บททั้งหมดของ อาญารัก ข้ามขอบฟ้า: บทที่ 1 - บทที่ 10

29

จุดเริ่มต้นของการเดินทาง...

         ณ สนามบินสุวรรณภูมิ บริเวณผู้โดยสารขาออก คลาคล่ำไปด้วยผู้คนมากมาย ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ มีทั้งผู้โดยสาร และคนที่มารอรับ –ส่ง ญาติของตน ตรงทางออก ต่างก็เดินไปมา ดูพลุกพล่านไปหมด หนึ่งในนั้น มีหญิงสาวรูปร่างบอบบางรวมอยู่ด้วย ดูรวม ๆ แล้วก็ไม่ได้มีความสวยเด่นพิเศษอะไรมากมายนัก ที่จะทำให้เป็นที่สะดุดตาแก่ผู้พบเห็นในแวบแรก หากจะมีก็แต่ดวงตาหวานซึ้งที่ดูเศร้า แต่แฝงไว้ด้วยความเด็ดเดี่ยวอยู่ในตัว กอปรกับใบหน้าเนียนใส ไร้สิวเสี้ยนที่ทำให้ดูน่ามอง       น้ำริน ฤทธิ์รณชัย จะร่วมเดินทางไปกับสายการบินภายในประเทศ เพื่อไปพักผ่อน หลังจากหน้าที่การเป็นพยาบาลพิเศษให้กับผู้ป่วยรายหนึ่ง ที่หญิงสาวดูแลได้สิ้นสุดลง เมื่อท่านได้จากโลกนี้ไปแล้ว นับตั้งแต่หล่อนได้ลาออกจากการเป็นพยาบาลประจำในโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง เมื่อห้าปีก่อน      น้ำรินยังจำได้ดีท่านเคยพูดว่า รู้สึกถูกชะตาและเอ็นดูหล่อนมาก อยากให้ไปดูแลท่านที่บ้าน โดยให้ค่าจ้างที่คุ้มค่าเลยทีเดียวล่ะ แถมเป็นค่าจ้างที่หาทั้งปีก็ไม่มีทางได้เท่านี้ ส่วนอ
Read More

เมื่อแรกพบ

“ ต้องขอประทานโทษจริง ๆ นะคะ ทางเราจะรับผิดชอบ โดยการจัดที่นั่งให้ใหม่ทางตอนหลัง ให้ท่านสองที่เลยค่ะ” “ เฮอะ! จัดการได้เท่านี้น่ะหรือ ได้ ..ถ้าอย่างนั้นก็ให้ผู้หญิงคนนี้ ไปนั่งตรงนั้นแทนผมสิ ในเมื่อที่นั่งซ้ำกัน และอีกอย่างผมต้องการนั่งตรงนี้!”  “ คึ..คือว่า..คุณผู้หญิงท่านนี้ เธอมาก่อนตั้งแต่ สิบห้านาที ที่แล้วน่ะค่ะ”  “ อ้อ! งั้น.. แสดงว่า ผมเป็นคนผิดอย่างนั้นหรือ? ที่มาทีหลังผู้หญิงคนนี้ ยังไงผมก็ยืนยันจะนั่งตรงนี้ ถ้าหากว่ายังมีปัญหาอีก ก็ไปเรียกกัปตัน หรือว่าคนที่พูดรู้เรื่องกว่านี้ มาคุยกับผมดีกว่า เข้าใจมั๊ย!?” น้ำรินได้ยินทุกคำพูด ของทั้งสองฝ่ายที่ตอบโต้กัน ด้วยภาษาอังกฤษ พลางลุ้นไปด้วยว่าจะลงเอยอย่างไร ผู้โดยสารหลายคนต่างก็หันมามองยังจุดที่ ชายหนุ่มผู้นั้นยืนค้ำหัวหล่อนอยู่ พร้อมกับแอร์สาวผู้น่าสงสารที่ยืนตัวสั่นงันงก เพราะกริ่งเกรงต่อผู้ชายวางอำนาจตรงหน้า 
Read More

คนเรื่องมาก เยอะ!

