บทที่ 10 ใกล้วันละนิดบดินทร์นิ่งงันไปพักใหญ่จนโอโซนต้องยื่นมือมาตีแขนเขาเบาๆ เพื่อให้เพื่อนได้สติ แต่คนที่ถูกจ้องด้วยสายตาดุดันกลับขนลุกซู่ไปทั้งตัว แป้งปั้นหันหน้ามามองพริกแกงกับหลานชายของเธออย่างรู้กัน ไม่ว่าใครก็รู้สึกแบบเดียวกับเธอ"ขึ้นรถเลยครับ ขึ้นเลยๆ" ปกป้องตะโกนมาจากด้านหลังทำให้ทุกคนทยอยขึ้นไปจับจองที่นั่งของตัวเอง แป้งปั้นก้าวเท้าขึ้นมาได้หนึ่งข้างก็พบว่าตัวเองต้องนั่งเบาะข้างบดินทร์เพราะพริกแกงก็นั่งกับหลานไปแล้ว เธอทำหน้าลำบากใจใส่พริกแกงแล้วจำใจนั่งลงบนเบาะข้างบดินทร์ซึ่งเป็นเบาะริมประตูพอดี"พี่ขออนุญาตนับคนก่อนออกรถนะครับ" ปกป้องนับจำนวนและให้ขานชื่อจนมาถึงแป้งปั้น "น้องตุ๊กตาบาร์บี้""เอ่อ..เรียกแป้งปั้นก็ได้ค่ะ""น้องแป้งปั้น""มาค่ะ" ทันทีที่แป้งปั้นขานรับเสียงหวานทั้งสี่หนุ่มก็หลุดขำในลำคอด้วยความเอ็นดู เด็กสาวทำหน้าเลิ่กลั่กหันกลับไปมองรุ่นพี่ที่นั่งอยู่ด้านหลังด้วยความอายแล้วก้มหน้า เมื่อเช็กจำนวนคนเสร็จเรียบร้อยรถตู้คันสีขาวก็เคลื่อนตัวออกจากจุดรวมพล บรรยากาศภายในรถไม่ได้ดูน่าอึดอัดเพราะมีโอโซนที่นั่งข้างคนขับเป็นดีเจเปิดเพลงเพราะให้ฟังตลอดทางที่ไปจังหวัดน่าน
อ่านเพิ่มเติม