดาได้ว่าเธอคงรีบแต่งตัวและรีบออกไปในทันที เขายังไม่ทันรู้เลย… ว่าเธอชื่ออะไร เธอก็หายไปเสียแล้ว
ลี่คุนมองนาฬิกาพบว่าสายมากโข เขาผู้ซึ่งขึ้นชื่อว่าตรงต่อเวลาเป๊ะมากกับทุกเรื่อง ถึงกับต้องยกหูไปแจ้งเลขานุการ ให้เลื่อนการประชุมเป็นบ่ายโมงเพราะว่าติดธุระด่วน
นี่เรียกได้ว่าครั้งแรกของการทำงานที่เมืองไทยเลยก็ว่าได้ ที่เขาไม่รักษาเวลา จนลี่คุนต้องรีบแต่งตัวโดยทันที มัวแต่โอ้เอ้เพราะคิดถึงเธอคนนั้น เขาได้แต่ถอนหายใจ ที่เผลอให้ความสำคัญกับสิ่งอื่นก่อนเรื่องงาน
ก่อนออกไปจากห้อง ลี่คุนเหลือบไปเห็นแหวนเพชรวงเล็กที่หล่นอยู่บนหัวนอน
คง… เป็นของเธอคนนั้นสินะ
เขายกยิ้มที่มุมปาก พร้อมกับหยิบมันขึ้นมาดู นิ้วมือเรียวยาวของชายหนุ่มหมุนแหวนวงเล็กไปมา
เชื่อว่าเขาต้องได้พบเธออีกเป็นแน่
—————-
ที่บริษัท
ห้องผู้จัดการฝ่ายบัญชีบริหาร
“ขอโทษค่ะผู้จัดการ คือเมื่อเช้ามาร์ไม่ค่อยสบายเลยตื่นสาย” มารีอาหน้าแหย รีบโค้งคำนับขอโทษผู้จัดการ เพราะสายขนาดนี้ ยังไงแล้ว วันนี้เธอคงไม่ทันได้เข้าประชุมกับผู้จัดการด้วยแน่ ๆ
แต่… ตอนนี้ มันสิบโมงกว่าแล้วไม่ใช่เหรอ
“อา… ทำไมผู้จัดการยังอยู่ตรงนี้คะ ไม่เข้าประชุมหรือคะ”
มารีอาเงยหน้า ทำสีหน้าประหลาดใจพร้อมตั้งคำถามในสิ่งที่เธอสงสัย
“โชคดีของเธอมารีอา ท่านประธานติดธุระ ขอเลื่อนเป็นบ่ายโมง” ผู้จัดการเอ่ยเสียงเรียบ แม้ตอนเช้าจะอารมณ์เสียอยู่ไม่น้อยเพราะเธอโทร.ติดต่อมารีอาก็ไม่ได้ โทรศัพท์ของเธอถูกปิดเครื่องเอาไว้
อีกอย่างงานนี้ เธอตั้งใจจะมอบหมายให้มารีอาทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยพรีเซนต์งาน เพราะมารีอาเป็นคนเก่งและทำงานละเอียด ยิ่งถ้าการประชุมระดับนี้ กับท่านประธานคนนี้ ตัวเลขจะผิดพลาดไม่ได้เลยแม้แต่ 0%
“ไปเถอะรีบไปเตรียมพร้อม อย่าให้ผิดพลาดได้เลยแม้แต่นิดเดียว”
“ค่ะ ค่ะ ค่ะ รับทราบค่ะ มาร์เตรียมสรุปงานไว้ทั้งหมดเรียบร้อยค่ะ เหลือตรวจความพร้อมอีกรอบก็โอเคแล้วค่ะ” มารีอาขยับแว่นหนาพลางยิ้มกว้าง
“แล้วนี่มันหนาวมากหรือไง ใส่เสื้อปิดกระดุมมายันคอ หายใจออกหรือไงกัน” ผู้จัดการอดติงในความเชยของมารีอาไม่ได้
“อ้อ แฮะ แฮะ” มารีอาได้แต่ยิ้มแห้ง เธอชินแล้วกับการโดนกระแนะกระแหนเรื่องที่เธอเฉิ่มเชย เธอได้แต่หัวเราะแห้งแทนคำตอบ
ก็เธอมาทำงานไม่ได้มาเดินแฟชั่นนี่นา มารีอาคิด
ที่สำคัญที่วันนี้ ที่เธอต้องใส่เสื้อที่ปิดกระดุมสูงถึงคอมาแบบนี้น่ะเหรอ ก็เพราะอีตาคนเมื่อคืนสิ ไม่รู้อดอยากมาจากไหน ดูดเสียคอเธอเป็นจ้ำไปหมด แถมไม่ใช่แค่คอตรงอื่น ๆ ก็ด้วย ตอนอาบน้ำเธอเพิ่งสังเกตเห็น เรียกว่าทั้งเนินอกจ้ำแดงไปทั่ว ขนาดต้นขาด้านในยังไม่เว้น ไม่รู้ว่า... มันทำอะไรกับเธอบ้าง จำได้แค่ราง ๆ ถึงเรือนร่างที่ดูแข็งแกร่งกำยำกับซิกซ์แพคนั่นที่คร่อมร่างเธออยู่… ที่สำคัญบางความรู้สึกลึก ๆ …ทำไมถึงได้… รู้สึกดี
“มาร์ ! มาร์ ! มารีอา !!”