       ไม่นานนัก ทุกอย่างก็เป็นไปอย่างที่ชายผู้นั้นต้องการ โดยที่หล่อนได้ที่นั่งติดหน้าต่างตามเดิม ส่วนตัวเขากลับยอมนั่งที่ติดกับหล่อนริมทางเดินแทนอีกคน ผู้ชายคนนี้ช่างเป็นคนดูยากเสียเหลือเกิน เมื่อกี้ยังอาละวาดอยากได้ที่นั่งตรงนี้อยู่แหมบ ๆ ตอนนี้กลับเงียบไปเสียเฉย ๆ เฮอะ! คิดว่าตัวเองใหญ่ ร่ำรวยมหาศาลมาจากไหนกัน ประเทศตัวเองก็ไม่ใช่ ทำเป็นกร่าง แหม..เสียแรงที่อุตส่าห์ชื่นชมตอนที่เห็นครั้งแรก แหว่ะ! จะหล่อลากดินมาจากไหน ถ้านิสัยแย่ ๆ อย่างนี้ก็ไม่เอาด้วยหรอก เครื่องบินลำใหญ่ พุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าอันกว้างใหญ่เหนือพื้นดินของเขตกรุงเทพฯ มุ่งหน้าไปสู่ทางทิศใต้ของประเทศไทย ซึ่งจุดหมายปลายทางของสายการบินนี้ก็คือ..เกาะภูเก็ต เมื่อเครื่องบินเหินขึ้นฟ้า ตามด้วยแรงกระตุกเล็กน้อยพอเครื่องอยู่ในระดับที่ปรับให้เข้าที่แล้ว น้ำรินถึงกับผ่อนลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก เพราะนี่เป็นการเดินทางโดยเครื่องบินเป็นครั้งแรกของหล่อน         เฮ้อ! รอดตายแล้วเรา น้ำรินพิงศีรษะ เอียงหน้าไปท
Read More

อย่าคิดจะหนี!?

    “คุณ..คุณคะ” เงียบ..มีลมหายใจอยู่หรือเปล่านะ ถึงได้ไม่ตอบสนองใด ๆ เลย แวบหนึ่ง ด้วยสัญชาตญาณวิชาชีพ หญิงสาวใช้นิ้วชี้ไปอังที่ปลายจมูกโด่งสวยทันที ก็ยังมีลมหายใจ เพื่อความแน่ใจ เลยใช้สองนิ้ววางทาบบริเวณคอแกร่งด้านข้าง อย่างเบามือ หากก็หวาดหวั่นไปด้วยเกรงว่าเขาจะเป็นอะไรไป“ทำอะไร?”“อ๊ะ!...!” น้ำรินตกใจสุดขีด ตาโตเท่าไข่ห่านเลยทีเดียว เมื่อจู่ ๆ ชายหนุ่มรูปงามผู้นั้นก็ลืมตาขึ้นมา พร้อมกับส่งเสียงเข้มดุ ด้วยสำเนียงไทยชัดแจ๋ว คิ้วดกสวยของเขาขมวดเข้าหากัน จ้องเขม็งมาที่หล่อน แค่นั้นยังไม่พอ ฝ่ามือเรียวใหญ่คว้าหมับเข้าที่ข้อมือเล็กทั้งสองข้างเข้าด้วยกันแทบทันที และอย่างรวดเร็ว คนตัวสูงใหญ่ออกแรงเพียงนิดเดียว กระชากตัวหล่อนให้เข้าไปใกล้ใบหน้าอันหล่อเหลาอย่างง่ายดาย ทำให้หน้าของเขาและเธออยู่ห่างกันแค่ไม่กี่เซนต์เท่านั้น และไม่ทันที่หล่อนจะไหวตัว ชักมือกลับไม่ทันเสียแล้ว         “ เอ่อ..คือก็ ฉะ..ฉันปลุกคุณแล้ว แต่คุณไม่ตื่นนี่นา ก็เลยนึกว่า..”“ คิดว่า ฉันไม่หายใจแล้ว อ
Read More

