เฮือกกกกกกกกกมารีอาสะดุ้ง ในขณะที่กำลังยกโทรศัพท์ออกมาเพื่อปิดเครื่อง“คุณรู้ใช่ไหม การรับโทรศัพท์ขึ้นมาในระหว่างการประชุมเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ” เขาหมุนเก้าอี้หันมามองทางเธอด้วยสายตาตำหนิ“คือ ขอโทษค่ะ ฉันแค่จะหยิบมันมาปิดเครื่องไม่ได้จะรับสาย” มารีอาตอบเสียงอ่อย“เมื่อครู่คุณก็ไม่ได้ปิดเสียง จนดังรบกวนเพื่อนร่วมงาน แล้วตอนนี้คุณก็หยิบมันขึ้นมาดูในเวลาประชุม”“ขะ ขอโทษค่ะ”“จบการประชุมแล้ว ตามไปพบที่ห้องด้วย !”ทุกสายตามองที่มารีอาเป็นตาเดียว เพราะไม่เคยเห็นท่านประธานเรียกใครไปตักเตือนขนาดนี้ งานนี้ดูท่ามารีอาคงไม่พ้นโดยท่านประธานตำหนิหนักแน่ ๆ เหม่ยหลินได้แต่ยิ้มสะใจที่มารีอาโดนดุ ในขณะที่คนอื่น ๆ กลับรู้สึกเห็นใจที่งานเข้ามารีอาตั้งแต่เช้ามารีอาได้แต่ก้มหน้านิ่ง แทบจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่ไหว~ก็เพราะเขาไม่ใช่เหรอ ทำไมต้องเรียกเธอไปดุด้วย~ที่ห้องประธานบริษัทมารีอาที่ตามลี่คุนเข้ามา หลังจากการประชุมเสร็จสิ้น ในตอนนี้เธอได้แต่ยืนก้มหน้านิ่งอยู่ที่หน้าโต๊ะทำงานของเขา~หรือเธอควรบอกความจริงกับเขาตอนนี้ดี ไม่สิ นี่มันเวลางาน เรื่องส่วนตัวควรเอาไว้ทีหลัง ยังไงเสียเขาก็จำเธอไม่ได้อยู่ดี~“ว่าไ
“ไม่เอานะคนดี ไม่ร้องนะครับ ผมไม่แกล้งคุณแล้วผมขอโทษ” เขากอดพลางเอามือลูบผมคนตัวเล็กที่เอาแต่ร้องไห้ไม่ยอมหยุด“ฮึก ฮึก ละ แล้ว คุณไม่โกรธฉันเหรอคะ” มารีอาเงยหน้าขึ้นไปมองเขา หลังจากร้องไห้อย่างหนักหน่วงจนตัวเองเริ่มสงบแต่ยังคงมีเสียงสะอึกสะอื้นอยู่“โกรธเรื่อง ?”“ก็ ก็เรื่องที่ฉันปลอมตัวมาหลอกคุณ”“หึหึหึ เด็กโง่ หลอกยังไง หืมม หลอกแล้วให้ตัวเองมาเสียเปรียบผมเนี่ยนะ ผมสิมีแต่ได้กับได้ ได้ทั้งตัวได้ทั้งใจ แบบนี้ไม่เรียกว่าคุณหลอกผมนะ… แบบนี้เขาเรียกว่า… มีใจ คุณ… มีใจให้กับผม”“ใช่ซะที่ไหน… ฮึก ฮึก เกลียดที่สุด”“เกลียดเหรอ แต่ผมว่าแบบนี้คุณรักผมมากกว่านะ”“ไม่ใช่สักหน่อย ตะ แต่… คุณไม่โกรธจริง ๆ เหรอคะ” มารีอาจ้องมองเขาดวงตากลมโตคู่ใสที่ยังมีน้ำตาเปื้อนอยู่เต็มใบหน้าแต่สำหรับสายตาลี่คุนแล้ว ต่อให้มอมแมมแบบไหนก็ ~น่ารัก~“ก็โกรธ…”“เห็นมะ โกรธจริง ๆ ด้วย” มารีอาเหมือนน้ำตาจะเอ่อมาอีกรอบ“ผมโกรธ… โกรธตัวเองที่ไม่รู้ว่าภรรยาตัวเองอยู่ใกล้ ๆ แค่นี้ โกรธตัวเองที่รู้ช้าไปหน่อยเพราะไม่ทันได้สังเกตว่าเป็นคุณ แล้วก็เอ่อ… อาจจะโกรธคุณนิดหน่อยที่ไม่ยอมบอกผมตั้งแต่แรก ปล่อยให้ผมคิดถึงเวลาที่คุ