เสียงผู้จัดการดังขึ้น เรียกสติของมารีอาที่กำลังเหม่อลอยคิดถึงเรื่องเมื่อคืน
“อ๋า… ขา... อ้อ ค่ะ ค่ะ ค่ะ มาร์ออกไปทำงานก่อนนะคะ” มารีอาสะดุ้ง ก่อนยิ้มเจื่อนให้ผู้จัดการ รีบขอตัวออกไปทำงานในทันที
เธอรีบเปิดคอมพิวเตอร์เพื่อเตรียมความพร้อมในการทำงาน ก่อนยกมือขึ้นมาหาวด้วยความง่วง อีกทั้งยังรู้สึกอ่อนเพลีย ๆ จากเหตุการณ์เมื่อคืนไม่หาย
ไม่ทันไร แอนนี่เพื่อนรักที่อยู่ฝ่ายการตลาดก็เดินมาที่โต๊ะของมารีอา พร้อมเอากระเป๋าและโทรศัพท์ที่เธอลืมไว้เมื่อคืนมาให้
“หนีกลับบ้านได้ไงยัย มาร์ อะนี่ของแก ดีนะกลับออกไปแบบนั้น โดยทิ้งของกองไว้ที่โต๊ะแล้วไม่หาย”
แอนนี่บ่น พร้อมวางมือสองข้างเท้าไว้ที่โต๊ะของมารีอา
“เอ่อ... คือ คือว่า” มารีอาอึกอัก จะให้บอกได้ไงว่าเมา… เมามาก เมาจนเผลอไป one night stand กับชายแปลกหน้า
“ช่างมันเถอะยัยมาร์ แกมาทำงานไหวก็ดีแล้ว ว่าแต่ทำไมแกไม่แต่งตัวแบบที่ฉันสอนเมื่อคืนล่ะ ดูดิแต่งตัวเป็นคุณป้าอีกแล้วแกเนี่ย แล้วดูซิ ใครเขาติดกระดุมกันสูงขนาดนี้ มา ฉันแกะให้” แอนนี่บ่นพลางยื่นมือจะปลดกระดุมให้
“ไม่ ไม่ ไม่ต้อง ไม่ต้อง แฮะ แฮะ ขอบคุณ ฉันชอบแบบนี้” มารีอายิ้มแหย รีบยกมือห้าม ส่วนมืออีกข้างรีบยกมาปิดที่คอของตัวเอง ก็ถ้าเพื่อนเธอแกะกระดุมออกตอนนี้ก็เห็นหมดอะดิ หลักฐานรอยจ้ำแดงเต็มคอขนาดนี้
“มันเชยอะแก วันนี้นาน ๆ ทีแกจะได้เข้าไปประชุมใหญ่กับผู้จัดการแกไม่ใช่เหรอ แต่งตัวสวย ๆ หน่อยสิ เฮ้อ… งั้นเอานี่ ผ้าพันคอของฉัน”
แอนนี่ปลดผ้าพันคอของเธอมาผูกไว้ที่คอของมารีอาแทน พร้อมจัดแต่งให้เข้าที่สวยงาม เธอรู้ว่าเพื่อนเธอจริง ๆ แล้วเป็นคนสวยคนหนึ่ง แค่ไม่ชอบแต่งตัว ไม่ชอบแต่งหน้า ทั้ง ๆ ที่บ้านมารีอาก็พอมีฐานะ หลังจากพ่อแม่ของเธอตายก็ทิ้งสมบัติเก่าเอาไว้มาก แต่มารีอาก็เลือกใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย หรือจะว่าไปบางทีแอนนี่ก็แยกไม่ออก ระหว่างงกกับง่าย ^^ มารีอาเป็นแบบไหน
“ค่อยดูดีหน่อย” แอนนี่ยิ้ม “ว่าแต่อยู่ดี ๆ ท่านประธานเลื่อนประชุมได้ไงไม่รู้เนอะ ร้อยวันพันปีไม่เคยเลื่อนประชุมเลยนะ วันนี้มาแปลก สงสัย…” แอนนี่ทำสีหน้าเหมือนใช้ความคิด
“สงสัย... สงสัยอะไรเหรอ เอ… หรือว่าท่านไม่สบาย ท่านอาจไม่สบายก็ได้นะแกฉันว่า ท่านอะ ทำงานหนักเพราะเมื่อคืนขนาดฉันกลับไปแล้ว ฉันยังเห็นท่านประธานยังนั่งทำงานต่อ” มารีอาออกความเห็น นึกถึงตอนหัวค่ำก่อนที่เธอจะกลับบ้าน จนไปเจอท่านประธานก่อนกลับ
แอนนี่ส่ายหัวเชิงปฏิเสธความคิดของมารีอา ก่อนก้มตัวลง พร้อมยกมือป้องปากพูดเสียงกระซิบเบา ๆ “ยัยมาร์ จะว่าไป เมื่อคืนฉันเห็นคนคล้าย ๆ ท่านที่ผับด้วยนะ แต่ไม่แน่ใจ” ก่อนยกตัวออกมา เพราะเห็นมารีอาเอาแต่ขำโดยที่เธอยังพูดไม่จบดี
ป่วนรัก 7 - แค่…คล้ายๆภายในห้องประชุมใหญ่ ทุกแผนกต่างเตรียมความพร้อมอย่างดีในการประชุมครั้งนี้ แม้จะรู้สึกเกร็งกันอยู่บ้างเวลาประชุมกับท่านประธานจอมเนี้ยบอย่างลี่คุน เพราะแน่นอนว่าหากมีแผนกไหนหาข้อมูลและเตรียมพร้อมไม่ดี ต้องโดนลี่คุนไล่ต้อนคำถามจนไปไม่เป็นเป็นแถว ๆ สุดท้ายก็โดนลี่คุนดุ แถมโดนให้สรุปงานมาใหม่อีกรอบจนกว่าเขาจะพอใจยิ่งโดยเฉพาะ หากเป็นงานที่สัมพันธ์กับตัวเลขแล้ว ไม่ว่าจะเป็นยอดขาย สถิติ หรือบัญชี จะผิดไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียวสำหรับลี่คุนแล้วทุกอย่างความผิดพลาดต้องเป็นศูนย์ !