สิ้นสุดการเดินทาง

   “หอมดีนี่ ใช้ยาสระผมอะไร” หญิงสาวตกใจสุดขีด พลางเงยหน้าขึ้นจากอกกว้างขวางทันที ส่งผลให้ใบหน้าอันหล่อเหลาเกลี้ยงเกลาของชายหนุ่ม อยู่ใกล้กันเสียจนจมูกโด่งสวยชนเข้ากับพวงแก้มขาวใสของหล่อน ตาต่อตาประสานกันนิ่งไปชั่วขณะ น้ำรินอายจนหน้าแดง สงสัยแดงไปจนถึงใบหูแล้วแน่ ๆ เลย ฝ่ายชายหนุ่มคล้ายอึ้งตะลึงไปชั่วขณะเช่นกัน พลางกระแอมเบา ๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปอย่างเก้อ ๆ หญิงสาวก็เหมือนเพิ่งจะรู้ตัว จึงพูดอ้อมแอ้มออกกับอกหนา “ อ่ะ..คุณ ฉันจะกลับเข้าที่นั่งแล้ว ปะ..ปล่อยมือด้วยค่ะ” “จะยากอะไรล่ะ” ที่ว่าจะยากอะไรของเขา ก็คืออีกฝ่ายจัดการรวบเอวทั้งสองข้างของหล่อนไว้แน่น ออกแรงเพียงนิด หล่อนก็ได้กลับมาอยู่บนเก้าอี้ตัวในได้อย่างนิ่มนวล แต่..ขาหล่อนยังพาดอยู่ที่ตักเขาอยู่เลย น้ำรินงงอยู่กับเหตุการณ์เมื่อครู่ จึงไม่รู้จะจัดการยังไงกับร่างกายตัวเองดี พลางมองไปที่ขาทั้งสองข้างที่ยังวางอยู่แถว ๆ หน้าขาของเขา อย่างช่วยอะไรไม่ได้ “จะเอาไว้ที่น
Read More

ไม่รู้ตัว

‘ อ้อ!..นึกออกแล้ว มิน่าล่ะ ถึงหลุดคำพูดออกมาตอนที่ก้าวเข้ามาบนเครื่องในตอนแรก ว่าสามารถเหมาเครื่องบินทั้งลำได้เลยหากว่าใครไปขัดเขา เฮอะ...คงนึกอยากลองทำตัวจนดูบ้างล่ะสิ พวกคนรวยที่เบื่อความโก้หรู เบื่อความสะดวกสบาย อยากได้อะไรก็ได้มาง่าย ๆ จนรู้สึกเซ็ง เลยลองเปลี่ยนบรรยากาศล่ะสิท่า’   แวบหนึ่ง หญิงสาวนึกถึงเหตุการณ์เมื่อตอนที่เครื่องลงจอดสนิทยังสนามบิน ในขณะที่หล่อนกำลังเตรียมตัวจะออกจากที่นั่ง อยู่ดี ๆ เขาก็หันมาจ้องหน้า มองหล่อนด้วยสายตาหมายมาด ก่อนจะเอ่ยเนิบ ๆกับเธอ ‘แล้วเจอกันนะ แม่แมวน้อยขี้เซา’ จากนั้นเขาก็หันหลังเดินห่างออกไป ทุกที ทุกที จนลับสายตา ทิ้งให้น้ำรินยืนนิ่งไม่ไหวติงไปชั่วขณะ มารู้ตัวอีกทีเมื่อได้ยินแอร์สาวใจดี ช่วยปลุกให้หล่อนตื่นจากภวังค์ แมวน้อยขี้เซาอย่างนั้นหรือ เขามีสิทธิ์อะไรมาเรียกหล่อนว่าแมวน้อย หรือว่า ตอนที่อยู่บนเครื่อง หล่อนเผลอหลับใหลไม่รู้เรื่องรู้ราว แอบซุกไซ้ หาความอบอุ่นเอากับอกกว้างของเขาจะนับว่าโชคดีหรือโชคร้ายกันแน่นะที่มีโอกาสได้พูดคุยกับเขาถึงแม้จะไม่กี่ประโยคก็เถอะ หญิงส
Read More