“สงสารยัยมาร์เนอะ โดนท่านเรียกไปคุยเกือบชั่วโมงยังไม่ออกมาอีก สงสัยโดนท่านดุหนักแน่ ๆ”“นั่นสิ เมื่อวานยัยมาร์ก็ไม่สบายอยู่ ไม่ใช่โดนท่านด่าจนเป็นลมเป็นแล้งไปแล้วล่ะ”เพื่อนร่วมงานต่างพากันจับกลุ่มพูดถึงมารีอาด้วยความเป็นห่วง จนกระทั่งเธอเดินออกมา ดวงตาที่บอบช้ำ รวมถึงจมูกที่แดงก่ำดูก็รู้ว่าเธอเพิ่งผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก ดูท่าแล้วเธอคงโดนท่านดุมาหนักมากเหม่ยหลินที่นั่งอยู่หน้าห้องกับเลขานุการ เมื่อเห็นสีหน้ามารีอายังอดยิ้มเยาะไม่ได้ เธอรีบเดินตรงไปหามารีอาที่กำลังเดินออกมาพอดี“น่าสงสารจัง นี่คงโดนพี่คุนดุมาสินะคะ แย่เลยเนอะ ตาบวมปูดเลยอะ”มารีอาหยุดชะงัก เธอพ่นลมหายใจออกจากปาก ก่อนหันขวับไปมองเจ้าของเสียง“ค่ะ แย่ แย่มาก” มารีอาตอบเรียบ ๆ แต่ภายในใจกำลังเดือดปุ ๆ~ ไม่รู้เมื่อไหร่ ยัยหน้าหวานนี่ถึงจะเลิกวุ่นวายกับเธอเสียทีนะ นี่ถ้าไม่ติดว่าเป็นน้องสาวคนสำคัญของลี่คุนแล้วละก็~“ก็นะ ทำไงได้ เพราะพี่ลี่คุนอะ เขาไม่ชอบคนโกหก คุณมาร์ก็ต้องทำใจหน่อยนะ ที่ต่อไปคงโกหกเขาไม่ได้อีกแล้ว ตัดใจเถอะนะคะ… สักพักเดี๋ยวก็ชิน” เหม่ยหลินยิ้มหวานแต่คำพูดดูสวนทางกับใบหน้า“ที่เมื่อกี้มาร์บอกว่าแย่ มา
ติ๊งง เสียงจาก Line ดังขึ้นมารีอารีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูพบว่าเป็นข้อความจากลี่คุน เธอถึงกับยิ้มเขินออกมา ไม่ถึงชั่วโมงเขาก็ไลน์มาหาเธอเสียแล้วลี่คุน > ตั้งใจทำงานนะครับคนดีมารีอา > ค่ะ รู้แล้ว คุณเองก็เหมือนกันลี่คุน > งั้นตอนเที่ยงไปกินข้าวด้วยกันนะครับมารีอา > ไม่ได้ค่ะ มาร์นัดกับแอนนี่เอาไว้แล้ว คุณพาน้องสาวคุณไปกินข้าวเถอะ เดี๋ยวเธอจะน้อยใจคุณอีกลี่คุน > ไม่ได้กินคุณ กินอะไรก็ไม่อร่อย เอ๊ย กินกับคุณ ผมพิมพ์ตกไปหน่อยมารีอา > 555 อดทนน้า อีกสามวันนะคะ❤️ลี่คุน > ผมว่าผมลงแดงก่อนแน่ ๆ T Tมารีอา > เว่อร์ ^^ ทำงานได้แล้วค่ะ ตั้งใจทำงานด้วยลี่คุน > งั้นบอกรักผมก่อนสิไม่งั้นผมไม่มีแรงทำงานมารีอา > …ลี่คุน > เร็ว ๆ สิ ห้ามเงียบ ไม่งั้นผมจะเดินไปฟังคุณพูดที่โต๊ะทำงานคุณตอนนี้เลยมารีอา > ค่าาาาา รักค่ะ ตั้งใจทำงานนะคะ ❤️ลี่คุน > ครับที่รักของผมมารีอาวางโทรศัพท์ลง อดยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่คนเดียวไม่ได้~~~~~ในช่วงบ่ายหลังจากที่ทุกคนกลับมาจากพักกลางวัน จู่ ๆ เลขานุการก็หอบงานแฟ้มใหญ่เอามาให้มารีอาถึงที่โต๊ะทำงานของเธอ“อะไรคะ”“งานของท่านประธานค่ะ ท่านสั่งเอามาให้คุณแก้ พอดีมันมีต