การประชุมหฤโหดเริ่มขึ้นตั้งแต่บ่ายโมง ยันตอนนี้สี่โมงยังไม่เสร็จสิ้น หลายแผนกเริ่มปาดเหงื่อ ผิดกับแอร์ที่เย็นจัดของภายในห้อง แต่ยังไม่เท่าภายในใจของแต่ละคนที่ร้อนกว่าลี่คุนแทบไม่สังเกตเห็นเลยว่า ภายในห้องกว้างของห้องประชุมที่มีบรรดาผู้จัดการและผู้ช่วยของแต่ละแผนกมากันครบ มีมารีอานั่งตัวลีบอยู่ด้านหลังผู้จัดการของเธอ เธอคอยทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยเตรียมความพร้อมในการพรีเซนต์ครั้งนี้ จะว่าไปงานนี้มารีอาก็แทบจะทำเองเตรียมเองเกือบเสียทั้งหมด ส่วนผู้จัดการก็มีหน้าที่แบบที่ชาวบ้านทั่วไปเรียก ‘เอาหน้า’ เธอถ
ป่วนรัก 8 - ประธานขี้เก็กลี่คุนเดินสีหน้าเคร่งขรึมลงจากลิฟต์มายังลานจอดของผู้บริหาร เขาขึ้นมานั่งในรถที่มีคนขับรถเปิดประตูรอรับไว้เตรียมพร้อม ก่อนจะนึกฮึดฮัดโมโหอยู่ในใจฮึ่ม !! ประธานขี้เก๊กงั้นหรอ !! ผู้หญิงคนนั้นช่างกล้าบังอาจมานินทาเขาแบบนี้ !!ไม่ทันที่ความสบอารมณ์จากที่โดนพนักงานกล่าวถึงในทางไม่ดีจะหายไป เสียงโทรศัพท์จาก วศิน เพื่อนรักโทร.เข้ามา ทำให้ลี่คุนกดรับสายอย่างอารมณ์ไม่ดีนัก“มีอะไร !”เสียงเคร่งขรึมจากปลายสาย ทำให้วศินชะงักไปชั่วครู่ด้วยความแปลกใจ“เป็นไงอารมณ์ไม่ดีเหรอไอเคน เสียงเข้มใส่กูเชียว”“เคนไหนของมึง กู ชื่อ คุน”“เออ ๆ กูรู้ แต่กูเรียกมึงว่าเคนมาจะห้าหกปีแล้วไม่ชินไงวะ”“เออ ไม่ชิน ไม่ใช่ชื่อที่พ่อแม่กูตั้งให้ ยังไงกูก็ไม่ชิน”“เรื่องมากฉิบ เฮ้อ เออช่างมัน เข้าเรื่องดีกว่า” เสียงวศินอารมณ์ดีขึ้นอย่างคนอยากรู้อยากเห็น “เออนี่ ไอเคน ไหนเล่าสิ เมื่อคืนมันเป็นไงมาไงวะ เห็นว่าคนของกูที่เอาเสื้อผ้าไปให้มึงกับผู้หญิงคนนั้น บอกกูว่าไปยืนรอมึงตั้งแต่ตีสามกว่ายันเช้า กว่ามึงจะเห็นข้อความจากไลน์กูแล้วเปิดประตูออกไปเอาชุด”ลี่คุนพอเจอคำถามตรง ๆ แบบนี้จากวศิน ทำให้เขาคล
ป่วนรัก 9 - ถอนหมั้นมารีอาตื่นมาทำงานแบบสะโหลสะเหล ไหนจะคิดมากเรื่องที่ตัวเองเสียตัวให้กับชายแปลกหน้า ไหนจะคิดมากเรื่องที่ต้องหาแหวนหมั้นเพื่อไปคืนอนิรุตเพื่อถอนหมั้นแต่เมื่อมาถึงที่ทำงาน เธอกลับต้องมาประสาทเสียอีก เพราะพอมาถึงที่ทำงาน ดันมาเจออนิรุตมาดักรอพบเธอที่หน้าตึก จนเธอต้องลากเขาขึ้นลิฟต์ไปคุยที่ลานจอดรถด้านหลังของอาคารที่ไม่ค่อยมีผู้คนบริเวณหน้าลิฟต์ชั้นเก้ามารีอายังคงกอดอกแน่น สายตามองคู่หมั้นหนุ่มด้วยแววตาเฉยชา“ทำไมมาร์ไม่รับสายพี่เลย เป็นอะไรหรือเปล่า” อนิรุตพยายามเอื้อมมือมาแตะมารีอา แต่เธอก็รีบเบี่ยงตัวหลบไม่ให้เขาจับตัวของเธอได้เขารู้สึกผิดสังเกตที่มารีอาไม่รับสายเขา ทั้ง ๆ ที่เขาพยายามโทร.หาเธอตั้งหลายหน ไหนจะเช้าของวันนั้นที่เขาออกมาพร้อมลูกพีช แต่เห็นบางอย่างที่ผิดปกติ เมื่อชุดสีแดงของลูกพีชไปตกอยู่หน้าห้องนอน อนิรุตจำได้ว่าตอนถอด เขาถอดชุดของลูกพีชตั้งแต่หน้าประตู แต่ทำไมตอนเช้าถึงมากองอยู่ที่หน้าห้องนอนของเขาได้ และเขาสงสัยว่าบางทีอาจจะเป็นมารีอาที่เข้ามาแต่ก็ยังไม่แน่ใจ“มาร์ไม่ได้เป็นอะไร เพียงแต่มาร์กำลังคิดว่ามาร์อยากจะถอนหมั้น” มารีอาบอกความคิดของเธอทันท
ป่วนรัก 10 - จุด จุด จุด“แกน่ะนะ จูบกับท่านประธาน”แอนนี่ร้องเสียงหลง ก่อนจะมองซ้ายมองขวาแล้วทำเสียงเบาลง เมื่อเห็นสายตาดุของมารีอาเนื่องจากเวลานี้เป็นตอนเที่ยง มารีอาจึงชวนแอนนี่เพื่อนรักออกมาหาอะไรกิน พร้อมทั้งเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าให้เพื่อนฟัง“ชู่ เบา ๆ สิแก ฉันบอกแล้วไงว่ามันเป็นอุบัติเหตุ” มารีอาปรามเพื่อนให้ทำเสียงเบาลง“แล้วเป็นไง รู้สึกดีปะ” แอนนี่ทำตาเล็กตาน้อยยิ้มแซว“ดีกับผีสิ แค่ปากกระแทกกัน ปากไม่เจ่อก็ดีเท่าไรแล้ว” มารีอาคว่ำปากนึกถึงเหตุการณ์เมื่อเช้า ยังรู้สึกอึดอัดไม่หาย“เฮ้ยยแก แต่ที่แกจูบอะ นั่นประธานลี่เชียวนะ แต่จะว่าไป ประธานลี่อะหล่อมากนะแก อายุก็ยังน้อย ทั้งหล่อ ทั้งรวย ทั้งเก่ง ใครได้ไปคงสบายไปทั้งชาติ แกนี่โคตรโชคดี ได้จุ๊บกับท่านด้วย” แอนนี่ยิ้มกริ่ม ทำท่าทางฝันหวาน“ตรงไหน โชคดีตรงไหน ก็บอกแล้วว่าแค่ปากกระแทกกัน คนขี้เก๊กแบบนี้ ถ้าใครได้ไปคงจะอึดอัดไปทั้งชาติละสิไม่ว่า แกก็ดูเขาทำงานสิ เป๊ะเว่อร์ขนาดนั้น ทั้งทรงผมงี้ ทั้งการแต่งตัวงี้ เนี้ยบซะจน ไม่รู้ว่าเป็นเกย์หรือเปล่า” มารีอาส่ายหน้า“เออ ๆ ช่างมันเหอะ ถ้าเกย์หล่อขนาดนี้ฉันก็เอา จะทำให้ลืมผู
ป่วนรัก 11 - ตามหาที่โต๊ะทำงานของมารีอา หลังจากที่เธอแยกกับแอนนี่ที่เพิ่งกลับเข้าทำงานในตอนบ่าย มารีอาหยิบถุงยาขึ้นมาบนโต๊ะ ก่อนจะเอามือล้วงเข้าไปเพื่อหยิบกล่องยาออกมา แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่กล้าหยิบ เมื่อเห็นพนักงานคนอื่นที่ยังเดินไปมาผ่านโต๊ะทำงานของเธอ สุดท้ายเธอได้แต่รอจนปลอดคนเตรียมจะหยิบยาออกมาออก ผู้จัดการก็ดันเรียกเธอเสียก่อน จนมารีอาต้องรีบเก็บถุงยาเข้าไปในลิ้นชักโต๊ะทำงาน ก่อนเข้าไปพบผู้จัดการของเธอ“ค่ะ ผู้จัดการ เรียกมาร์หรือคะ”“เธอลืมอะไรหรือเปล่า ว่าวันนี้บ่ายสองเรามีประชุมกันต่อ”“ประชุมต่อ ! อ๋อ ๆ ใช่ค่ะ” มารีอาลืมเสียสนิท เพราะเรื่องวุ่น ๆ ที่ประเดประดังเข้ามา ทำให้เธอลืมไปเสียสนิท ในตอนเช้าเธอก็เข้างานสาย เพราะมัวเจอตาอนิรุตคู่หมั้น แถมยังติดอยู่ในลิฟต์กับท่านประธาน พอมาถึงโต๊ะก็มัวแต่เคลียร์งานที่ค้างอยู่ จนลืมไปเลยว่ามีประชุมต่ออีกรอบแต่สติสตังตอนนี้ของมารีอาแทบจะเป็นศูนย์ เรื่องราวหลายอย่างเหมือนมันรุมกระหน่ำเธอทีเดียวภายในระยะไม่กี่วัน ต้องมาเจอคู่หมั้นนอกใจ แถมตัวเองก็เมาจนนอนกับใครมาไม่รู้ อาการอ่อนเพลียยังไม่ค่อยหายดี แต่ก็ต้องรีบมาทำงานมาเจอประชุมหฤโหดทำให้เ
ป่วนรัก 12 - เป็นผม“ไม่ทราบว่ารถทะเบียน 888 สีดำคันนี้ของคุณผู้หญิงไหมครับ”พนักงานชายคนหนึ่งทำทีท่าเดินมาหาสองสาวด้วยสีหน้าร้อนใจ จนแอนนี่กับมารีอาหันมามองหน้ากันด้วยความสงสัย“ชะ ใช่ค่ะ ทำไมเหรอ”“พอดีมีคนถอยรถไปเฉี่ยวรถคุณผู้หญิงน่ะครับ”“หาาา จอดมิดชิดขนาดนั้น ชนได้ไง อ๋อ… เอ่อ… ได้ค่ะได้ เดี๋ยวออกไปดูเลย พวกเรากำลังจะกลับกันพอดี” แอนนี่ตกใจรีบคว้ากระเป๋าก่อนจะนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้จ่ายเงิน“งั้นแกออกไปดูรถแกก่อนเลย ฉันเคลียร์บิลตรงนี้เอง เดี๋ยวฉันว่าจะไปเข้าน้ำก่อนกลับด้วย เสร็จแล้วเดี๋ยวตามแกออกไป” มารีอาพยักพเยิดบอกเพื่อนให้รีบไป ส่วนตัวเองจะอยู่เคลียร์ค่าใช้จ่ายตรงนี้“ไม่เอาอะ ไปด้วยกันดีกว่า เผื่อแก…”“เออน่า ฉันไม่ใช่เด็ก ๆ เดี๋ยวตามออกไป” มารีอายิ้มพลางโบกมือไล่แอนนี่จึงยอมเดินตามพนักงานออกไป แม้จะแอบห่วงเพื่อนอยู่ก็ตามทีจนต้องหันหลังกลับมามองบ่อย ๆแปลกที่พอมาถึง รถของเธอกลับจอดอยู่ปกติจนแทบไม่เป็นอะไรเลย“อ้าวน้องคะ ไหนบอกว่ามีรถถอยมาชนรถพี่”“อา ขอโทษครับ สงสัยผมจะจำผิดคน” พนักงานรีบโค้งคำนับขอโทษก่อนจะขอตัวไปทันที ทิ้งแอนนี่ให้ยืนงง“จำผิด ? มีงี้ด้วย บ้าหรือเปล่า” แ