เหตุเกิดที่งานแสดง

          ฮิโรยูกิ กระตุกยิ้มที่มุมปาก ดวงตาคมกริบจ้องนิ่งไปยังดวงหน้าขาวใส ใบหน้าที่ปราศจาก สิ่งแต่งแต้มใด ๆ มีแต่เครื่องหน้าที่เป็นธรรมชาติ ตั้งแต่คิ้วบาง ดวงตาที่ดูเศร้า จมูกเล็กรั้นอย่างคนดื้อดึงอยู่ในที ริมฝีปากบาง ใบหูเล็กนั่นที่มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ กับผมสีน้ำตาลที่ถูกรวบเป็นหางม้า ไว้ด้านหลังเผยให้เห็นใบหน้ากระจ่างใสได้ชัดเจน       หึ..ไม่มีอะไรน่าสนใจเลยจริง ๆ หวังว่าหล่อนคงไม่ใช่หญิงไทยที่ท่านปู่ให้ตามหาหรอกนะ เพราะเท่าที่ฟังมา ผู้หญิงคนนั้นน่าจะมีอายุสักแปดสิบปีได้แล้ว ถ้าอย่างนั้น..หล่อนเกี่ยวข้องอะไรกับแหวนวงนี้ล่ะ? ไม่แน่เขาอาจจะได้ข้อมูลมากมายจากหล่อน หญิงสาวผู้นี้ต้องเกี่ยวข้องอย่างใดอย่างหนึ่ง กับหญิงไทยที่ท่านปู่ให้ตามหาอย่างแน่นอน เห็นทีว่าเขาจะต้องลงมือทำอะไรสักอย่างเสียแล้ว ขืนปล่อยให้หล่อนลอยนวลอยู่อย่างนี้ ไม่ได้การแล้ว ดีไม่ดีหล่อนอาจไหวตัว หนีไปจะทำยังไง ชายหนุ่มลดกล้องส่องทางไกลที่มีศักยภาพสูง ราคาแพงลง พลางหันไปสั่งบอดี้การ์ดคู่กาย และยังเป็นบุคคลที่รู้จักเขามากที่สุดคนหนึ่ง   &n
Read More

เหตุแห่งความวุ่นวาย

“เฮ้ย!” ทานากะอุทานออกมาแล้วเบียดตัวฝ่าฝูงชนไปที่ประตูใหญ่ บริเวณทางเข้างาน “บอกให้คนพวกนั้นออกไปซะ! บอกให้พวกเขาออกไป!” การ์ดหนุ่มร้องสั่งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่อยู่ใกล้ ๆ บริเวณนั้น แต่เจ้าหน้าที่ ณ จุดนั้นมีแค่ สามสี่คน กับจำนวนคนที่มีมากกว่าจึงทำอะไรไม่ได้มาก อีกทั้งกลุ่มผู้สื่อข่าวทั้งหลายทั้งเบียด ทั้งดันตรงทางเข้า แล้วแถมยังมีกล้องในมือพร้อม ความกระหายอยากในการหาข่าว มีมากกว่าจรรยาบรรณเสียแล้ว “นี่มันอะไรกัน แค่รัฐมนตรีฯ มาแค่คนเดียวทำไม พวกนักข่าวถึงได้ตื่นเต้นกันขนาดนี้ล่ะ” ทานากะตะคอกออกมาอย่างหัวเสีย กับเจ้าหน้าที่คนหนึ่งที่ทำหน้าเหรอหราทำอะไรไม่ถูกเช่นกัน“ เอ่อ..คือว่า..คนที่มากับท่านรัฐมนตรีฯ เป็นดาราดังที่มีข่าวคึกโครมอยู่ตอนนี้น่ะสิครับ” ทานากะถึงบางอ้อ ที่แท้ก็แบบนี้นี่เอง ลำพังถ้ารัฐมนตรีฯ มาคนเดียวคงไม่วุ่นวายอย่างนี้กระมัง“ เฮ้อ!” บอดี้การ์ดหนุ่มได้แต่ส่ายหัวไปมาอย่างระอา พร้อมกับโมโห พวกบรรดากองทัพนักข่าวทั้งหลาย ไม่เคารพกฎกติกากันบ้างเลย เพราะคนที่จะเ
Read More