นี่ถ้าตอนนี้ลี่คุนสามารถอุ้มมารีอาเข้าห้องได้เขาคงทำไปแล้ว เพราะตอนนี้มารีอาแทบจะเดินตัวปลิวไปที่ห้องทำงานของเขา ส่วนลี่คุนเป็นคนหอบแฟ้มงานของเธอถือมาให้เองเสียทั้งหมดเขาจัดที่ทำงานให้มารีอานั่งที่โซฟาอย่างเอาใจ ก่อนจะเขยิบตัวไปนั่งใกล้ ๆ“ที่ทำงานคุณอยู่ตรงโน้นค่ะลี่คุน” มารีอาชี้ไปที่โต๊ะทำงานของเขา“ครับผมรู้ แต่หัวใจผมอยู่ตรงนี้นี่” ไม่พูดเปล่าเขากลับเขยิบตัวมาชิดขึ้นจนมารีอาเขยิบถอยไปจนสุดโซฟา“ละ ลี่คุน ไปทำงานต่อเดี๋ยวไม่เสร็จ”“งั้นขอแค่จูบได้ไหม จะได้มีแรง”“ไม่ได้ค่ะ มาร์ไม่เชื่อว่าแค่จูบแล้วคุณจะหยุด ไป – ทำ – งาน - ค่ะ” มารีอาเสียงแข็งจนลี่คุนหน้าจ๋อย“ก็ได้ครับ” น้ำเสียงตัดพ้อราวกับคนกำลังงอนอยู่ ในที่สุดเขาก็ยอมผละออกจากเธอ เดินซึมกลับไปที่โต๊ะทำงาน แถมยังทำท่าทางซึมกะทือเหมือนกับคนหมดแรง ทำเอามารีอาลอบมองแล้วแอบขำนึกถึงเมื่อก่อน แทบจะไม่เชื่อตัวเองเลยว่าเธอเคยกลัวเขามากจนไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้า แถมเวลาเขาเดินผ่านเธอยังไม่เคยแม้แต่จะปรายตามอง ใช่คนเดียวกันไหมนี่ กับผู้ชายมาดขรึมดูขี้เก๊กราวกับราชสีห์คนนั้น แต่ตอนนี้เขากลับ… เปลี่ยนเป็นคนละคนอย่างกับแมว^^~แต่งื้ออ ผู้ชา
“ก็เมื่อกี้ที่มาร์ไม่ยอมคุณ มาร์เห็นหน้าคุณดูไม่ค่อยพอใจ มาร์ก็เลยนึกว่า…”“ผมไม่กล้างอนคุณหรอก ผมกลัวคุณไม่รักผมมากกว่า” เขายิ้มอ่อนโยนจนมารีอาแทบละลาย แล้วแบบนี้… เธอจะทรมานเขาได้อย่างไร“งั้น… ไม่ทำต่อให้เสร็จล่ะคะ ที่คุณทำค้างเอาไว้เมื่อกี้” มารีอาอายพูดเสียงเบาราวพึมพำ จริง ๆ ก็ตั้งใจแหละว่าจะไม่…กะให้ครบสามวันแต่… พอเห็นหน้าเขาดูหงอย ๆ ก็สงสาร“วะ ว่าอะไรนะครับ” ลี่คุนทำเป็นถาม แต่มืองี้ปลดกระดุมเสื้อตัวเองเตรียมพร้อม แถมยังโถมตัวเข้ามาใกล้“ไม่พูดแล้ว” มารีอายกสองมือมาปิดหน้าด้วยความอาย“งั้นรอบนี้ผมไม่หยุดแล้วนะ ต่อให้คุณบอกโกรธผมก็จะไม่หยุด” ลี่คุนดึงมือสองข้างของเธอที่ปิดหน้าเอาไว้ออก มองคนตรงหน้าที่แดงก่ำเพราะความอายก่อนจะโน้มตัวลงไปครืด ครืด ครืดดด“ละ ลี่คุนคะ โทรศัพท์คุณดัง”“ช่างมัน”ครืด ครืด ครืดดด“รับก่อนดีไหมคะ เผื่อใครมีธุระด่วน”“ไม่ครับ”ครืด ครืด ครืดดดลี่คุนที่ปลดกระดุมของเขาออกจนสาบเสื้อแยกจนเห็นแผงอกกำยำจำเป็นต้องหยุดชะงักอีกครั้ง ก่อนจะลุกไปรับโทรศัพท์อย่างหัวเสีย“เชี่ยไรวะ” เขากดรับสายก่อนสบถออกมาอย่างคนอารมณ์เสีย“มึงอยูไหนวะไอเคน มึงมาที่โรงพยาบาลต