ป่วนรัก 13 - อีกครั้งมารีอารีบยกผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวอีกครั้ง ภายในใจเต้นระทึก เมื่อนึกว่า… ตอนที่เธอยังไม่ได้สติเขาจะ…“คะ คุณ คุณทำอะไรฉัน”ลี่คุนยกชามข้าวต้มเดินมาจากในครัวก่อนวางไว้ที่หัวเตียง“ผมไม่ได้ทำอะไร” เขาตอบหน้าตาย“แล้วทำไมฉันถึงได้ เอ่อ…” มารีอาก้มลงมองที่เสื้อผ้าตัวเองแทนคำถาม“ก็คุณเป็นลม เพื่อนผมที่เป็นหมอบอกว่าเสื้อผ้าที่คุณสวมอยู่น่าจะอึดอัด ผมก็เลย…”“คุณก็เลย… อา”“ทำไมล่ะ เราเคยนอนด้วยกันมาแล้วนี่ อีกอย่างตัวคุณทั้งตัว ผมก็สัมผัสมาหมดแล้วด้วย ทุกส่วน”เฮือกกกก มารีอาเหมือนจะเป็นลมอีกรอบทำไมต้องย้ำด้วย ทุกส่วน !“กินข้าวต้มก่อนสิ มาผมป้อน” ลี่คุนเดินมานั่งข้าง ๆ พร้อมยกชามข้าวต้มมาใกล้ เตรียมจะป้อน“มะ ไม่เป็นไร ไม่หิว”ครืดดดดด เสียงท้องร้องของมารีอาดังอีกครั้ง ราวกับแกล้ง จนทำให้ลี่คุนอดหัวเราะไม่ได้ เพราะเธอดูน่ารักและไร้เดียงสากว่าที่เขาคิดไว้ ยิ่งเวลาที่เขาเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้เธอเมื่อกี้หน้าใส ๆ ของเธอ น่ารักกว่าตอนแต่งหน้าเป็นไหน ๆ“ไม่เอาน่าอย่าดื้อ มาผมป้อน อ้าปากเร็ว อ้ามม” เขาตักข้าวต้มขึ้นมาพร้อมกับทำท่าเป่า แถมยังยกมาจ่อที่ปากเธอ จนมารีอาขัดไม่ได้ ยอ
ป่วนรัก 14 - และ…อีกครั้ง Nc+ลี่คุนมองหญิงสาวที่ใบหน้าแดงระเรื่ออยู่ตรงหน้า ลมหายใจของเธอหอบรัวจนหน้าอกสวยกระเพื่อมตามเขารู้สึกพอใจเมื่อเห็นร่างบางของหญิงสาวสะท้านกับการกระตุ้นเบื้องต้น ก่อนจะโถมเข้าไปเชยปลายคางเธอให้เงยรับสัมผัสร้อนจากจูบเขาอีกครั้งหัวใจของมารีอาไหวสั่น เขาช่างไม่ปล่อยให้เธอได้มีโอกาสต่อต้านการกระทำอันรุ่มร้อนไปได้เลย“อื้อออ”บางสิ่งที่คับแน่นจนลี่คุนไม่สามารถทนไหว เขาถอดชั้นในออก มารีอายิ่งแทบจะกรี๊ดกับสิ่งที่เห็นตรงหน้า ไม่น่าเชื่อว่ามันจะเคยเข้าไปในร่างเธอเมื่อคืนนั้นสองขาหดกลับตามสัญชาตญาณ นี่เธอเป็นบ้าอะไรทำไมถึงยอมให้เขาล่วงเกินได้ง่าย ๆ แบบนี้ แค่เพียงเขาใช้แววตาคมกริบคู่นี้จ้องมอง มันก็ทำให้สติของเธอเผลอเคลิ้มไปอย่างนั้นหรือ“มะ ไม่เอาแล้ว” มารีอาถอยร่นเพราะความกลัว วันนี้เธอไม่ได้เมามายเหมือนวันนั้น จะมีก็แต่ความมึนงงจากการเวียนหัวเมื่อค่ำ ทำให้เหมือนจะควบคุมสติตัวเองไม่ค่อยได้“ทำไมครับ หืมมมม” ลี่คุนชะงักแต่สองมือยังรั้งขาของมารีอาไม่ให้เขยิบหนี“ฉะ... ฉันกลัวเจ็บ” ไม่รู้เพราะสติสตังเหลือน้อยหรืออย่างไร ทำให้เธอตอบออกไปแบบนั้นมุมปากของคนฟังอดไม่ได้ที
ทุกคนรัวถามเธอชนิดพูดเออตอบเอง แอนนี่ได้เพียงแต่พูดอ้าปากค้างเพราะพูดอะไรไม่ทัน ก่อนทุกคนจะเห็นท่านประธานลี่หานเดินมาที่แผนก ทำให้ทุกคนต้องหยุดคุยกันแล้วรีบก้มหน้าคำนับท่าน แต่เขากลับมาหยุดยืนตรงที่แอนนี่ยืนอยู่“เก็บของเสร็จหมดหรือยัง”“เสร็จแล้วค่ะ ของแอนนี่มีไม่เยอะ”“นี่กาแฟของโปรดเรา พี่ให้คนลงไปสั่งมาให้” เขาพูดพลางส่งแก้วน้ำในมือมาให้ นี่แค่ได้ยินเธอคุยกับมารีอาว่าอยากกินเฉย ๆ ก็รีบหามาให้ เล่นเอาใจกันเสียขนาดนี้ ไม่หลงก็แย่แล้ว“แล้วไม่รอแอนนี่ลงไปสั่งเองล่ะคะ ถือมาให้ถึงที่นี่ทำไม”“ก็เห็นเมื่อกี้บอกว่าอยากกินไม่ใช่เหรอ พี่กลัวน้ำแข็งมันละลายเลยรีบเดินเอามาให้”“ไม่เห็นพี่หานต้องทำถึงขนาดนี้เลยนี่คะ” แอนนี่ยิ้มเขิน“ไหนของมีอะไรบ้าง มีอะไรให้พี่ช่วยถือไหม”“ไม่เป็นไรค่ะ แค่นี้เอง”“อืม งั้นเดี๋ยวพี่ให้ผู้ช่วยยกของเราเอาไปไว้ที่รถดีกว่า”“ได้ค่ะ ขอบคุณนะคะ”เธอส่งยิ้มให้เขาในขณะที่เขาก็ยิ้มอ่อนโยนกลับมาที่เธอ ภาพที่ทุกคนมองเห็นประหนึ่งว่ามีไฟสปอตไลต์ฉายส่องลงมาที่คนทั้งคู่แล้วพวกเธอและเขาเหล่านั้นเป็นตัวประกอบ~อย่าบอกนะว่า~ ทุกคนเริ่มส่งสายตามองหน้ากันไปมาเลิ่กลั่ก“ขอบคุณทุก