การเดินทางอีกครั้งในฐานะเชลย

ในขณะนั้นเอง ทานากะเหลือบตาไปเห็นชายที่น่าสงสัยคนนั้นพอดี เขาปะปนอยู่กับกลุ่มผู้สื่อข่าวที่ต่างก็แตกตื่น ฮือฮากับเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น จนกล้องไม่รู้จะซูมไปทางไหนดี และอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว ทานากะเห็นชายคนนั้นยกมือขึ้นข้างหนึ่งซึ่งพบว่าในนั้นมีมีดปลายแหลม พุ่งตรงไปทางเปรมศักดิ์ และดาราสาวที่กำลังเดินออกไปจากงานทันที และโดยไม่ตั้งใจอีกเช่นกัน เมื่อมีเสียงหนึ่งตะโกนร้องเสียงดัง ออกมาว่าให้ระวัง    เปรมศักดิ์ซึ่งกำลังเดินตามดาราสาวออกมา  เหลือบไปเห็นชายที่ถือมีดพุ่งตรงมายังตัวเขา ด้วยสัญชาตญาณการเอาตัวรอด ท่านรัฐมนตรีฯ หันไปคว้าคนที่ยืนอยู่ใกล้ที่สุด  เหวี่ยงร่างนั้นให้ไปปะทะกับชายคนที่จะเข้ามาทำร้ายเขาสุดแรง โดยที่ไม่มีใครสังเกตว่าเป็นใคร มาจากไหน ทานากะวิ่งตามไปจนถึงตัวบุคคลที่น่าสงสัยคนนั้นแทบทันที หากช้าไปเสียแล้ว เมื่อปลายมีดแหลมคมได้เฉือนข้อมือของผู้โชคร้าย  ที่มามุงดูแบบไม่รู้อิโหน่อิเหน่เข้าอย่างจัง   “อ๊ะ!.!” น้ำรินร้องออกมาได้เท่านั้น เพราะยังงุนงงกับเ
Read More

ณ โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

เวลาที่ตัวละครในหนัง สลบไปแล้วกลับมาฟื้นคืนสติได้อีกครั้ง ภาพที่เห็นตรงหน้ามันจะเบลอ ๆ แล้วค่อย ๆ ชัดขึ้นไม่ใช่หรือ แต่ทว่าความจริงสำหรับหล่อนแล้วมันไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลย เพราะตอนนี้น้ำรินรู้สึกตัวดีแล้ว ดวงตาของหล่อนก็มองเห็นชัดเจนด้วย  หญิงสาวค่อย ๆ ลืมตาขึ้น แสงสว่างจากดวงไฟที่อยู่บนเพดานห้องทำให้ต้องหลับตาลงอีกครั้ง ก่อนจะเปิดเปลือกตาขึ้นมาใหม่ อย่างพอจะเข้าใจว่าที่นี่น่าจะเป็นโรงพยาบาล เพราะทัศนียภาพภายในห้องมันบ่งบอกชัดเจนอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นสายน้ำเกลือที่ห้อยระโยงระยาง กลิ่นยาฉุน ๆ ที่ใส่เข้าไปในน้ำเกลือเพื่อเพิ่มพลังให้กับคนไข้ เตียงกับผ้าปูที่นอนขาวสะอาด รวมทั้งชุดผู้ป่วยสีฟ้ามีลวดลายเป็นโลโก้ของโรงพยาบาล ช่างคุ้นตาเหลือเกิน แต่…ที่นี่เป็นที่ไหนกันนะ   ทำไม..ไม่ว่าจะมองไปทางใด ก็มีแต่ตัวหนังสือแปลกตา คล้าย ตัวหนังสือจีน หรือไม่ก็ญี่ปุ่น ไม่แน่ใจนัก ความงุนงงสงสัย คำถามต่าง ๆ มากมาย ต่างผุดขึ้นมาในสมองคิดวนไปวนมา ว่าหล่อนมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร อยู่ที่ไหน แล้วใครกันที่พาหล่อนมาที่โรงพยาบาลนี้ หญิงสาวพยายามพยุงกายที่รู้สึกว่าหนักอึ้งของต
Read More
ก่อนหน้า
123
DMCA.com Protection Status