ในขณะที่วศินกลับไปแล้ว ลี่คุนเองยังคงนอนไม่หลับ เขาเดินวนไปวนมาอย่างใช้ความคิดภายในห้องมุมนั้น นั่นก็น้องสาวที่นอนป่วยด้วยฤทธิ์ยามุมนี้ นี่ก็ภรรยาที่อาจจะกำลังท้องลูกของเขาอยู่แต่… สุดท้าย ลี่คุนก็เลือกมานั่งใกล้โซฟาที่มารีอานอนอยู่ เขาเอามือไล้ใบหน้าของมารีอาอย่างอ่อนโยน ไล่มองใบหน้าขาวใสของเธอที่ไร้เครื่องสำอาง เพราะไม่ว่าจะมองมุมไหนก็น่ารักไปหมดที่สำคัญ… บางทีในท้องเล็ก ๆ นั่นอาจมีลูกของเขาอยู่ ฝ่ามือใหญ่เลื่อนไปลูบหน้าท้องเธอเบา ๆ ก่อนจะค่อย ๆ ผล็อยหลับไปอีกคน~~~~~ในตอนเช้า เหม่ยหลินค่อย ๆ รู้สึกตัวลืมตาตื่นขึ้น ความเจ็บปวดตามตัวทำให้เธอค่อย ๆ ขยับร่างกายช้า ๆ ก่อนที่จะกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ห้องจนมาสะดุดกับภาพที่เห็นที่โซฟารับแขกให้ห้องพักผู้ป่วยพิเศษ มีมารีอาที่ยังคงนอนหลับใหลอยู่ตรงนั้น ส่วนลี่คุนกลับนั่งหลับอยู่ที่พื้น ใบหน้าของเขาฟุบหลับอยู่ใกล้กับมารีอาแถมมือของเขากลับกุมมือเธอไว้จนหลับไปทั้งอย่างนั้น~ที่นอนเสริมก็มีกลับไม่นอน แต่ไปนั่งหลับอยู่ที่พื้นเอามือกุมมือผู้หญิงคนนั้นแทน แถมยังถอดเสื้อสูทของเขาคลุมเธออีก นั่นเขาเป็นถึงประธานเชียวนะ… ทำไมต้องลงทุนทำอะไรเพื่อผู้
หมอเข้ามาตรวจอาการของเหม่ยหลินในตอนเช้า ก่อนที่จะให้ยาและบอกให้เธอนอนพักแต่กระนั้นลี่คุนกลับทำสีหน้าลำบากใจเพราะถ้าเขายอมอยู่เฝ้าเหม่ยหลินจริง งานสำคัญที่เขานัดหมายไว้ก็ต้องถูกยกเลิก ห่วงก็แต่มารีอา…“เดี๋ยวผมให้คนขับรถไปส่งคุณที่บ้านนะครับ”“ไม่เป็นไรค่ะ มาร์กลับ Taxi เองก็ได้”“ไม่ได้ จะให้กลับคนเดียวได้ยังไง ถ้าไม่ให้คนขับรถผมไปส่ง งั้นคุณก็อยู่ด้วยกันกับผมที่นี่ เพราะผมสั่งให้คนเอาชุดใหม่มาให้คุณกับผมแล้ว”“แต่ลี่คุนคะ”“เรื่องนี้ผมไม่ยอมคุณนะ ผมไม่ให้คุณกลับคนเดียวแน่นอนเพราะผมเป็นห่วงคุณมากกว่า”สองคนคุยกันราวกับว่าเหม่ยหลินที่นอนดูทีวีอยู่เหมือนไม่มีตัวตน~โอ้ยยยย จะมาห่วงอะไรกันนัก เธอเป็นคนป่วยนะ ทุกคนต้องห่วงเธอไม่ใช่เหรอ~“พี่คุนไม่ต้องเฝ้าเหม่ยหลินหรอกนะคะ พี่มีงานกับลูกค้ารายใหญ่ไม่ใช่เหรอ พี่ไปทำงานเถอะค่ะ”“ไม่ได้สิ แล้วใครจะเฝ้าคะ” มารีอาเผลอออกความคิดเห็นก่อนที่จะรีบเงียบเสียงลง เพราะรู้ว่าเหม่ยหลินเองก็ไม่ค่อยชอบเธอสักเท่าไร“ก็คุณไง คุณก็เฝ้าแทนพี่คุน พี่เขาเป็นถึงประธานบริษัท งานของเขาต้องสำคัญกว่าพนักงานธรรมดา ๆ อย่างคุณอยู่แล้ว” เหม่ยหลินลอยหน้าลอยตาตอบ~จ้าาาาา
ทุกคนรัวถามเธอชนิดพูดเออตอบเอง แอนนี่ได้เพียงแต่พูดอ้าปากค้างเพราะพูดอะไรไม่ทัน ก่อนทุกคนจะเห็นท่านประธานลี่หานเดินมาที่แผนก ทำให้ทุกคนต้องหยุดคุยกันแล้วรีบก้มหน้าคำนับท่าน แต่เขากลับมาหยุดยืนตรงที่แอนนี่ยืนอยู่“เก็บของเสร็จหมดหรือยัง”“เสร็จแล้วค่ะ ของแอนนี่มีไม่เยอะ”“นี่กาแฟของโปรดเรา พี่ให้คนลงไปสั่งมาให้” เขาพูดพลางส่งแก้วน้ำในมือมาให้ นี่แค่ได้ยินเธอคุยกับมารีอาว่าอยากกินเฉย ๆ ก็รีบหามาให้ เล่นเอาใจกันเสียขนาดนี้ ไม่หลงก็แย่แล้ว“แล้วไม่รอแอนนี่ลงไปสั่งเองล่ะคะ ถือมาให้ถึงที่นี่ทำไม”“ก็เห็นเมื่อกี้บอกว่าอยากกินไม่ใช่เหรอ พี่กลัวน้ำแข็งมันละลายเลยรีบเดินเอามาให้”“ไม่เห็นพี่หานต้องทำถึงขนาดนี้เลยนี่คะ” แอนนี่ยิ้มเขิน“ไหนของมีอะไรบ้าง มีอะไรให้พี่ช่วยถือไหม”“ไม่เป็นไรค่ะ แค่นี้เอง”“อืม งั้นเดี๋ยวพี่ให้ผู้ช่วยยกของเราเอาไปไว้ที่รถดีกว่า”“ได้ค่ะ ขอบคุณนะคะ”เธอส่งยิ้มให้เขาในขณะที่เขาก็ยิ้มอ่อนโยนกลับมาที่เธอ ภาพที่ทุกคนมองเห็นประหนึ่งว่ามีไฟสปอตไลต์ฉายส่องลงมาที่คนทั้งคู่แล้วพวกเธอและเขาเหล่านั้นเป็นตัวประกอบ~อย่าบอกนะว่า~ ทุกคนเริ่มส่งสายตามองหน้ากันไปมาเลิ่กลั่ก“ขอบคุณทุก
ผู้จัดการจินพูดรัวมาก รัวจนทุกคนเงียบสนิท เพราะพูดแทรกไม่ทัน ในขณะที่ผู้จัดการจินก็ไม่ได้สนใจยกมือขึ้นมาเช็ดน้ำตาป้อย ๆ ตอนมารีอาอยู่กลับไม่เคยทำดีต่อเธอ พอไม่มีเธอขึ้นมา ก็นะ… เลยรู้ซึ้งถึงคุณค่าสิ้นเสียงของผู้จัดการจิน ตามด้วยเสียงเริ่มฮือฮาเพราะเริ่มคล้อยตามเพราะรู้สึกสงสารมารีอาขึ้นมาแต่ทว่า จู่ ๆ ผู้หญิงสวยคนนั้นกลับผละแขนจากลี่คุน แล้วเดินเข้ามาสวมกอดผู้จัดการจิน ท่ามกลางความตะลึงของทุกคน“มาร์ก็คิดถึงผู้จัดการจินนะคะ”~เอ๊ะ ! เสียงคุ้น ๆ~ผู้จัดการรีบเช็ดน้ำตา ในขณะที่มารีอาขยับตัวออกจากอ้อมกอด ผู้จัดการจินเริ่มเพ่งมองใบหน้าของมารีอาอย่างชัด ๆ“มาร์ มารีอา นี่ นี่ คือมารีอาจริง ๆ เหรอ”“ว่าไงครับ จะลาออกอีกไหม ?” ลี่คุนถามย้ำอีกรอบด้วยใบหน้ายิ้ม ๆ“คะ คือ คือว่า… โอยจะเป็นลม” ...ในขณะที่ฝ่ายการตลาด ไม่รู้ว่าที่ข้างล่างเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น เพราะพนักงานบางส่วนโดยเฉพาะที่ตำแหน่งต่ำลงมาก็ไม่ได้ลงไปต้อนรับทั้งหมดเนื่องจากต้องจำกัดพื้นที่“เฮ้อ คิดถึงยัยแอนจังเมื่อไหร่จะกลับมาน้า” เจ้อาร์ตบ่นพึมพำในขณะที่คนน้ำแข็งในแก้วกาแฟคาปูชิโน่เย็นที่ถืออยู่ในมือไปมา ยิ่งเป็นเครื่องดื่มกาแฟ
แต่อย่างน้อย วันนี้ก็ไม่มีแล้ว …มารีอาสาวพนักงานบัญชีที่ใส่แว่นหนา ๆ หน้าจืด ๆ คนที่ขี้เกียจแต่งหน้าแล้วใช้คำว่างานเยอะเอาแต่เฝ้าอยู่หน้าคอม คนเฉิ่ม ๆ ที่สวมเสื้อตัวโคร่ง ๆ ชอบทาแค่แป้งฝุ่นกับลิปมันมาทำงาน ตอนนี้เธออยู่กับเจ้าแม่สายแซ่บอย่างแอนนี่ เลยถูกจัดการแปลงโฉมเพื่อนเบา ๆ ด้วยการแต่งหน้าอ่อน ๆ รับกับใส่คอนแทกต์เลนส์สีน้ำตาลเข้ม ผมที่เคยมัดเรียบจนตึงเป๊ะ ถูกปล่อยมันออกมาให้เห็นความเงางามจนเหมือนเธอเป็นเคลือบมาอย่างไรอย่างนั้น ยิ่งผมดำเงาของเธอในตอนนี้ตัดกับสีผิวขาว ๆ ของมารีอา ดูผ่าน ๆ แบบไม่สังเกตดี ๆ ราวกับคนละคนกับสาวแว่นคนนั้นอย่างลิบลับแต่กลับกัน สาวแสบอย่างแอนนี่ที่ชอบใส่กระโปรงสั้นแค่คืบ หรือถ้ามีตรงไหนพอจะโชว์ได้เธอจะต้องใส่วับแวม ๆ อยู่เสมอ กลับโดนว่าที่เจ้าบ่าวหวงจนเธอต้องเปลี่ยนมาแต่งตัวมิดชิดขึ้น อย่างชุดรัดรูปเซ็กซี่ ๆ โดนเขาสั่งเองให้เอาไปเก็บหมด แต่ถ้าเธออยากจะใส่ก็ได้นะ แค่แลกกับคำขู่พร้อมการกระทำจากลี่หานที่ว่า...