ผู้จัดการจินพูดรัวมาก รัวจนทุกคนเงียบสนิท เพราะพูดแทรกไม่ทัน ในขณะที่ผู้จัดการจินก็ไม่ได้สนใจยกมือขึ้นมาเช็ดน้ำตาป้อย ๆ ตอนมารีอาอยู่กลับไม่เคยทำดีต่อเธอ พอไม่มีเธอขึ้นมา ก็นะ… เลยรู้ซึ้งถึงคุณค่าสิ้นเสียงของผู้จัดการจิน ตามด้วยเสียงเริ่มฮือฮาเพราะเริ่มคล้อยตามเพราะรู้สึกสงสารมารีอาขึ้นมาแต่ทว่า จู่ ๆ ผู้หญิงสวยคนนั้นกลับผละแขนจากลี่คุน แล้วเดินเข้ามาสวมกอดผู้จัดการจิน ท่ามกลางความตะลึงของทุกคน“มาร์ก็คิดถึงผู้จัดการจินนะคะ”~เอ๊ะ ! เสียงคุ้น ๆ~ผู้จัดการรีบเช็ดน้ำตา ในขณะที่มารีอาขยับตัวออกจากอ้อมกอด ผู้จัดการจินเริ่มเพ่งมองใบหน้าของมารีอาอย่างชัด ๆ“มาร์ มารีอา นี่ นี่ คือมารีอาจริง ๆ เหรอ”“ว่าไงครับ จะลาออกอีกไหม ?” ลี่คุนถามย้ำอีกรอบด้วยใบหน้ายิ้ม ๆ“คะ คือ คือว่า… โอยจะเป็นลม” ...ในขณะที่ฝ่ายการตลาด ไม่รู้ว่าที่ข้างล่างเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น เพราะพนักงานบางส่วนโดยเฉพาะที่ตำแหน่งต่ำลงมาก็ไม่ได้ลงไปต้อนรับทั้งหมดเนื่องจากต้องจำกัดพื้นที่“เฮ้อ คิดถึงยัยแอนจังเมื่อไหร่จะกลับมาน้า” เจ้อาร์ตบ่นพึมพำในขณะที่คนน้ำแข็งในแก้วกาแฟคาปูชิโน่เย็นที่ถืออยู่ในมือไปมา ยิ่งเป็นเครื่องดื่มกาแฟ
แต่อย่างน้อย วันนี้ก็ไม่มีแล้ว …มารีอาสาวพนักงานบัญชีที่ใส่แว่นหนา ๆ หน้าจืด ๆ คนที่ขี้เกียจแต่งหน้าแล้วใช้คำว่างานเยอะเอาแต่เฝ้าอยู่หน้าคอม คนเฉิ่ม ๆ ที่สวมเสื้อตัวโคร่ง ๆ ชอบทาแค่แป้งฝุ่นกับลิปมันมาทำงาน ตอนนี้เธออยู่กับเจ้าแม่สายแซ่บอย่างแอนนี่ เลยถูกจัดการแปลงโฉมเพื่อนเบา ๆ ด้วยการแต่งหน้าอ่อน ๆ รับกับใส่คอนแทกต์เลนส์สีน้ำตาลเข้ม ผมที่เคยมัดเรียบจนตึงเป๊ะ ถูกปล่อยมันออกมาให้เห็นความเงางามจนเหมือนเธอเป็นเคลือบมาอย่างไรอย่างนั้น ยิ่งผมดำเงาของเธอในตอนนี้ตัดกับสีผิวขาว ๆ ของมารีอา ดูผ่าน ๆ แบบไม่สังเกตดี ๆ ราวกับคนละคนกับสาวแว่นคนนั้นอย่างลิบลับแต่กลับกัน สาวแสบอย่างแอนนี่ที่ชอบใส่กระโปรงสั้นแค่คืบ หรือถ้ามีตรงไหนพอจะโชว์ได้เธอจะต้องใส่วับแวม ๆ อยู่เสมอ กลับโดนว่าที่เจ้าบ่าวหวงจนเธอต้องเปลี่ยนมาแต่งตัวมิดชิดขึ้น อย่างชุดรัดรูปเซ็กซี่ ๆ โดนเขาสั่งเองให้เอาไปเก็บหมด แต่ถ้าเธออยากจะใส่ก็ได้นะ แค่แลกกับคำขู่พร้อมการกระทำจากลี่หานที่ว่า...ถ้าแต่งตัวเซ็กซี่ออกจากบ้านเมื่อไหร่… จะโดนเขาจับถอด ! ช่วยไม่ได้ พอเห็นเมียตัวเองแต่งตัวเซ็กซี่แล้วมันเกิดอารมณ์ เลยต้องขอจัดการเธอก่อนเบา ๆ เล่นเอาแ
ข่าวลือเรื่องบริษัทใหญ่ระดับเอเชียอย่าง Lee Group ว่าสองพี่น้องตระกูลลี่จะมีการจัดแต่งงานเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้ติดก็แค่… ทางสองพี่น้องตระกูลลี่ ต้องเดินทางกลับมาสู่ขอคนรักของพวกเขาที่เมืองไทยอย่างเป็นทางการก่อน จึงค่อยประกาศกำหนดวันแต่งงานให้ทราบโดยทั่วกันสำหรับเมืองไทย พนักงานหลาย ๆ คนทราบว่าประธานหนุ่มหล่ออย่างลี่คุนเป็นที่แน่ชัดอยู่แล้วว่าเจ้าสาวคือมารีอา พนักงานสาวบัญชีจอมเฉิ่ม กระนั้นหลายคนก็ยังคงจดจำภาพมารีอาสาวแว่นคนนั้นอยู่ดี หรือต่อให้บางคนที่เคยเห็นตอนเวลาทั้งคู่ออกเดตหรือตอนไปฝากท้อง ก็ยังไม่อยากจะเชื่อว่าผู้หญิงสวย ๆ คนคนนั้นคือมารีอาและแน่นอนข่าวลือก็คือข่าวลือ มักจะโดนแต่งแต้มจนเกินความเป็นจริงเสมอ โดยเฉพาะสาวออฟฟิศอย่างเรา ๆ เพราะต่อให้เรื่องมีความจริงแค่หนึ่งเดียว แต่พวกเราก็มีความพิเศษสามารถพูดต่อ ๆ กันจนคนสุดท้ายที่ได้ยิน สรุปเป็นตัวเลขที่ร้อยได้… พวกเราเก่ง ^ ^และก็ตามข่าวที่ลือกันสุดฮิตในตอนนี้ คือเรื่องที่ประธานลี่คบซ้อน ! และที่ประธานลี่เลือกมารีอาแต่งงานด้วยเพราะว่าเธอพลาดท้องแค่นั้นเอง ส่วนผู้หญิงสวย ๆ อีกคน ที่หลายคนเคยเห็นก็เป็นแค่คู่ขาผู้จัดการจินเองก็ไม่ต่
เพียงครู่ก็มีเสียงดนตรีบรรเลงมาจากด้านหลังของเรือยอชต์“อะ เสียงอะไรน่ะ” มารีอาหันขวับไปตามต้นเสียง เพราะอยู่ ๆ ก็มีเสียงไวโอลินบรรเลงดังขึ้นมา แถมอยู่ ๆ ก็มีกลุ่มคนแต่งกายด้วยชุดสูทเต็มยศ แต่กลับพากันยกกระถางดอกไม้เป็นพุ่ม ๆ มาวางตกแต่งบริเวณรอบ ๆ ด้านหน้าของเรือที่พวกเธอนั่งอยู่ จนสองสาวลุกขึ้นยืนแบบงง ๆ“อะไรอะแก” แอนนี่หันไปมองหน้ามารีอาด้วยความแปลกใจ ก่อนที่สองสาวจะหันรีหันขวางไปตามเสียงเพลงด้วยสีหน้าประหลาดใจ ไม่ช้า นักสีไวไอลินก็เดินบรรเลงออกมา พร้อมกับลี่หานและลี่คุนที่เปลี่ยนเป็นชุดสูทเรียบร้อย พาเดินออกมาพร้อมกับช่อดอกไม้ช่อใหญ่แอนนี่กับมารีอาถึงกับนิ่งอึ้งไปพักใหญ่ ก่อนที่แอนนี่จะคลี่ยิ้มออกมา เธอมองสบตากับลี่หานที่ส่งยิ้มมาให้เธอด้วยสายตาแวววาวส่วนมารีอาไม่ต้องพูดถึง แค่เห็นลี่คุนที่เดินออกมาพร้อมช่อดอกไม้ช่อใหญ่ เธอถึงกับยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเอง ดวงตาคู่ใสมีน้ำตาซึมเอ่อออกมาด้วยความตื้นตันสองหนุ่มยื่นช่อดอกไม้ให้พวกเธอรับไว้ ก่อนจะนั่งคุกเข่าตรงหน้า พร้อมยื่นกล่องแหวนเพชรให้กับสองสาว“แต่งงานกันนะครับ” สองพี่น้องตระกูลลี่เอ่ยขึ้นแทบจะพร้อม ๆ กัน แม้อะไร ๆ สำหรับพวกเขาแล
“นั่นสิเนอะ ฉันเองก็ไม่อยากจะเชื่อ จากผู้ชายที่ฉันไม่เคยคิดว่าจะเอื้อมถึง กลับมาเป็นคนที่ใกล้ตัวที่สุด แต่ก็นะเรื่องทั้งหมดก็เริ่มมาจากแกนั่นแหละแอนนี่ ถ้าวันนั้นแกไม่จับฉันแปลงโฉมจนไปเจอลี่คุน วันนี้ฉันกับเขาอาจจะแค่เดินสวนทางกันธรรมดา ๆ ในฐานะเจ้านายกับลูกน้องก็ได้”“แหมแก ก็ว่าไป ไม่หรอก… ระหว่างแกกับท่านประธานมันเป็นเรื่องของพรหมลิขิตต่างหากล่ะ ที่ทำให้แกกับประธานลี่ได้รักกัน”“ใช่เหรอ แต่ส่วนนึงก็มาจากแกนะ อืมแต่ก็นะ บางทีโชคชะตาหรือพรหมลิขิตอาจทำให้ฉันกับเขาได้รักกันจริง ๆ ก็ได้ แต่… ของแกไม่ใช่นะแอนนี่ แกกับพี่หานเป็นความตั้งใจล้วน ๆ ไม่ใช่พรหมลิขิต” มารีอายิ้มเมื่อนึกถึงเรื่องที่รู้มาจากลี่คุน“บ้าน่า… ถ้าไม่ใช่พรหมลิขิต แล้วจะเป็นความตั้งใจได้ยังไง”“ก็ตอนแรก ฉันก็นึกว่าเป็นเพราะว่าลี่คุนกับฉันอยากจับคู่ให้แกกับพี่หาน เขาถึงยอมแต่งกับแก ที่ไหนได้ มาตอนหลังถึงรู้ว่าเพราะพี่หานเขาแอบปิ๊งแกจากรูปในไอจีก่อนต่างหากล่ะ ไม่งั้นคนอย่างพี่หานจะยอมตกลงไปเมืองไทยทำไม”“ชิ ทำมาพูดไป” แอนนี่ยิ้มเขิน ถึงลี่หานเองก็เคยบอกว่าแอบชอบเธอจากไอจี “เอาจริงนะยัยมาร์ ฉันเองก็ไม่อยากจะเชื่อสักเท่าไรว