ถ้าแต่งตัวเซ็กซี่ออกจากบ้านเมื่อไหร่… จะโดนเขาจับถอด ! ช่วยไม่ได้ พอเห็นเมียตัวเองแต่งตัวเซ็กซี่แล้วมันเกิดอารมณ์ เลยต้องขอจัดการเธอก่อนเบา ๆ เล่นเอาแ
ข่าวลือเรื่องบริษัทใหญ่ระดับเอเชียอย่าง Lee Group ว่าสองพี่น้องตระกูลลี่จะมีการจัดแต่งงานเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้ติดก็แค่… ทางสองพี่น้องตระกูลลี่ ต้องเดินทางกลับมาสู่ขอคนรักของพวกเขาที่เมืองไทยอย่างเป็นทางการก่อน จึงค่อยประกาศกำหนดวันแต่งงานให้ทราบโดยทั่วกันสำหรับเมืองไทย พนักงานหลาย ๆ คนทราบว่าประธานหนุ่มหล่ออย่างลี่คุนเป็นที่แน่ชัดอยู่แล้วว่าเจ้าสาวคือมารีอา พนักงานสาวบัญชีจอมเฉิ่ม กระนั้นหลายคนก็ยังคงจดจำภาพมารีอาสาวแว่นคนนั้นอยู่ดี หรือต่อให้บางคนที่เคยเห็นตอนเวลาทั้งคู่ออกเดตหรือตอนไปฝากท้อง ก็ยังไม่อยากจะเชื่อว่าผู้หญิงสวย ๆ คนคนนั้นคือมารีอาและแน่นอนข่าวลือก็คือข่าวลือ มักจะโดนแต่งแต้มจนเกินความเป็นจริงเสมอ โดยเฉพาะสาวออฟฟิศอย่างเรา ๆ เพราะต่อให้เรื่องมีความจริงแค่หนึ่งเดียว แต่พวกเราก็มีความพิเศษสามารถพูดต่อ ๆ กันจนคนสุดท้ายที่ได้ยิน สรุปเป็นตัวเลขที่ร้อยได้… พวกเราเก่ง ^ ^และก็ตามข่าวที่ลือกันสุดฮิตในตอนนี้ คือเรื่องที่ประธานลี่คบซ้อน ! และที่ประธานลี่เลือกมารีอาแต่งงานด้วยเพราะว่าเธอพลาดท้องแค่นั้นเอง ส่วนผู้หญิงสวย ๆ อีกคน ที่หลายคนเคยเห็นก็เป็นแค่คู่ขาผู้จัดการจินเองก็ไม่ต่
เพียงครู่ก็มีเสียงดนตรีบรรเลงมาจากด้านหลังของเรือยอชต์“อะ เสียงอะไรน่ะ” มารีอาหันขวับไปตามต้นเสียง เพราะอยู่ ๆ ก็มีเสียงไวโอลินบรรเลงดังขึ้นมา แถมอยู่ ๆ ก็มีกลุ่มคนแต่งกายด้วยชุดสูทเต็มยศ แต่กลับพากันยกกระถางดอกไม้เป็นพุ่ม ๆ มาวางตกแต่งบริเวณรอบ ๆ ด้านหน้าของเรือที่พวกเธอนั่งอยู่ จนสองสาวลุกขึ้นยืนแบบงง ๆ“อะไรอะแก” แอนนี่หันไปมองหน้ามารีอาด้วยความแปลกใจ ก่อนที่สองสาวจะหันรีหันขวางไปตามเสียงเพลงด้วยสีหน้าประหลาดใจ ไม่ช้า นักสีไวไอลินก็เดินบรรเลงออกมา พร้อมกับลี่หานและลี่คุนที่เปลี่ยนเป็นชุดสูทเรียบร้อย พาเดินออกมาพร้อมกับช่อดอกไม้ช่อใหญ่แอนนี่กับมารีอาถึงกับนิ่งอึ้งไปพักใหญ่ ก่อนที่แอนนี่จะคลี่ยิ้มออกมา เธอมองสบตากับลี่หานที่ส่งยิ้มมาให้เธอด้วยสายตาแวววาวส่วนมารีอาไม่ต้องพูดถึง แค่เห็นลี่คุนที่เดินออกมาพร้อมช่อดอกไม้ช่อใหญ่ เธอถึงกับยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเอง ดวงตาคู่ใสมีน้ำตาซึมเอ่อออกมาด้วยความตื้นตันสองหนุ่มยื่นช่อดอกไม้ให้พวกเธอรับไว้ ก่อนจะนั่งคุกเข่าตรงหน้า พร้อมยื่นกล่องแหวนเพชรให้กับสองสาว“แต่งงานกันนะครับ” สองพี่น้องตระกูลลี่เอ่ยขึ้นแทบจะพร้อม ๆ กัน แม้อะไร ๆ สำหรับพวกเขาแล
“นั่นสิเนอะ ฉันเองก็ไม่อยากจะเชื่อ จากผู้ชายที่ฉันไม่เคยคิดว่าจะเอื้อมถึง กลับมาเป็นคนที่ใกล้ตัวที่สุด แต่ก็นะเรื่องทั้งหมดก็เริ่มมาจากแกนั่นแหละแอนนี่ ถ้าวันนั้นแกไม่จับฉันแปลงโฉมจนไปเจอลี่คุน วันนี้ฉันกับเขาอาจจะแค่เดินสวนทางกันธรรมดา ๆ ในฐานะเจ้านายกับลูกน้องก็ได้”“แหมแก ก็ว่าไป ไม่หรอก… ระหว่างแกกับท่านประธานมันเป็นเรื่องของพรหมลิขิตต่างหากล่ะ ที่ทำให้แกกับประธานลี่ได้รักกัน”“ใช่เหรอ แต่ส่วนนึงก็มาจากแกนะ อืมแต่ก็นะ บางทีโชคชะตาหรือพรหมลิขิตอาจทำให้ฉันกับเขาได้รักกันจริง ๆ ก็ได้ แต่… ของแกไม่ใช่นะแอนนี่ แกกับพี่หานเป็นความตั้งใจล้วน ๆ ไม่ใช่พรหมลิขิต” มารีอายิ้มเมื่อนึกถึงเรื่องที่รู้มาจากลี่คุน“บ้าน่า… ถ้าไม่ใช่พรหมลิขิต แล้วจะเป็นความตั้งใจได้ยังไง”“ก็ตอนแรก ฉันก็นึกว่าเป็นเพราะว่าลี่คุนกับฉันอยากจับคู่ให้แกกับพี่หาน เขาถึงยอมแต่งกับแก ที่ไหนได้ มาตอนหลังถึงรู้ว่าเพราะพี่หานเขาแอบปิ๊งแกจากรูปในไอจีก่อนต่างหากล่ะ ไม่งั้นคนอย่างพี่หานจะยอมตกลงไปเมืองไทยทำไม”“ชิ ทำมาพูดไป” แอนนี่ยิ้มเขิน ถึงลี่หานเองก็เคยบอกว่าแอบชอบเธอจากไอจี “เอาจริงนะยัยมาร์ ฉันเองก็ไม่อยากจะเชื่อสักเท่าไรว
เกือบเที่ยงที่แอนนี่และลี่หานลงมากินข้าวมื้อแรกของวัน เล่นเอาทุกคนที่มานั่งรอรับประทานกลางวันมองหน้ากันไปมาแต่ก็อดอมยิ้มไม่ได้ นาน ๆ ทีจะเห็นคนอย่างลี่หานยอมสนใจอย่างอื่นมากกว่างาน และนาน ๆ ทีจะเห็นคนนิ่งขรึมแบบเขาออกอาการขนาดนี้แต่ถึงกระนั้น มิรินก็ยังอดเป็นห่วงลูกชายคนโตไม่ได้ เพราะไม่เคยเลยสักครั้งที่ลี่หานจะนอนตื่นสาย เขาเป็นคนที่ตื่นเช้าเอามาก ๆ มาแต่ไหนแต่ไร เธอเลยไม่รู้ว่าที่ลี่หานลงมากินข้าวเอาป่านนี้เพราะยังรู้สึกไม่สบายอยู่หรือเปล่า“ลูกยังรู้สึกเจ็บแผลอยู่หรือเปล่า ทำไมวันนี้ถึงลงมาช้านักล่ะลูก” เธอเอ่ยถามเองแต่กลับชะงักเอง เพราะเพิ่งสังเกตว่า ท่าทางในวันนี้ลี่หานกลับดูสบายดีและแข็งแรงกว่าที่คิด ยิ่งเห็นเขากำลังใช้มือข้างเดียวเลื่อนเก้าอี้ให้แอนนี่ ทั้ง ๆ ที่แขนอีกข้างยังใส่เฝือกอ่อนอยู่ แต่ทว่าเขาก็ยังพยายามเอาใจแอนนี่ มิรินถึงกับอึ้งไปนิดนึงก่อนจะคลายยิ้มออกมาแล้วส่ายหัวเบา ๆ“ได้กลับมานอนบ้านเลยนอนสบายไปหน่อยครับ เลยตื่นสาย” ลี่หานตอบด้วยน้ำเสียงสดใส ในวันนี้เขาช่างกระปรี้กระเปร่า ผิดกับเมื่อวานที่ดูเนือย ๆ อย่างคนอ่อนระโหยโรยแรงลิบลับ“แต่ผมว่าพี่ไม่ได้นอนเลยมากกว่า” ล