เกือบเที่ยงที่แอนนี่และลี่หานลงมากินข้าวมื้อแรกของวัน เล่นเอาทุกคนที่มานั่งรอรับประทานกลางวันมองหน้ากันไปมาแต่ก็อดอมยิ้มไม่ได้ นาน ๆ ทีจะเห็นคนอย่างลี่หานยอมสนใจอย่างอื่นมากกว่างาน และนาน ๆ ทีจะเห็นคนนิ่งขรึมแบบเขาออกอาการขนาดนี้แต่ถึงกระนั้น มิรินก็ยังอดเป็นห่วงลูกชายคนโตไม่ได้ เพราะไม่เคยเลยสักครั้งที่ลี่หานจะนอนตื่นสาย เขาเป็นคนที่ตื่นเช้าเอามาก ๆ มาแต่ไหนแต่ไร เธอเลยไม่รู้ว่าที่ลี่หานลงมากินข้าวเอาป่านนี้เพราะยังรู้สึกไม่สบายอยู่หรือเปล่า“ลูกยังรู้สึกเจ็บแผลอยู่หรือเปล่า ทำไมวันนี้ถึงลงมาช้านักล่ะลูก” เธอเอ่ยถามเองแต่กลับชะงักเอง เพราะเพิ่งสังเกตว่า ท่าทางในวันนี้ลี่หานกลับดูสบายดีและแข็งแรงกว่าที่คิด ยิ่งเห็นเขากำลังใช้มือข้างเดียวเลื่อนเก้าอี้ให้แอนนี่ ทั้ง ๆ ที่แขนอีกข้างยังใส่เฝือกอ่อนอยู่ แต่ทว่าเขาก็ยังพยายามเอาใจแอนนี่ มิรินถึงกับอึ้งไปนิดนึงก่อนจะคลายยิ้มออกมาแล้วส่ายหัวเบา ๆ“ได้กลับมานอนบ้านเลยนอนสบายไปหน่อยครับ เลยตื่นสาย” ลี่หานตอบด้วยน้ำเสียงสดใส ในวันนี้เขาช่างกระปรี้กระเปร่า ผิดกับเมื่อวานที่ดูเนือย ๆ อย่างคนอ่อนระโหยโรยแรงลิบลับ“แต่ผมว่าพี่ไม่ได้นอนเลยมากกว่า” ล
ครั้นจะไม่ขึ้นคร่อมบนร่างเขาก็คงไม่ได้แล้วสินะ แอนนี่ยกตัวขึ้นคร่อมบนร่างเขา เสื้อผ้าถูกถอดออกจนเหลือแต่ชั้นในลูกไม้สีดำที่ปิดบังหน้าอกที่อวบอิ่มแทบจะไม่มิดลี่หานยกยิ้มอย่างพอใจ เธอช่างเซ็กซี่และช่างดูเย้ายวนมากจริง ๆเธอก้มลงจูบเขาอย่างแผ่วเบา รู้สึกเขินจนรีบผละใบหน้าออกมา“แบบนี้เรียกว่าแค่ปากสัมผัสกันครับ ถ้าจูบต้องแบบนี้” เขารั้งศีรษะเธอให้ก้มลงจูบเขาอีกครั้ง เรียวลิ้นร้อนแทรกสัมผัสกันและกัน อกสวยที่แนบอยู่กับแผงอกของเขามันไม่ควรมีอะไรมาขวางกั้น เขาเอื้อมไปปลดตะขอชุดชั้นในของเธอจนหลุดออกลี่หานดันตัวขึ้นนั่ง ทั้ง ๆ ที่ร่างแอนนี่ยังคร่อมอยู่ เขาก้มใบหน้าฝังลงที่อกนุ่ม ก่อนใช้ปลายลิ้นดุนดันเม้มดูดที่ยอดอกสีชมพูสวยของเธอ“อื้อ” เสียงครางต่อต้านเมื่อถูกโลมเล้า เธอยกอกแอ่นให้เขาเชยชิมได้เต็มที่ สองมือเรียวเล็กขยำลงที่ผมสั้นของลี่หาน~เขากระตุ้นเก่งเกินไปแล้ว~สองมือแอนนี่เลื่อนมาที่ชั้นในชาย เมื่อสัมผัสได้ถึงบางสิ่งที่มันปะทุแน่น เขายกสะโพกขึ้นเล็กน้อยเพื่อให้เธอถอดมันออกได้ง่ายขึ้นเช่นเดียวกับเธอแอนนี่ค่อย ๆ กดสะโพกลงไปช้า ๆ“อ๊ะ” เกมนี้เธอเป็นฝ่ายเริ่มก็จริง แต่กลับรู้สึกหวาดหวั่นก
@ที่ห้องนอนแอนนี่ค่อย ๆ แง้มประตูก่อนชะโงกหน้าเข้าไปภายในห้อง ทว่า… เธอกลับไม่เห็นลี่หานอยู่ที่เตียง ทั้ง ๆ ที่กว่าเธอจะตามขึ้นมาก็เกือบสามสิบนาทีแล้ว~แปลกที่ไม่เห็นเขาอยู่ที่ห้อง~“ลี่หานคะ” แอนนี่เรียกพลางมองไปรอบ ๆ ห้อง ก่อนจะเห็นม่านชายประตูที่ระเบียงพลิ้วไหวอยู่ เธอค่อย ๆ ก้าวเข้ามาที่ริมระเบียง เห็นลี่หานที่ยืนหันหลังมองพระจันทร์อยู่ แอนนี่ถึงกับอมยิ้มออกมาแล้วเดินไปหยุดยืนอยู่ข้าง ๆ“พระจันทร์ที่นี่สวยจังนะคะ” เธอพยายามหาเรื่องชวนเขาคุยแต่ทว่าเขาไม่ตอบ ไม่แม้กระทั่งหันมามองหน้าเธอ แอนนี่อมยิ้ม นึกรู้ได้ทันทีว่าเขางอนเธอเป็นเด็กอีกแล้ว“ไหนบอกซิ งอนแอนนี่เรื่องอะไรน้า” เธอแกล้งเย้าพลางชะโงกหน้าเข้าไปมองคนงอนที่ไม่ยอมสบตาเธอด้วยซ้ำ“เอ จะทำยังไงดีเนี่ยให้หายงอน ก็ไม่รู้ว่างอนเรื่องอะไรเนอะ แอนนี่จะได้ง้อถูก”เงียบ ลี่หานยังนิ่ง นอกจากไม่ตอบรับกับท่าทีของแอนนี่เขาหมุนตัวหนีกลับเข้าไปในห้อง ทำท่าเหมือนไม่สนใจเธอเข้าไปอีก แอนนี่ถึงกับถอนหายใจก่อนจะเดินตามไป“โอเคค่ะ ถือว่าง้อแล้ว ถ้าไม่หายงอนก็ไม่ง้อแล้วนะ”“พี่จะอาบน้ำ” เสียงคนทำท่าปั้นปึ่งเมื่อครู่รีบพูดแทรกเข้ามาทันที เมื่อได้ย