ครั้นจะไม่ขึ้นคร่อมบนร่างเขาก็คงไม่ได้แล้วสินะ แอนนี่ยกตัวขึ้นคร่อมบนร่างเขา เสื้อผ้าถูกถอดออกจนเหลือแต่ชั้นในลูกไม้สีดำที่ปิดบังหน้าอกที่อวบอิ่มแทบจะไม่มิดลี่หานยกยิ้มอย่างพอใจ เธอช่างเซ็กซี่และช่างดูเย้ายวนมากจริง ๆเธอก้มลงจูบเขาอย่างแผ่วเบา รู้สึกเขินจนรีบผละใบหน้าออกมา“แบบนี้เรียกว่าแค่ปากสัมผัสกันครับ ถ้าจูบต้องแบบนี้” เขารั้งศีรษะเธอให้ก้มลงจูบเขาอีกครั้ง เรียวลิ้นร้อนแทรกสัมผัสกันและกัน อกสวยที่แนบอยู่กับแผงอกของเขามันไม่ควรมีอะไรมาขวางกั้น เขาเอื้อมไปปลดตะขอชุดชั้นในของเธอจนหลุดออกลี่หานดันตัวขึ้นนั่ง ทั้ง ๆ ที่ร่างแอนนี่ยังคร่อมอยู่ เขาก้มใบหน้าฝังลงที่อกนุ่ม ก่อนใช้ปลายลิ้นดุนดันเม้มดูดที่ยอดอกสีชมพูสวยของเธอ“อื้อ” เสียงครางต่อต้านเมื่อถูกโลมเล้า เธอยกอกแอ่นให้เขาเชยชิมได้เต็มที่ สองมือเรียวเล็กขยำลงที่ผมสั้นของลี่หาน~เขากระตุ้นเก่งเกินไปแล้ว~สองมือแอนนี่เลื่อนมาที่ชั้นในชาย เมื่อสัมผัสได้ถึงบางสิ่งที่มันปะทุแน่น เขายกสะโพกขึ้นเล็กน้อยเพื่อให้เธอถอดมันออกได้ง่ายขึ้นเช่นเดียวกับเธอแอนนี่ค่อย ๆ กดสะโพกลงไปช้า ๆ“อ๊ะ” เกมนี้เธอเป็นฝ่ายเริ่มก็จริง แต่กลับรู้สึกหวาดหวั่นก
@ที่ห้องนอนแอนนี่ค่อย ๆ แง้มประตูก่อนชะโงกหน้าเข้าไปภายในห้อง ทว่า… เธอกลับไม่เห็นลี่หานอยู่ที่เตียง ทั้ง ๆ ที่กว่าเธอจะตามขึ้นมาก็เกือบสามสิบนาทีแล้ว~แปลกที่ไม่เห็นเขาอยู่ที่ห้อง~“ลี่หานคะ” แอนนี่เรียกพลางมองไปรอบ ๆ ห้อง ก่อนจะเห็นม่านชายประตูที่ระเบียงพลิ้วไหวอยู่ เธอค่อย ๆ ก้าวเข้ามาที่ริมระเบียง เห็นลี่หานที่ยืนหันหลังมองพระจันทร์อยู่ แอนนี่ถึงกับอมยิ้มออกมาแล้วเดินไปหยุดยืนอยู่ข้าง ๆ“พระจันทร์ที่นี่สวยจังนะคะ” เธอพยายามหาเรื่องชวนเขาคุยแต่ทว่าเขาไม่ตอบ ไม่แม้กระทั่งหันมามองหน้าเธอ แอนนี่อมยิ้ม นึกรู้ได้ทันทีว่าเขางอนเธอเป็นเด็กอีกแล้ว“ไหนบอกซิ งอนแอนนี่เรื่องอะไรน้า” เธอแกล้งเย้าพลางชะโงกหน้าเข้าไปมองคนงอนที่ไม่ยอมสบตาเธอด้วยซ้ำ“เอ จะทำยังไงดีเนี่ยให้หายงอน ก็ไม่รู้ว่างอนเรื่องอะไรเนอะ แอนนี่จะได้ง้อถูก”เงียบ ลี่หานยังนิ่ง นอกจากไม่ตอบรับกับท่าทีของแอนนี่เขาหมุนตัวหนีกลับเข้าไปในห้อง ทำท่าเหมือนไม่สนใจเธอเข้าไปอีก แอนนี่ถึงกับถอนหายใจก่อนจะเดินตามไป“โอเคค่ะ ถือว่าง้อแล้ว ถ้าไม่หายงอนก็ไม่ง้อแล้วนะ”“พี่จะอาบน้ำ” เสียงคนทำท่าปั้นปึ่งเมื่อครู่รีบพูดแทรกเข้ามาทันที เมื่อได้ย